ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - “สุวิทย์” เผยเรื่องเขาพระวิหารยังอีกยาว หลังเขมรไม่รับข้อเสนอเลื่อนพิจารณาแผนบริหารจัดการปราสาทพระวิหาร ชี้ยูเนสโกเห็นพ้องไทยควรแก้ปัญหาเขตแดนให้จบก่อน แต่เขมรยื้อยังไม่ลงนามพร้อมขอแก้ไขอีก 2-3 ประเด็น เชื่อควรนำเรื่องกลับมาดำเนินการตามกรอบเจบีซี หากปักปันเขตแดนได้ทุกอย่างจะชัดเจนขึ้น แต่ถ้าเขมรยืนกรานไม่เลื่อนด้วยต้องรอลุ้นคณะกรรมการมรดกโลกตัดสินใจว่าเลื่อน-ไม่เลื่อน
นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงผลการการประชุมทวิภาคีระหว่างคระกรรมการมรดกโลกของไทยและกัมพูชา เกี่ยวกับกรณีการพิจารณาแผนบริหารจัดการปราสาทพระวิหาร ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 25-26 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป เพราะทั้งไทยและกัมพูชายังมีความเห็นที่ไม่สอดคล้องกัน เนื่องจากฝ่ายไทยเห็นด้วยกับข้อตกลงให้เลื่อนการพิจารณาแผนบริหารจัดการปราสาทพระวิหารออกไปก่อนตามที่องค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโกซึ่งเป็นเจ้าภาพในการประชุมดังกล่าวได้เสนอไว้ ขณะที่กัมพูชามีท่าทีไม่เห็นด้วยและยังไม่ตอบรับมติดังกล่าว พร้อมทั้งเสนอข้อแก้ไขรายละเอียด 2-3 ประเด็นในข้อตกลง
ทั้งนี้ ข้อเสนอดังกล่าวของยูเนสโกนั้นสอดคล้องกับท่าทีของฝ่ายไทยที่ต้องการให้มีการเลื่อนการพิจารณาแผนบริหารจัดการปราสาทพระวิหาร ซึ่งถูกบรรจุไว้เป็นวาระพิจารณาที่ 62 ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 35 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 19-29 มิ.ย. 2554 ณ สำนักงานใหญ่ยูเนสโก กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสออกไปก่อน เนื่องจากเห็นว่าปัญหาดังกล่าวก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างประเทศ จนถึงขั้นใช้กำลังทางทหารตอบโต้กันในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่ทางกัมพูชาแสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับการเลื่อนวาระออกไป แม้ว่ายูเนสโกจะแสดงท่าทีว่าควรเลื่อนการพิจารณาเรื่องดังกล่าวออกไปก่อนเพื่อบรรเทาปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศก็ตาม
สำหรับการพิจารณาแผนบริหารจัดการปราสาทพระวิหารนั้น หากทั้งสองประเทศเห็นพ้องที่จะเลื่อนวาระออกจากการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกครั้งที่ 35 ก็จะนำเรื่องดังกล่าวมาบรรจุเป็นวาระใหม่อีกครั้งในการประชุมครั้งที่ 36 ซึ่งจะจัดขึ้นในปี 2555 โดยในขณะนี้ไทย กัมพูชา และรัสเซียเป็น 3 ประเทศที่ได้เสนอตัวขอเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมดังกล่าว
นายสุวิทย์ กล่าวว่า นางอิรินา โบโกว่า ผู้อำนวยการใหญ่ยูเนสโกเห็นด้วยว่าปัญหาดังกล่าวควรมีการเจรจากันในระดับทวิภาคีให้เรียบร้อยเสียก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นเกี่ยวกับการปักปันเขตแดนซึ่งยังคงเป็นปัญหาและนำมาซึ่งการกระทบกระทั่งและใช้กำลังตามบริเวณชายแดนในช่วงที่ผ่านมา อีกทั้งในแผนการบริหารจัดการปราสาทพระวิหารก็มีปัญหาเรื่องแผนที่ ซึ่งพล.ท.นพดล โชติศิริ เจ้ากรมแผนที่ทหารระบุว่ามีส่วนที่รุกล้ำเข้ามาในเขตของไทยด้วย
ทั้งนี้ ตนเห็นด้วยว่าเรื่องดังกล่าวควรนำเข้าสู่กระบวนการของเจบีซี ซึ่งมีความพยายามที่จะดำเนินการเกี่ยวกับการปักปันเขตแดนของทั้งสองประเทศอยู่ หากทั้งสองฝ่ายมีความพยายามที่จะร่วมมือกันดำเนินดารอย่างจริงจังก็คาดว่าจะใช้เวลาไม่นานนัก หากปัญหาเขตแดนหมดลงไปแล้ว เชื่อว่าการเจรจาเรื่องอื่นๆ จะง่ายขึ้น
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกล่าวต่อไปว่า การที่กัมพูชาไม่เห็นด้วยกับการเลื่อนการพิจารณาแผนบริหารจัดการปราสาทพระวิหารออกไปก่อน รวมทั้งระบุว่าจะขอพิจารณาและแก้ไขใน 2-3 ประเด็นในข้อมติเลื่อนการพิจารณาแผนบริหารจัดการปราสาทพระวิหารที่ยูเนสโกเสนอ ทำให้ทั้งสองฝ่ายจะต้องนัดหมายเพื่อตกลงหาข้อสรุปต่อไป โดยฝ่ายไทยจะต้องติดตามดูว่าสิ่งที่กัมพูชาจะเสนอข้อให้แก้ไขในข้อมตินั้นมีอะไรบ้าง เพราะทั้งนี้เพื่อป้องกันการตีความที่แตกต่างกัน โดยจะต้องมีการนยัดหมายหารือกับทางกัมพูชาเพื่อให้ได้ข้อสรุกในเรื่องดังกล่าวก่อนที่จะถึงการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกครั้งที่ 35
อย่างไรก็ตาม นายสุวิทย์ระบุว่า หากกัมพูชาไม่ยอมรับมติให้เลื่อนการพิจารณแผนบริหารจัดการปราสาทพระวิหารออกไป การตัดสินใจขั้นสุดท้ายในเรื่องดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับมติของคณะกรรมการมรดกโลกที่จะเป็นผู้ตัดสินใจ ว่าจะยังคงพิจารณาเรื่องดังกล่าวตามวาระ หรือเลื่อนการพิจารณาเรื่องดังกล่าวออกไปก่อน
