xs
xsm
sm
md
lg

เชฟรอน หนุนสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่มศักยภาพแข่งขันไทยที่ยั่งยืน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ร่วมกับ 8 องค์กรพันธมิตร ได้แก่ สํานักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และสถาบันคีนันแห่งเอเซีย เปิดตัวโครงการ “Enjoy Science: สนุกวิทย์ พลังคิด เพื่ออนาคต”
พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงโครงการ “Enjoy Science: สนุกวิทย์ พลังคิด เพื่ออนาคต” โดยองค์กรพันธมิตรทั้ง 9 องค์กร
“โครงการนี้ถือว่าสอดคล้องกับนโยบาย “รัฐร่วมเอกชน” โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาและส่งเสริมศักยภาพทางการแข่งขันของประเทศอย่างยั่งยืน ด้วยการพัฒนาการศึกษาในสาขาวิทยาศาสตร์ (Science) เทคโนโลยี (Technology) วิศวกรรม (Engineering) และคณิตศาสตร์ (Math) หรือ STEM ทั้งในระบบการศึกษาสายสามัญและการศึกษาสายอาชีพ ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ เป็นระยะเวลา 5 ปี ด้วยงบประมาณรวมกว่า 900 ล้านบาท” ไพโรจน์ กวียานันท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด กล่าว
บริษัทฯ ตระหนักถึงความสำคัญของการศึกษาที่จะเป็นรากฐานของการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 4 สาขาดังกล่าว จะเป็นพื้นฐานที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ สอดรับกับการเตรียมพร้อมเพื่อเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจแบบดิจิตัลอย่างเต็มรูปแบบ จึงเป็นที่มาของโครงการ “Enjoy Science: สนุกวิทย์ พลังคิด เพื่ออนาคต” ที่มุ่งยกระดับการเรียนการสอนด้าน STEM ตลอดทั้งระบบ ด้วยการสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและองค์กรภาคสังคมและภาคการศึกษาต่างๆ โดยการศึกษาสายสามัญ เราเริ่มจากการพัฒนาผู้สอนและหลักสูตรในวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ในระดับชั้นมัธยมต้นให้มีทักษะการสอนแบบตั้งคำถามและการลงมือปฏิบัติ เพื่อให้เยาวชนเห็นว่าวิชาเหล่านี้เป็นเรื่องสนุกและใกล้ตัว อีกทั้งส่งเสริมทักษะการเป็นผู้เรียนแห่งศตวรรษที่ 21 ที่รู้จักคิด วิเคราะห์ ตั้งคำถาม และกล้าแสดงออก
นอกจากนั้น โครงการฯ จะยังดำเนินงานอย่างเข้มข้นในการเรียนการสอนสายอาชีพควบคู่ไปด้วย เพื่อพัฒนาบุคลากรที่สามารถตอบสนองต่อการพัฒนาของประเทศในระยะยาวในอุตสาหกรรมสำคัญต่างๆ ให้มีทักษะที่ตรงกับความต้องการของภาคเอกชน ด้วยการพัฒนาหลักสูตรร่วมกันและสานความร่วมมือแบบ รัฐร่วมเอกชน เพื่อให้เยาวชนและครูผู้สอนได้รับความรู้และประสบการณ์จริงที่ตรงกับสายงานที่ภาคเอกชนต้องการ ซึ่งจะช่วยลดอัตราการว่างงาน เพิ่มรายได้ และในขณะเดียวกันก็ลดการขาดแคลนแรงงานฝีมือในภาคอุตสาหกรรมอีกทางหนึ่ง นอกจากนั้นเราจะยังมีกิจกรรมต่างๆ อีกมากมายที่จะช่วยเสริมความรู้ สร้างแรงบันดาลใจ ให้กับทั้งผู้เรียนและผู้สอน ไม่ว่าจะเป็นการจัดค่าย การประกวด การประชุมสัมนา หรือการจัดงานมหกรรม”
ดร. พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวถึงนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการเสริมสร้างสังคมนวัตกรรม ส่งเสริมระบบการเรียนการสอน โดยเฉพาะในสาขา STEM และส่งเสริมการผลิตกำลังคนในสาขาที่ขาดแคลน ว่า กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ โดย สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) มีภารกิจด้านการวางนโยบายทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ตอบรับต่อทิศทางการพัฒนาของประเทศ การพัฒนากำลังคนที่ตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรม ถือเป็นสิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญในลำดับต้นๆ
นอกจากนี้ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และ พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) ยังมีพันธกิจโดยตรงในการสร้างความตระหนักและการรับรู้ด้านวิทยาศาสตร์แก่สาธารณะ ซึ่งเป็นเป้าหมายที่สอดรับกับหน่วยงานหลักทั้งสามของกระทรวงฯ ในการขับเคลื่อนความร่วมมือรัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาทักษะกำลังคนให้สนองกัความต้องการของภาคอุตสาหกรรมที่ใช้พื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อันจะนำมาสู่การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันตามยุทธศาสตร์ของประเทศ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มการรับรู้ในสังคมด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแบบบูรณาการ
“เชฟรอนกับสวทช.ได้ทำงานร่วมกันมาตั้งแต่ปี 2557 ในการสนับสนุนเยาวชนไทยให้ไปร่วมเข้าค่ายอวกาศระดับนานาชาติ และในปีนี้เราได้ร่วมกันจัดโครงการ “Enjoy Science: Let’s Print the World” ที่เป็นการจัดการประกวดไอเดียผลงาน 3D printing ครั้งแรกของประเทศไทย เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เราคาดว่าจะช่วยเป็นแรงผลักดันให้เด็กรุ่นใหม่หันมาสนใจงานด้านวิทยาศาสตร์เพิ่มขึ้น”
นพ. ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวเสริมว่า “การปฏิรูปการศึกษาไทยจะสำเร็จได้ต้องเกิดจากการเปลี่ยนแปลงวิธีการสอนในห้องเรียนที่ช่วยให้เด็กไทยได้คิดวิเคราะห์เป็น ทั้งนี้ จุดแรกที่ต้องปรับคือครู หากเราสามารถทำให้ครูเรียนรู้แนวคิดหลักให้เข้าใจอย่างถ่องแท้และปรับวิธีการจัดการเรียนรู้เพื่อให้เด็กได้คิดเป็น สื่อสารเป็น แก้ปํญหาได้ มีความคิดสร้างสรรค์ รู้จักรับผิดชอบ และมีแรงบันดาลใจในการเรียนเพื่อสร้างความก้าวหน้าทางอาชีพได้ โครงการ “Enjoy Science: สนุกวิทย์ พลังคิด เพื่ออนาคต” ถือว่าเป็นโครงการที่จะเข้ามาสนับสนุนการทำงานของ ทั้ง สพฐ.และสอศ. เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาด้าน STEM ให้โรงเรียนในสังกัดทั้ง สพฐ.และ สอศ.กว่า 660 แห่งที่ขาดโอกาสทั่วประเทศ การเชื่อมโยงพันธกิจด้านการผลิตครูและพัฒนาครูประจำการกับมหาวิทยาลัยในท้องถิ่นจะช่วยพัฒนาให้การศึกษาไทยเกิดความยั่งยืนไม่สิ้นสุด”
แรงงานไทยด้านวิทย์ เทคโนโลยี จะต้องเร่งพัฒนาทักษะ
หม่อมหลวงปุณฑริก สมิติ อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวว่า “นโยบายการพัฒนาแรงงานด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี เป็นเรื่องลำดับต้นๆ ที่เราให้ความสนใจ ปัจจุบัน ขีดความสามารถของแรงงานในด้านนี้ยังมีจำกัด จึงมีผลต่อการพัฒนาของทั้งภาครัฐและเอกชน ดังนั้น เราจึงต้องเร่งดำเนินการ โดยเริ่มจากการพัฒนาคนซึ่งเราก็ต้องการการสนับสนุนจากหน่วยงานภาคเอกชนเพื่อพัฒนามาตรฐานสมรรถนะกำลังคนให้มีความเป็นสากล เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ ช่วยยกระดับทักษะฝีมือของกำลังคนให้ตอบรับต่อความต้องการของภาคอุตสกรรมในการนำเทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มผลิตภาพในการทำงาน และ เพื่อรองรับการเคลื่อนย้ายแรงงานอย่างเสรีเมื่อมีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
“Enjoy Science : สนุกวิทย์ พลังคิด เพื่ออนาคต” ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการที่จะช่วยสานต่อความริเริ่มของกรมพัฒนาฝีมือแรงงานที่ได้จัดตั้งสถาบันพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนอะไหล่ยานยนต์ ณ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานภาค 1 สมุทรปราการ โดยความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย เพื่อมาผนึกความร่วมมือในการพัฒนาเยาวชนในสถานศึกษาให้เป็นกำลังคนที่เป็นตัวป้อนที่มีคุณภาพสู่สถานประกอบการ
ขณะที่ ปิยะบุตร ชลวิจารณ์ ประธานอำนวยการ สถาบันคีนันแห่งเอเซีย กล่าวว่า แม้ว่าตลอดระยะเวลา 50 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยได้พัฒนาและมีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว แต่ภาคเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมยังคงเผชิญกับภาวะการขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและวิศวกรรมศาสตร์อย่างต่อเนื่อง พื้นฐานทางด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ เป็นรากฐานที่สำคัญของประเทศ เราควรทำให้เด็กสนใจจนเกิดแรงบันดาลใจในการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ตั้งแต่ยังเล็ก เมื่อเด็กมีพื้นฐานและคุ้นเคยกับการใช้เทคโนโลยีในการเรียนรู้ ก็จะสามารถนำสิ่งที่เรียนรู้มาไปใช้ประโยชน์ได้ทั้งในชีวิตประจำวัน และการประกอบอาชีพในอนาคต
กำลังโหลดความคิดเห็น