xs
xsm
sm
md
lg

37 อาหารสุขภาพ ที่ควรทานเป็นประจำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“อาหารดีก็เหมือนยาวิเศษ”

การรับประทานอาหารที่เหมาะสมและมีประโยชน์นั้น เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้มีสุขภาพดี และอาหารที่เราจะพูดถึงต่อไปนี้นอกจากจะหารับประทานได้ง่ายแล้วยังมีคุณค่าทางโภชนาการสูงอีกด้วย เอาเป็นว่าก่อนที่จะเริ่มต้นมื้ออาหารลองนำสิ่งเหล่านี้ไปประกอบ เสริม เพิ่มเติมลงไปในอาหารจานโปรดของคุณดู เพียงเท่านี้คุณก็จะได้สัมผัสกับสุขภาพที่ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน 

1.แอปเปิ้ล  ผลไม้ที่มีหลากหลายพันธุ์ หาได้ง่ายมากตามท้องตลาด เต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและเส้นใย

2.บลูเบอร์รี่  อาจจะดูเป็นผลไม้ที่มีขนาดเล็ก แต่บลูเบอร์รี่มีหมัดเด็ด เพราะในบลูเบอร์รี่มีโพแทสเซียม วิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระที่ทำให้รับประทานไปแล้วมีสุขภาพดี อีกทั้งยังสามารถลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ,โรคมะเร็งและการอักเสบต่างๆ ได้

3.แอปริค็อต  ผลไม้สีเหลืองอมส้ม มีรสหวานอมเปรี้ยว มีสารอาหารมากมาย อุดมไปด้วยเส้นใย, ธาตุเหล็ก และทองแดง แอปริคอตมีคุณค่ามากทางด้านโภชนาการ และยังสามารถรักษาโรคผิวหนังบางได้อีกด้วย

4.กล้วย  ให้พลังงานเพียง 110 แคลอรี่ เท่านั้น และกล้วยเป็นอาหารทรงคุณค่าชนิดหนึ่งที่ให้โพแทสเซียมและวิตามิน B6 ค่อนข้างสูง

5. มะม่วง การรับประทานมะม่วงสามารถช่วยให้บำรุงสายตา, บำรุงผิวพรรณ, บำรุงสมอง, ช่วยระบบการย่อยอาหารและมะม่วงคือหนึ่งตัวช่วยเด็ดในเรื่องของเซ็กส์

6.ทับทิม  สัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์และสุขภาพ ทับทิมเป็นผลไม้รสชาติดี ที่มีสารต้านการอักเสบและต้านอนุมูลอิสระ นอกจากนี้ยังสามารถช่วยเผาผลาญไขมันได้อีกด้วย

7.ส้ม  การรับประทานส้มสามารถช่วยเรื่องโรคข้ออักเสบ ป้องกันนิ่วในไตและทำให้ได้รับแคลเซียมอย่างเพียงพอ ทั้งนี้ยังทำให้สุขภาพกระดูกและฟันแข็งแรงอีกด้วย


8.อาร์ติโช้ค เป็นพืชที่นิยมปลูกในต่างประเทศ แต่ปัจจุบันหาทานได้ง่ายเพราะเป็นผักเมืองหนาวในโครงการหลวง อาร์ติโช็คมีแคลอรี่ต่ำ อุดมไปด้วยไฟเบอร์, วิตามิน C , วิตามิน K, โฟเลต, แมกนีเซียมและโพแทสเซียม อาติโช๊คยังสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลาย เช่น นำมาต้มจิ้มน้ำพริก, ผัดอาร์ติโช้ค , พายอาร์ติโช็ค ฯลฯ เป็นต้น

9.บีทรูท  เต็มไปด้วยเส้นใย, โพแทสเซียม และโฟเลต ไม่มีไขมันอิ่มตัวและคลอเลสเตอรอล นักวิจัยเชื่อว่าเม็ดสีแดงในบีทรูทมีสารเบต้าไซยานิน (betacyanin) สามารถป้องกันเซลล์มะเร็งได้

10.กะหล่ำปลี  มีสารเอสเมธิลเมโธโอนิน สามารถรักษาโรคกะเพาะอาหารและมีสารกอยโตรเจนซึ่งเป็นสาเหตุของโรคคอพอก นอกจากนี้ยังพบว่ามีสารต้านมะเร็งโดยเฉพาะหยุดยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งลำไส้ เพียงแค่ใช้กระหล่ำปลีปรุงอาหาร ง่ายๆ เท่านี้คุณก็จะได้รับเส้นใย, วิตามิน A, วิตามิน C, และ วิตามิน K ไปเต็มๆ แล้ว

11.มะเขือเทศ  มีสารต้านอนุมูลอิสระและสามารถลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและโรคกระดูกพรุนได้ อีกทั้งยังป้องกันและลดอันตรายจากสาร UV ได้อีกด้วย

12.แครอท  เต็มไปด้วยเบต้าแคโรทีนซึ่งมีส่วนช่วยบำรุงสายตาและชะลอริ้วรอยเหี่ยวย่น

13.เห็ด  สามารถช่วยให้เรามีสุขภาพดี ร่างกายฟิต มีความสุขและมีชีวิตที่ยืนยาวได้

14.อะโวคาโด  เต็มไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นกว่า 25 ประการ เช่น วิตามิน A, วิตามมิน B, วิตามิน C, วิตามิน E, วิตามิน K, เส้นใย, โปรตีน ซึ่งมีส่วนช่วยทำให้มีสุขภาพดี

15.บร็อกโคลี่  ก้านบร็อกโคลี่มีส่วนช่วยต่อสู้กับเซลล์มะเร็งได้มากที่สุด นอกจากนี้ยังมีเส้นใยและไฟโตนิวเทรียน (สารเคมีที่มีฤทธิ์ทางชีวภาพที่พบเฉพาะในพืช) สูง

16. ผักคะน้า เต็มไปด้วยวิตามิน A, วิตามิน C และ วิตามิน K, เส้นใย, แคลเซียม

17.กะหล่ำดาว  พืชเมืองหนาวที่จัดอยู่ในตระกูลกะหล่ำ เป็นผักที่มีขนาดเล็กสามารถช่วยเรื่องระบบการย่อยอาหารและลดคอเลสเตอรอล

18.มะเดื่อ  เพียงครึ่งถ้วยก็เพียงพอแล้ว เพราะมะเดื่อมีเส้นใยที่ละลายน้ำและไม่ละลายน้ำอยู่ถึง 7.3g ทั้งนี้มะเดื่อยังเป็นอาหารที่สมบูรณ์แบบเพราะช่วยทำให้อิ่มนานขึ้น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ลดความอ้วนอยู่

19.ผักกวางตุ้ง  จัดอยู่ในผักตระกูลเดียวกับกะหล่ำ มีคุณค่าทางโภชนาการมาก อุดมไปด้วยแคลเซียม โพแทสเซียมและเบต้าแคโรทีน มีส่วนช่วยบำรุงสายตา

20.ฟักทอง  ฟักทองถือได้ว่าเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เป็นแหล่งอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำ มีวิตามินและเส้นใยสูง

21.ผักโขม  เต็มไปด้วยสารอาหาร ผักโขมยังสามารถจับคู่กับอาหารได้หลากหลาย เช่น ผักโขมผัดน้ำมันหอย, แกงจืดผักโขม, ซุปผักโขม, ยำผักโขม หรือถ้าใครชอบอาหารสไตล์อิตาเลียนหน่อยก็ผักโขมอบชีส ผักโขมมีธาตุเหล็กอยู่มากคนที่เลือดน้อยสามารถรับประทานเป็นยาบำรุงเลือดได้

22.กระเทียม  มีฤทธิ์ป้องกันมะเร็งและส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายได้ allicin (สารออกฤทธิ์ในกระเทียม) มีส่วนช่วยลดความดันโลหิตสูง ลดไขมัน ลดอคลอเลสเตอรอล ลดน้ำตาลในเลือด รักษาไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่ ฯลฯ

23.ขิง  ได้รับการขนานนามว่าเป็นพืชที่ได้รับการใช้เพื่อการรักษาความเจ็บป่วยทุกชนิด อาทิ ปวดท้องเล็กน้อย,โรคข้ออักเสบและไมเกรน

24.น้ำมันมะกอก ด้รับการพิสูจน์ว่าสามารถ ลดคลอเลสเตอรอลชนิดร้าย (LDL) และเพิ่มคลอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) ได้ ซึ่ง LDL เป็นตัวทำลายก่อให้เกิดหลอดเลือดอุดตัน ซึ่งถ้าในร่างกายมี HDL มากจะทำให้หลอดเลือดตีบช้าลง และน้ำมันมะกอกยังสามารถต้านการอักเสบ, ต้านอนุมูลอิสระ และต่อต้านเชื้อจุลินทรีย์ได้อีกด้วย

25.ดาร์กช็อคโกแลต  ต็มไปด้วยสาร flavanols ซึ่งเป็นชนิดของสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดการอักเสบ, ช่วยลดน้ำตาลในเลือดและเพิ่มระดับคลอเลสเตอรอลทั้งบวกและลบ แต่คุณต้องแน่ใจว่าช้อกโกแลตที่คุณกินเป็นดาร์กช็อกโกแลตจริงๆ ไม่ใช่ช็อกโกแลตผสมนมและน้ำตาลเพราะมันจะยิ่งทำให้เกิดโทษตามมาได้

26.ถั่ว
  อาหารต้นทุนต่ำแต่แฝงไปด้วยโปรตีน ใยอาหารสูง อีกทั้งยังมีไขมันต่ำ


27.ปลาซาร์ดีน  คนส่วนใหญ่อาจจะไม่ค่อยนำปลาซาร์ดีนมาปรุงอาหารแต่รู้หรือไม่ว่าปลาซาร์ดีนสามารถช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งได้ อีกทั้งยังทำให้กระดูกแข็งแรงและทำหน้าที่ต้านการอักเสบได้ดีอีกด้วย

28.กาแฟ
  หลายคนบอกว่ากาแฟให้โทษแต่ประโยชน์ของกาแฟนั้นก็มีอยู่มากเช่นเดียวกัน เพราะกาแฟสามารถทำให้ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ, โรคสมองเสื่อม และโรคมะเร็งผิวหนัง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นควรดื่มไม่เกินวันละ 2 แก้ว ซึ่งกาแฟดำจะให้ประโยชน์มากกว่ากาแฟที่เต็มไปด้วยครีมเทียม, นมข้น และน้ำตาล


29.น้ำผึ้ง  มีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียที่ช่วยป้องกันไวรัสแบคทีเรีย

30.ข้าวโอ๊ต  เป็นอาหารที่ไม่ละลายน้ำและมีเส้นใยสูงอย่างยิ่ง เป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่ดี ช่วยเรื่องระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ

31.หอยนางรม  เป็นอาหารที่ให้พลังงานสูงและเป็นแหล่งโปรตีนที่ดีสำหรับผู้ที่ขาดโปรตีน

32.ข้าวกล้อง  อาหารเส้นใยสูงมีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำกว่าข้าวขาว จึงไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้น

33. ถั่วแระญี่ปุ่น ประกอบไปด้วยกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย มีวิตามินและแร่ธาตุจำนวนมาก อาทิ ไขมันไม่อิ่มตัว,โปรตีน, เส้นใย, แคลเซียม, ทองแดง, โฟเลต, เหล็ก, แมกนีเซียม, แมงกานีส, ฟอสฟอรัส, วิตามินบี, วิตามินซี ทำให้ร่างกายมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดี

34.ปลาแซลมอน  อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 กรดไขมันเช่นเดียวกับโปรตีนซีลีเนียมและวิตามินดี หากคุณมีปัญหาเรื่องหัวใจหรือการเผาผลาญแล้วล่ะปลาแซลมอนสามารถช่วยได้

35.ชา มีคาเฟอีนน้อยกว่ากาแฟ ช่วยไม่ทำให้เกิดโรคมะเร็งโรคหัวใจและหลอดเลือดแดงอุดตัน

36.ไก่งวง อาหารที่ชาวคริสต์นิยมรับประทานในวันขอบคุณพระเจ้า ไก่งวง มีขนาดใหญ่กว่าไก่ทั่วไป สามารถนำมาปรุงแต่งเป็นอาหารชั้นเยี่ยมได้ นอกจากนี้ไก่งวงยังเป็นแหล่งโปรตีนที่มีไขมันต่ำ อุดมไปด้วยวิตามิน B3 และ B6 ช่วยในเรื่องต่อมไทรอยด์

37.วอลนัต เป็นแหล่งที่ดีของโอเมก้า 3 กรดไขมัน มีคุณค่าทางอาหารสูงมาก ซึ่งวอลนัต 50 กรัม จะให้คุณค่าทางอาหารเทียบเท่ากับนมโค 500 กรัม หรือไข่ไก่ 250 กรัม เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจ
แปลและเรียบเรียงจาก http://inspiyr.com

กำลังโหลดความคิดเห็น