ผู้จัดการรายวัน-- ธนาคารแห่งรัฐเวียดนามหรือ SBV (State Bank of Vietnam) ได้ประกาศลดดอกเบี้ยมาตรฐานลงอีกครั้งหนึ่งเมื่อวันจันทร์ (3 พ.ย.) เหลือ 12% เท่ากับในเดือน มิ.ย.ซึ่งอัตราเงินเฟ้อกำลังพุ่งขึ้นสูง
ธนาคารแห่งรัฐกล่าวว่า การลดดอกเบี้ยครั้งล่าสุดนี้จะช่วยลดต้นทุนการปล่อยสินเชื่อของธนาคารต่างๆ ลง และช่วยให้บริษัทธุรกิจต่างๆ สามารถเข้าถึงสินเชื่อเพื่อนำไปใช้ในการประกอบการได้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งเป็นการส่งเสริมการลงทุนและการผลิต
นับเป็นการลดดอกเบี้ยมาตรฐานกับดอกเบี้ยสำคัญอีกสองรายการลงเป็นครั้งที่สองในรอบสองสัปดาห์ การลดดอกเบี้ยครั้งใหม่นี้จะลดลงจาก 13% เริ่มมีผลตั้งแต่วันพุธ (5 พ.ย.) เป็นต้นไป
ธนาคารกลางเวียดนามประกาศเรื่องนี้ในคำแถลงที่ออกทางเว็บไซต์ พร้อมๆ กันนี้ก็ได้ประกาศจำกัดเพดานสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์แห่งต่างๆ เอาไว้ไม่เกิน 18%
นอกจากนั้น SBV ยังลดอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตรลงจาก 12% เป็น 11% และดอกเบี้ยรีฟายแนนซ์จาก 14% เป็น 13% นั่นคือดอกเบี้ยที่แบงก์แห่งรัฐคิดจากเงินที่ปล่อยกู้ให้แก่แบงก์พาณิชย์
ธนาคารแห่งรัฐยังประกาศลดระดับเงินประกันสินเชื่อที่ธนาคารแห่งต่างๆ ต้องฝากไว้กับธนาคารกลางลงจาก 11% เหลือ 10%
ธนาคารแห่งรัฐเวียดนามประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลงครั้งแรกในวันที่ 20 ต.ค. หลังจากได้ขึ้นดอกเบี้ยไปสามครั้งในปีนี้ ครั้งล่าสุดขึ้นจาก 12% เป็น 14% ในเดือน มิ.ย.
เวียดนามได้ใช้มาตรการดอกเบี้ยสูงเป็นมาตรการหนึ่งในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นสูงกว่า 20% ตั้งแต่เดือน มี.ค.เป็นต้นมา แต่มาตรการนี้ได้ส่งกระทบรุนแรงต่อการผลิต ทำให้กิจการขนาดกลางและขนาดเล็กต้องปิดลงจำนวนมาก
"ตอนนี้เวียดนามกำลังหันมาให้ความสนใจต่อการเติบโต (ทางเศรษฐกิจ) จากที่เคยเป็นห่วงเรื่องเงินเฟ้อ" นายแม็ท ฮิลเดบรานท์ (Matt Hinderbrandt) แห่งธนาคารเจพีมอร์แกน (JP Morgan) ในสิงคโปร์กล่าวในรายงานฉบับหนึ่งเมื่อวันอังคารนี้
สำนักงานใหญ่สถิติเวียดนาม (General Statistic Office) เปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า อัตราเงินเฟ้อปีต่อปีได้ลดลงเป็นเดือนที่สองติดต่อกันในเดือน ต.ค. นี้
เงินเฟ้อที่เริ่มลดลงนี้ทำให้ SBV สามารถผ่อนคลายการเงินลงได้อีก ช่วยลดความเสี่ยงให้แก่ธุรกิจต่างๆ นายเหวียนดายลาย (Nguyen Dai Lai) รองผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนายุทธศาสตร์การธนาคารของ SBV กล่าวกับหนังสือพิมพ์แท็งเนียน
สัปดาห์ที่แล้วรัฐบาลเวียดนามได้ลดเป้าการเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้ลงเหลือ 6.7% จาก 7% ที่ตั้งเอาไว้ก่อนหน้านี้ ทั้งยังได้เตือนว่า เศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกในขณะนี้กำลังจะส่งผลต่อการส่งออก
นางฟานถิจิ๋ง (Phan Thi Chinh) รองผู้อำนวยการใหญ่ธนาคารเพื่อการพัฒนาและการลงทุน (Bank for Investment and Development of Vietnam) หรือ BIDV ซึ่งเป็นธนาคารขนาดใหญ่อันดับสองของประเทศกล่าวว่า หลังการลดดอกเบี้ยเดือนที่แล้ว ธุรกิจต่างๆ ก็ยังร้องเรียนว่าดอกเบี้ยยังสูงเกินกว่าจะเอื้อมถึง
การขึ้นดอกเบี้ยเป็น 14% ในเดือน มิ.ย.ได้ทำให้อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อสำกรับลูกค้ารายย่อยพุ่งขึ้นสูงถึง 21%
แม้ว่าจะลดลง 1% ในเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา แต่อัตราดอกเบี้ยในเวียดนามก็ยังสูงที่สุดในเอเชีย สูงเท่าๆ กับในปากีสถาน.