ยะลา - 8 ปีที่รอคอย แต่ในที่สุดถนนทางหลวงหมายเลข 4066 สายบ้านตะโล๊ะหะลอ อ.รามัน จ.ยะลา-บ้านปาลอปาต๊ะ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาสของเหล่าทหารช่างที่สานต่อภารกิจ 365 วัน ภายใต้สถานการณ์ความไม่สงบได้สำเร็จแล้ว ซึ่งกำหนดเดิมแล้วเสร็จตามสัญญาภายในวันที่ 30 กันยายน 2547 มีการขยายอายุการจ้างถึง 5 ครั้งโดยนายกรัฐมนตรีเตรียมเปิด 30 เม.ย.นี้
ความสำเร็จในการก่อสร้างถนน ทางหลวงหมายเลข 4066 สายบ้านตะโล๊ะหะลอ อ.รามัน จ.ยะลา - บ้านปาลอปาต๊ะ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส ที่บริเวณบ้านตะโหนด หมู่ที่ 2 ต.สุวารี อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่จะได้ใช้ประโยชน์ในด้านการคมนาคม ขนส่งผลผลิตทางการเกษตรในพื้นที่ อีกทั้งยังเป็นเส้นทางเศรษฐกิจใหม่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตลอดระยะเวลากว่า 365 วันในการสานต่อภารกิจการ ก่อสร้างถนนทางหลวงหมายเลข 4066 ที่หน่วยทหารช่างได้ระดมสรรพกำลังก่อสร้างแล้วเสร็จ
โดยมี พ.ท.ปวัน บุญบันดาล ผู้บังคับกองพันทหารช่างที่ 51 เป็นผู้บังคับหน่วยงานก่อสร้างทางหลวง หมายเลข 4066 รับผิดชอบโครงการก่อสร้างทางหลวง หมายเลข 4066 สายบ้านตะโล๊ะหะลอ อ.รามัน จ.ยะลา ถึง บ้านปาลอปาต๊ะ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส ที่เริ่มเข้ามาสานต่อภารกิจในการก่อสร้างถนนตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2553 เป็นต้นมา ซึ่งสำนักก่อสร้างทางที่ 3 กรมทางหลวงมีนโยบายที่จะดำเนินการก่อสร้างถนนสายนี้ เพื่อย่นระยะทางจาก จ.ยะลา กับ จ.นราธิวาส โดยเริ่มต้นบริเวณ กิโลเมตรที่ 27+225.00 ของทางหลวงหมายเลข 4060 บริเวณบ้านตะโล๊ะหะลอ ผ่านพื้นที่ ต.ตะโล๊ะหะลอ อ.รามัน จ.ยะลา ไปยัง ต.วาสุกรี อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส และบรรจบกับทางหลวงหมายเลขที่ 42 ที่บริเวณ กิโลเมตรที่ 80+719.567 ในพื้นที่เขตตำบลปอเยาะ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นเส้นทางที่สามารถให้ราษฎรใช้ลำเลียงผลผลิตทางการเกษตรออกไปจำหน่าย และเป็นเส้นทางที่สามารถนำขึ้นสู่แหล่งท่องเที่ยวได้อีกด้วย
ปัจจุบันการก่อสร้างทางหลวงสายดังกล่าวได้เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว กำหนดระยะในการก่อสร้าง 365 วัน ซึ่งในระหว่างการก่อสร้างนั้น หน่วยงานที่รับผิดชอบในการก่อสร้าง ฯ ได้ประชุมร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่กรมทางหลวง ผู้นำชุมชน และหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อทำความเข้าใจร่วมกัน และระหว่างการก่อสร้างได้ประสบปัญหาการเวนคืนที่ดินอยู่บ้าง แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ได้แก้ไขปัญหาจนทำให้การดำเนินการลุล่วงไปด้วยดี
และในห้วงของการดำเนินการก่อสร้างนั้น หน่วยงานที่ก่อสร้าง ยังได้ดำเนินการต่อพี่น้องประชาชนในส่วนอื่นๆ เพื่อเป็นการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ด้วยการจัดหน่วยแพทย์ให้บริการยา และตรวจรักษาโรคแก่ชาวบ้านในพื้นที่ พร้อมทั้งให้บริการเติมน้ำแก่มัสยิด การขุดบ่อน้ำให้กับชาวบ้าน และยังสนับสนุนเครื่องมือช่างในการก่อสร้างมัสยิดอีกด้วย
โครงการก่อสร้างถนนหมายเลข 4066 บ้านตะโล๊ะหะลอ อ.รามัน จ.ยะลา-บ้านปาลาปาต๊ะ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส ระยะทาง 28+485.968 กิโลเมตร เป็นถนนที่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้รอคอยมาเป็นเวลาอันยาวนานเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2545 กำหนดเดิมแล้วเสร็จตามสัญญาภายในวันที่ 30 กันยายน 2547 มีการขยายอายุการจ้างถึง 5 ครั้ง เนื่องจากประสบปัญหาทั้งในส่วนความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่
ปัญหาพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่จะเวนคืน ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 4 มิถุนายน 2545 - 3 มิถุนายน 2550 ได้หมดอายุการบังคับใช้ ส่งผลให้การก่อสร้างต้องหยุดชะงัก ปัญหาผู้รับจ้างขอยกเลิกสัญญาก่อสร้างต่อกรมทางหลวง เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2552
แต่เพื่อประกันความสำเร็จในเวลาที่กำหนด รัฐบาลชุดปัจจุบันในยุคของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ตัดสินใจแก้ปัญหาด้วยการมอบหมายให้กรมการทหารช่างเข้ามาเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการก่อสร้างต่อตั้งแต่ 1 เมษายน 2553 ครบกำหนดแล้วเสร็จในวันที่ 31 มีนาคม 2554 รวมระยะเวลาที่ใช้เวลาในการก่อสร้างทั้งสิ้น 8 ปี
สำหรับประวัติความเป็นมาของทางหลวงหมายเลข 4066 บ้านตะโล๊ะหาลอ-บ้านปาลอปาต๊ะ สำนักก่อสร้างทาง ที่ 3 กรมทางหลวง มีนโยบายที่จะดำเนินการก่อสร้าง เพื่อเป็นการย่นระยะทางการเดินทางจาก จ.ยะลา กับ จ.นราธิวาส โดยเริ่มต้นที่บริเวณ กม. 27+225.000 ของทางหลวงหมายเลข 4060 บริเวณบ้านตะโล๊ะหาลอ ผ่าน ต.ตะโล๊ะหาลอ อ.รามัน จ.ยะลา ต.วาสุกรี อ.รือเสาะ และไปบรรจบกับทางหลวงหมายเลข 42 ที่บริเวณ กม.80+719.567 ในพื้นที่เขต ต.ตะปอเยาะ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส
จากเริ่มต้นที่มีนโยบายจากการก่อสร้างสำนักออกแบบทางได้ว่าจ้างให้บริษัท เซาท์-อีสท์เอเซีย เทคโนโลยี จำกัด เป็นผู้ดำเนินการสำรวจและออกแบบ โดยเริ่มต้นสำรวจในปี พ.ศ.2536 และทำการออกแบบแล้วเสร็จในปี พ.ศ.2540 โดยเป็นเส้นทางที่เอื้ออำนวยให้ราษฎรใช้ลำเลียงผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งที่ผ่านมาได้พบปัญหา-อุปสรรคต่างๆ มากมาย เช่น
1. การดำเนินการจัดกรรมสิทธิ์ เนื่องจากถนนสายนี้พื้นที่เกือบทั้งหมด กรมทางหลวงได้รับมอบมาจากสำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบทนราธิวาส, สำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบทจังหวัดยะลา และองค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาส ซึ่งตามบัญชีเขตทางที่ปรากฏตามเอกสารการมอบพื้นที่นั้นระบุเขตทางตามแนวถนนเดิมโดยเฉลี่ยข้างละ 6.00 เมตร
แต่ทั้งนี้เป็นที่ดินได้อุทิศให้หน่วยงานเหล่านี้เข้าดำเนินการก่อสร้างถนน ที่มิได้แบ่งแยกที่ดินในเอกสารสิทธิ์ให้ชัดเจน แต่ความต้องการของกรมทางหลวง ต้องการพื้นที่เขตทางข้างละ 20.00 เมตร จึงต้องดำเนินการจัดกรรมสิทธิ์ใหม่ทั้งหมดตลอดทั้งสายทาง
2. พื้นที่ก่อสร้างอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ การจะเข้าดำเนินการก่อสร้างในพื้นที่ช่วงนี้ต้องทำการขออนุมัติใช้พื้นที่จากกรมป่าไม้ (ผู้รับผิดชอบในการอนุญาตให้ใช้พื้นที่) ซึ่งมีเงื่อนไขพร้อมรายละเอียดประกอบเรื่องที่ขอ เพื่อขออนุญาตใช้พื้นที่นั้นมีมากและใช้ระยะเวลานาน โครงการต้องรอการอนุมัติให้ใช้พื้นที่ถึงจะเข้าดำเนินการได้
3. การก่อสร้างบ้านใหม่เพื่อหวังผลค่าตอบแทน มีราษฎรเข้าไปปลูกสร้างบ้านพักอาศัยในพื้นที่เขตทางเพื่อหวังรับค่าเวนคืน แต่กรมทางหลวงโดยสำนักจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินไม่สามารถจ่ายเงินให้ได้ เพราะบ้านที่ก่อสร้างใหม่นี้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ด้านนางอามีเน๊าะ ยูโซ๊ะ กล่าวว่า ในฐานนะที่ตนเป็นชาวบ้านคนหนึ่งที่อยู่ในพื้นที่ ต.สุวารี อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส และเป็นพื้นที่ที่มีถนนสาย 4066 ตัดผ่าน ตนรู้สึกดีใจมากที่ถนนเส้นนี้เสร็จ เพราะถนนสายนี้ชาวบ้านในพื้นที่ต่างรอคอยมาอย่างยาวนาน เพราะจะเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับคนในพื้นที่ที่จะเดินทางไปในพื้นที่ จ.ยะลา และ จ.นราธิวาส มีระยะทางที่สั้นขึ้น สะดวกสบาย การลำเลียงพืชผลทางการเกษตรก็ง่ายขึ้น ซึ่งเดิมการคมนาคมในพื้นที่แห่งนี้มีความยากลำบาก ซึ่งตนและชาวบ้านในพื้นที่รู้สึกดีใจมากๆ ขอขอบคุณผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดด้วย
