xs
xsm
sm
md
lg

ผู้นำคอมมิวนิสต์จีนลั่น ปิดตายประตูปฏิรูปการเมือง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพการประชุมประจำปีผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีนหรือ เอ็นพีซี ซึ่งเป็นสภานิติบัญญัติในวันที่ 10 มี.ค. ประธานสภาฯนาย อู๋ ปังกั๋ว แถลงปัดการปฏิรูปประชาธิปไตยแบบตะวันตก หักล้างความหวังการปฏิรูปการเมืองในจีน ที่เริ่มฉายแววขึ้นเมื่อปลายปีที่แล้วโดยนายกรัฐมนตรี เวิน จยาเป่า กล่าวว่าจีนจำเป็นต้องปฏิรูปการเมืองเพื่อรักษาเศรษฐกิจของประเทศต่อไป (ภาพเอเอฟพี)
เอเจนซี-ขณะที่ประชาชนจีนจำนวนหนึ่งขานรับกระแสการปฏิวัติในโลกอาหรับ ก่อกระแสเรียกร้องการปฏิรูปการเมืองตามหัวเมืองใหญ่ในจีนช่วงสามสัปดาห์ที่มานี้ ในที่ประชุมผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีน หรือ เอ็นพีซี ซึ่งเป็นสภานิติบัญญัติเมื่อวันพฤหัสฯ(10 มี.ค.)ประธานสภาผู้แทนประชาชนฯ นาย อู๋ ปังกั๋ว ได้แถลงสุนทรพจน์ประจำปี โดยย้ำว่าจะไม่มีการปฏิรูปการเมืองใดๆ ทั้งเตือนว่าระบบหลายพรรคการเมืองแบบตะวันตก มีแต่จะสร้างความวุ่นวายให้บ้านเมืองวิบัติ

นาย อู๋ ปังกั๋ว หนึ่งในสมาชิกเก้าคนของคณะกรรมการประจำกรมการเมืองแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ จัดเป็นผู้นำที่ทรงอำนาจใหญ่อันดับสองรองจากประธานาธิบดีหู จิ่นเทา การแถลงของเขาครั้งนี้ยังดูเป็นตัวแทนของกระแสหลักหัวอนุรักษ์ในพรรคฯ ซึ่งหักล้างคำกล่าวนายกรัฐมนตรีเวิน จยาเป่า ที่ออกมากล่าวต่อสาธารณะ ถึงความจำเป็นในการปฏิรูปการเมืองเมื่อปีที่แล้ว

อู๋ ปังกั๋ว กล่าวในที่ประชุมของตัวแทนประชาชนทั่วประเทศ ร่วม 3,000 คนเมื่อวันพฤหัสฯ ว่า “การคลายอำนาจควบคุมของพรรคคอมมิวนิสต์ จะทำลายเสถียรภาพ และอาจเสี่ยงต่อการแตกแยกภายใน ดังนั้น จึงต้องรักษาแนวทางการเมืองที่ถูกต้อง ไม่เบี่ยงเบนจากหลักการใหญ่ อย่างระบอบการปกครองพื้นฐานของรัฐ

“ถ้าเราเบี่ยงเบนไปจากแนวทางที่เคยยึดถือมา ก็จะไม่มีการพัฒนาความทันสมัยแบบสังคมนิยมให้พูดถึงกันอีกต่อไป ความก้าวหน้าในการพัฒนาต่างๆก็จะปราศนาไป ถึงขั้นอาจเป็นไปได้ว่าประเทศชาติของเราจะถลำลงสู่เหวแห่งความแตกแยกภายใน”

คำเตือนอย่างดุดันของผู้นำคอมมิวนิสต์สายเหยี่ยวนี้ เกิดขึ้นระหว่างที่มีการเคลื่อนไหวชุมนุมของกลุ่มสนับสนุนประชาธิปไตย ที่ใช้ชื่อว่า “การชุมนุมดอกมะลิ” ตามเมืองใหญ่ในจีน เลียนแบบการปฏิวัติดอกมะลิในตูนีเซีย ผู้นำจีนได้รับมือกับการเคลื่อนไหวที่มีผู้เข้าร่วมอย่างเบาบางนี้ โดยระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบนับหมื่นคน ซึ่งมากกว่าผู้ชุมนุม คอยคุมเชิงทั้งในกรุงปักกิ่ง นครเซี่ยงไฮ้ และเมืองอื่นๆนับสิบเมือง

อู๋ย้ำเสียงหนักแน่นอีกว่าการแบ่งแยกอำนาจ หรือการคิดที่จะเลียนแบบประชาธิปไตยแบบตะวันตก จะสลายความหวังการปฏิรูปการเมืองที่เริ่มจะมีการพูดคุยในกลุ่มผู้นำคอมมิวนิสต์เมื่อไม่กี่เดือนมานี้

ประธานรัฐสภาแดนมังกรไม่เพียงวิพากษ์วิจารณ์ระบอบทฤษฎีหลายพรรค ยังได้โจมตีการแปรรูปรัฐวิสาหกิจที่ไปไกลกว่านี้ ว่าอาจกลายเป็นสิ่งคุกคามระบบพรรคเดี่ยว
ประธานาธิบดีหู จิ่นเทา (ซ้าย) กำลังฟัง ประธานสภาผู้แทนประชาชนจีน หรือเอ็นพีซี) นาย อู๋ ปังกั๋ว ในการประชุมสภาเอ็นพีซีวันที่ 11 มี.ค. (ภาพ เอเอฟพี)
กลุ่มนักวิเคราะห์ออกมาชี้ว่าคำเตือนเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวสู่ระบอบหลากหลายพรรคและการแปรรูปรัฐวิสาหกิจนี้ มีเป้าหมายผนึกอำนาจเหล็กของพรรคฯเพื่อป้องกันความเห็นที่แตกต่าง

“เห็นได้ชัดว่าพรรคฯกำลังวิตกกระแสเรียกร้องปฏิรูปการเมือง ตลอดจนความสับสนในอุมดการณ์ในหมู่ประชาชนและสมาชิกพรรคฯที่ตื่นตัวขึ้นหลังการปฏิวัติดอกมะลิ” นักสังเกตการณ์จีนในฮ่องกง นาย Johnny Lau Yui-siu กล่าว

นักรัฐศาสตร์ประจำมหาวิทยาลัยประชาชนจีน ในปักกิ่ง นาย จัง หมิง กล่าวว่า การแถลงของประธานรัฐสภาอู๋ เป็นเสียงของกลุ่มซ้ายเก่าสุดโต่ง โดยทั้ง Lau และ จังนั้น เห็นพ้องกันว่ามันเป็นเสียงที่แสดงถึงความสับสนในการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจที่ผู้นำจีนสนับสนุนหลังการปฏิรูปเศรษฐกิจ และเปิดประเทศเมื่อ 30 ปีที่แล้ว

โดยการปฏิรูปกรรมสิทธิเอกชนได้ขยายตัวอย่างมากนับจากช่วงต้นทศวรรษที่ 1990ได้แก่ การแปรรูปรัฐวิสาหกิจกลุ่มกิจการขนาดกลาง และขนาดเล็กโดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมหนักที่ไร้ประสิทธิภาพในระดับท้องถิ่นต่างๆ ท่ามกลางเสียงคัดค้านของกลุ่มอนุรักษ์ในพรรคฯ ซึ่งวิตกกันว่าสินทรัพย์ของรัฐจะกระเด็นหายไป และจะต้องปลดคนงานจำนวนมหาศาล

จากตัวเลขของหน่วยงานรัฐเมื่อปีที่แล้ว ระบุจำนวนธุรกิจเอกชนในแผ่นดินใหญ่ เท่ากับ 8.4 ล้านราย คิดเป็น 74 เปอร์เซนต์ของหน่วยธุรกิจทั้งหมดในประเทศ

นอกจากนี้ กลุ่มวิเคราะห์ตั้งข้อสงเกตกันอีกว่าคำแถลงครั้งนี้ของอู๋ ขัดแย้งกับคำกล่าวของนายกฯเวินที่ชี้ถึงความจำเป็นในการปฏิรูปการเมืองระหว่างที่เขาเดินสายเยือนเซินเจิ้นเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้วในโอกาสครบรอบ 30 ปีของการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งแรกของเซินเจิ้น โดยเวินได้เตือนว่าหากไร้การปฏิรูปการเมืองใดๆ ผลพวงจากการปฏิรูปเศรษฐกิจอาจมลาย อีกทั้งเป้าหมายการปรับความทันสมัยก็ไม่อาจเป็นจริงได้

นอกจากนี้ เวินยังได้พูดถึง “การปฏิรูปการเมืองอย่างตื่นตัวด้วยความระมัดระวัง” ระหว่างที่แถลงรายงานผลงานของรัฐบาลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากนั้น อู๋ ปังกั๋ว และเจี่ย ชิ่งหลิง ประธานคณะกรรมการปรึกษาการเมือง ออกมากล่าวด้วยทีท่าที่ไม่เห็นด้วยกับการปฏิรูปดังกล่าว

“การแสดงความเห็นของเวิน เป็นได้อย่างมากที่สุด ก็คือความคิดเห็นส่วนบุคคล ที่ต้องการสร้างภาพลักษณ์เรียกความนิยม แต่สิ่งที่ชัดเจนก็คือ สิ่งที่อู๋กล่าวออกมานั้นเป็นฉันทามติอย่างกว้างขวางของรัฐบาลกลาง” Lau กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น