xs
xsm
sm
md
lg

แฟนเกาหลีต้านเดือด! ซีรีส์ Netflix โดนถล่ม กล่าวหาพระเอกญี่ปุ่นเอียงขวาจัด แค่เพราะประโยคเดียวที่พูดเมื่อหลายปีก่อน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ทำไมต้องเลือกนักแสดงคนนี้?” Netflix เจอแรงต้าน ซีรีส์ Can This Love Be Translated? ถูกเรียกร้องคว่ำบาตร ปมอดีตท่าทีขวาจัด–หนุนสงครามของ ฟุกุชิ โซตะ

ซีรีส์โรแมนติกเรื่องใหม่ของ Netflix อย่าง Can This Love Be Translated? กำลังเผชิญกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ก่อนออกฉาย หลังประเด็นในอดีตของนักแสดงญี่ปุ่น ฟุกุชิ โซตะ ถูกขุดกลับขึ้นมาอีกครั้ง โดยเขาถูกกล่าวหาว่ามีแนวคิดขวาจัดและท่าทีเชิดชูสงคราม จนจุดกระแสต่อต้านและการเรียกร้องให้คว่ำบาตรในหมู่ผู้ชมชาวเกาหลีใต้

ต้นตอของดราม่าย้อนกลับไปเมื่อปี 2015 จากรายการพิเศษของสถานี Fuji TV ที่จัดขึ้นเนื่องในวาระครบรอบ 70 ปีการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งฟุกุชิได้ร่วมอ่านจดหมายลาตายของนักบินคามิกาเซะ และสัมภาษณ์ผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ในสงคราม พร้อมกล่าวถ้อยคำอย่าง “ผมเคารพคุณปู่ของผม” และ “พวกเราทุกวันนี้ดำรงอยู่ได้ก็เพราะพวกเขา”


แม้ผู้ชมชาวญี่ปุ่นบางส่วนจะมองว่ารายการดังกล่าวพยายามสะท้อนโศกนาฏกรรมของสงคราม แต่ในสายตาของผู้ชมชาวเกาหลีใต้กลับตีความไปในทิศทางตรงกันข้าม โดยมองว่ารายการเลือกเล่าเรื่องผ่านมุม “การเสียสละของเยาวชน” และ “ความสูญเสียของครอบครัว” โดยไม่กล่าวถึงความรับผิดชอบของญี่ปุ่นในฐานะประเทศผู้รุกรานในสงครามโลกครั้งที่สอง

คำพูดที่ฟุกุชิแสดง “ความเคารพ” ต่อเหล่านักบินคามิกาเซะ ถูกวิจารณ์อย่างหนักว่า สะท้อนความตระหนักทางประวัติศาสตร์ที่ไม่เพียงพอ และถูกมองว่าเป็นการสนับสนุนวาทกรรมที่พยายามลบล้างหรือทำให้ความโหดร้ายของลัทธิจักรวรรดินิยมญี่ปุ่นดูอ่อนลง

เมื่อประเด็นนี้กลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง ชาวเน็ตเกาหลีจำนวนมากจึงติดป้ายให้ฟุกุชิ โซตะ เป็นนักแสดงที่มีแนวคิดเอนเอียงไปทางขวา พร้อมตั้งคำถามอย่างเผ็ดร้อนถึงการตัดสินใจเลือกเขามาร่วมแสดงในผลงานระดับโลกที่มุ่งเป้าผู้ชมชาวเกาหลี โดยชี้ว่า ด้วยบาดแผลทางประวัติศาสตร์จากยุคอาณานิคมและอาชญากรรมสงคราม การคัดเลือกนักแสดงลักษณะนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยเหมือนความร่วมมือข้ามชาติทั่วไป

กระแสต่อต้านยังลุกลามไปถึงทีมผู้สร้างและ Netflix เอง โดยถูกกล่าวหาว่าเพิกเฉยต่อบริบททางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเอเชียตะวันออกในการตัดสินใจด้านการคัดเลือกนักแสดง ผู้แสดงความเห็นบางรายระบุว่า “เสรีภาพในการแสดงออกเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่คอนเทนต์ที่ผลิตเพื่อผู้ชมชาวเกาหลี ควรมีความอ่อนไหวทางประวัติศาสตร์เป็นพื้นฐาน”

ก่อนหน้านี้ ฟุกุชิเคยให้สัมภาษณ์ว่า เขา “รู้สึกยินดีที่ได้ร่วมงานกับเกาหลี” แต่ท่ามกลางดราม่ารอบใหม่ เขายังคงเลือกที่จะนิ่งเงียบ ซึ่งยิ่งทำให้ความไม่ไว้วางใจในหมู่ผู้ชมทวีความรุนแรงขึ้น





กำลังโหลดความคิดเห็น