xs
xsm
sm
md
lg

ครบรอบ 90 ปีพรรคคอมมิวนิสต์จีน อนาคตก้าวไปทางไหน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เด็กนักเรียนในโรงเรียนประถมต้นหยวนเฉียน, เมืองเหลียนหยุนกัง, มณฑลเจียงซูของจีนพากันโบกธงของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.2554 เพื่อร่วมการฉลองครบรอบ 90 ปีพรรคคอมมิวนิสต์จีน - เอเจนซี่
เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ - มองย้อนหลังไปเมื่อ 90 ปีก่อน … เหล่าปัญญาชนหัวรุนแรงด้านการเมืองและอุดมการณ์ 13 คน มาประชุมกัน เพื่อจัดตั้งพรรคคอมมิวนิสต์แห่งจีนในนครเซี่ยงไฮ้

ในเวลานั้น พวกเขาเป็นตัวแทนของสมาชิกพรรค ซึ่งมีราว 50 คนทั่วแดนมังกร

ครั้นเวลาล่วงเลยมาจนถึงปัจจุบัน เมื่อพรรคคอมมิวนิสต์จีนเตรียมฉลองวันก่อกำเนิดของพรรคในวันศุกร์ที่1 ก.ค. พรรคมีสมาชิกทั้งสิ้นกว่า 80 ล้านคน อีกทั้งยังต้องกุมบังเหียนปกครองประเทศ ที่มีประชากรมากที่สุดในโลกด้วยขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก อันเป็นผลจากการเปิดประเทศ และปฏิรูปเศรษฐกิจ ซึ่งทำให้ประชาชนหลายร้อยล้านคนหลุดพ้นจากความยากจน

ทว่าด้วยวัย 90 ปี พรรคคอมมิวนิสต์จีนยังมีเรื่องมากมายให้ต้องวิตกทั้งในเรื่องการปกครองแบบเผด็จการ ความชอบธรรม และอนาคตของพรรค ขณะเดียวกันปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งแพร่ระบาดอย่างไม่เคยมีมาก่อนก็เข้ามารุมเร้าท้าทาย อีกทั้งช่องว่างรายได้ของประชาชน ที่ขยายกว้าง กำลังก่อให้เกิดกระแสความไม่พอใจขึ้นในสังคม

ภายในพรรคเองก็กำลังขัดแย้งกันทางความคิดในการแก้ปัญหาของชาติ โดยฝ่ายสมาชิกหัวเอียงซ้ายชี้ว่ากำลังเกิดความเจ็บป่วยทางสังคมมากมายนับไม่ถ้วน นอกจากนั้น พรรคได้หันเหจากอุดมการณ์หลักมาไกลเกินไปเสียแล้ว และสุ่มเสี่ยงต่อการสูญเสียอำนาจ แต่ฝ่ายสมาชิกหัวเสรีนิยมระบุว่า ปัญหาสังคม ที่กำลังเกิดขึ้นมากมายนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนควรดำเนินการปฏิรูปการเมืองให้มากขึ้น และส่งเสริมหลักการเรื่องความรับผิดชอบ หากพรรคต้องการครองอำนาจต่อไป

แม้ปรากฏสัญญาณชัดเจนว่า พรรคเอนเอียงไปทางสมาชิกหัวเอียงซ้าย เช่นการประกาศเมื่อเดือนมี.ค. ที่ผ่านมาว่า จีนจะไม่รับการปกครองระบอบประชาธิปไตย ซึ่งมีหลายพรรคแบบโลกตะวันตก หรือการจับกุมนักเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยหลายคนเมื่อเร็ว ๆ นี้

อย่างไรก็ตาม ความหวังที่ว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนจะเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วขึ้นไปสู่ความเป็นประชาธิปไตย และความโปร่งใส่ก็ยังคงมีอยู่ หากพิจารณาจากการเติบโตของชนชั้นกลางในประเทศ ซึ่งร่ำรวยและมีทรัพย์สินมากขึ้น จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่คนเหล่านี้จะออกมาเรียกร้องการมีสิทธิ์มีเสียงในการปกป้องทรัพย์สินของตนเอง และการมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของบุตรหลานในอนาคต โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ มีการประกาศของผู้สมัครอิสระ ที่จะลงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนประชาชนในเมืองระดับต่าง ๆ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่น่าจับตามองก็คือวิวัฒนาการของกลไกในการสืบทอดอำนาจผู้นำของพรรค โดยนักวิเคราะห์บางคนมองว่าการลาออกจากตำแหน่งของประธานาธิบดี เจียง เจ๋อหมิน และมอบอำนาจให้แก่นายหู จิ่นเทาเมื่อปี 2545 นับเป็นการถ่ายโอนอำนาจอย่างมีระเบียบครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน หลังจากสิ้นยุคของเติ้ง เสี่ยวเผิง ผู้นำสูงสุดแดนมังกร ซึ่งจะเป็นผู้กำหนดทายาทไว้ก่อนล่วงหน้า

ปัจจุบัน บรรดาสมาชิกระดับสูงภายในพรรคไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากนำส่วนประกอบของประชาธิปไตยมาใช้มากขึ้น เช่นการลงคะแนนเสียง และการหาเสียง เพื่อเลือกผู้นำในอนาคต ล่าสุดเห็นได้จากกรณีการช่วงชิงตำแหน่งสำคัญภายในพรรค ซึ่งจะนำไปสู่การครองตำแหน่งเลขาธิการใหญ่ของพรรคในอนาคตระหว่างนายสี จิ้นผิง กับนายหลี่ เค่อเฉียงนั้น มีรายงานว่า ในการประชุมประจำปีคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์เมื่อปลายปีที่แล้ว ได้มีการขอให้สมาชิกในคณะกรรมการกลางลงคะแนนเสียงเลือกผู้ลงสมัคร ซึ่งมีอยู่หลายคนด้วยกัน และด้วยการโหวตดังกล่าวจึงทำให้นายสีได้รับชัยชนะ โดยได้ดำรงตำแหน่งรองประธานคณะกรรมาธิการทหารในที่สุด
ผู้นำวงดนตรีร้องเพลงประสานเสียงกำลังนำการบรรเพลงในมหาศาลาประชาคม กรุงปักกิ่งเมื่อเดือนมี.ค. 2554 (ภาพเอเอฟพี)
กำลังโหลดความคิดเห็น