xs
xsm
sm
md
lg

เวียดนามทำแทบตาย GDP ปีนี้ได้แค่ 6.23%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<CENTER><FONT color=#cc00cc> คนงานหญิงประจำสายการผลิตที่โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าแห่งหนึ่งในกรุงฮานอยทำงานอย่างขมักเขม้น ภาพถ่ายวันที่ 21 ต.ค.2551 ในวันนี้พวกเธอกำลังเผชิญกับอนาคตที่ไม่แนนอน เศรษฐกิจถดถอยในตลาดปลายทางทำให้ยอดสั่งซื้อลดลง หรือสั่งซื้อสินค้าในราคาต่อชิ้นที่ต่ำลง (ภาพ: AFP) </FONT></CENTER>

ASTVผู้จัดการรายวัน-- ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลกโดยรวม เวียดนามได้ประกาศตัวเลขอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจครั้งล่าสุดเป็นตัวเลข 6.23% ในปีนี้ในขณะที่ตัวเลขอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 19.9% หลังจากใช้ความพยายามตลอดทั้งปีในการสกัดกั้นและควบคุม

รัฐมนตรีกระทรวงวางแผนและการลงทุน นายหวอห่งม์ฟุก (Vo Hong Phuc) เปิดเผยตัวเลขต่างๆ เหล่านี้ระหว่างการแถลงข่าวในนครโฮจิมินห์เมื่อวันพุธ (24 ธ.ค.)

การขยายตัวทางเศรษฐกิจทั้งปีของเวียดนามได้พลาดเป้าหมาย 6.7% ที่วางไว้เมื่อต้นปี ซึ่งได้ลดลงจากเป้าหมายเดิม 8% ก่อนหน้านั้น และจากอัตราการเติบโต 8.5% เมื่อปีที่แล้ว

แต่การสกัดกั้นอัตราเงินเฟ้อได้ผลเกินคาดหมายจากที่นักเศรษฐศาสตร์คาดเอาไว้เมื่อต้นปีว่าอัตราอาจจะสูงถึง 30% ในสิ้นปี ขณะที่การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ หรือ FDI (Foreign Direct Investment) ปีนี้มีมูลค่ามากกว่า 60,000 ล้านดอลลาร์ และคาดว่าจะมีการใช้จ่ายจริงเข้าในโครงการ 10,000-12,000 ล้านดอลลาร์

ในขณะเดียวกัน นายหวูฮวีฮว่าง (Vu Huy Hoang) รัฐมนตรีอุตสาหกรรมและการค้าเปิดเผยว่า ปีนี้เวียดนามขาดดุลการค้า 17,000 ล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่เคยคาดว่าตัวเลขอาจจะสูงถึง 20,000 ล้านดอลลาร์ โดยมีการส่งออกสินค้าต่างๆรวม 63,000 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 29.5% จากปีที่แล้ว นำเข้ารวมมูลค่า 79,910 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 27.5%

รัฐบาลเวียดนามได้ประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่าประมาณ 6,000 ล้านดอลลาร์ซึ่งเริ่มตั้งแต่เดือน ธ.ค.ปีนี้เป็นต้นไป เพื่ออัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบในแขนงเศรษฐกิจสำคัญต่างๆ รวมทั้งการอุดหนุนดอกเบี้ยของธนาคารเพื่อช่วยเหลือธุรกิจขนาดกลาง-ขนาดเล็ก ส่งเสริมการผลิต การจ้าง และกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ

เศรษฐกิจเวียดนามที่กำลังโลดแล่นต้องเจอปัญหาเงินเฟ้อลุกลามใหญ่โตตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว รัฐบาลได้ใช้มาตรการการเงินเข้าสกัดกั้น โดยขึ้นดอกเบี้ยสูงจาก 8.5% เป็น 14% ออกพันธบัตรดูดซับสภาพคล่องส่วนเกินจากตลาด และควบคุมสินเชื่อทั้งระบบ ซึ่งส่งผลกระทบอย่างกว้างขวาง

ตามรายงานของสำนักงานใหญ่สถิติเวียดนาม (General Statistics Office) ดัชนีราคาผู้บริโภคหรือ CPI (Consumer Price Index) ที่ใช้เป็นตัวบ่งชี้อัตราเงินเฟ้อสูงเพียง 8% ในสิ้นปี 2550 แต่อัตราเฟ้อเดือนต่อเดือนในเดือน ธ.ค.ปีนี้ลดลงต่ำกว่า 20% เทียบกับที่เคยพุ่งขึ้นสูงถึง 28% ในเดือน ส.ค.

วันจันทร์ที่ผ่านมาเวียดนามได้ลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานลงเหลือ 8.5% อีกครั้งหนึ่ง เป็นการปรับลดดอกเบี้ยครั้งที่ 5 ในช่วงเวลาหนึ่งเดือน เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ.

นายกรัฐมนตรีเวียดนามกล่าวในวันพุธว่า จุดสำคัญในปี 2552 คือ ทำให้สังคมมีความมั่นคงและเศรษฐกิจเติบโตต่อไปในอัตรา 6.5%

ในวันพฤหัสบดี (25 ธ.ค.) ธนาคารแห่งรัฐเวียดนามได้ประกาศ “ปรับ” ค่าเงินด่ง เงินสกุลเวียดนาม โดยกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนที่ 16,989 ด่งต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นการ “ลด” ค่าเงินสกุลท้องถิ่นลงอีก 3% เทียบกับอัตรา 16,494 ด่งต่อดอลลาร์เมื่อวันพุธ

รัฐบาลเวียดนามระบุในเว็บไซต์ว่า มาตรการดังกล่าวก็เพื่อส่งเสริมการส่งออก

ที่ผ่านมาทางการเวียดนามได้ขยายช่องห่างอัตราแลกเปลี่ยนเงินด่งกับเงินดอลลาร์ให้สามารถขึ้นลงได้ไม่เกิน 2% ในการซื้อขายแต่ละวัน.
กำลังโหลดความคิดเห็น