“หน่อง” เผยบุพเพฯ รีรันจะได้เห็นฉากที่ไม่ได้เห็นตอนออนแอร์แน่นอน และมีฉากลูกๆ ให้เห็นชัวร์ บอกไม่คิดว่าฉายเร็วไป เพราะเป็นนโยบายที่ทางสถานีจัดมาเอง ยืนยัน “พรหมลิขิต” ได้ดูก่อน 5 ปีที่ “รอมแพง” บอกแน่นอน และเคลียร์ที่อีกฝ่ายดราม่าเรื่อง 3 ตอนสุดท้ายเรียบร้อยแล้ว บอกไม่มีปัญหา และทางบรอดคาซท์ก็ยังคงได้ลิขสิทธิ์ทำต่อแน่นอน
เป็นละครที่มีกระแสได้ตั้งแต่ต้นจนจบจริงๆ สำหรับ บุพเพสันนิวาส ที่ล่าสุดเตรียมนำกลับมาฉายรีรันอย่างเร่งด่วนต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ทิ้งช่วงความฮอตนานจนเกินไป ซึ่งผู้จัดอย่าง “หน่อง อรุโณชา ภานุพันธุ์” ก็ออกมาเผยถึงเรื่องนี้ในงานมอบรางวัล PRESS AWARDS เณศไอยรา ประจำปี 2561 ณ ศูนย์ประชุวิจัยจุฬาภรณ์ หลักสี่ เจ้าตัวก็เผยว่าแฟนๆ ละครจะได้เห็นบางฉากบางตอนที่ไม่ได้เห็นในตอนที่ออนแอร์ปกติแน่นอน และฉากลูกๆ ที่หลายๆ คนรอคอยก็จะได้เห็นในการรีรันครั้งนี้ด้วย
“บุพเพสันนิวาสจะกลับมารีรัน 11 พ.ค. นี้ค่ะ แต่รีรันก็ไม่ได้เหมือนกับอันเดิมเป๊ะนะคะ ก็จะมีฉากที่เรายังไม่ค่อยได้เห็นแทรกๆ เข้ามา แต่ที่สำคัญคือตอนท้ายจะได้เห็นลูกแน่นอนค่ะ ถามว่ากลัวแฟนๆ ละครจะผิดหวังอีกไหม คือตอนพิเศษ 3 ตอนที่ผ่านมา ต้องบอกว่าตอบแทนไม่ได้ เพราะเราไม่ได้ทำจริงๆ ค่ะ แต่ในส่วนของตอนรีรันไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ เพราะมันคืออันที่เราได้ออกอากาศไปตอนช่วงกลางคืน แต่สิ่งที่จะมีเพิ่มเข้ามาคือฉากอันซีนหลายๆ อันที่เราไม่ได้เห็น แต่ที่หลายๆ คนเรียกร้องก็คือฉากลูกนะคะ ก็จะได้เห็นช่วงท้ายนะคะ ไม่ใช่ช่วงหัว ก็จะเป็นไปตามเรื่องค่ะ แต่หลายๆ อันก็จะมีอรรถรสที่มากขึ้นกว่าเดิมด้วยค่ะ”
“คิดว่าเร็วไปไหมเหรอคะ อันนี้ก็เป็นนโยบายทางสถานีได้จัดคิวมา ส่วนของตรงเราก็จะทำให้ดีที่สุด แต่ถามว่ามีอะไรแปลกใหม่ไหม ก็จะได้เห็นซีนที่เพิ่มขึ้นแน่นอนค่ะ ในช่วงต้นอาจจะมองไม่ชัดเจน แต่ว่าช่วงท้ายจะเห็นชัดในช่วงลูก ช่วงใกล้ๆจบ จะมีเต็มที่เลยค่ะก็จะรีรัน 11 พ.ค. นี้ค่ะ เพิ่งทราบเหมือนกัน เป็นเวลาช่วงค่ำประมาณ 1 ทุ่มค่ะ ต่อจากละคร มิสเตอร์ เมอร์แมนค่ะ เรื่องกระแสไม่กล้าคาดหวังนะคะ แต่คุณภาพเราดีงามเหมือนเดิมค่ะ (หัวเราะ) ส่วนละครหนึ่งด้าวฟ้าเดียวที่คนเอามาเปรียบเทียบกัน อันนี้ก็อยากจะบอกว่าคนละแบบ คนละสมัยกันด้วยนะคะ แต่ก็เป็นกำลังใจให้หนึ่งด้าวฟ้าเดียวด้วยค่ะ(ยิ้ม)”
เผยได้ดู “พรหมลิขิต” เร็วกว่าที่ “รอมแพง” บอกว่าอีก 5 ปีแน่นอน
“ที่คุณรอมแพงบอกว่าพรหมลิขิตต้องรออีก 5 ปี คิดว่าเขาน่าจะเผื่อไว้ แต่จริงๆ ไม่น่าจะนานขนาดนั้น กลัวพี่หมื่นจะรอนานไป (หัวเราะ) คือจริงๆ แล้วบทประพันธ์น่าจะเสร็จที่ปี 2561 ค่ะ น่าจะได้อ่านแน่นอนค่ะ ซึ่งปลายปี 61 ก็จะเป็นการเตรียมงานทั้งหมด เพราะอยู่ที่บทอย่างเดียวค่ะ ต้องไปกราบอาจารย์แดง (ศัลยา) ค่ะ ว่าขอให้ท่านลงมือ ถ้าเกิดอาจารย์แดงท่านเริ่มเขียนก็จะสามารถเริ่มการทำงานได้เร็วกว่าที่คิดค่ะ นักแสดงเกือบจะหมดเป็นทีมเดิมค่ะ ก็เดี๋ยวรอบทประพันธ์ค่ะว่าจะมีใครบ้าง”
“ที่คุณรอมแพงบอกว่าถ้าบทพรหมลิขิตเสร็จจะให้บรอดคาซท์พิจารณาเป็นที่แรก ไม่ใช่จะบอกว่ายังไม่ใช่เรา 100% หรอกค่ะ จริงๆ แล้วก็ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงอะไรแล้วค่ะ เพราะว่าตัวละครหรือความต่อเนื่องเนี่ยมันเป็นอะไรที่ทำมาตั้งแต่ต้น คิดว่าในพรหมลิขิตคนก็อยากดูพี่โป๊บ พี่เบลล่า ต่อเนื่อง ตรงนี้คิดว่าไม่น่าจะมีอะไรน่าเป็นห่วงค่ะ แต่ที่คุณรอมแพงไม่พอใจกับตอนพิเศษ 3 ตอนสุดท้ายก็ได้ทราบค่ะ ก็เข้าใจตรงกันแล้วค่ะว่าอาจจะมีส่วนในเรื่องของ 3 ตอน แต่ว่าในสิ่งที่ทางบรอดคาซท์ รับผิดชอบใน 15 ม้วน หรือว่าทั้งหมดที่เราออกอากาศในช่วงถึงวันที่ 11 เม.ย. นั้นก็เป็นสิ่งที่คิดว่าเราทำอย่างตั้งใจมากที่สุดแล้วนะคะ เพราะฉะนั้นในภาคต่อไปคิดว่าความพยายาม หรือความที่จะสร้างสรรค์ให้ดีไม่น้อยไปกว่าเดิมแน่นอนค่ะ (ยิ้ม)”
บอกเวอร์ชั่นภาพยนตร์คงยังไม่ได้ดูในปีนี้ แต่สนุกไม่แพ้ฉบับละครแน่นอน
“สำหรับเวอร์ชั่นภาพยนตร์ หลายคนก็บอกว่า เอ๊ะ...กระแสมันเยอะ มันติดกันเกินไปหรือเปล่า จริงๆ ที่พูดวันนี้ก็คงจะไม่ได้ชมกันในปีนี้แน่นอน การทำงานก็ไม่ใช่ง่าย การเขียนบทอะไรต่างๆ ก็ต้องใช้เวลา แต่ถามว่าโอกาสจะเกิดโปรเจกต์ของภาพยนตร์มีไหม ก็คิดว่ามี เพราะได้รับการสนับสนุนจากทางท่านรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม เพราะอยากจะให้สอดแทรกหลายๆ อย่างที่เป็นเชิงประวัติศาสตร์ แล้วก็ในเรื่องของความเป็นไทยด้วยค่ะ”
“แต่ไม่น่าจะได้เริ่มทำในปีนี้ค่ะ ทุกอย่างน่าจะไปเริ่มปีหน้าค่ะ ถามว่าต้องฟอร์มทีมเขียนบทใหม่ไหม ก็กำลังคุยกับผู้กำกับอยู่ค่ะ แต่ก็ไม่น่าห่วงนะคะ เพราะว่าผู้กำกับมีพล๊อตที่จะนำเสนอเป็นภาพยนตร์ในใจแล้วค่ะ เพราะพี่ใหม่เคยทำหนังมาก่อน และเขาก็ตื่นเต้นมาก แต่ก็แอบบอกว่ายังมีหลายอย่างที่ซ่อนไว้ในละคร จะได้เห็นในหนัง ก็จะมีพล๊อตที่ซ่อนไว้ อย่างตอนจบเราไม่รู้ว่าสองคนเขาเป็นแฝดกัน”
(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่ https://mgronline.com/entertainment)
