เอเอฟพี - ในการเดินทางเยือนเวียดนามเป็นเวลา 3 วัน ของผู้นำเกาหลีใต้ ทั้งสองประเทศเปิดเจรจาลงความเห็นที่จะกระชับความสัมพันธ์ทางด้านการเมือง ความมั่นคง รวมไปถึงขยายความสัมพันธ์ในด้านอื่นๆ ให้มากยิ่งขึ้น นับตั้งแต่ทั้ง 2 ประเทศกลับมาฟื้นความสัมพันธ์เป็นปกติ หลังจากระงับความสัมพันธ์ไปกว่า 17 ปี
การเจรจาความตกลงที่มีขึ้นนี้ เกิดขึ้นในระหว่างการพบกันระหว่างประธานาธิบดี ลี เมียง บัค (Lee Myung-Bak) ของเกาหลีใต้ และ นายเหวียน มิง เจี๊ยต (Nguyen Minh Triet) ประธานาธิบดีเวียดนาม ในวันพุธนี้ (21 ต.ค.)
“ความหมายก็คือ ก่อนหน้านี้ ทั้ง 2 ประเทศให้ความสำคัญเพียงเฉพาะด้านการค้าและเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ในตอนนี้ความสัมพันธ์จะขยายไปในภาคการเมือง การทูต ความมั่นคง และภาคส่วนอื่นๆ ด้วย" นายลี กล่าวในระหว่างการพบสื่อมวลชนร่วมกับนายเจี๊ยต
กรุงโซล และกรุงฮานอย ได้กลับคืนสู่ความสัมพันธ์ระดับปกติเมื่อปี 2535 นับเป็นเวลาหลายปีหลังจากสิ้นสุดสงครามเวียดนาม ซึ่งเกาหลีใต้ได้ส่งทหารเข้าร่วมรบกับสหรัฐฯ 300,000 นาย และสงครามได้สิ้นสุดลงในปี 2518
นายเจี๊ยต กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การจับมือเป็นพันธมิตรใหม่ในครั้งนี้เป็นความต้องการของทั้ง 2 ประเทศและเป็นการแสดงถึง “ความเข้าใจและไว้วางใจซึ่งกันและกัน” โดยทั้ง 2 ประเทศจะเพิ่มความร่วมมือในระดับทวิภาคีในเวทีนานาชาติ ภูมิภาค และระหว่างประเทศ
ปัจจุบันเกาหลีใต้เป็นประเทศผู้ลงทุนจากต่างชาติรายใหญ่อันดับ 3 ในเวียดนาม และในปี 2551 ที่ผ่านมา เกาหลีใต้ยังเป็นประเทศผู้บริจาคให้ความช่วยเหลือมากที่สุดเป็นอันดับ 2 และเป็นประเทศคู่ค้าอันดับ 4 ของเวียดนาม ด้วยมูลค่าทางการค้าสองฝ่ายเกือบ 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ
นอกจากนั้น ยังมีความสัมพันธ์ในด้านวัฒนธรรมและสถาบันครอบครัว จากความนิยมในรายการโทรทัศน์ของเกาหลีในเวียดนามที่เพิ่มมากขึ้น ในขณะที่หญิงสาวชาวเวียดนามหลายพันคนแต่งงานกับชายชาวเกาหลี
นายเจี๊ยต ยังได้กล่าวอีกว่า ทั้ง 2 ฝ่ายต่างคาดหวังที่จะเพิ่มมูลค่าทางการค้าระหว่างกันให้เป็น 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2558