xs
xsm
sm
md
lg

คอมมิวนิสต์เวียดนามเปิดประชุมใหญ่ดันปฏิรูปเศรษฐกิจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

 <bR><FONT color=#000033>เคร่งขรึมและศักดิ์สิทธิ์-- การประชุมใหญ่ระดับประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกๆ 5 ปี เป็นกิจกรรมสำคัญในชีวิตการเมืองของชาวคอมมิวนิสต์ ภายใต้ในบรรยากาศทั่วไปที่มีชีวิตชีวา เพราะว่ากำลังจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงในหลายสิ่งหลายอย่าง การประชุมใหญ่หรือ สมัชชา ครั้งที่ 11 พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามเริ่มขึ้นในเช้าวันพุธ (12 ม.ค. 2554) นี้ ด้วยพิธีเปิดที่ เรียบง่ายแต่เคร่งขรึมและศักดิ์สิทธิ์ สื่อของทางการกล่าว-- AFP PHOTO/Hoang Dinh Nam.</font>

โดย วุฒิพงษ์ หลักคำ-บุญญะสาร
ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- การประชุมใหญ่ระดับชาติครั้งที่ 11 ของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม เริ่มขึ้นในเวลา 8 นาฬิกาวันพุธ (12 ม.ค.) นี้ ในกรุงฮานอย ซึ่งจะมีการทบทวนผลงานกับข้อบกพร่องต่างๆ ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา และพิจารณารายงานเศรษฐกิจและการเมืองคณะกรรมการกลางพรรคชุดที่ 10 ตลอดจนพิจารณาเอกสารสำคัญต่างๆ เพื่อกำหนดแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในระยะ 5-10 ปีข้างหน้า

พรรคคอมมิวนิสต์กลังจะพิจารณาแผนการทำให้ประเทศนี้จากสังคมเกษตรกรรมโดยพื้นฐาน ให้เป็นประเทศอุตสาหกรรมโดยพื้นฐานภายในปี 2563 หรืออีก 10 ปีข้างหน้า ซึ่งหมายถึงการผลักดันการปฏิรูปเศรษฐกิจอย่างขนานใหญ่

ขณะเดียวกัน พรรคคอมมิวนิสต์ก็กำลังจะเลือกผู้นำคนใหม่ เลือกคณะกรรมการกรมการเมืองชุดใหม่ซึ่งจะมีจำนวนเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับจำนวนกรรมการกลางพรรค และ กรรมการสำรอง

พิธีเปิดการประชุมจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย แต่ภายใต้บรรยากาศที่เคร่งขรึมและศักดิ์สิทธิ์ สื่อออนไลน์ของทางการ กล่าว

การประชุมใหญ่จะดำเนินไปจนถึงวันที่ 19 ม.ค.ภายใต้หัวข้อ “สืบต่อและเสริมขยายการนำและการต่อสู้ของพรรค ส่งเสริมการรวมพลังแห่งชาติรอบด้านเพื่อผลักดันโด่ยเหมย สร้างพื้นฐานเพื่อให้เวียดนามเป็นประเทศอุตสาหกรรมทันสมัยโดยพื้นฐานในปี 2563” ทั้งนี้ เป็นรายงานของสำนักข่าวเวียดนาม

โด่ยเหมย (Doi Moi) ในภาษาเวียดนามหมายถึง “การเปลี่ยนแปลงใหม่” หรือ “การฟื้นฟูใหม่” อันเป็นยุทธศาสตร์ที่พรรคคอมมิวนิสต์กำหนดขึ้นเมื่อ 21 ปีก่อน เพื่อปฏิรูปแนวคิดและนำไปสู่การปฏิรูปเศรษฐกิจ เปิดประเทศรับวิธีการทุนนิยมไปใช้ “อย่างจำกัด” เพื่อเร่งการพัฒนาเศรษฐกิจ

นโยบายเปลี่ยนใหม่ของคอมมิวนิสต์เวียดนามเป็นการขานรับ แนวคิด “เปเรสตรอยกา” (Perestroika) ที่มีความหมายเดียวกันของพรรคคอมมิวนิสต์สหภาพโซเวียตในอดีต ท่าส่งอิทธิพลต่อพรรคคอมมิวนิสต์ในกลุ่มเดียวกัน รวมทั้งยุทธศาสตร์ “จินตนาการใหม่” ของพรรคประชาชนปฏิวัติลาว ภายใต้การนำของนายไกสอน พมวิหาน ด้วย

ผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย ผู้แทน 1,377 คน ที่ได้รับเลือกจากหน่วยพรรคทั้งในระดับรากฐานและส่วนกลาง ทั้งหมดเป็นตัวแทนของสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ 3.6 ล้านคนทั่วประเทศ

วีเอ็นเอ ยังกล่าวอีกว่า ผู้เข้าร่วมการประชุมใหญ่ครั้งที่ 11 ของพรรค ยังประกอบด้วย อดีตเลขาธิการใหญ่พรรค อดีตประธานาธิบดี อดีตนายกรัฐมนตรี อดีตประธานรัฐสภา อดีตกรรมการกรมการเมือง อดีตเลขาธิการพรรคสาขา อดีตรองประธานาธิบดี อดีตรองประธานรัฐสภา และอดีตรองนายกรัฐมนตรี

พรรคคอมมิวนิสต์ยังเชิญบรรดา “มารดาวีรชน” นักวิชาชีพที่มีชื่อเสียง และยุวชนจำนวนมากเข้าสังเกตการณ์การประชุมครั้งนี้ วีเอ็นเอ กล่าว
 <bR><FONT color=#000033>เคร่งขรึมและศักดิ์สิทธิ์-- การประชุมใหญ่ระดับประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกๆ 5 ปี เป็นกิจกรรมสำคัญในชีวิตการเมืองของชาวคอมมิวนิสต์ ภายใต้ในบรรยากาศทั่วไปที่มีชีวิตชีวา เพราะว่ากำลังจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงในหลายสิ่งหลายอย่าง การประชุมใหญ่หรือ สมัชชา ครั้งที่ 11 พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามเริ่มขึ้นในเช้าวันพุธ (12 ม.ค. 2554) นี้ ด้วยพิธีเปิดที่ เรียบง่ายแต่เคร่งขรึมและศักดิ์สิทธิ์ สื่อของทางการกล่าว-- AFP PHOTO/Hoang Dinh Nam.</font>
ประธานาธิบดี เหวียนมีงเจี๊ยต (Nguyen Minh Triet) ซึ่งเป็นกรรมการกรมการเมืองหนึ่งใน 14 คน เป็นผู้กล่าวเปิดประชุม นายนงดึ๊กแหม่ง (Nong Duc Manh) เลขาธิการใหญ่พรรคเป็นผู้เสนอเอกสารต่างๆ ของสมัชชาครั้งที่ 11 และ นายเจืองเติ๋นซาง (Truong Tan Sang) กรรมการกรมการเมือง กรรมการประจำ คณะเลขาธิการพรรค จะเป็นผู้รายงาน “การนำของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามและแนวทางแห่งสมัชชาที่ 10”

นั่นหมายถึง “รายงานการเมือง” (Political Report) ของคณะกรรมการกลางพรรคชุดปัจจุบัน

ตามประเพณีดั้งเดิมของชาวคอมมิวนิสต์ค่ายโซเวียต ผู้ที่ได้รับเลือกขึ้นเสนอ “รายงานการเมือง” ต่อที่ประชุมใหญ่ของพรรค มักจะเป็น “ทายาท” ที่จะขึ้นเป็นผู้นำพรรคในสมัยต่อไปซึ่งมีวาระ 5 ปี

ในการประชุมใหญ่ปี 2549 ที่มีการประชุมใหญ่ครั้งที่ 9 นายแหม่งซึ่งขณะนั้นมีตำแหน่งเป็นประธานรัฐสภา ได้รับเลือกให้เป็นผู้เสนอรายงานการเมือง ในฐานะกรรมการกรมการเมือง และ เป็นผู้เสนอเอกสารสำคัญนี้อีกครั้งหนึ่งในการประชุมใหญ่ครั้งที่ 10 ปี 2549 ซึ่งได้รับเลือกให้เป็นผู้นำพรรคเป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน

ปัจจุบัน นายแหม่ง วัย 70 ปี ยังเป็นผู้ที่ได้รับความเคารพรักจากสมาชิกพรรค เช่นเดียวกับประชาชนทั่วไป ในฐานะผู้นำสูงสุดของพรรค
 <bR><FONT color=#000033>นายนงดึ๊กแหม่ง (Nong Duc Manh) เลขาธิการใหญ่พรรค ปราศรัยนำเสนอเอกสารต่างๆ สำหรับการประชุมสมัชชาครั้งที่ 11 ของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ที่เปิดขึ้นตามกำหนดในเช้าวันพุธ 12 ม.ค.2554 และมีการถ่ายทอดสดพิธีเปิดทางโทรทัศน์ การประชุมจะดำเนินไปจนถึงวันที่ 19 ซึ่งกำลังจะมีการเลือกคณะผู้นำพรรคชุดใหม่ด้วย.--REUTERS/Kham.</font>
 <bR><FONT color=#000033>วงดุริยางค์ของ น้องน้อยเยาวชน ในสังกัดสันนิบาติยุวชนคอมมิวนิสต์โฮจิมินห์ บรรเลงเพลงพรรคคอมมิวนิสต์กับเพลงชาติเวียดนาม ในพิธีเปิดการประชุมใหญ่ผู้แทนทั่วประเทศครั้งที่ 11 หรือ สมัชชาครั้งที่ 11 ของพรรคคอมมิวนิสต์ เยาวชนเป็นตัวแทนแห่งความหวังของพรรคและเป็นอนาคตของประเทศ เป็นประเพณีของชาวคอมมิวนิสต์ที่นำเยาวชนเข้าร่วมเหตุการณ์สำคัญของพรรคที่จัดขึ้นทุกๆ 5 ปี.--AFP PHOTO/Hoang Dinh Nam.</font>
 <bR><FONT color=#000033>ผู้แทนของ น้องน้อยเยาวชน ชาย-หญิง ทำความเคารพเลขาธิการใหญ่พรรค นงดึ๊กแหม่ง (Nong Duc Manh) กับ นายกรัฐมนตรีเหวียนเติ๋นยวุ๋ง  (Nguyen Tan Dung) กับบรรดาผู้นำบนเวทีที่ประชุมใหญ่พรรครรั้งที่ 11 ในพิธีเปิดเช้าวันพุธ 12 ม.ค.2554 เยาวชนเป็นตัวแทนแห่งความหวังของพรรคและเป็นอนาคตของประเทศ เป็นประเพณีของชาวคอมมิวนิสต์ที่นำเยาวชนเข้าร่วมเหตุการณ์สำคัญของพรรคที่จัดขึ้นทุกๆ 5 ปี.--AFP PHOTO/Hoang Dinh Nam.</font>
 <bR><FONT color=#000033>นายเหวียนฝูจ่อง (Nguyen Phu Trong) ประธานรัฐสภา (ซ้าย) ยิ้มรับการแสดงคารวะของคณะ น้องน้อยเยาวชน ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีเหวียนมีงเจี๊ยต (Nguyen Minh Triet) โน้มตัวลงสัมผัสมือ ระหว่างพิธีเปิดการประชุมใหญ่พรรครั้งที่ 11 ในเช้าวันพุธ 12 ม.ค.2554 ที่หอประชุมแห่งชาติหมีดี่ง (My Dinh) กรุงฮานอย การประชุมจะดำเนินไปจนถึงวันที่ 19 ซึ่งกำลังจะมีการเลือกตั้งคณะผู้นำพรรคชุดใหม่ด้วย.-- --AFP PHOTO/Hoang Dinh Nam.</font>
 <bR><FONT color=#000033>ผู้เข้าร่วมการประชุมซึ่งเป็นผู้แทนจากทั่วประเทศ 1,377 คน กำลังร่วมทำพิธีเปิดการประชุมใหญ่ครั้งที่ 11 ของพรรคอย่างตั้งใจ ในตอนเช้าวันพุธ 12 ม.ค.2554 ซึ่งสื่อของทางการกล่าวว่าเป็นพิธีเปิดที่ เรียบง่ายแต่เคร่งขรึมและศักดิ์สิทธิ์ นี่คือเหตุการณ์อันสำคัญในชีวิตการเมืองของชาวคอมมิวนิสต์ที่จัดขึ้นทุก 5 ปี.-- AFP PHOTO/Hoang Dinh Nam.</font>
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ในเวียดนาม กล่าวว่า นายซางซึ่งเติบโตมายุคโด่ยเหมย จนก้าวขึ้นเป็นเลขาธิการพรรคสาขานครโฮจิมินห์ และ เป็นประธานคณะกรรมการเศรษฐกิจกลางของพรรค เป็น “ชาวใต้” ผู้ที่มีโอกาสได้รับเลือกขึ้นเป็นผู้นำพรรคมากที่สุดคนหนึ่ง หลังจากนายแหม่งซึ่งเป็น “ชาวเหนือ” อยู่ในตำแหน่งมาถึง 2 สมัย

แต่ในขณะเดียวกัน หลายเสียงก็ได้ทุ่มน้ำหนักไปที่ประธานรัฐสภาคนปัจจุบัน แม้ว่าจะเป็นชาวฮานอยและเติบใหญ่ในกรุงฮานอยในฐานะเลขาธิการพรรคสาขานครหลวง โดยเชื่อว่า พรรคคอมมิวนิสต์จะขยับนายจ่องขึ้นเป็นเลขาธิการใหญ่พรรค และนายซางเป็นประธานรัฐสภา เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลต่อไป

นักวิเคราะห์เชื่อกันว่า นายกรัฐมนตรี เหวียนเติ๋นยวุ๋ง จะอยู่ในตำแหน่งต่อไปอีก 1 สมัย แม้ว่า 5 ปีที่ผ่านมาจะได้รับการท้าทายจากรัฐสภามาหลายครั้ง โดยตำแหน่งในคณะกรรมการกรมการเมืองชุดใหม่จะเป็นตัวบ่งชี้อนาคต

แต่การเลือกตัวนายกรัฐมนตรีกับรัฐบาลชุดใหม่จะยังไม่เกิดขึ้น จนกว่ารัฐสภาชุดใหม่จะเปิดประชุม หลังการเลือกตั้งที่กำหนดขึ้นในกลางเดือน พ.ค.ศกนี้.
 <bR><FONT color=#000033>ทุกสายตาจ้องไปที่กรมการเมือง 3 คน -ซ้ายไปขวา: นายกรัฐมนตรีเหวียนเติ๋นยวุ๋ง (Nguyen Tan Dung) ตำแหน่งในกรมการเมืองชุดใหม่ จะชี้อนาคต นายเหวียนฝูจ่อง (Nguyen Phu Trong) อาจจะขึ้นเป็นผู้นำพรรค และ นายเจืองเติ่นซาง (Truong Tan Sang) ดาวรุ่ง ชาวใต้ จะขึ้นเป็นเลขาธิการใหญ่ฯ? หรือ เป็นประธานฝ่ายนิติบัญญัติ? หรือ จะคั่วตำแหน่งประมุขแห่งรัฐ?.-- AFP PHOTO/Hoang Dinh Nam.</font>
กำลังโหลดความคิดเห็น