“หน่อง อรุโณชา” น้ำตาไหลพราก ซาบซึ้งที่บุพเพสันนิวาสสร้างประโยชน์ให้กับประเทศชาติ ลั่นดีใจที่ละครเรื่องนี้ได้ตอบแทนคุณแผ่นดิน สุดปลื้มถูกยกเป็นซีรีส์ “แดจังกึม เมืองไทย” รับสร้างมาตรฐานไว้สูงจนกดดันเรื่องต่อไป พร้อมเผยถึงเรื่องที่ช่อง 3 กวาดค่าโฆษณาจากเรื่องนี้ 260 กว่าล้าน สูงสุดที่เคยมีละครมา
ตื้นตันใจถึงกับร้องไห้ออกมาเลยทีเดียว สำหรับ “หน่อง อรุโณชา ภาณุพันธ์” ในฐานะผู้ผลิตละครเรื่องดังแห่งยุค “บุพเพสันนิวาส” ที่ตอนนี้ไม่ใช่เพียงแค่กวาดเรตติ้งสูงสุดในประเทศ แต่เนื้อหาของละครยังช่วยกระตุ้นสังคมไทยหลายด้าน โดยเฉพาะทำให้คนไทยหันมาสนใจประวัติศาสตร์ ผู้คนตื่นตัวและรักในความเป็นไทยมากขึ้น ทั้งเรื่องของภาษา, วัฒนธรรม, อาหารการกิน และการแต่งกาย ตอนนี้ออเจ้าทั้งพระนครลุกขึ้นมาใส่ชุดไทยแบบไม่เคอะเขิน ร้านเช่า-ขายชุดไทย ขายดิบขายดีจนตัดกันไม่หวาดไม่ไหว นอกจากนี้ยังครอบคลุมไปถึงการท่องเที่ยว คนแห่ไปเที่ยวชมสถานที่สำคัญต่างๆ ที่ละครพูดถึง ทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวในพื้นที่นั้นๆ คึกคัก พ่อค้าแม่ขาย ร้านอาหาร มีรายได้เป็นกอบเป็นกำ
กระแสฟีเวอร์ที่เกิดขึ้นไม่ได้มีแค่ในไทย แต่ยังดังไปไกลถึงต่างประเทศ มีซับไตเติล เวียดนาม ฮ่องกง รัสเซีย เกาหลี และจีน ออกมา และได้รับการยืนยันแล้วว่าประเทศจีนติดต่อขอซื้อบุพเพสันนิวาสไปฉาย โกยเงินจีนเข้ากระเป๋าไทยแลนด์เป็นที่เรียบร้อย ขึ้นแท่นเป็นละครไทยที่ประสบความสำเร็จสูงสุดเท่าที่เคยมีมา จนกระทรวงวัฒนธรรมยกย่องและให้ฉายาว่าบุพเพสันนิวาสคือซีรีส์ “แดจังกึม เมืองไทย” ทุกปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ได้ทำให้ หน่อง อรุโณชา ถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ ตื้นตันใจที่ละครที่ตนเองสร้างมากับมือสามารถตอบแทนคุณแผ่นดินได้อย่างงดงาม
“เราดีใจกับทุกเรื่องนะคะไม่ว่าจะเป็นภาคประชาชน ในส่วนของจังหวัดอยุธยา กระแสในเรื่องของความเป็นไทยได้ทำให้ทุกร้านค้า ไม่ว่าจะเป็นร้านเสื้อผ้า ร้านแต่งหน้า ร้านอาหาร คนไปทำบุญที่วัดเพิ่มขึ้นจากหลักพันคนเป็นสองหมื่นคน ทุกคนมีรายได้เพิ่มขึ้นจากเรื่องนี้ วันก่อนมีโอกาสได้เจอกับประชาชนชาวอยุธยาเขาก็เข้ามาขอบคุณเราค่ะ (ยิ้ม)”
“ส่วนตัวเราคิดว่าคนไทยมีจิตใจที่มีความเป็นไทยอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าบุพเพสันนิวาสเข้ามาสะกิดบางอย่างทำให้ทุกคนกลับไประลึกว่า จริงๆ แล้วความเป็นไทยของเรานั้นมีความงดงามมากในทุกๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเพลงไทย ภาษาไทย ชุดไทย อาหารไทย ประวัติศาสตร์ไทย ต้องบอกว่าบุพเพสันนิวาสรวมตรงนี้ไว้ครบถ้วนทุกอย่างเลย”
เผยกำลังเครียดหนักมากเพราะไม่รู้จะตัดต่อตอนจบอย่างไรดี
“ถามว่าเรื่อง 3 ตอนพิเศษ จะออกมาในรูปแบบไหน ยังบอกไม่ได้ค่ะ (หัวเราะ) บอกได้แค่ว่าจะเปิดเรื่องด้วยการะเกด จริงๆ เราเรียกมาถ่ายเพิ่มหลายคนค่ะ ไม่ใช่แค่โป๊ปและเบลล่า บอกได้เพียงว่าบทไม่อยู่ในเรื่องค่ะ เป็นของขวัญให้ท่านผู้ชม ตอนนี้ 3 ตอนพิเศษช่องตัดไปบ้างแล้วแต่ว่ายังไม่เสร็จ เพราะว่ารอม้วนหลักที่จะออกอากาศยังตัดต่อไม่เสร็จ เหลือตอนจบตอนเดียวที่เรายังตัดต่ออยู่ ตอนที่จะออกอากาศวันพฤหัสบดีนี้คือม้วน 14 ส่วนม้วนที่ 15 ซึ่งเป็นตอนจบก็ยังมีความหนักใจอยู่ว่าจะอย่างไรดี เพราะมีความยาวและเนื้อหามีความสำคัญหมดเลย ตอนนี้กำลังหนักใจว่ามันยากมากค่ะ (ยิ้ม) ตอนนี้ทีมงานทำงานกันอย่างเข้มแข็งมาก ทำงานกันทั้งวันทั้งคืนเลยค่ะ ทุกวันนี้ทีมงาน รวมถึงตัวเราเองได้นอนแค่วันละ 2-3 ชม.เองค่ะ”
ชนะเลิศทุกด้าน หลังมีการเปิดเผยจากทางช่อง 3 ว่า 3 ตอนพิเศษขายโฆษณาหมดภายในเวลาอันรวดเร็ว และยังทำสถิติค่าโฆษณาแพงสุดในช่อง นาทีละ 4.8 แสน เวลาขายโฆษณาตกตอนละ 31.25 นาที 3 ตอนพิเศษฟันไปเหนาะๆ 44 ล้าน!
“ตั้งแต่ประกาศก็ขายโฆษณาหมดเลย โฆษณาล้นแล้วล้นอีก(ยิ้ม) ลูกค้าก็บ่นว่าเข้าไม่ได้ๆ คิดว่าก็เลยล้นออกมาเป็น 3 ตอนพิเศษนี้แหละค่ะ อยากให้ดูตอนจบด้วยค่ะเพราะเราจะมีเบื้องหลังมาให้ดูอีก 30 นาที เป็นเบื้องหลังกว่าจะมาเป็นบุพเพสันนิวาสเราทำการบ้านกันมากขนาดไหน น่าจะเป็นประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของวงการละครไทยได้ค่ะ (เรื่องนี้รวมตอนพิเศษมีทั้งหมด 18 ตอน มีการเปิดเผยตัวเลขค่าโฆษณาออกมาว่ากวาดไปกว่า 260 กว่าล้าน?) เรื่องนี้ต้องถามทางช่องค่ะ เราเป็นแค่โปรดักชั่นและผลิตให้ช่อง ส่วนค่าโฆษณาเราจะไม่ได้ไปเกี่ยวข้องตรงนั้น”
ดังฉุดไม่อยู่ ตอนนี้ชื่อเสียของบุพเพสันนิวาสไปไกลเลยเอเชียไปแล้วเรียบร้อย กระทรวงวัฒนธรรมยกให้เป็น แดจังกึม เมืองไทย
“เรื่องการซื้อลิขสิทธิ์ ทราบมาจากทางช่อง 3 ว่ามีประเทศจีนที่มาขอซื้อละครไปเลยค่ะ และเห็นว่าจะซื้อบทประพันธ์ด้วย เขาจะเอาไปรีเมกเป็นเวอร์ชั่นของจีน ซึ่งตรงนี้ต้องติดต่อโดยตรงไปทางคุณรอมแพงเจ้าของบทประพันธ์ค่ะ และตอนนี้ที่ไปทำเป็นซับไตเติลก็มีด้วยกัน 5 ประเทศ มี ฮ่องกง เวียดนาม เกาหลี รัสเซีย จีน และที่อินเดียกำลังจะมีการประชุมสื่อsummit ทางกรมประชาสัมพันธ์เชิญเราไปบรรยายในหัวข้อ ความสำเร็จของละครบุพเพสันนิวาสที่ก้าวสู่ระดับโลก ยังไม่รู้จะไปได้หรือเปล่า แต่ขอบคุณนะคะที่เชิญให้ไปเป็นตัวแทนประเทศไทย ตอนนี้บุพเพสันนิวาสน่าจะเลยเอเชียไปแล้วค่ะ (ยิ้ม)”
“เราถ่ายทำเกือบสองปี เขียนบทสองปี รวมเป็นสี่ปีค่ะ ถือว่าเป็นเรื่องที่ใช้เวลานานที่สุดค่ะ (หัวเราะ) แต่อย่างที่เห็นว่าทุกฉากยากหมด ไม่มีซีนไหนง่ายเลยค่ะ แค่ซีนกินข้าวในเรือนก็ต้องเตรียมข้าวของเยอะมาก เป็นพี่ๆ น้องๆ กับซีรีส์แดจังกึม (หัวเราะ) จริงๆ ต้องกราบขอบพระคุณกระทรวงวัฒนธรรมที่ให้เกียรติให้ฉายา ท่านบอกว่าเรื่องนี้เทียบเท่าแดจังกึม เป็น แดจังกึม เมืองไทย”
“โอกาสที่จะส่งเรื่องนี้ไปประกวดที่ต่างประเทศก็น่าจะมีนะคะ แต่ตอนนี้เรายังออกอากาศไม่เสร็จ (หัวเราะ) จริงๆ เราก็ไม่กล้าคาดหวังหรอกค่ะ แต่เราดีใจที่ละครไทยเกิดกระแสอย่างฉับพลันภายในแค่อาทิตย์แรกที่ละครออกอากาศ จนถึงวันนี้ครบหนึ่งเดือน ได้เกิดปรากฏการณ์ขึ้นในทุกภาคส่วนมากมาย คิดว่าเป็นปรากฏการณ์อีกหน้าหนึ่งที่สำคัญของวงการละครบ้านเราค่ะ”
ถึงกับร้องไห้ออกมาด้วยความปิติ เผยยิ่งกว่าดีใจที่บุพเพสันนิวาสได้ตอบแทนคุณแผ่นดินที่ตนอยู่อาศัย
“เรารู้สึกว่าเราเป็นคนไทย แล้วกระแสมาแรงขนาดนี้ เราต้องขอบคุณบรรพบุรุษที่ได้สร้างสิ่งดีๆ ให้กับลูกหลานไทยทุกอย่าง ถ้าไม่มีท่าน ไม่มีวัฒนธรรมไทย เราก็ไม่มีวันนี้ เพราะฉะนั้นเราคิดว่าการทำบุพเพสันนิวาสครั้งนี้คือการตอบแทนพระคุณแผ่นดิน บรรพบุรุษของเรา”
“ถามว่ามีละครไทยที่เป็นนวนิยายที่เล็งไว้จะเอามาทำอีกมั้ย ต้องบอกว่าเรื่องอื่นจะเทียบเรื่องนี้ได้ยาก เพราะความลงตัวทุกอย่างมันมาอยู่ในเรื่องนี้ เพราะฉะนั้นถามว่าจะทำเรื่องอื่นแล้วจะได้เท่าเรื่องนี้มั้ย ต้องบอกว่าเรื่องบางเรื่องมันเป็นเรื่องของจังหวะโอกาส มันเป็นความลงตัว แต่ก็มีเรื่องที่แพลนไว้แล้วค่ะ แต่มันก็คนละแบบไม่สามารถเทียบกันได้ และเราก็ไม่อยากให้มีการเปรียบเทียบใดๆ กับละครบุพเพสันนิวาส เพราะเรื่องนี้นอกจากให้ความบันเทิงแล้ว เขายังไปสู่จุดที่สร้างประโยชน์ให้กับประเทศชาติด้วย”
“เรื่องต่อไปคงกดดันมากค่ะ (หัวเราะ) เหตุผลที่เราสร้างมาตรฐานเรื่องนี้ไว้สูง ก็เพราะเราอยากให้วันนึงละครไทยไปตลาดโลกโดยไม่อายใคร ดีพร้อมทุกอย่าง ทั้งโปรดักชั่น การแสดง เนื้อเรื่อง เพลง ซึ่งเราตั้งใจมากๆ ที่สุดเลยค่ะ (ร้องไห้เสียงสั่น) ที่ร้องไห้เพราะเราคิดถึงแผ่นดิน คิดถึงประเทศชาติ สิ่งที่มันเกิดขึ้นมันก็เกินคาด และมันก็เกิดประโยชน์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เราก็รู้สึกว่าเราดีใจที่ได้ตอบแทนพระคุณแผ่นดินที่เราอยู่ มันดีใจที่เรื่องนี้สามารถครอบคลุมไปได้ในทุกๆ เรื่อง เพราะตอนที่ทำทุกคนก็ตั้งใจ และผลตอบรับก็ไปในทางที่ดีมากๆ”
“น้ำตามาจากความปิติที่ว่า งานที่เราสร้างสรรค์สามารถทำประโยชน์ให้กับแผ่นดินในหลายๆ ด้านของความเป็นไทย เราก็ปลาบปลื้มและดีใจจริงๆ ค่ะ เพราะมันเกิดขึ้นในเวลาอันรวดเร็วเพียงไม่กี่อาทิตย์เอง มันเกินคำว่าดีใจ มันซาบซึ้งใจมากๆ ค่ะ”
ลั่นอนาคตจะทำละครแนวรักชาติอีกอย่างแน่นอน เพื่อส่งเสริมกระแสเหล่านี้ต่อไป
“จริงๆ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับวาระโอกาส และต้องปรึกษากับทางสถานี แต่ถ้าในระยะใกล้ๆ นี้บุพเพสันนิวาสจะมีภาค 2 ต่อ ก็คือเรื่องพรหมลิขิต น่าจะใช้เวลา 2 ปีขึ้นไปกว่าจะเสร็จเพราะทำยาก แล้วยิ่งภาคแรกออกมาดีขนาดนี้เรายิ่งเกร็ง เครียด (หัวเราะ) ต้องทำให้ดี คุณรอมแพงจะเริ่มเขียนบทเดือนมิถุนายนค่ะ ส่วนนักแสดงบุพเพสันนิวาสมีแต่คนบอกว่าอยากมาเล่นพรหมลิขิต มีสมัครมาเยอะเลย ทีมงานก็คงเป็นทีมเดิมเพราะมันต้องประกอบกันทุกอย่าง ทั้งบทประพันธ์, บทโทรทัศน์อาจารย์ศัลยา, ใหม่ ภวัต ผู้กำกับ, นักแสดง รวมทั้งทีมโพสต์โปรดักชั่น เพลง ทีมเดิมเป็นองค์ประกอบที่ลงตัวค่ะ”
...
(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่ https://mgronline.com/entertainment)