ถึงช่วงเปลี่ยนผ่านจากหน้าร้อนเข้าสู่ช่วงฤดูฝนเป็นที่เรียบร้อย แม้ว่าอากาศจะคลายตัวให้เราชุ่มช่ำกลับมาสามารถพักผ่อนนอนหลับยาวในบ้านหรือห้องหับอย่างสบายตัว ก็ใช่ว่าเราจะชิวๆ ใช้ชีวิตปล่อยผ่านได้ เพราะสิ่งที่กำลังคืบคลานให้ความสุขเหล่านั้นหายไปก็คือ "เชื้อรา" ที่นอกจากจะทำลายบรรยากาศความสุขในบ้าน เชื้อรายังจะทำให้คุณเจ็บไข้ได้ป่วยไม่เป็นอันได้เสพอรรถรสพิรุณเดือน 6 อย่างชุ่มปอดอีกด้วย
เหตุนี้ เราจึงหยิบเอาวิธีดีๆ มาฝากกัน ก่อนจะถูกคุกคามโดยเชื้อราที่ไม่พึงประสงค์
ปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการป้องกันเชื้อราในบ้านคือ "ความชื้น" ดังนั้น เมื่อเกิดความชื้นขึ้นในห้องหรือที่บริเวณใดภายในบ้านต้องรีบเช็ดล้างทำความสะอาดให้แห้ง แล้วดำเนินการแก้ไขจุดที่รั่วหรือซึมในทันที อย่าปล่อยทิ้งไว้ข้ามคืนเพราะจะก่อให้เกิดเชื้อราและการแพร่กระจายของเชื้อรา
พยายามลดความชื้นภายในบ้านให้ต่ำกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ อย่าตากผ้าในบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในครัว ห้องน้ำ เพราะจะเป็นการเพิ่มความชื้นให้กับบ้านและเป็นจุดแพร่กระจายของเชื้อรา ควรติดตั้งเครื่องดูดอากาศระบายอากาศ เปิดหน้าต่างเพื่อให้อากาศถ่ายเทรอบบ้านได้สะดวก
นอกจากนี้บริเวณรอบๆ ของบ้าน เราก็ควรที่จะตรวจสอบไม่ให้เกิดการขังของน้ำหรือวัสดุที่จะก่อให้เกิดเชื้อราและการแพร่กระจายอีกด้วย อาทิ ผ้า กระดาษ เฟอร์นิเจอร์เครื่องไม้ เครื่องหนัง เป็นต้น ซึ่งหากเพียงแค่หมั่นสังเกตใส่ใจทุกรายละเอียดเท่านี้บ้านคุณก็จะปราศจากเชื้อรารบกวนใจ
ทั้งนี้ทั้งนั้นหากกรณีที่เกิดเชื้อราขึ้นแล้วเราก็สามารถกำจัดได้ง่ายๆ โดยถ้าเชื้อราเกิดขึ้นบนฝาผนังหรือวัสดุที่พื้นผิวแข็ง ให้เราใช้แอลกอฮอล์ความเข้มข้น 60-90 เปอร์เซ็นต์หรือน้ำยาฆ่าเชื้อราเช็ดขัดทำความสะอาด ตามจุดต่างๆ ก่อนจะใช้พัดลมหรือเครื่องทำความร้อนช่วยเป่าให้พื้นผิวบริเวณนั้นแห้งสนิท การทำความสะอาดควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำแรงดันสูงฉีด เพราะจะทำให้เชื้อราฟุ้งกระจาย ควรเช็ดไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งวิธีนี้สามารถใช้ได้กับเชื้อราบนเฟอร์นิเจอร์ไม้ รวมไปถึงของใช้ในครัวเรือนจำพวกพลาสติกต่างๆ อีกด้วย
ส่วนเชื้อราที่ขึ้นบนกระดาษ หนังสือ วัสดุที่เป็นเนื้ออ่อน ห้ามใช้น้ำเช็ดความสะอาดเพราะเป็นการเพิ่มความชื้นลงไปอีก ให้ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อราหรือสารฟอร์มาลีนชนิดเจือจางชุดสำลีหรือผ้าพอหมาดๆ ค่อยเช็ดทำความสะอาด ก่อนเป่าให้แห้งสนิท วิธีนี้ยกเว้นในกรณีเนื้อ "ผ้า" "พรม" หรือ "ผ้าม่าน" ให้เราน้ำไปต้มในน้ำร้อนให้เดือด หรือใช้น้ำยาฆ่าเชื้อที่มีส่วนผสมของโซเดียมไฮโปคลอไรท์ (คลอรีน บลีช) แช่ทิ้งไว้ก่อนที่จะเอาไปต้ม จากนั้นดูดน้ำออกให้หมดแล้วน้ำไปตากแดดให้แห้ง ก็จะสามารถกำจัดเชื้อราได้ในระดับหนึ่งแต่ไม่ถึงขนาด 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งทางที่ดีหากเกิดเชื้อราขึ้นบนผ้าชนิดต่างๆ หรือ พรม ควรนำไปทิ้งและเปลี่ยนใหม่จะดีที่สุด
ท้ายที่สุดหากเชื้อราขึ้นข้าวของเครื่องใช้ประเภทเครื่องหนัง ให้เรานำน้ำส้มสายชู 5-7 เปอร์เซ็นต์ชุบผ้าเช็ดทำความสะอาดจนมั่นใจว่าเชื้อราตายหมดแล้ว หากไม่มั่นใจเราจะใช้น้ำยาฆ่าเชื้อรา หรือแอลกอฮอล์ เช็ดทำความสะอาดร่วมอีกด้วยก็ได้ พยายามขัดให้หมดทุกซอกมุมจุดอับก่อนจะลงน้ำยาเคลือบรักษาผิวเครื่องหนังป้องกันการเปียกที่ก่อให้เกิดความชื้น
ข้อควรระวังในการทำความสะอาดเราควร สวมหน้ากากอนามัยชนิด N95 หรือหน้ากากป้องกันเชื้อโรค เพื่อหลีกเลี่ยงการหายใจเอาเชื้อราเข้าสู่ร่างกาย และควรใส่แว่นตาเพื่อป้องกันอุบัติเหตุเชื้อรากระเด็นเข้าตา สวมถุงมือรองเท้ายางชนิดยาว เพื่อป้องกันการสัมผัสของเชื้อราทุกครั้ง และก่อนทำควรเปิดหน้าต่างให้มีอากาศถ่ายเทดีอย่างน้อย 30 นาที
ข้อมูลบางส่วนจาก www.siamhealth.net
เหตุนี้ เราจึงหยิบเอาวิธีดีๆ มาฝากกัน ก่อนจะถูกคุกคามโดยเชื้อราที่ไม่พึงประสงค์
ปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการป้องกันเชื้อราในบ้านคือ "ความชื้น" ดังนั้น เมื่อเกิดความชื้นขึ้นในห้องหรือที่บริเวณใดภายในบ้านต้องรีบเช็ดล้างทำความสะอาดให้แห้ง แล้วดำเนินการแก้ไขจุดที่รั่วหรือซึมในทันที อย่าปล่อยทิ้งไว้ข้ามคืนเพราะจะก่อให้เกิดเชื้อราและการแพร่กระจายของเชื้อรา
พยายามลดความชื้นภายในบ้านให้ต่ำกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ อย่าตากผ้าในบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในครัว ห้องน้ำ เพราะจะเป็นการเพิ่มความชื้นให้กับบ้านและเป็นจุดแพร่กระจายของเชื้อรา ควรติดตั้งเครื่องดูดอากาศระบายอากาศ เปิดหน้าต่างเพื่อให้อากาศถ่ายเทรอบบ้านได้สะดวก
นอกจากนี้บริเวณรอบๆ ของบ้าน เราก็ควรที่จะตรวจสอบไม่ให้เกิดการขังของน้ำหรือวัสดุที่จะก่อให้เกิดเชื้อราและการแพร่กระจายอีกด้วย อาทิ ผ้า กระดาษ เฟอร์นิเจอร์เครื่องไม้ เครื่องหนัง เป็นต้น ซึ่งหากเพียงแค่หมั่นสังเกตใส่ใจทุกรายละเอียดเท่านี้บ้านคุณก็จะปราศจากเชื้อรารบกวนใจ
ทั้งนี้ทั้งนั้นหากกรณีที่เกิดเชื้อราขึ้นแล้วเราก็สามารถกำจัดได้ง่ายๆ โดยถ้าเชื้อราเกิดขึ้นบนฝาผนังหรือวัสดุที่พื้นผิวแข็ง ให้เราใช้แอลกอฮอล์ความเข้มข้น 60-90 เปอร์เซ็นต์หรือน้ำยาฆ่าเชื้อราเช็ดขัดทำความสะอาด ตามจุดต่างๆ ก่อนจะใช้พัดลมหรือเครื่องทำความร้อนช่วยเป่าให้พื้นผิวบริเวณนั้นแห้งสนิท การทำความสะอาดควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำแรงดันสูงฉีด เพราะจะทำให้เชื้อราฟุ้งกระจาย ควรเช็ดไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งวิธีนี้สามารถใช้ได้กับเชื้อราบนเฟอร์นิเจอร์ไม้ รวมไปถึงของใช้ในครัวเรือนจำพวกพลาสติกต่างๆ อีกด้วย
ส่วนเชื้อราที่ขึ้นบนกระดาษ หนังสือ วัสดุที่เป็นเนื้ออ่อน ห้ามใช้น้ำเช็ดความสะอาดเพราะเป็นการเพิ่มความชื้นลงไปอีก ให้ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อราหรือสารฟอร์มาลีนชนิดเจือจางชุดสำลีหรือผ้าพอหมาดๆ ค่อยเช็ดทำความสะอาด ก่อนเป่าให้แห้งสนิท วิธีนี้ยกเว้นในกรณีเนื้อ "ผ้า" "พรม" หรือ "ผ้าม่าน" ให้เราน้ำไปต้มในน้ำร้อนให้เดือด หรือใช้น้ำยาฆ่าเชื้อที่มีส่วนผสมของโซเดียมไฮโปคลอไรท์ (คลอรีน บลีช) แช่ทิ้งไว้ก่อนที่จะเอาไปต้ม จากนั้นดูดน้ำออกให้หมดแล้วน้ำไปตากแดดให้แห้ง ก็จะสามารถกำจัดเชื้อราได้ในระดับหนึ่งแต่ไม่ถึงขนาด 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งทางที่ดีหากเกิดเชื้อราขึ้นบนผ้าชนิดต่างๆ หรือ พรม ควรนำไปทิ้งและเปลี่ยนใหม่จะดีที่สุด
ท้ายที่สุดหากเชื้อราขึ้นข้าวของเครื่องใช้ประเภทเครื่องหนัง ให้เรานำน้ำส้มสายชู 5-7 เปอร์เซ็นต์ชุบผ้าเช็ดทำความสะอาดจนมั่นใจว่าเชื้อราตายหมดแล้ว หากไม่มั่นใจเราจะใช้น้ำยาฆ่าเชื้อรา หรือแอลกอฮอล์ เช็ดทำความสะอาดร่วมอีกด้วยก็ได้ พยายามขัดให้หมดทุกซอกมุมจุดอับก่อนจะลงน้ำยาเคลือบรักษาผิวเครื่องหนังป้องกันการเปียกที่ก่อให้เกิดความชื้น
ข้อควรระวังในการทำความสะอาดเราควร สวมหน้ากากอนามัยชนิด N95 หรือหน้ากากป้องกันเชื้อโรค เพื่อหลีกเลี่ยงการหายใจเอาเชื้อราเข้าสู่ร่างกาย และควรใส่แว่นตาเพื่อป้องกันอุบัติเหตุเชื้อรากระเด็นเข้าตา สวมถุงมือรองเท้ายางชนิดยาว เพื่อป้องกันการสัมผัสของเชื้อราทุกครั้ง และก่อนทำควรเปิดหน้าต่างให้มีอากาศถ่ายเทดีอย่างน้อย 30 นาที
ข้อมูลบางส่วนจาก www.siamhealth.net