ผู้จัดการรายวัน -- ธนาคารแห่งรัฐเวียดนามได้ปรับอัตราแลกเปลี่ยนเงินด่ง กับเงินดอลลาร์ระหว่างธนาคาร (Interbank Exchange Rate) อีกครั้งหนึ่งในวันจันทร์ (15 ก.ย.) เป็นครั้งที่สามในชั่วเวลาข้ามสัปดาห์ ขณะที่เริ่มกว้านซื้อเงินสกุลต่างประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งเงินดอลลาร์ออกจากตลาด
นักวิเคราะห์ กล่าวว่า ธนาคารแห่งรัฐ หรือ SBV (State Bank of Vietnam) กำลังปรับอัตราแลกเปลี่ยนกลางอย่างเป็นขั้นเป็นตอนมาตั้งแต่เดือน ก.ค.ซึ่งเป็นการปรับค่าเงินสกุลท้องถิ่นลงโดยปริยาย
อัตราแลกเปลี่ยนกลางอัตราใหม่ในสัปดาห์นี้เป็น 16,512 ด่งต่อดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 3 ด่งต่อดอลลาร์จากสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมีการปรับค่าเงินถึง 2 ครั้ง
ธนาคารแห่งรัฐปรับอัตราแลกเปลี่ยนขึ้นเป็น 16,506 ด่งต่อดอลลาร์กลางสัปดาห์ที่แล้ว และปรับอีกครั้งหนึ่งในวันที่ 12 ก.ย.เป็น 16,509 ด่งต่อดอลลาร์ ซึ่งนักวิเคราะห์กล่าวว่า เป็นมาตรการเพื่อลดเงินหมุนเวียนในตลาดลงโดยเฉพาะอย่างยิ่งทางภาคเหนือของประเทศ
ทางการเวียดนามได้ขยายเพดานอัตราแลกเปลี่ยนในตลาดเงินเป็น +/-2% ในเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา จาก 1% ก่อนหน้านั้น เพื่อให้อัตราแลกเปลี่ยนมีเสถียรภาพยิ่งขึ้น หลังจากเกิดความผันผวนอย่างหนักอันเนื่องมาจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงมากในประเทศนี้
เจ้าหน้าที่ธนาคารแห่งรัฐที่ไม่ประสงค์จะให้ออกนาม กล่าวว่า การปรับค่าเงินดังกล่าวจะส่งผลดีต่อการส่งออกโดยเฉพาะอย่างยิ่ง แขนงตัดเย็บเสื้อผ้าที่จะมีผลกำไรมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันการปรับลดลงของค่าเงินด่งอาจจะทำให้ตัวเลขขาดดุลการค้าของเวียดนามพุ่งสูงขึ้นอีก
ตามตัวเลขของสำนักงานใหญ่สถิติเวียดนาม (General Statistics Office) ช่วงแปดเดือนแรกของปีนี้ ตัวเลขขาดดุลการค้าเป็น 16,000 ล้านดอลลาร์ คิดเป็น 36.8% ของมูลค่าส่งออกรวมในช่วงเดียวกัน หรือเพิ่มขึ้น 2 เท่าตัวเทียบกับเดือน ม.ค.-ส.ค. ปีที่แล้ว ทั้งนี้เป็นรายงานของหนังสือพิมพ์เทยบ๋าวกิงเตเหวียดนาม (Thoi Boa Kinh Te Vietnam) หรือ ข่าวเศรษฐกิจเวียดนาม
เวียดนามได้พยายามควบคุมตัวขาดดุลให้อยู่ในระดับต่ำกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ต่อเดือนในช่วง 2-3 เดือนมานี้ โดยมีเป้าหมายควบคุมตัวเลขขาดดุลตลอดปีไม่เกิน 20,000 ล้านดอลลาร์ ตัวเลขเดือน ส.ค.อยู่ที่ 900 ล้าน เพิ่มขึ้นจาก 752 และ 736 ล้านดอลลาร์ ในเดือน ก.ค.และ มิ.ย.ตามลำดับ
การปรับอัตราแลกเปลี่ยนกลางครั้งล่าสุดเป็น 16,512 ด่งต่อดอลลาร์ จะทำให้ธนาคารและสถาบันการเงินต่างๆ ปรับอัตราแลกเปลี่ยนในตลาดขึ้นเป็น 16,842 ด่งต่อดอลลาร์ จากอัตราซื้อ 16,550-16,560 ด่งต่อดอลลาร์และอัตราขาย 16,610 ด่งต่อดอลลาร์ในช่วงก่อนหน้านี้
นักวิเคราะห์ กล่าวว่า การปรับค่าเงินครั้งล่าสุด พร้อมๆ กับการซื้อเงินสกุลต่างชาติออกจากตลาดในขณะนี้ เป็นไปตามแผนการส่งเสริมการส่งออกซึ่งเป็นพลังขับดันสำคัญที่สุดสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ รวมทั้งเป็นการกระตุ้นให้เกิดการขยายการผลิตและสร้างงานทำให้แก่ประชาชน
ดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index) ซึ่งใช้วัดอัตราเฟ้อของเงินในเดือน ส.ค.เพิ่มขึ้นเป็น 28.32% เทียบกับเดือนเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว ขณะที่อัตราเฟ้อในแปดเดือนแรกเพิ่มขึ้น 22% เทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2550 หนังสือพิมพ์ฉบับเดียวกันกล่าว