“เสก” เข้าพบ ป.ป.ส. ซัดเพื่อนชวนเสพยา ปัดตอบดารา-ศิลปินเสพยากันเยอะหรือไม่ โยน ป.ป.ส.คงรู้ดีกว่าตน พร้อมประกาศจะเลิกเหล้าและบุหรี่เด็ดขาด และจะอุทิศตนต่อต้านยาเสพติดตลอดทั้งชีวิตนี้ ส่วนสัมพันธ์ “กานต์-อ้อม” ยังไม่เคลียร์แต่รักทุกคน ด้าน ป.ป.ส.เผยยาเสพติดที่เสกใช้คือยาไอซ์ แจงจะไม่มีการดำเนินคดีใดๆ เพราะเสกสมัครใจบำบัดด้วยตนเอง ซึ่งในทางกฎหมายถือว่าไม่มีความผิด
หลังจากเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว ร็อกเกอร์ชื่อดัง “เสก โลโซ” ได้ออกมาแถลงข่าวด้วยตัวเองเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เข้าไปบำบัดอาการติดยาเสพติดที่สถาบันธัญญารักษ์ พร้อมเปิดใจขอเป็นองคุลีมาลกลับใจ โดยประกาศเอาชีวิตเป็นเดิมพันว่าจะไม่กลับไปเสพยาอีก และขอโอกาสสังคมกลับมาร้องเพลงเหมือนเดิม ซึ่งตอนนี้อาการของเสกดีขึ้นจนเจ้าตัวสามารถกลับไปอยู่ที่บ้านได้ตามปกติแล้ว
ล่าสุดในวันนี้(16 ก.พ.) เสก ได้เดินทางมาให้ข้อมูลกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) โดยมี “อุดม โปร่งฟ้า” ทนายความของเสกเดินทางมาด้วย พร้อมกับเปิดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ซึ่งในการแถลงข่าวครั้งนี้ได้มี นายถิรชัย วุฒิธรรม เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว เลขาธิการ ป.ป.ส นายณรงค์ รัตนานุกูล รองเลขาธิการ ป.ป.ส. เข้าร่วมด้วย ท่ามกลางกองทัพผู้สื่อข่าวที่ติดตามมาทำข่าวการแถลงของเสก เป็นที่สังเกตว่าเสกมีสีหน้าที่ไม่ค่อยสดใสเหมือนวันที่แถลงข่าวที่ธัญญารักษ์ และในระหว่างที่กำลังแถลงข่าวเจ้าตัวก็หลับตาตลอดเวลา ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะยังอยู่ในช่วงฟื้นฟูจึงอาจจะทำให้สภาพจิตใจและร่างกายยังไม่ดีเต็มร้อยก็เป็นได้
อดุลย์ : “วันนี้เสกกก็ได้เข้ารายงานตัวต่อพนักงานคือผมกับท่านรองเลขาธิการ ป.ป.ส และฝ่ายกฏหมาย ในขั้นตอนปฏิบัติเราได้สอบถามข้อมูลตามกฎหมาย ว่าความเป็นมาของภาพที่ปรากฏเป็นอย่างไรข้อมูลเกี่ยวกับการเสพยาชนิดของยา ซึ่งเราคงต้องขอสงวนสิทธิ์ไว้เพื่อใช้ประโยชน์ของการสืบสวนต่อไป ขั้นตอนของเสกนั้น คือการสมัครใจการบำบัดตามกฎหมาย อยู่ในขั้นตอนที่แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ ตอนนี้เขาอยู่ในขั้นตอนที่2 และดำเนินการบำบัดต่อไป”
“เสกได้สำนึกต่อการกระทำที่หลงผิด เสกก็ได้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่พอสมควร ต่อไปก็จะเซ็นให้ปากคำต่อเจ้าพนักงาน ยาที่เสกเสพเป็นยาไอซ์ ในความเข้าใจของสังคมที่เข้าใจว่ายาไอซ์เสพแล้วจะทำให้ผิวพรรณดี ทำให้เปล่งปลั่งสดใส แต่จริงๆ แล้วทางการแพทย์คนที่เสพยาไอซ์ในช่วง 10 ปี จะมีพัฒนาการที่เสื่อมโทรมมาก ซึ่งเสกก็โชคดีที่เข้าพบเสียก่อน และเข้ารับการบำบัด ถ้าเขาเสพไปอย่างต่อเนื่องร่างกายของเขาจะทรุดโทรม รวมทั้งมีอาการทางประสาท อยากให้สังคมรู้ว่าอันตรายมาก”
“ขั้นตอนต่อไปเราจะมีการขยายผลการจับกุมขบวนการค้าให้เสกแน่นอนครับ อันนี้ก็เป็นประโยชน์ครับ ในการสืบสวนในการจับกุมคนร้าย ตอนนี้เราก็สืบว่าเขาซื้อมาจากไหน ยาไอซ์ที่เสกซื้อ เขาซื้อในเมืองไทยส่วนนึงครับ”
ด้าน “เสก” ได้บอกตอนนี้ตาสว่างแล้วว่าการที่ตนเสพยาในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเป็นสิ่งที่ผิด ขณะที่ “อดุลย์ แสงสิงแก้ว” เลขาธิการ ป.ป.ส ในทางกฎหมายเสกถือว่าไม่ผิด จะไม่มีการดำเนินคดีใดๆ เพราะนักร้องดังสมัครใจเข้าสู่การบำบัดด้วยตนเอง
เสก : “ผมเองก็รู้สึกขอบคุณที่ ป.ป.ส.ให้โอกาสผมในวันนี้ ผมได้ตอบคำถามหลายอย่างที่ยังค้างคาอยู่ในใจผม ทำให้ผมรู้สึกว่าการเสพยาในช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาเป็นสิ่งที่ผิด ทำให้ตาสว่างเสียที ขอบคุณอย่างมากและขอบคุณประเทศไทยที่ให้โอกาส พี่น้องประชาชนทุกท่าน ส่วนจะดำเนินการอะไรต่อจากนี้ต้องถามท่านเลขา”
อดุลย์ : “ในทางกฏหมายเสกสมัครใจเข้าสู่การบำบัดถือว่าไม่ผิดครับ เสกอยู่ในขั้นตอนการบำบัดขั้นที่2 ขั้นตอนกฏหมายถือว่าจบ เพราะเสกสมัครใจมาบำบัด ทางกฏหมายผู้สมัครใจถือว่าผู้ป่วย ไม่มีการดำเนินคดี เสกเขารับสารภาพและสมัครใจครับ”
เมื่อถามถึงแผนชีวิตหลังจากนี้จะทำอะไรต่อ? เสกก็บอกว่า...
เสก : “ก็คงจะร้องเพลงต่อไป แล้วแต่ทางแกรมมี่จะกรุณา พี่น้องประชาชนจะกรุณาเมตตากับผมต่อไป และทางสื่อมวลขนด้วยที่จะเมตตาต่อผม ส่วนเรื่องครับครัวนี้ต้องรอการตัดสินใจก่อน หลายเรื่องที่เกิดขึ้นมันค่อนข้างเร็วต้องใช้เวลา (ดูเหมือนภรรยาอยากกลับมาใช้ชีวิตร่วมกันอีกครั้ง?) ผมบอกตรงๆ ว่าผมรักทุกคน (หัวเราะ) เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา (สรุปว่ายังเลือกไม่ได้?) อันนี้มันเรื่องความรักแล้วนะ (หัวเราะ) กับลูกๆ เข้าใจครับ เนื่องจากว่าเราอยู่ด้วยกันใช้ชีวิตร่วมกัน ผมผ่านอะไรมาเยอะด้วยกัน”
ทั้งนี้ “เสก” เผยได้แต่งเพลงเกี่ยวกับยาเสพติดไว้เพื่อเป็นอุทาหรณ์ ส่วนเรื่องเพลงกับแกรมมี่ เจ้าตัวบอกต้องเข้าไปคุยกับทางผู้ใหญ่เพราะสัญญายังอยู่
เสก : “มีแล้วครับผมเขียนแล้ว เขียนเรื่องยาเสพติด ผมเชื่อว่าทุกคนรู้แล้วว่ายาเสพติดเป็นเรื่องที่ร้ายแรง อยากให้ทุกคนเลิก ที่ผมบอกว่าเอาอยู่นั้นต้องกราบขออภัยจริงๆ จริงๆ แล้วเอาไม่อยู่แน่นอนครับ ล้านเปอร์เซ็นต์ อยากให้ทุกคนลดละเลิกยาเสพติด ต้องกราบขออภัยทุกคนว่ายาเสพติดเอาไม่อยู่จริงๆ แน่นอนครับ เลิกเถอะครับ ส่วนเรื่องเพลงกับแกรมมี่ ก็ต้องเข้าไปคุยกับทางผู้ใหญ่เพราะสัญญายังอยู่”
ส่วนเรื่องที่จะให้ “เสก” เป็นพรีเซ็นเตอร์ยาเสพติดนั้น ป.ป.ส. เผยว่าขึ้นอยู่กับความสมัครใจ
อดุลย์ : “อันนี้ก็อยู่ที่ความสมัครใจ เขาเป็นคนที่มีประสบการณ์ตรงที่ลองแล้วติดโดยที่ไม่รู้ถึงภัยจริงๆ ที่มันหนักมาก แต่ด้วยสำนึกที่ผิดเลยเข้ากระบวนการกฏหมาย เรื่องนี้เลยอยู่ที่ความสมัครใจ เรื่องของจิตอาสา จริงๆ แล้วเอาไม่อยู่นะครับ”
เสก : “อันนี้ก็คุยกันไว้แล้วกับทางท่านเลขายุติธรรม ท่านก็จะประสานกับแกรมมี่อีกที ผมขอค่อยๆ ซึมอีกที”
ถิรชัย : “แนวโน้มของเสกก็ดีขึ้นมาตลอด เห็นพัฒนาการของเขาดี ผมเชื่อว่าการให้โอกาสของ ป.ป.ส.และประชาชนที่ให้เสก กลับมาเป็นเสกเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ส่วนเรื่องพรีเซ็นเตอร์ต้องเป็นความสมัครใจของเขา แต่ยังไงก็ต้องขึ้นอยู่กับเสกเป็นความสมัครใจไม่ใช่หน้าที่ แต่เบื้องต้นเราก็ต้องไปคุยกับแกรมมี่ ท่าทีของคุณไพบูลย์ก็มีการเปลี่ยนไปเพราะเขารู้ว่าตอนนี้ไม่ใช่เนื้อแท้ของเสก จริงๆ แล้วเสกเขาเป็นคนนอบน้อม”
เสก : “ตอนนี้ขอพักก่อน หายดีแล้วค่อยกลับไปทำงาน ผมต้องกราบขอบพระคุณอีกครั้ง คิดว่าคงให้อภัยกันอยู่ประมาณนึง คงต้องพักงานไว้ก่อนจนกว่าจะหายดี ดีร้อยเปอร์เซ็นต์”
ต่อคำถามที่ว่าจากข้อมูลที่ “เสก” ให้ไปทำให้มีข้อมูลของคนบันเทิงที่เสพยาเยอะไหม? ป.ป.ส. เผยว่า
อดุลย์ : “เรื่องนี้ก็ต้องขอสงวนไว้ก่อนเพราะเป็นเรื่องการของปราบปราม (จะดูแลเรื่องยาเสพติดกับคนบันเทิงยังไงบ้าง?) เราก็ได้มีการลงนามเอ็มโอยูกับค่ายต่างๆ ไปแล้วว่าขอความร่วมมือเข้มงวดเรื่องนี้ เราทำสัญญาต่อสมัครต่อดาราในสังกัด ต้องมีสัญญาระบุชัดเจน ค่ายต่างๆ ต้องดำเนินการกฏหมายกับดาราที่ทำความผิด ต้องส่งเสริมดาราที่ต่อต้านยาเสพติด คือมีทั้งให้รางวัลและลงโทษ ตัวแบบเรื่องของสังคมเราต้องการ เรามีเป้าหมายเป็นเยาวชนกว่า 10 ล้านคน”
ผู้สื่อข่าวย้อนกลับไปถามถึงสาเหตุว่าทำไมถึงเสพยา “เสก” ก็เผยว่าเพื่อนเป็นคนชักชวน แต่ไม่ตอบว่าคนในวงการบันเทิงใช้ยากันรุนแรงแค่ไหน โบ้ยเชื่อว่าทาง ป.ป.ส. น่าจะรู้ดีกว่าตน
เสก : “จริงๆ ก็ไม่ได้ตั้งใจจะเสพนะ แต่มีเพื่อนคะยั้นคะยออยู่เหมือนกัน เพื่อนๆ เอามาให้ เราก็หลงผิดไป ต้องขออภัยจริงๆ ซึ่งกับเพื่อนคนนั้นไม่ติดต่อแล้วครับ ผมก็อยากจะบอกน้องๆ ว่าเลิกเถอะครับ ยาหลงผิด (สถานการณ์ยาเสพติดกับคนในวงการรุนแรงไหม?) ผมขอไม่ตอบ ผมเชื่อว่าทาง ป.ป.ส. น่าจะรู้ดีกว่าผม”
อุดม ทนายเสก : “ต้องขอโทษด้วยนะครับ เสกเพิ่งออกจากโรงพยาบาลมา สภาพอาจจะยังสวิงไปสวิงมาอยู่ ผมจะพยายามถามว่าเขาโอเคไหม ขอเป็นคำถามเบาๆ กลัวจะกระทบกระเทือน วันนี้แพทย์ก็เตือนมา ให้ดูเรื่องอากัปกิริยาเขาด้วย”
เพื่อไม่ให้เจ้าตัวรู้สึกเครียดและมีผลกับสภาพจิตใจที่ยังอยู่ในช่วงฟื้นฟู ผู้สื่อข่าวจึงเปลี่ยนมาถามเรื่องชีวิตหลังออกจากธัญญารักษ์ว่าตอนอยู่ที่บ้านทำอะไรบ้าง? เสกก็ตอบอย่างอารมณ์ดีว่า…
เสก : “(หัวเราะ) ก็เล่นกับลูกบ้าง ไปช็อปปิ้งบ้าง ก็รู้สึกแปลกๆ ดี ตอนที่อยู่ข้างในธัญญารักษ์อยู่คนเดียว ออกมาเจอคนก็แปลกๆ ดี อย่างวันนี้ก็ตื่นเต้นนะครับ ได้ออกไปเจอคน ผมรู้สึกโด่งดังมาก แต่ผมไม่อยากโด่งดังแบบนี้เท่าไหร่ อยากไปร้องเพลงแล้วดังมากกว่า ผมรู้สึกขอบคุณแฟนๆ ต้องขอโทษมากๆ ด้วย ต้องบอกว่าจะขอเป็นคนดีทดแทนคุณแผ่นดิน ช่วยต่อต้านยาเสพติดตลอดทั้งชีวิตนี้ เป็นตัวแทนเป็นไอดอลที่ดี”
“จากที่ไปเล่นคอนเสิร์ตบนเวทีดื่มเหล้าสูบบุหรี่ ก็จะเลิกทำเรื่องแบบนั้น ก็อยากให้น้องๆ ที่เห็นว่าเสกเป็นแบบนั้น อย่าไปทำอย่างที่เห็น ก็อยากให้กลับตัวกลับใจเป็นคนดี ที่สถานบำบัดอย่างสถาบันธัญญารักษ์ก็ดี อย่างเร็วๆ นี้เราก็จะมีคอนเสิร์ตใหญ่ นำเงินให้ทางธัญญารักษ์และทาง ป.ป.ส .ส่วนผมก็จะเล่นคอนเสิร์ตเอง กำลังดูอยู่ว่าจะเล่นที่ไหน อาจจะเป็นที่อิมแพค”
อุดม ทนายเสก : “กำลังดูสถานที่อยู่ว่าจะเป็นแบบเปิดหรือปิด ก็จะเป็นคอนเสิร์ตใหญ่ ประมาณอีกสัก 1 เดือน อาจจะเป็นสนาม ทบ.ราชมังคลา หรืออิมแพค กำลังปรึกษากันอยู่ครับ เป็นการขายบัตรเพื่อหารายได้เข้าการกุศล กำไรทั้งหมดจะแบ่งเป็นหลายๆ ส่วน เสกก็แจ้งความจำนงว่าจะให้ที่ไหนบ้าง เมื่ออาทิตย์ที่แล้วก็ได้เข้าไปคุยกับแกรมมี่ ว่าเรื่องคอนเสิร์ตหรือการแสดง การทัวร์คอนเสิร์ตเป็นสิทธิ์ของเสกเอง คนละส่วนกัน ตอนนี้ทัวร์คอนเสิร์ตได้แต่สภาพของเขายังไม่พร้อม”
“ตอนนี้ยังถือว่าต้องได้รับการบำบัด และเขาเป็นผู้ป่วยนอกอยู่ในช่วงฟื้นฟู ทางคุณหมอยังติดตามการรักษา อย่างน้อยเดือนแรก อาทิตย์นึงต้องเข้าไปรายงานตัวต่อโรงพยาบาล ให้เขาตรวจเลือดและปัสสาวะว่ามีการใช้ยาเสพติด ดื่มเหล้าไหม หรือสูบบุหรี่ไหม หลังจากหนึ่งเดือนแล้วก็ต้องเข้าไปโรงพยาบาลอีกอย่างน้อย 1 วันต่อเนื่อง 2 เดือน จากนั้นคุณหมออาจจะต้องใช้วิธีสุ่มตรวจ เพื่อต้องการให้คนไข้เลิกจริงๆ เป็นกฏข้อบังคับ ตอนนี้ยังไม่ถือว่าพ้นจากการรักษาจากโรงพยาบาล”
พร้อมกันนี้ “เสก” ยังได้กล่าวตบท้ายถึงบทเรียนครั้งที่ยิ่งใหญ่ครั้งนี้ว่า…
เสก : “ผมถือว่าก้าวพลาดอย่างมาก ไม่อยากให้น้องๆ พลาดแบบที่ผมพลาด ผมเป็นแบบอย่างที่ไม่ดี ขอให้ทุกท่านเก็บไว้เป็นบทเรียน ทำให้ชีวิตผมเข้มแข็งมากพอสมควร”
อดุลย์ : “ขอเพิ่มเติมข้อมูลนิดนึงครับ เสกก้าวพลาดไปแต่กลับตัวทัน ต่อไปเสกจะไม่ทำในสิ่งที่ไม่ดีอย่างดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ต่อต้านยาเสพติด ต่อไปเขาจะอุทิศตนให้กับยาเสพติด ผมก็ชื่นชม ยับยั้งสังคมให้ตระหนักปัญญา ทางใจลุกขึ้นต่อ สู้สังคมก็เข้มแข็งขึ้น”