ไม่ว่าใครต่างก็มีเรื่องเครียดด้วยกันทั้งนั้น โดยเฉพาะกลุ่มคนวัยทำงานหรือกลุ่มคนเมืองที่มักจะพบว่าเป็นโรคเครียดอยู่จำนวนไม่น้อย แน่นอนว่า เมื่อเกิดโรคเครียด ผลที่ตามมาคือปัญหาด้านสุขภาพ ทั้งทางร่างกายและจิตใจ และทางแก้อย่างหนึ่งซึ่งหลายคนเลือกใช้เพื่อผ่อนคลายเยียวยาความเครียดก็คือ ศิลปะ |
เหมือนอย่างการเกิดขึ้นมาของหนังสือสองเล่ม ทั้ง “Secret Garden สวนปริศนา” และ “วันสุขใจ Beautiful Day” ซึ่งเป็นหนังสือภาพระบายสีสำหรับผู้ใหญ่เพื่อผ่อนคลายอารมณ์และความเครียด เสริมสร้างสมาธิ และกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ โดยภายในหนังสือมีภาพวาดลายเส้นที่สวยงาม ซึ่งออกแบบมาเพื่อผู้ใหญ่โดยเฉพาะ เช่น ภาพวาดในสวนที่มีต้นไม้และสัตว์มากมาย ให้คนได้ระบายสีและให้ความรู้สึกเหมือนได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติจริงๆ
“สวนปริศนา Secret Garden” เป็นผลงานของโจฮันนาบาสฟอร์ด นักวาดภาพประกอบชื่อดังชาวสกอตแลนด์ ที่มีผลงานร่วมกับแบรนด์ดังมากมาย เช่น Nike, Starbuck ส่วน “วันสุขใจ Beautiful Day” เป็นผลงานของปาร์กยองมี นักวาดภาพประกอบรุ่นใหม่ชาวเกาหลีใต้ ทำให้ภาพที่ได้ออกมามีลักษณะเป็นภาพวาดน่ารักๆ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในโลกนิทาน
ในงานเปิดตัวหนังสือเล่มนี้เมื่อไม่กี่วันก่อน “น้ำผึ้ง-ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์” ดาราสาวที่ชื่นชอบในศิลปะและเป็นครูสอนศิลปะเด็ก ได้กล่าวถึงคุณค่าของงานศิลปะในการช่วยลดความเครียดในชีวิตประจำวันของตนเอง ซึ่งโดยปกติ การเป็นดาราหรือคนมีชื่อเสียงมักจะนำมาซึ่งความเครียดกับหน้าที่การงาน ดังนั้น จึงต้องมีช่วงเวลาที่ได้ผ่อนคลาย
“อย่างในช่วงเวลาพักกินข้าว 20 นาที เราก็กินข้าวสัก 10 นาที เวลาที่เหลือ เราก็มานั่งวาดรูประบายสีเพราะไม่อย่างงั้นจะทำให้เรารู้สึกเป็นบ้า เมื่อเล่นละครก็ต้องมีการบำบัดตัวเอง เพราะเล่นแต่ละฉากจะต้องเข้าถึงบทมาก อย่างเช่น เล่นเป็นนางปีศาจหิมะ ในเรื่องกลกิโมโน แล้วแต่ละฉากต้องตะโกนตลอด ต้องบิลด์อารมณ์ให้มาก ถ้าไม่มีการคลายเครียด ปรับอารมณ์ ก็คงไม่สามารถคุยกับคนอื่นได้ หนังสือเล่มนี้ก็สะดวกต่อการพกพาใส่กระเป๋าไปได้ทุกที่ และอีกเหตุผลหนึ่งที่ชอบหนังสือเล่มนี้เพราะบางหน้าก็จะมีเฉพาะรูปกระถาง แล้วมีเขียนข้างกำกับว่าให้ใส่ต้นไม้ได้ตามจินตนาการ ทำให้เราได้ใช้ความคิดว่าต้นไม้ของเราจะเป็นยังไง” |
สำหรับคนที่ไม่กล้าวาดรูปเพราะกลัวไม่สวย ไม่อยากให้คิดอย่างนั้น เพราะเมื่อไหร่ที่กังวลจะทำให้เราวาดไม่สวยแน่นอน เนื่องจากเราจะวาดด้วยความกังวล ผลลัพธ์ก็จะออกมาแข็งๆ ตามอารมณ์ของเรา เราแค่ต้องวาดไปเลย แล้วสุดท้ายเราจะได้รู้ว่าตัวเราเองจริงๆ เป็นยังไง ภาพที่ออกมาจะเป็นสิ่งที่แสดงศักยภาพของเรา
“ศิลปะทำให้ชีวิตสวยงาม ถ้าเครียด ไม่รู้จะทำไรจริงๆ หยิบสมุดขึ้นมาระบายสีก็ได้ค่ะ ทุกอย่างจะช้าลง การตัดสินใจจะดีขึ้น เพราะนี่คือความมหัศจรรย์ของศิลปะ อยากมีความสุข ให้วาดรูประบายสีค่ะ” ดาราชื่อดังผู้ใช้ชีวิตแนบชิดกับศิลปะแสดงความเห็น
ด้านสุทัศน์ ปาละมะ อาจารย์ประจำคณะดิจิทัลอาร์ต มหาวิทยาลัยรังสิต ได้ให้ทัศนะเกี่ยวกับศิลปะที่สามารถช่วยให้ชีวิตคนเมืองได้เปลี่ยนไปว่า ปัจจุบัน มนุษย์เราใช้คอมพิวเตอร์ในการลงสีภาพต่างๆ และใช้เวลานานในการอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ แต่เมื่อได้มีโอกาสมาลงสีจริงๆ พบว่ามันผ่อนคลายกว่าการอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เพราะว่าคอมพิวเตอร์มีรังสี แสง จากคอมพ์ก็เข้าตา
“แต่การระบายสีแบบนี้มันให้ความรู้สึกเพลิดเพลิน ยิ่งถ้าเราปล่อยอารมณ์ไปเรื่อยๆ มันก็คล้ายๆ กับการทำสมาธิเหมือนกัน ผมเคยเอาตัวอย่างภาพในหนังสือไปให้ลูกศิษย์ลองระบายสีดู เพราะส่วนใหญ่ที่สอนจะใช้สอนให้ลูกศิษย์ใช้ในคอมพิวเตอร์ แล้วเมื่อลองให้ทำ พบว่าลูกศิษย์ตั้งใจทำมากกว่าในคอมพิวเตอร์ เพราะว่าเวลาลงสีแล้วลบไม่ได้แต่ถ้าทำในคอมพิวเตอร์มันสามารถลบได้”
นอกจากนี้ หนังสือเล่มนี้ยังทำให้ชีวิตคนเมืองในกลับไปใกล้ชิดธรรมชาติอีกครั้งเพราะคนวาดได้ถ่ายทอดให้เห็นถึงธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมที่เต็มไปด้วยดอกไม้ แมลง นก เหมือนกับว่าการที่เราได้ใช้ชีวิตในเมืองแล้วพบเจอความเครียด เราลองมาระบายสีเล่มนี้ก็จะได้เพลิดเพลินกับเนื้อหาที่ไกลไปจากตัวเมือง
ถ้าลองไปสัมผัสกับชีวิตธรรมชาติ จะทำให้รู้สึกผ่อนคลายได้ อีกเล่มหนึ่งจะออกแนวจินตนาการแฟนตาซีมากขึ้นแตกต่างจากเล่มแรก เล่มที่สองถ้าเราระบายสีจะทำให้เรารู้สึกว่า จินตนาการบรรเจิด มีความสนุกสนานมากขึ้นเหมือนอยู่ในโลกของนิทาน
“ศิลปะสำหรับผู้ใหญ่ถือเป็นการผ่อนคลาย และเป็นการกลับไปสู่วัยเด็กที่ห่างมานาน เหมาะสำหรับคนที่รู้สึกว่าเสียเวลาไปกับการใช้ชีวิตในเมือง เพราะปัจจุบันคนเราทำงานไปวันๆ ในสังคมที่วุ่นวาย ลองสละเวลามาสักนิดกับหนังสือเล่มนี้ เราจะพบอะไรบางอย่างซึ่งมันต้องทำด้วยตัวเอง ผมบอกไม่ได้เหมือนอย่างที่ผมตั้งใจว่าผมจะทำสองชั่วโมงแต่สุดท้ายผมทำทั้งวัน เหมือนว่าศิลปะทำให้ชิวิตคนเมืองที่วุ่นวายอย่างเราได้กลับไปใกล้ชิดกับธรรมชาติอีกครั้ง” |
ครูมอส-อนุพันธุ์ พฤกษ์พันธ์ขจี จิตรกรและนักศิลปะบำบัด แห่งสตูดิโอศิลปะด้านในและผู้อำนวยการสถาบันศิลปะบำบัดในแนวมนุษยปรัชญา กล่าวว่า เรื่องสีหรือสีสันนั้น มีความสัมพันธ์กับความสุขและความทุกข์ของคนเรา และจริงๆ เราอยู่กับสีตลอด เพียงแต่ว่าเราอยู่ในเมืองใหญ่ที่ตึกบังสีไปหมด ไม่ว่าสีของท้องฟ้าหรือสีของต้นไม้ พอวันหยุดสุดสัปดาห์ เราเลยต้องไปหาสีหรือสีสัน เช่น ไปหัวหิน ไปปราณบุรี ไปเขาใหญ่ เพราะความที่เรายังเชื่อมโยงอยู่กับสี เราไม่ได้ตัดขาด และแทนที่เราจะออกเดินทางไปหาสีจากที่อื่นๆ เราสามารถเปลี่ยนมาใช้เวลาว่างของเรา หยิบสีออกมาทำงานศิลปะ ก็เหมือนกับเราได้สัมผัสกับโลกธรรมชาติโดยปริยาย
“อย่างในหนังสือสองเล่มนี้ จะมีลักษณะการทำงานร่วมกันกับธรรมชาติ เช่น มีฟอร์มที่เป็นลักษณะที่ปิด เราเรียกว่า close form ก็คือจะมีลักษณะเป็นวงกลม ด้วยลักษณะนี้ เวลาเราระบายสีหรือว่าลงสี เข้าไปในภาพแบบนี้ ความสงบจะเกิดขึ้นได้ จะทำให้รู้สึกปลอดภัย ขณะที่การจดจ่อเป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นเวลาวาดรูป ระบายสี เป็นสิ่งที่เราควรมี เพราะเราสามารถเอาไปใช้กับเรื่องอื่นๆ ได้ ทำให้เรามีสมาธิ เราจะเป็นคนที่อยู่กับสิ่งหนึ่งๆ ได้นาน มีสมาธิอยู่กับสิ่งที่กำลังทำ นอกจากนี้ การระบายสีทำให้เกิดความสงบในจิตใจของเราได้ เพราะฉะนั้น บางทีที่เราเหนื่อยล้า เราต้องการการผ่อนคลาย ลองกลับมานั่งระบายสีดู เราจะได้รู้สึกละวางหรือว่างกับสิ่งที่กำลังทำ กำลังคิดอยู่” |
ด้วยเหตุนี้ ศิลปะจึงถือเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่จะช่วยผ่อนคลายความเครียด เพราะการทำงานศิลปะ จะต้องทำด้วยความตั้งใจ จึงเปรียบเสมือนการทำสมาธิอย่างหนึ่ง ที่จิตใจจะต้องจดจ่ออยู่กับงานตรงหน้า ละวางปัญหาความเคร่งเครียดในชีวิตไว้ชั่วคราว อีกทั้งยังได้ใช้จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ และเมื่องานสำเร็จ จะก่อให้เกิดความภาคภูมิใจ ดื่มด่ำ และเป็นสุขกับผลงานนั้นด้วย
____________________________
ข่าวโดย : ปาณิสรา บุญม่วง