xs
xsm
sm
md
lg

เวียดนามหวิดเละ "โกนิ" หันหัวกลับมุ่งถล่มฮ่องกง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<br><FONT color=#cc00cc>แผนภูมิของหน่วยงานอุตุนิยมวิทยาแห่งญี่ปุ่นแสดงเส้นทางการเคลื่อนตัวของพายุโซนร้อน-ดีเปรสชั่น โกนีในช่วงหลายวันมานี้ จนถึงจุดหักเลี้ยวเมื่อเวลา 18 น.วันเสาร์ (8 ส.ค.) นี้ ซึ่งทำให้ภาคกลางเวียดนามพ้นจาก การถูกทำล้ายล้าง  </FONT></bR>

ASTVผู้จัดการออนไลน์-- ภาคกลางเวียดนามหวิดเละ และ รอดพ้น "การทำลายล้าง" ของพายุโกนิ (Goni) ที่เร่งความเร็วขึ้นสู่ระดับพายุโซนร้อน เมื่อวันศุกร์ขณะมุ่งหน้าเข้าถล่มเกาะไหหลำของจีน และ หันเหทิศทางเคลื่อนตัวลงใต้ มุ่งหน้าเข้าถล่มภาคกลางเวียดนาม แถบ จ.เถือะเทียนเหว (Thua Thien Hue) เมื่อวันเสาร์ (8 ส.ค.) นี้

ก่อนหน้านี้ในช่วงต้นสัปดาห์พายุโซนร้อนโกนิได้อ่อนกำลังลงระดับหนึ่งกลายสภาพเป็นดีเปรสชั่น ก่อนที่จะเร่งความเร็วขึ้นสู่ระดับพายุโซนร้อนอีกครั้ง และเปลี่ยนทิศทางเคลื่อนตัว ก่อนจะหันหัวกลับ ในทิศทางผ่านเกาะฮ่องกงกับดินแดนมาเก๊า สู่แผ่นดินใหญ่จีนในสองสามวันข้างหน้า

ตามแผนภูมิของสำนักพยากรณ์อากาศญี่ป่น พายุโซนร้อนโกนิ ได้เปลี่ยนทิศทางหัวกลับ หันหลังให้ชายฝั่งเวียดนาม เมื่อเวลาประมาณ 6 โมงเย็นวันเสาร์ (8 ส.ค.) นี้

แต่ถึงกระนั้นพายุโกนีก็ยังทำให้เกิดฝนตกหนัก พายุลมแรงทั่วภาคกลาง จนถึงภาคใต้ตอนบนและเขตที่ราบสูง ซึ่งเป็นเขตไร่กาแฟ พืชส่งออกที่ทำรายได้อันดับต้นๆ ของประเทศ ทั้งนี้เป็นรายงานของสำนักข่าวเวียดนามเอ็กซ์เพรส

สำนักข่าวของทางการจีนรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 คน สูญหายไปอีก 4 ในไต้หวัน จากฝนตกหนัก พายุลมแรงและน้ำท่วมสูง ขณะที่ผู้เสียชีวิตในฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้นเป็น 10 คน หลังจากไต้ฝุ่นมรกตทำให้เกิดฝนตกหนัก แชน้ำป่าไหลหลากและดินถล่มในจังหวัดภาคเหนือ

ตามรายงานของสำนักข่าวซินหัว อาจจะมีลูกเรือประมงถึง 100 คน ในเรือหาปลายหายสิบลำจากจีน เวียดนาม และกัมพูชา สูญหายไปในทะเลจีนใต้ที่ปั่นป่วนอันเนื่องมาจากอิทธิพลของพายุโกนิประสานพลังกับไต้ฝุ่นมรกต
<br><FONT color=#cc00cc>แผนภูมิของ TSR จำลองภาพการเลี้ยวโค้งกลับ และหันทิศทางมุ่งไปยังดินแดนฮ่องกง-มาเก๊า ในอีก 2 วันข้างหน้า ซึ่งอาจจะอ่อนกำลังลงระหว่างทางหรือเร่งความเร็วขึ้นเป็นระดับไต้ฝุ่นอีกลูกหนึ่งก็ได้ </FONT></bR>
เรือกู้ภัยรวมทั้งเฮลิคอปเตอร์ได้ออกค้นหาลูกเรือเหล่านั้นในเรือกว่า 20 ลำ ที่จับปลาอยู่เขตนอกฝั่งเกาะไหหลำ สำนักข่าวทางการจีนรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ยามฝั่ง ขณะที่โทรทัศน์กลางของจีนรายงานว่า มีเรือประมงอย่างน้อย 1 ลำ ถูกพายุพัดจมลง

นักพยากรณ์อากาศกล่าวว่า การย้อนกลับทิศทางของพายุโซนร้อนโกนี เป็นอิธิพลโดยตรงจากไต้ฝุ่นมรกต (Morakot) ที่เร่งกำลังแรงขึ้นสู่ระดับ 1 (Category 1) ขณะพัดถล่มเกาะไต้หวัน มุ่งหน้าเข้าสู่ภาคตะวันออกของจีนในวันนี้ ทำให้ถูกดึงกลับไปทางตะวันออก ตามสภาพภูมิอากาศที่ผันผวนอย่างรุนแรง

เดือน พ.ย.2550 ไต้ฝุ่นฮาจีบีส์ (Hagibis) หันหัวกลับแบบ 180 องศาเช่นกัน ขณะอยู่ห่างจากฝั่งไม่ถึง 200 กม.ตั้งหน้าจะเข้าถล่มภาคใต้เวียดนาม ทั้งนี้ เป็นอิทธิพลของไต้ฝุ่นอีกลูกหนึ่งที่กำลังก่อตัวขึ้นทางตะวันออกของฟิลิปปินส์
<br><FONT color=#cc00cc>ขณะเดียวกัน มรกต ลูกพี่ใหญ่ ก็กำลังทวีความเร็วพัดถล่มเกาะไต้หวันในวันเสาร์ (8 ส.ค.) มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อนย 1 คน อีก 4 คนสูญหาย วันเดียวกันมรกตกำลังบ่ายหน้าข้ามช่องแคบถล่มแผ่นดินใหญ่จีน  </FONT></bR>
แต่บางกรณีก็ไม่ใช่การหันหลังกลับ ในเดือน พ.ย.2549 ไต้ฝุ่นทุเรียน (Durian) เปลี่ยนทิศทางกะทันหันบ่ายหน้าลงใต้อย่างฉับพลันขณะที่กำลังจะพัดถล่มเข้าภาคกลางตอนล่างเวียดนาม สร้างความเสียหายแก่เขตอู่ข้าวที่ราบปากแม่น้ำโขงอย่างรุนแรง เนื่องจากเตรียมรับไม่ทัน

ทุเรียนพัดทะลุทะลวงเข้าสู่อ่าวไทย ตีวงโค้งผ่านเขต จ.ชุมพร ไปสิ้นฤทธิ์ในใจกลางทะเลอันดามัน รวมเป็นระยะทางที่เคลื่อนตัวหลายพัน กม.และเต็มไปด้วยความน่าฉงนอย่างสุดคาดเดา จนถูกเรียกขานเป็น “เพอร์เฟกต์สตอร์ม” (Perfect Storm) อีกลูกหนึ่ง

ความรุนแรงและการทำลายล้างของพายุลูกนี้ ทำให้ไทยต้องถอดชื่อ “ทุเรียน” ออกสารบบชื่อของไต้ฝุ่น เนื่องจากเกรงว่าจะส่งภาพลบต่อผลไม้ส่งออกที่มีชื่อเสียงของไทย.
กำลังโหลดความคิดเห็น