“เม พรีมายา” วอนเข้าใจดรามาเลี้ยงลูกไลฟ์สด ลั่นชีวิตไม่มีทางเลือกมาก ได้ขายของไปด้วย อยู่กับลูกไปด้วย แต่ละบ้านเลี้ยงลูกไม่เหมือนกัน สิ้นหวังถูกคู่กรณียื้อคดีถึงปลายปีหน้า มั่นใจไม่แพ้และไม่ได้ทำผิด
ควงครอบครัวออกงาน พร้อมเผยถึงกรณีดรามา ทวงความเป็นเด็กให้โมเน่ เหตุชาวเน็ตทนไม่ไหว ที่เห็นดึกๆ ดื่นๆ “น้องโมเน่” ลูกสาว “เม พรีมายา”ยังนั่งอยู่ในไลฟ์ของแม่ที่กำลังไลฟ์ขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ งานนี้ เม พรีมายา พร้อม “แซก” สามี ได้เปิดใจระหว่างมาร่วมงาน The EndoliftX Expert Night ณ ห้องราชมณเฑียรแกรนด์บอลรูม ชั้น M โรงแรมมณเฑียร สุรวงศ์ ขอความเข้าใจและเห็นใจ บางทีชีวิตก็ไม่มีทางเลือก อยากทำงานไปด้วย อยู่กับลูกไปด้วย
เม : “คือเมเป็นแม่ค้าขายของมานานมากๆ แล้วค่ะ พอเรามีลูกก็เปลี่ยนไลฟ์สไตล์นิดหน่อยให้เราเข้ากับลูก เราได้อยู่กับลูก ลูกได้อยู่กับเรา ซี่งเมมองว่าก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่ไลฟ์ดึกหรืออะไร เพราะเมทำงานอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าตอนนี้โซล-โมเน่เขาดัง และเป็นที่จับตามองมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ทางซ้ายเมก็อาจจะโดนคนนั้นดุ ทางขวาก็อาจจะโดนคนนี้ดุบ้าง ถูกใจบ้าง ไม่ถูกใจบ้าง
แต่สุดท้ายแล้วเมก็อยากจะบอกว่าการเลี้ยงลูกและข้อจำกัดของแต่ละบ้านไม่เหมือนกัน เมก็ขอความเข้าใจตรงนี้ด้วย และโซลกับโมเน่เป็นเด็กที่ไม่เหมือนกันเลย เมมองว่าลูกสาวเรามีความชอบและสนุกกับตรงนี้ เมไม่เคยไปบังคับว่าเธอต้องนั่งตรงนี้จนกว่าฉันจะไลฟ์เสร็จ คือเมก็คุยกับเขาไม่รู้เรื่องอย่างที่ทุกคนเห็น คือเราไม่สามารถสั่งการเด็กได้ แต่น้องเขาสนใจอยากจะมานั่งกับเรา มาแกะของโน่นนี่น้องจะชอบ แต่กลับกันลูกชายเอามานั่งด้วยเท่าไหร่ ให้อยู่ในสายตาเท่าไหร่เขาก็จะเดินออก เด็กจะมีความสนใจไม่เหมือนกัน”
ไม่นอยด์ แต่ขอความเข้าใจ ขอความเห็นใจ เลี้ยงลูกแต่ละบ้านไม่เหมือนกัน หลายอย่างบีบให้ทำงานไปเลี้ยงลูกไป ให้เลิกไลฟ์หนีปัญหาคงทำไม่ได้
เม : “ไม่ถึงกับนอยด์ค่ะ ตัวเมอยู่ตรงนี้ได้รับมุมมองที่แตกต่าง การติชมมาตลอดอยู่แล้ว เพียงแต่สุดท้ายแล้วเมแค่อยากจะขอความเข้าใจ ขอความเห็นใจคือการเลี้ยงลูกแต่ละบ้านมันไม่เหมือนกันจริงๆเด็กเขาก็มีความสุขแบบนี้ ชอบแบบนี้ ตัวเราก็ให้ได้แบบนี้ และเมเองก็มีปัญหาเรื่องของธุรกิจด้วย หลายๆ อย่างก็บีบให้เมเลี้ยงลูกไป ทำงานไป มันไม่ได้คล่องตัวเหมือนสมัยก่อน
ก็เลยขอความเห็นใจทุกอย่างว่าถ้าลูกเราไม่ชอบเราบังคับไม่ได้อยู่แล้ว แต่เมโชคดีว่าลูกสาวชอบ แล้วถามว่าจะเลิกไลฟ์ จะเลิกขายของเลยไหมเพื่อหลีกหนีดรามา มันอาจจะเป็นสิ่งที่หนูทำไม่ได้ เพราะวันนี้ลูกหนูสองคนกำลังจะเข้าโรงเรียน ในท้องก็อีกหนึ่งเดือนจะคลอด แล้วหนูก็มีปัญหาธุรกิจอีก หนูว่าตอนนี้สิ่งที่หนูเลือกให้ลูกคือสิ่งที่ดีที่สุดที่หนูกับแซกเลือกทำแล้วจริงๆ ค่ะ”
เชื่อหลังคลอดลุกขึ้นมาทำงานทันทีได้ ค่าใช้จ่ายเยอะ
เม : “หลังคลอดก็คงจะหายไปพักสักระยะนึงค่ะ แต่ตอนที่หนูคลอดโซล - โมเน่ หนูก็ทำงานเลย คือชีวิตเราก็เลือกอะไรไม่ได้มากมายหรอกค่ะ ก็ต้องลุกขึ้นมาทำต่อไป ตอนที่คลอดโซล-โมเน่ก็เป็นท่ามกลางมรสุมและดรามาเหมือนกันเจ็บแผลมากหนูก็ขึ้นรถทำงานเหมือนกัน เพราะลูกออกมาแล้ว ค่าใช้จ่ายก็เยอะแยะมากมาย”
ยังไม่รู้ว่าน้องในท้องคืออะไร แต่ถามทุกวัน
เม : “เขาอาจจะไม่รู้ว่าน้องในท้องคืออะไร แต่เขาจะมาถามทุกวันว่าแม่ท้องแข็งไหม น้องดิ้นไหม แต่เขาอาจจะไม่รู้หรอกว่าน้องคืออะไร แต่เขาได้มีโอกาสเจอยูจินกับจาญ่า (ลูกเจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น) เขาก็เลยได้เห็นว่าเบบี๋คืออะไร เมจะบอกว่ามีจาญ่าอยู่ในท้องหนึ่งคนนะ เขาก็เลยพอจะเข้าใจบ้าง กลับมาบ้านก็จะเลี้ยงตุ๊กตาเด็กแล้วบอกว่าเลี้ยงจาญ่า”
ย้อนเวลาได้ก็จะเป็นแบบนี้ ไม่มีทางเลือกมากมายในชีวิต
เม : “ทุกดรามาที่ผ่านมาก็จะถามตัวเองก่อนว่าอันนี้เรื่องจริงหรือเปล่า และมันเป็นสิ่งที่หนูปรับแก้ได้ไหม ทำได้ไหม ถ้าคอมเมนต์ไหน คำติชมไหนที่ปรับปรุงได้และมีประโยชน์กับตัวหนู หนูเก็บมาทุกครั้งจริงๆ ค่ะ แต่สุดท้ายแล้วมันคือสิ่งที่ดีที่สุด ณ เวลานั้น ต่อให้หนูย้อนเวลากลับไปได้ มันก็เป็นแบบนี้ เพราะเราไม่ได้มีทางเลือกอะไรมากมายในชีวิต ก็พยายามเข้าใจว่ามันไม่สามารถทำให้ทุกคนถูกใจได้ทั้งหมด ก็คุยกับพ่อเขาตลอดแซกก็บอกเมว่าสุดท้ายแล้ววิธีที่เราเลือกให้ลูกไม่ว่าจะเป็นอะไรก็แล้วแต่มันคือสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกเราแล้ว”
เผยคดีถูกคลินิกฟ้อง สิ้นหวังมาก ถูกเลื่อนไปปลายปีหน้า ลั่นไม่เห็นทางแพ้ เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด
แซก : “ในเรื่องที่เราเคลียร์กันมาทั้งปี ศาลนัดอีกทีปลายปีหน้า ส่วนในเรื่องที่เราได้เปิดที่เป็นกระแสมา เราก็ทยอยฟ้อง ตอนนี้ฟ้องไป 3 เรื่องแล้วครับ ยังเหลืออีก ก็ทยอยไปเรื่อยๆ นัดแรกก็น่าจะเป็นต้นเดือนธันวาคมนี้ ถ้าถามถึงแนวโน้ม คือต้องบอกว่าเราพยายามทำเต็มที่แหละครับ ผมก็คุยกับทนายว่าสิ่งที่แย่ที่สุดของเราคืออะไร เขาก็บอกว่าผมยังไม่เห็นทางไหนเลยที่คุณจะแพ้ เพราะเราไม่ได้ทำอะไรผิด”
เม : “เมก็อยากจะย้ำประเด็นนี้ คือสิ่งที่เมพูดออกไป ตั้งแต่เกิดดรามามา เมย์ก็ช็อกเหมือนกันตั้งแต่ฝั่งอดีตเพื่อนรักของเมได้ออกมาพูด เราเคลียร์กันมาตลอด 1 ปีที่ผ่านมา แล้วพอเป็นเรื่องตอนต้นต.ค. พอปลายต.ค.เมก็ไปตามนัดที่ศาลอีกรอบนึง ศาลท่านก็ให้เราเลือก 2 ไทม์ไลน์คือปลายปีหน้า ปีกว่าเลยนะ กับปลายปีนี้ คือธ.ค.หรือม.ค.นี้
ซึ่งหากว่าเขาอยากจะจบ เขาควรที่จะเลือกธ.ค.หรือม.ค. เขาเป็นโจทก์ หนูเป็นจำเลย แต่เขาเลือกประวิงเวลาไปอีกปึกว่า คือเรื่องนี้หนูก็อยากจะขอความเห็นใจ ขอความอ้อนวอนทั้งตัวเขาและสังคม มันเหมือนจะติดตัวหนูไปอีกปีนึงท้ังๆ ที่วันนี้การที่หนูเลือกออกมาให้สังคมรับรู้ เพราะหนูอยากให้มันจบ หนูอยากออกไปใช้ชีวิต หนูอยากจะออกไปเลี้ยงลูก หนูจะได้มีทางออกใหม่ไปเริ่มธุรกิจ
แต่วันนี้สิ่งที่เขาเลือก พอมันเป็นข่าวเสร็จ เขาออกมาให้ข้อมูลที่สำหรับเมคือมันไม่ใช่ความจริงในมุมของเม และเขายังเลือกที่จะไกล่เกลี่ยกับเราปลายปีหน้า แล้วเมื่อไหร่เรื่องนี้จะจบ เมื่อไหร่เรื่องนี้จะออกไปจากครอบครัวของเรา มันดูแล้วก็สิ้นหวังเหมือนกัน แม้แซกจะบอกว่าแซกจะสู้เต็มที่ สิ่งที่เมพูดไปทั้งหมดเมก็ยืนยันจริงๆ ว่ามันคือข้อเท็จจริงความจริงทุกอย่างค่ะ”
มั่นใจไม่ได้ 100 ล้านตามเรียก บาทนึงก็อาจไม่ได้ด้วย
เม : “หนูว่าเงินไม่ได้อยู่แล้ว ตอนแรกเขาก็ยังไกล่เกลี่ยที่จะให้เรา 30 ล้าน 50 ล้าน 60 ล้าน 80 ล้านไหมในตลอดระยะเวลาปีนี้ เขาก็มีไกล่เกลี่ยมาในศาล แต่ตอนนี้คิดว่าสักบาทนึงก็ไม่น่าจะได้ แต่สิ่งที่เราได้มาวันนี้คือการที่สังคมและพี่ๆ สื่อรับฟังหนูมากขึ้น หนูก็คิดว่ามันก็เป็นโอกาสให้หนูได้ทำมาหากิน ให้หนูได้มีที่ยืนในสังคมจากที่เราเองก็รู้สึกว่าทุกคนตัดสินเราไป แค่ตอนนี้รับฟังข้อเท็จจริงจากหนู มันก็เป็นอะไรที่ประเมินค่าไม่ได้แล้วค่ะ สำหรับเมวันนี้เสียธุรกิจไป 100 ล้าน เสียเสาหลักของบ้านไป แต่เรามีโอกาสทำมาหากิน เราเริ่มใหม่ได้”


