ผลไม้ ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่มีประโยชน์สำหรับร่างกายของเรา เพราะนอกจากจะทำให้เกิดรสชาติในยามรับประทานแล้ว ยังได้สร้างคุณประโยชน์ในแง่ของหลักโภชนาการต่างๆ ที่เข้าไปช่วยเสริมให้กับร่างกาย และหากทานดีๆ ก็สามารถที่จะช่วยลดความอ้วนได้อีกด้วย
แต่ก็มีบางชนิด ที่จะเป็นข้อยกเว้นในการลดน้ำหนัก เพราะนอกจากจะไม่ช่วยให้เป็นประโยชน์อันใดแล้ว หากรับประทานเข้าไปในจำนวนมาก ปริมาณน้ำตาลที่ได้รีบสิ่งที่เรียกว่าผลไม้นั้น “จะสะสมให้กลายเป็นความอ้วนในตอนท้าย” และนี่คือผลไม้ที่ควรหลีกห่างไปให้ไกลในยามคงคุมน้ำหนัก...
ลำไย
ถึงแม้ว่าจะมีสรรพคุณมากมาย ทั้ง นำมาตากแห้งแล้วสามารถทำเป็นชาชงดื่ม เป็นยาบำรุงกำลังช่วยให้หลับสบายเจริญอาหารได้ แต่ถ้าหากรับประทานมากเกินไป ก็อาจจะเกิดอาการร้อนใน แผลในปาก และตาแฉะได้ แถมในเนื้อลำไยยังมีปริมาณน้ำตาลที่ถือว่าสูงเลยทีเดียว
ทุเรียน
ด้วยทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลที่สูง วิตามินซี โพแทสเซียม และกรดอะมิโนซีโรโทเนอร์จิก ทริปโตเฟ่น แถมทุเรียนยังเป็นแหล่งของคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และ ไขมัน เป็นอย่างดี เปรียบง่ายๆ คือ เราสามารถทานทุเรียนแทนข้าวได้เลย จึงแทบไม่ต้องคิดเลยว่า เหตุใดจึงมีการรณรงค์ให้ทานทุเรียนน้อยๆ แต่พองาม ในปัจจุบัน
ละมุด
ละมุด ถือได้ว่าเป็นผลไม้ที่มีปริมาณน้ำตาลที่ค่อนข้างพอเหมาะพอควรในตัวผล แต่รสชาติของมันก็อาจจะเรียกได้ว่า ‘หวานจัด’ อยู่ไม่ใช่น้อย ซึ่งหากรับประทานเข้าไปมากๆ ก็อาจจะทำให้ความอ้วนกวักเข้าตัว แถมผลไม้ชนิดนี้ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน และ เด็กไม่ควรรับประทานตามลำพังอย่างยิ่งยวด
เงาะ
ผลไม้รูปทรงเฉพาะตัวชนิดนี้ นอกจากจะให้ความอร่อยด้วยความหวานอมเปรี้ยวแล้ว ยังสามารถช่วยอาการท้องร่วงอย่างรุนแรงได้อีกด้วย แต่ถ้าจะมาลดความอ้วนแล้ว เลิกคิดได้เลย และยิ่งหากรับประทานในปริมาณที่มากด้วยแล้ว น้ำตาลในเงาะก็สะสมมากเป็นทวีคูณด้วยเช่นกัน
ลางสาด - ลองกอง
สองพี่น้องผลไม้ร่วมสายพันธุ์นี้ มีคุณประโยชน์ตรงที่ สามารถให้ความหวานอร่อยในเวลารับประทานเท่านั้น แต่หากจริงจังที่จะกินเพื่อลดน้ำหนักแล้ว ขอแนะนำว่าไม่ควรอย่างยิ่ง เพราะในหนึ่งผล มีให้ค่าพลังงานสูงถึง 67 กิโลแคลอรี่ ซึ่งถ้ารับประทานในจำนวนปริมาณที่มากแล้ว ไม่ต้องคิดให้เสียเวลาเลยว่า “อ้วนแน่นอน”
มะม่วงสุก
ถือว่าเป็นผลไม้ยอดฮิตในช่วงฤดูกาลของมันจริงๆ เพราะมีความหวานเป็นตัวชูโรงและจุดขาย แต่หากรับประทานมากไปในปริมาณที่พอเหมาะ ก็อาจจะกลายเป็นหายนะของการกินเป็นได้ เพราะสามารถให้พลังงานสูงถึง 65-80 กิโลแคลอรี่ เลยทีเดียว ฉะนั้นแล้ว ควรรับประทานให้พอดี พอดี ดีกว่า
ขนุน
เพราะด้วยความสามารถพิเศษตรงที่ นำไปประยุกต์กับขนมต่างๆ ทั้ง ใส่ในไอศกรีม ลอดช่องสิงคโปร์ รวมมิตร หรือ นำไปทานเป็นของว่าง นี่เอง จึงทำให้ ค่าความหวานและน้ำตาลในผลของขนุนนั้น ก็สูงขึ้นตามไปด้วย กล่าวคือ ขนุน 2 ยวง ให้ค่าพลังงาน สูงถึง 60 กิโลแคลอรี่เลยทีเดียว
แต่ก็มีบางชนิด ที่จะเป็นข้อยกเว้นในการลดน้ำหนัก เพราะนอกจากจะไม่ช่วยให้เป็นประโยชน์อันใดแล้ว หากรับประทานเข้าไปในจำนวนมาก ปริมาณน้ำตาลที่ได้รีบสิ่งที่เรียกว่าผลไม้นั้น “จะสะสมให้กลายเป็นความอ้วนในตอนท้าย” และนี่คือผลไม้ที่ควรหลีกห่างไปให้ไกลในยามคงคุมน้ำหนัก...
ลำไย
ถึงแม้ว่าจะมีสรรพคุณมากมาย ทั้ง นำมาตากแห้งแล้วสามารถทำเป็นชาชงดื่ม เป็นยาบำรุงกำลังช่วยให้หลับสบายเจริญอาหารได้ แต่ถ้าหากรับประทานมากเกินไป ก็อาจจะเกิดอาการร้อนใน แผลในปาก และตาแฉะได้ แถมในเนื้อลำไยยังมีปริมาณน้ำตาลที่ถือว่าสูงเลยทีเดียว
ทุเรียน
ด้วยทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลที่สูง วิตามินซี โพแทสเซียม และกรดอะมิโนซีโรโทเนอร์จิก ทริปโตเฟ่น แถมทุเรียนยังเป็นแหล่งของคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และ ไขมัน เป็นอย่างดี เปรียบง่ายๆ คือ เราสามารถทานทุเรียนแทนข้าวได้เลย จึงแทบไม่ต้องคิดเลยว่า เหตุใดจึงมีการรณรงค์ให้ทานทุเรียนน้อยๆ แต่พองาม ในปัจจุบัน
ละมุด
ละมุด ถือได้ว่าเป็นผลไม้ที่มีปริมาณน้ำตาลที่ค่อนข้างพอเหมาะพอควรในตัวผล แต่รสชาติของมันก็อาจจะเรียกได้ว่า ‘หวานจัด’ อยู่ไม่ใช่น้อย ซึ่งหากรับประทานเข้าไปมากๆ ก็อาจจะทำให้ความอ้วนกวักเข้าตัว แถมผลไม้ชนิดนี้ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน และ เด็กไม่ควรรับประทานตามลำพังอย่างยิ่งยวด
เงาะ
ผลไม้รูปทรงเฉพาะตัวชนิดนี้ นอกจากจะให้ความอร่อยด้วยความหวานอมเปรี้ยวแล้ว ยังสามารถช่วยอาการท้องร่วงอย่างรุนแรงได้อีกด้วย แต่ถ้าจะมาลดความอ้วนแล้ว เลิกคิดได้เลย และยิ่งหากรับประทานในปริมาณที่มากด้วยแล้ว น้ำตาลในเงาะก็สะสมมากเป็นทวีคูณด้วยเช่นกัน
ลางสาด - ลองกอง
สองพี่น้องผลไม้ร่วมสายพันธุ์นี้ มีคุณประโยชน์ตรงที่ สามารถให้ความหวานอร่อยในเวลารับประทานเท่านั้น แต่หากจริงจังที่จะกินเพื่อลดน้ำหนักแล้ว ขอแนะนำว่าไม่ควรอย่างยิ่ง เพราะในหนึ่งผล มีให้ค่าพลังงานสูงถึง 67 กิโลแคลอรี่ ซึ่งถ้ารับประทานในจำนวนปริมาณที่มากแล้ว ไม่ต้องคิดให้เสียเวลาเลยว่า “อ้วนแน่นอน”
มะม่วงสุก
ถือว่าเป็นผลไม้ยอดฮิตในช่วงฤดูกาลของมันจริงๆ เพราะมีความหวานเป็นตัวชูโรงและจุดขาย แต่หากรับประทานมากไปในปริมาณที่พอเหมาะ ก็อาจจะกลายเป็นหายนะของการกินเป็นได้ เพราะสามารถให้พลังงานสูงถึง 65-80 กิโลแคลอรี่ เลยทีเดียว ฉะนั้นแล้ว ควรรับประทานให้พอดี พอดี ดีกว่า
ขนุน
เพราะด้วยความสามารถพิเศษตรงที่ นำไปประยุกต์กับขนมต่างๆ ทั้ง ใส่ในไอศกรีม ลอดช่องสิงคโปร์ รวมมิตร หรือ นำไปทานเป็นของว่าง นี่เอง จึงทำให้ ค่าความหวานและน้ำตาลในผลของขนุนนั้น ก็สูงขึ้นตามไปด้วย กล่าวคือ ขนุน 2 ยวง ให้ค่าพลังงาน สูงถึง 60 กิโลแคลอรี่เลยทีเดียว