“ลาล่า” เผยคบ “เล็ก” เกือบ 2 ปีแล้ว ฟุ้งชีวิตรักตนเหมือนซีรีส์เกาหลี หล่อตรงสเปกให้อารมณ์เหมือนลีมินโฮ แม้ตนจะจีบฝ่ายชายก่อน แต่ฝ่ายชายเป็นคนขอตนคบเป็นแฟน ลั่นคบกันไม่เคยต้องเปย์ มีแต่อีกฝ่ายที่เปย์ตน
เจอมรสุมโควิด-19 ทำงานหด ร้องไห้หนักมาก ทอแท้ชีวิต แต่มิวายนักร้องสาว “ลาล่า อาร์สยาม” ถูกบูลลี่หนักมากจากที่เจ้าตัวทำรายการในยูทิวบ์กับแฟนหนุ่ม “เล็ก เจษฎา รุ่งสาคร” ที่ออนแอร์ไปก็มีคนเข้ามาคอมเมนต์เหยียด วิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานาว่าไม่เหมาะสมกัน เจ้าตัวยอมรับกับรายการต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANGE2561 ว่าได้เก็บคำบูลลี่ต่างๆ นานามาพัฒนาตัวเองอยู่
“พอเราเจอบูลลี่เยอะๆ เราก็หันมาใส่ใจตัวเองเยอะขึ้น เขาเห็นแบบนี้เขาก็ตั้งแง่กับเราถึงความไม่เหมาะสม ตลกกับพระเอก คนไม่สวยกับคนหล่อ มันจะไปด้วยกันได้เหรอ ปกติด่าเราอ้วนดำนั่นนี่ ไม่เหมาะสมกับพี่เล็ก เราก็ยังโอเค เราจะพัฒนาตัวเองให้ดี ให้บุคลิกภาพดีให้ได้ เราก็พยายาม แต่ทีนี้เจอข้อความหนึ่งที่แบบว่า ถึงว่าล่ะ คนอีสานถึงไม่มีแฟน เฮ้ย มันไม่ได้แล้วนะ แล้วมาด่าเราอ้วน เปรียบเทียบเป็นอึ่งอ่าง ขี้เหร่นั่นนี่”
“สมมติว่าวันนี้มีเงินลาล่าบินไปเกาหลี โมตัวเองใหม่ก็ได้ แต่เราไม่สามารถโมภูมิภาคของเราได้ มันเลยรู้สึกว่าถ้าจะเหยียด จะด่าเรา ด่าเราคนเดียว แต่อย่าไปพูดพาดพิงถึงพ่อแม่พี่น้องชาวอีสาน แล้วตอนนี้คือคนอีสานขยันทำงาน ไม่ใช่เป็นคนไม่ดีนะ คนอีสานคือรักถิ่นกำเนิดตัวเองมาก”
บอก “เล็ก” ไม่เคยมองว่าตนอ้วน ไม่สวย มีแต่ชวนกินเพราะรู้ว่าเป็นความสุขของตน
“เขาไม่เคยพูดให้ได้ยินเลยว่า เราอ้วน เราไม่สวย เขามีแต่ซัปพอร์ตเราในสิ่งที่คนอื่นด่าๆ เรา เขามาซัปพอร์ต หาอะไรอร่อยๆ ดีๆ มาให้เรากินอย่างก็รู้ว่าอันนี้กินแล้วอ้วน แต่เขาบอก กินไปเถอะ ความสุขกินไปเถอะ มันเลยมีความสุขไปกับเขา เราก็เลยทิ้งในสิ่งที่คอมเมนต์แย่ๆ นั้นออกไป แล้วมาโฟกัสที่เขาให้กำลังใจเรามากกว่า”
บอกที่ผ่านมาตนพยายามมองข้ามเพราะ “เล็ก” ขอไว้ แต่มาเจอเหยียดภูมิภาคเป็นคนอีสานตนทนไม่ไหวจริงๆ
“คือคนที่มาด่าเรา เราก็ไปสืบนะว่าเขาเป็นใคร พอเราไปสืบ เขาก็ปิดแล้วเปิดอันใหม่ เหมือนเขาต้องการให้เราด่ากลับแล้วเขาชนะ เขาแฮปปี้แล้วกับการที่เราได้ด่ากลับ ช่วงแรกๆ มีด่ากลับนะเพราะโมโห หลังๆ มาพี่เล็กเขาบอกว่าไม่เอาแล้วนะ ไม่ด่าคนอย่างนั้นแล้วนะ มันจะทำให้ตัวเองเสียสุขภาพจิต ให้ปล่อยผ่านอะไรแบบนี้ ก็บอกไม่ทำแล้วค่ะ เราไม่ทำแต่ก็ยังเข้ามาอีก มีข้อความที่เหยียดภาคอีสานนี่แหละที่เราลงไปทำอีก มันอดไม่ไหวจริงๆ”
ซัดอยากแจ้งความให้เป็นกรณีตัวอย่างในวงการบันเทิง
“อยากทำนะ ก็พยายามให้แฟนคลับสืบ ที่จริงเราอยากทำเป็นเคสตัวอย่างด้วยซ้ำไปว่า ในภาวะแบบนี้คุณจะมาสนุกกับมือในการที่พิมพ์กับความรู้สึกของคุณ อยากด่าใคร ไม่อยากให้ทำแบบนี้ แล้วพวกเราศิลปินดาราก็จะเจอแต่อย่างนี้ ถ้ายังมีอีกเยอะๆ คงต้องทำ เพราะว่ามันก็ปีกว่าจะเข้าสองปีที่เราเจอแบบนี้”
เล่าความรักระหว่างตนกับ “เล็ก” เหมือนซีรีส์เกาหลี
“เรารู้จักกันมานาน น๊านนานแล้วนะคะ แต่มันเหมือนกับแบบ..ถ้าดูซีรีส์เกาหลีนะเหมือนเลย มันเหมือนกันการเดินเป็นวงกลมแบบนี้แล้วเดินไม่เจอกัน ถ่ายละครเรื่องเดียวกัน แต่ก็อยู่กันคนละพาร์ต แต่เวลาบวงสรวงอยู่หน้าหลังเลย เหมือนไปรับรางวัลก็ไปด้วยกัน ไปงานเดียวกันแต่มันไม่ได้มาเจอะกันตลอด มีช่วงหลังที่ไปทำบุญไปเที่ยว มันเริ่มคุยกันมากขึ้น เริ่มออกกำลังกายก็มีการพูดคุยหยอกตามสไตล์ เจอผู้ชายเราก็ไม่ได้รู้สึกกลัว เราอยากหยอกอยากเล่นก็ไม่รู้ไปสะกิดต่อมไหนเขา ถึงทำให้เขารู้สึกชอบผู้หญิงสไตล์นี้”
รับไปจีบ “เล็ก” ก่อน บอกฝ่ายชายหล่อตรงสเปกให้อารมณ์เหมือนลีมินโฮ
“ก็คงเป็นลาล่านั่นแหละไปจีบเขาก่อน เราคงไม่ปล่อยให้ลอยนวล มันคือสเปก เข้าใจอารมณ์แนวลีมินโฮไหม ผู้ชายสูงขาว เราผู้หญิงสไตล์นี้ คือในความรู้สึกนะ เราปฏิญาณตนเองว่าถ้า ณ วันนึงฉันได้แฟน ขอหล่อๆ สูงๆ ขาวๆ ฉันจะอวด แฟนฉันๆ”
แต่ “เล็ก” เป็นคนขอคบกับตนจริงจังก่อน ซึ่งตอนนี้คบกันมาเกือบ 2 ปีแล้ว
“เขาเป็นคนที่เซอร์ไพรส์แบบเนียนไม่รู้สึกตัว อาจจะเป็นเพราะเราขี้เล่นจนไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรในวันนั้นอยู่ วันนั้นก็เป็นวันวาเลนไทน์ เขาก็บอกไปออกกำลังกัน เราก็แปลกใจว่าอะไรปกติเราเป็นคนชอบโซเชียล เขาก็บอกว่าเบาๆ หน่อยได้ไหมเรื่องโซเชียล แต่วันนั้นเขาเป็นคนที่ว่าทำไมวันนี้มีคนมาเยอะจังเลย ทำไมเพื่อนมารวมกันเยอะแยะมากมาย เขาก็ลากเราไปแล้วก็เปิดท้ายรถเอาดอกกุหลาบให้เราวันวาเลนไทน์ บอกว่าวันนี้ขอเป็นวันที่เริ่มคุยแบบจริงจัง เริ่มศึกษากันนะ ตอนนี้คบกันจะเข้าปีที่ 2 แล้ว”
ลั่นคบกันไม่เคยเปย์ “เล็ก” มีแต่อีกฝ่ายที่เปย์ตน
“ส่วนมากเราก็เปย์ให้นะ (หัวเราะ) พอเรามาเจอเขา เขากลับเปย์กลับเรา แบบใช่ไหมวะ ทำไมรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ ไปไหนเขาก็เทคแคร์ทุกอย่าง รู้สึกเกรงใจจังเลย ขอบคุณค่ะ”
ยังไม่คิดแต่งงานเร็วๆ นี้ ฟุ้งฝ่ายชายเตรียมเปิดธุรกิจให้เพราะเห็นตนเครียดไม่มีงานจ้างในช่วงโควิด-19
“คงอีกนาน เพราะว่าด้วยช่วงนี้ ด้วยธุรกิจของพี่เขาก็เครียดหลายๆ อย่าง ของลาล่าเองพี่เล็กเขาก็สอนให้เราเป็นนักธุรกิจด้วย เขาก็ถามเราว่าถนัดแนวไหน อยากทำอะไรลองเอามาคุยกันสิ มาปรึกษากันสิ คือลาล่าเรียนนาฏศิลป์ วิทยาลัยนาฏศิลป์กาฬสินธุ์ เรียนรำมา เขาบอกสอนรำได้ไหม พอเจอโควิดเราไม่สามารถแตะเนื้อต้องตัวเด็กๆ ได้ มันจับท่ารำไม่ได้ คือเขาก็อยากจะเปิดโรงเรียนให้ถ้าเกิดโอเคก็ทำหลักสูตรการสอน”
“เขาจะติดกระจกบนออฟฟิศชั้น 3 ให้ เขาเห็นเราช็อกวันนั้น(ช่วงโควิด) จากเป็นคนที่พูดๆๆๆ แต่กลับกลายเป็นคนนิ่ง เขาก็เลยไม่สบายใจ เขาก็เลยโทร.ไปหาผู้จัดการส่วนตัวว่า ล่าตอนนี้คือหนักไหม สภาพจิตใจเป็นยังไง”
“เพราะเขาเคยถามมาแล้วว่าโอเคไหม เขาพูดคำนี้ว่า ถ้าไม่มีเงินเอาเงินกับพี่ก่อนไหม คำนั้นแหละเราปิดโทรศัพท์ไม่คุยกับเขาเลย มันไม่ใช่ ซัปพอร์ตอย่างอื่นได้แต่ซัปพอร์ตเรื่องเงินมันรู้สึกแบบ รู้สึกแย่จังเลย เหมือนวันนี้เขาประสบความสำเร็จเขามีเงินมากกว่าเรา แล้ววันนี้เราต้องขอเงินเขาเหรอ ทั้งๆ ที่เราก็มีศักยภาพในการหาเงินได้ เราเลยไม่อยากจะเอาเรื่องเงินไปเป็นภาระให้กับพี่เขา เราต้องใช้ความสามารถของเราให้เต็มที่ก่อน ถ้าไม่ได้จริงๆ เราถึงจะขอ ที่ผ่านมาร้องไห้หนักมาก เพราะยังมีหนี้บ้าน หนี้รถที่ต้องผ่อนอยู่ แต่ชีวิตก็ยังต้องมีความหวัง ก็สู้กันไปค่ะ”