xs
xsm
sm
md
lg

คุยนอกรอบไทย-กัมพูชา วันแรกไร้ข้อสรุป

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สุวิทย์ คุณกิตติ
การเจรจาทวิภาคีไทย-กัมพูชาวันแรกไร้ข้อสรุป “สุวิทย์” ให้เลื่อนเสนอแผนบริหารจัดการปราสาทพระวิหารเข้าที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลกเดือน มิ.ย.นี้ หวังใช้กลไกเจบีซีปักปันเขตแดนให้ชัดเจนก่อน เพราะแผนที่ของกัมพูชารุกล้ำดินแดนไทยชัดเจน มั่นใจคณะกรรมการมรดกโลก 21 ชาติเข้าใจต้นเหตุขัดแย้งไทย-กัมพูชามาจากการขึ้นทะเบียนมรดกโลกเขาพระวิหาร

การหารือนอกรอบ ทวิภาคีระหว่างไทยกัมพูชาในวันที่ 25-26 พ.ค.นี้ ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ระหว่างนายสุวิทย์ คุณกิตติ รองนายกรัฐมนตรีไทย และนายสก อาน รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา โดยไทยมีจุดยืนขอให้เลื่อนการเสนอแผนต่อที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลกในเดือนมิถุนายนนี้ไปก่อน ล่าสุดเมื่อเวลา 23.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ยังไม่มีข้อสรุป ต้องเจรจาต่อในวันพรุ่งนี้ (26 พ.ค.)

นายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าคณะเจรจาฝ่ายไทย กล่าวในรายการ “ตอบโจทย์” ก่อนการเดินทางไปเจรจา ระบุว่า การเจรจาเรื่องการขึ้นทะเบียนมรดกโลกปราสาทพระวิหาร ที่กัมพูชาได้เสนอแผนบริหารจัดการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งฝ่ายเราได้แผนบริหารจัดการมาแล้วอย่างไม่เป็นทางการ และหากมีเอกสารเพิ่มเติมทางกัมพูชาจะต้องส่งเอกสารให้เรา 6 สัปดาห์ก่อนการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก (19-29 มิ.ย.54) หลังจากเราได้แผนบริหารจัดการมา ก็เอาไปให้แต่ละหน่วยงานพิจารณา ซึ่งก็ได้ข้อมูลมาเกือบครบถ้วนสมบูรณ์

ทั้งนี้ การขึ้นทะเบียนมรดกโลกถือว่ายังไม่เสร็จสิ้นสมบูรณ์ เพราะยังไม่ได้เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ ทางมรดกโลกให้ทางกัมพูชาทำแผนที่ฉบับปรับปรุงใหม่ แต่เราดูแล้วยังมีปัญหาอยู่ คือ เส้นเขตแดน เนื่องจากพื้นที่กันชนรุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ประเทศไทย โดยตามคำพิพากษาของศาลโลกพิจารณาให้เฉพาะตัวปราสาทแก่กัมพูชา แต่เขาขยายพื้นที่ออกไปหลายสิบเมตรรอบๆ ตัวปราสาท ซึ่งตรงนี้ต้องทำให้ชัดเจนก่อน เนื่องจากการขึ้นทะเบียนมรดกโลกนั้นะบุไว้ว่าขอบเขตจะต้องชัดเจน แต่กรณีของปราสาทพระวิหารขอบเขตยังไม่ชัดเจน เนื่องจากเรายังไม่ได้ปักปันเขตแดนกัน เราก็คุยกันหลายครั้ง เขาก็ยังยืนยันอย่างเดิม แต่เราก็มีจุดยืนของเราอยู่

สำหรับคณะกรรมการมรดกโลกชาติอื่นๆ นายสุวิทย์กล่าวว่า วันนี้เขาเห็นปัญหาแล้วว่าเส้นเขตแดนไม่ชัดเจน ซึ่งเป็นต้นเหตุทำให้เกิดความหวาดระแวงไม่ไว้วางใจกัน ไม่เชื่อถือกัน เป็นเหตุให้เกิดสงคราม เกิดการปะทะกันหลายครั้งหลายวัน สร้างความเสียหายแก่ประชาชนในพื้นที่ ตอนนี้ก็ชัดเจนแล้วว่าการเผชิญหน้ากัน การปะทะกันระหว่างไทยและกัมพูชามีสาเหตุมาจากการขึ้นทะเบียนมรดกโลกปราสาทพระวิหาร

ซึ่งตามข้อเท็จจริงทางกัมพูชายิงเข้ามาในฝ่ายไทยก่อน มีการไปตั้งกองกำลังทหารในปราสาทพระวิหาร ซึ่งผิดต่ออนุสัญญากรุงเฮกที่ระบุว่าห้ามใช้โบราณสถานเป็นที่กำบัง อย่างไรก็ตาม ฝ่ายไทยไม่ได้ยิงเข้าไปในปราสาท เพราะถือว่าเป็นโบราณสถานศักดิ์สิทธิ์ หลังจากที่นายมัตสึอุระ อดีตผู้อำนวยการยูเนสโกได้มาเยือนไทยและกัมพูชา ก็อยากให้เรากับกัมพูชาได้เจรจากันเพื่อหาข้อยุติ การเจรจานอกรอบคราวนี้จึงเกิดขึ้น ส่วนการจะเลื่อนไม่เลื่อนเสนอแผนบริหารจัดการอยู่ที่การพิจารณาของคณะกรรรมการมรดกโลก โดยครั้งนี้เราคุยกันสองฝ่าย เรื่องเขตแดน ไม่มีฝ่ายที่สามแต่อย่างใด ซึ่งหลังจากที่เราให้กรมแผนที่ทหารตรวจสอบเอกสาร ก็ปรากฏว่ามีการรุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ของไทย เราก็พยายามบอกกัมพูชาไป โดยวิธีแก้ปัญหา คือ ใช้กลไกคณะกรรมการร่วมเจบีซี เพื่อปักปันเขตแดนให้เสร็จ ปัญหาการเผชิญหน้าก็จะไม่มี ถ้าได้พูดคุยกัน แบ่งเขตแดนให้ชัดเจน ปัญหาก็จบ ต่อไปก็ไม่ต้องมานั่งทะเลาะกัน

สำหรับเป้าหมายของเราในการเจรจาครั้งนี้ อยากให้กัมพูชาเลื่อนเสนอแผนบริหารจัดการออกไปก่อน เพราะกัมพูชาก็ยึดแผนที่ของตน เราก้ไม่ยอมรับแผนที่ เพราะถือว่าแผนที่เป็นเพียงลายเส้นสมมติที่สร้างขึ้น แต่ที่เขียนในสนธิสัญญาไทยกับฝรั่งเศสระบุให้ใช้สันปันน้ำในการแบ่งเขตแดน ซึ่งเป็นรูปธรรมมากกว่า สามารถวัดได้ เป็นเส้นแบ่งเขตตามธรรมชาติ

สำหรับคณะกรรมการมรดกโลก 21 ชาตินั้น นายสุวิทย์กล่าวว่า เรายังตอบไม่ได้ ว่าใครเห็นใจเราหรืออะไร คราวที่แล้วก็มีหลายประเทศบอกว่าไทยต้องแพ้แน่ ตนเห็นว่าไม่ควรมีใครชนะหรือแพ้ แต่จะทำอย่างไรให้วินวิน ให้ได้ทั้งสองฝ่ายโดยไม่ต้องมีคนแพ้ คือคำตอบสุดท้ายที่จะทำให้ความสัมพันธ์ไทยกับกัมพูชากลับมาดีดังเดิม ไม่ต้องเผชิญหน้ากัน แต่ถ้ายังผลักดันกันต่อ ปัญหาก็ไม่จบ ซึ่งประเทศที่เดือดร้อนไม่ใช่ประเทศอื่น แต่เป็นไทยกับกัมพูชา
กำลังโหลดความคิดเห็น