คนดังเกินครึ่งร้อยเตรียมทยอยให้ปากคำ กรณีรีวิว “เมจิกสกิน” นางเอก “สายป่าน” ลั่นไม่รอบคอบเอง เผย 3 ดาราดัง “ป๊อก-มาร์กี้-กุ๊บกิ๊บ” โดนเรียกสอบ รอง ผบ.ตร. บอกผู้เสียหายเกือบ 200 ทยอยมาร้องเรียนที่ สคบ. สั่งการทุกสน. รับแจ้งเหตุถูกฉ้อโกงในส่วนของการใช้ผลิตภัณฑ์ไม่ได้มาตรฐาน วอนส่งข้อมูลเพื่อรวบรวมหลักฐานก่อน 11 พ.ค. หวั่นไม่ทันจับกุมผู้ต้องหาบางส่วน
หลังจากที่เมื่อวานนี้ (27 เม.ย.) 4 คนดัง อาทิ เมย์ พิชญ์นาฎ สาขากร,อ๊อฟฟี่ แม็กซิม อรพรรณ ด่านศิริวัฒนกุล, หญิงแย้ นนทพร ธีระวัฒนสุข, แพท ณปภา ตันตระกูล เข้าให้ปากคำกับ “พล.ต.อ. วิระชัย ทรงเมตตา” รอง ผบ.ตร. หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีเมจิกสกินที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยไม่รอหมายเรียก กรณีรีวิวสิค้าไม่ได้มาตรฐาน ยันดาราไม่ได้หิวเงิน ถูกหลอกเหมือนทุกคน และขอโทษกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ต่อไปจะตรวจให้รอบคอบ
ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 28 เม.ย. “สายป่าน อภิญญา สกุลเจริญสุข” ก็เป็นดาราอีกคนหนึ่งซึ่งได้เดินทางเข้าพบ “พล.ต.อ.วิระชัย” เพื่อให้ปากคำพร้อมผู้จัดการส่วนตัว “อิ๋น” หรือ “น.ส.กังสดาล เจริญพานิช” โดยผลิตภัณฑ์ ที่รีวิว ได้แก่ คลิโอ ซึ่งเป็นคลิป สลิมมิลล์ และ เมโส เป็นภาพนิ่ง ซึ่ง พล.ต.อ.วิระชัย เผยว่าหลังจากนี้จะมีคนดังทยอยมาให้ปากคำ โดยดาราล็อต 2 จะเพิ่มอีก 3 คน ได้แก่ กุ๊บกิ๊บ สุมณทิพย์ เหลืองอุทัย มาร์กี้ ราศรี บาเล็นซิเอก้า และ ป๊อก ภัสสรกรณ์ จิราธิวัฒน์
“วันนี้จะออกหมายเรียกดาราล็อตที่ 2 เพิ่มเติม 3 ท่าน ได้แก่ คุณกุ๊บกิ๊บ มีการรีวิวสินค้า ชิโนบิ และคลิโอ คุณมาร์กี้ ราศรี คุณป๊อก ภัสสรกรณ์ จิราธิวัฒน์ โฆษณาสินค้าชิโนบิ ทั้ง 3 ท่านได้นำภาพโฆษณาขึ้นรีวิวในอินสตาแกรมของตนเอง ทั้ง 3 คนนี้นัดให้มาวันที่ 9 - 10 พ.ค. และจากการที่คราวที่แล้วได้ออกหมายเรียกไป ทันทีที่ดาราได้รับทราบข้อมูลจากสื่อมวลชน สายป่านเลยติดต่อมาพบก่อนจะถึงวันนัด วันนี้มีดาราเข้ามาให้ปากคำแล้ว 5 คนรวมสายป่าน คงเหลืออีก 4 คนคือ คุณม้า อรนภา กฤษฎี จะเข้ามาในวันที่ 4 พ.ค. เวลา 10.00 น. เจสซี่ วาร์ด วันที่ 5 พ.ค. เวลา 13.00 น. คุณก้อย รัชวิน วงศ์วิริยะ วันที่ 6 พ.ค. เวลา 13.00 น. โฟร์ ศกลรัตร์ วรอุไร 7 พ.ค. 13.00 น. วันนี้สายป่านมาในฐานะผู้ให้ถ้อยคำ ยังไม่มีข้อหา ถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ ณ วันนี้”
สายป่าน : “จากกรณีที่มีคลิปที่ป่านได้โพสต์ออกไปเพื่อรีวิวผลิตภัณฑ์คลิโอ ป่านไม่ได้มีเจตนาจะหลอกลวงหรือเอาเปรียบผู้บริโภค ตัวป่านรับประทานเองจริงก่อนหน้าที่ป่านจะโพสต์รีวิว เขาจะส่งมาให้ป่านลองทางเองก่อนประมาณ 2 สัปดาห์ นอกจากที่ป่านจะทดลองทานเองแล้วป่านก็ยังให้น้องสาวป่านทานด้วย ป่านไม่ทราบจริงๆ เรื่องการสวม อย. การใช้ อย. ปลอม เพราะพอเราได้ผลิตภัณฑ์มาเราก็ได้มีการตรวจสอบพิมพ์เลข อย.เข้าไปแล้วแล้วมันก็ขึ้นจริงๆ ว่าอย.นี้มีอยู่จริง”
“ป่านต้องขอโทษจริงๆ มันอาจจะเกิดจากความไม่รอบคอบของป่านเอง ไม่ว่าจะเป็นที่ตั้งของบริษัทหรืออะไรก็แล้วแต่ ที่ป่านโพสต์คลิป ลงภาพนิ่งทั้งหมดป่านไม่ได้มีเจตนาที่จะหลอกลวงผู้บริโภคหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับทางบริษัทนี้เลยจริงๆ ป่านทำหน้าที่ของป่านคือลูกค้าเขาจ้างเรามา เราทดลอง แล้วก็บอกไปแบบนั้น ไม่ได้หลอกลวงอะไรเลยจริงๆ ขอโทษแฟนคลับป่าน ทั้งผู้บริโภคทดลองใช้ ซื้อสิ้นค้าที่ป่านเลือกที่จะโพสต์ลงไปแล้ว ป่านต้องขอโทษทุกคนจริงๆ”
ถูกติดต่อโดนโบรกเกอร์ ไม่มีเจตนาหลอก
สายป่าน : “บริษัทติดต่อเข้ามาผ่านทางโบรกเกอร์คนกลางมาทางผู้จัดการส่วนตัวป่าน ป่านมีหน้าที่ถ่ายคลิปเท่านั้นเอง เรื่องมาตรฐานในการรับงาน ส่วนใหญ่แล้วผู้จัดการส่วนตัวจะเป็นคนสกรีนงานให้ค่ะ เราไม่มีเจตนาหลอกลวงประชาชน เราไม่ทราบมาก่อนว่ามันจะเป็นอย่างนี้ เราพูดไปตามสคริปต์”
อิ๋น : “เรารับงานผ่านตัวกลางที่ติดต่อเรามา ก่อนรับงานเราขอดูหน้าตาสินค้า มีการส่งรูปของผู้ที่รีวิวแล้วมาให้เราดูเพื่อให้เรามั่นใจว่ามีคนอื่นที่ได้รับรีวิวไปแล้ว ในส่วนของขั้นตอนเราจะกดเข้าไปตรวจสอบเลข อย. ตามปกติที่แจ้งมาข้างกล่อง ถ้ามันขึ้น มันก็เป็นพื้นฐานความรู้ของคนทั่วไปว่ามันโอเค ผ่านอย. เรายังมีถามกับทางคนกลางด้วยว่ามันเป็น อย.ที่ถูกต้องมั้ย เขาบอกถูกต้อง”
“เราก็รับสินค้ามาก่อน 2 อาทิตย์เพื่อให้น้องได้ทดลอง น้องก็กิน ดื่ม ทานตามปกติ ตอนที่รีวิวเราก็นัดกันว่าจะมารีวิว มีช่างภาพมาถ่ายให้ตามบรีฟงาน เราก็แต่งหน้าทำผมถ่ายคลิปให้ มาตรฐานทั่วไปก็คือเราเช็กจากกล่องที่มันมี อย. อยู่ข้างกล่อง แล้วก็ดูจากที่เห็นตามท้องตลาดว่ามันมีบริษัทนี้ผลิตอยู่นานแล้ว มีนักแสดงคนอื่นๆ รับรีวิวไปแล้วค่อนข้างหลายคน ก็เป็นช่องทางที่ช่วยให้เราตัดสินใจรับรีวิวสินค้า เราไม่เคยได้พบเจอ ไม่เคยได้คุยกับเจ้าของบริษัทเลย เป็นการคุยผ่านคนกลางมาอีกทีหนึ่ง”
ทานจริงในช่วงก่อนรีวิวเท่านั้น หลังจากนั้นไม่ทานอีก ตอบยากเห็นผลจริงหรือไม่ ด้วยระยะเวลาอันสั้น
สายป่าน : “ปกติแล้วป่านไม่ได้รับประทาน จะทานเฉพาะตอนที่เขาส่งมาให้รีวิว ซึ่งตอนที่ทานก็ไม่ได้มี ผลอะไร ถามว่าเห็นผลมั้ย ด้วยระยะเวลาที่สั้น เขาจะส่งมาให้ป่าน 7 - 10 วัน หลังจากนั้นป่านก็ไม่ได้ทานอีกเลยหลังจากรีวิวไปแล้ว ป่านทานเพื่อให้ทราบว่ามีผลข้างเคียงหรือไม่ อย่างไร หลังจากที่เรารีวิวเสร็จแล้วก็ไม่ได้ทานต่อ”
“เห็นผลมั้ยมันก็ตอบยากว่าทานไปแล้วมันจะเห็นผล ผอมจริงหรือผอมไม่จริง ถ้าติดตามไลฟ์สไตล์ป่านจะเห็นว่าป่านเป็นคนออกกำลังกายอยู่แล้ว ดังนั้นมันจะมีเรื่องของฮอร์โมน น้ำหนักจะขึ้นลงแล้วแต่ว่าช่วงไหนออกกำลังกายหรือไม่ ในคลิปป่านไม่ได้บอกว่ากินแล้วผอมจริง ป่านบอกว่าเป็นตัวช่วยของป่านมากกว่า ว่าเวลากินแล้วช่วยในเรื่องการขับถ่ายอะไรอย่างนี้”
เป็นบทเรียน ก่อนรับงานรีวิวจะตรวจสอบให้ดี รับผิดไม่รอบคอบพอ
“อย่างวันนี้ที่ป่านเข้ามาก่อนหน้านี้จะมีคนไดเร็กไอจีมาว่าให้ป่านออกมาพูดแต่ป่านรู้สึกว่าเดี๋ยวป่านก็ได้พูด เพราะป่านเองก็ต้องรอการทำงานของแต่ละหน่วยงานให้มันชัดเจนด้วยถึงจะออกมาพูดได้ เราไม่อยากออกมาพูดอะไรที่มันไม่เป็นข้อเท็จจริง หลังจากนี้จะรีวิวอะไรก็คงต้องตรวจสอบให้ชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิม อันนี้เราก็ตรวจสอบแล้วเพียงแค่มันไม่รอบคอบมากพอ อาจจะต้องระมัดระวัง รอบคอบมากกว่านี้ ป่านเองก็รู้พร้อมทุกๆ คน เรามารู้พร้อมกันในเคสนี้ ก็ถือว่าเป็นข้อคิดที่ดี เป็นประสบการณ์ที่เราต้องศึกษาเพิ่มอีกเยอะเหมือนกันสำหรับการรับรีวิว”
“เรื่องฟ้องร้อง ต้องรอปรึกษากับหลายๆ คนก่อน ถึงป่านไม่ดำเนินคดีกลับ ก็มีพี่ๆ นักแสดงน่าจะมีความคิดเห็นไปในทางนี้อยู่แล้ว อาจจะต้องรอหลายๆ คน ถ้าเกิดสมมติมีการกระทำแบบนี้เกิดขึ้น เราจะแจ้งความกลับ ต้องดูรายละเอียดอีกทีหนึ่ง แล้วก็ทำไปพร้อมๆ กัน ให้เป็นเคสเดียวกัน”
เผยผู้เสียหายเกือบ 200 ทยอยมาร้องเรียนที่ สคบ.
พล.ต.อ.วิระชัย : “การคลี่คลายคดีเมจิกสกินเรามีทีมทำงานอยู่ไม่น้อยกว่า 200 - 300 คนหลายหน่วยงานทำงานร่วมกัน สิ่งที่เราเผยแพร่กับสื่อมวลชนอาจจะไม่ถึง 5 เปอร์เซ็นต์ของงานที่ทำ อะไรก็ตามที่เราทำแล้วเราไม่สามารถเปิดเผยได้ ถ้าเปิดเผยไปแล้วไม่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน เราก็จะไม่เปิดเผย”
“ขอเรียนว่าขณะนี้งานขับเคลื่อนไปในทุกด้าน ส่วนไหนที่เป็นประโยชน์ต่อกระชาชนเราก็จะมาเสนอแจ้งผ่านทางสื่อมวลชน คาดว่าเร็วๆ นี้คงจะเห็นผลการสืบสวนสอบสวนครับ ขณะนี้ขึ้นอยู่กับพยานและผู้เสียหายที่เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ ให้ปากคำ ตอนนี้จำนวนผู้มาให้ปากคำเริ่มเพิ่งขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดนี้มีทาง สคบ. ส่งมาอีก 168 คนที่ไปร้องเรียนที่ สคบ. ก็เดี๋ยวจะส่งมาสอบสวนที่นี่ ขณะนี้กำลังสรุปยอดว่าตอนนี้กี่ร้อยคนแล้ว มีบางส่วนที่เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับผลิตภัณฑ์อื่นนอกจากที่เราเห็นอยู่นี้ ซึ่งเรารับแจ้งนะครับ”
ทำหนังสือสั่งการทั่วประเทศ ให้ทุกสน. รับแจ้งเหตุถูกฉ้อโกงในส่วนของการใช้ผลิตภัณฑ์ไม่ได้มาตรฐาน คุณภาพไม่ดี ไม่มีอย. วอนส่งข้อมูลเพื่อรวบรวมก่อน 11 พ.ค. หวั่นไม่ทันการจับกุมผู้ต้องหาบางส่วน
“อยากให้พี่น้องประชาชนมาแจ้งความร้องทุกข์กันในส่วนที่ได้รับความเสียหาย ผมมีหนังสือสั่งการตำรวจทั่วประเทศ ให้รับแจ้งความที่พี่น้องประชาชนมาแจ้งความในเรื่องเกี่ยวกับการถูกฉ้อโกง ในส่วนของการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ได้คุณภาพ ไม่มี อย. หรือ อย.ปลอม รวมทั้งที่ใช้แล้วมีผลข้างเคียง แจ้งความได้ทุกโรงพักทั่วประเทศเลย แล้วพนักงานสอบสวนทุกโรงพักเมื่อได้รับแจ้งแล้วจะต้องส่งบันทึกการรับแจ้ง การสอบสวนปากคำผู้เสียหายมายังศูนย์ปฏิบัติการคดีนี้ที่กองปราบ เราจะได้รวบรวมผู้เสียหายทั้งหมดเป็นคดีเดียวกัน มีความเห็นทางคดีส่งให้อัยการเพื่อฟ้องต่อศาลอาญาต่อไป”
“สำหรับพี่น้องประชาชนที่จะแจ้งความในกรณีดังกล่าวนั้นขอให้แจ้งความได้ภายในวันที่ 11 พ.ค.นี้ หลังจากวันที่ 11 เราจะไม่รับข้อมูลการแจ้งความจากตำรวจทั่วประเทศแล้ว เพราะเราต้องรวบรวมผู้เสียหายที่แจ้งความทั่วประเทศมาสรุปสำนวน แล้วก็มีความเห็นทางคดีส่งให้อัยการ มิฉะนั้นแล้วจะไม่ทันในการที่เราจะจับกุมผู้ต้องหาไปบางส่วนแล้ว จะต้องฟ้องภายในกำหนด หลังจากวันที่ 11 ต้องไปดำเนินคดีเอง ไปฟ้องเองในแต่ละพื้นที่”
“ในกรณีที่คุณสายป่านให้การไป เป็นการให้ถ้อยคำ หลังจากนั้นก็จะไปรวบรวมพยานหลักฐานอื่นๆ รวมทั้งส่วนประกอบต่างๆ ของผลิตภัณฑ์แล้วถึงจะมาสรุปความเห็นอีกทีหนึ่งว่าคุณสายป่านมีความผิดหรือไม่เพียงใด ถ้าผิดนั่นผิดข้อหาใด ก็จะเป็นอีกขึ้นตอนหนึ่ง”
ต้องสอบปากคำสายป่านถึงจะสรุปได้ว่าเป็นเหยื่อ ผู้ต้องหา หรือพยาน
พล.ต.อ.วิระชัย : “ในรายละเอียดคงต้องสอบปากคำถึงจะสรุปได้ว่าเป็นเหยื่อ ผู้ต้องหา หรือเป็นพยาน ข้อหาที่เราแจ้งเป็นภาพรวมทั้งหมด ท่านใดจะผิดหรือไม่ผิดก็อีกเรื่องหนึ่ง กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มีดังต่อไปนี้ ในเรื่องการโฆษณาเครื่องสำอางด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือเกินความจริง อันเป็นความผิดตามพรบ.เครื่องสำอางมาตรา 41 วรรค 2(1) ต้องระวังโทษตามมาตรา 84 จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสน หรือทั้งจำทั้งปรับ”
“ข้อหาที่ 2 โฆษณาคุณประโยชน์สรรพคุณของอาหารอันเป็นเท็จ ถือเป็นการหลอกลวงผู้บริโภคทำให้เกิดการหลงเชื่อโดยไม่สมควร เป็นความผิดตาม พรบ.อาหาร มาตรา 40 ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 3 แสน หรือทั้งจำทั้งปรับ ข้อหาที่ 3 โฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพหรือสรรพคุณเพื่อประโยชน์ทางการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นความผิดตาม พรบ.อาหาร พ.ศ. 2522 มาตรา 41 มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 5 พันบาท”
“ข้อหาที่ 4 นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นข้อมูลที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนอันเป็นความผิดตาม พรบ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา14 (1) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่ถ้ามีผู้ที่รีวิวท่านใดลึกลงไปถึงผู้ร่วมขบวนการ ถึงผู้ก่อการ ถึงผู้ประกอบการ ก็จะมีความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนอีกข้อหาหนึ่งครับ”