“กชเบล” ดวงพุ่งไม่หยุด “ณวัฒน์” ควักเงินล้านดันขึ้นแท่นผู้จัดซีรีส์ละครคุณธรรมแนวตั้งฉบับ MGI บอกจะใช้เงินหลักล้านให้คุ้ม อนาคตดึง “เฌอเอม-วีนา” เล่นด้วย ช็อกแฟนนางงามฟิลิปปินส์รัก แฮปปี้สร้างปรากฏการณ์คู่จิ้นกับ “เอ็มม่า”
กลายเป็นคู่จิ้นที่ฝั่งแฟนๆ นางงามชาวฟิลิปปินส์ปลื้มเอามากๆ สำหรับสาว “กชเบล ศรัณย์รัชต์ เผือกพิพัฒน์” มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2025 และรองอันดับ 1 มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2025 กับ “เอ็มม่า แมรี่ ทิกเลา” มิสแกรนด์ ฟิลิปปินส์ 2025 ที่ล่าสุดกชเบลได้ไปโรดโชว์ที่ฟิลิปปินส์ เรียกว่าขณะขึ้นรถแห่ ก็มีแฟนๆ นางงามชาวฟิลิปปินส์มาให้การต้อนรับเยอะมาก ซึ่งเจ้าตัวเผยความรู้สึกถึงเรื่องนี้ในงานกาล่าพรีเมียร์ภาพยนตร์เรื่อง ข้างบ้าน ณ ลานอินฟินิซิตี้ พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ชั้น 5 ลั่นดีใจมากๆ ไม่คิดว่าแฟนๆ จะต้อนรับกันมากมายขนาดนี้
“ดีใจมากค่ะ ขอบคุณแฟนๆ ฟิลิปปินส์มากๆ แต่เอาจริงๆ เรื่องที่เขาจิ้นเบลกับเอ็มม่า เราก็ไม่ได้รู้ขนาดนั้น แต่เบลว่ามันเป็นพาร์ตของเพื่อนสนิทมากกว่าที่เขาได้เห็นว่ากชเบลกับเอ็มม่าน่าจะเป็นเบสท์เฟรนด์เลย ไม่ว่าจะกิน ทำงาน นอน เที่ยว ช้อปปิ้งทุกอย่างเป็นโมเมนต์ของเพื่อนสนิท ทำให้รู้ว่าภาษาไม่ใช่อุปสรรคจริงๆ เพราะเราก็คุยกันไม่ค่อยรู้เรื่อง เขาก็ใช้ภาษาตากาล็อก (ภาษาพื้นเมืองของฟิลิปปินส์) เราก็ใช้ภาษาอังกฤษ เขาก็อยากจะเรียนภาษาไทยกับเรา ส่วนเราก็อยากเรียนของเขา เลยกลายเป็นตีกันไปหมด เราก็สอนอะไรแปลกๆ ให้เขาเยอะ เพราะชีก็อยากจะสรรหาพูด เราก็สอนภาษาลูเลย เอาให้มันยากไปเลย ข้ามสเต็ป
แต่ตอนอยู่บนรถแห่แล้วชาวฟิลิปปินส์เรียกชื่อเรา ก็คิดในใจว่าทำไมประเทศไทยเราไม่มีแบบนี้บ้าง (หัวเราะ) ล้อเล่น แซวเล่น แค่รู้สึกช็อกที่แฟนๆ ฟิลิปปินส์น่ารักกับเราขนาดนี้ ที่บอกว่าเบลเชื่อมความสัมพันธ์ของแฟนนางงามฟิลิปปินส์กลับมาได้ ก็ดีใจค่ะ แค่เราเป็นตัวเองนี่แหละ และเราก็ไม่รู้เรื่องราวก่อนหน้านั้นว่าเกิดอะไรขึ้น แต่วันนี้เราได้เห็นภาพของแฟนๆ ฟิลิปปินส์ที่เขาซัปพอร์ตเราด้วย และเราเองก็สนิทกับเอ็มม่าและเราก็เป็นเพื่อนกันและกัน ก็ดีใจที่เขาไม่ได้แค่รักเอ็มม่า แต่เขาก็เอ็นดูและซัปพอร์ตหนูด้วย ก็ขอบคุณจริงๆ ค่ะ ดีใจมากๆ เพราะเราไปแค่ 2 วัน แต่ของขวัญที่เราได้กลับมาคือเยอะมากๆ และผู้ติดตามแต่ละช่องทางก็เยอะมากๆ ทำให้เราอยากจะไปฟิลิปปินส์อีกรอบเลย”
ดีใจ “ณวัฒน์ อิสรไกลศีล” ไว้ใจให้เงินหลักล้านมาทำซีรีส์คุณธรรม
“คือด้วยความที่พี่กอล์ฟ วิชญพงศ์ ออกมาซัปพอร์ตหนูตอนประกวด ส่วนพี่แอร์ พรสวรรค์ก็ออกมาพอดี เราก็เลยมองว่าสองคนนี้เป็นอีกหนึ่งเพชรพลอยที่มีค่ามากๆ และเป็นจังหวะที่เราอยากจะทำอะไรบางอย่างให้กับองค์กร เราก็เลยตัดสินใจว่าขอบอสเลยดีกว่าสำหรับโปรเจกต์ละครคุณธรรม แต่รอบนี้เราจะไม่ได้เป็นละครคุณธรรมขนาดนั้น เราอยากจะเปลี่ยนแปลงใหัมันมีความเป็นวัยรุ่นมากขึ้น เป็นในรูปแบบซีรีส์ แต่เป็นซีรีส์แนวตั้ง มาดูมุมภาพการเล่าเรื่องแบบใหม่ที่เราจะไม่ค่อยใช้เรฟเฟอร์เรนซ์จากต่างชาติ ส่วนใหญ่เรื่องทั้งหมดที่เราออนอยู่ทุกวันนี้เป็นเรื่องที่เราแต่งเอง คิดเองทั้งหมด ก็จะมีความเป็นภาพยนตร์มากขึ้น
บอสก็ให้ผ่านเลย ดีใจค่ะ เพราะตอนเข้าไปเสนอบอส เราก็เขียนเป็นโมเดลเข้าไป แล้วบอสก็ไว้ใจหนู แล้วก็ปล่อยให้เราสามคนเป็นคนทำโปรเจกต์นี้ทั้งหมด พอยิ่งมาเห็นกระแสตอบรับว่ามันคือซีรีส์เลย สีภาพสวย การเล่าเรื่องดี บทดีด้วย ไม่ค่อยเห็นอะไรแบบนี้ ยังมีข้อคิดทิ้งท้ายเรื่องให้อีก เบลก็เหมือนเป็นกำลังใจทำให้เราอยากพัฒนาต่อไปอีก
ตอนแรกก็แอบคิดว่าบอสจะเชื่อใจเราไหม แต่จังหวะที่เรามั่นใจในตัวเพื่อนเรามาก เราก็กล้าที่จะขึ้นไปหาบอส แล้วก็ช็อกตอนที่บอสบอกว่าได้ แล้วก็ให้เงินมาตู้มเลย เอาไปจัดการมา เรื่องเงินเอาให้เต็มที่ ก็หลักล้านค่ะ หนูก็เลยรู้สึกว่านี่เป็นโอกาสครั้งสำคัญของหนูที่จะได้ทำอะไรบางอย่างให้กับองค์กร
พูดตรงๆ ว่าปีนี้ตัวเบลเองก็มีงานที่เราก็ต้องทำ แต่เราอยากทำโปรเจกต์นี้ให้กับองค์กร เพราะเมื่อก่อนมิสแกรนด์เราเคยมีละครคุณธรรม แต่มันก็หายไป เราเลยมองว่าตรงนี้มันเป็นเหมือนวิชั่นนึง และเราไม่ได้อยากเสริมแค่นางงามให้คนดู เพราะมันก็เหมือนเป็นตะวันตกดินเนอะ เดี๋ยวมีประกวดแล้วเดี๋ยวก็จบ แต่ถ้าเราทำเป็นซีรีส์ขึ้น และเอาน้องๆ มิสแกรนด์หรือคนที่ได้มงฯ ปีก่อนๆ เอากลับมาเล่นด้วย เพราะต่อไปเบลก็จะเอาพี่เฌอเอม (ชญาธนุส ศรทัตต์) มาเล่น เอาวีนา (ปวีนา ซิงค์) มาเล่น เอาเด็กๆ ในสังกัดมาเล่นกันตอนนี้ถ้าบอกว่าเป็นผู้บริหารสำหรับโปรดักชั่นนี้ก็ใช่นะคะ บอสเบลเหรอ เรียกเบลเหมือนเดิมดีกว่าค่ะ (หัวเราะ)”


