เอเอฟพี - ญี่ปุ่นตกลงช่วยเหลือเวียดนามออกทุนสร้างอาคารสนามบินแห่งที่สองในกรุงฮานอย เป็นการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานเพื่อส่งเสริมการค้าการส่งออก หลังจากจากบรรดาผู้นำทางธุรกิจของต่างประเทศ โหวตให้ระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานของเวียดนามอยู่ในนั้น "แย่" เป็นอุปสรรคในการดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ
เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำเวียดนามเปิดเผยเรื่องนี้วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
เงินทุนกู้ยืมที่รัฐบาลญี่ปุ่นจะให้แก่เวียดนามในครั้งนี้จะใช้สนับสนุนการสร้างอาคารผู้โดยสารในสนามบินนานาชาติโนยบ่าย (Noi Bai) และสร้างถนนเชื่อมต่อเส้นใหม่ รวมทั้งสร้างศูนย์นิคมพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูง นายมิตซุโอะ ซากาบะ (Mitsuo Sakaba) ทูตญี่ปุ่นประจำเวียดนามกล่าว ในการประชุมประจำปีของธนาคารโลกในกรุงฮานอย
สนามบินโนยบ่ายเป็นช่องทางเชื่อมต่อไปยังต่างประเทศแห่งที่สองของเวียดนาม รองจากสนามบินเตินเซินเญิต (Tan Son Nhat) ในนครโฮจิมินห์ ทางภาคใต้
เงินกู้ยืมก้อนใหม่นี้จะทำให้ความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาอย่างเป็นทางการ (ODA) จากญี่ปุ่นต่อเวียดนามในปีงบประมาณ 2552-53 นี้จะมีมูลค่าประมาณ 1,600 ล้านดอลลาร์ นายซากาบะ กล่าวในประชุมสัมมนาเวียดนามและประเทศผู้บริจาคและให้การช่วยเหลือ หรือที่รู้จักในชื่อ หุ้นส่วนการพัฒนา ซึ่งในปัจจุบันญี่ปุ่นเป็นประเทศผู้บริจาครายใหญ่ที่สุด
ในการให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าว นายซากาบะไม่ได้บอกถึงรายละเอียดของจำนวนเงินกู้ยืม แต่ระบุเพียงว่าเงินจำนวนดังกล่าวดำเนินไปตามขั้นตอนและการลงนามอย่างเป็นทางการจะเกิดขึ้นในเดือน ก.พ. ปีหน้า
ถนนหนทางและระบบโครงสร้างพื้นฐานในเวียดนามอยู่ในสภาพแย่ ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญต่อนักลงทุนจากต่างชาติ ในขณะที่รัฐบาลเวียดนามต้องการกระตุ้นการส่งออกของประเทศ ทำให้บริษัทค้าขายต่างชาติกว่า 96% ลงคะแนนให้ระบบโครงสร้างพื้นฐานของเวียดนามอยู่ในขั้น "แย่" หรือ "เลวร้าย" ทั้งนี้เป็นผลการสำรวจที่นำมาแสดงในระหว่างการประชุมการค้าธุรกิจเวียดนามเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
ในปี 2552 นี้ การลงทุนโดยตรงจากต่างชาติในเวียดนาม (Foreign Direct Investment) ลดลงอย่างมาก นับตั้งแต่เดือน ม.ค.-พ.ย. ที่ผ่านมา มีการลงทุนประมาณ 19,700 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมูลค่าการลงทุนดังกล่าวนี้คิดเป็นเพียง 1 ใน 4 ของการลงทุนโดยตรงจากต่างชาติในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2551 เท่านั้น แต่ทั้งนี้ก็เป็นผลโดยตรงจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกด้วย
ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเวียดนามได้ลดค่าเงินด่ง เพื่อต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อและหนุนภาคธุรกิจการค้าที่ได้รับความเดือดร้อนจากวิกฤต เศรษฐกิจโลก และ เพื่อให้มีรายได้จากการส่งออกเพิ่มขึ้นในขณะที่ เวียดนามขาดดุลอย่างมหาศาล
ญี่ปุ่นได้กลับมาให้เงินกู้ยืมแก่เวียดนามอีกครั้งเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา หลังจากระงับตั้งแต่ช่วงปลาย 2551 เนื่องจากเกิดปัญหาการคอร์รัปชั่นที่เกี่ยวกับเงินบริจาคจากต่างชาติ ซึ่งทำให้มีเจ้าหน้าที่เวียดนามต้องจำคุกไปหลายราย
"ผมรู้สึกยินดีที่จะกล่าวว่าสถานการณ์ได้กลับมาสู่ภาวะปรกติ เป็นความพยายามจากทั้งประเทศผู้บริจาคและประเทศผู้รับ เพื่อป้องกันปัญหาการคอร์รัปชั่นที่เกี่ยวข้องกับความช่วยเหลือเพื่อพัฒนาอย่างเป็นทางการจากต่างชาติ" นายซากาบะ กล่าว
"ความพยายามเหล่านี้เป็นแค่เพียงขั้นตอนการเริ่มต้นของความสำเร็จ".
