แบงก์ชาติเวียดนามหั่นดอกเบี้ยฟื้นฟูเศรษฐกิจ

ผู้จัดการรายวัน-- ธนาคารแห่งรัฐเวียดนาม หรือ SBV (State Bank of Vietnam) ได้ประกาศลดดอกเบี้ยมาตรฐานลง 1% โดยเริ่มในวันอังคาร (21 ต.ค.) เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการหาทุนหรือสินเชื่อได้ง่ายขึ้น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

แต่ในขณะเดียวกัน SBV ได้เตือนธนาคารพาณิชย์ตลอดจนสถานบันการเงินต่างๆ ให้ระวังผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกในปัจจุบัน

ธนาคารแห่งรัฐฯ ลดอกเบี้ยมาตรฐานลงจาก 14% เหลือ 13% ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบปี หลังจากปีนี้ได้ขึ้นดอกเบี้ยมาแล้วถึงสามครั้งจากเพียง 8.25% เมื่อต้นปี อันเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการทางเงินเพื่อต่อสู้กับภัยเงินเฟ้อที่เป็นตัวเลขสองหลักซึ่งคุกคามการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ

ธนาคารชาติกล่าวในคำแถลงที่ออกเผยแพร่บนเว็บไซต์ในวันเดียวกันระบุว่า การลดดอกเบี้ยครั้งนี้มีจุดประสงค์ที่จะ "ให้ธนาคารพาณิชย์แห่งต่างๆ สามารถเข้าถึงเงินทุนเพื่อเพิ่มสภาพคล่องทั้งนี้เพื่อให้ลดดอกเบี้ยสินเชื่อลง"

"ในที่สุดบริษัทท้องถิ่นต่างๆ ที่มีปัญหาเรื่องเงินทุนจะมีโอกาสได้สินเชื่อจากธนาคาร เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจและส่งเสริมการลงทุน" SBV กล่าวในคำแถลงที่ลงวันจันทร์และออกเผยแพร่ในวันอังคาร (21 ต.ค.)

อย่างไรก็ตามธนาคารกลางได้ออกเตือนธนาคารพาณิชย์ให้ต้องบริหารเงินทุนด้วยความระมัดระวัง และเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์การเงินที่เริ่มก่อตัวจากการที่สถาบันการเงินขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ พังทลาย

สำนักข่าวทางการเวียดนาม (VNA) รายงานในวันเดียวกันว่า ผู้บริหารระดับสูงของประเทศแสดงความห่วงใยต่อความยากลำบากที่ผู้ประกอบการในประเทศเผชิญอยู่นี้ จะส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้

พร้อมๆ กับลดดอกเบี้ยมาตรฐาน SBV ได้ลดดอกเบี้ยรีฟายแนนซ์ (refinancing rate) ลงเหลือ 14% จาก 15% และลดดิสเค้าท์เรท (discount rate) ลง 1% เช่นเดียวกันเหลือ 12%

ธนาคารแห่งรัฐกล่าวอีกว่า เตรียมพร้อมที่จะซื้อคืนพันธบัตรมูลค่า 1,200 ล้านดอลลาร์ที่ออกในเดือน มี.ค.ปีนี้ ซึ่งเป็นมาตรการหนึ่งในการสกัดกั้นเงินเฟ้อ

เวียดนามกล่าวว่าอัตราเงินเฟ้อเมื่อเดือนที่แล้วยังเหลือเพียง 27.9% จาก 28.3% ในเดือน ส.ค. ขณะที่อัตราเฟ้อเดือนต่อเดือนลดลงเหลือไม่ถึง 2%

กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมได้ลดราคาจำหน่ายปลีกน้ำมันทุกชนิดลงสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อสะท้อนราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ลดลงเรื่อยๆ

การขึ้นราคาน้ำมันตามสถานีบริการต่างๆ ลงในเดือน ก.ค. ได้ทำให้เงินเฟ้อพุ่งขึ้นสูงอีกรอบหนึ่ง แต่ทางการกล่าวว่าสภาพการณ์ได้เปลี่ยนไปแล้วและเงินเฟ้อกำลังลดลงเรื่อยๆ