xs
xsm
sm
md
lg

‘สัตว์ประหลาดแห่งที่ราบ’ MONSTER: The Ed Gein Story

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: Mgronline



MONSTER: The Ed Gein Story ซีรีส์อาชญากรรมชีวประวัติเรื่องล่าสุดจาก Netflix ภายใต้การสร้างสรรค์ของ Ryan Murphy และ Ian Brennan ได้นำผู้ชมย้อนกลับไปสู่ช่วงทศวรรษ 1950 ณ ชนบทอันเงียบสงบของรัฐวิสคอนซิน เพื่อสำรวจจิตใจอันมืดมิดและอาชญากรรมอันน่าสะพรึงกลัวของ “เอ็ดเวิร์ด เอ็ด กีน” (Edward “Ed” Gein) ชายผู้กลายเป็นต้นแบบของฆาตกรต่อเนื่องในภาพยนตร์สยองขวัญระดับตำนานมากมาย ซีรีส์ความยาว 8 ตอนนี้ ไม่เพียงแต่นำเสนอเรื่องราวอาชญากรรมเท่านั้น แต่ยังเจาะลึกไปถึงภูมิหลังอันซับซ้อน แรงจูงใจที่บิดเบี้ยว และผลกระทบที่เรื่องราวของเขาได้ฝังรากลึกในวัฒนธรรมสมัยนิยม

“เอ็ด กีน” หรือที่รู้จักกันในฉายา “ไอ้ฆาตกรแห่ง Plainfield” (The Butcher of Plainfield) คือผู้ร้ายตัวจริงที่ก่ออาชญากรรมอันสุดพิลึกพิลั่นในยุค 1950 ซึ่งเป็นยุคที่อเมริกาเชื่อมั่นในความสงบเรียบร้อย ซีรีส์นี้เปิดฉากด้วยการนำเสนอชีวิตในวัยเด็กของเอ็ด กีน (รับบทโดย Charlie Hunnam) ภายใต้การเลี้ยงดูที่เข้มงวดและบิดเบี้ยวของมารดาผู้เคร่งศาสนาอย่างสุดโต่งและคอยปลูกฝังความเกลียดชังในตัวผู้หญิงให้กับบุตรชาย พ่อผู้ติดสุราและพี่ชายที่พยายามตีตัวออกห่าง ไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น


เมื่อเอ็ด กีน สูญเสียบิดาและพี่ชาย (ซึ่งถูกนำเสนออย่างน่าสงสัยในซีรีส์) เขาก็เหลือเพียงมารดาผู้เป็นศูนย์กลางของจักรวาลส่วนตัว เมื่อแม่เสียชีวิตในปี 1945 เอ็ด กีน ก็ถูกทิ้งให้อยู่โดดเดี่ยวในบ้านไร่อันทรุดโทรม และเริ่มต้นการเดินทางสู่ความวิปลาสที่เกินจินตนาการของคนทั่วไป

แกนหลักของเรื่องราวคือการสืบสวนอาชญากรรมของ เอ็ด กีน ซึ่งถูกจับกุมในปี 1957 หลังจากที่ Bernice Worden เจ้าของร้านฮาร์ดแวร์ในท้องถิ่นหายตัวไป การค้นพบภายในบ้านของ เอ็ด กีน สร้างความตกตะลึงให้กับเจ้าหน้าที่และสังคมในวงกว้าง เพราะไม่ใช่แค่การฆาตกรรมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการรื้อค้นศพจากสุสานเพื่อนำชิ้นส่วนมาทำเป็นเครื่องใช้ในบ้าน เฟอร์นิเจอร์ และ “ชุด” ที่สร้างจากผิวหนังมนุษย์ ความวิปริตเหล่านี้ทำให้ เอ็ด กีนกลายเป็นสัญลักษณ์ของความชั่วร้ายในทันที แม้ว่าเขาจะสารภาพเพียงการฆาตกรรมสองศพคือ Worden และ Mary Hogan แต่การกระทำของเขาก็เกินกว่าที่คนทั่วไปจะเข้าใจ


เช่นเดียวกับซีรีส์ในชุด Monster ก่อนหน้า (เช่น Monster: The Jeffrey Dahmer Story) การเล่าเรื่องของ Ryan Murphy และ Ian Brennan มักมีการตีความและเสริมแต่งรายละเอียดเพื่อสร้างมิติทางอารมณ์และความน่าสนใจให้กับเนื้อหา

ในส่วนของ MONSTER: The Ed Gein Story ประเด็นที่ถูกนำมาขยายความอย่างมากคือ “ความสัมพันธ์” ที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ระหว่าง เอ็ด กีน กับตัวละครที่อิงจากบุคคลจริงอย่าง Adeline Watkins (รับบทโดย Suzanna Son) ซีรีส์นำเสนอ Adeline เป็นคนรักและความลับของเอ็ด กีน ผู้ซึ่งมีความหลงใหลในความตายและอาชญากรรมที่คล้ายคลึงกัน ถึงขนาดที่ทั้งคู่ร่วมกันเดินทางไปรื้อค้นหลุมศพและ Adeline ยังเป็นผู้แนะนำให้ Ed รู้จักกับเรื่องราวของ Ilse Koch (รับบทโดย Vicky Krieps) อาชญากรสงครามนาซีที่ถูกขนานนามว่า "สัตว์ร้ายแห่ง Buchenwald" ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจอันมืดมิดให้กับ เอ็ด กีน


อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากแหล่งข่าวจริงได้ชี้แจงว่า ความสัมพันธ์ของ Watkins กับ เอ็ด กีน นั้นมีจำกัดและห่างไกลจากความโรแมนติกที่ซีรีส์นำเสนอ การเสริมเติมเรื่องราวนี้ทำให้เกิดข้อถกเถียงว่าซีรีส์กำลัง “ยกย่อง” หรือ “มองโลกในแง่ดี” ต่อแรงจูงใจของฆาตกรที่ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคจิตเภทและถูกกักตัวในโรงพยาบาลจิตเวชจนกระทั่งเสียชีวิตในปี 1984 หรือไม่ แต่ในอีกแง่หนึ่ง การเสริมแต่งนี้ก็คือเครื่องมือของศิลปะเพื่อสำรวจความโดดเดี่ยว, การขาดความเข้าใจ, และการพัฒนาของความหมกมุ่นที่ Gein มีต่อผู้หญิงที่เขามองว่าคล้ายคลึงกับมารดาของเขาเอง

สิ่งที่ทำให้ เอ็ด กีน แตกต่างจากฆาตกรต่อเนื่องคนอื่น ๆ คืออิทธิพลของเขาต่อวงการภาพยนตร์สยองขวัญ ซีรีส์ได้สอดแทรกฉากและตัวละครที่เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์เหล่านี้อย่างชาญฉลาด โดยมีการปรากฏตัวของ Alfred Hitchcock (Tom Hollander), ภรรยาของเขา Alma Reville (Olivia Williams) และนักแสดง Anthony Perkins (Joey Pollari) เพื่อนำเสนอเบื้องหลังการสร้างภาพยนตร์ Psycho (1960) ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากเรื่องราวของ Gein เช่นเดียวกับฆาตกรในภาพยนตร์เรื่อง The Texas Chain Saw Massacre (1974) และ The Silence of the Lambs (1991) ที่ต่างก็หยิบยืมพฤติกรรมสุดวิปริตของเขามาเป็นส่วนประกอบ


การตัดสินใจของผู้สร้างที่ใช้ เอ็ด กีน เป็นบุคคลต้นแบบในซีซั่นนี้ คือการตอกย้ำว่าเขาคือ Original Monster หรือสัตว์ประหลาดดั้งเดิม ที่ได้สร้างพิมพ์เขียวสำหรับฆาตกรสมมติในวัฒนธรรมอเมริกัน ซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้เป็นเพียงการเล่าเรื่องของฆาตกร แต่เป็นการวิเคราะห์ว่าความหวาดกลัวที่เกิดจากชายในชนบทผู้เงียบเหงาคนหนึ่ง ได้ถูกนำมาแปรสภาพเป็นปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมที่ขายได้ในโลกของ “อาชญากรรมจริง” (True Crime) ในปัจจุบัน

MONSTER: The Ed Gein Story อาจถูกวิจารณ์ในแง่ของการนำเสนอความวิปริตอย่างโจ่งแจ้งและความถูกต้องทางข้อเท็จจริงที่เบี่ยงเบนไปจากต้นฉบับ แต่ความสำเร็จของซีรีส์นี้คือการทำให้ผู้ชมต้องเผชิญหน้ากับคำถามที่ว่า “อะไรคือสิ่งที่ทำให้มนุษย์กลายเป็นสัตว์ประหลาด?”

Charlie Hunnam ถ่ายทอดภาพลักษณ์ของ เอ็ด กีน ในฐานะชายที่บอบช้ำจากความโดดเดี่ยวและคำสอนที่ผิดเพี้ยน ซึ่งในทางหนึ่ง เป็นการยื่น “กระจก” ให้ผู้ชมได้มองเห็นรอยแตกในสังคมที่นำไปสู่ความสยองขวัญ ซีรีส์นี้คือการเดินทางที่น่าขนลุกเข้าไปในจิตใจที่บิดเบี้ยว และเป็นการตอกย้ำว่าเรื่องราวของ เอ็ด กีน จะยังคงเป็นตำนานแห่งความสยดสยองที่สร้างความหลอนให้กับโลกภาพยนตร์และสังคมไปอีกนานแสนนาน













กำลังโหลดความคิดเห็น