Google เปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธง Pixel 10 Series มาพร้อมกับการอัปเกรดครั้งใหญ่ทั้งในด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI เต็มตัว จากจุดเด่นของชิปประมวลผล Tensor G5 ผสานรวม Gemini AI เข้ากับฟีเจอร์ต่างๆ ของเครื่อง มาเป็นผู้ช่วยส่วนตัวแบบเตรียมหาข้อมูลให้เราล่วงหน้า
โดยในครั้งนี้ Google ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนหลายรุ่น นำโดย Pixel 10 Pro XL, Pixel 10 Pro และ Pixel 10 รวมถึงสมาร์ทโฟนจอพับอย่าง Pixel 10 Pro Fold โดย Pixel 10 Pro XL จะเริ่มเปิดให้สั่งจองล่วงหน้าในราคาเริ่มต้นที่ $1199 และจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 28 สิงหาคมนี้ในสหรัฐฯ
ขุมพลัง Tensor G5 และ Gemini Nano ปลดล็อกประสบการณ์ AI ที่เหนือกว่า
จุดขายหลักของ Pixel 10 Series คือมาพร้อมชิปประมวลผล Google Tensor G5 ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับการทำงานของ AI บนอุปกรณ์ (On-device AI) โดยเฉพาะ ทำงานร่วมกับ Gemini Nano โมเดล AI ขนาดเล็ก ทำให้สามารถประมวลผลฟีเจอร์ AI ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัยโดยไม่ต้องส่งข้อมูลกลับไปยังคลาวด์
มีฟีเจอร์ AI ที่น่าสนใจทั้ง Magic Cue ผู้ช่วย AI ที่จะแสดงข้อมูลและแนะนำสิ่งที่ควรทำล่วงหน้า โดยเชื่อมโยงข้อมูลจากแอปต่างๆ เช่น Gmail, Calendar, และ Messages เข้าด้วยกัน ล้ำไปอีกระดับของ Voice Translate ด้วยฟีเจอร์แปลภาษาบทสนทนาทางโทรศัพท์แบบเรียลไทม์ ที่น่าทึ่งคือสามารถคงน้ำเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของผู้พูดแต่ละคนไว้ได้
ส่วน Gemini Live ยกระดับการช่วยเหลือด้วยภาพ เพียงแชร์หน้าจอจากกล้องของคุณ Gemini ก็สามารถมองเห็นสิ่งที่คุณเห็นและแนะนำวิธีแก้ปัญหาโดยการไฮไลท์บนหน้าจอของคุณได้โดยตรง รวมถึง Take a Message ถอดเสียงข้อความเสียงแบบเรียลไทม์เมื่อมีสายที่ไม่ได้รับ พร้อมทั้งวิเคราะห์และแนะนำขั้นตอนต่อไปที่ควรทำ
นอกจากนี้ ยังมีเครื่องมือการเขียนใน Gboard ไม่เพียงแต่ช่วยตรวจคำผิด แต่ยังสามารถแนะนำการปรับแก้สไตล์การเขียนให้เหมาะสมได้อีกด้วย และ Recorder อัจฉริยะ เปลี่ยนเสียงร้องหรือฮัมเพลงของคุณให้กลายเป็นดนตรีที่มีสไตล์ได้ทันที โดยผู้ที่ซื้อ Pixel 10 ซีรีส์ จะได้รับสิทธิใช้งาน Google AI Pro ฟรี 1 ปี
ปรับดีไซน์ - ระบบกล้องใหม่
Pixel 10 Pro XL มาพร้อมหน้าจอ Super Actua ขนาด 6.8 นิ้ว, RAM 16 GBระบบชาร์จมีสายที่เร็วขึ้น และรองรับการชาร์จไร้สาย Qi2.2 กำลังไฟ 25W ส่วน Pixel 10 Pro จะมีขนาดหน้าจอเล็กลงมาอยู่ที่ 6.3 นิ้ว เช่นเดียวกับ Pixel 10 ที่หน้าจอ 6.3 นิ้วเช่นเดียวกัน จะแตกต่างกันที่เรื่องของกล้อง ขณะที่ Pixel 10 Pro Fold มากับหน้าจอพับ ขนาด 8 นิ้ว และหน้าจอด้านนอกขนาด 6.4 นิ้ว
ดีไซน์ตัวเครื่องยังคงความเรียบหรูและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยใช้วัสดุรีไซเคิล นอกจากนี้ ส่วนที่สำคัญที่สุดของ Pixel 10 ซีรีส์ คือการการันตีการอัปเดตระบบปฏิบัติการ, ฟีเจอร์ใหม่ (Pixel Drops), และความปลอดภัยยาวนานถึง 7 ปีเต็ม
โดย Pixel 10 ซีรีส์ มาพร้อมการอัปเกรดระบบกล้องครั้งใหญ่ โดยรุ่น Pixel 10 จะมาพร้อมเลนส์ Telephoto 5x เป็นครั้งแรก ในขณะที่รุ่น Pro และ Pro XL มีการปรับปรุงระบบกันสั่น (OIS) ให้ดียิ่งขึ้น และมาพร้อมฟีเจอร์ Pro Res Zoom ที่สามารถซูมได้ไกลสูงสุดถึง 100x โดยใช้ AI ช่วยปรับแต่งรายละเอียดให้คมชัด
รวมถึงการเพิ่มฟีเจอร์กล้องใหม่อย่าง Camera Coach โค้ชถ่ายภาพส่วนตัวที่ใช้ Gemini AI ช่วยแนะนำการจัดองค์ประกอบภาพและแสงเงาเพื่อภาพถ่ายที่สวยงามยิ่งขึ้น Auto Best Take วิเคราะห์ภาพถ่ายต่อเนื่องสูงสุด 150 เฟรม เพื่อเลือกช็อตที่ดีที่สุดที่ทุกคนดูดี
การมาถึงของ Pixel 10 ซีรีส์ นับเป็นก้าวสำคัญของ Google ในการผลักดันนวัตกรรมสมาร์ทโฟนที่ผสาน AI เข้ากับการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างชาญฉลาดและไร้รอยต่อ ซึ่งน่าจะสร้างแรงกระเพื่อมให้กับตลาดสมาร์ทโฟนในช่วงปลายปีนี้ได้อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ นอกจากหูฟัง Google ยังเปิดตัวสินค้าในอีโคซิสเตมส์เพิ่มเติม ทั้งสมาร์ทวอทช์ Pixel Watch 4 หูฟังไร้สาย Pixel Buds 2a รวมถึงเทคโนโลยีแม่เหล็กชาร์จไร้สายหลังเครื่องบนมือถือ Pixelsnap บนมาตรฐาน Qi2 ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก MagSafe ของแอปเปิลด้วย