กาฬสินธุ์ - “สุวิทย์” เดินหน้าโครงการน้ำถึงไร่นา ประปาถึงทุกบ้าน นำร่อง 11 จังหวัดอีสานตอนบน รับเหตุปะทะไทยและกัมพูชาหนักใจคุยคณะกรรมการมรดกโลก ย้ำไทยและกัมพูชาต้องร่วมกันหันหน้าเจราจาปักปันเขตแดนเพื่อยุติปัญหา
วันนี้ (23 เม.ย.) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ ชั้น 4 นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานประชุมชี้แจงโครงการ “น้ำถึงไร่นา ประปาถึงทุกบ้าน” และระบบเครือข่ายน้ำในพื้นที่วิกฤติน้ำ 19 พื้นที่ โดยมีนายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ หัวหน้าส่วนราชการ ตัวแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าร่วมกับฟังกว่า 200 คน
นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า โครงการน้ำถึงไร่นา ประปาถึงทุกบ้าน เป็นโครงการที่พี่น้องประชาชนจะได้รับผลประโยชน์อย่างแท้จริง เพราะสามารถแก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง และหาน้ำเพื่ออุปโภค บริโภคได้อย่างยั่งยืนโดยการดำเนินงานขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการศึกษาแนวทางการจัดหาแหล่งน้ำ
โดยใช้ระเวลาดำเนินการ 15 เดือน จะเริ่มก่อสร้างประมาณเดือนตุลาคม 2555 ใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 2 ปี นำร่อง 11 จังหวัดภาคอีสานตอนบน ประกอบด้วย เลย หนองคาย สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด อุดรธานี หนองบัวลำภู ขอนแก่น ชัยภูมิ และบึงกาฬ ซึ่งเป็นจังหวัดพื้นที่วิกฤตน้ำ ส่วนการขยายผลทั่วประเทศ อยู่ระหว่างเสนองบประมาณช่วงเดือนตุลาคม 2554 คาดว่าจะสามารถขยายโครงการต่อไปในพื้นที่ภาคอีสานตอนล่าง 9 จังหวัดได้
นายสุวิทย์กล่าวถึงเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างไทยและกัมพูชาว่า รู้สึกหนักใจ ต่อการไปเจราจากับคณะกรรมการมรดกโลก เพราะการเจรจาครั้งนี้อยู่ระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง แต่ยืนยันว่าประเทศชาติและอธิปไตยต้องมาก่อน การเมืองมาทีหลัง ปัญหาข้อพิพาทไทยกับกัมพูชายังมีอยู่ ทั้งเรื่องเขตแดน การขึ้นทะเบียนเขาพระวิหาร ยิ่งเกิดเหตุปะทะ ทำให้สถานการณ์ตรึงเครียดมากขึ้น การพูดคุยและตัดสินใจไม่ใช่เราคนเดียว ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการทั้ง 20 ประเทศ ซึ่งรวมทั้งกัมพูชาด้วย
ที่ผ่านมาช่วงที่จะถอนตัว เพราะปัญหาการพูดคุยกันของเรา ขาดความเป็นเอกภาพ โดยตนได้คุยกับนายกรัฐมนตรีแล้ว หากเป็นเอกภาพก็สามารถเดินหน้าเจรจาได้เต็มที่ สำหรับปัญหาระหว่างไทยและกัมพูชานั้น เป็นเรื่องที่ทั้ง 2 ประเทศจะต้องร่วมกันแก้ไขปัญหา โดยการปักปันเขตแดนให้ชัดเจนเพื่อยุติปัญหาดังกล่าว
