xs
xsm
sm
md
lg

“สุวิทย์” ชี้ ยกเหตุปะทะเดือดชายแดน จี้เลื่อนถกแผนมรดกโลก “พระวิหาร”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสุวิทย์  คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “สุวิทย์” ชี้เตรียมยกเหตุปะทะชายแดนไทย-เขมร จี้ “คณะกรรมการมรดกโลก” ยูเนสโก เลื่อนพิจารณาแผนบริหารจัดการพื้นที่รอบปราสาทวิหารของกัมพูชาออกไป จนกว่าปักปันเขตแดนแล้วเสร็จ ยันเป็นเรื่องของ 2 ประเทศ ที่ต้องคุยกันเองไม่เกี่ยวกับประเทศที่ 3

วันนี้ (24 เม.ย.) เมื่อเวลา 16.00 น.ที่ โรงแรมเฮอร์มิเทจ รีสอร์ท แอนด์ สปา โคราช อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เดินทางมาเป็นประธานเปิดการประชุมการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ด้วยกระบวนการมีส่วนร่วม

พร้อมเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวถึงกรณีเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา จะส่งผลกระทบต่อการเสนอแผนบริหารจัดการพื้นที่รอบปราสาทพระวิหารของฝ่ายกัมพูชาต่อคณะกรรมการมรดกโลก และยูเนสโก อย่างไร ว่า เรื่องนี้จริงๆ แล้วมันเป็นปัญหาซึ่งเชื่อว่าเกี่ยวพันกับเรื่องของเขตแดน เพราะการปักปันเขตแดนยังไม่ดำเนินการให้แล้วเสร็จ และวันนี้เราเองต้องพยายามพูดคุยกับทางฝ่ายกัมพูชา เพราะทางกัมพูชาพยายามที่จะดึงประเทศที่ 3 เข้ามา

แต่ตนมองว่า เรื่องการปักปันเขตแดนมันเป็นเรื่องของ 2 ประเทศ ซึ่งประเทศที่ 3 คงจะมาชี้ให้เราว่าตรงนี้ ตรงไหน ไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของ 2 ประเทศที่อยู่ติดกันต้องดูร่วมกัน ตัดสินใจร่วมกัน และจะแบ่งปันกันตรงไหน อย่างไรที่เกิดความเป็นธรรม และถูกต้องตามหลักการ

ส่วนตัวเชื่อว่า ประเทศไทยเองไม่ต้องการที่จะทำให้เกิดผลกระทบต่ออำนาจอธิปไตย และเขตแดนของเราเช่นเดียวกันกับกัมพูชาก็ไม่ต้องการให้เราละเมิดอำนาจอธิปไตยเขาเหมือนกับที่เราไม่ต้องการให้เขาละเมิดอำนาจอธิปไตยเรา

ฉะนั้น ทั้งสองประเทศต้องมาตกลงกันว่า เขตแดนนี้มันตรงไหน ภายใต้เงื่อนไขสนธิสัญญาที่กำหนดไว้ว่า เราจะดูกันอย่างไร โดยเฉพาะวันนี้ถ้าบอกเรื่องแผนที่ สองประเทศก็ไม่มีใครยอมรับแผนที่ของกันและกันอยู่แล้ว ฉะนั้น เราจะทำอย่างไรถึงจะไปดูข้อเท็จจริงแล้วมาคุยร่วมกัน ในกรอบภายใต้สนธิสัญญาที่กำหนดไว้ เขียนไว้อย่างไร ถ้าไม่เช่นนั้นก็จะมีปัญหาความตึงเครียดอยู่อย่างนี้

ที่สำคัญ เรื่องนี้ตนก็จะไปบอกคณะกรรมการมรดกโลก ว่า เราบอกแล้ว บอกมาตั้งแต่ขึ้นทะเบียนแล้ว เพราะการปะทะกันตั้งแต่ปีที่ขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก เมื่อ 3 ปีที่แล้วเกิดการปะทะกันหลายครั้ง เสียเลือดเนื้อชีวิตตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา หากคณะกรรมการมรดกโลกเองยังมองว่า การดำเนินการตรงนี้มันจะทำให้เกิดความสงบเรียบร้อยได้ มันก็เป็นไปไม่ได้อยู่ดี เพราะทั้งเราเอง ทั้งกัมพูชาเอง ก็มีปัญหาเรื่องของอำนาจอธิปไตยเหนือดินแดนของตัวเอง

ดังนั้น ทางคณะกรรมการมรดกโลก จะต้องดูว่า ตั้งแต่ขึ้นทะเบียนมามีการปะทะกันมากขนาดไหน ซึ่งก่อนขึ้นทะเบียนก็ไม่มี ประชาชนไปท่องเที่ยวได้ทั้งสองฝ่าย แต่พอขึ้นทะเบียนแล้วต้องปิดลงไป แล้วเกิดการปะทะกันอย่างนี้ ตนคิดว่า วันนี้คณะกรรรมการมรดกโลกควรจะเลื่อนการพิจารณาออกไปแล้วบอกทางกัมพูชา ว่า ต้องมาคุยกันในเรื่องของเขตแดนให้จบสิ้นเสียก่อน เพราะกฎกติกาที่เขียนไว้ในอนุสัญญามรดกโลกก็ดี ในเงื่อนไขกติกาข้อบังคับต่างๆ ก็ดี เขียนไว้ชัดเจนว่า การขึ้นทะเบียนขอบเขตของพื้นที่ขึ้นทะเบียนต้องมีความชัดเจน ถึงจะขึ้นทะเบียนได้ วันนี้ขอบเขตไม่ชัดเจน ฉะนั้น การขึ้นทะเบียนก็ยังไม่สมบูรณ์ และไม่ควรดำเนินการต่อไปจนกว่าจะทำให้สมบูรณ์เสียก่อน

การที่จะขอให้เลื่อนการพิจารณาออกไปนั้น เราต้องทำทุกอย่าง ทั้งหนังสือ ทั้งทำความเข้าใจ พูดคุยกับคณะกรรมการทั้งหมด ทางกัมพูชาเขาก็พยายามพูดคุย เขาก็ส่งหนังสือไปเหมือนกัน เราก็ต้องทำ เพราะจริงๆ แล้ววันนี้ข้อเท็จจริงมันปรากฏแล้ว ผลกระทบมันเกิดขึ้นแล้ว และทางคณะกรรมการมรดกโลกเอง ก็มองเห็นปัญหานี้ ฉะนั้น การประชุม 2 ครั้งที่ผ่านมา ที่เขาเลื่อนให้ ก็เพราะว่าเขาเห็นปัญหานี้ด้วยเหมือนกัน ไม่ใช่การไปนั่งทะเลาะกันในคณะกรรมการมรดกโลก แต่เป็นข้อเท็จจริงว่า บริเวณชายแดนเกิดความตึงเครียดและเกิดการปะทะกัน

ส่วนการหารือกันระหว่างฝ่ายไทยกับกัมพูชานั้น นายกรัฐมนตรีก็พูดชัดเจนว่า ต้องมีการพูดคุยหารือกัน ฉะนั้น กระบวนการขั้นตอนต้องดำเนินการไปทั้งระดับในเขตพื้นที่ และในคณะกรรมการชุดใหญ่ ของ เจบีซี ที่จะมาทำหน้าที่ในการปักปันเขตแดน


กำลังโหลดความคิดเห็น