xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ เวียดนามสั่งเฉียบทุกส่วนร่วมกู้เศรษฐกิจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<CENTER><FONT color=#FF0066> นายกรัฐมนตรีเหวียนเติ๋นยวุ๋ง (นั่ง) ระหว่างสนทนากับรองนายกฯ เหวียนซิงหุ่ง (ยืน) ในการประชุมเมื่อวันจันทร์ (15 ธ.ค.) ซึ่งรัฐบาลเวียดนามประกาศเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ  </FONT></CENTER>

ASTVผู้จัดการรายวัน -- นายกรัฐมนตรีเวียดนามเหวียนเติ๋นยวุ๋ง (Nguyen Tan Dung) ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงาน กระทรง ทบวง กรม รวมทั้งรัฐวิสาหกิจและบริษัทธุรกิจของรัฐ ต้องมีแผนการกระตุนเศรษฐกิจของตัวเองเพื่อรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจระดับชาติให้สามารถฟันฝ่าวิกฤตการณ์ระดับโลกได้ และสามารถขยายตัวได้ 6-6.5% ในปีหน้า

ขณะเดียวกัน ทางการเวียดนามได้เปิดเผยแผนการใช้เงินลงทุนกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ พร้อมทั้งเปิดเผยแหล่งที่มาของทุน ซึ่งเมื่อรวกมันแล้วอาจจะมีมูลค่าถึง 6,000 ล้านดอลลาร์

เรื่องนี้ระบุไว้ในเอกสารรายงานผลการประชุมระหว่างนายกรัฐมนตรี กับผู้บริหารรัฐวิสาหกิจต่างๆ กว่า 100 แห่ง ที่จัดขึ้นในกรุงฮานอยวันอังคาร (16 ธ.ค.) ที่ผ่านมา และสื่อของทางการรายงานในวันพฤหัสบดี

นายยวุ๋ง สั่งการให้ธนาคารแห่งรัฐเวียดนาม หรือ SBV (State Bank of Vietnam) รวมทั้งธนาคารพาณิชย์ของรัฐบาลทุกแห่ง เตรียมปล่อยกู้ให้แขนงเศรษฐกิจต่างๆ ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ 5-6% ต่อปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ ภาคการผลิตพลังงาน ท่าเรือ สนามบิน โครงการแก้ไขปัญหาจราจรและการก่อสร้างอาคารที่อาศัย ที่กำลังมีปัญหาขาดสภาพคล่อง

สถาบันการเงินต่างๆ ของรัฐ จะต้องเข้ารับผิดชอบต่อความยากลำบากของลูกค้าของตนเองที่เป็นธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กต่างๆ โดยให้ปล่อยกู้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำสุด เพื่อให้สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ อันเป็นส่วนสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ในงานเดียวกันนี้ นายหว่างจุงหาย (Hoang Trung Hai) รองนายกรัฐมนตรีได้ขอให้รัฐวิสาหกิจต่างๆ ให้รักษาพนักงาน ช่วยเหลือ และให้หาทางสร้างงานในหน่วยงานต่างๆ ขึ้นมารองรับ สร้างความสัมพันธ์ความร่วมมืออันดีกับสหภาพแรงงานต่างๆ เพื่อมิให้เกิดการชุมนุมประท้วงขึ้นในช่วงปีแห่งความยากลำบาก
<CENTER><FONT color=#FF0066> หวอห่งม์ฟุกรัฐมนตรีกระทรวงวางแผนฯ จะเป็นผู้นำทีมปฏิบัตินโยบายกระตุ้น  </FONT></CENTER>
นายหาย กล่าวอีกว่า อุตสาหกรรมเสื้อผ้าและสิ่งทอ รองเท้า อาหารทะเล กำลังประสบปัญหาตลาดส่งออก รัฐบาลจะหาตลาด ส่งเสริมและขยายการตลาด เพื่อช่วยเหลือแขนงอุตสาหกรรมเหล่านี้ ขณะเดียวกันกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าจะต้องลดการขาดดุลการค้าลง

นายเหวียนซิงหุ่ง (Nguyen Sinh Hung) รองนายกรับมนตรีคนที่หนึ่ง ได้เรียกร้องให้รัฐวิสาหกิจต่างๆ เพิ่มการลงทุน ลดต้นทุนการผลิต และส่งเสริมให้ชาวเวียดนามใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศ

ประธานกลุ่มเสื้อผ้าและสิ่งทอแห่งชาติ หรือ วินาเท็กซ์ (Vietnam National Textile and Garment Group) นายเลก๊วกแอง (Le Quoc Anh) ได้เสนอรัฐบาลให้ทุ่มความช่วยเหลือโดยตรงลงไปยังกลุ่มประชาชนที่ยากจนเป็นอันดับแรก และขอให้รัฐบาลลดดอกเบี้ยพื้นฐานลงจาก 10 ให้เหลือ 8% เพื่อให้ธุรกิจต่างๆ สามารถดำเนินต่อไปได้

นายก๊วกแอง เสนอให้รัฐบาลใช้วิกฤตนี้เป็นโอกาส โดยลงทุนสร้างบ้านสำหรับประชาชนคนยากจน คนมีรายได้ต่ำอย่างกว้างขวางทั่วประเทศ

นายเจิ่นบั๊กห่า (Tran Bac Ha) ประธานกรรมการบริหารธนาคารเพื่อการลงทุนและการพัฒนาเวียดนามหรือ BIDV เสนอให้รัฐบาลลงทุนก่อสร้างอาคารสำนักงานเช่าสำหรับธุรกิจ สร้างบ้านอาศัยให้ประชาชนที่มีรายได้น้อยซื้อหรือเช่าอย่างน้อยปีละ 10,000 ยูนิต และ ให้ดำเนินโครงการนี้ต่อเนื่องจนถึงปี 2558 ซึ่งอาจจะใช้เงินทุนราว 151.5 ล้านดอลลาร์ต่อปี

ขณะเดียวกัน BIDY ได้เสนอที่จะปล่อยสินเชื่อระหว่าง 5.2-5.5 พันล้านดอลลาร์ในปีหน้า ส่งเสริมการส่งออกของประเทศ

เมื่อต้นเดือนนี้รัฐบาลเวียดนามได้ประกาศแผนกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่าราว 1,000 ล้านดอลลาร์สำหรับปีหน้า และต่อมาได้เพิ่มมาตรการกระตุ้นซึ่งจะทำให้วงเงินเพื่อการลงทุนนี้ขยายออกไปเป็นประมาณ 6,000 ล้านดอลลาร์

นายหวอห่งม์ฟุก (Vo Hong Phuc) รัฐมนตรีวงแผนและการลงทุน กล่าวว่า เงินลงทุนดังคิดเป็นประมาณ 2% ของผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ
<CENTER><FONT color=#FF0066> เมื่อเศรษฐกิจไม่แน่ไม่นอน อัตราดอกเบี้ยกำลังจะลดลงอีก ชาวเวียดนามจำนวนถอนเงินจากแบงก์หันเข้าร้านทองเพื่อซื้อเก็บเป็นการออมแทนฝากเงิน </FONT></CENTER>
นอกจากการลงทุนเป็นเงินแล้ว แผนกระตุ้นเศรษฐกิจจะใช้มาตรการอื่นๆ อีก เช่น การลดภาษีให้แก่บริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กลง 30% ตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายของปี 2551 เป็นต้นไป และให้ธุรกิจที่มีปัญหาสามารถผ่อนผันการชำระภาษีไปได้ถึงปลายปีหน้า

รองนายกรัฐมนตรีเหวียนซิงหุ่ง กล่าวว่า รัฐบาลจะใช้เงินงบประมาณที่ยังไม่ได้เบิกจ่ายค้างจากปีที่แล้วจำนวน 1,176 ล้านดอลลาร์ ที่เหลือจะเป็นเป็นเงินจากการออกพันธบัตร การลดภาษีให้แก่ธุรกิจที่รัฐบาลยังไม่ได้จัดเก็บ

รัฐบาลยังจะใช้งบอีกราว 1,000 ล้านดอลลาร์จากเงินสำรองของประเทศที่มีอยู่ราว 22,000 ล้านดอลลาร์ กับอีก 1,500-2,000 ล้านดอลลาร์ เป็นเงินกู้จากต่างประเทศ

“รัฐบาลจะมีเงินระหว่าง 5,000-6,000 ล้านดอลลาร์ สำหรับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างรอบด้าน ไม่ใช่เพียง 1,000 ล้านตามที่ประกาศออกมาในตอนแรก” รองนายกรัฐมนตรีเวียดนามบอกกับที่ประชุมเมื่อวันอังคาร

ในปี 2552 นี้ รัฐบาลจะมีนโยบายจะให้สถาบันการเงินต่างๆ ขยายการปล่อยกู้ระหว่าง 20-25% หลังจากปีนี้สินเชื่อในระบบขยายตัวเพียงประมาณ 19% อันเป็นหนึ่งในมาตรการที่ใช้สกัดกั้นเงินเฟ้อ

ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ไซ่ง่อนไทมส์ รองนายกฯ เวียดนามได้สั่งให้รัฐวิสาหกิจต่างๆ ฟื้นโครงการลงทุนที่หยุดชะงักหรือล้มเลิกไปเมื่อปีที่แล้วกลับขึ้นมาดำเนินการอีกครั้งหนึ่ง ทั้งหมดมีมูลค่าการลงทุนราว 2,294 ล้านดอลลาร์ โดยให้ติดต่อใช้สินเชื่อจากธนาคารรัฐ

ส่วน นายห่งม์ฟุก กล่าวว่า รัฐบาลจะใช้เงินราว 1,000 ล้านดอลลาร์สนับสนุนสถาบันการเงินให้สามารถปล่อยกู้แก่ธุรกิจต่างๆ ตามแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ โดยเริ่มแต่บัดนี้เป็นไป และจะไม่ส่งผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อที่สามารถควบคุมจนอยู่ในอัตราต่ำขณะนี้

ดัชนีราคาผู้บริโภคหรือ CPI (Consumer Price Index) ที่ใช้วัดอัตราเฟ้อของเงิน ขยายตัวเพียงประมาณ 0.7% ในเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา และเชื่อว่า CPI ในเดือน ธ.ค.จะไม่สูงไปกว่ากัน นายฟุกกล่าว.
กำลังโหลดความคิดเห็น