กลกิโมโน ตอนที่ 11
บนหอคอย รินดาราคุยกับมิกิและโฮชิ
"ชั้นเห็นด้วยค่ะที่บอกให้คุณไอรู้เรื่องท่านชาย คุณไอจะได้ไม่รู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกินของมิยาคาวะ"
โฮชิยิ้มรับแล้วถาม
"แล้วฮิคาริล่ะ มีเรื่องอะไรจะคุยกับชั้น"
รินดารามองมิกิอย่างเกรงใจ
"เรื่อง...เรื่อง"
"พูดมาเถอะฮิคาริ ชั้นกับมิกิไม่มีเรื่องอะไรปิดบังกัน"
อาคิระเข้ามาแล้วได้ยินสิ่งที่รินดารา โฮชิ มิกิคุยกัน
"ท่านชายรู้เรื่องเพื่อนเล่นของอายูมิที่ชื่อฮิโตชิใช่ไหมคะ"
โฮชิกับมิกิมองหน้ากันอย่างอึ้งๆ ส่วนอาคิระแปลกใจเพราะไม่รู้จักฮิโตชิ
"ทำไมเธอถึงคิดว่าชั้นจะรู้"
"มีผีอาศัยอยู่ที่คฤหาสน์มิยาคาวะ แถมยังเป็นเพื่อนเล่นกับหนูอายูมิอยู่ตั้งนาน มีหรือคะ ที่ท่านชายจะไม่รู้"
อาคิระนึกถึงความผิดปกติที่เคยเกิดขึ้นกับอายูมิ เช่น เห็นอายูมิพูดคนเดียว
อาคิระอึ้งไปเลย ขณะที่โฮชิอธิบายให้รินดาราฟัง
"ฮิโตชิถูกพวกโคสึกะทำร้าย ชั้นสงสารก็เลยให้เขาอยู่ที่นี่ ส่วนเรื่องที่เขาเป็นเพื่อนเล่นกับอายูมิ เขาสัญญากับชั้นแล้วว่าเขาจะไม่ทำอันตรายอายูมิ"
รินดาราพยักหน้ารับ
"ว่าแต่คุณรินดารารู้เรื่องฮิโตชิได้ยังไงคะ"
"หนูอายูมิเพิ่งพาชั้นไปหาฮิโตชิมาค่ะ ก่อนหน้านี้ชั้นเองก็เคยเจอฮิโตชิมาก่อน เพราะเขาคือผีเด็กที่หลอกชั้นที่ป่าสน"
"ฮิโตชิเคยทำร้ายเธอด้วยเหรอ"
"ค่ะ..ตอนนั้นเขาน่ากลัวมาก ไม่เหมือนที่ชั้นเจอเขาอยู่กับอายูมิเมื่อตะกี้เลยค่ะ ดูเขาเป็นแค่เด็กผู้ชายน่ารักคนหนึ่ง ท่าทางรักหนูอายูมิมากด้วยนะคะ"
อาคิระไม่พอใจ จึงหันหลังเดินกลับออกไปทันที
อาริคะเอาสร้อยที่มีจี้เป็นเหรียญเซมาโมริลายนกกระเรียนทองใส่อยู่ในกรอบใสๆให้หลานสาว
อายูมินั่งอยู่บนเตียงถาม
"อะไรคะคุณอา"
อาคิระคล้องคอให้
"เหรียญเซมาโมริ อาให้อายูมิเอาไว้ป้องกันไม่ให้อันตรายหรือภูตผีปีศาจมาเข้าใกล้หลานของอา"
"แต่คุณย่าบอกว่าเทพเจ้านกกระเรียนจะคอยปกป้องพวกเราทุกคน"
อาคิระมีสีหน้าชะงักไปอย่างไม่พอใจ เมื่อนึกถึงเทพเจ้านกกระเรียนผู้ที่ปล่อยให้ผีมาเป็นเพื่อนหลานสาวของเขา
"อายูมิ...ฟังคำอาไว้นะ เราต้องไม่หวังพึ่งให้ใครมาช่วยปกป้องเรา เราต้องพึ่งตัวเอง หาทางป้องกันอันตรายด้วยตัวเองเรา"
อายูมิทะเล้น
"งั้นอายูมิก็จะไม่ถอดสร้อยนี้ออกเลยค่ะ ถ้ามีผีมา...อายูมิจะไล่ผีด้วยตัวอายูมิเอง"
อาคิระยิ้มรับ แต่สีหน้ามีร่องรอยความกังวลใจ
ทุกคนเรียกฮิโตชิ
โฮชิบอก
"ฮิโตชิ...ออกมาหาชั้นหน่อยสิฮิโตชิ"
ฮิโตชิปรากฎตัวขึ้นที่ข้างหลังรินดารากับมิกิด้วยสีหน้าและท่าทางหวาดกลัว
มิกิหันไปเห็นฮิโตชิก็เผลอตกใจ
"อุ้ย "
ฮิโตชิตกใจเหมือนกันจึงวิ่งไปหลบที่มุมห้อง โฮชิยิ้มขำมิกิ
"ท่านชายไม่ต้องหัวเราะเลยนะคะ โผล่มาเงียบๆ ดิชั้นไม่ตกใจจนหัวใจวายตายก็ดีแล้ว"
โฮชิยิ้มแล้วหันไปพูดกับฮิโตชิ
"ไม่ต้องกลัวนะฮิโตชิ สองคนนี้ไม่ทำร้ายเธอหรอก เขาแค่อยากให้เธอสัญญาว่าเธอจะไม่ทำร้ายอายูมิ"
ทั้งสองยิ้มละมุนให้ ฮิโตชิถึงค่อยคลายความกลัว
"ฮิโตชิสัญญา...ฮิโตชิจะไม่มีทำร้ายอายูมิ แต่ต่อไปนี้ฮิโตชิจะไม่เล่นกับอายูมิอีกแล้ว"
"ทำไมล่ะ"
"ฮิโตชิรู้ตัวดี...อีกไม่นานฮิโตชิก็จะต้องไปจากที่นี่แล้ว ถึงอายูมิจะดื้อกับฮิโตชิ แต่ฮิโตชิก็ไม่อยากให้อายูมิเสียใจเวลาที่ฮิโตชิไม่อยู่"
"ถ้าเธอไม่อยู่ อายูมิจะต้องคิดถึงเธอตลอดไป เพราะเธอคือเพื่อนที่ดีที่สุดของอายูมิ"
ฮิโตชิยิ้มดีใจ
"แต่ก่อนที่ฮิโตชิจะไป ฮิโตชิขอไปลาอายูมิครั้งสุดท้ายได้ไหม"
รินดารา โฮมิกิยิ้มอ่อนโยน
อาคิระเดินมาจากทางห้องอายูมิ รินดารากับโฮชิเดินมาอีกทาง..กำลังจะไปที่ห้องอายูมิ
"จะไปไหนกันหรือครับ
"ไปหาหนูอายูมิค่ะ"
"ทำไม"
โฮชิถาม
"เธอรู้เรื่องฮิโตชิแล้วใช่ไหม"
"ครับ ผมรู้ ในฐานะที่ผมเป็นอาแท้ๆ ของอายูมิ ผมจะไม่ยอมให้ฮิโตชิเข้าใกล้หลานสาวของผมเด็ดขาด"
อาคิระสีหน้าจริงจังมาก โฮชิมองแล้วรู้ว่าอาคิระไม่พอใจเขาเรื่องที่ปล่อยให้ฮิโตชิเข้าใกล้อายูมิ
"ถ้าชั้นทำให้เธอไม่พอใจ ชั้นขอโทษด้วย แต่ชั้นยืนยันได้ว่าฮิโตชิเป็นเด็กดี เขาจะไม่ทำร้ายอายูมิและทุกคนที่มิยาคาวะ"
"แต่เขาเคยทำร้ายรินดารามาแล้ว"
"ใจเย็นๆ ก่อนเถอะค่ะคุณอาคิระ ทั้งคุณและท่านชายก็มีเหตุผลของตัวเอง ชั้นว่าเราคุยกันดีๆ แล้วคิดหาทางออกร่วมกันดีกว่า"
"ทางออกของผมมีทางเดียว ผีเด็กตัวนั้นต้องอยู่ให้ห่างจากหลานสาวของผมและในเมื่อเขาไม่ยอมไป ผมก็ต้องทำให้เขาไปเอง"
"เธอทำอะไร"
"ผมให้อายูมิใส่เหรียญเซมาโมริเอาไว้ ภูตผีปีศาจตนไหนจะได้เข้าใกล้หลานสาวผมไม่ได้อีก"
โฮชิสีหน้าตกใจเมื่อรู้ดังนั้นจึงรีบวิ่งไปที่ห้องอายูมิ รินดาราตามไป อาคิระหันไปมองอย่างไม่เข้าใจ
อายูมินอนหลับอยู่บนเตียง โตชิยืนมองอายูมิด้วยสายตาละห้อย
"อายูมิ"
อายูมิรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา
"อายูมิ...ฮิโตชิต้องไปแล้วนะ"
"ฮิโตชิจะไปไหน"
ฮิโตชิส่ายหน้า น้ำตาไหลอาบแก้ม ไม่อยากจากเพื่อนรักไป
"ฮิโตชิบอกอายูมิสิว่าฮิโตชิจะไปไหน ไม่อย่างงั้นอายูมิจะไม่ให้ฮิโตชิไป"
อายูมิขยับตัวเข้าไปหาฮิโตชิ
สร้อยเหรียญเซมาโมริที่อายูมิคล้องคอ ส่องแสงสีขาวออกมาเป็นวงกว้างแสงนั้นส่งกระทบไปถึงตัวฮิโตชิ เต็มๆ ฮิโตชิร้องลั่นอย่างเจ็บปวดแล้วทรุดตัวล้มกองลงกับพื้น "อ๊าก"
อายูมิตกใจ
" ฮิโตชิ"
ฮิโตชิดิ้นทุรนทุรายอยู่กับพื้น ตามลำตัวมีรอยแผลเป็นเลือดซิบๆ เขากอดตัวเองอย่างเจ็บปวด
อายูมิตกใจ แต่มองไม่เห็นแสงนั้น
"ฮิโตชิ ! ฮิโตชิเป็นอะไร"
ฮิโตชินั่งหันหลังตัวโยกเพราะแรงสะอื้นแล้วค่อยๆ หันหน้ากลับมาหาอายูมิ ใบหน้าของเด็กชายเปลี่ยนเป็นใบหน้าขาวซีด ดวงตาเป็นสีดำ น้ำตาไหลเป็นสายเลือด !
อายู ตาเบิกโพลงตกใจสุด "แอร๊ย"
อายูมิจะลุกวิ่งหนีตามสัณชาตญาณ ทำให้เด็กหญิงผลัดตกลงจากเก้าอี้รถเข็น สีหน้าเหยเกเจ็บปวด
ฮิโตชิตกใจยื่นมือไปหาอายูมิ
"อายูมิ ! อายูมิเจ็บไหม"
อายูมิยันตัวลุกขึ้นแล้วถอยหลังหนี หลับตาปี๋และร้องกรี๊ดๆ
"ไปให้พ้น ! อายูมิกลัว อายูมิกลัว"
มือของอายูมิคว้าของเล่นบนโต๊ะหัวเตียงได้ก็ปาไปที่ฮิโตชิ ฮิโตชิอึ้งแล้วเบะหน้าร้องไห้เสียใจที่อายูมิไม่รักตน
โฮชิเลื่อนประตูเปิดเข้ามาในห้อง ฮิโตชิรีบหายตัวแว่บไป อาคิระ รินดาราตามเข้ามา ทั้งหมดเห็นภาพอายูมินอนปิดตาอยู่ใกล้ๆเก้าอี้เข็นล้ม ร้องไห้ตัวสั่นหวาดกลัวสุดขีด ทุกคนตกใจ
"อายูมิ"
รินดาราและอาคิระปราดเข้าไปหาอายูมิ อายูมิโผกอดอาคิระ เอามือปิดหน้าร้องไห้
"คุณอาช่วยอายูมิด้วย ฮิโตชิเป็นผีน่ากลัว อายูมิกลัว ฮือๆ"
อาคิระกอดปลอบหลาน
"ไม่ต้องกลัว อาอยู่นี่แล้ว จะไม่มีใครทำอะไรอายูมิได้อีกแล้ว"
รินดารามองไปเห็นสร้อยเหรียญก็ไม่สบายใจ
โฮชิวิ่งเข้ามาในสวน เสียงร้องไห้สะอื้นของฮิโตชิดังแว่วมาจากด้านหนึ่ง โฮชิเดินไปทางนั้นจึงเห็นฮิโตชินั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่ในมุมมืด ลำตัวของฮิโตชิเต็มไปด้วยบาดแผลจากพลังของเหรียญเซมาโมริ
โฮชิมองอย่างสงสารเจ็บใจ
"เจ็บมากใช่ไหมเจ้าหนู ให้ชั้นช่วยเธอนะ"
โฮชิยื่นมือไปให้ ฮิโตชิยื่นมือจับตอบ โฮชิหลับตาลงส่งพลังให้เด็กน้อย บาดแผลบนลำตัวของฮิโตชิหายไป แต่ความเสียใจของเขายังอยู่
โฮชิลืมตาขึ้น...เห็นว่าบาดแผลของฮิโตชิหายไปแล้ว แต่ฮิโตชิยังร้องไห้สะอึกสะอื้นเสียใจ
"เสียใจเรื่องอายูมิเหรอ"
ฮิโตชิพยักหน้ารับ
"อายูมิเคยบอกว่าต่อให้ฮิโตชิเป็นผีก็จะไม่กลัว"
"อายูมิแค่ตกใจ เขาไม่ได้รังเกียจเธอหรอก"
"ไม่จริง ! อายูมิเกลียดฮิโตชิ อายูมิเอาของปาใส่ฮิโตชิเหมือนคนพวกนั้น อายูมิทั้งดื้อ ทั้งขี้โกหก ! อายูมินิสัยไม่ดี ฮิโตชิจะไม่รักอายูมิแล้ว"
ฮิโตชิหายตัวแว่บไป
"ฮิโตชิ ฮิโตชิ"
รินดาราวิ่งตามเข้ามาแล้วยืนมองท่าทางร้องเรียกฮิโตชิของโฮชิอย่างสงสัย โฮชิหันมาเห็นรินดารายืนอยู่จึงบอกด้วยความเศร้า
"เขาไปแล้ว"
"ถ้าเขาไปแล้วจริงๆก็อาจจะดีกับอายูมินะคะ ที่ไม่ต้องมีเพื่อนเล่นเป็นผีอีก ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นไปแล้ว อายูมิยังเด็ก เดี๋ยวแกก็ลืม"
"แต่ชั้นก็อดเป็นห่วงฮิโตชิไม่ได้ ไม่รู้ว่าจะหนีไปไหน ชั้นอยากให้เขากลับมา ชั้นอยากส่งเขาไปในที่ที่ดีๆ เขาจะได้มีความสุขจริงๆ สักที"
โฮชิเศร้า รินดารามองอย่างสงสารแล้วเข้าไปกอดแขนโฮชิปลอบใจ
"อย่าคิดมากไปเลยนะคะท่านชาย ถ้าโชคชะตาลิขิตมาให้ท่านชายมีหน้าที่ช่วยฮิโตชิไปพบความสุข เราจะต้องได้พบเขาอีกครั้งแน่นอนค่ะ"
โฮชิพยักหน้ารับกับรินดารา
ไอเดินเข้ามาแล้วมองไปรอบๆให้แน่ใจ แล้วกำลังจะเดินขึ้นไปบนหอคอย แต่เจอมิกิยกถาดน้ำชาออกมา จากด้านใน ไอชะงักกึก
"จะไปไหน"
"เอ่อ...คือ...ไอจะขึ้นไปช่วยคุณย่ายกถาดน้ำชาของท่านชายลงมาค่ะ"
"ถึงย่าจะอนุญาตให้ไอขึ้นไปข้างบน แต่ถ้าไม่มีความจำเป็นอะไรก็อย่าขึ้นไปจะเป็นการรบกวนท่านชาย"
ไอจ๋อยไป
"ค่ะ ไอช่วยถือค่ะ"
มิกิส่งถาดน้ำชาให้ไอแล้วเดินนำออกไป ไอเซ็งสนิทแล้วจำใจเดินตามย่ามิกิไป
อาคิระพาอายูมินอนบนเตียงแล้วห่มผ้าให้อายูมิ รินดารากลับเข้ามาในห้อง...สบตากับอาคิระที่คิ้วยังขมวด ไม่พอใจเรื่องฮิโตชิ...รินดาราเหนื่อยใจแล้วเดินเข้าไปนั่งข้างๆ อายูมิ
"หนูอายูมิรู้สึกเจ็บหรือชาที่ขาตรงไหนบ้างหรือเปล่าคะ"
"อายูมิไม่เจ็บเลยค่ะ"
"แน่ใจนะอายูมิ ลองดูให้ดีๆก่อนค่อยตอบสิครับ"
"อายูมิไม่เจ็บจริงๆ ค่ะคุณอา พี่รินดาราขา...ฮิโตชิเป็นผีแล้วทำไมเขาถึงเล่นกับอายูมิได้ กินขนมก็ได้"
"เพราะฮิโตชิอยากเป็นเพื่อนกับเด็กน่ารักอย่างอายูมิไงคะ เขารักอายูมิ แล้วความรักนี่ล่ะค่ะ ช่วยมอบพลังให้เขาทำได้ทุกอย่าง"
"หยุดพูดเรื่องนี้กันได้แล้ว ! คนก็อยู่ส่วนคน ผีก็อยู่ส่วนผี คนกับผีจะมาเป็นเพื่อนกันไม่ได้ ต่อไปนี้ที่นี่จะไม่มีการพูดถึงฮิโตชิอีก ... อาสั่งเลยนะอายูมิ อายูมิต้องลืมฮิโตชิไปซะ ต่อไปนี้จะไม่มีฮิโตชิอีกแล้ว"
อายูมิรับเสียงอ่อย
"ค่ะคุณอา"
รินดารามองอาคิระอย่างไม่ชอบใจเลย
อาคิระเดินหน้านิ่วคิ้วขมวดออกมาจากในห้อง รินดาราตามเข้ามาเรียก
"คุณอาคิระคะ"
อาคิระหยุดเดิน หันไปหารินดารา
"ชั้นเข้าใจนะคะว่าคุณกำลังโมโหเรื่องฮิโตชิมาก แต่ชั้นไม่อยากให้คุณพูดกับอายูมิแบบนั้น มันทำร้ายจิตใจของเด็กมากเกินไป"
"ผมหวังดีกับหลาน"
"ค่ะชั้นรู้ แต่คุณต้องไม่ลืมว่าตอนนี้ฮิโตชิเป็นเพื่อนรักของอายูมิ แค่ฮิโตชิเป็นผีก็แย่พออยู่แล้ว คุณอย่าพูดอะไรเลวร้ายเกี่ยวกับฮิโตชิให้อายูมิฟังอีกเลย เพราะแกจะกลายเป็นเด็กมองโลกในแง่ร้าย แกจะไม่เปิดใจรับเพื่อนใหม่เพราะกลัวจะเสียความรู้สึกเหมือนฮิโตชิ"
สีหน้าของอาคิระอ่อนลง
"ผมขอโทษ แค่ผมคิดภาพว่าอายูมิจะเป็นอันตราย หัวใจของผมก็แทบจะสลายอยู่แล้ว"
"ชั้นเข้าใจค่ะ ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับน้องสาวของชั้น ชั้นก็คงเป็นไม่ต่างจากคุณ" เธอจงใจพูดให้อาคิระอารมณ์ดี "ดีไม่ดีอาการจะหนักกว่าคุณหลายเท่าด้วย"
อาคิระยิ้มออกมาได้
"คุณอาคิระคะ ชั้นมีเรื่องอยากจะพูดกับคุณ"
"เรื่องท่านชายใช่ไหม"
"ค่ะ ชั้นอยากให้คุณเข้าใจท่านชายเรื่องฮิโตชิ ท่านชายเห็นว่าเวลาอายูมิอยู่กับฮิโตชิ แกดูมีความสุขมาก อาจจะเป็นเพราะแกไม่ได้เป็นไปโรงเรียน แกเหงาไม่มีเพื่อนเหมือนเด็กคนอื่นๆ พอแกมีฮิโตชิเป็นเพื่อนก็พลอยทำให้แกมีกำลังใจอยากจะเดินได้อีกครั้ง เพื่อจะไปวิ่งเล่นกับเพื่อน ท่านชายถึงต้องยอมปล่อยให้ฮิโตชิอยู่กับอายูมิ โดยที่เขาคอยดูแลอยู่ตลอด"
อาคิระฟังนิ่ง...สีหน้าเศร้ารู้สึกผิด
"ท่านชายโฮชิรักและเป็นห่วงหนูอายูมิและทุกคนที่มิยาคาวะมาก ชั้นเชื่อว่า...ต่อให้ท่านชายต้องติดอยู่บนโลกมนุษย์ตลอดไป เพื่อแลกกับการได้ปกป้องมิยาคาวะ เขาก็ยอม"
อาคิระนิ่งคิดไปนิดแล้วตอบ
"รินดารา...ขอบคุณมากที่ช่วยพูดเตือนสติผม พรุ่งนี้ผมจะไปขอโทษท่านชาย"
"น่ารักมากค่ะ"
"แต่ถึงยังไงผมก็ยังไม่สบายใจเรื่องนี้ง่ายๆ ฮิโตชิมาจากตระกูลโคสึกะ แล้วตอนนี้ตระกูลโคสึกะก็ร่วมมือกับนางปีศาจหิมะเพื่อทำลายพวกเรา ทางที่ดีผมต้องหาทางจัดการกับนางปีศาจหิมะให้ได้"
"คุณจะทำยังไงคะ"
อาคิระไม่ตอบ แต่มีสีหน้าเด็ดเดี่ยว
ริเอะเปิดประตูเข้ามาหาอาคิระอย่างรีบร้อน อาคิระยืนทอดสายออกไปนอกหน้าต่างสีหน้ามีความกังวล
"ริเอะเพิ่งไปส่งคุณแฮโรลด์ที่สนามบินมาค่ะ พออาคิระโทร.ไป ริเอะก็รีบออกมาเลย"
"คุณได้บอกใครหรือเปล่าว่ามาที่มิยาคาวะ"
ริเอะยิ้มหวาน
"อาคิระไม่ให้ริเอะบอกใคร ริเอะก็ไม่กล้าขัดคำสั่งอาคิระหรอกค่ะ อาคิระมีเรื่องสำคัญอะไรจะคุยกับริเอะหรือคะ"
อาคิระจ้องหน้าริเอะ สีหน้ามีความเครียดกังวลอย่างชัดเจน
"เรื่องนางปีศาจหิมะ"
ริเอะชะงักไป
"นะ..นางปีศาจหิมะอะไรคะ ริเอะไม่รู้เรื่อง"
"อย่าโกหกผมริเอะ ความจริงเปิดเผยหมดแล้ว ผมเคยสงสัยว่าทำไมระยะหลังมานี้พ่อคุณมือขึ้นมาก ประมูลได้แต่งานชิ้นใหญ่ๆ คุณเองก็ได้พบร่วมงานกับคุณแฮโรลด์อย่างง่ายดาย" เขาจ้องหน้าริเอะอย่างคาดคั้น "สิ่งเหล่านี้..นางปีศาจหิมะมอบให้เป็นการตอบแทนความช่วยเหลือของพวกคุณใช่ไหม"
ริเอะหลบสายตาอาคิระ แทนคำตอบได้อย่างดีว่า..ใช่ ทำให้อาคิระโกรธมาก
"คุณกับคุณพ่อของคุณมีความสุขกับสิ่งที่นางปีศาจร้ายมอบให้ แต่ครอบครัวของผมกำลังต้องเดือดร้อนเพราะมัน"
ริเอะไปต่อไม่ถูกจึงแกล้งบีบน้ำตาร้องไห้
"ไม่จริง ริเอะกับคุณพ่อไม่เคยมีความสุขเลย แต่เราสองคนไม่มีทางเลือก เราถูกบังคับให้เป็นทาสของมัน ถ้าเราไม่ทำตามที่มันต้องการมันก็จะฆ่าเรา ริเอะยังไม่อยากตาย"
ริเอะเนียนโผเข้ากอดอาคิระและร้องไห้สะอื้นในอ้อมกอดของเขา
"เห็นใจเราสองคนพ่อลูกเถอะนะคะ แค่นี้เราก็เหมือนตายทั้งเป็นกันอยู่แล้ว"
อาคิระสงสารริเอะจึงกอดริเอะกลับ..ลูบหลังปลอบใจ
"ผมขอโทษนะริเอะ ถ้าพูดจาแรงกับคุณมากเกินไป"
ริเอะพยักหน้ารับหงึกหงัก น้ำตานองหน้า แต่สายตาลอบยิ้มร้ายพอใจที่อาคิระหลงกล
"แต่เราต้องไม่ปล่อยให้นางปีศาจหิมะมามีอิทธิพลเหนือเราอีกแล้ว คุณต้องร่วมมือกับผมจัดการกับมัน"
"แต่มันร้ายกาจมากนะคะอาคิระ เราอาจจะต้องตาย"
"ถ้ามันยังอยู่ สักวันเราก็ต้องตายเพราะมันเหมือนกัน"
"ค่ะ ริเอะจะร่วมมือกับคุณ"
อาคิระยิ้มอ่อนโยน ทำให้ริเอะหัวใจสั่นไหว
รินดาราเดินเข้ามาด้วยความร้อนใจเรื่องฮิโตชิกับอายูมิ กำลังจะยกมือเคาะประตู แต่ได้ยินริเอะที่อยู่ในห้องพูดขึ้นพอดี
"ถ้าทุกอย่างสำเร็จ เราจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหมคะอาคิระ"
มือที่จะเคาะประตูชะงักค้าง รินดารายืนฟังอยากรู้คำตอบจากอาคิระเหมือนกัน
ภายในห้อง...ริเอะจับมืออาคิระ พูดด้วยสายตาวิงวอน
"ริเอะรู้ว่าตอนนี้คุณมีเรื่องทุกข์ใจมาก ริเอะอยากทำหน้าที่ดูแลคุณ"
อาคิระนิ่งเฉย ริเอะจับมืออาคิระขึ้นมากุม แล้วจงใจพูดตอกย้ำอาคิระ
"ริเอะสัญญาค่ะว่าจะทำหน้าที่ดูแลคุณ ให้ดีกว่าที่รินดาราทำหน้าที่คนรักของท่านชายโฮชิอีกค่ะ"
"นางปีศาจหิมะเล่าให้คุณฟังหมดทุกเรื่องเลยหรือไง"
"ค่ะ ยูกิบอกเราหมดทุกอย่าง ยังไงอาคิระก็ไม่มีวันได้สมหวังกับผู้หญิงไม่ธรรมดาอย่าง รินดารา แล้วทำไมอาคิระจะไม่กลับมาคิดถึงริเอะบ้าง ริเอะสัญญาค่ะว่าจะปรับปรุงตัวให้เป็นไปอย่างที่อาคิระต้องการ...นะคะอาคิระ"
รินดาราฟังนิ่ง...การที่อาคิระไม่ปฎิเสธริเอะทำให้หัวใจของเธอแทบสลาย แล้วเสียงพนักงานคนหนึ่งก็ดังขึ้น จากข้างหลังรินดารา
"มาพบคุณอาคิระหรือคะ"
อาคิระกับริเอะหันขวับไปทางหน้าห้อง
"เปล่าค่ะ"
เธอวิ่งออกไปจากตรงนั้นทันที อาคิระได้ยินเสียงรินดาราก็รีบผละจากริเอะออกไปที่หน้าห้อง อาคิระเห็นหลังรินดาราวิ่งออกไปเร็วๆจึงวิ่งตาม
"รินดารา ! รินดารา"
ริเอะตามออกมาจากในห้องแล้วจิกหน้าร้ายเจ็บใจ
รินดาราวิ่งเร็วๆ เข้ามาถึงด้านหน้าศาลเทพเจ้านกกระเรียน อาคิระวิ่งตามมาดึงแขนรินดาราเอาไว้
"รินดาราหยุด"
รินดาราประชดเพราะความหึงหวง
"คุณจะตามชั้นมาทำไม กลับไปอยู่ดูแลคุณริเอะเถอะค่ะ เดี๋ยวเธอจะเสียใจ"
อาคิระโพล่งออกมาจากหัวใจ
"แต่ผมแคร์คุณคนเดียว"
รินดาราชะงักอึ้ง...คาดไม่ถึงว่าเขาจะพูดออกมาแบบนี้ อาคิระขยับเข้าไปจับมือรินดารามาเกาะกุม
"ได้ยินที่ผมพูดใช่ไหมรินดารา ผมแคร์คุณคนเดียว"
รินดาราน้อยใ
"แคร์ชั้นแล้วทำไมถึงผลักไสไล่ส่งชั้นไปหาคนอื่น"
"ผมคิดว่าตัวเองจะเข้มแข็งกว่านี้ แต่ไม่ใช่เลย...ยิ่งผมพยายามลืมคุณมากเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งเจ็บปวดมากเท่านั้น รินดารา...ถ้าถึงวันที่คุณส่งท่านชายกลับสวรรค์ไปหาเมียวโจได้สำเร็จ คุณก็จะกลับมาเป็นรินดาราคนเดิม วันนั้นคุณจะให้โอกาสผมได้ไหม"
รินดาราน้ำตาเอ่อๆ ด้วยความสับสน ว้าวุ่นใจ อยากจะตอบรับเขา แต่รู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์
"ว่ายังไงรินดารา คุณจะรักผมบ้างได้ไหม"
"ไม่ได้ค่ะ ถ้าชั้นจะรักคุณ ชั้นต้องรักคุณหมดหัวใจค่ะ แต่ตอนนี้หัวใจของชั้นรับรู้อยู่เสมอว่า ชั้นมีหน้าที่เป็นคนรักของท่านชาย ต่อให้ท่านชายไม่อยู่แล้ว ชั้นก็ควรจะซื่อสัตย์ต่อคนรักของชั้นไม่ใช่หรือคะ"
อาคิระอึ้งไปเพราะคำพูดของรินดาราเสียดแทงเข้าไปในหัวใจ
"คุณริเอะพูดถูกเรื่องของชั้นกับคุณไม่มีวันเป็นจริงได้ คุณควรจะเปิดโอกาสให้คุณริเอะดีกว่าค่ะ มองสิ่งที่เคยผิดพลาดในแง่ดี...การที่ความรักของคุณกับคุณริเอะมีคนอื่นเข้ามาแทรก มันช่วยทำให้คุณริเอะ รู้ว่าเธอรักคุณมากแค่ไหน"
รินดาราเดินออกไป อาคิระมองตามด้วยสายตาเจ็บปวด
ริเอะเดินตามมาพูดเมื่อรินดาราอยู่คนเดียว
"ขอบใจมากนะรินดาราที่ช่วยพูดเตือนสติให้อาคิระรู้ว่า...ใครคือผู้หญิงที่เขาควรรัก"
รินดาราหันมามอง
"หึ..แต่ชั้นหวังว่าที่สิ่งเธอพูดไปเมื่อกี้ คงไม่ใช่การแสดงละครฉากหนึ่งที่หวังจะให้อาคิระ มองว่าเธอเป็นนางเอกเพื่อมัดใจเขาหรอกนะ"
รินดารายิ้มกวนเชือดเฉือนกลับ
"คุณนี่เก่งจังเลยนะคะ"
ริเอะไม่พอใจ
"นั่นไง ! ชั้นคิดอยู่แล้วว่าผู้หญิงอย่างเธอต้องมีแผนอยู่ในใจ"
"ที่ชั้นชมว่าคุณเก่ง เพราะคุณเก่งที่คิดมโนอะไรต่อมิอะไรไปเองได้เรื่อยๆ มิน่า...ถึงอยู่กับนางปีศาจหิมะได้"
ริเอะอึ้ง
"นี่เธอว่าชั้นเรอะ"
"ชั้นจะแนะนำอะไรให้นะคะ ถ้าคุณอยากให้คุณอาคิระกลับมารักคุณ คุณต้องรู้จักที่จะรักอาคิระจริงๆ ไม่ใช่แค่อยากเอาชนะเขาหรือเอาชนะชั้น "
รินดาราเดินออกไป ริเอะมองตามไล่หลังรินดารา
"รินดารา...ชั้นจะทำให้เธอได้เห็นว่าชั้นรักอาคิระจริงๆ"
กลกิโมโน ตอนที่ 11 (ต่อ)
มาโกะโตะฟังลูกสาวแล้วตกใจ
"อาคิระน่ะเหรอจะจัดการยูกิ"
"ค่ะ ริเอะก็จะร่วมมือกับอาคิระด้วย"
มาโกะโตะตกใจมาก ปราดเข้าไปพูดกับริเอะด้วยเสียงกระซิบด้วยความกลัวว่ายูกิจะมาได้ยินเข้า
"ลูกก็รู้ว่ายูกิอันตรายมากแค่ไหน ลูกจะเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงอันตรายทำไม"
"ทุกวันนี้เราก็เสี่ยงอยู่แล้ว พ่อก็เห็นว่าตอนนี้เราแทบจะไม่มีความหมายอะไรกับมันเลย มันไปยุ่งอยู่แต่กับพวกตระกูลโคสึกะ อีกไม่นานหรอกค่ะ พอเราหมดประโยชน์กับมัน มันจะต้องฆ่าเราทิ้งแน่นอน"
มาโกะโตะเครียด ริเอะเข้าไปกอด พยายามโน้มน้าวใจผู้เป็นพ่ออย่างมาก
"ถ้าพ่อเป็นห่วงริเอะ พ่อก็ต้องร่วมมือกับริเอะนะคะ ริเอะไม่อยากทนอยู่กับความหวาดกลัวอีกแล้ว"
"แต่เรายังไม่ได้ครอบครองมิยาคาวะเลยนะลูก"
"อาคิระบอกริเอะแล้วค่ะ...ถ้าริเอะร่วมมือกับอาคิระสำเร็จ อาคิระจะให้โอกาสริเอะ แล้วทีนี้ริเอะจะทำให้มิยาคาวะเป็นของเราโดยที่เราไม่ต้องพึ่งนังยูกิเลย"
มาโกะโตะคิดหนัก
ยูกิหวีผมดำยาวของตัวเองอยู่หน้ากระจก แววตาแกร่งกล้า แต่แล้วก็นึกถึงคำที่โฮชิปฎิเสธตน
"เธอแค่ต้องหยุดให้กิเลสครอบงำเธอ แค่หันไปหาความสงบ รู้จักปล่อยวาง เธอก็จะหลุดพ้นจากความเป็นปีศาจได้ แต่ถ้าไม่..ก็หมายความว่าเธอบังคับให้ชั้น ทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ"
ยูกิทั้งโกรธและเจ็บปวด กระแทกหวีลงบนโต๊ะปัง !
มาโกะโตะเปิดประตูเปิดเข้ามา
"ยูกิ...ชั้นมีเรื่องจะบอกเธอ"
ยูกิอารมณ์โกรธโฮชิยังคุกรุ่น
"มีอะไรก็พูดมา"
"แต่เธอต้องสัญญากับชั้นก่อนว่าถ้าชั้นบอกเธอ เธอจะต้องไม่ทำร้ายริเอะ"
คำต่อรองของมาโกะโตะมาจี้ใจดำยูกิพอดี ยูกิสะบัดหน้าโมโหพุ่งเข้าไปบีบคอ มาโกะโตะพยายามแกะมือยูกิ ออกแต่ไม่ได้ผล จนหายใจไม่ออก
"ยะ..ยูกิ..ทำร้ายชั้นทำไม"
ยูกิบีบคอมาโกะโตะ
"ชั้นเกลียดการต่อรอง ! ถ้าชั้นอยากจะทำหรือไม่อยากทำอะไร ใครหน้าไหนก็ห้ามชั้นไม่ได้ โดยเฉพาะมนุษย์กระจอกอย่างแก ไม่มีสิทธิ์มาต่อรองกับชั้น ! จำเอาไว้"
ยูกิเหวี่ยงมาโกะโตะลอยไปติดกำแพง เจ็บปวด
"ตกลงแกมีเรื่องอะไรจะบอกชั้น"
มาโกะโตะมองยูกิแล้วคิดถึงคำพูดของริเอะที่เตือนเขา
"อีกไม่นานหรอกค่ะ พอเราหมดประโยชน์กับมัน มันจะต้องฆ่าเราทิ้งแน่นอน "
มาโกะโตะตัดสินใจพลิกลิ้นบอกไปว่า
"ริเอะบอกว่าอาคิระกำลังใจอ่อนกับริเอะ แผนที่เธอจะจับคู่อาคิระกับรินดาราเพื่อทำให้โฮชิเสียใจคงจะไม่ได้ผล ถ้าเธออยากทำให้ท่านชายโฮชิเสียใจคงต้องใช้วิธีอื่น"
"ถ้าความรักของโฮชิกับนังเมียวโจทำลายยากเย็นนักล่ะก็ ชั้นก็จะใช้ความรักที่โฮชิมอบให้พวกมิยาคาวะเป็นเครื่องมือ ชั้นจะสั่งสอนเขาให้รู้สึกว่าเวลาความรักความหวังดีถูกตีค่าเป็นสิ่งเลวร้าย มันเจ็บปวดมากแค่ไหน"
ยูกิมีแผนร้าย มาโกะโตะมองยูกิด้วยสายตาไม่หวังดี
รินดารายืนเหม่อลอยทอดสายตาออกไปนอกหน้าต่าง คิดถึงคำที่อาคิระสารภาพ
"ได้ยินที่ผมพูดใช่ไหมรินดารา ผมแคร์คุณคนเดียว"
รินดาราข่มตาลงไม่ให้ตัวเองคิดถึงมัน เสียงโฮชิดังขึ้น
"การพยายามลืมปัญหาไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ถูกต้องนะฮิคาริ"
รินดาราหันไปเห็นโฮชิยืนอยู่ข้างหลัง
"ชั้นไม่ได้มีปัญหาอะไรค่ะท่านชาย"
โฮชิยิ้มละมุนก้าวเข้าไปใกล้รินดารา จับมือเธอมาเกาะกุม ใช้ปลายนิ้วจากมืออีกข้างไล้เส้นผมบนหน้าผากเธอ
"ฮิคาริ ถึงชั้นจะอยู่ห่างเธอมากว่าสี่ร้อยปี แต่ชั้นยังจำทุกอย่างที่เกี่ยวกับเธอได้ดี แล้วทำไมชั้นจะดูไม่ออกว่าตอนนี้เธอกำลังมีเรื่องทุกข์อยู่ในใจ เรื่องนั้นก็เป็นเรื่องที่ทำให้เธอสับสนตัดสินใจไม่ได้"
รินดาราเงียบแทนคำตอบว่าใช่
"บอกชั้นได้ไหมว่าเธอทุกข์ใจเรื่องอะไร ชั้นจะช่วยเธอตัดสินใจเอง"
ความหวังดีของโฮชิ ยิ่งทำให้รินดารายิ่งหนักใจ เธอจึงค่อยๆ ชักมือตัวเองออกมาจากมือโฮชิอย่างสุภาพแล้ว เดินเลี่ยงหลบไปทางอื่น ไม่อยากสบตากับเขา
โฮชิมองที่มือตัวเอง...อึ้งไปที่ถูกรินดาราทำเหมือนปฎิเสธเขา
"ชั้นไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ ค่ะท่านชาย เชื่อชั้นเถอะค่ะ"
"ตามใจเธอก็แล้วกัน แต่อย่าลืมว่าชั้นยังอยู่ตรงนี้เสมอนะ"
รินดารายิ้มรับ แล้วจู่ๆ ปานแดงที่หลังของรินดาราสว่างวาบ
"ฮิคาริ เป็นอะไร"
"ไม่รู้ค่ะ อยู่ดีๆ ก็ปวดปานที่หลัง ...ปวดเหมือน เหมือนว่าเป็นสัญญาณเตือนอะไรบางอย่าง"
รินดารากับโฮชิไม่สบายใจ
มิกิกำลังจิบชาจากถ้วยกระเบื้องแล้วส่งถ้วยชาคืนให้ไอ ไอรับไปวางบนถาดวางปั้นน้ำชา
ส่วนมิกิกำลังเตรียมกรรไกร กล่องใส่เข็มด้าย และอุปกรณ์เลาะเส้นไหมใส่กล่อง
วันนี้ไอใส่ชุดเป็นกางเกงที่มีเสื้อตัวโคร่งยาวๆ คลุมปิดขอบเอวของกางเกงเพื่อให้ง่ายต่อการซ่อนของที่จะไปขโมย
"ไอว่าวันนี้คุณย่าพักก่อนไม่ดีหรือคะ พรุ่งนี้ค่อยเริ่มเลาะเส้นไหมทองคำใหม่ วันนี้คุณย่าทำมาทั้งวันแล้ว ถ้าหักโหมมากเกินไปจะไม่ดีต่อสุขภาพนะคะ"
"ย่าไม่อยากเสียเวลาไปเปล่าๆแม้แต่คืนเดียว แต่ไอไม่ต้องเป็นห่วงย่านะ ย่าทำไม่นาน เดี๋ยวก็กลับมานอนแล้ว"
"ถ้าอย่างงั้นให้ไอขึ้นไปช่วยไหมนะคะ"
"อย่าดีกว่า เส้นไหมจากขนนกกระเรียนทองคำมีความละเอียด เส้นเล็กและบางมาก เวลาเลาะต้องใช้ความชำนาญสูง แต่ถ้าไออยากช่วย ช่วยขนกล่องอุปกรณ์เลาะเส้นไหมขึ้นไปบนหอคอยให้ย่าดีกว่า"
ไอแกล้งยิ้มสดใส ย่ามิกิกำลังจะลุกขึ้น แต่จู่ๆ ก็เซ จะเป็นลม ไอรับร่างมิกิและแกล้งตกใจ
"คุณย่า ! คุณย่าเป็นอะไรไปคะ"
"ย่า...ย่าเวียนหัวจังเลย"
ไอยิ้มร้ายแล้วเหลือบมองที่กาน้ำชา
ก่อนหน้านี้ ไอเปิดฝากาน้ำชาออก มองออกไปที่ประตูห้องให้แน่ใจว่าไม่มีใครมาแล้วนำซองพลาสติกใสที่มีซองสีขาวอยู่ข้างในเหยาะลงไปในกาน้ำชา
มิกิตาลอยคว้างแล้วหลับลงไปในวงแขนของไอ
"ฝันดีนะคะคุณย่า"
โฮชิเดินมาส่งรินดาราที่หน้าห้อง
"ชั้นบอกว่าชั้นเดินลงมาเองได้ ท่านชายไม่น่าต้องลำบากเดินลงมาส่งชั้นเลย"
โฮชิจับมือรินดารา
"ชั้นอยากแน่ใจว่าเธอถึงห้องอย่างปลอดภัย ส่วนเรื่องที่เธอเจ็บปาน เธอไม่ต้องกลุ้มใจไปนะ อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ใครก็ห้ามไม่ได้"
รินดารายิ้มรับ
ไอเดินผ่านเข้ามาเห็นรินดารากับโฮชิก็รีบหลบ โผล่หน้าแอบมองไปที่ทั้งสองแล้วยิ้มร้ายก่อนจะรีบเดินออกไป
ห้องกิโมโนโฮชิ ไอจับผืนผ้าไหมขนนกกระเรียนทองที่ได้มาจากเมืองไทยแล้วยิ้มร้าย ก่อนจะเอามือถือออกมากดโทร.ออก รอสายสักพัก
"ฮิเดะ..ชั้นทำสำเร็จแล้ว..ชั้นกำลังจะเอาไปให้เธอเดี๋ยวนี้"
ไอเก็บผ้าซุกใส่ในขอบกางเกง ดึงเสื้อลงมาปิดให้มิด แล้วกำลังจะหันกลับไปที่ประตู แต่โฮชิเปิดประตูเข้ามาพอดี
"ท่านชาย"
ไออึ้งตะลึงงัน ขณะที่โฮชิแค่แปลกใจที่เห็นไอ
"เธอเข้ามาทำอะไรในนี้"
ไออึกอัก..พยายามทำตัวให้เป็นปกติมากที่สุด
"เอ่อ..คือ ชั้นขึ้นมาเอากล่องเครื่องมือเลาะเส้นไหมของให้คุณย่ามิกิลงไปทำความสะอาดค่ะ"
"ชั้นเห็นมิกิถือลงไปตั้งแต่เมื่อเย็นแล้วนะ"
ไออึ้ง แต่กลบเกลื่อน
"เหรอคะ สงสัยคุณย่าจะเอาไปวางลืมไว้ที่อื่นแล้วคิดว่าไม่ได้ถือลงไปด้วย ถ้าอย่างงั้นชั้นขอตัวก่อนนะคะ"
ไอก้มโค้งทำความเคารพท่านชายแล้วหันหลังจะเดินออกไปจากห้อง แต่โฮชิเรียก
"เดี๋ยว ไอ"
ไอสะดุ้ง...ลุ้นมากว่าจะถูกจับได้หรือไม่ แต่พยายามข่มความกลัว ก่อนจะหันกลับไปหาโฮชิ
"คะ...ท่านชาย"
โฮชิก้าวเข้าไปใกล้ไอ...ดวงตาของเขาที่มองไอมีพลังมากซะจนไอตัวเก็งไปหมด
"ฝากบอกมิกิให้ด้วยว่าคืนนี้ไม่ต้องขึ้นมาทำงานแล้ว ให้มิกิพักผ่อนเถอะ"
ไอโล่งใจ
"ค่ะ แล้วชั้นจะบอกคุณย่าให้ค่ะ"
ไอรีบออกไป โฮชิมองตามไอไปอย่างสงสัยแล้วหันไปเห็นว่ากล่องที่ใส่ผ้าไหมขนนกกระเรียนทองคำไม่ได้ปิดสนิท โฮชิปราดเข้าไปเปิดกล่องดู ถึงพบว่าผ้าขนนกกระเรียนหายไปแล้ว !
"ไอ !"
โฮชิวิ่งตามไอออกไป
ไอวิ่งออกมาจากหอคอยแล้วกำลังจะวิ่งไปทางหนึ่ง สักพักโฮชิวิ่งตามลงมา
"ไอ หยุดเดี๋ยวนี้นะไอ"
ไอหันกลับไป เห็นว่าโฮชิตามมา ไอตกใจแต่ก็ตัดสินใจวิ่งไป
โฮชิวิ่งตามไอไป อาคิระเดินผ่านมาได้ยินเสียงโฮชิกับไอก็หันไปมองตาม
ไอวิ่งเข้ามาและคอยเหลียวกลับไปมองด้านหลัง ทำให้ไม่ทันระวัง สะดุดก้อนหินล้มลง
"โอ๊ย !"
ไอพยายามลุกขึ้น แต่ลุกไม่ไหว แล้วฮิเดโนริก็โผล่เข้ามาย่อตัวลงดูไอ
"ไอ ผ้าอยู่ไหน"
"อยู่นี่ค่ะ"
ไอพูดพร้อมดึงผ้าออกจากขอบกางเกงส่งให้ ฮิเดโนริรับไปดูแล้วยิ้มร้ายอย่างพอใจ แล้วเสียงโฮชิก็ดังขึ้น
"ไอ ! หยุดเดี๋ยวนี้นะไอ"
ทั้งสองเห็นโฮชิวิ่งเข้ามาจากไกลๆ กำลังจะมุ่งหน้ามาที่เธอ เขาขยับตัวเหมือนกำลังจะไป ไอคว้าแขนไว้
"ฮิเดะ...อย่าทิ้งชั้นไว้"
ฮิเดโนริสงสารไอจึงช้อนร่างไอขึ้น ไอโอบรอบคอเขา ฮิเดโนริพาไอวิ่งหายไปในความมืด...เสียงคำราของปีศาจสุนัขจิ้งจอกดังก้องป่าสน
โฮชิวิ่งเข้ามาแต่ไม่เห็นใครแล้ว ได้ยินแต่เสียงคำราม โฮชิหันไปทางเสียงแล้วมีสีหน้าไม่สบายใจ
สักพักอาคิระวิ่งตามเข้ามา
"เกิดอะไรขึ้นครับท่านชาย"
โฮชิไม่ตอบแต่มีสีหน้าไม่สบายใจ
เวลาต่อมา ณ คฤหาสน์โคสึกะ
ตอนกลางคืน ผ้าขนนกกระเรียนทองคำวางอยู่บนพานในมือไดซุเกะ ยูกิ ฮิเดโนริ ไอ อัตซุโอะยืนกระจายอยู่ในห้อง ทุกคนมุ่งความสนใจไปที่ผ้า ไดซุเกะยังมีอาการป่วยปรากฎอยู่และหันไปหาไอที่นั่งคลำข้อเท้าอยู่ที่เก้าอี้
"ขอบใจเธอมากที่ทำเพื่อตระกูลโคสึกะ"
ไอยิ้มอ่อนหวาน
"อะไรที่จะทำให้ฮิเดะมีความสุข ชั้นยินดีทำค่ะ"
ไอเป็นฝ่ายจับมือฮิเดโนริและอมยิ้มสุขใจที่ดูเหมือนเธอจะเป็นคนสำคัญของตระกูลโคสึกะ เขายิ้มให้
ยูกิมองไอแล้วส่ายหน้าสมเพชกับความโง่เขลา
ไดซุเกะส่งพานให้ยูกิ
"เป็นหน้าที่ของเธอแล้วยูกิ"
ยูกิรับพานมาแล้วจิกสายตาเพ่งลงไปที่ผ้า คนอื่นๆ มองอย่างรอคอย แล้วดวงตาเปลี่ยนเป็นสีฟ้าวาบ
ชั่วพริบตาผ้าไหมขนนกกระเรียนก็สลายกลายเป็นผุยผง
ไออึ้ง ขณะที่พวกตระกูลโคสึกะหัวเราะในลำคอด้วยความพอใจ
"ในที่สุดเทพเจ้านกกระเรียนก็จะกลับสวรรค์ไม่ได้ มันจะต้องทนทุกข์ทรมานติดอยู่บนโลกนี้ตลอดไป"
ยูกิบอก
"ยัง ! แค่นี้ยังไม่สาสมกับสิ่งที่เขาทำไว้กับเทพเจ้าจิ้งจอกของพวกท่าน เราต้องทำให้โฮชิตายทั้งเป็นถึงจะสาสม"
อัตซุโอะบอก
"ให้ผมจัดการฆ่าพวกมิยาคาวะทุกคนเลยดีไหมครับ"
ไอได้ยินแล้วชะงักอึ้ง ตกใจคาดไม่ถึงว่าเรื่องจะบานปลายไปมากอย่างนี้ ยิ่งยูกิและพวกโคสึกะหัวเราะกันเหมือนจะเห็นด้วยกับความอัตซุโอะ ไอยิ่งหน้าซีดใจไม่ดี
ไอถามฮิเดโนริอย่างเป็นกังวล
"ถึงจะต้องฆ่ากันจริงๆเหรอคะฮิเดะ ไม่มีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้แล้วหรือไง"
"ถ้าคุณปู่เห็นว่าวิธีนี้ดีที่สุด โคสึกะทุกคนก็ต้องทำตาม"
ไอยิ่งร้อนใจ
"แต่พวกเขาเป็นครอบครัวของชั้นนะฮิเดะ ! พวกเธอจะฆ่าเขาไม่ได้ ไหนเธอบอกว่าถ้าท่านชายโฮชิได้กลับสวรรค์ ตระกูลโคสึกะจะล่มสลาย นี่ไง...ชั้นก็ช่วยตระกูลเธอได้แล้ว ทุกอย่างก็ควรจะจบ ฮิเดะ..เธอต้องห้ามคุณปู่ไม่ให้ทำร้ายครอบครัวของชั้น"
ฮิเดโนริมองไอและยิ้มกวน
"ชั้นว่าป่านนี้ท่านชายโฮชิคงจะทำให้พวกมิยาคาวะไม่นับเธอรวมอยู่ในครอบครัวแล้วก็ได้"
ไอโกรธแต่ต้องอดกลั้นไม่อาละวาดใส่เขา
"แต่ยังไงชั้นก็ไม่อยากเห็นพวกเขาตาย เหมือนที่เธอไม่อยากเห็นตระกูลเธอล่มสลาย"
"อย่าเอาชั้นไปเทียบกับเธอ ชั้นไม่เคยคิดทรยศตระกูลตัวเองเหมือนเธอ"
"แล้วชั้นทำเพื่อใครล่ะ"
"เธอทำเพื่อตัวคุณเองต่างหากล่ะไอ เธออยากให้ผมรักเธอ ให้ความสุขกับเธอ เธอถึงยอมทำทุกอย่าง"
ไออึ้งคาดไม่ถึง เริ่มตาสว่างแล้วว่าที่ผ่านมาเธอเป็นแค่เครื่องมือของเขา
"ที่ผ่านมาเธอหลอกใช้ชั้นเหรอฮิเดะ"
"คิดซะว่าเป็นธุรกิจแล้วกัน ชั้นให้ความสุขกับเธอ เธอก็ให้ความสุขกับตระกูลของชั้น สุดท้ายก็วิน-วิน"
"แต่ชั้นรักเธอ เธอจะต้องให้ชั้นทำยังไง ถึงจะเห็นค่าความรักที่ชั้นมีให้เธอบ้าง บอกชั้นมาสิฮิเดะ ต้องให้ชั้นทำยังไง"
ไอโวยวายและทุบตี เขาจับแขนไอไว้ทั้งสองข้าง ตะคอกใส่หน้าอย่างรำคาญหงุดหงิด
"ชั้นจะไปบอกความจริงกับท่านชายว่าโคสึกะกับนางปีศาจหิมะคิดจะทำอะไรกับเขา"
ไอจะวิ่งไป เขากระชากตัวไอมากอดรัดแน่น
"รู้ไหม...ถ้าปู่ได้ยินที่เธอพูด เธอจะเป็นมิยาคาวะคนแรกที่ต้องตายในบ้านโคสึกะ"
"ชั้นไม่กลัว ! ชั้นมอบชีวิตให้คนที่ชั้นรักไปหมดแล้ว ถ้าเขาไม่เห็นค่าของมัน ชีวิตชั้นก็ไม่มีประโยชน์อะไร"
ไอสะบัดตัวออก ฮิเดโนริจับตัวไว้แล้วจ้องตาอย่างอารมณ์เสีย
"เพราะเธอเป็นแบบนี้ไง ชั้นถึงรักคุณไม่ลง"
ฮิเดะปล่อยร่างไอทิ้งลงพื้นอย่างหงุดหงิด แล้วเดินออกไป เลื่อนปิดประตูปัง
"ปล่อยชั้นออกไปเดี๋ยวนี้นะ ! ปล่อยๆ ฮิเดะ เธอจะทำกับชั้นแบบนี้ไม่ได้ ได้ยินไหมฮิเดะ ปล่อยชั้นออกไปเดี๋ยวนี้ "
ไอเคาะจนหมดแรงจึงทรุดตัวลงร้องไห้
ฮิเดโนริออกมาจากในห้องอย่างหงุดหงิดหัวเสีย อัตซุโอะยืนคอยอยู่หน้าห้อง...ได้ยินและรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นในห้อง
"เฝ้าไว้..อย่าให้ออกไปที่มิยาคาวะได้จนกว่าชั้นจะอนุญาต" เขาส่งมือถือให้อัตซุโอะ "แล้วก็
นี่มือถือของไอ เก็บไว้จะได้ติดต่อใครไม่ได้"
"ครับคุณฮิเดะ"
ยูกิเข้ามาได้ยินเข้าพอดี
"คนรักของเธอทำอะไรผิดมากนักหรือ ถึงต้องกักขังเอาไว้แบบนี้"
"ไอจะไปบอกมิยาคาวะเรื่องแผนทำลายโฮชิ ชั้นไม่อยากให้พวกมิยาคาวะรู้ เราจะจัดการกับพวกมันได้ยากขึ้น ... อย่าลืมที่ชั้นสั่งล่ะ"
อัตซุโอะก้มโค้งหัวรับคำ ฮิเดโนริเดินออกไป
ยูกิมองตามเขาและมองไปที่ห้อง...ยิ้มมีแผนร้าย
รินดาราตกใจ
"คุณไอขโมยผ้าขนนกกระเรียนทองไป"
อาคิระกับโฮชิเครียด
"แสดงว่าเรื่องที่เมืองไทยที่เราเคยสงสัยคุณไอ เราไม่ได้คิดไปเอง"
"ใช่ ที่ผ่านมาเราหลงกลไอ ไอทำให้เราไว้ใจว่าไม่ได้สมรู้ร่วมคิดกับฮิเดะ ไอไม่สมควรเป็น
มิยาคาวะอีกต่อไป"
อาคิระชกกำแพงอย่างโมโห รินดาราคว้าตัวอาคิระห้าม
"คุณอาคิระคะ อย่าคะ ! คุณต้องใจเย็นๆ ก่อนนะคะ อย่าเพิ่งตัดสินคุณไอ คุณเองก็เคยบอกชั้นว่าตระกูลโคสึกะทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ บางทีคุณไออาจจะถูกพวกเขาหลอกใช้"
อาคิระพยักหน้าให้ รินดารายิ้มนิดๆและลูบหลังมืออาคิระเพื่อปลอบใจ โฮชิมองภาพของทั้งสองด้วยสายตาเศร้า
"คุณต้องสงบสติอารมณ์ให้ดี แล้วมาช่วยกันคิดดีกว่าค่ะว่าจะเอาขนนกกระเรียนกลับคืนมาให้ท่านชายได้ยังไง"
นานะรีบเข้ามา
"แย่แล้วค่ะ คุณท่านเป็นอะไรก็ไม่รู้ค่ะ"
ทั้งสามหันขวับไปมองนานะอย่างตกใจ
เคโกะช้อนร่างมิกิที่หลับแน่นิ่งอยู่ในอ้อมกอด โฮชิ รินดารา อาคิระและนานะเปิดประตูเข้ามา
"คุณย่า"
ทุกคนปราดเข้าไปดูมิกิ
"คุณย่าเป็นอะไรเคโกะ"
"ไม่ทราบค่ะ ดิชั้นกับนานะเดินสำรวจความเรียบร้อยแล้วเห็นไฟในห้องคุณท่านเปิดอยู่ ก็เลยจะเข้ามาดู ก็เจอคุณท่านนอนหลับอยู่ตรงนี้ ดิชั้นกับนานะปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น"
"ขอชั้นดูมิกิหน่อย" โฮชิจับข้อมือเช็คเส้นชีพจร " มิกิไม่เป็นอะไรมาก แค่หลับลึกเท่านั้นเอง"
"แต่ปกติคุณย่าไม่ใช่คนหลับลึกขนาดนี้"
โฮชิครุ่นคิดแล้วเหลือบไปเห็นปั้นน้ำชาที่วางอยู่ใกล้ๆ จึงนึกเอะใจขึ้นมา
"น้ำชานั้นใครชงมาให้มิกิ"
"คุณไอเป็นคนชงมาให้คุณท่านค่ะ"
ทั้งสามมองหน้ากัน...รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับมิกิ อาคิระกัดฟันกรอด..โกรธจัดมาก
"พวกโคสึกะทำอะไรกับไอ ไอทำถึงยอมทำเพื่อพวกมันได้มากอย่างนี้ ท่านชายครับ ผมฝากคุณย่าด้วยนะครับ"
"เธอจะไปไหน"
"ไปโคสึกะ"
อาคิระลุกออกไปเลย รินดาราลุกตาม
"คุณอาคิระคะ ! คุณอาคิระ"
โฮชิมองตามไปอย่างไม่สบายใจ
อัตสุโอะยืนอยู่หน้าประตู ไอเงียบเสียงไปแล้ว
"หมดฤทธิ์สักที น่ารำคาญ"
อัตซุโอะกำลังจะเดินออกไปจึงหันไปทางหนึ่ง แล้วเจอยูกิยืนอยู่ตรงหน้าในระยะประชิด
"คุณมาทำอะไรตรงนี้"
ยูกิไม่ตอบ แต่มองตาอัตซุโอะ ดวงตาของเธอเปลี่ยนเป็นสีฟ้าวาบ...ทำให้ร่างของอัตซุโอะกระตุกเบาๆ หนึ่งครั้ง แล้วทิ้งตัวลงกับพื้นสลบไป ยูกิยิ้มร้าย
ไอนั่งร้องไห้สะอื้นอยู่กับพื้น ประตูเปิดผ่างออกเอง ไอหันไปมองยูกิก้าวเข้ามาในห้องแล้วยิ้มให้ไอด้วยยิ้มเย็น ไอถอยหลังหนีอย่างหวั่นเกรง
"เธอเข้ามาทำอะไรในนี้ คุณปู่ไดซุเกะสั่งให้มาฆ่าชั้นเหรอ"
ยูกิน้ำเสียงหวานฉ่ำ
"ต่อให้เขาสั่ง...ชั้นก็ไม่ทำ ชั้นไม่มีวันทำร้ายผู้หญิงหัวอกเดียวกันหรอก ชั้นชอบเธอนะไอ เธอยอมทำทุกอย่างเพื่อคนรักเหมือนชั้นและเธอก็โดนความรักเล่นงานให้ต้องเจ็บปวดหัวใจเจียนตายเหมือนชั้น"
"เธอต้องการอะไรจากชั้น"
"ชั้นไม่ได้ต้องการอะไร แค่อยากมาช่วยเธอ จงไปซะ กลับไปที่มิยาคาวะ ไปแก้ไขความโง่เขลาที่ปล่อยให้ความรักบังตา สั่งสอนให้ฮิเดะรู้ว่าอย่าใช้ความรักรังแกเธออีก"
อเห็นด้วย
"ขอบใจเธอมาก"
ยูกิยิ้มหวาน ไอวิ่งออกไปจากห้อง ยูกิมองตามไอด้วยรอยยิ้มสะใจ
"โฮชิ...เธอต้องเจ็บปวดที่เห็นมิยาคาวะแตกแยกกันเพราะเธอ"
กลกิโมโน ตอนที่ 11 (ต่อ)
ฮิเดโนริเดินมาที่ห้องแล้วเห็นอัตซุโอะนอนฟุบอยู่หน้าห้อง ก็ตกใจปราดเข้าไปดูที่ห้อง...พบว่าในห้องไม่มี ไออยู่แล้ว เขาโกรธจัด
ไอวิ่งลนลานหนีออกมาจากด้านในคฤหาสน์โคสึกะ แล้วเจอกับอาคิระและรินดาราที่กำลังจะมุ่งหน้าไปที่โคสึกะพอดี ไออึ้งตกใจ
"อาคิระ ! อาคิระมาทำอะไรที่นี่"
อาคิระโกรธจัด
"มาเอาของที่ไอขโมยมาให้พวกโคสึกะไงล่ะ"
"อาคิระกลับไปเถอะ ไม่มีประโยชน์หรอก เส้นไหมขนนกกระเรียนทองถูกทำลายไปแล้ว"
อาคิระกับรินดาราอึ้งตกใจ แล้วอาคิระปราดเข้าไปคว้าไหล่ไอบีบแน่น
"ชั้นไม่เชื่อว่าเธอจะหักหลังมิยาคาวะได้ลงคอ พวกโคสึกะทำอะไรกับเธอ มันใช้วิธีอะไรบังคับ บอกมา...ชั้นจะจัดการพวกมันเอง"
ไอร้องไห้พูดไม่ออก อาคิระยิ่งโกรธเขย่าไหล่ไออย่างแรง
"บอกมาสิไอ ! บอกมา"
ไอร้องไห้ฟูมฟาย
"ไม่มีใครบังคับชั้นหรอกอาคิระ ชั้นทำทุกอย่างด้วยความเต็มใจ เพราะชั้นมันโง่เอง...โง่ที่หลงเชื่อว่าฮิเดะรักชั้น"
อาคิระและรินดาราอึ้งไป..เข้าใจได้เลยว่าที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นกับไอ
"ไอ !"
ไอหันไปมอง เห็นฮิเดโนริเดินเร็วๆเข้ามา ไอรีบหลบหลังอาคิระ พอเขาเห็นอาคิระและรินดารา..สีหน้าที่บึงตึงอยู่ ก็เปลี่ยนเป็นยิ้มอย่างผู้ชนะ
"มารับตัวกันถึงที่เลยเหรอ ดีเหมือนกัน...คืนนี้เป็นคืนดีที่โคสึกะจะฉลองให้กับเทพเจ้าสุนัขจิ้งจอก ที่นี่จะได้มีแต่โคสึกะผู้จงรักภักดีต่อตระกูลตัวเอง"
เขาจงใจมองไปทางไอ ไอมองเขากลับอย่างขุ่นเคือง
"จงรักภักดีต่อตระกูลตัวเอง โดยใช้ผู้หญิงเป็นเครื่องมือ นี่น่ะเหรอศักดิ์ศรีของโคสึกะ"
ฮิเดะโนริยิ้มกว
"แกก็พูดเกินไป เวลาชั้นกับไอมีความสุขกันเราก็มีกันจริงๆ เรื่องอื่นเป็นแค่ผลพลอยได้"
อาคิระฟาดหมัดเข้าเต็มหน้า ฮิเดโนริหน้าหัน..เลือดกลบปาก
" อาคิระ ! คืนนี้ชั้นจะทำหน้าที่ของโคสึกะคือเอาเลือดมิยาคาวะบูชาให้เทพเจ้า"
ฮิเดโนริพุ่งเข้าไปต่อสู้กับอาคิระด้วยมือเปล่า อาคิระสู้กลับอย่างไม่ลดละและมีท่าทางการต่อสู้ที่นิ่งสุขุมกว่า ทำให้อาคิระเหนือกว่าฮิเดโนริ ขณะที่รินดารากับไอร้อนใจ ไอเข้าไปห้าม
"ฮิเดะหยุด "
ไอถูกฮิเดโนริผลักออกมา กระเด็นไปกระแทกกับต้นไม้ทรุดล้มลงกับพื้น...สีหน้าเจ็บปวด
"คุณไอ"
รินดาราวิ่งเข้าไปดูไอ อาคิระวิ่งตามฮิเดะไปทางศาลเทพเจ้านกกระเรียน
"อาคิระอย่าไป !" ไอบอกกับรินดารา "ต้องห้ามอาคิระนะรินดารา พวกโคสึกะกับนางปีศาจหิมะ จะฆ่ามิยาคาวะเพื่อให้ท่านชายโฮชิเจ็บปวด"
รินดาราอึ้ง
อาคิระวิ่งเข้ามาถึงหน้าศาล แต่ไม่เห็นใคร
"ฮิเดะ...แกอยากเอาเลือดชั้นนักไม่ใช่หรือไง แกจะซ่อนตัวอยู่ทำไม"
ดวงตาของฮิเดโนริเปลี่ยนเป็นสีส้ม กรงเล็บแหลมโผล่ออกมาจากปลายนิ้วทั้งห้า แล้วจะพุ่งใส่ร่างของอาคิระ
อาคิระหันขวับไปมองแล้วกระโดดหลบได้ทันอย่างเฉียดฉิว ร่างอาคิระล้มกลิ้งไปบนพื้น อาคิระเจ็บปวดแล้วก้มดูแผลจากกรงเล็บของลูกครึ่งสุนัขจิ้งจอก เลือดไหลโชกตรงบริเวณหน้าท้องของเขา
ฮิเดโนริเข้าไปจะฟาดกรงเล็บใส่หน้าอาคิระ แต่อาคิระคว้าข้อมือของเอาไว้ได้
กรงเล็บของฮิเดโนริอยู่ห่างหน้าของอาคิระห่างไปไม่ถึงคืบ อาคิระพลิกตัวมาถีบร่างฮิเดโนริแล้วกลิ้งตัวหลบ มือเขาแตะที่ท้อง จึงเห็นว่าชุ่มไปด้วยเลือด
ฮิเดโนริยืนมองอาคิระด้วยความสะใจ
"คืนนี้ชั้นขัดขวางไม่ให้เทพเจ้านกกระเรียนของแกกลับสวรรค์ได้สำเร็จไปแล้ว ชั้นก็จะเอาเลือดมิยาคาวะอย่างแกบูชาให้กับโคสึกะ"
ฮิเดโนริวิ่งพุ่งเข้าไปหาอาคิระ แต่เสียงรินดาราดังขึ้น
"อย่า"
รินดาราวิ่งเข้าไปขวางหน้าอาคิระ
ปานด้านหลังของรินดาราสะท้อนแสงวาบออกมาจากเสื้อ พร้อมๆกับที่มือของรินดาราที่แตะโดนตัวของฮิเดโนริ เกิดแสง...สร้างความเจ็บปวดให้ลูกครึ่งปีศาจจนต้องกระเด็นออกไปล้มกองลงกับพื้น
ดวงตาสีส้มและกรงเล็บหายไป กลับมาเป็นมนุษย์ปกติ แต่มีอาการกระอักข้างใน รินดาราปราดเข้าไปดูอาคิระอย่างห่วงใย
"อาคิระ คุณเป็นยังไงบ้างคะ"
อาคิระกลั้นความเจ็บ
"ผมไม่เป็นอะไร"
ฮิเดโนริมองความเอื้ออาทรที่รินดารามีต่ออาคิระอย่างเจ็บปวดหัวใจ
"ให้ผู้หญิงปกป้องตัวเอง นี่น่ะเหรอศักดิ์ศรีของมิยาคาวะ"
"ชั้นยินดีปกป้องอาคิระ เพราะเขาเป็นคนดีไม่เหมือนคุณ ! คุณอาคิระรักตระกูลตัวเองไม่น้อยไปกว่าคุณ แต่เขาก็ไม่เคยทำร้ายใครเพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อตระกูลตัวเอง"
"ผมก็ทำได้ทุกอย่างเพื่อคนที่ผมรัก"
"สิ่งที่คุณทำไม่ได้เรียกว่าความรัก มันเป็นความเห็นแก่ตัว คนอย่างคุณรักใครไม่เป็น"
"ทำไมผมจะรักไม่เป็น" ฮิเดโนริจ้องรินดาราใช้สายตาแทนคำพูดว่า...ผมรักคุณ
รินดาราไม่รับรู้ถึงสายตานั้น แต่กลับมองอย่างเกลียดชัง
"ถ้าคุณรู้จักความรัก คุณจะไม่มีวันใช้ความรักของไอมาเป็นเครื่องมือ ชั้นเคยคิดว่าถึงคุณจะมีความผิดปกติแค่ทางร่างกาย แต่คุณก็ยังเป็นคนดี แต่ตอนนี้ชั้นแน่ใจแล้วว่าไม่ใช่แค่ร่างกายของคุณที่ผิดปกติ จิตใจของคุณนั่นแหละที่ผิดปกติยิ่งกว่า"
"รินดารา !! สำหรับคุณ ผมมันน่ารังเกียจมากนักเหรอ"
"ใช่..คุณน่ารังเกียจมาก และถ้าคุณยังปล่อยให้ความเกลียดชังความเห็นแก่ตัวทำร้ายคนอื่นอยู่แบบนี้ สักวันคุณจะไม่เหลืออะไรเลย แม้กระทั่งความเป็นมนุษย์ในตัวคุณ"
รินดาราหันไปประคองอาคิระขึ้นแล้วพาเดินออกไป ฮิเดโนริกัดกรามแน่นมองตามอย่างเจ็บปวดรวดร้าว
ฮิเดะโนริเดินเร็วๆเข้ามา...คำพูดของรินดาราก้องอยู่ในหัว
เขาชกเสาของศาลเทพเจ้าสุนัขจิ้งจอกเพื่อระบายอารมณ์ แล้วทรุดตัวนั่งลงกับพื้นอย่างเจ็บปวดหัวใจ
วันใหม่ รัมิกิตบหน้าไอเต็มแรง
"พูดออกมาสิ ! มิยาคาวะทุกคนทำอะไรผิดต่อเธอ เธอถึงหักหลังพวกเราได้ลงคอ"
ไอก้มหน้ายอมรับผิด..น้ำตาไหลพรากๆ
"มิกิ ใจเย็นๆ ก่อนเถอะ มีอะไรค่อยพูดค่อยจากัน" โฮชิบอก
"เรื่องนี้ดิชั้นใจเย็นไม่ไหวหรอกค่ะท่านชาย สิ่งที่ไอทำมันรุนแรงมากเกินไป พูดออกมาสิ ย่าทำอะไรผิด พวกเราทำอะไรผิด"
"ไอแค่อยากได้ความรักจากใครสักคน ตอนอยู่บ้านคุณพ่อคุณแม่ก็รักน้องๆมากกว่าไอ ไอมาอยู่ที่นี่ก็เพราะคิดว่าคุณย่าจะรักไอ เมตตาไอ ให้ความอบอุ่นกับไอ แต่เปล่าเลย คุณย่าทำเหมือนไอเป็นคนอื่น คุณย่าเห็นคุณรินดาราสำคัญกว่าไอ เวลามีเรื่องสำคัญ ไอจะถูกกันออกไป ทั้งๆ ที่ปากบอกว่าไอคือคนในครอบครัว"
"ตอนนี้ไอก็รู้เหตุผลแล้วใช่ไหมว่าทำไมย่าถึงต้องทำแบบนั้น"
"ถ้าคุณย่าบอกไอตั้งแต่แรก ไอจะไม่คิดน้อยใจหรือไปโหยหาความรักจากคนอื่นเลยค่ะ"
มิกินิ่งสงบไปสักพักก่อนจะพูดออกมาอย่างเข้าใจจริงๆ ไม่ได้ประชดใดๆ
"ย่าเข้าใจแล้ว เรื่องนี้ย่าผิดเองที่ย่าไว้ใจหลานของย่าน้อยเกินไป ย่าควรจะบอกเรื่องความลับของตระกูลเราซะตั้งแต่แรก"
"ไม่ใช่ค่ะ คุณย่าไม่ผิด ไอผิดเอง ไอต่างหากที่ควรจะไว้ใจความรักของคุณย่าที่มีให้ไอ" ไอคุกเข่าลง " ไอขอโทษนะคะคุณย่า คุณย่าให้อภัยไอนะคะ"
"ย่าให้อภัยไอ แต่ย่าให้อภัยแทนบรรพบุรุษของเราไม่ได้ ต่อไปนี้ไอไม่ใช่มิยาคาวะอีก"
ทุกคนอึ้งตกใจ อาคิระปราดเข้าไปหามิกิ
"คุณย่าครับ ผมว่าเราใจเย็นๆ"
"ไม่เป็นไรหรอกอาคิระ ชั้นทำผิด แค่คุณย่าให้อภัยชั้นมันก็มากเกินพอแล้ว"
ไอก้มโค้งให้มิกิ แต่มิกิหันหลังไม่มองไม่รับคำโค้ง ไอหันไปโค้งให้โฮชิแล้วเดินร้องไห้ออกไป
มิกิจะเดินเข้าไปในห้อง
"คุณย่าครับ"
"ย่าอยากอยู่คนเดียว" มิกิเดินนิ่งออกไป
โฮชิมองภาพเหตุการณ์ทั้งหมดด้วยความทุกข์ใจ
บนหอคอย โฮชิดีดโกโตะบรรเลงเพลงเศร้า รินดาราก้าวเข้ามายืนมองด้วยความสงสารเห็นใจ
"ท่านชายคะ"
โฮชิหยุดบรรเลงโกโตะ แล้วหันมาหารินดารา
"ท่านชาย...คุณเมียวโจส่งชั้นมาเพื่อช่วยพาท่านชายกลับสวรรค์ ยังไงชั้นก็ต้องทำหน้าที่ของชั้นให้สำเร็จ ท่านชายไม่ต้องกังวลไปนะคะ"
"ตอนนี้เรื่องเส้นไหมขนนกกระเรียนทองคำไม่ได้ทำให้ชั้นกังวลได้หรอกฮิคาริ แต่ความทุกข์ของทุกคนที่เกิดขึ้นเพราะชั้นต่างหากที่ทำให้ชั้นไม่สบายใจ"
"ไม่เอานะคะ ท่านชายอย่าคิดมาก พวกเราต้องการกำลังใจจากท่านชายนะคะ แล้วอีกอย่าง ชั้นไม่อยากให้ท่านชายทุกข์ใจไปตามความต้องการพวกโคสึกะกับนางปีศาจหิมะ"
"เธอหมายความว่ายังไง"
"คุณไอบอกว่า..นางปีศาจหิมะกับพวกโคสึกะตั้งใจทำทุกอย่างให้ท่านชายทุกข์ทรมานใจให้มากที่สุดค่ะ"
โฮชิอึ้งไปเลย
"แสดงว่ายังมีต้องมีคนเดือดร้อนเพราะชั้นเพิ่มใช่ไหม"
โฮชิกับรินดาราไม่สบายใจ
ฮิเดโนรินั่งซึมอยู่ในศาลเทพเจ้าสุนัขจิ้งขอก คำพูดของรินดารายังสะเทือนใจเขา
"ชั้นเคยคิดว่าถึงคุณจะมีความผิดปกติแค่ ทางร่างกาย แต่คุณก็ยังเป็นคนดี แต่ตอนนี้ชั้นแน่ใจแล้วว่าไม่ใช่แค่ร่างกายของคุณที่ผิดปกติ จิตใจของคุณ นั่นแหละที่ผิดปกติยิ่งกว่า"
ฮิเดะเจ็บปวด...ฟึดฟัดกับตัวเองอย่างหงุดหงิด
เสียงฮิโตชิร้องไห้กระซิกๆ ดังลอยเข้ามา ฮิเดโนริหันขวับไปทางเสียง ก่อนจะเดินและเห็นฮิโตชินั่งกอดเข่าร้องไห้
"มานั่งร้องไห้อยู่แบบนี้คงจะถูกพวกมิยาคาะไล่กลับมาสินะ"
ฮิโตชิเงยหน้าขึ้นไปมองฮิเดะแล้วตกใจกลัวจึงจะลุกขึ้นวิ่งหนี แต่เขาคว้าต้นคอของฮิโตชิแล้วยกตัวเด็กน้อยขึ้น
"ปล่อย ! อย่าทำฮิโตชิ ฮิโตชิกลัว ฮือๆๆ"
ฮิโตชิร้องไห้โฮ...ฮิเดโนริเกิดความสงสารขึ้นมา จึงปล่อยร่างฮิโตชิลงกับพื้น
"จำใส่หัวของแกเอาไว้นะฮิโตชิ ไม่มีใครอยากให้ภูตผีปีศาจอย่างแกเข้าใกล้หรอก พวกอนุษย์อย่างแกกับชั้นยังไงก็เป็นสิ่งน่ารังเกียจ ถ้าแกไม่อยากทรมานใจที่ถูกรังเกียจอีก แกต้องกลับไปอยู่ในตุ๊กตาฮินะเหมือนเดิม"
"ไม่อยู่ ! ฮิโตชิไม่อยากอยู่ในตุ๊กตาฮินะ"
ฮิโตชิจะวิ่งหนี แต่ฮิเดะคว้าตัวฮิโตชิไว้
"อย่าทำให้ชั้นโมโหได้ไหม ชั้นอุตส่าห์ใจดีกับแก แต่ถ้าแกดื้อแบบนี้ ชั้นจะจำได้ขึ้นมาทันทีว่า เแกเคยคิดทรยศชั้น แกอยากให้ชั้นลงโทษแกใช่ไหม"
ฮิโตชิดิ้นๆ แต่ไม่สามารถต้านแรงของฮิเดโนริได้ ทันใดนั้นเสียงยูกิก็ดังขึ้น
"ปล่อยเขาเดี๋ยวนี้"
ฮิเดโนริหันไปเห็นยูกิยืนอยู่ แต่มือยังไม่ปล่อยฮิโตชิ
"ชั้นบอกให้ปล่อยเขา"
ฮิเดโนริยอมปล่อยร่างฮิโตชิ ยูกิปราดเข้าไปหาฮิโตชิ
"เจ็บมากไหมจ๊ะเด็กน้อย"
ฮิโตชิมองยูกิอย่างกลัวๆ ขณะที่เขามองยูกิอย่างแปลกใจ ยูกิย่อตัวนั่งลงพูดกับฮิโตชิด้วยน้ำเสียงหวานใส
"ไม่ต้องกลัวนะ ชั้นจะปกป้องเธอเอง ชั้นจะไม่ยอมให้ใครขังเธอไว้ในตุ๊กตาฮินะหรอก"
เขาดึงแขนยูกิขึ้นมาแล้วถาม
"บอกมาเดี๋ยวนี้ เธอคิดจะทำอะไรอยู่"
ยูกิยิ้มแต่ไม่ตอบ
ฮิโตชินั่งกอดเข่าตัวลีบอยู่ที่มุมห้อง ยูกิก้าวเข้ามายืนตรงหน้า ฮิโตชิแหงนหน้ามองยูกิด้วยความกลัวไม่ไว้ใจ แต่ยูกิยิ้มหวาน
"โถ...เจ้าเด็กน้อย กลัวชั้นมากเลยเหรอ"
ยูกิย่อตัวนั่งลงข้างๆ ลูบหัวเด็กชายอย่างอ่อนโยน
"เธอทำให้ชั้นได้รับอิสระไม่ต้องทุกข์ทรมานอยู่ในตุ๊กตาฮินะ เธอเป็นผู้มีพระคุณกับชั้น ชั้นไม่ทำร้ายเธอหรอกจ้ะ"
ฮิโตชิคลายความกลัวจากยูกิแล้วค่อยๆ คลี่ยิ้มออกมา
"ไหนเล่าให้ชั้นฟังสิ เมื่อกี้เธอร้องไห้ทำไม ใครแกล้งเธอ"
"อายูมิ อายูมิแกล้งฮิโตชิ อายูมิเอาของปาใส่ฮิโตชิ"
ยูกิแกล้งตกใจ
"ตายจริง ! หนูอายูมิใจร้ายจัง"
"อายูมิใจร้าย ดื้อ ขี้โกหกด้วย อายูมิเคยบอกว่าถึงฮิโตชิจะเป็นผีอายูมิก็จะไม่กลัว"
"เฮ้อ..หนูอายูมิคงจะถูกตามใจจนเคยตัว มารังแกเพื่อนที่แสนดีอย่างเธอได้ยังไง เห็นทีชั้นจะต้องอบรมสั่งสอนอายูมิ อายูมิจะได้เป็นเด็กดี เธอช่วยอะไรชั้นหน่อยได้ไหมจ๊ะ"
ฮิโตชิมองยูกิด้วยสีหน้าแปลกใจ
คืนนั้น อายูมินอนหลับสนิทอยู่บนเตียง สวมสร้อยเหรียญเซมาโมริไว้ด้วย แล้วเสียงร้องเพลงของฮิโตชิก็ดังขึ้นแว่วๆ
"kirakira hikaru…osora no hoshi yo...mabataki shite wa…minna wo miteru... "
อายูมิเริ่มขยับเปลือกตา
ในความฝันของอายูมิ อายูมินั่งรถเข็น อายูมิมองหาที่มาของเสียง แล้วเห็นฮิโตชิยืนร้องเพลงอยู่ห่างออกไป อายูมิดีใจร้องเรียก
"ฮิโตชิ ! ฮิโตชิหายไปไหนมา ไม่เห็นมาเล่นกับอายูมิบ้างเลย"
"ฮิโตชิมาเล่นกับอายูมิไม่ได้"
"ทำไมล่ะ"
ฮิโตชิไม่ตอบ อายูมิมองหน้าฮิโตชิแล้วจำได้
"อายูมิจำได้แล้ว ฮิโตชิเป็นผี"
"ไม่จริงหรอก ถ้าฮิโตชิเป็นผี ฮิโตชิจะมาเล่นกับอายูมิได้ยังไง ถ้าอายูมิอยากให้ฮิโตชิเล่นด้วย อายูมิต้องถอดสร้อยออกก่อน เราจะได้เล่นกันสะดวกๆ ไงล่ะ"
"แต่อายูมิสัญญากับคุณอาไว้ว่าจะไม่ถอดออก"
ฮิโตชิร้อง
"มาเล่นกันเถอะ...มาเล่นกันเถอะ...มาเล่นกันเถอะ"
อายูมิลังเล ฮิโตชิหยุดร้อง หุบยิ้ม แล้วหันหลังจะเดินออกไป
"เดี๋ยวฮิโตชิ ! อายูมิถอดสร้อยออกก็ได้"
ฮิโตชิยิ้มร้าย อายูมิถอดสร้อยเหรียญเซมาโมริออกจากคอ ฮิโตชิหันกลับมา อายูมิเห็นว่าลูกตาของฮิโตชิเป็น สีดำก็ตกใจ
"ฮิโตชิ"
บนเตียง อายูมิกำสร้อยเหรียญเซมาโมริ เสียงร้องเพลงของฮิโตชิดังคลอต่อเนื่อง แล้วแขนของอายูมิก็ตกไปที่ข้างเตียง สร้อยเหรียญเซมาโมริที่อยู่ในมือค่อยๆ ร่วงลงพื้น
เสียงร้องเพลงของฮิโตชิเงียบกริบ
อายูมินอนหลับอยู่บนเตียง พลันลืมตาขึ้น...ลูกตาทั้งสองเปลี่ยนเป็นสีดำสนิท...ยิ้มแสยะ...แล้วเริ่มร้องเพลง
"kirakira hikaru…osora no hoshi yo...mabataki shite wa…minna wo miteru"
อายูมิร้องพร้อมกับลุกขึ้นจากเตียง แล้วเดินออกไปจากห้องได้โดยไม่ต้องใช้รถเข็น เพราะโดนฮิโตชิสิงร่างอยู่
ในห้องนอน รินดาราเปิดหนังสือเรื่องนกเพื่อตามหานกกระเรียนทอง นกฮิเมะในกล่องกระดาษที่ตั้งอยู่ชิดริมหน้าต่าง ส่งเสียงร้อง
"บรื๋อ...ทำไมอยู่ๆอากาศหนาวขึ้นมา เธอหาอะไรมาห่มให้หน่อยสิ อยากเห็นชั้นเป็นไข้หวัดนกตายหรือไง"
"เธอนี่มากเรื่องจริง"
รินดาราใช้ผ้าเช็ดหน้าของตัวเองที่อยู่ในลิ้นชักมาปิดฝากล่องให้ ทันใดนั้นสายตาของรินดาราก็เหลือบไปเห็น อายูมิเดินอยู่ในสวน
"อายูมิ"
รินดาราลุกขึ้นไปที่หน้าต่างแล้วมองออกไป แต่ไม่เห็นใครอยู่ในสวน แต่รินดารายังชะเง้อมองไปรอบๆ
"มองหาใครเหรอ"
"ชั้นเห็นอายูมิเดินอยู่ในสวน"
"อายูมินั่งบนรถเข็น จะลงไปเดินได้ยังไง เธอคงนั่งอ่านหนังสือมากจนตาฝาดแล้วมั้ง"
"ก็คงเป็นอย่างงั้น แต่ชั้นไม่สบายใจยังไงก็ไม่รู้ เอางี้...ชั้นขอไปดูหนูอายูมิที่ห้องให้แน่ใจก่อนแล้วกัน เธอนอนหลับไปเลยนะ ไม่ต้องรอ"
รินดาราลุกออกไปจากห้อง ฮิเมะบ่นตามหลัง
"กลับมาห่มผ้าให้ชั้นก่อนสิ ชั้นหนาว..เดี๋ยวชั้นก็เป็นไข้หวัดหรอก..หวัดนกเลยนะ..น่ากลัวนะ..รินดารา"
รินดาราเดินมาที่หน้าห้องของอายูมิ แล้วหยุดยืนที่ประตูห้อง
รินดารายกมือจับที่ประตู...ค่อยๆเลื่อนประตูห้อง ออก แต่ทันใดนั้นเสียงล้มดังโครมและเสียงร้องของอาคิระก็ดังขึ้นจากในห้องของอาคิระพอดี
"โอ๊ย"
รินดาราหันขวับไปมองทางห้องของอาคิระ
"คุณอาคิระ"
รินดาราวิ่งไปที่ห้องของอาคิระ จึงยังไม่ทันได้ดูในห้องอายูมิ
รินดาราเปิดประตูเข้ามาในห้อง แล้วเจออาคิระถอดเสื้อ มีผ้าพันแผลที่พันอยู่ช่วงหน้าท้องนั่งกองอยู่ที่พื้น
"คุณอาคิระ" เธอปราดเข้าไปดูอาคิระ "คุณเป็นอะไรคะ"
"ผมจะลุกไปเข้าห้องน้ำ แต่ลุกแรงไปหน่อยก็เลยเจ็บที่แผล"
รินดาราดูที่แผล เห็นเลือดซึมไหลออกมาจากบาดแผลที่ท้อง
"เลือด ! ชั้นทำแผลให้นะคะ"
รินดาราแกะผ้าพันแผลออกจากตัวอาคิระ แล้วใช้สำลีเช็ดซับเลือด ระหว่างนั้นอาคิระมองรินดาราด้วยสายตารักรู้สึกดี
"ผมยังไม่ได้ขอบคุณคุณเลยที่วันก่อนคุณช่วยผมจากฮิเดะ"
"ชั้นทนเห็นคุณตายไปต่อหน้าต่อตาไม่ได้หรอกค่ะ"
"ทำไม"
"ชั้นคิดว่าคุณได้ยินเหตุผลตอนที่ชั้นบอกคุณฮิเดะไปหมดแล้วนะคะ คุณยังจะมาถามชั้นอีกทำไม"
"ผมหวังว่าจะได้คำตอบอื่น ที่คุณอยากจะบอกกับผมแค่สองคนน่ะสิ"
อาคิระมองรินดาราตาหวาน
"คำตอบอื่น...ไม่มีค่ะ"
อาคิระจ๋อยแล้วยอมที่จะเลิกตื้อ
"รินดารา...วันนี้ผมนอนพักมาทั้งวันแล้ว คืนนี้ผมคงยังนอนไม่หลับง่ายๆ คุณอยู่เป็นเพื่อนผมคิดหาทางหาเส้นไหมขนนกกระเรียนทองคำเป็นเพื่อนผมได้ไหม"
"ก็ได้ค่ะ"
อาคิระมองรินดาราอย่างรู้สึกดี รินดาราหลบสายตาอาคิระด้วยความเขินอาย แต่พยายามทำหน้าให้เป็นปกติ
ณ คฤหาสน์มิยาคาวะวันใหม่ นานะเลื่อนเปิดประตูพูดพร้อมเดินเข้ามาในห้อง
"คุณหนูขา...ตื่นเถอะค่ะ ไปอาบน้ำแต่งตัวกัน จะได้ไปเดินให้คุณรินดาราดูว่าคุณหนูเก่งแค่ไหน"
แต่ไม่มีอายูมิอยู่บนเตียง นานะแปลกใจ
มิกินั่งร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดของรินดารา เคโกะนั่งที่พื้นคอยบีบนวดให้มิกิ ทุกคนร้อนใจมาก
มิกิร้องไห้คร่ำครวญ
"อายูมิ...อายูมิหลานย่า"
อาคิระในชุดอยู่บ้านแต่สีหน้าซีดเซียว
"เกิดอะไรขึ้นครับ"
"หนูอายูมิหายตัวไปค่ะ"
อาคิระตกใจสุดขีด
"หายไป ! หายไปตั้งแต่เมื่อไหร่"
"ไม่ทราบค่ะ เมื่อเช้านานะเข้าไปปลุกก็ไม่เจอเธอแล้ว แต่รถเข็นยังอยู่แล้วก็เจอสร้อยเหรียญเซมาโมริตกอยู่ที่พื้น"
รินดาราล้วงหยิบสร้อยเหรียญเซมาโมริออกมาจากกระเป๋าส่งให้อาคิระ อาคิระรับสร้อยแล้วอึ้งไปเลย
"พวกเราค้นหากันทั่วบ้านแล้ว แต่ก็ไม่เจอหนูอายูมิเลย" รินดาราบอก
"คุณๆคะ มาดูนี่เถอะค่ะ พี่นารูตะเจออะไรเข้าแล้ว"
เสียงนารูตะตะโกนออกมาจากภายนอกคฤหาสน์ ทุกคนหันไปทางเสียง
นารูตะก้มมองอะไรบางอย่างอยู่บนพื้นดินแฉะๆ ทุกคนวิ่งออกมาจากคฤหาสน์
อาคิระถาม
"นารูตะ มีอะไร"
"รอยเท้าเด็กครับ"
ทุกคนก้มลงไปมองที่พื้น รอยเท้าเด็กเหยียบย่ำเดินไปตามทาง
"เด็กที่ไหนมาเดินแถวนี้" มิกิว่า
รินดาราคิดถึงสิ่งที่เห็นเมื่อคืน ช่วงที่รินดาราเห็นอายูมิเดินอยู่ในสวน
รินดาราแน่ใจแล้วว่าไม่ได้ตาฝาด จึงหันไปมองคนอื่นๆ
"ไม่ใช่รอยเท้าเด็กคนอื่นหรอกค่ะ แต่เป็นรอยเท้าของอายูมิเอง เมื่อคืนชั้นเห็นอายูมิเดินอยู่ในสวน แต่ชั้นคิดว่าตัวเองตาฝาดไป"
"เป็นไปได้ยังไง อายูมิยังเดินไม่ได้" เคโกะว่า
"โธ่..ป้า คุณหนูอายูมิก็ไม่ได้เดินเองไงล่ะ แต่เป็นผะ..ผะ...ผีสิงอะไรแบบเนี่ย" นารูตะว่า
"ปากนะแก !"
เคโกะตีนารูตะ นานะกระโดดเกาะเคโกะกลัวผี
อาคิระแน่ใจว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวกับเรื่องผีจึงกำสร้อยแน่นอย่างโกรธจัด
"ฮิโตชิ"
อาคิระหันเดินออกไปทางบ่อน้ำร้าง
"อาคิระ อาคิระจะไปไหน"
มิกิตาม พวกคนใช้จะตาม แต่รินดาราห้ามไว้
"ไม่ต้องตามไปหรอกค่ะ ชั้นว่าทุกคนช่วยกันแยกย้ายไปหาอายูมิให้ทั่วแถวนี้ดีกว่า"
พวกคนใช้พยักหน้าเชื่อ แต่รินดารามองกลับไปทางที่อาคิระเดินไปอย่างไม่สบายใจแล้วตามไป
กลกิโมโน ตอนที่ 11 (ต่อ)
อาคิระเดินเข้ามาอย่างโกรธจัด แล้วตะโกนเรียก
"ฮิโตชิ ! เอาหลานสาวของชั้นคืนมาเดี๋ยวนี้ ฮิโตชิ"
มิกิกับรินดาราตามเข้ามา
"คุณอาคิระ ใจเย็นๆก่อนเถอะค่ะ"
"มิกิ ชั้นรู้เรื่องจากเคโกะแล้ว ทำไมเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ถึงไม่ขึ้นไปบอกชั้น" โฮชิบอก
"ดิชั้นไม่อยากให้ท่านชายไม่สบายใจค่ะ"
"ชั้นกำลังสงสัยว่า...ฮิโตชิเป็นคนพาอายูมิไป" รินดาราบอก
"ลำพังฮิโตชิไม่มีพลังมากพอที่จะทำให้อายูมิถอดสร้อยเหรียญเซมาโมริออกได้หรอก น่าจะมีคนอื่นช่วย
"ท่านชายกำลังหมายถึง นางปีศาจหิมะหรือคะ"
โฮชิพยักหน้ารับ อาคิระจะเดินออกไป แต่มิกิคว้าแขนอาคิระเอาไว้
"อาคิระจะไปไหนอีก"
"ผมจะไปโคสึกะ นางปีศาจหิมะอยู่กับพวกโคสึกะ พวกโคสึกะต้องรู้เรื่องอายูมิหายตัวไปด้วยแน่ๆ ผมจะไปพาอายูมิกลับมาครับคุณย่า"
"แต่อาคิระไม่แข็งแรง"
"ต่อให้ผมต้องตายเพื่อช่วยหลานสาวของผม ผมก็ต้องทำครับคุณย่า"
"ไม่ ! ย่าไม่ให้อาคิระไป ย่าขอร้องนะอาคิระ..อย่าเพิ่มความทุกข์ใจให้ย่ามากไปกว่านี้เลย แค่นี้ย่าก็จะทนรับไม่ไหวอยู่แล้ว"
มิกิร้องไห้จนทรงตัวไม่อยู่ รินดารากับอาคิระช่วยกันประคองร่างมิกิ
โฮชิมองภาพความทุกข์ของทุกคนอย่างเศร้าใจ
"อย่าไปเลยนะคะคุณอาคิระ เพราะต่อให้โคสึกะหรือนางปีศาจหิมะพาหนูอายูมิไปจริงๆ พวกเขาก็ไม่ยอมปล่อยหนูอายูมิคืนมาง่ายๆ แน่"
"แต่..."
โฮชิแทรกขึ้น
"อาคิระอยู่ที่นี่เถอะ ถ้านางปีศาจหิมะพาอายูมิไปจริงๆ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของชั้นพาอายูมิกลับมา"
"ท่านชายจะทำอะไรคะ"
โฮชิไม่ตอบ แต่มีสีหน้าเด็ดเดี่ยวมุ่งมั่น
อายูมินั่งกอดเข่าฟุบก้มหน้าร้องไห้กระซิกๆ อยู่ในห้องมืดๆ ที่เป็นห้องเก็บของรกร้างของตระกูลโคสึกะ
"อายูมิอยากกลับบ้าน...อายูมิอยากกลับบ้าน"
ฮิโตชิยื่นมือแตะแขนอายูมิ
"มาเล่นกันเถอะ....มาเล่นกันเถอะ"
"ไม่เล่น ! ฮิโตชินิสัยไม่ดี พาอายูมิมาที่นี่ทำไม อายูมิอยากกลับบ้าน"
"ยังไม่ให้กลับ อายูมิต้องถูกทำโทษที่อายูมิดื้อ นิสัยไม่ดี ขี้โกหกด้วยการเจอหลอกแบบนี้"
ฮิโตชิโกรธอายูมิ จึงแลบลิ้นปลิ้นตาหลอกผีอายูมิ อายูมิกรี๊ดและปิดตา ฮิโตชิหัวเราะชอบใจ
ยูกิก้าวเข้ามาในห้อง พูดด้วยน้ำเสียงหวาน
"ไม่เอาจ้ะฮิโตชิ เลิกแกล้งอายูมิได้แล้ว"
อายูมิหันมามองยูกิแล้วจำได้
อายูมิดีใจ คลานไปหายูกิฃ
"คุณ ! คุณเคยไปที่บ้านของอายูมิ คุณช่วยพาอายูมิกลับบ้านหน่อยสิคะ อายูมิอยากกลับบ้าน"
"อย่าเพิ่งรีบกลับสิจ๊ะ อยู่เล่นเป็นเพื่อนฮิโตชิก่อน"
"ไม่เอา อายูมิอยากกลับบ้าน พาอายูมิกลับบ้านนะคะ"
"เฮ้อ...อายูมิดื้อเหมือนที่เธอบอกจริงๆด้วย ชั้นไม่ชอบเสียงเด็กร้องไห้ซะด้วยสิ"
ยูกิจ้องตาอายูมิ ดวงตาเปลี่ยนเป็นสีฟ้าวาบ แล้วอายูมิก็หลับผล็อยไปทันที ฮิโตชิตกใจ ความเป็นห่วงเพื่อนเกิดขึ้นอย่างชัดเจน
"คุณทำอะไรอายูมิ"
"ชั้นแค่ทำให้อายูมินอนหลับจ้ะ เพราะถ้าอายูมิร้องไห้เสียงดัง เดี๋ยวพวกโคสึกะได้ยินเสียงเข้า เขาจะพาอายูมิไปทำร้ายเหมือนที่เขาทำกับเธอ เธออยากเห็นอายูมิเจ็บเหรอ"
"ไม่ ฮิโตชิจะซ่อนอายูมิไว้ จะไม่ให้ใครเห็นอายูมิ"
"แบบนี้สิจ๊ะ ถึงจะเรียกว่าเป็นเพื่อนที่ดี"
ยูกิรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่าง จึงหันไปด้านหนึ่งแล้วหรี่ตาใช้ความคิด ก่อนจะคลี่ยิ้มออกมา
"ชั้นคงต้องไปแล้ว มีใครบางคนต้องการพบชั้น"
บริเวณ Yutoku Inari Shrine in Saga เห็นดอกไม้สีสันสวยสดและสะพานแดงที่มีขุนเขาเป็นฉากหลัง
ยูกิในชุดกิโมโนสีขาวกางร่มสีแดงยืนรออยู่บนสะพานอยู่ครู่ ความรู้สึกก็สัมผัสได้ว่าโฮชิมาถึงแล้ว
"ในที่สุดเธอก็ยอมออกมาพบชั้นได้แล้วสินะโฮชิ"
ยูกิหันมายิ้มให้ แต่โฮชิกลับมีสีหน้านิ่งใช้เพียงแค่สายตาเป็นการบ่งบอกความรู้สึกตำหนิยูกิ
"อายูมิอยู่ไหน"
"ไม่ต้องห่วงหรอก เด็กนั่นยังไม่ตาย"
ยูกิยิ้มร้ายแล้วเดินเข้าไปวนเวียนๆรอบตัวโฮชิที่ยืนหน้านิ่งสีหน้าจริงจัง
"เธอต้องการอะไร ชั้นถึงจะได้อายูมิกลับคืน"
"ชั้นว่าเธอน่าจะรู้ดีนะโฮชิ..400 ปีกับความทุกข์ทรมานที่ชั้นเฝ้ารอเธอ สิ่งที่ชั้นต้องการมาตลอดมีแค่อย่างเดียว"
"ถ้าอย่างนั้น..ชั้นว่าเธอเข้าใจคำว่าความรักผิดไปแล้ว เพราะความรักไม่ใช่แค่ความอยากได้ อยากมี อยากครอบครองเหมือนกิเลสที่เธอใช้หล่อเลี้ยงจิตวิญญาณตัวเอง"
ยูกิโกรธจัดเข้าไปตบหน้าโฮชิทันที..เพี๊ยะ !!! โฮชินิ่ง
ยูกิโกรธมาก
"เธอปฏิเสธชั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพียงเพราะเห็นว่าชั้นเป็นแค่ปีศาจที่ไม่คู่ควรกับเธอเหมือนนังเมียวโจใช่มั้ย"
"ไม่ว่าจะปีศาจ มนุษย์ หรือเทพเจ้า ทุกคนต่างก็ต้องสัมผัสความรักกันทั้งนั้น ชั้นจึงไม่เคยดูถูกเธอ แต่กลับอยากช่วยให้เธอได้เข้าใจความหมายของคำว่ารักจริงๆ ชั้นถึงให้โอกาสเธอมาตลอด"
"โอกาส"
"โอกาสที่เธอจะกลับตัวไงยูกิ เพื่อเธอจะได้รู้ว่าความต้องการเอาชนะไม่ใช่ความรัก แต่ความรักคือความสวยงามที่ทำให้เราทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข"
ยูกินิ่งไปเบือนหน้าหลบจากโฮชิ แล้วสีหน้าครุ่นคิดอย่างหนัก โฮชิเห็นยูกินิงไปจึงยื่นมือไปแตะไหล่
"ปล่อยอายูมิเถอะ..เธอจะได้ปลดปล่อยตัวเองจากกิเลสที่ทำให้เธอเป็นทุกข์ด้วย"
ยูกิตัดสินใจเด็ดเดี่ยวหันขวับมาปัดมือโฮชิ
"ชั้นไม่ต้องการให้ใครมาปลดปล่อย"
โฮชิอึ้ง
"ยูกิ"
"จำไว้นะโฮชิ..อายูมิจะไม่ได้กลับมา และเธอก็จะต้องทนทุกข์ทรมานดูคนที่เธอรักทุกคน ถูกชั้นฆ่าไปตลอดเวลาที่อยู่บนโลกนี้ ! เมืองสึกิจะถูกทำลายอีกครั้ง....จำไว้โฮชิ"
ยูกิขู่โฮชิด้วยดวงตากร้าวดุดัน
ดวงตาสีฟ้าเข้มก่อนจะหายตัวไปเหลือแค่เพียงสายลมที่พัดเข้าใส่โฮชิซึ่งหน้า โฮชิเครียดกังวลขึ้นมาทันที
โฮชิเดินกลับเข้ามาภายในคฤหาสน์มิยาคาวะ อาคิระ รินดารา มิกิที่นั่งคอย ลุกขึ้นไปหา
"ท่านชายคะ เป็นยังไงบ้างคะ ได้เจอกับยูกิหรือเปล่า"
โฮชิพยักหน้ารับ สีหน้าไม่สบายใจ
"ยูกิพาอายูมิไปจริงๆ"
มิกิร้องไห้โฮ อาคิระกำมือแน่นอย่างโกรธจัด แล้วอยู่ๆ โฮชิคุกเข่าลงตรงหน้าทุกคน
"ชั้นขอโทษ ทุกคนต้องทุกข์ใจเพราะชั้น"
มิกิกับอาคิระตกใจ มิกิรีบปราดเข้าไปประคองท่านชายขึ้น
"อย่าทำแบบนี้เลยค่ะ เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดของท่านชาย แต่เป็นเพราะจิตใจของนางปีศาจหิมะชั่วร้ายเอง" มิกิบอก
"ลุกขึ้นเถอะครับท่านชาย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ท่านชายก็ยังคงเป็นที่เคารพของมิยาคาวะเสมอ" อาคิระบอก
"ถ้าอายูมิเป็นอะไรไป ชั้นจะไม่มีวันให้อภัยตัวเองเลย"
"ไม่ครับท่านชาย หลานสาวของผมจะต้องปลอดภัย แล้วถ้ายูกิพาอายูมิไปเราก็ต้องตามยูกิให้เจอ เราจะได้รู้ว่ามันจับตัวหลานสาวของผมไปไว้ที่ไหน"
อาคิระหน้าตามุ่งมั่น
บ้านมาโกะโตะตอนกลางคืน เขากำลังเครียดคิดหนักด้วยเรื่องยูกิ สักพักยูกิเดินเข้ามาในห้อง
มาโกะโตะปรับสีหน้าเป็นปกติก่อนจะเข้าไปหายูกิ
"มาแล้วเหรอยูกิ ชั้นอยากให้เธอทำให้หุ้นส่วนทุกคนในบริษัทของชั้นยกหุ้นทั้งหมดให้ชั้น และจะไม่มีการเรียกค่าชดเชยแม้แต่บาทเดียว"
"งานครั้งที่แล้วที่แกให้ชั้นช่วย แกก็ได้ค่าตอบแทนมหาศาล แกยังไม่พออีกเหรอ"
"เงินพวกนั้นใช้ไปเดี๋ยวก็หมด แต่กำไรของบริษัทชั้นได้ปีละตั้งหลายร้อยล้านเยน ถ้ามันเป็นของชั้นคนเดียว ชาตินี้ชั้นกับริเอะไม่ต้องทำอะไรไปทั้งชีวิต" เขาจับมือยูกิเว้าวอน "นะ ยูกิ...ช่วยชั้นอีกสักครั้ง ชั้นสัญญา...ต่อไปนี้ชั้นจะไม่ขออะไรตอบแทนจากเธออีก"
ยูกิจ้องมจับผิด
"ทำไมถึงจะมาขอ ในเมื่อชั้นก็ยังอยู่กับแกที่นี่"
"เอ่อ"
"หรือว่าแกคิดจะไล่ชั้น"
ยูกิถามพร้อมกับก้าวเข้าไปใกล้มาโกะโตะ...ดวงตาจ้องมองเขาอย่างคาดคั้น จนมาเขาใจฝ่อหลบสายตา แล้วพยายามฝืนปั้นหน้าให้เป็นปกติ
"ไม่ใช่นะยูกิ ชั้นแค่ไม่อยากให้เธอต้องเหนื่อย เวลาเธอช่วยชั้นแต่ละครั้ง เธอต้องเสียพลังไปมาก แล้วอีกอย่าง...ชั้นก็ไม่อยากให้ใครสงสัยว่าทำไมชั้นถึงได้ทุกอย่างอย่างที่ต้องการ ชั้นไม่อยากให้เธอถูกจับตามองไปด้วย ชั้นเป็นห่วงเธอนะยูกิ"
ยูกิแกล้งทำเป็นเชื่อมาโกะโตะ
"เธอจะช่วยชั้นได้ไหม"
"ได้สิ ชั้นช่วยให้แกสบายไปตลอดชีวิตตอนนี้เลยก็ได้เพื่อนรักของชั้น ตามชั้นมา"
ยูกิเดินออกไปจากห้อง มาโกะโตะมองตามไปอย่างแปลกใจ แต่ก็เดินตามไป
ยูกิเดินเข้ามาหยุดหน้าตู้ภายในห้องของเธอ ...สีหน้าของเธอเรียบเฉยจนยากจะคาดเดาว่าคิดอะไรอยู่ มาโกโตะตามเข้ามามอง ยูกิอย่างแปลกใจ ประตูเปิดแง้มเล็กน้อย เพราะปิดไม่สนิท
"เปิดตู้สิ"
มาโกะโตะเปิดตู้ออก เห็นว่าข้างในมีกล่องเหล็กหีบใหญ่อยู่ 3-4 ใบ มาโกะโตะเปิดฝาหีบขึ้น...พบว่าข้างในมีเงินสดเต็มหีบ มาโกะโตะตาลุกวาว
"เงิน !" เขารีบเปิดอีกหีบพบว่าข้างในคือแท่งทอง - เพชรเต็มหีบ "ทอง ! เต็มไปหมดเลย ... เธอเอาของพวกนี้มาจากไหน"
"ถามเหมือนไม่รู้ว่าชั้นเป็นใคร"
"นั่นสินะ นางปีศาจหิมะอย่างเธอทำได้ทุกอย่าง"
"ชั้นมีมากกว่านี้หลายเท่า แกอยากได้ไหมล่ะ"
ความละโมบของมาโกโตะเก็บไว้ไม่อยู่จริงๆ
"อยากได้ เธอเอามาให้ชั้นอีก จะได้คุ้มค่ากับความช่วยเหลือที่ชั้นเคยให้เธอ" แล้วนึกขึ้นได้ "ว่าแต่ทำไมอยู่ๆ เธอถึงให้ของมีค่ากับชั้น"
"เพราะมนุษย์ที่จิตใจเต็มไปด้วยความโลภ ความอยากมีอยากได้ วิญญาณของเขาจะเต็มไปด้วยพลังกิเลสจำนวนมหาศาลที่จะทำให้ชั้นรู้สึกดียิ่งกว่าดูดกลืนวิญญาณมนุษย์ธรรมดาเป็นร้อยคน"
"หมายความว่ายังไง"
สิ้นคำยูกิก็คว้าคอมาโกโตะแน่น เขาพยายามแกะมือยูกิออกแต่ไม่สำเร็จ
"แก...แกจะทำ..อะไร"
"ถึงชั้นจะอยู่กับแกได้ไม่นาน แต่ชั้นก็รู้จักแกดี ชั้นรู้แล้วว่าแกกำลังคิดจะหักหลังชั้นอยู่ใช่ไหม แกคิดจะทำอะไรกับชั้นฮะมาโกะโตะ"
มาโกโตะหายใจไม่สะดวก
"ปะ...เปล่า ชั้นไม่ได้ทำอะไร ปะ..ปล่อย...ชั้นเถอะนะ"
"ถ้าแกไม่พูดความจริงกับชั้น ก็อย่ามาร่ำร้องขอชีวิตกับชั้น"
ยูกิไม่เชื่อ บีบคอมาโกโตะแน่นขึ้นอีก มาโกะโตะตาเหลือก...ใกล้ขาดลมหายใจ
"ชั้นบอกแล้ว ! ชั้นบอกแล้ว"
ยูกิปล่อยมือจากคอมาโกโตะ ร่างมาโกะโตะกระแทกลงพื้น...ไออย่างแรง พยายามสูดลมหายใจเข้าไป รวบ รวมแรงให้ได้ก่อนพูด
"อาคิระขอให้ชั้นกับริเอะร่วมมือกันจัดการกับแก"
ยูกิอึ้ง
"แต่ชั้นไม่ได้จะร่วมมือด้วยหรอกนะ แค่ชั้นคิดว่าถ้ามิยาคาวะร่วมมือกับเทพเจ้านกกระเรียนอย่างท่านชายโฮชิ บางทีเธออาจจะไม่รอด ชั้นก็เลย..."
"หาผลประโยชน์จากชั้นให้เต็มที่"
"ชั้นสารภาพหมดแล้ว อย่าทำอะไรชั้นเลยนะยูกิ ชั้นไม่เอาอะไรจากเธอแล้วก็ได้"
"แกไม่เอาจากชั้น แต่ชั้นต้องการจากแก"
ยูกิบีบคอมาโกโตะแล้วยกตัวขึ้นลอยสูงเหนือพื้น...ดวงตาของยูกิเพ่งมอง แล้วเปลี่ยนตาเป็นสีฟ้า...ทำให้ปากของมาโกะโตะค่อยๆ อ้าออกกว้าง มาโกโตะตาเหลือกโพล่งพยายามร่ำร้องขอชีวิต
"ยะ...อย่า"
ริเอะเดินผ่านหน้าห้อง ได้ยินเสียงร้องของมาโกโตะ จึงเดินเข้าไปที่ห้อง เห็นมาโกโตะถูกยูกิบีบคอและบังคับให้อ้าปากกว้างจนปากฉีกถึงรูหู เธอตกใจสุดขีด รีบปิดปากให้แน่นสนิท...ไม่ให้เสียงกรีดร้องของตัวเองดังเล็ดลอดออกมา
ยูกิอ้าปากดูดกลืนพลังกิเลสจากร่างของมาโกโตะเข้าไปในตัว จนร่างของเขาแห้งเป็นหนังติดกระดูก ริเอะต้องทนดูภาพพ่อถูกฆ่าอย่างน่าเกลียดน่ากลัว...น้ำตาไหลพรากๆ ริเอะกลัวจนแทบจะยืนไม่อยู่เท้าถอยไป ชนโต๊ะวางของ
ของบนโต๊ะแตกเพล้ง !
ริเอะสะดุ้งตกใจ ยูกิหันขวับไปที่หน้าห้อง..สายตาจึงปะทะเข้ากับริเอะพอดี
ริเอะตัดสินใจวิ่งหนีออกไป ยูกิแสยะยิ้มร้าย แล้วปล่อยร่างแห้งกรังของมาโกะโตะทิ้งลงพื้น
ริเอะน้ำตานองหน้าวิ่งหนีมาจากห้องของยูกิด้วยความหวาดกลัวสุดขีด
ริเอะเหลียวหลังกลับไปมอง พอหันหน้ากลับมาก็พบยูกิยืนอยู่ตรงหน้า ริเอะชะงักหยุดทันที
"ยูกิ"
ริเอะคว้ามีดสั้นอยู่ในถาดวางตะกร้าผลไม้มาถือขู่ใส่ยูกิ
"ไปให้พ้น !อย่ามายุ่งกับชั้น"
"ได้ยินว่าจะร่วมมือกับอาคิระจัดการชั้นเหรอ ถ้าให้ชั้นเดา เธอต้องตอบตกลงเพราะอยากเอาชนะใจอาคิระ"
"เพราะชั้นรู้ว่าแกมันเป็นนังงูพิษเลี้ยงไม่เชื่อง ขนาดพ่อชั้นช่วยเหลือแก แกก็ยังฆ่าเขาได้ลงคอ"
"ใครกันแน่ที่เลี้ยงไม่เชื่อง ! อยู่ดีไม่ว่าดี หาเรื่องเดือดร้อนใส่ตัวกันเองทั้งนั้น ในเมื่อพวกแกประกาศเป็นศัตรูกับชั้น แกก็ต้องเป็นอาหารให้ชั้นเหมือนพ่อแก"
ยูกิตวัดสายตาไปที่มีดบนมือริเอะ มีดกระเด็นหลุดไป ยูกิยื่นมือไปข้างหน้า...ร่างของริเอะเลื่อนเข้ามาหายูกิ ช่วงลำคอลงล็อคที่มือของยูกิพอดี
ยูกิบีบคอริเอะแน่น ริเอะดิ้นทุรนทุราย...ตาเหลือกหายใจไม่ออก
"ยะ...อย่า"
"ชั้นยอมรับนะว่าแกเป็นมนุษย์ที่สวยมาก ถ้าชั้นได้ดูดกลืนกิเลศวิญญาณของแก น่าจะทำให้ชั้นสวยขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย"
ยูกิยกริเอะขึ้นลอย ริเอะใกล้จะขาดใจตาย ดวงตาของยูกิเปลี่ยนเป็นสีฟ้า...ทำให้ปากของริเอะค่อยๆ อ้าออก ริเอะบังคับปากตัวเองไม่ได้ เธออ้าปากพร้อมกับหวีดร้องสุดเสียง
ยูกิแสยะยิ้มแล้วกำลังจะอ้าปากดูดกลืนกิเลสของริเอะ
แต่ทันใดนั้นเสียงออดหน้าบ้านก็ดังขึ้น พร้อมกับเสียงของอาคิระ
"ริเอะ...ผมมาแล้วริเอะ"
ยูกิหันขวับไปมองหน้าบ้าน ทำให้ปากของริเอะหุบการอ้า แล้วตะโกนสุดเสียง
"อาคิระช่วย"
อาคิระเปิดประตูเข้ามาอย่างตื่นตกใจ รินดาราเข้ามาด้วย ทั้งสองเห็นภาพยูกิกำฃลังบีบคอริเอะ
ยูกิตกใจที่เห็นรินดารา
"นังเมียวโจ"
"นางปีศาจหิมะ แกอยู่นี่จริงๆด้วย เอาหลานของชั้นคืนมา"
ยูกิปล่อยร่างริเอะลงพื้นแล้ววิ่งหนีออกไป ริเอะเจ็บปวดร่างกายและหายใจไม่ออก อาคิระจะตามยูกิไป แต่รินดาราห้ามเอาไว้
"คุณอาคิระคะ ดูคุณริเอะก่อนเถอะค่ะ"
"ริเอะ คุณเป็นยังไงบ้าง"
ริเอะโผกอดอาคิระและร้องไห้ด้วยความหวาดกลัวสุดชีวิต
"อาคิระช่วยริเอะด้วย ! มันจะฆ่าริเอะ มันจะฆ่าริเอะ"
ริเอะตกใจ คุมสติไม่อยู่จนเป็นลมสลบเหมือดไป
"ริเอะ"
ในห้องรับแขก คฤหาสน์มิยาคาวะ เวลากลางคืน ริเอะนอนอยู่บนฟูกแล้วละเมอกรีดร้องคลุ้มคลั่งด้วยความหวาดกลัว
"อย่าฆ่าชั้น ! อย่าฆ่าชั้น"
รินดารา โฮชิ มิกิที่นั่งอยู่รายล้อมรอบฟูกรีบเข้าไปดูริเอะ
"คุณริเอะคะ คุณริเอะ" รินดาราเรียก
แต่ริเอะก็ยังไม่รู้สึกตัวยังดิ้นพราดๆ ละเมอคลุ้มคลั่ง
"ฮิคาริ..ชั้นเอง"
โฮชิขยับเข้าไปจับมือริเอะ แล้วลูบหลังมือของริเอะเบาๆ พูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่นอ่อนโยน
"ริเอะทำใจให้สงบ ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น จะไม่มีใครทำร้ายเธอได้อีกแล้ว"
ริเอะสงบลงได้อย่างน่าอัศจรรย์แล้วก็ค่อยๆ รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา...มองหน้ามิกิ รินดารา ท่านชายโฮชิและบรรยากาศรอบๆ อย่างงุนงง
"ชั้นมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ"
"คุณเป็นลมไปค่ะ อาคิระกับคุณรินดาราจะพาคุณไปโรงพยาบาล แต่เกรงว่าคุณจะไม่ปลอดภัยจากนางปีศาจหิมะ ก็เลยเปลี่ยนพาคุณมาอยู่ที่นี่ ตอนนี้อาคิระไปจัดการเรื่อง... คุณพ่อของคุณ"
ความจำของริเอะกลับคืนมา
"พ่อ...นางปีศาจหิมะ ! นางปีศาจหิมะมันฆ่าพ่อชั้น พ่อชั้นตายแล้ว ชั้นไม่เหลือใครแล้ว"
ริเอะร้องไห้โฮ มิกิเข้าไปกอดปลอบใจ
โฮชิมองริเอะด้วยความสงสารจับใจและก้มหน้ารู้สึกผิดเหลือเกิน ขณะที่รินดารามองอาการของโฮชิก็รู้ว่าเขาคิด อะไรอยู่
อายูมินอนหลับฟุบอยู่บนพื้น ปากแห้งขาวจากอาการขาดน้ำ...ภายในห้องมืดสนิทมีเพียงแสงพระจันทร์จาก ท้องฟ้าข้างนอกส่องเข้ามา ฮิโตชินั่งคุกเข่าอยู่ข้างๆ อายูมิ
"อายูมิ...อายูมิ ทำไมนอนนานจัง ตื่นได้แล้ว จะได้มาเล่นกัน"
อายูมิปรือตาตื่นขึ้นมา
"หิวน้ำ...หิวน้ำ ขอน้ำให้อายูมิกินหน่อย"
ฮิโตชิมองอายูมิอย่างสงสาร
ฮิโตชิใช้มือรองน้ำจากบ่อน้ำในสระตั้งใจจะเอาน้ำไปให้อายูมิ ระหว่างนั้นฮิเดโนริเดินผ่านมาแล้วเห็น ฮิโตชิที่เข้าก็แปลกใจ
"ฮิโตชิ ! แกทำอะไรของแก"
ฮิโตชิสะดุ้งตกใจแล้วรีบวิ่งหนีไปทางห้องเก็บของอย่างร้อนรนจนเขาสงสัย
"ฮิโตชิ แกจะไปไหน"
เดะวิ่งเข้ามาหยุดที่หน้าห้องเก็บของ แต่ไม่เห็นฮิโตชิแล้ว ฮิเดะตะโกนเรียก
"ฮิโตชิ แกจะหลบชั้นทำไม แกกำลังทำอะไรอยู่ ออกมาหาชั้นเดี๋ยวนี้นะฮิโตชิ"
เสียงของฮิเดะดังเข้าไปในห้อง
อายูมินอนหลับอยู่บนพื้นได้ยินเสียงคนก็ดีใจ...ตาปรือลุกขึ้นมาอย่างอ่อนแรง
"มีคนมา !" อายูมิตะโกนพร้อมกับคลานไปที่ประตู "ช่วยด้วยค่ะ ช่วยหนูด้วย"
ฮิเดโนริหันขวับไปในห้อง เพราะได้ยินเสียงเด็กร้องออกมาจากในห้อง
"เสียงเด็ก"
ฮิเดะเดินไปที่ประตูห้องจับลูกบิดจะหมุน
อายูมิก็กำลังจะคลานมาที่ประตูแต่เจอฮิโตชิยืนขวาง ก้มหน้าลงมามองอายูมิด้วยสีหน้าไม่พอใจ ลูกตาเปลี่ยนเป็นสีดำ อายูมิสะดุ้งตกใจ !
ฮิเดโนริหมุนลูกบิดเปิดประตูเข้ามาในห้อง แต่ภายในห้องว่างเปล่า ไม่มีใครอยู่
"เสียงเด็กมาจากไหน"
อายูมินั่งอยู่บนพื้นตรงหน้าฮิเดะ พยายามจะจับตัวฮิเดะ แต่ก็จับไม่ได้ มือทะลุร่างเขา
"คุณอาขา...ช่วยอายูมิด้วยค่ะ พาอายูมิกลับบ้าน"
ฮิเดโนริไม่เห็น ! เขานิ่วหน้า กวาดสายตามองไปรอบๆ แม้จะไม่เห็นอะไร แต่เขารับรู้ได้ถึงสิ่งผิดปกติที่อยู่ในห้องนี้ แล้วเขาก็เดินออกไปจากห้อง
"คุณอาอย่าเพิ่งไป คุณอาช่วยอายูมิด้วย"
ประตูห้องปิดลง...อายูมิร้องไห้โฮ ฮิโตชิปรากฎตัวขึ้นตรงหน้าอายูมิสีหน้าเป็นห่วงเพื่อนรักมาก
"อายูมิไม่ต้องร้องไห้ เขาใจร้ายมาก คุณยูกิสอนชั้นให้รู้จักวิธีช่วยทำให้คนอื่นมองไม่เห็นอายูมิ แบบนี้น่ะดีแล้ว เดี๋ยวเขาพาอายูมิไปทรมานไม่รู้ด้วยนะ"
อายูมิร้องไห้ไม่หยุด
ไดซุเกะมีสีหน้าซีดเซียวจากอาการเจ็บป่วยพูดกับยูกิ ฮิเดะอยู่ในห้องด้วย
"แกพาหลานสาวอาคิระมาขังไว้ที่นี่ทำไม"
ยูกิชะงักอึ้งไปนิด ไม่คิดว่าพวกโคสึกะจะรู้
"สมกับที่เป็นผู้ดูแลศาลเทพเจ้าสุนัขจิ้งจอก หูตาว่องไวดีกันเหลือเกิน"
"ชั้นได้ยินเสียงเด็กผู้หญิงร้องขอความช่วยเหลืออยู่แถวห้องเก็บของ แล้วชั้นก็ได้ยินข่าวมาว่าอายูมิหลานสาวอาคิระหายตัวไป เด็กคนนั้นคงจะไม่ใช่ใครอีกแล้ว แกทำแบบนี้เพื่ออะไร"
"แก้แค้นโฮชิ"
"งั้นก็ฆ่านังเด็กนั่นซะเลยสิ จะเก็บเอาไว้ทำไม"
ฮิเดโนริหันมองปู่อึ้งๆ ไม่อยากให้ถึงกับฆ่าเด็ก
"ความทุกข์ทรมานจากการรู้ว่าคนที่รักตาย ยังไม่มากเท่ากับการไม่รู้ชะตากรรมของคนที่รัก ยิ่งเป็นเด็กช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ด้วยแล้ว โฮชิจะต้องทุกข์ทรมานใจจนหัวใจแทบจะแตกสลายเชียวล่ะ"
"แต่ชั้นต้องการกำจัดมิยาคาวะให้สิ้นซาก ในเมื่อแกจับนังเด็กนั่นมาแล้ว แกก็ต้องจัดการฆ่ามันเดี๋ยวนี้"
"แกไม่มีสิทธิ์มาสั่งชั้น"
"โคสึกะเป็นนายชีวิตของปีศาจหิมะอย่างแก ทำไมชั้นจะไม่มีสิทธิ์"
ไดซุเกะเพ่งไปที่คอของยูกิ..ทำปากขมุบขมิบท่องคาถา..ทำให้เกิดด้ายแดงสว่างวาบขึ้นรอบคอของยูกิ
ยูกิขยับคอด้วยความระคายเคืองคอแต่ไม่เจ็บปวด แล้วยกมือจับด้ายแดงหน้าตาเฉย ทำเอาไดซุเกะและฮิเดโนริอึ้ง
"แก...แกทำได้ยังไง"
"ตอนนี้...ชั้นทำได้มากกว่าที่แกคิด"
ไดซุเกะคว้าแส้บนพานที่ตั้งอยู่บนหิ้งมาฟาดใส่ยูกิ แต่ยูกิคว้าแส้ไว้แล้วผลักไดซุเกะกระเด็นไปชนหิ้งล้มโครม
"คุณปู่"
ฮิเดโนริปราดเข้าไปประคองไดซุเกะขึ้นมา ยูกิยืนมองและยิ้มเหี้ยม
"ช่วยจำใส่หัวเอาไว้ด้วย ถ้ายังอยากอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข อย่าพูดออกมาอีกว่า โคสึกะเป็นนายชีวิตของชั้น เพราะไม่อย่างงั้นชั้นจะทำให้แกเห็นว่า...ใครเป็นนายชีวิตของใคร กันแน่"
ยูกิเดินออกจากห้องไป
"นางปีศาจหิมะ กลับมาเดี๋ยวนี้"
ฮิเดโนริจะตามยูกิไป แต่ไดซุเกะไอกระอักเลือดออกมาอย่างแรง เขาต้องเข้าไปดูไดซุเกะ
"คุณปู่ ! คุณปู่อดทนไว้นะครับ ...อัตซุโอะ ! อัตซุโอะ"
อัตซุโอะได้ยินเสียงตะโกนเรียกของฮิเดโนริก็วิ่งเข้ามา พอเห็นอาการของไดซุเกะก็รีบปราดเข้าไปหา
ฮิเดโนริกับอัตซุโอะประคองไดซุเกะที่หายใจเหนื่อยหอบ นอนลงบนเตียง
"อาการของคุณปู่ดูไม่ดีเลย ให้ผมพาไปหาหมอเถอะครับ"
"หมอที่ไหนก็ช่วยปู่ไม่ได้หรอก ปู่จะต้องฟื้นพลังของปู่ด้วยตัวเอง นางปีศาจหิมะแข็งแรงมาก ไม่รู้ว่ามันไปเอาพลังมาจากไหน"
"มันกล้าทำร้ายคุณปู่ ให้ผมไปจัดการมันเลยนะครับ"
"มีปู่คนเดียวเท่านั้นที่จะจัดการกับมันได้ แกทำได้อย่างมากก็แค่ทำร้ายร่างของผู้หญิงชื่อยูกิ นางปีศาจหิมะก็จะหาร่างผู้หญิงคนอื่นอาศัยอยู่ต่อไป"
" แต่ถ้าเราปล่อยมันไว้แบบนี้ มันจะมีอำนาจเหนือเราทุกคน ผมยอมไม่ได้"
"ปู่ก็ยอมไม่ได้เหมือนกัน แต่ตอนนี้ต้องรอให้ปู่ฟื้นคืนพลังอีกสักสองสามวันเท่านั้น แล้วปู่จะจัดการกับมันเอง แต่แกต้องสัญญากับปู่ว่าแกจะไม่ใจร้อน ทำอะไรที่จะให้มันรู้ตัวว่าเราจะเป็นศัตรูกับมัน"
ฮิเดโนรินิ่ง...ไม่อยากสัญญา
"ฮิเดะ !"
เขาจำใจพูด
"ครับคุณปู่ ผมสัญญา"
ฮิเดโนริอดกลั้นความรู้สึกโกรธเต็มที่
โฮชิยืนอยู่หน้ากิโมโนโฮชิด้วยความเศร้าหมอง รินดาราเดินเข้ามาหยุดยืนอาการ ก่อนจะเดินเข้าไปหา
"อย่าโทษตัวเองเลยนะคะท่านชาย สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดของท่านชาย"
"แต่ถ้าทุกคนไม่พยายามช่วยเหลือชั้นเพื่อช่วยให้กิโมโนผืนนี้สำเร็จ ถ้าชั้นไม่ใจอ่อนยอมให้โอกาสนางปีศาจหิมะกลับเนื้อกลับตัว ก็คงจะไม่ต้องมีใครตาย อายูมิไม่ต้องหายตัวไป ไม่ต้องมีใครเดือดร้อนแบบนี้"
โฮชิอัดอั้นในใจจนต้องปัดกล่องของที่อยู่บนโต๊ะลงพื้น ซึ่งมีเข็มเสียบไว้กับหลอดด้ายปนอยู่ด้วย ทำให้เข็มตำนิ้ว ของโฮชิ
"โอ๊ย "
"ท่านชายเป็นอะไรคะ"
"เข็มตำนิ้วเท่านั้น ชั้นไม่เป็นอะไรมากหรอก"
"ขอชั้นดูหน่อยเถอะค่ะ"
รินดาราจับมือท่านชายโฮชิดู นิ้วของโฮชิมีเลือดไหล
"เลือด"
ทั้งรินดาราและโฮชิต่างอึ้งที่เห็นเลือด
"ท่านชายมีเลือดอย่างมนุษย์ได้ยังไงคะ"
โฮชิเศร้าสะเทือนใจแต่ยังคงใช้สติคุมอารมณ์ตัวเอง
"ความทุกข์ที่เกิดขึ้นในใจของชั้นตอนนี้ มันกำลังทำให้ชั้นกลายเป็นมนุษย์อย่างสมบูรณ์ แต่จะไม่มีวันตาย"
"หมายความว่าต่อให้กิโมโนโฮชิผืนนี้ทอเสร็จ ท่านชายก็จะกลับสวรรค์ไม่ได้ ท่านชายจะต้องติดค้างอยู่บนโลกมนุษย์ตลอดไปหรือคะ"
โฮชิพยักหน้ารับ รินดาราอึ้งไปเลย
จบตอนที่ 11