xs
xsm
sm
md
lg

เวียดนามอนุมัติเงินกู้สนามบินยักษ์ $8,000 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<CENTER><FONT color=#FF0000>  ภาพจากแฟ้มเมื่อหลายปีก่อนท่าอากาศยานเติ่นเซินเญิต (Tan Son Nhat) ในยามเช้าบรรยากาศเงียบๆ ปัจจุบันแออัดคับคั่ง และมีอาคารผู้โดยสารหลังที่สองแล้ว แต่ก็ยังไม่เพียงพอ ในชั่วโมงเร่งด่วน เครื่องบินโดยสารยังต้องบินวนเพื่อรอคิวลงจอด บางครั้งลงจอดแล้วแต่ไม่สามารถแท็กซี่เข้าสู่ลานจอดได้ ต้องจอดรอคิว ท่าอากาศยานที่ใหญ่กว่าเป็นสิ่งจำเป็น </FONT></CENTER>

ASTVผู้จัดการรายวัน-- รัฐบาลเวียดนามได้อนุมัติเงินกู้ก้อนโตสำหรับโครงการก่อสร้างสนามบินลองแถ่ง (Long Thanh) แล้ว โดยจะกู้จากสถาบันการเงินในประเทศถึง 70% กับอีก 30% เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้าร่วมถือหุ้นในโครงการซึ่งอาจจะทำให้เริ่มก่อสร้างได้ในปี 2552 นี้

ตามรายงานของสื่อทางการ นายกรัฐมนตรีเวียดนามเหวียนเติ๋นยวุ๋ง (Nguyen Tan Dung) ได้อนุมัติ "เงินกู้ก้อนใหญ่" สำหรับโครงการก่อสร้างที่มีมูลค่าถึง 8,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 280,000 ล้านบาท) ซึ่งเวียดนามกล่าว่า จะมีความใหญ่โตทันสมัยเทียบเท่าหรือยิ่งกว่าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิของไทยกับท่าอากาศยานขนาดใหญ่แห่งต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ธนาคารแห่งรัฐเวียดนาม หรือ SBV (State Bank of Vietnam) จะดำเนินการในเรื่องเงินกู้ร่วมกับธนาคารพาณิชย์แห่งต่างๆ ของรัฐบาล เพื่อท่าอากาศยานแห่งใหม่ใน จ.ด่งนาย (Dong Nai) กับอีกก้อนหนึ่งเพื่อโครงการพัฒนายกระดับท่าอากาศยานโนยบ่าย (Noi Bai) ในกรุงฮานอย หนังสือพิมพ์เวียดนามนิวส์รายงานเรื่องนี้ในวันพฤหัสบดี (25 ธ.ค.)

ธนาคารเพื่อการพัฒนาเวียดนาม (Vietnam Development Bank) จะเป็นผู้ให้เงินกู้ส่วนใหญ่สำหรับโครงการที่ท่าอากาศยานโนยบ่าย เงินกู้ส่วนที่เหลือจะได้จากธนาคารพาณิชย์แห่งอื่นๆ

โครงการพัฒนาสนามบินโนยบ่ายประกอบด้วยอาคารผู้โดยสารสูง 4 ชั้น 1 หลังมีพื้นที่ 90,000 ตารางเมตร บริเวณลานจอดเครื่องบิน บริเวณจ่ายระบบเชื้อเพลิง อาคารจอดรถหลายชั้นอีก 1 หลัง ระบบการจราจรซึ่งรวมทั้งสะพานลอยและระบบถนนภายในด้วย

หนังสือพิมพ์ฉบับนี้กล่าวว่าโครงการปรับปรุงขยายท่าอากาศยานนานาชาติกรุงฮานอยมีมูลค่าราว 35 ล้านดอลลาร์ มีกำหนดให้แล้วเสร็จและเปิดใช้ในเดือน ต.ค.2553 ในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบปีที่ 1,000 การสถาปนานครทางลอง (Thang Long) ซึ่งก็คือ ที่ตั้งเมืองหลวงของเวียดนามในปัจจุบัน
<CENTER><FONT color=#FF0000> ด้านหน้าของอาคารผู้โดยเพียงหลังเดียวที่สนามบินโนยบ่าย (Noi Bai) กรุงฮานอย สื่อของเวียดนามกล่าวว่าเป็น นานาชาติ แต่เพียงชื่อ ปัจจุบันยังเป็นเพียงสนามบินเล็ก เป็นที่ตั้งของฐานทัพอากาศขยายไม่ได้ แต่กำลังจะมีอาคารผู้โดยสารสูง 4 ชั้นอีก 1 หลัง ใน 3 ปีข้างหน้า </FONT></CENTER>
สำหรับโครงการก่อสร้างท่าอากาศยานลองแถ่งนั้น นายกรัฐมนตรีเติ๋นยวุ๋งกล่าวว่ารัฐบาลจะเข้าถือหุ้น 70% ส่วนที่เหลือจะเปิดให้นักลงทุนเอกชนหรือสถาบันและทุนประเภทอื่นๆ เข้าถือครอง เพื่อระดมทุนในการก่อสร้าง

ธนาคารเพื่อการพัฒนาและการลงทุนเวียดนาม หรือ BIDV (Bank of Investment and Development of Viet Nam) ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการจัดเงินกู้รวม (Syndicate loan) ให้แก่ท่าอากาศยานแห่งใหม่ และ ติดตามความคืบหน้าในเรื่องเงินทุนสำหรับการก่อสร้างในระยะแรก เวียดนามนิวส์กล่าว

รัฐบาลเวียดนามได้กำชับให้ทางการ จ.ด่งนาย เร่งดำเนินการเรื่องที่ดิน รวมทั้งการเวนคืนและจ่ายเงินชดเชยให้แก่ราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างด้วย

ท่าอากาศยานลองแถ่งจะมีพื้นที่ทั้งหมด 5,000 เฮกตาร์ (31,250 ไร่) ในเขต อ.ลองแถ่ง จ.ด่งนาย ซึ่งอยู่ห่างจากนครโฮจิมินห์ไปทางทิศตะวันออก 30 กิโลเมตรเศษ

นับเป็นความคืบหน้าครั้งสำคัญนับตั้งแต่ปี 2548 ที่ผ่านมามีการเปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินการเกี่ยวกับการก่อสร้างน้อยมาก
<CENTER><FONT color=#FF0000> ด้านหน้าของอาคารผู้โดยเพียงหลังเดียวที่สนามบินโนยบ่าย (Noi Bai) กรุงฮานอย สื่อของเวียดนามกล่าวว่าเป็น นานาชาติ แต่เพียงชื่อ ปัจจุบันยังเป็นเพียงสนามบินเล็ก เป็นที่ตั้งของฐานทัพอากาศขยายไม่ได้ แต่กำลังจะมีอาคารผู้โดยสารสูง 4 ชั้นอีก 1 หลัง ใน 3 ปีข้างหน้า > </FONT></CENTER>
อย่างไรก็ตามเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จในอีก 5-6 ปีข้างหน้าลองแถ่งจะเป็นท่าอากาศยานขนาดใหญ่อีกแห่งหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกอบด้วย 4 ทางวิ่งขึ้นลงของเครื่องบินหรือรันเวย์ ความยาวช่องทางละ 4,000 เมตร กว้าง 60 เมตร ตามมาตรฐานการบินระหว่างประเทศ เพื่อรองรับเครื่องบินโดยสารขนาดใหญ่ทุกรุ่น

ทางการเวียดนามได้ประกาศชัดที่จะให้ท่าอากาศยานแห่งนี้ชิงความเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาค กับท่าอากาศยานในประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งท่าอากาศยานสุวรรณภูมิของไทยด้วย

เวียดนามได้เล็งเห็นความจำเป็นที่จะต้องมีท่าอากาศยานแห่งใหม่เป็นศูนย์กลางการบินและการขนส่งทางอากาศในภาคใต้ของประเทศ ทดแทนท่าอากาศยานเติ่นเซินเญิต (Tan Son Nhat) ในโฮจิมินห์ซึ่งได้ผ่านการพัฒนายกระดับมาหลายครั้ง และไม่สามารถขยับขยายต่อไปได้อีก

เติ่นเซินเญิตใช้มานานเกือบครึ่งศตวรรษ ตั้งอยู่ห่างจากใจกลางนครโฮจิมินห์เพียง 8 กม.เท่านั้น และกำลังถูกกลืนพื้นที่เนื่องจากการพัฒนาเขตเมืองได้ขยายออกไปอย่างรอบด้าน สำหรับนครใหญ่ที่มีประชากรอาศัยอยู่ประจำ 8 ล้านคน

เหตุผลในเบื้องต้นที่ต้องเลือกทำเลที่ลองแถ่ง (หรือ “ลองถั่น”) เนื่องจากอาณาบริเวณดังกล่าว มีการวางรากฐานเอาไว้อย่างดี เคยเป็นฐานทัพขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ ในครั้งสงครามเวียดนาม ถูกใช้เป็นฐานของเครื่องบินโจมตีทิ้งระเบิดยุทธศาสตร์แบบบี 52

แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ได้มีการถกเถียงเกี่ยวกับความเหมาะสมของสนามบินราคาแพงนี้มานานกว่า 10 ปี ซึ่งทำให้มูลค่าการก่อสร้างสูงขึ้นไปด้วยตามความล่าช้า จากเดิมเมื่อปี 2548 ที่คาดว่าจะใช้เงินลงทุนราว 6,000 ดอลลาร์
<CENTER><FONT color=#FF0000> บริเวณเค้าน์เตอร์เช็คอินผู้โดยสารภายในอาคาร มีพื้นที่เท่าๆ กับท่าอากาศยานในประเทศที่สนามบินดอนเมืองของไทยเท่านั้น เวียดนามกำลังพิจารณาสร้างสนามบินใหญ่อีก 1 แห่งในภาคเหนือเพื่อใช้แทนโนยบ่าย </FONT></CENTER>
ตามรายงานก่อนหน้านี้ สนามบินนานาชาติลองแถ่งออกแบบให้รองรับผู้โดยสารได้ปีละ 80-100 ล้านคน ขนสินค้าอีก 5-10 ล้านตันรัฐบาลได้อนุมัติแผนแม่บทการก่อสร้างในเดือน ก.ค.2548 องค์การบริหารการบินเวียดนามได้ใช้เวลาในการศึกษาความเป็นไปได้ เป็นเวลา 1 ปีกับ 6 เดือน จนกระทั่งแล้วเสร็จในสิ้นปี 2549

ยังไม่มีคำอธิบายเกี่ยวกับความล่าช้าที่เกิดขึ้นเป็นเวลาสองปีเต็ม

โครงการสนามบินลองแถ่งยังมีขึ้นเพื่อรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมการบินในประเทศ ซึ่งจำเป็นจะต้องมีลานสำหรับจอดเครื่องบินมากพอ

อีกไม่กี่ปีข้างหน้าเวียดนามแอร์ไลน์สายการบินแห่งชาติจะมีเครื่องบินเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 100 ลำหรือกว่า 1 เท่าตัวจากที่มีอยู่ในปัจจุบันสายการบินเจ็ทสตาร์แปซิฟิก (JetStar Pacific) จะมีเครื่องบิน 30 ลำในปี 2557

สองปีมานี้มีสายการบินของเอกชนที่ได้รับอนุญาตให้ก่อตั้งขึ้นจำนวน 3 แห่ง และคาดว่าอีกหนึ่งหรือสองแห่งจะได้รับใบอนุญาตในปีหน้า ทั้งหมดจะต้องมีที่จอดเครื่องบิน.
กำลังโหลดความคิดเห็น