ผู้จัดการออนไลน์-- -- ทีมช่วยเหลือด้านสาธารณสุขในพม่ารายงานพบการเกิดเชื้อโรคอหิวาตกโลกในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากพายุไซโคลน ขณะที่เด็กๆ กว่า 20% ป่วยด้วยโรคท้องร่วง องค์กรบรรเทาภัยพิบัติมีความต้องการยารักษาโรคเป็นอย่างมากในขณะนี้เพื่อนำไปรักษาผู้ประสบเคราะห์จากเหตุการณ์พายุนาร์กิสพัดถล่มกว่า 2 ล้านคน
เหยื่อพายุดังกล่าวกำลังเผชิญกับความเสี่ยงในการติดเชื้อโรคเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากยังคงมีซากศพเน่าเปื่อยอยู่ในพื้นที่ต่างๆ โดยไม่ได้รับการจัดการอย่างเร่งด่วนและถูกต้อง รวมทั้งประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากพายุครั้งนี้ต่างอยู่อาศัยกันอย่างเบียดเสียดในที่พักชั่วคราวที่ถูกจัดไว้ให้
"เราได้รับการยืนยันถึงการพบโรคอหิวาฯ ในพื้นที่ดังกล่าว" นางมอรีน เบอร์มิงแฮม (Maureen Birmingham) ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย กล่าว
"มีพื้นที่ที่มักจะพบโรคอหิวา...แต่ยังไม่พบการแพร่เชื้อในช่วงก่อนเกิดพายุ"
"กำลังมีการติดตามและจับตาดูโรคดังกล่าวอย่างใกล้ชิด...สภาพในขณะนี้นับว่ามีความเสี่ยงสูงมาก" ผู้แทนคนเดียวกันกล่าวเพิ่มเติม
นางเบอร์มิงแฮมกล่าวกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า ในขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากโรคอหิวาฯ แต่ผู้ป่วยจะต้องได้รับการรักษาโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
จากรายงานล่าสุดจากสำนักงานประสานงานกิจการมนุษยธรรมสหประชาชาติ หรือ OCHA (UN Office for Humanitarian Affairs) กล่าวว่า เด็กๆ ประมาณ 20% ในบริเวณที่ราบปากแม่น้ำ มีอาการป่วยจากโรคท้องร่วงที่เกิดหลังจากที่ถูกพายุถล่มเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
สื่อของทางการพม่ารายงานว่า มีจำนวนผู้เสียชีวิตหรือสูญหายมากกว่า 71,000 ราย ขณะที่องค์การสหประชาชาติกล่าวว่า ประชาชนกว่า 2.5 ล้านคนกำลังต้องการอาหาร ที่พักและยารักษาโรคอย่างเร่งด่วน
"เรายังคงไม่มีอาหาร น้ำสะอาด ที่พัก รวมทั้งการรักษาดูแลที่เพียงพอ" นางอามันดา พิตต์ (Amanda Pitt) โฆษก OCHA กล่าว.