ทะลุเข้าไปลุ้นมงกุฎ ได้จับมือกับมิสยูนิเวิร์สเม็กซิโก เรียกว่าอีกนิดเดียว “วีนา ปวีนา ซิงค์” ก็จะถึงความฝันสูงสุดของตนเองแล้ว แต่เมื่อผลการตัดสินไม่ใช่ชื่อของไทยแลนด์ วีนา ยอมรับว่าเสียใจ กลัวคนไทยจะไม่ภูมิใจ โดยเจ้าตัวได้เผยผ่านรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องวัน31 ถึงความกดดันระหว่างประกวด และสิ่งที่ต้องฝ่าฟันจนสามารถคว้ารองอันดับ 1 “มิสยูนิเวิร์ส 2025” มาครองได้สำเร็จ
พร้อมเปิดใจ ชุดราตรีสีฟ้าที่สวมใส่ในวันไฟนอลได้รับแรงบันดาลใจมาจาก สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ตั้งใจอยากถวายความอาลัยแด่พระองค์ท่านที่เป็นผู้สานต่อเรื่องการสวมใส่เสื้อผ้าไทย หรือแบบสไบต่างๆ ตนจึงอยากนำความเป็นไทยแบบประยุกต์ไปสู่สายตาชาวโลกให้ได้เห็น รวมถึงสีฟ้าก็เป็นสีของพระองค์ท่านด้วย
“ยังตื่นเต้นอยู่เลย เพราะว่าวินาทีที่จับมือยังรู้สึกอยู่เลย เสียงซาวด์มันยังอยู่ในหูอยู่เลย แต่เมื่อวานได้พัก 1 วัน รู้สึกดีใจและตื้นตันใจที่เราสามารถคว้าอีกหนึ่งชัยชนะมาให้กับคนไทยได้”
ความรู้สึกช่วงวินาทีที่จับมือ
“บอกตรงๆ ในหัววีนาก็ยังคิด ท่องชื่อประเทศไทยไว้ ขอแค่ให้ได้ยินว่าประเทศไทยอย่างเดียว ขอให้บุญที่ทำมาขอให้เกิดสิ่งนี้เกิดขึ้น ก็ท่องประเทศไทยๆ แต่สุดท้ายเขาประกาศเป็นเม็กซิโก เราก็โอเคยอมรับ และแสดงความยินดีกับผู้ชนะ แอบเสียดายนิดหน่อย แต่แน่นอนมันเป็นการประกวด การแข่งขันก็ต้องมีผู้ชนะคนเดียว (ตอนจับมือได้มีพูดคุยอะไรกันไหม?) ก็คุยกันว่า เธอทำดีแล้ว เขาก็ตอบมาว่าเธอก็เหมือนกันนะ ก็คุยกันแค่นั้นที่เหลือคือลุ้นอย่างเดียวเลย”
หลังประกาศผล พอไม่ได้มีเสียงคำว่าไทยแลนด์ออกมา ยอมรับผิดหวัง เสียใจ
“บอกตรงๆ ผิดหวังเหมือนกัน เสียใจเหมือนกัน กลัวว่าคนไทยจะไม่ภูมิใจ เพราะว่าเราเองทำเต็มที่แล้ว แล้วสิ่งที่เราและคนไทยคาดหวัง แต่สุดท้ายแล้ววีนาหวังว่าตำแหน่งที่วีนาคว้ามาได้ จะทำให้คนไทยหลายคนดีใจ และภูมิใจกับตำแหน่งนี้ด้วย”
เผยความรู้สึก หลังคนไทยบอกว่าผลตัดสินค้านสายตา
“มันเป็นการแข่งขัน ยิ่งเป็นการแข่งขันเรื่องของความสวย ความงาม แต่ละคนอาจจะมองไม่เหมือนกัน วีนาดีใจที่หลายคนบอกว่า วีนาทำได้ดีมากๆ วีนาสมควรที่จะได้ที่ 1 แต่อีกในแนวหนึ่งวีนาก็รู้สึกเสียใจ เพราะถ้าวีนาเป็นผู้ชนะแล้วได้ยินแบบนี้ เราจะรู้สึกว่าการชนะของเรา มันยังไม่ได้มีการเฉลิมฉลองที่เต็มที่ หรือว่าเรายังไม่สามารถภูมิใจในการชนะของเราได้ดีที่สุด
ก็เลยอยากจะบอกทุกคนว่า ไม่เป็นไรนะคะ ขอบคุณมากที่เห็นว่าวีนามีศักยภาพทำออกมาได้ดีที่สุดแล้ว แต่ว่าเราก็ร่วมยินดีกับผู้ชนะได้เหมือนกัน เพราะสุดท้ายแล้วทุกคนมีความฝัน วีนาเองก็ฝันอยากจะได้ที่ 1 เหมือนกัน แต่การที่ได้ที่ 2 ก็ไม่ได้หมายความว่าเราล้มเหลว”
ได้ดูคลิปที่แฟนคลับหลายประเทศออกมาประท้วง
“ได้กลับมาแล้วเห็นคลิปวิดีโอ มีเสียงโห่บ้าง มีการประท้วง มีคอมเมนต์ จริงๆ แล้วการประกวดนางงามมันดูแค่บนเวทีอย่างเดียวไม่ได้ ต้องดูคะแนนการเก็บตัวด้วย ถ้าปีหน้ามีการจัดประกวดแบบนี้ต่อไปอีก อยากให้เขามีการประกาศผลรางวัล หรือคะแนนที่มันเรียลไทม์จริงๆ เพื่อที่ว่าจะได้ไม่ต้องเป็นข้อสงสัยของผู้ชม
จริงๆ คะแนนที่มีตามที่เจ้าของเวทีประกาศไว้ คือห้องดำ รอบชุดประจำชาติ รอบพรีลิมฯ และรอบไฟนอล ซึ่งห้องดำเราก็อาจจะยังไม่ได้เห็นกัน ไม่มีใครได้เห็นเลย มีแค่ตัวนางงามที่ได้เข้าไป เราอาจจะไม่ได้เห็นคะแนนด้วย แล้วเราก็ไม่รู้ว่ารอบชุดประจำชาติเขาให้คะแนนอะไรอย่างไรบ้าง ก็อยากจะเห็นเหมือนกัน ในปีต่อไปเพื่อที่จะไม่ให้เกิดข้อสงสัยกับแฟนนางงามด้วย”
8 ปีกับเส้นทางนางงาม อีกนิดเดียวก็จะเป็นเราอยู่แล้ว พอไม่ได้ทำให้เสียใจเหมือนกัน
“เสียใจเหมือนกันนะ ถึงแม้เราจะไม่ได้ที่ 1 ตอนที่จับมือแล้วเขาไม่ได้ประกาศเป็นไทยแลนด์ วีนามีแว๊บหนึ่งที่เสียใจมากๆ แต่หลังจากนั้นเราได้มาทำความเข้าใจกับตัวเองแล้วว่า สิ่งที่สำคัญที่สุด มันคือระยะทาง ระหว่างที่ผ่านมาเราเต็มที่กับมันแค่ไหน เราได้ปรับเปลี่ยนตัวเอง เราได้พัฒนาศักยภาพของตัวเองจนมายืนอยู่จุดนี้ ได้รองอันดับ 1 จักรวาล วีนาคิดว่าไม่ได้เป็นเรื่องง่ายเลย”
แม้พลาดมงฯ แต่ภูมิใจกับตำแหน่ง รองอันดับ 1 มิสยูนิเวิร์ส 2025
“ภูมิใจมากกับตำแหน่งนี้ วีนาดีใจมากๆ ที่ได้รับมา แต่สิ่งที่ภูมิใจมากยิ่งกว่าคือระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา มันเป็นการสู้โดยที่เราไม่ยอมถอย ไม่ยอมแพ้ และภูมิใจที่แฟนคลับของวีนาทุกคนก็อยู่ในเส้นทางนี้ ไม่ว่าจะเป็นทุกการผิดพลาด ล้มเหลว หรือลุกขึ้นมายืนแล้วได้รับชัยชนะ วีนาดีใจตรงนี้แหละและมันทำให้วีนาภูมิใจมากๆ ไม่ว่าวีนาจะได้ตำแหน่งอะไร ก็จะยังภูมิใจกับสิ่งที่ผ่านมา เพราะว่าเราทุกคนทำเต็มที่แล้ว แล้วเราได้รับความรักที่ไม่สามารถหาได้จากที่ไหนได้แล้วในชีวิตนี้”
เผยคำพูด “บอสณวัฒน์” บนเวที หลังประกวดจบ
“บอสน่ารักมาก บอสมาถามความรู้สึกวีนาโอเคไหม เสียใจหรือเปล่า วีนาบอกบอสเลยว่า วีนาขอบคุณบอสมากๆ สำหรับคำแนะนำที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเดิน เรื่องชุดต่างๆ เรื่องการแสดงอินเนอร์บนเวที บอสมีประสบการณ์เยอะแยะมากๆ ที่สามารถปรับให้วีนาดีขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ ตรงนี้วีนาจะทำได้ไม่ดีขนาดนี้เลย ถ้าไม่มีบอสมาช่วย แล้วบอสเป็นเหมือนพ่ออีกคนนึงของวีนาจริงๆ เพราะเขาให้คำแนะนำที่ดีตลอด และเขาส่งกำลังใจ เป็นห่วงความรู้สึกของวีนาตลอด ขอขอบคุณบอสมากๆ นะคะ ถ้าไม่มีบอสก็ไม่มีวีนาในวันนี้แน่นอน”
ขอบคุณ “นาตาลี เกลโบวา” มิสยูนิเวิร์ส 2005 และเป็นหนึ่งในคณะกรรมการตัดสิน กรณีโพสต์ มิสยูนิเวิร์สของฉันคือไทยแลนด์
“หลังจากวีนาประกวดจบ คุณนาตาลีก็เดินมาบอกเหมือนกันว่า เธอคือผู้ชนะของฉัน วีนารู้สึกขอบคุณ ขอบคุณมาก ขอบคุณคุณนาตาลีด้วย และหลายคนที่ศรัทธาและเชื่อมั่นในตัววีนา แต่สุดท้ายแล้วเราเป็นผู้ชนะในหัวใจของใครหลายๆ คน หน้าที่ที่วีนาได้รับมา วีนาก็อยากจะทำให้เต็มที่เหมือนกัน เส้นทางข้างหน้าไม่ว่าวีนาจะต้องไปเส้นทางไหน วีนาก็พร้อมที่จะเป็นวีนาคนเดิมนี่แหละในแบบที่ดีขึ้น และทำให้ทุกคนภูมิใจเหมือนเดิม
อีกหนึ่งกำลังใจสำคัญของวีนาคือครอบครัว”
ความกดดันส่งผลต่อการประกวด
“ก็มีบ้างนะคะ มันมีเรื่องของความกดดันตรงที่ว่าเราเป็นเจ้าภาพด้วย อย่างแรกหลายคนคิดว่าเจ้าภาพมงมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว มันเป็นไปได้ยาก ซึ่งมันมีไม่กี่คนที่ทำได้ แต่ว่าเขาเองก็อยากเห็นว่าวีนาเองจะสามารถที่จะดูแลคน หรือว่าทำตัวในฐานะเจ้าภาพได้ดีเท่าไหร่ วีนาก็ไม่ได้ทำให้สิ่งเหล่านั้นเป็นแรงกดดัน แต่ว่าเป็นแรงผลักดันให้เราหาอะไรใหม่ๆ มาเสิร์ฟ
หาสิ่งต่างๆ ที่เราสามรถทำให้ดีขึ้น และต้องการที่จะพรูบตัวเองทุกวินาทีว่า เราสมควรที่จะได้มาอยู่บนเวทีนี้นะ และเราสมควรที่จะได้ตำแหน่งนี้ ไม่ใช่เพราะว่าเราเป็นเจ้าภาพ แต่เป็นเพราะเราไม่เคยยอมแพ้เลยตลอด 8 ปีที่ผ่านมา ถึงแม้ตั้งแต่เริ่มประกวดมันจะมีดรามาเยอะแยะมากมาย วีนาก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า ถ้าเราโฟกัสกับการประกวด เราทำทุกวินาทีให้เต็มที่ ไม่ว่าโจทย์มันจะยากแค่ไหน สุดท้ายเราทำได้แน่นอน
แล้วเรามาได้ถึงรองอันดับ 1 วีนาบอกเลยมันไม่ใช่โชคช่วย มันมาได้เพราะแรงสู้ และทุกคนสามารถดูได้เลยตั้งแต่รอบชุดประจำชาติ รอบพรีลิมฯ อย่าลืมนะ มี 2 รอบนั้นด้วย อย่ามาดูแค่วันไฟนอลอย่างเดียว แล้ววีนาว่าวันไฟนอลวีนาก็ทำได้เต็มที่มากๆ จริงๆ ขอขอบคุณทุกกำลังใจเลยค่ะ”
เจอปัญหาสารพัด รอบชุดว่ายน้ำที่พัทยา รองเท้าที่เตรียมมา 2 คู่ หักทั้ง 2 คู่
“งงมาก (หรือมันจะเป็นแบบสงครามนางงาม?) ไม่น่า แต่งงเหมือนกัน ทั้งหมดวีนาเอามา 3 คู่ มีคู่ใช้จริงหนึ่งคู่ และเผื่ออีก 2 คู่ คู่ใช้จริงเป็นคู่ที่ซ้อมประจำ ก่อนที่จะมาเดินโชว์เราก็ซ้อม เมื่อวานก็เพิ่งซ้อมมา เดินได้เต็มที่ โอเคคู่นี้เหมาะแล้วกับการที่เราจะมาเดินที่นี่ ต้องเดินทั้งบนซีเมนต์ บนหญ้า ลงบันได เราถนัดคู่นี้ที่สุด เราก็ซ้อมก่อนเดินวอร์มขา ซ้อมประมาณ 2-3 รอบ รองเท้าหักตรงส้น ซึ่งมันเป็นอะไรที่งงเหมือนกัน เพราะรองเท้าคู่นั้นเพิ่งซื้อมาได้ 2-3 เดือนเอง ช่วงประกวดในบ้านจบ
เราก็โอเคไม่เป็นไร เอามาอีกหนึ่งคู่เป็นสีทอง เราก็ใส่คู่นั้นซ้อมหน่อยวอร์มขา ซ้อมไป 2-3 รอบ ขาดตรงเส้นข้างหน้า วีนาก็แบบเอ้า...ทำไมเป็นแบบนี้ เราใส่คู่นี้ประจำแล้วเพิ่งซื้อมาไม่นานด้วย ก็เลยเอาแล้วทำอย่างไรดี อีกคู่เป็นคัชชูซึ่งมันไม่เข้ากับชุดว่ายน้ำ แล้วน่าจะเดินยาก ต้องเดินบนหญ้าด้วย พี่ทีมงานก็เลยวิ่งไปตามหา ไปเจอพี่ฟ้าใส(ปวีณสุดา ดรูอิ้น) บังเอิญใส่ไซซ์เดียวกัน
คือโชคช่วยมาก พี่ฟ้าใสเลยให้ยืมรองเท้ามาเป็นคู่สีเงินที่เขาจะใส่ แล้วพี่ฟ้าใสไม่ได้ใส่รองเท้าเลย ออกไปเป็นพิธีกร แต่ทีหลังพี่เขาก็ไปหารองเท้ามาให้พี่ฟ้าใสใส่ ตอนเริ่มทุกคนก็จะเห็นว่าพี่ฟ้าใสไม่ได้ใส่รองเท้า เกรงใจมาก แต่คู่นั้นเลยค่ะที่ทุกคนเห็นกัน”
รอบชุดประจำชาติวีนาเองมีความกังวล
“มากเลยค่ะ ชุดประจำชาติเป็นชุดที่หนูกลัวมากที่สุด ก่อนที่จะเดินออกมาหนูมือสั่นเลย มันผิดพลาดไม่ได้ เพราะ 1.ชุดหนักนิดหน่อย 2.รองเท้าก่อนหน้านี้มันสูงมาก เขาก็ปรับมาให้เป็น 6 นิ้ว แล้วเราต้องใส่หน้ากากที่มีรูแค่ 2 รูเล็กๆ เราจะไม่เห็นพื้นทั้งหมด เราจะเห็นแค่ข้างหน้านิดเดียว ก็เลยคิดว่ายังไงก็ตาม ทำตามที่ซ้อมมาให้ดีที่สุด ก็เลยออกมาใส่ให้สุด แล้วกว่าจะได้ขนาดนี้ต้องซ้อมหลายรอบเหมือนกัน เพราะมีทั้งปีก มีทั้งแขน มีธงที่เราต้องสะบัดด้วย แล้วธงก็แอบหนักนิดนึง ตอนซ้อมถือสองมือ แต่ตอนบนเวทีไม่รู้เอาพลังมาจากไหน มีรอบนึงที่ถือมือเดียว”
นอกจากอุปสรรคในเรื่องของชุดแล้ว คนที่สอนเดิน คือบอสณวัฒน์
“ใช่ค่ะ บอสให้เดินให้ดูเลยว่าเดินแล้วเป็นยังไง ตอนแรกเดินชุดราตรี ด้วยความที่เราชองแกว่งแขน เรามีความแมนๆ อยู่ในการเดินชีวิตประจำวัน บอสก็บอกว่าเดินให้ดีจะต้องลงสะโพกและห้ามแกว่งแขนมาข้างหน้าเยอะ เอาไปไว้ข้างหลัง ก็เลยเป็นที่มาว่าหลายคนชมว่าทำไมเดินชุดราตรีสวยขึ้นกว่าเดิมเยอะจากรอบ MUT ก็ได้ทริคมาจากบอสด้วย”
ชุดราตรีรอบไฟนอล เตรียมไว้ 2 ชุด แต่เลือกชุดนี้ เพราะเป็นชุดที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก สมเด็จพระพันปีหลวง
“บอสมาช่วยเลือกเลย อยากให้วีนาใส่ให้ดูแล้วช่วยกันเลือก ก็เลยออกมาเป็นชุดนี้เลย ซึ่งชุดนี้เป็นชุดที่วีนาชอบมากตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพราะเป็นชุดที่ได้แรงบันดาลใจมาจากสมเด็จพระพันปีหลวง เพราะวีนาเองก็อยากจะแสดงความอาลัยถึงท่าน พระองค์ท่านเป็นผู้ที่สานต่อในเรื่องของการสวมใส่เสื้อผ้าไทย หรือแบบสไบต่างๆ เราอยากส่งความเป็นไทยแบบประยุกต์ไปให้สายตาชาวโลกได้เห็น แล้วสีฟ้าก็เป็นสีของพระองค์ท่านด้วย ก็เลยออกมาเป็นชุดนี้”
รอบตอบคำถาม วีนาได้รับเสียงชื่นชมเยอะมากที่เลือกพูดเรื่องของความเท่าเทียมของผู้หญิง
“ประเด็นความเท่าเทียมของผู้หญิงเรายังสามารถทำให้ได้ดีกว่านี้ แล้วสามารถยกระดับความเท่าเทียมในเรื่องของที่ทำงาน หรือที่บ้านได้มากกว่านี้ อีกอย่าง MU หรือเวทีของมิสยูนิเวิร์สเองเขาใส่ใจเรื่องนี้มาตลอดแล้วอยู่ในเป้าหมายของเขาด้วย แล้วหนึ่งในเป้าหมายของ UN คือการเสริมสร้างพลังของผู้หญิงให้มีการเท่าเทียมกับเพศอื่นด้วย ซึ่งคำถามที่ถามมา วีนาคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เหมาะสมที่สุดในเวทีที่เราอยู่ด้วยและสถานการณ์ปัจจุบัน รวมกับตัววีนาเองในฐานะผู้หญิงก็ต้องการให้ผู้หญิงได้รับความเท่าเทียมเท่ากับเพศอื่นด้วย”
ส่วนที่มีแฟนนางงามบางกลุ่มเห็นต่าง บอกว่าวีนาตอบคำถามครั้งนี้ดูเซฟตี้และดูกลางๆ เจ้าตัวแจงว่า...
“วีนาคิดว่าการตอบคำถามของวีนามันออกมาจากใจ และวีนาไม่ต้องการทำให้มันออกมาเวอร์วังหรือใช้คำศัพท์อะไรแปลกใหม่ เพราะเราเองก็บอกตามตรงว่า ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ 2 อยากจะตอบแบบสุดท้ายแล้วมันไม่มีข้อผิดพลาดอะไร ก็เลยคิดว่าการตอบตามที่เราคิด แล้วตอบออกมาจากใจจะเป็นสิ่งที่คณะกรรมการเห็น แล้วก็เลือกลงคะแนนให้กับเราโดยที่ไม่มีข้อไหนมาตัดคะแนน”
ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ หากดูผลงานของตัวเองแล้ว อยากแก้ไขคำตอบไหม?
“คงไม่อยากแก้ไขคำตอบ แต่คงจะยิ้มให้เยอะขึ้น บอกตรงๆ ว่าคิดหนักเหมือนกันที่ตอบ และต้องการตอบให้ดีที่สุด บางที บางมุมหน้าจะออกเครียดๆ นิดนึง ย้อนดูก็เห็นแล้วอยากตอบให้มันเสียงดังกว่านี้”
กรณีมีตำแหน่งควีนเอเชีย อยากจะมอบตำแหน่งนี้ให้วีนาด้วย แต่บอสณวัฒน์บอกเดี๋ยวก่อน ซึ่งเกี่ยวกับประเด็นนี้เจ้าตัวบอกว่า...
“วีนาว่าตำแหน่งรองอันดับ 1 มิสยูนิเวิร์ส เป็นตำแหน่งที่ดีมากๆ แล้ว แต่ต้องเข้าใจควีนทวีปเอเชีย ต้องมีสัญญาที่ต้องมาผูกมัดด้วย ประมาณ 1 ปี ซึ่งวีนาเองก็ยังอยู่ภายใต้สัญญาของ MGI ด้วย ก็ต้องบอกตรงๆ ว่าต้องปรึกษาทางบริษัทก่อน และถามฝ่ายกฎหมายดูว่ามันมีข้อขัดแย้งตรงไหนไหม หรือว่าติดสัญญาพรีเซ็นเตอร์ตัวไหนไหมที่ไม่สามารถทำให้เราทำในข้อบางอย่างได้ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้อาจจะต้องใช้เวลานิดนึง แล้วเดี๋ยวเราจะมาอัปเดตกันอีกที วีนามองว่าถ้าเราไม่รับก็ให้คนที่เขาพร้อมปฏิบัติหน้าที่ได้เต็ม 100 โดยที่เขาไม่ได้มีข้อสัญญาที่ติดพันอะไรก็น่าจะดีกว่า”
เส้นทางต่อไปจากนี้อยากทำหลายอย่าง
“มีหลายอย่างมากๆ เลยที่อยากจะทำ อย่างแรกเลยคือสานต่อโปรเจกต์ชีโร่ของวีนา เพราะเป็นสิ่งที่วีนามีแพสชั่นมากๆ แล้ววีนาอยากจะบอกทุกคนเลยนะ ความฝันของเรามันไม่ได้อยู่กับคำพูดของคนอื่นหรือความคาดหวังของคนอื่น มันอยู่ที่ตัวเราว่าเราพอใจมากแค่ไหน สิ่งนี้ที่อยากส่งต่อ
ถ้าเรามีความตั้งใจ ความพยายาม ไม่ยอมแพ้ เราก็จะเป็นชีโร่ของตัวเองได้ นอกจากนั้นเลย ผลงานในวงการบันเทิงก็ยังอยากทำ เช่น อยากจะเป็นศิลปิน เดี๋ยวต้องถามบอสก่อนว่าบอสเห็นด้วยไหม บางทีเราชอบร้องเพลง แต่คนอยากฟังหรือเปล่า”


