xs
xsm
sm
md
lg

ชาวบ้านร้องกองปราบถูกทหารยศ พ.อ.ไล่ที่!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

สองสามีภรรยาชาวหล่มสัก เดินทางเข้าร้องกองปราบ ถูกทหารยศ “พันเอก” สังกัด พล.ม.1 ค่ายพ่อขุนผาเมือง นำกำลังเข้าทำลายต้นไม้และทรัพย์สินอื่นภายในไร่เสียหาย แถมถูกจับดำเนินคดีฐานบุกรุกพื้นที่ อ้างเป็นพื้นที่ของทหาร สองผัวเมียระบุพื้นที่ดังกล่าวมีโฉนดที่ดินครอบครองมานานกว่า 10 ปี มีการเสียภาษีบำรุงท้องที่ให้กับ อบต.ปากช่อง ทุกปี ขณะที่ พ.อ.ผู้ถูกกล่าวหา พร้อมชี้แจงทุกเมื่อหากมีการร้องเรียน

วันนี้ (27 มิ.ย.) เมื่อเวลา 12.00 น.ที่ กองปราบปราม นายประคอง พานาค อายุ 42 ปี และนางธรัชพร พรมฤทธิ์ อายุ 37 ปี สองสามีภรรยา ชาวบ้านหมู่ 12 ต.ปากช่อง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เดินทางเข้าร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมต่อพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ป.กรณีถูกนายทหารยศพันเอก สังกัด พล.ม.1 ค่ายพ่อขุนผาเมือง อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ นำกำลังทหาร เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าไปทำลายต้นไม้ต่างๆ รวมทั้งทรัพย์สินอื่นภายในไร่ให้ได้รับความเสียหาย

นอกจากนี้ ยังมีการนำเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาจับกุมตน ภรรยา และคนงานในไร่ไปดำเนินคดีฐานบุกรุกพื้นที่ โดยอ้างว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นของทหาร และเป็นพื้นที่ที่ทหารจะใช้ฝึกภาคสนาม ทั้งที่ยังไม่มีข้อยุติในพื้นที่ดังกล่าว และหน่วยงานที่ดูแลพื้นที่นี้ก็ยังไม่ได้อนุญาตให้มีการฝึกภาคสนามตามที่ทหารร้องขอ เหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันนี้

นายประคอง กล่าวว่า มีที่ดินอยู่ 180 ไร่อยู่ที่หมู่ 12 ต.ปากช่อง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นที่ดินที่ตนรับช่วงต่อจากพี่ชายที่ครอบครองมานานกว่า 10 ปี และมีโฉนดที่ดินถูกต้อง แต่หลังจากที่ตนเข้ามาครอบครองเมื่อปี 2538 ก็มีการขยายเข้าไปทำประโยชน์ในพื้นที่เพิ่มเติมบริเวณที่ตั้งฐานปฏิบัติการฝึกภาคสนาม มีการปลูกต้นไม้ชนิดต่างๆ เช่น ต้นประดู่ ต้นสัก ต้นยูคาลิปตัส มีการขุดบ่อน้ำ ล่าสุด ปลูกฟักทอง ซึ่งที่ผ่านมา มีการเสียภาษีบำรุงท้องที่ให้กับ อบต.ปากช่อง ทุกปีๆ ละประมาณ 18,00 บาท เพราะเป็นพื้นที่ที่สามารถทำประโยชน์ได้

นายประคอง กล่าวว่า ต่อมาเมื่อต้นปีที่ผ่านมามีนายทหารยศ พ.อ.ผู้หนึ่งเข้ามาแจ้งว่า พื้นที่นี้เป็นที่ของทหาร และจะมีการฝึกซ้อมภาคสนาม ขอให้ออกจากพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการฝึกซ้อมภาคสนาม แต่เป็นบริเวณท้ายไร่ และใช้ถนนภายในไร่เป็นทางผ่าน แต่หลังฝึกเสร็จแล้วก็ชดใช้ค่าเสียหายให้ แต่ครั้งนี้กลับนำเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาจับกุมตนและภรรยา รวมทั้งคนงานในไร่ไปดำเนินคดีข้อหาบุกรุกป่าที่ สภ.บ้านกลาง ทั้งที่ยังไม่มีข้อสรุปว่าเป็นพื้นที่ของทหารจริงหรือไม่ นอกจากนี้ ยังนำกำลังและรถแทรกเตอร์เข้าปรับพื้นที่ จนได้รับความเสียหาย ล่าสุด มีการนำป้ายมาติดหน้าไร่ห้ามเข้าพื้นที่อีก

“เคยถามทหารว่า มาทำความเสียหายในไร่ผมทำไม ทหารบอกแค่ว่าที่ตรงนี้เป็นของทหาร ซึ่งผมเคยสอบถามเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องแล้ว ได้รับแจ้งว่าพื้นที่ตรงนี้เป็นป่าไม้ถาวร สามารถทำประโยชน์ได้ และไม่เคยมีการทำหนังสือขอใช้พื้นที่จากทหาร แต่ที่มีการขอฝึก คือ บริเวณเขาแท่นช้างห่างจากไร่ผมไป 5 กิโลเมตร” นายประคอง กล่าว

นายประคอง กล่าวด้วยว่า กรณีพิพาทที่เกิดขึ้นได้ทำหนังสือร้องขอความเป็นธรรมไปที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.เพชรบูรณ์ สำนักนายกรัฐมนตรี และกองทัพบกแล้ว แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า อย่างไรก็ตาม ตนได้แจ้งความกลับเจ้าหน้าที่ที่บุกรุกไร่ตนไว้ที่ สภ.บ้านกลาง แล้ว แต่ทั้งคดีที่ตนถูกดำเนินคดีและที่ตนแจ้งความไว้ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ และจนถึงขณะนี้กรมพัฒนาที่ดินซึ่งรับผิดชอบดูแลพื้นที่ดังกล่าว ก็ยังไม่มีข้อสรุปใดๆ เช่นกัน แต่ระหว่างที่รอการพิจารณาอยู่นั้น ทหารก็นำกำลังเข้าไปปรับสภาพพื้นที่อยู่เป็นระยะ ทำให้ทรัพย์สินภายในไร่เสียหาย และล่าสุด มีการปิดป้ายห้ามเข้าพื้นที่แล้ว

เบื้องต้นพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ป.ได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และแนะนำให้ผู้เสียหายทั้งสองนำเรื่องไปฟ้องต่อศาลปกครอง หรือศาลจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อขอการคุ้มครองชั่วคราวจนกว่าจะได้ข้อยุติเรื่องที่ดิน

ทั้งนี้ นายทหารยศ พ.อ.ซึ่งถูกพาดพิงชี้แจงว่า กรณีดังกล่าวได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมสองสามีภรรยาคู่นี้ เมื่อ 4 เดือนที่ผ่านมา ต่อมายังได้จับกุมผู้บุกรุกพื้นที่อีกหนึ่งครั้ง ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นนั้น ตนได้ชี้แจงให้ผู้บังคับบัญชาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบแล้วตามที่ผู้เสียหายได้ร้องเรียนไว้ แต่ตนก็ยืนยันว่า พร้อมที่จะชี้แจงทุกเมื่อหากมีการร้องเรียนอีก และหากมีการพาดพิงถึงตนให้ได้รับความเสียหายตนก็จะใช้สิทธิทางกฎหมายเช่นกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น