xs
xsm
sm
md
lg

โฆษกเลี้ยงแกะออกโรงอีก ป้ายสีซ้ำไทยยิงถล่มปราสาทพระวิหาร ศาลโลกเริ่มไต่สวน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<bR><FONT color=#000033>ทหารไทยให้สัญญาณและ แพ็ตตั้น เร่งเครื่องจนควันโขมง ส่งเสียงคำรามประกาศอาณาเขตที่บริเวณชายแดนด้านปราสาทพระวิหารวันที่   9 ก.พ. ขณะที่กัมพูชาพยายามปั่นสถานการณ์ให้การปะทะบริเวณชายแดนกลายเป็น สงคราม ในสายตาของชาวโลก และเรียกร้องให้ยูเอ็นส่งกองกำลังรักษาสันติภาพเข้าไปประจำ ผู้สังเกตการณ์กล่าวว่าหากไทยตั้งใจจะยิงทำลาย ด้วยรถถังคันนี้ก็สามารถทำให้ปราสาทอายุ 1,000 ปีพังทะลายราบได้ กัมพูชากำลังออกโรงโกหกชาวโลกอีกรอบ ขณะศาลโลกเริ่มไต่สวนเพื่อคุ้มครองปราสาทมรดกโลกเร่งด่วนตามคำขอ. -- REUTERS/Sukree Sukplang. </FONT>

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - กองงานโฆษกรัฐบาลกัมพูชาเริ่มการโฆษณาชวนเชื่ออีกครั้งหนึ่ง โดยกล่าวหาซ้ำๆ ว่าไทยตั้งใจยิ่งถล่มปราสาทพระวิหารในเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ปราสาทได้รับความเสียหาย และยังตอบโต้การให้สัมภาษณ์ครั้งล่าสุดของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีของไทย ซึ่งย้ำอีกครั้งเช่นกันว่า ทหารไทยไม่ได้กระทำเช่นนั้น



การรณรงค์ของโฆษกกัมพูชาครั้งใหม่ยังมีขึ้นขณะที่ศาลระหว่างประเทศ ได้เปิดการไต่สวนตามคำร้องของกัมพูชาที่ขอให้มีคำสั่งคุ้มครองปราสาทเก่าแก่

กัมพูชากล่าวหาว่า ไทยยิงถล่มปราสาทพระวิหารด้วยปืนใหญ่และปืนครกกว่า 400 นัด และ ได้นำคณะทูตานุทูตขึ้นไปดูความเสียหาย ซึ่งบริเวณบันไดนาคทางขึ้นกับบริเวณโคปะรุชั้นนอก ที่ปรากฏเป็นรอยกะเทาะในบางจุด โดยอาจจะเกิดจากวัตถุเคลื่อนที่เร็ว เช่น สะเก็ดระเบิด หรือสะเก็ดจากกระสุนปืนชนิดต่างๆ

นายกรัฐมนตรีกัมพูชาฮุนเซนแถลงในช่วงเดียวกันว่า ปราสาทได้พังลงไปส่วนหนึ่ง ซึ่งทราบกันในเวลาต่อมาว่า ไม่เป็นความจริงแต่อย่างไร

“ผู้นำในรัฐบาลของไทยจะต้องตระหนักว่าทั้งโลกมีความทรงจำที่ดี ในต้นเดือนมีนาคม 2554 รัฐบาลไทยได้คัดค้านอย่างแข็งขันเมื่อกัมพูชาจัดคณะทูตทหารจาก 12 ประเทศไปดูด้วยตาของตัวเองความเสียหายต่างๆ ที่เกิดจากกระสุนปืนใหญ่ปืนครกของไทยกว่า 400 นัด รวมทั้งกระสุนลูกหว่านที่ยิงขึ้นไประหว่างวันที่ 4-7 กุมภาพันธ์”

สำนักตอบโต้เร็ว กองโฆษกรัฐบาลระบุดังกล่าว ในบทความเห็นลงวันที่ 27 พ.ค. 2554 ที่เผยแพร่ผ่านสำนักข่าวกัมพูชา

แต่ฝ่ายทหารของไทยกล่าวว่า ทหารพูชาใช้ปราสาทพระวิหารเป็นที่หลบ และใช้เป็นที่ตั้งอาวุธหนักยิงเข้าใส่ฝ่ายไทย ทำให้ต้องยิงตอบโต้ตามหลักปฏิบัติทั่วไป “ยิงจากจุดใด ยิงสวนไปที่จุดนั้น” และเวลาต่อมาฝ่ายไทยได้จัดคณะทูตานุทูตไปดูความเสียหายที่ไทยได้รับจากการยิงโดยไม่จำแนกเป้าหมายของฝ่ายกัมพูชาที่ชายแดนด้านนั้น

หลายฝ่ายเห็นพ้องกันว่า ถ้าหากฝ่ายไทยยิงอย่างตั้งใจเพื่อทำลายปราสาทมรดกโลกด้วยกระสุนปืนใหญ่กับปืนครกจำนวนกว่า 400 นัด ตามที่ฝ่ายกัมพูชากล่าวหา ปราสาทหินเก่าแก่อายุ 1,000 ปี ก็น่าจะทลายราบลงไม่มีชิ้นดี เพราะเป็นเป้าหมายที่โดดเด่นและอยู่ในรัศมีการยิง แม้กระทั่งยิงด้วยปืนจากรถถังเพียงไม่กี่นัด

(โปรดเลื่อนลงเพื่ออ่านต่อ)
โกหกแบบเดิมๆ
<bR><FONT color=#000033>ทหารกัมพูชาจัดเรียงกระสุนปืนกลหนักที่ปราสาทพระวิหาร ภาพวันที่ 5 ก.พ.2554 ขณะการปะทะชายแดนด้านนี้กำลังระอุร้อน และ โฆษกพยายามโกหกชาวโลกว่าที่ปราสาทไม่มีทหารและไม่มีอาวุธ มีเพียงตำรวจถืออาวุธเบารักษาความสงบ ภาพเหล่านี้ทำให้การโกหกของกัมพูชาไร้น้ำหนัก แต่อาจจะได้ผลกับกลุ่มอื่นๆ ที่อยู่ไกลออกไปและไม่มีข้อมูลเพียงพอ ขณะที่ศาลระหว่างประเทศกำลังพิจารณาการคุ้มครองปราสาทเร่งด่วนตามที่กัมพูชาร้องขอ. -- REUTERS/Pheara. </font>
2
<br><FONT color=#000033>ภาพเก่านำมาเล่าใหม่ ทหารกัมพูชาขนกระสุนปืนใหญ่จากรถปิ๊กอัพที่ปราสาทพระวิหารวันที่ 8 ก.พ.2554 ขณะการปะทะที่ชายแดนด้านนั้นดำเนินมาหลายวัน ฝ่ายกัมพูชาออกโฆษณาชวนเชื่อว่าไม่มีทหารและอาวุธที่ปราสาท มีเพียงตำรวจติดอาวุธเบารักษาความ กัมพูชากำลังรณรงค์อีกรอบเพื่อป้ายสีไทย ขณะที่ศาลโลกเริ่มพิจารณาไต่สวนคุ้มครองปราสาทมรดกโลกตามคำร้องขอ. -- REUTERS/Damir Sagolj. </font>
3
<br><FONT color=#000033>ภาพวันที่ 8 ก.พ.2554 ทหารกัมพูชาตั้งบังเกอร์บนปราสาทพระวิหารยิงสู้กับฝ่ายไทย ขณะโฆษณาชวนเชื่อว่าไม่มีทหารในบริเวณปราสาท ทั้งป้ายสีอีกว่าไทยยิงถล่มกกว่า 400 นัด ทำให้ปราสาทมรดกโลกเสียหายหนัก นายกฯ ฮุนเซนโกหกเองถึงขนาดว่า ปราสาทพังไปปีกหนึ่ง โฆษกกัมพูชากำลังรณรงค์โกหกอีกครั้ง ขณะศาลโลกเปิดไต่สวนเพื่อคุ้มครองปราสาทมรดกโลกตามที่เขมรร้องขอ. -- AFP PHOTO/Tang Chhin Sothy. </font>
4
แต่โฆษกรัฐบาลกัมพูชาได้บิดเบือนเรื่องนี้ไม่หยุดโดยมีเจตนาสร้างความไขว้เขวให้แก่ฝ่ายต่างๆ ที่อยู่ไกลจากเหตุการณ์และไร้ข้อมูลเพียงพอ

ภาพจากสำนักข่าวเอเอฟพี และรอยเตอร์ รวมทั้งสำนักข่าวต่างประเทศอื่นๆ ล้วนแสดงให้เห็นทหารกัมพูชาจำนวนมากหลบพักพิงอยู่ภายในโคปะรุชั้นต่างๆ รวมทั้งในพระวิหารชั้นในสุดด้วย

นอกจากนั้น หลายภาพยังแสดงให้เห็นทหารเขมรขนกระสุนปืนใหญ่ และติดตั้งปืนกลหนักอยู่ภายในปราสาทแห่งนี้ ผู้สื่อข่าวของเอพีระบุอย่างชัดเจนว่ามีทหารกัมพูชา 200-300 นายอยู่ในปราสาทพระวิหารในช่วงที่เกิดการปะทะ

ฝ่ายกัมพูชาออกรณรงค์เรื่องนี้อย่างหนักในเดือน ก.พ.-มี.ค. ในความพยามทำให้สถานการณ์ปะทะที่ชายแดนมีความรุนแรงใหญ่โตถึงขั้นสงคราม ขณะเดียวกันก็ออกเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติส่งกองกำลังรักษาสันติภาพเข้าประจำชายแดนสองประเทศ ซึ่งกัมพูชาไม่ประสบความสำเร็จ

โฆษกกัมพูชารณรงค์เรื่องนี้อีกครั้งหนึ่งในขณะที่ศาลระหว่างประเทศ เริ่มเปิดการไต่สวนในวันที่จันทร์ 30 พ.ค.ศกนี้ ตามคำร้องของกัมพูชาที่ขอให้มีคำสั่งเร่งด่วนปกป้องคุ้มครองปราสาทพระวิหาร

การปะทะที่ชายแดนด้านปราสาทตาเมือน-ตาควายซึ่งอยู่ห่างจากพระวิหารออกไปกว่า 100 กม.ทางทิศตะวันตก ปะทุขึ้นในเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ขณะนายฮอร์ นัมฮง รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชาเดินทางไปยังกรุงเฮก ยื่นคำร้องต่อศาลโลกขอให้ตีความคำพิพากษาปี 2505 ที่ยกปราสาทให้เป็นของฝ่ายเขมรขณะที่สองฝ่ายยังกล่าวอ้างสิทธิเหนือดินแดน 4.6 ตารางกิโลเมตรโดยรอบ

พร้อมกันนี้กัมพูชาได้ยื่นคำพร้องให้ศาลโลกมีคำสั่งปกป้องคุ้มครองปราสาทที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในเดือน ก.ค.2551 เป็นการเร่งด่วนโดยอ้างว่าฝ่ายไทยก้าวร้าวรุกรานต่อกัมพูชาตลอดมาและยังยิงทำลายปราสาทให้ได้รับความเสียหายอีกด้วย.

ยิงจากทิศไหนสวนกลับไปทางนั้น
<br><FONT color=#000033>ภาพวันที่ 8 ก.พ.2554 ทหารกัมพูชาเดินผ่านซากสิ่งปลูกสร้างที่เคยเป็นเพิ่งพักในบริเวณปราสาทพระวิหาร ซึ่งถูกฝ่ายไทยยิงถล่มราบ กัมพูชากล่าวหาว่าไทยเจตนายิงถล่มปราสาทพระวิหารกว่า 400 นัดด้วยปืนใหญ่และปืนครก ทำให้ปราสาทเสียหายหนัก โฆษกกัมพูชากำลังออกโรงโกหกอีกขณะศาลโลกเริ่มไต่สวนเพิ่อคุ้มทครองปราสาทมรดกโลกตามที่กัมพูชาร้องขอ. -- AFP PHOTO/Tang Chhin Sothy. </font>
5
<bR><FONT color=#000033>ช่างภาพกัมพูชาถ่ายรูปรอยแตกบนเสาหินทางเข้าโคปุระแห่งหนึ่ง ซึ่งเกิดจากการตกกระทบของวัตถุเคลื่อนที่เร็ว อาจจะเป็นสะเก็ดจากกระสุนปืนใหญ่ ปืน ค.หรือสะเก็ดระเบิดทั่วไป ยิงมาจากไหนยิงกลับไปที่นั่น เป็นหลักปฏิบัติการทั่วไปในการยิงตอบโต้ แต่กัมพูชาโกหกว่าไม่ทหารที่ปราสาททั้งป้ายสีว่าไทยตั้งใจยิงถล่มทำให้ปราสาทมรดกโลกเสียหายหนัก. -- AFP PHOTO/Tang Chhin Sothy.</font>
6
<br><FONT color=#000033>ทหารกัมพูชาชี้ให้ดูรอยแตกบนเชิงชายทางเข้าโคปุระแห่งหนึ่ง ที่เกิดจากการตกกระทบของวัตถุเคลื่อนที่เร็ว อาจจะเป็นสะเก็ดจากกระสุนปืนใหญ่ ปืน ค.หรือสะเก็ดระเบิดทั่วไป ยิงมาจากไหนยิงกลับไปที่นั่น เป็นหลักปฏิบัติการทั่วไปในการยิงตอบโต้ แต่กัมพูชาโกหกว่าไม่ทหารที่ปราสาททั้งป้ายสีว่าไทยตั้งใจยิงถล่มทำให้ปราสาทมรดกโลกเสียหายหนัก. -- AFP PHOTO/Tang Chhin Sothy.</font>
7
<bR><FONT color=#000033>เหนื่อยก็พัก-- ทหารกัมพูชาพร้อม ลูกเบ หรือ ระเบิดอาร์พีจี B40 ใช้โคปุระแห่งหนึ่งของปราสาทพระวิหาร เป็นที่หลบพัก ในเหตุการณ์ปะทะที่ชายแดนวันที่ 8 ก.พ.2554  กัมพูชาโกหกว่าไม่ทหารอยู่ที่นั่น ทั้งป้ายสีว่าไทยตั้งใจยิงถล่มทำให้ปราสาทมรดกโลกเสียหายหนัก. -- AFP PHOTO/Tang Chhin Sothy.</font>
8
<bR><FONT color=#000033>เหนื่อยก็พัก-- ทหารกัมพูชากลุ่มใหญ่อาศัยโคปุระแห่งหนึ่งของปราสาทพระวิหารเป็นที่หลบพัก ในเหตุการณ์ปะทะที่ชายแดนวันที่ 8 ก.พ.2554  กัมพูชาโกหกว่าไม่ทหารอยู่ที่นั่น ทั้งป้ายสีว่าไทยตั้งใจยิงถล่มทำให้ปราสาทมรดกโลกเสียหายหนัก. -- AFP PHOTO/Tang Chhin Sothy.</font>
9
 <bR><FONT color=#000033>ภาพวันที่ 5 ก.พ.2554 เป็นซากเศษเหลือซึ่งเข้าใจว่าจะเป็นกระสุนปืนครกจากการยิงของฝ่ายไทยที่บริเวณปราสาทพระวิหารขณะการปะทะเริ่มรุนแรง กัมพูชาโกหกชาวโลกว่าไม่มีทหารที่นั่น และป้ายสีว่าไทยมีเจตนายิงถล่มปราสาทมรดกโลกด้วยปืนใหญ่และปืน ค.กว่า 400 นัด โฆษกกัมพูชาออกรณรงค์โกหกอีกรอบ ขณะศาลโลกเปิดไต่สวนในสัปดาหนี้เพื่อคุ้มครองเร่งด่วนปราสาทตามที่กัมพูชาร้องขอ. --  AFP PHOTO.</b>
10
<bR><FONT color=#000033>ภาพวันที่ 6 ก.พ.2554 ทหารกัมพูชาจัดเตรียมปืนไร้แรงสะท้อนในที่ตั้งมั่นใกล้ปราสาทพระวิหารเพื่อยิงเข้าใส่ฝ่ายไทย สิ่งปลูกสร้างที่มองเห็นอยู่เบื้องหลังเข้าใจว่าจะเป็นบริเวณวัดแก้วสิขาคีรีสวาระ ฝ่ายกัมพูชาออกโฆษณาชวนเชื่อว่าไม่มีทหารตั้งอยู่ที่บริเวณวัด แต่วัดได้รับความเสียหายจากการยิงถล่มของฝ่ายไทย ขณะที่ฝ่ายไทยกล่าวว่ายิงมาจากทิศใด-ยิงสวนกลับไปตามทางนั้นตามวิธีปฏิบัติ. -- REUTERS/Pheara.   </font>
11
<bR><FONT color=#000033>ทหารกัมพูชาเตรียมจรวด BM21 ไว้ที่ชายแดนปราสาทพระวิหารวันที่ 7 ก.พ.2554 ขณะการปะทะเริ่มรุนแรง และรัฐบาลฮุนเซนพยายามปั่นสถานการณ์ให้ดูเป็น สงครามชายแดน ในสายตาของชาวโลก จรวดหมู่ออกแบบมาเพื่อยิงทำลายทหารราบที่ชุมนุมกันในสนามรบ การยิงที่ไม่มีระบบนำวิถีทำให้คลาดเคลื่อนไม่โดนเป้าหมาย สร้างความเสียหายให้เป้าหมายทางพลเรือนบ่อยๆ. -- AFP PHOTO</FONT>
12
กำลังโหลดความคิดเห็น