xs
xsm
sm
md
lg

ฮานอยจำคุก 2 ตัวเป้งคดีทุจริตทางด่วนโฮจิมินห์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<bR><FONT color=#FF0000>ภาพเอเอฟพีวันที่ 11 ก.พ.2552 เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังนำตัวนายหวี่งหง็อกสีออกจากบ้านพัก ในนครโฮจิมินห์ เขาถูกจับกุมในข้อหา ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่กระทำการทุจริต และ ยักยอกเงินของรัฐ การจับกุมทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นเริ่มให้ความช่วยเหลือการเงินแก่เวียดนามอีกครั้งหนึ่งในเดือนถัดมา</FONT></bR>

ASTVผู้จัดการออนไลน์-- ศาลกรุงฮานอยได้ตัดสินให้จำคุกเจ้าหน้าที่ของรัฐจำนวน 2 คน ในกรณีทุจริตอื้อฉาวติดสินบนและยักยอกเงินจากบริษัทที่ปรึกษาจากประเทศญี่ปุ่น ในโครงการก่อสร้างทางด่วนสายหนึ่งในนครโฮจิมินห์ นครใหญ่ศูนย์กลางเศรษฐกิจ ในภาคใต้ของประเทศ

ยังมีเจ้าหน้าที่อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับกรณีอื้อฉาวนี้จำนวนหลายสิบคน ที่อยู่ระหว่างการไต่สวนในศาลนครโฮจิมินห์

นายหวี่งหง็อกสี (Huynh Ngoc Si) ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารโครงการที่ดูแลการก่อสร้างซึ่งเป็นระดับอธิบดีกรม ถูกตัดสินจำคุก 3 ปี และ ให้จำคุกนายเลกว๋า (Le Qua) ผู้ช่วยอีก 2 ปี

กรณีอื้อฉาวที่เปิดโปงเป็นครั้งแรกโดยหนังสือพิมพ์ในกรุงโตเกียว ได้ทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นสั่งระงับเงินช่วยเหลือให้แก่เวียดนามทุกโครงการเมื่อปีที่แล้วจนกว่าจะมีการตรวจสอบการทุจริตให้โปร่งใส

ญี่ปุ่นได้เริ่มช่วยเหลืออย่างเป็นทางการ หรือ ODA (Official Development Assistance) ให้เวียดนามอีกครั้งหนึ่งในเดือน มี.ค.ปีนี้ หลังจากมีการจับกุมนายสีกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอีกหลายคนหนึ่งเดือนก่อนหน้านั้น และ นายกรัฐมนตรีเวียดนามนายเหวียนเติ๋นยวุ๋ง (Nguyen Tan Dung) สั่งให้มีการสอบสวนเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องในทุกระดับ

ตามรายงานของสื่อทางการเวียดนามศาลกรุงฮานอยได้พิจารณาลดโทษของผู้กระทำผิดทั้งสองลงจากคนละ 5 และ 6 ปี ตามที่เสนอโดยสำนักงานอัยการประชาชนสูงสุด
<bR><FONT color=#FF0000>ภาพเอเอฟพีวันที่ 31 มี.ค.2552 สื่อมวลชนรุมล้อม ระหว่างการแถลงข่าวของรัฐมนตรีกระทรวงวางแผนและการลงทุนนายหวอห่งม์ฟุก (Vo Hong Phuc)  กับ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำเวียดนาม นายซาคาบะ มัตสุโอะ (Sakaba Matsuo) หลังพิธีลงนามรับความช่วยเหลือที่ถูกตัดขาดปลายปีที่แล้ว</FONT></bR>
ก่อนหน้านั้นคณะกรรมการตรวจตราแห่งรัฐเสนอให้ลงโทษบุคคลทั้งสองคนละ 10-12 ปี แต่ศาลได้บรรยายในคำพิพากษาในวันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมาว่า ระบุว่าบุคคลทั้งสองเคยประกอบคุณงามความดีต่อประเทศชาติมาก่อน และให้ความร่วมมือในการไต่สวนเป็นอย่างดี จึงได้พิจารณาลดหย่อนโทษ

นายสีกับนายกว๋า ถูกฟ้องร้องมีความผิดฐานให้บริษัทที่ปรึกษาคือ Japan's Pacific Consultants International เช่าสำนักงานของรัฐเป็นออฟฟิศ ระหว่างปี 2544-2545 เก็บค่าเช่ารวมเป็นเงินราว 80,000 ดอลลาร์ เจ้าหน้าที่สองคนนี้หักเอาไว้ 19,915 ดอลลาร์เป็น "ค่าเลี้ยงรับรอง" เงินที่เหลือแบ่งปันกันในหมู่เจ้าหน้าที่ประจำสำนักงานคนอื่นๆ

กรณีอื้อฉาวนี้รู้จักกันในชื่อ “กรณีทุจริตซีพีไอ” ตามชื่อย่อของบริษัทที่ปรึกษาจากญี่ปุ่น

ส่วนอีกทางหนึ่งในวันที่ 24 ก.ย. ที่ผ่านมา ศาลในนครโฮจิมินห์ ได้เริ่มการไต่สวนเจ้าหน้าที่อีก 87 คน ที่เกี่ยวข้องในกรณีทุจริตก่อสร้างทางด่วน-มอเตอร์เวย์สายตะวันออก-ตะวันตก กับโครงการอนุรักษ์สภาพแวดล้อมทางน้ำ ซึ่งเป็นกรณีเดียวกันนี้ การไต่สวนยังดำเนินต่อไป

ในญี่ปุ่นก็ได้มีการดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเช่นกัน
<bR><FONT color=#FF0000>ภาพจากเวียดนามเอ็กซ์เพรส เดือน ก.พ.ปีนี้สะพานข้ามแม่น้ำอีกสายหนึ่งในย่านรอบนอกนครโฮจิมินห์พังครืนลงระหว่างก่อสร้าง ซึ่งเชื่อว่าเกิดจากการทุจริต มิใช่อุบัติเหตุ ทางการกำลังสอบสวนหาผู้รับผิดชอบ</FONT></bR>
<bR><FONT color=#FF0000>เวียดนามวันนี้ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนๆ ก็จะเต็มไปด้วยการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค รวมทั้งทางด่วน-ทางยกระดับสายใหม่ในย่านลองเบียน รอบนอกกรุงฮานอย นายกรัฐมนตรีเวียดนามเหวียนเติ๋นยวุ๋ง (Nguyen Tan Dung) ไปทำพิธีเปิดวันศุกร์ (25 ก.ย.) ที่ผ่านมา (ภาพ: VNExpress) </FONT></bR>
ในเดือน มี.ค.ปีนี้ ศาลในกรุงโตเกียวได้ตัดสินจำคุกนายมิซาโยชิ ตากะ (Misayoshi Taka) อดีตประธานบริษัทดังกล่าวในกรุงโตเกียว ฐาน "ติดสินบน" นายสี เพื่อให้ได้งานที่ปรึกษาโครงการก่อสร้างทางด่วนและมอเตอร์เวย์ มูลค่ากว่า 600 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสวนใหญ่เป็นเงินช่วยเหลืออย่างเป็นทางการเพื่อการพัฒนาจากรัฐบาลญี่ปุ่น

ก่อนหน้านั้นในเดือน ม.ค. ศาลโตเกียวได้สั่งปรับบริษัท PCI เป็นเงิน 772,000 ดอลลาร์ และ ตัดสินจำคุกผู้บริหารจำนวน 3 คน แต้ให้รอลงอาญาเนื่องจากให้ความร่วมมืออย่างดีในการไต่สวนกรณีอื้อฉาวนี้

ญี่ปุ่นเป็นประเทศผู้บริจาค (Donor Country) ให้แก่เวียดนามรายใหญ่ที่สุด โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ที่รัฐบาลญี่ปุ่นให้คำมั่นจะช่วยเหลือยังรวมทั้งรถไฟฟ้าหัวกระสุนเหนือ-ใต้ ระยะทาง 1,550 กิโลเมตรด้วย

กรณีทุจริตอื้อฉาวนี้ได้ทำให้รัฐบาลเวียดนามเคร่งคัดในการตรวจสอบการทุจริตในหมู่เจ้าหน้าที่รัฐให้รัดกุมยิ่งขึ้น.
กำลังโหลดความคิดเห็น