xs
xsm
sm
md
lg

เพลิงรักไฟมาร ตอนที่ 16

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เพลิงรักไฟมาร ตอนที่ 16

ภัทร์ธีรานั่งหน้าเคร่งพิมพ์งานอยู่ที่โต๊ะ วิษธรนั่งมองท่าทีจริงจังนั้นด้วยความเอ็นดู จนเมื่อพิมพ์งานเสร็จ หนูจ๋าก็ร้องออกมาด้วยความดีใจ

“เสร็จซักที”
ภัทร์ธีรายืดแขนบิดขี้เกียจ วิษธรมองยิ้มๆ
ระหว่างนี้มีพนักงานจากห้องอาหารของโรงแรม เดินถือถาดขนมและเหยือกใส่น้ำมะนาวเข้ามา
“ขนมกับน้ำมะนาวโซดาของคุณจ๋ามาแล้วค่ะ”
“จ๋าไม่ได้สั่งนะคะ”
“คุณธรสั่งไว้ให้น่ะค่ะ”
ภัทร์ธีรามองหน้าวิษธรอย่างแปลกใจ ว่าเขารู้ได้ยังไงว่าเธอชอบน้ำมะนาว
พนักงานกำลังจะเทน้ำมะนาวใส่แก้วให้ วิษธรเรียกไว้
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมจัดการเอง ขอบคุณมากครับ”
พนักงานยิ้มให้ ยอบตัวก่อนออกไป ภัทร์ธีรายังมองวิษธรอย่างสงสัย
“ผมเห็นว่าคุณตั้งใจทำงาน ก็เลยแถมขนมกับน้ำมะนาวเย็นๆ ให้ กินสิ ก่อนจะหายเย็น”
ภัทร์ธีรามองระแวง
“ทำไม กลัวผมวางยาคุณเหรอ” วิษธรหัวเราะขำ
“ใช่ คุณอาจจะพยายามลอบฆ่าฉันอยู่ก็ได้ ใครจะไปรู้”
วิษธรหัวเราะขำอีก “ผมจิตใจอ่อนโยนนะคุณ จะไปฆ่าใครได้ แล้วน้ำมะนาวนี่ก็ปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่เชื่อผมกินให้ดูก็ได้หมดแก้วเลย”
วิษธรรินน้ำใส่แก้วแล้วดื่มให้ดู แต่ด้วยความรีบร้อนเลยทำให้สำลักพรวดออกมา
“นี่คุณแช่งให้ผมสำลักใช่ไหม”
ภัทร์ธีราเผลอหัวเราะออกมา วิษธรยิ้มด้วยความเอ็นดู
พรพจีแอบดูสองคนอยู่ครู่หนึ่งแล้ว ก่อนจะเปิดประตูเข้ามา
“ธรคะ”
ภัทร์ธีราและวิษธรหยุดหัวเราะทันที
“ฉันเข้ามาขัดจังหวะอะไรหรือเปล่า”
“เปล่าค่ะ คุณธรสอนงานจ๋าเสร็จพอดี” ภัทร์ธีราว่า
“งั้นอาขอตัวธรไปคุยงานต่อก่อนนะจ๊ะ” พร้อมกับว่า พรพจีเข้าไปแตะแขนวิษธรเบาๆ อย่างสนิทสนม “ธรคะ ไปกันเถอะค่ะ ฉันมีเรื่องสำคัญจะปรึกษาคุณ”
วิษธรมองหน้าภัทร์ธีราก่อนพยักหน้ารับ “ครับ”
ภัทร์ธีรามองตามไป ด้วยความรู้สึกแปลกๆ ที่เห็นพรพจีแสดงท่าทางแบบนั้นต่อหน้าตน

วิษธรเดินเข้ามาในห้อง แล้วนั่งลงที่เก้าอี้
“คุณมีอะไรจะคุยกับผมเหรอครับ”
พรพจีนั่งนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็นึกขึ้นได้
“ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ ฉันแค่อยากรู้ว่าน้องจ๋าทำงานเป็นยังไงบ้าง”
“ตั้งใจทำงานดีครับ”
“แค่นี้เหรอคะ”
“เรียนรู้ไว และก็พร้อมจะเรียนรู้ น้องจ๋าเขาตั้งใจทำงาน คุณไม่ต้องเป็นห่วง”
“ดูเหมือนจะมีแต่ข้อดีนะคะ”
“ข้อเสียก็อยู่ที่ประสบการณ์ยังน้อย ทำให้ยังไม่รอบคอบในบางครั้ง แล้วก็ยังมีความเป็นเด็กอยู่มาก สามารถแก้ไขกันได้”
“แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรใช่ไหมคะ เพราะผู้ใหญ่ส่วนมากก็มักจะเอ็นดูและให้อภัยเด็กๆ กันทั้งนั้น แล้วน้องจ๋าก็เป็นเด็กที่ทั้งสวยทั้งน่ารักใช่ไหมคะ”
“ครับ น้องจ๋าสวยเหมือนคุณ”
“แต่ความสาว ความสดใสฉันคงสู้ไม่ได้”
วิษธรแปลกใจกับคำพูดนั้นของพรพจี
“ก็ไม่เห็นต้องสู้กันเลยนี่ครับ”
“แล้วคุณชอบเด็กเหมือนคนอื่นๆ หรือเปล่าล่ะคะ”
“ผมไม่เคยคิดจะชอบใครนอกจากคุณ” พร้อมกับว่าเขาลุกเดินมากอดพรพจีจากด้านหลัง “ผมมีแค่คุณคนเดียวเท่านั้น”
พรพจีสับสนกับความรู้สึกของตัวเองอย่างหนัก

สวยและเต่ากำลังเตรียมอาหารอยู่ในครัว จิรดาเดินเข้ามา
“ทำอะไรกันอยู่จ๊ะ ให้ดาช่วยไหม”
“ดีเลยค่ะ ช่วยกันหลายคนต้องเสร็จเร็วแน่ๆ เลย” สวยบอก
จิรดามองหน้าสวยยิ้มๆ เต่าอย่างคิดอะไรบางอย่าง
“บ้านสงบดีนะจ๊ะช่วงนี้” จิรดาพูดเชิงปรารภขึ้น
“พอคุณจีกลับมาก็ค่อยดีขึ้นหน่อยค่ะ” สวยว่า
“นั่นสิ แต่ตอนก่อนคุณจีไปทะเลาะกันแรงมากเลยนะ ฉันคิดว่าจะไม่กลับมาซะแล้ว” เต่าบอก
จิรดาถามหยั่งเชิง “แล้วทุกคนไม่คิดว่ามันแปลกๆ เหรอที่อยู่ๆ คุณจีก็กลับมาเอง ทั้งที่ตอนไปโกรธมาก และก็ยังไม่มีใครหาเขาเจอ หรือทำให้หายโกรธ”
สวยบอกอย่างมั่นใจ “ที่คุณจีกลับมา มันต้องมีเหตุผล”
จิรดาตาลุกวาว “เหตุผลอะไรจ๊ะ”
“เหตุผลก็คือ” สวยหัวเราะหึๆ ราวกับกุมความลับสำคัญบางอย่าง พร้อมกับกวักมือให้ทุกคนสุมหัวเข้ามาใกล้แล้วจึงกระซิบบอก “หึง คุณจีต้องหึงแน่ๆ ก็เลยกลับมาจะได้อยู่ใกล้ใครบางคน”
เต่ากระซิบถามกลับงงๆ “หึงเนี่ยนะ”
จิรดาพยักหน้าเข้าใจ และเห็นด้วยกับสวยแต่ทำเป็นไม่รู้
“คุณจีจะหึงใครล่ะจ๊ะ”
“โอ๊ย ก็รู้กันอยู่ ก็คุณวิษธรไงล่ะ”
เต่าเถียง “ไม่ใช่หรอก”
“จริงๆ นะ พนันกันไหมล่ะ”
สวาทเดินเข้ามาทันได้ยินสามคนเมาท์กัน
“ใครจะพนันอะไรกันในบ้านนี้”
วงแตกทันควัน เต่าบอกก่อนใครว่า “ฉันลืมเก็บผ้า”
“ฉันไปดูคุณรินก่อนนะ” จิรดาขยับจะหนี
“ฉันลืม...”
สวยยังไม่ทันพูดจบ สวาทสวนขึ้นว่า “เดี๋ยว ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น ช่วยฉันทำกับข้าวตรงนี้แหละ”
สวยพยักหน้ารับจ๋อยๆ “ค่ะ”
สวาทครุ่นคิดถึงคำพูดสวยเมื่อครู่ ด้วยสีหน้าหนักใจ


จิรดาเล่าเรื่องที่ได้ยินมาให้นรินทร์ฟังจบแล้ว นรินทร์มีสีหน้าเคียดขึ้ง โกรธพรพจีขึ้นมาทันควัน
“อย่างนี้นี่เอง ฉันคิดไว้แล้วว่าจีไม่ได้กลับมาเพราะฉันแน่ๆ อย่างน้อยก็ควรมีสำนึกทำเพื่อน้องจ๋าบ้าง แต่กลับมาเพราะหึงไอ้ธรเนี่ยนะ”
“ตอนนี้กำลังหน้ามืดตามัว คงไม่เห็นใครในสายตาหรอกค่ะ”
นรินทร์คุมแค้น “คงอยากจะใกล้มันมาก ทั้งที่บ้านทั้งที่ทำงาน”
“ที่ทำงานด้วยเหรอคะ”
“ที่โรงแรมรายงานมาว่า จีเรียกตัวไอ้ธรกลับมาทำงานแล้ว ไม่เห็นหัวกันเลย”
จิรดาตกใจ “อย่างนี้เขาก็จะได้ใกล้ชิดกันมากขึ้นสิคะ”
“ฉันไม่ยอมแน่ เราต้องรู้ให้ได้ว่าจีหึงธรกับใคร จะได้วางแผนต่อไปถูก”
“คุณจีคงหึงดานั่นแหละค่ะ ไม่มีใครใกล้ชิดคุณธรกว่าดาแล้ว”
“ไม่น่าใช่คุณ ถ้าจะหึง จีคงหึงไปนานแล้ว แต่นี่เหมือนมีใครบางคนที่เราไม่รู้ และจีไม่ไว้ใจมากๆ ถึงขนาดกลับมา คนที่ทำให้จีหึงได้ต้องไม่ธรรมดา และต้องมีแนวโน้มว่าไอ้ธรต้องชอบคนนี้ด้วยแน่ๆ”
จิรดาได้ฟังก็ยิ่งเจ็บใจ

เมื่อวิษธรกลับมาถึงบ้านก็เจอดนัยนั่งยิ้มรออยู่ในห้องโถงรับแขก
“ไงน้องชาย ทำงานเป็นไง”
“ราบรื่นดีครับ” วิษธรนิ่งไปครู่หนึ่ง “แต่...มีบางอย่างแปลกๆ”
ดนัยนิ่วหน้า มองฉงน “อะไรแปลก พวกนั้นสงสัยแกเหรอ”
“น้องจ๋าน่ะสงสัยผมอยู่แล้วแต่ผมจัดการได้”
ดนัยยิ้มนิดๆ มองวิษธรอย่างรู้ทัน
“ที่บอกว่าแปลกก็คือ ดูเหมือนจีจะแสดงอาการแปลกๆ เวลาผมอยู่กับน้องจ๋า”
ดนัยยิ้มเย้า “โอ้ พรพจีดูคนเก่งเหมือนกันนี่ หรือว่าแกแสดงออกชัดไป”
วิษธรปฏิเสธเสียงแข็ง “แสดงออกอะไร ผมเนี่ยนะ ไม่มีทาง”
“ไม่มีทางชอบ หรือไม่มีทางแสดงออกว่าชอบ”
วิษธรบอกอย่างมั่นใจ “ไม่มีทางชอบ”
“คิดดูดีๆ ก่อนตอบก็ได้นะ”
“พี่ก็รู้ว่าผมไม่มีทางชอบผู้หญิงบ้านนั้นได้หรอก”
“ชอบไม่ได้ กับไม่ได้ชอบก็ไม่เหมือนกันนะ แต่เอาเถอะ ไม่ชอบก็ดี จะได้ไม่ยุ่งยาก”
ดนัยตบไหล่น้องเบาๆ วิษธรทำเป็นไม่รู้สึกอะไร แต่ลึกๆ ในใจเขากลับรู้สึกแปลกๆ

พรพจีกับภัทร์ธีรากลับถึงบ้านเดินเข้ามาพร้อมๆ กัน นรินทร์นั่งรออยู่เลื่อนรถเข้ามาหายิ้มทัก
“ไง ทำงานอย่างมีความสุขมากเลยไหม ไอ้วิษธรกลับมาแล้วนี่”
พรพจีย้อนถามสีหน้าเรียบเฉย “คุณรู้แล้ว”
ภัทร์ธีราเครียด มองอาทั้งสองอย่างไม่สบายใจ กลัวว่าทะเลาะกันอีก
“กล้าดียังไงถึงให้ไอ้ธรกลับมาโดยไม่บอกฉัน”
“ที่ฉันทำเพราะเป็นห่วงโรงแรมของเรานะ ให้ธรช่วยเถอะ ไม่อย่างนั้นโรงแรมต้องกลับไปเป็นแบบเดิมแน่ คุณอยากให้เราล้มละลายหรือไง”
“ไม่ต้องเอาเรื่องงานมาอ้าง งานน่ะใครๆ ก็ทำได้ แต่ที่เธอเรียกมันกลับมาเพราะต้องการให้มันทำอย่างอื่นให้นอกจากเรื่องงานน่ะสิ”
พรพจียิ้มเยือกเย็น ท่าทีอ่อนโยนและดูจริงใจ
“ฉันเข้าใจที่คุณโกรธนะ คุณป่วยอยู่และฉันกับน้องจ๋าก็ต้องทำงานไม่ค่อยมีเวลาให้” เธอเดินมาจับมือสามี พูดดีๆ ด้วย “ฉันอยากให้คุณพักผ่อนให้หายไวๆ เลยให้ธรมาช่วยทำงานแทนชั่วคราว ฉันกับน้องจ๋าจะได้มีเวลากลับบ้านมาดูแลคุณได้มากขึ้นไม่ดีเหรอคะ”
นรินทร์อึ้งไปเลย สีหน้าสับสน พรพจียิ้มหวานให้ ภัทร์ธีราโล่งอก จู่ๆ นรินทร์ก็สะบัดมือออก
“ไม่มีทาง คุณพูดเพราะอยากให้ไอ้ธรมันกลับมาใช่ไหม”
ภัทร์ธีราหนักใจ พยายามไกล่เกลี่ย กลัวว่าพรพจีจะโกรธจนหนีไปอีก
“ที่อาจีพูดก็ถูกนะคะ ถ้าจ๋าเรียนรู้งานได้เต็มที่แล้ว นายวิษธรก็จะไปอย่างแน่นอน อารินอย่าคิดมากเลยนะคะ”
นรินทร์ขัดใจ “น้องจ๋า”
พรพจียิ้มอย่างชนะ

หลังอาหารมื้อค่ำ จิรดาจัดยาแล้วส่งให้นรินทร์กินก่อนนอน และได้รับรู้เรื่องราวตลอดจนท่าทีเปลี่ยนไปของพรพจี ที่นรินทร์เล่าให้ฟังแล้ว
“คุณจีถึงกับพูดดีด้วยเลยเหรอคะ”
นรินทร์รับยามากิน “ใช่ ทั้งที่ฉันด่าไปแต่ก็ไม่โวยวายกลับมาสักคำ”
“คุณคิดว่าคุณจีจะเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ เหรอคะ”
“ไม่มีทาง มันแปลกเกินไป จีไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน แต่ตั้งแต่...”
“ตั้งแต่กลับมาหลังจากที่หนีไปเหรอคะ” จิรดาเสริม
“ใช่ และที่น่าหงุดหงิดก็คือน้องจ๋าดันไปเข้าข้างจีอีก”
“นี่อาจจะเป็นแผนการของคุณจีก็ได้นะคะ ทำดีให้คุณจ๋าเห็นใจจะได้เข้าข้าง”
นรินทร์ฟังแล้วแค้น “ต้องใช่แน่ เจ้าเล่ห์นักนะ นังแพศยา”
“ถ้าคุณจ๋าไม่อยู่ข้างเราแล้ว เราจะลำบากนะคะ”
“ฉันไม่มีทางยอมให้เป็นอย่างนั้นแน่”
นรินทร์พูดอย่างคนไม่ยอมแพ้ จิรดายิ้มพอใจ


ร้านอาหารของสรัชคึกคักวุ่นวายตั้งแต่ร้านเปิดบริการ โรจนากำลังจัดวางอาหารจานสวยน่าทานลงบนโต๊ะตัวหนึ่งในมุมที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว มีสรัชยืนมองอยู่ด้วย
“เสร็จแล้วค่ะ ทีนี้บอกได้หรือยังคะว่าแขกพิเศษของคุณคือใคร”
“แขกพิเศษของผมคือ...” สรัชเหลียวมองไปที่หน้าร้านบุ้ยใบ้ให้ดู “มาโน่นแล้วครับ”
เป็นพรพจีเดินเข้ามาในนี้ กวาดตามองหาเจ้าของร้าน สรัชเดินไปต้อนรับพลางยกมือไหว้ มีเชฟโรสตามไปด้วย
“สวัสดีครับอาจี โรสครับนี่อาจี เป็นอาของน้องจ๋า”
โรจนาไหว้ทัก “สวัสดีค่ะ”
“อาจี นี่เชฟโรสครับเป็นเชฟมือหนึ่งของที่ร้าน”
โรจนายิ้มเขิน
“เชิญด้านนี้เลยค่ะ โรสเตรียมเมนูพิเศษไว้ให้ด้วยค่ะ”
พรพจีตักชิมอาหารหน้าตาน่าทานบนโต๊ะ
“เป็นไงบ้างครับ” สรัชมองลุ้น
“อร่อยมากเลยจ้ะ สมคำร่ำลือจริงๆ อาได้ยินชื่อเสียงร้านเอ้มาซักพักแล้ว คิดไว้ว่าจะต้องมาลองชิมให้ได้ ไม่ผิดหวังเลย”
สรัชยิ้มปลื้ม “ต้องขอบคุณโรสครับ เพราะผมได้เชฟดี ร้านเลยไปรอด”
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ โรสแค่ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ แต่ที่คนรู้จักเยอะ เป็นเพราะคุณเอ้บริหารเก่งต่างหาก”
พรพจีหัวเราะ “เอาเป็นว่าอาชมทั้งคู่เลยแล้วกัน อายุยังน้อยแต่ทำร้านให้มีชื่อเสียงได้ขนาดนี้ เก่งมากจ้ะ”
“ขอบคุณครับ”
“ขอบคุณค่ะ ยังไงกินให้อร่อยนะคะ เดี๋ยวโรสขอตัวไปดูในครัวก่อน”
โรจนาออกไป
พรพจีเหลียวมองไปรอบๆ ร้านอย่างพึงพอใจ
“ร้านเพิ่งเปิดได้ไม่นาน แต่คนรู้จักเยอะมาก อาเห็นเพจดังรีวิวร้านของเอ้เยอะเลยนี่ แถมได้ออกรายการทีวีอีก ทำงานเก่งแบบนี้ ต้องดูแลน้องจ๋าของอาได้ดีแน่ๆ”
“ผมก็อยากดูแลน้องจ๋าใจจะขาดแล้วครับอาจี แต่เขาไม่ยอมให้ผมทำ เขาบอกว่ายังไม่พร้อม เพราะต้องทำงาน ไหนจะต้องดูแลอารินด้วย”
“เรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหาหรอกจ้ะ ที่อามาหาเอ้วันนี้ก็เพราะเรื่องนี้”
สรัชมองพรพจีอย่างแปลกใจ

ขณะที่วิษธรเดินตรวจดูงานภายในโรงแรมธาราอยู่นั้น
อรดีใส่แว่นกันแดดแอบมองวิษธรอยู่ที่มุมหนึ่ง ก่อนจะแกล้งทำเป็นเดินผ่านไป แล้วหันกลับมา ถอดแว่นกันแดดออกมองเหมือนมาเจอโดยบังเอิญ
“อ้าวธร”
“คุณดี้”
อรดียิ้มแฉ่ง “บังเอิญจังเลย ดี้มาติดต่อที่พักให้เพื่อนน่ะค่ะ ไม่คิดว่าจะเจอธร ธรกลับมาทำงานที่นี่แล้วเหรอคะ ไม่เห็นบอกดี้เลย”
“แค่ชั่วคราวน่ะครับ”
“อาจีขอให้กลับมาเหรอคะ”
“ช่วงนี้คุณรินยังพักฟื้นอยู่ คุณจีเลยให้ผมมาช่วยต่ออีกหน่อย”
“ว่าแล้ว” อรดีทำเป็นพูดพึมพำกับตัวเอง “ทำได้ทุกอย่าง เพราะแรงหึงจริงๆ”
“อะไรนะครับ”
“ดี้ว่าท่าทางอาจีจะหวงธรน่ะค่ะ กลัวว่าโรงแรมอื่นจะมาชิงตัวไปทำงานละมั้ง” อรดีเฉไฉไปอีกเรื่อง
“ผมคงไม่ไปไหนหรอกครับ บริษัทอสังหาที่ทำอยู่ก็งานยุ่งพอสมควร ตอนนี้เลยวุ่นไปหมด”
อรดีเข้าไปเกาะแขนวิษธร
“คนเก่งก็อย่างนี้แหละค่ะ มีแต่คนต้องการตัว แต่ดี้เป็นห่วงนะคะ กลัวว่าธรจะตัดสินใจเลือกอะไรผิดๆ”
วิษธรแปลกใจ “คุณดี้หมายความว่ายังไงครับ”
“ก็หมายถึง...ถ้าธรกลับมาทำงานที่นี่เพราะอาจีละก็ อารินก็อาจจะไม่พอใจพวกเขาก็จะมีปัญหาครอบครัวกันอีกน่ะค่ะ แล้วแรงหึง...ของคนเราอาจทำให้เกิดอะไรขึ้นก็ได้”
วิษธรมองประเมินอรดีแว่บหนึ่ง กลบเกลื่อนความสงสัยด้วยมาดนิ่ง
“ผมไม่กลัวหรอกครับ ถ้าบริสุทธิ์ใจก็ไม่มีอะไรต้องกลัว”
“แต่อาจี...และ..น้องจ๋าอาจจะไม่บริสุทธิ์ใจกับธรนะคะ”
วิษธรนิ่งไปชั่วครู่
“ขอบคุณดี้ที่เป็นห่วงนะครับ ผมคงต้องไปทำงานต่อแล้ว ขอตัวก่อนนะครับ”
วิษธรเดินออกไป อรดีมองตามอย่างหงุดหงิดที่ใส่ไฟอาหลานกับวิษธรไม่สำเร็จ แต่ยังไงม่ายสาวก็ไม่มีทางยอมแพ้


คุณหญิงทอศรีและนายพลสุทธินั่งจิบชากาแฟ รอฟังข่าวดีของสรัชอยู่ในห้องโถงบ้าน
“รีบกลับบ้านมาแต่หัววันแบบนี้ ตกลงมีข่าวดีอะไรจะบอกแม่กับพ่อจ๊ะ”
สรัชยิ้มกริ่ม “วันนี้อาจีมาคุยกับเอ้ที่ร้าน”
“อย่าบอกนะว่า...”
คุณหญิงพูดไม่ทันจบสรัชก็ยิ้มกว้างบอกด้วยความดีใจ “ใช่ครับ เรื่องน้องจ๋า อาจีอนุญาตให้เอ้แต่งงานกับน้องจ๋าได้ทันทีที่พร้อม และอาจีก็จะสนับสนุนเต็มที่ พ่อกับแม่คิดว่าไงครับ”
ท่านนายพลยินดีกับลูกชาย “ก็ดีแล้วนี่ลูก ที่เหลือก็แค่รอให้หนูจ๋าตกลง แล้วเดี๋ยวพ่อจะไปคุยอย่างเป็นทางการให้”
“ดีอะไรกันคุณ ฉันว่ามันแปลกๆ อยู่นะ ที่อยู่ๆ เขาก็มาหาตาเอ้ถึงร้าน แถมบอกว่าจะยกหลานสาวให้อีก” คุณหญิงทอศรีตั้งแง่
“ไม่เห็นแปลกเลยนี่คุณ เขาเห็นเอ้คบหนูจ๋ามานาน แล้วสองคนก็เหมาะกันดี”
“ฉันกลัวว่าจะไม่ใช่แค่นั้นน่ะสิ ไม่ใช่ว่าหวังอะไรจากเราหรอกนะ” คุณหญิงตั้งแง่ไม่เลิก
“แม่ครับ ฐานะทางบ้านน้องจ๋าไม่ได้ด้อยไปกว่าเราเลยนะครับ ธุรกิจโรงแรมก็ไปได้สวย เขาไม่หวังอะไรจากเราหรอกครับ”
“ยังไงแม่ก็ยังไม่เห็นด้วยอยู่ดี อาเขายิ่งมีข่าวลือไม่ดีด้วย”
สรัชยืนกรานหนักแน่น “แม่ เอ้ไม่สนเรื่องนั้นหรอกนะครับ แค่ข่าวลือไร้สาระ”
“ไม่มีมูลก็ไม่มีข่าวลือหรอก”
สรัชเสียงเข้ม “ไม่ว่าแม่จะว่ายังไง เอ้ก็ยืนยันจะแต่งงานกับน้องจ๋าอยู่ดี”
“เอ้! ฟังแม่บ้างสิ” คุณหญิงขัดใจ
“ผมฟังอยู่นี่ไงครับ”
“ใจเย็นๆ ทั้งคู่นั่นแหละ” นายพลสุทธิต้องออกโรงห้าม บอกเชิงขอร้องกับคุณหญิงภริยาว่า “ลูกรักใครก็รักคนนั้นเถอะ เพื่อความสุขของลูกนะคุณ เรื่องอาส่วนอา นี่เขาจะแต่งกับหลาน”
คุณหญิงทอศรีสะบัดหน้าใส่สามี
“ถึงเป็นแค่อาแต่ก็เลี้ยงหลานมาเหมือนแม่ ฉันไม่อยากให้เรื่องแย่ๆ ทำเสื่อมเสียมาถึงวงศ์ตระกูลของเราด้วย”
“แม่” สรัชไม่พอใจ
นายพลสุทธิตบบ่าให้ลูกชายใจเย็นๆ สรัชจำต้องนิ่ง

ดนัยในชุดวอร์มวิ่งอยู่บนลู่วิ่งในห้องออกกำลังกายที่บ้าน ขณะฟังวิษธรเล่าเรื่องที่เจออรดีและคำพูดแปลกๆ ของเจ้าหล่อนในวันนี้
“คุณดี้อะไรนั่นก็สงสัยเหมือนกันเหรอ ว่าพรพจีหึงแกกับน้องจ๋าของแก”
“ไม่ใช่ของผม”
“เออน่า แต่ก็น่าสนใจดีนะ อาหึงหลานตัวเอง”
“ปกติจีรักหลานมาก ไม่คิดว่าจะเป็นถึงขนาดนี้”
ดนัยพูดยิ้มๆ “ดูท่าแกจะทำเรื่องใหญ่เข้าแล้วสิ”
“นั่นสิครับ” วิษธรยิ้มเยือกเย็น “ถ้ารมย์ฤดีลุกเป็นไฟขึ้นมาผมจะทำไงดี”
“ก็ดีสิ แกจะได้รีบกลับบ้านเสียที แม่ฉันบ่นจะแย่ฉันขี้เกียจลงมาหาแกบ่อยๆ ด้วย”
“ครับ ผมก็อยากให้ถึงตอนจบของเรื่องเสียที”
“แล้วตอนจบแกจะเลือกคนไหน อาหลานสวยคู่เลยนะ”
วิษธรสับสน “คนที่ผมจะเลือก มีแค่ม่านแก้วคนเดียวครับ”
ได้ยินชื่อนี้ ดนัยหน้าจ๋อยไปนิดหนึ่ง “นั่นสินะ แกมีคนดีน่ารักอย่างน้องม่านรออยู่ทั้งคน ได้ยินแบบนี้ก็สบายใจ แม่จะได้ไม่ต้องห่วง”
“บอกป้าวลัยให้วางใจเถอะครับ ยังไงผมก็ไม่เปลี่ยนใจแน่”
ดนัยตบบ่าวิษธร ฝืนยิ้มยินดี ทั้งที่แววตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

อีกฟาก ภัทร์ธีราและพรพจีเดินเข้าไปในร้านกระเป๋า สองอาหลานเดินดูสินค้าคอลเล็คชั่นใหม่ คุยกันไปเรื่อยๆ
“เดี๋ยวนี้น้องจ๋าไม่เห็นพาเอ้มาบ้านบ้างเลยนะจ๊ะ ได้เจอกันบ้างหรือเปล่า”
“ช่วงนี้ต่างคนต่างงานยุ่งน่ะค่ะ เลยไม่ค่อยได้เจอกัน แต่พี่เอ้ก็โทรหาปกตินะคะ” ภัทร์ธีราหยิบกระเป๋ามาสะพายให้ดู “ใบนี้เป็นไงคะ”
“สวยดีจ้ะ ยังไงก็ต้องหาเวลาเจอกันบ้างนะจ๊ะ ห่างกันมากๆ ระวังคนอื่นจะคว้าไปนะ”
“ถ้าพี่เอ้จะโดนคว้าไปง่ายขนาดนั้น จ๋าก็คงต้องปล่อยไป” ภัทร์ธีราลองสะพายกระเป๋าดูอีกใบ
“พูดอย่างนั้นได้ยังไง เราต้องรักษาของๆเราไว้ให้ดีที่สุดสิ” พรพจีมองกระเป๋าทักว่า “อาว่าใบแรกสวยกว่านะ”
ภัทร์ธีราตัดสินใจไม่ถูกระหว่างใบแรกกับใบที่สอง หยิบเอามาสะพายใหม่สลับกัน
“ถ้าน้องจ๋าปล่อยเอ้ไปน้องจ๋าจะเจอคนดีๆ แบบนี้ได้ที่ไหนอีก หน้าตาดี ฐานะดี แถมตอนนี้ก็รับผิดชอบธุรกิจของตัวเองได้ดีอีกต่างหาก ร้านของเอ้ติดอันดับร้านยอดฮิตของเว็บไซต์ดังแล้วนะ”
“ค่ะอาจี”
“แล้วจะรออะไรอีกล่ะลูก”
“น้องจ๋าห่วงอารินนี่คะ อาจีกับอารินก็ยัง...”
“เรื่องนั้นน้องจ๋าไม่ต้องห่วงแล้ว อาจะดูแลอารินเอง อาสัญญาว่าจะพยายามใจเย็นลง ไม่ทะเลาะให้เป็นเรื่องใหญ่อีกแล้ว น้องจ๋าไม่ต้องห่วงพวกอาเลย อาอยากให้น้องจ๋าได้ใช้ชีวิตของตัวเอง มีคนดีๆ ดูแล แค่นั้นอาก็ดีใจ อาจะได้หมดห่วง”
“แล้วจ๋าจะลองคิดดูค่ะ”
พรพจียิ้มให้ “ดีจ้ะ”
ภัทร์ธีรามองกระเป๋าใบแรกที่พรพจีแนะนำอย่างพิเคราะห์ แต่แล้วกลับหยิบใบที่สองที่ตัวเองชอบมากกว่ายื่นให้พนักงาน
“เอาใบนี้ค่ะ”
ภัทร์ธีรายื่นกระเป๋าให้พนักงาน พร้อมบัตรเครดิต พรพจียิ้มอารมณ์ดี


จิรดาเดินด้อมๆ มองๆ หาวิษธรอยู่ ได้ยินเสียงดังมาจากสระว่ายน้ำข้างบ้านจึงเดินไปดู เห็นวิษธรกำลังว่ายน้ำด้วยท่าทางแข็งแรง จิรดามองจ้องอย่างเคลิบเคลิ้มอยู่สักพัก จู่ๆ วิษธรก็โผล่พรวดขึ้นจากสระมายืนใกล้ๆ
“คุณดา มีอะไรหรือเปล่าครับ”
“เอ่อ คือ คุณธรว่ายน้ำเก่งจังเลยค่ะ ดาว่ายน้ำไม่แข็งเลย เคยจมน้ำด้วยนะคะ”
“จริงเหรอครับ คุณดาควรฝึกไว้นะครับ จะได้ไม่จมอีก”
จิรดาสบช่อง “ใช่ไหมคะ ดาก็อยากฝึกอยู่เหมือนกัน แต่หาคนสอนไม่ได้ คุณธรสอนดาหน่อยได้ไหมคะ”
“ผมว่ายได้ แต่สอนไม่เก่ง ผมว่าหาคนเชี่ยวชาญจริงๆ จะดีกว่า กลัวคุณดาจะเสียเวลาน่ะครับ”
“น่าเสียดายจังเอ่อ ดาได้ยินว่าคุณธรกลับไปทำงานที่ธาราแล้วใช่ไหมคะ”
“แค่ชั่วคราวน่ะครับ”
“คุณจีดูไม่กลัวคุณรินโกรธเลยนะคะ วันก่อนตอนคุณรินรู้เรื่องก็โมโหใหญ่ ดากลัวว่าคุณจีจะหนีไปอีก แต่คุณจีดูเปลี่ยนไป ใจเย็นขึ้น ไม่เถียงคุณรินเหมือนเคย”
“ก็ดีแล้วนี่ครับ”
จิรดาลองถามหยั่งเชิง “คุณธรว่าอะไรทำให้คุณจีใจเย็นขึ้นคะ”
“คุณจีก็คงพยายามทำความเข้าใจคุณรินอยู่มั้งครับ”
“หรือว่าคุณจีแค่กำลังอดทนเพื่ออะไรบางอย่างคะ”
“ไม่มีใครรู้ความคิดคุณจีดีเท่าตัวเขาเองหรอกครับ แต่ผมว่าความอดทนของคุณจี เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของชีวิตคู่ที่ยืนยาว พวกเราควรยินดีนะครับ”
จิรดายิ้มเยิ้ม “นั่นสิคะ ดาก็ว่าอย่างนั้น แต่ดาก็ยังสงสัยว่า...”
ดนัยในชุดเตรียมพร้อมว่ายน้ำเดินออกมาสมทบได้จังหวะพอดี
“สงสัยอะไรให้ผมช่วยตอบได้นะครับ”
“พี่นัยมาพอดี” วิษธรหันมาหาจิรดา “พี่นัยสอนว่ายน้ำเก่งมากครับ ผมก็เรียนจากพี่นัยนี่แหละ”
ดนัยแกล้งทำเป็นมองจิรดาด้วยสายตาหื่นๆ
“คุณดาอยากเรียนว่ายน้ำเหรอครับ ให้ผมช่วยสอนให้ไหม”
“เอ่อ...คือ...”
“ไปเปลี่ยนชุดว่ายน้ำเซ็กซี่ๆ มาสิครับ รับรองผมสอนจนว่ายเป็นปลาเลย” ดนัยว่า
จิรดาลุกพรวดขึ้น “ไม่เป็นไรค่ะ ถึงเวลาดูคุณรินแล้ว ขอตัวก่อนนะคะ”
ดนัยและวิษธรมองตามจิรดาที่รีบร้อนเดินออกไปอย่างขำๆ

ในวันต่อมา คุณหญิงทอศรี และนายพลสุทธิกำลังยิ้มแย้มทักทาย และรับไหว้จากพรพจีกับภัทร์ธีราที่มาหาถึงบ้านวัชรยุทธ โดยมีสรัชนั่งยิ้มย่องมองภาพตรงหน้าอย่างดีอกดีใจ
“ต้องขอโทษนะคะที่นัดกะทันหัน จีอยากหาโอกาสมาพบท่านกับคุณหญิงมานานแล้ว น้องจ๋าก็บ่นตลอดว่าอยากมากินข้าวด้วยกันอีก”
สรัชมองหน้าภัทร์ธีรายิ้มแก้มแทบแตก ภัทร์ธีรายิ้มตอบ
“วันนี้จีกับน้องจ๋าว่างตรงกันพอดี พอถามเอ้ว่าท่านว่างกันก็เลยตัดสินใจมากันเลย หวังว่าเราจะไม่ได้มารบกวนเวลาพักผ่อนนะคะ”
“ไม่หรอกๆ ได้มาเจอกันบ้างก็ดีแล้ว ถ้าคุณไม่มาหาเรา เราก็ว่าจะหาไปหาคุณอยู่เหมือนกัน” ท่านนายพลบอก
“ดีจังค่ะ ที่คิดตรงกัน”
“อ้อ แล้วนี่คุณกลับมานานแล้วเหรอ ฉันได้ยินว่าคุณออกจากบ้านไป”
นายพลสุทธิกระซิบปรามภริยา “คุณ”
“คุณหญิงก็ได้ยินข่าวลือไร้สาระนั่นด้วยเหรอคะ จีแค่มีงานด่วนที่ธาราปากช่องน่ะคะ ไม่น่าเชื่อนะคะว่าแค่ไปทำงาน คนจะลือกันไปได้ขนาดนี้ คุณหญิงกับท่านคงไม่เชื่อข่าวลือใช่ไหมคะ”
ท่านนายพลสุทธิหัวเราะกลบเกลื่อน “ไม่หรอก เรารอฟังจากคุณนี่แหละ”
เห็นคุณหญิงมารดามีสีหน้าดีขึ้น สรัชโล่งใจ
“ขอบคุณมากค่ะ อ้อ น้องจ๋า ของที่บอกว่าจะให้คุณหญิงอยู่ไหนจ๊ะ”
ภัทร์ธีรายื่นถุงที่เตรียมมาวางให้ “นี่เป็นชุดสปาและครีมบำรุงผิวของโรงแรมเราที่ทำขึ้นพิเศษ เป็นลิมิเต็ดอิดิชั่นสำหรับแขกวีไอพีค่ะ จ๋าจำได้ว่าคุณหญิงชอบทำสปาน่าจะชอบนะคะ”
คุณหญิงทอศรีรับมาสีหน้าปลื้มปริ่ม
“ขอบใจจ้ะ”
“ว่างๆ คุณหญิงไปทำสปาที่โรงแรมเราได้ตลอดเลยนะคะ จีทำบัตรวีไอพีไว้ให้แล้ว แค่แจ้งชื่อก็พอ สะดวกเมื่อไหร่ไปใช้บริการได้เลยค่ะ” พรพจีว่า
“แหม ไม่ต้องก็ได้จ้ะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ เรายินดี”
ทอศรีดีใจแต่พยายามเก็บอาการ/สุทธิมองทอศรีอย่างรู้ทัน สรัชมองภัทร์ธีราอย่างดีใจ


พรพจีเพิ่งเดินออกมาจากทำธุระในห้องน้ำ แปลกใจเมื่อเห็นสรัชยืนรออยู่
“เอ้ มีอะไรหรือเปล่าจ๊ะ”
“เอ่อ ไม่มีอะไรครับ ผมแค่อยากขอบคุณอาจีนะครับ”
“ไม่เป็นไรจ้ะ อาแค่อยากเห็นน้องจ๋ามีคนดีๆ ดูแลเสียที”
“ผมสัญญาว่าจะดูแลน้องจ๋าให้ดีที่สุดครับ ต่อไปก็เหลือแต่ให้น้องจ๋าตกลง”
“เอ้ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอก ต่อจากนี้อาจัดการเอง เอ้แค่ทำตามที่อาบอกก็พอ”
“แล้วผมต้องทำอะไรบ้างครับ”
พรพจียิ้มมีเลศนัยแทนคำตอบ

ที่โต๊ะอาหาร ภัทร์ธีราสนทนากับคุณหญิงและท่านนายพลอย่างสนิทสนม และคอยดูแลตักอาหารให้สองท่านตลอด
“ที่โรงแรมมีเรื่องแปลกๆ เยอะค่ะ” ภัทร์ธีราตักอาหารให้คุณหญิง “มีอยู่ครั้งนึงลูกค้าโทร.มาสั่งข้าวตอนตีสามติดต่อกันสามวัน ที่น่าแปลกก็คือห้องที่ลูกค้าบอกตอนนั้นไม่มีคนอยู่”
“จริงเหรอลูก แล้วใครโทร.มาสั่งล่ะ” คุณหญิงนึกตาม
“ก็ลูกค้านั่นแหละค่ะ เขาเมามากเลยจำห้องผิด”
ทั้งสองท่านหัวเราะลั่น
“ลูกค้าเพิ่งมาโวยวายวันที่จะออกว่าสั่งข้าวต้มไม่เคยได้เลย เล่นเอาพนักงานหลอนกันตลอดสามวันเลยค่ะ” ภัทร์ธีราตักอาหารให้ท่านนายพล
“ทำงานโรงแรมนี่มีเรื่องแปลกๆ เยอะดีเหมือนกันนะ” ท่านนายพลว่า
พรพจีกับสรัชเดินเข้ามาพอดี
“คุณอะไรกันอยู่คะ ท่าทางสนุกเชียว”
“หนูจ๋าเล่าเรื่องที่โรงแรมให้ฟังน่ะ ตลกดี” คุณหญิงบอก
“โรงแรมมีเรื่องแปลกๆ เยอะค่ะ เล่าทั้งวันก็ไม่หมด” พรพจีว่า
เมื่อเห็นท่านนายพลกับคุณหญิงมีท่าทีผ่อนคลาย และอารมณ์ดี พรพจีพยักหน้าให้สัญญาณกับสรัช
“เอ่อ น้องจ๋าคะ นี่ก็ใกล้วันเกิดน้องจ๋าแล้ว คิดไว้หรือยังคะว่าจะจัดงานที่ไหน”
“จริงด้วย จ๋าคงไม่จัดงานใหญ่โตหรอกค่ะ กินอาหารพร้อมหน้ากันที่บ้านก็พอ”
“ถ้าอย่างนั้น จัดที่ร้านพี่ดีไหมคะ จะได้เปลี่ยนบรรยากาศ เดี๋ยวพี่ให้โรสจัดการเรื่องอาหารให้ น้องจ๋าชอบอาหารฝีมือโรสไม่ใช่เหรอคะ”
ภัทร์ธีราเกรงใจ “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ จ๋าเกรงใจพี่เอ้ เกรงใจคุณโรสด้วย”
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ วันนั้นเป็นวันหยุดร้านพอดี แล้วโรสก็อยากลองทำอาหารใหม่ๆ ด้วย วันเกิดทั้งทีก็ต้องมีอะไรพิเศษบ้าง จริงไหมครับพ่อ”
“จริงลูก นานๆ ทีไม่ต้องเกรงใจหรอกหนูจ๋า เอ้เขาอยากทำให้” ท่านนายพลออกโรงเชียร์
พรพจีรีบบอกหลานว่า “ผู้ใหญ่ชวนก็ควรรับไว้นะน้องจ๋า”
“โอเคค่ะ ขอบคุณมากนะคะ”
สรัชยิ้มแก้มแทบแตกอีกรอบ มองขอบคุณบิดา ท่านนายพลสุทธิตบบ่าลูกชายเบาๆ

พรพจีลงรถเดินนำภัทร์ธีรามายังหน้าตึกอย่างอารมณ์ดี แต่แล้วต้องชะงักหยุดเดินเมื่อเห็นนรินทร์นั่งรอตาขวางอยู่ พรพจีทำเป็นยิ้ม พูดดี
“มานั่งทำอะไรคนเดียวคะ ไม่ขึ้นไปพักผ่อนเหรอ”
“พาน้องจ๋าไปไหนมา คิดจะเสี้ยมอะไรน้องจ๋าอีก อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ”
“ฉันก็แค่พาน้องจ๋าไปเที่ยวตามประสาอาหลานเท่านั้นเองคุณคิดมากไปแล้วนะ เดี๋ยวก็ปวดหัวอีกหรอก”
นรินทร์จ้องหน้าเอาเรื่อง “อย่ามาแอ๊บ ฉันรู้ทันน่ะ แผนอะไรที่กำลังจะทำอย่าคิดว่าจะสมหวัง ฉันจะขัดขวางให้ถึงที่สุด”
“รอให้คุณใจเย็นก่อนแล้วกันค่ะ แล้วเราค่อยคุยกัน ฉันไม่อยากให้คุณป่วยอีก”
พรพจีหันไปทางภัทร์ธีรา “น้องจ๋าฝากดูอารินด้วยนะ ฉันขึ้นห้องก่อนนะคะ พักผ่อนเยอะๆ นะคะ จะได้แข็งแรง”
จากนั้นพรพจีก็ขึ้นห้องไปโดยไม่สนใจเสียงเรียกของนรินทร์
“จี หยุดเดี๋ยวนี้นะ”
“อารินใจเย็นๆ ค่ะ”
นรินทร์มองตามไปอย่างเจ็บใจ

ค่ำวันนั้น สามคนพ่อแม่ลูกนั่งดูรายการข่าวช่องแปดอยู่ด้วยกัน
สรัชยิ้มไม่หุบ “วันนี้สนุกดีนะครับ”
คุณทอศรีทำเฉย สรัชส่งสายตาให้ผู้เป็นบิดาช่วยพูด
“นั่นสิ หนูจ๋าน่ารักดี ดูแลพ่อกับแม่ดีมาก แถมคุยสนุกด้วย อาเขาก็ไม่ได้เป็นเหมือนที่ใครๆ ว่า” ท่านนายพลเปิดประเด็น
“อย่างนี้ไฟเขียวหรือยังครับ” สรัชเสริม
“พ่อน่ะไฟเขียวนานแล้ว ต้องถามแยกสุดท้ายว่าเขาว่าไง”
สรัชหันมาทางคุณหญิงมารดา “แยกสุดท้ายว่าไงครับ”
“แม่ว่ายังเร็วไปนะที่จะตัดสิน แม่ยังไม่มั่นใจเท่าไหร่” คุณหญิงทอศรีตั้งแง่
“แต่เอ้มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ เอ้ไม่อยากรอให้นานกว่านี้แล้ว ถ้าน้องจ๋าเปลี่ยนใจขึ้นมาเอ้ก็แย่สิครับ”
“หลงกันเหลือเกินนะจ๊ะ ถ้าไม่ใช่คนนี้มันจะเป็นยังไง” คุณหญิงมองค้อนลูกชาย
“เอ้จะไม่แต่งงานเลย เอ้จะแต่งงานกับน้องจ๋าคนเดียว นะครับแม่”
“หนูจ๋ากับอาเขาก็น่ารักดี เราไม่ควรเชื่อคนอื่นเท่ากับพิสูจน์เองนะ” ท่านนายพลว่า
“แต่เวลาแค่นี้จะไปพิสูจน์อะไรได้ล่ะคุณ”
“น่าคุณ ผมอยากอุ้มหลานเร็วๆ แล้ว ตอนตาอ้นไม่เห็นเลือกนานขนาดนี้เลย”
“ก็เพราะตาอ้นเลือกพลาดน่ะสิ ฉันถึงต้องเลือกมากกว่าเดิม”
สรัชอ้อนใหญ่ “แต่น้องจ๋าเป็นคนดีจริงๆ นะครับแม่ นะๆๆๆ”
คุณหญิงทอศรีมองสองพ่อลูกที่ช่วยกันอ้อนแล้วก็ใจอ่อน
“ก็ได้ แต่จากนี้ต้องไม่มีเรื่องอะไรอีกแล้วนะ”
สรัชดีใจมาก ตีมือไฮไฟว์กับบิดา คุณหญิงทอศรีมองค้อนพ่อลูกด้วยความหมั่นไส้


เช้าวันใหม่ พรพจีนั่งสวยๆ คิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่ในห้องนั่งเล่น สวาทเดินเอากาแฟมาเสิร์ฟให้
“นี่ก็ใกล้ถึงวันเกิดคุณจ๋าแล้ว ปีนี้จัดยังไงดีคะ” สวาทมองซ้ายขวาจนแน่ใจว่าคุณหนูจ๋าไม่อยู่แน่ จึงกระซิบถาม “ปีนี้มีเซอร์ไพรส์หรือเปล่าคะ”
“น้าหวาดไม่ต้องทำอะไรหรอกจ้ะ ฉันเตรียมไว้แล้ว” พรพจีกระซิบบอกสวาทว่า “เราจัดกันที่ร้านเอ้ ทางนั้นจะจัดการทุกอย่าง น้าหวาดจะได้ไม่เหนื่อย”
“แหม ไม่เหนื่อยหรอกค่ะ แต่จัดร้านคุณเอ้ก็ดีนะคะ จะได้เปลี่ยนบรรยากาศ”
“ฉันขอน้าหวาดเรื่องนึงได้ไหมจ๊ะ”
“อะไรเหรอคะ”
“อย่าให้คุณรินรู้เรื่องนี้ วันเกิดน้องจ๋าทั้งที ฉันไม่อยากให้คุณรินอาละวาดจนบรรยากาศเสีย น้าหวาดเข้าใจใช่ไหม”
“ค่ะ แต่คุณรินเขาคงอยากพาคุณจ๋าไปฉลองด้วยนะคะ”
“คุณรินได้ฉลองแน่จ้ะ แต่เป็นช่วงกลางวันที่บ้านเดี๋ยวฉันจะโทร.สั่งอาหารที่เขาชอบมา ส่วนช่วงเย็นฉันอยากให้เด็กๆเขาได้สนุกกัน คุณรินก็จะได้พักผ่อนไม่เหนื่อยด้วย”
“ค่ะ น้าจะคอยดูคุณรินให้แล้วกันค่ะ”
“ขอบใจจ้ะน้าหวาด”
สวาทลุกเดินออกไป พรพจีหยิบมือถือขึ้นมาส่งไลน์หาใครบางคน ยิ้มออกมาอย่างสุขใจ

วิษธรนั่งตรวจงานผ่านไอแพดอยู่ที่ร้านกาแฟเจ้าประจำ สักครู่หนึ่งจึงเห็นพรพจีเดินอารมณ์ดีเข้ามานั่งด้วย
“ขยันจัง”
“จีนัดผมมากะทันหันแบบนี้ มีอะไรเหรอครับ”
“ฉันแค่จะมาบอกให้คุณเตรียมชุดหล่อๆ ไปงานวันเกิดน้องจ๋าด้วยนะคะ”
“แค่นี้ไลน์มาบอกก็ได้นี่ครับ”
“ก็ฉันอยากเห็นหน้าคุณนี่ ฉันอยากมาบอกคุณด้วยตัวเอง อยากให้ถึงวันเกิดน้องจ๋าเร็วๆ จัง”
วิษธรมองฉงน “คุณคิดจะทำอะไรเหรอครับ”
“ทำให้เราสมหวังไงคะ”
“ถ้าอย่างนั้นก็ดีสิครับ คุณจะทำอะไรบ้าง ให้ผมช่วยไหม”
“คราวนี้คุณไม่ต้องทำอะไร แค่อดทนรออีกนิดเท่านั้น”
วิษธรมองสงสัย พรพจียิ้มในสีหน้า มีแผนการบางอย่างในใจ

ดนัยเก็บของใส่กระเป๋า เตรียมกลับสุโขทัย
“ทำไมรีบกลับล่ะครับ อยู่ต่ออีกหน่อยเถอะ มีอะไรจะได้ช่วยๆ กัน”
“จะเอาฉันเป็นไม้กันสาวๆ ก็บอกมาเถอะ ฉันก็ต้องทำมาหากินนะโว้ย”
“ไม่ต้องหรอกน่า ผมเลี้ยงพี่ได้”
ดนัยหัวเราะขำที่อีกฝ่ายตื๊อไม่เลิก
“ฉันกินจุ แกเลี้ยงไม่ไหวหรอก มีทัวร์ลงที่รีสอร์ทน่ะ ต้องไปจัดการนู่นนี่เยอะแยะจะสั่งงานผ่านเน็ตมันก็ไม่ถนัดว่ะ ต้องขึ้นไปดูเอง”
“ก็ได้ ฝากความคิดถึงถึงป้าวลัย แล้วก็ฝากดูแม่ผมด้วยนะพี่”
“เออ ไม่ต้องห่วง แกก็ดูแลตัวเองดีๆล่ะ ท่าทางสาวทั้งหลายของแกจะจัดเต็มกันทุกคน”
“ไม่ต้องห่วงพี่ ทุกอย่างกำลังเป็นไปตามที่คิดไว้”
แม้วิษธรจะพูดอย่างมุ่งมั่น แต่น้ำเสียงแฝงไปด้วยความเศร้า
“จะทำอะไรก็คิดให้รอบคอบเสมอนะ”
“ครับพี่ มันจะไม่มีทางพลาดแน่นอน”
วิษธรพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น

อีกฟาก อรดีถลาเข้าไปกราบสวัสดีคุณหญิงทอศรีอย่างนอบน้อม
“สวัสดีค่ะคุณหญิงแม่ ดี้เอาผลไม้มาฝากน่ะค่ะ คุณแม่สบายดีนะคะ”
“จ้ะ มีเรื่องอะไรก็ว่ามาเถอะ”
“แหม คุณหญิงแม่ดี้แค่คิดถึงน่ะค่ะ ก็เลยแวะมาหา”
สรัชเดินมาเห็น จึงไหว้ทักทายอรดี
“พี่ดี้ สวัสดีครับ”
อรดีรับไหว้ “อ้าว เอ้ สวัสดีจ้ะ วันนี้อยู่บ้านเหรอจ๊ะ”
“พักบ้างน่ะครับ พี่ดี้มีข่าวอะไรใหม่ๆ มาบอกคุณแม่เหรอครับ”
อรดีหัวเราะกลบเกลื่อน “พี่แค่แวะมาเยี่ยมน่ะจ้ะ”
“อ้อ ขอบคุณครับ”
อรดีหันไปจ๊ะจ๋ากับคุณหญิง “ได้ยินมาว่า เมื่อวานน้องจ๋ากับอามากินข้าวกับคุณหญิงแม่ที่บ้านเหรอคะ”
สรัชเป็นคนตอบ “ครับ เรากำลังจะเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว มากินข้าวด้วยกันก็ไม่แปลก”
“เอ้น่ะไม่แปลกหรอกจ้ะ แต่คนที่แปลกน่ะอาจีโน่น เอ้ไม่สงสัยเหรอว่าทำไมจู่ๆ อาจีถึงอยากให้น้องจ๋าแต่งงานกับเอ้เร็วนัก” อรดีทำเป็นตั้งข้อสังเกต
“ไม่สงสัยครับ แล้วมันก็เป็นเรื่องดีกับผมด้วย เพราะผมอยากแต่งงานกับน้องจ๋าให้เร็วที่สุด”
“แต่แม่ก็สงสัยนะ”
“แม่”
อรดียิ้มกระหยิ่มหงายไพ่ในมือ “เป็นเพราะอาจีหึงหลานตัวเองกับธรไงคะคุณแม่”
คุณหญิงทอศรีหูผึ่ง “ว่าไงนะ”
สรัชหัวเราะขำ “เป็นไปไม่ได้หรอกครับ น้องจ๋าไม่ชอบคุณธรมาแต่ไหนแต่ไร ถ้าข่าวมันไม่จริงก็อย่าพูดเลยครับ”
“แล้วเอ้แน่ใจได้ยังไงว่ามันไม่จริง เอ้เคยเห็นเวลาเขาทำงานใกล้ชิดกันหรือเปล่า ใครๆ ก็หวั่นไหวเวลาอยู่ใกล้ธรทั้งนั้นแหละ” อรดีว่า
คุณหญิงทอศรีเหน็บเข้าให้ “ใครๆ นี่หมายถึงเราด้วยหรือเปล่าจ๊ะดี้ ลืมอ้นได้เร็วจังนะ”
“อุ๊ย ดี้ไม่คิดอะไรแบบนั้นหรอกค่ะ ที่ดี้มาเตือนเพราะเป็นห่วงเอ้นะคะ ดี้เห็นว่าเป็นเหมือนครอบครัวเดียวกัน ไม่อยากให้เสียรู้คนอื่น”
สรัชส่ายหน้าอย่างเอือมระอาอดีตพี่สะใภ้จอมจุ้น

อรดีเดินหงุดหงิดกลับเข้ามาในบ้าน ได้ยินเสียงอิชยากับคุณอุราคุยกันอยู่ จึงค่อยๆ เดินไปแอบฟัง
“มะรืนนี้ยาไปงานวันเกิดจ๋านะคะ” อิชยาบอก
เสียงคุณอุราซักว่า “กี่โมงลูก”
“เย็นๆ ค่ะ”
อรดีแอบฟังอยู่เงียบๆ
“ที่รมย์ฤดีใช่ไหม”
“คราวนี้จัดที่ร้านอาหารพี่เอ้ค่ะ พี่เอ้จะจัดงานให้จ๋าเองหมด โรแมนติกมากเห็นว่าเชฟโรสที่ดังๆเป็นคนทำอาหารด้วย ยาอยากชิมฝีมือเชฟโรสมานานละ”
เสียงอรดีดังขึ้น “ฉันไปด้วยคนสิ”
อิชยาสะดุ้งหันไปเจออรดี
“พี่ดี้! มาไม่ให้สุ้มให้เสียง ยาตกใจหมด”
“อย่ามาเวอร์ งานวันเกิดน้องจ๋าน่ะ ฉันไปด้วยนะ”
“พี่เอ้ชวนพี่ดี้แล้วเหรอคะ”
“เปล่า”
“อ้าว แล้วพี่ดี้จะไปในฐานะอะไรคะ ไม่ได้สนิทกับจ๋าเสียหน่อย” อิชยาเหน็บในที
“ฉันก็ไปในฐานะพี่สาวแกไง”
อิชยามองหน้ามารดาเชิงขอความช่วยเหลือ
“ดี้จะไปทำไมลูก วุ่นวายเปล่าๆ เขาไม่ได้เชิญเราด้วย” คุณอุราว่าเชิงตำหนิ
“ไม่เชิญก็จะไปค่ะ ไปเตรียมชุดดีกว่า”
อรดีเดินเชิดหนีขึ้นบ้านไป อิชยากับอุรามองหน้ากันอย่างเบื่อหน่าย


ถึงวันเกิดภัทร์ธีรา สรัชเดินสั่งงานพนักงานซึ่งช่วยกันเตรียมงานอยู่ในร้านอย่างไม่รู้เหนื่อย
“เดี๋ยวป้ายมาแล้วติดตรงนี้เลยนะ ส่วนตรงนั้นเพิ่มลูกโป่งอีก”
“แล้วดอกไม้ที่ให้สั่งเป็นสีอะไรดีคะ”
“สีขาวกับชมพูครับ”
พนักงานคนนั้นพยักหน้ารับแล้วออกไป พนักงานคนอื่นๆ ก็กำลังเตรียมงานกันอย่างขะมักเขม้น
สรัชยืนมองบรรยากาศในร้าน ถูมืออย่างตื่นเต้น โรจนาจัดการเรื่องอาหารอยู่กับพนักงานอีกคน
“เดี๋ยวอันนี้เสิร์ฟก่อนนะ ตามด้วยจานนี้ ส่วนเค้กเดี๋ยวโรสบอกอีกทีว่าให้เอาออกมาตอนไหน”
“ได้ค่ะคุณโรส”
“ขอบใจมากจ้ะ”
พนักงานพ้นตัวไปแล้ว โรจนามองไปทางสรัชที่ทำท่าตื่นเต้นอยู่ เดินเข้าไปหา
“เป็นไงบ้างคะบอสคนเก่ง ตื่นเต้นเหรอคะ”
“ครับ ขอให้อย่ามีอะไรผิดพลาดเลย”
“มันต้องออกมาดีแน่ค่ะ คุณตั้งใจขนาดนี้ จ๋าต้องดีใจมากแน่ๆ”
“คุณคิดว่าน้องจ๋าจะชอบจริงๆ ใช่ไหมครับ”
“จริงสิคะ ผู้หญิงที่ไหนจะไม่ชอบ ถ้าผู้ชายที่เรารักทำเพื่อเราขนาดนี้ จ๋าจะต้องชอบแน่นอนค่ะ”
สรัชยิ้มขอบคุณ แล้วหันไปมองงานต่ออย่างตื่นเต้น
โรจนาลอบมองท่าทีร่าเริงของสรัชด้วยแววตาหมองเศร้า เจ็บปวดลึกๆ ในใจที่แอบรักแอบชอบคนมีเจ้าของ

อาหารหน้าตาดีและน่ารับประทานหลากเมนู วางอยู่บนโต๊ะอาหารบ้านรมย์ฤดี ซึ่งมื้อนี้จัดแต่งโต๊ะอย่างสวยงามเป็นพิเศษ พรพจีเข็นรถพานรินทร์เข้ามานั่ง แล้วยังดูแลช่วยวางผ้ากันเปื้อนให้อย่างดี นรินทร์มองอย่างระแวง ภัทร์ธีรามองอาทั้งสองก็ยิ้มชื่นสุขใจ
“สุขสันต์วันเกิดนะน้องจ๋า อาขอให้น้องจ๋ามีความสุขมากๆ และก็เป็นเด็กดีของอาตลอดไป”
พรพจีเอ่ยขึ้นว่า “น้องจ๋าเป็นเด็กตลอดไปไม่ได้หรอกนะคะ”
นรินทร์ทำท่าจะเถียง พรพจีชิงพูดต่อว่า
“แฮปปี้เบิร์ธเดย์นะจ๊ะหลานรัก อยากได้ของขวัญอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าจ๊ะ”
“แค่อาจีกับอารินอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขก็เป็นของขวัญที่ดีที่สุดของจ๋าแล้วล่ะค่ะ
พรพจีแสร้งยิ้มให้ “จ้ะ”

ทั้งสามคนเช็ดปาก หลังจากรับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว
“กินเสร็จแล้วน้องจ๋าอยากไปเที่ยวไหนต่อลูก วันนี้วันเกิดทั้งที เดี๋ยวอาพาไปเอง”
พรพจีดูเวลา “อาว่าน้องจ๋าไปเตรียมตัวก่อนดีไหมจ๊ะ มีนัดกับเอ้ต่อไม่ใช่เหรอ”
“ไปวันอื่นไม่ได้เหรอน้องจ๋า นานๆ อาจะได้ไปเที่ยวกับหลานซักที”
“เดี๋ยววันหลังเราค่อยมากันใหม่ก็ได้ค่ะ วันนี้เป็นวันพิเศษให้หนุ่มสาวได้ใช้เวลาด้วยกันดีกว่านะ”
“น้องจ๋านัดกับเขาไว้แล้วเหรอ” นรินทร์ถาม
ภัทร์ธีราหนักใจ“ค่ะอาริน จ๋าขอโทษนะคะ”
“ไม่เป็นไร น้องจ๋าไปเถอะ เอาไว้วันหลังเราค่อยไปเที่ยวด้วยกันก็ได้”
“ขอบคุณที่เข้าใจจ๋านะคะ” ภัทร์ธีรากอดเอาใจ “จ๋ารักอารินที่สุดเลย แล้วจะรีบกลับนะคะ”
นรินทร์ลูบหัวภัทร์ธีราอย่างรักใคร่ พรพจียิ้มอย่างสมใจ

พรพจีเดินตามรถเข็นนรินทร์ที่เลื่อนออกมาหน้าห้อง ตามมาด้วยภัทร์ธีรา โดยมีจิรดายืนรออยู่
“ฝากคุณดาดูแลคุณรินต่อด้วยนะจ๊ะ ฉันให้กินยาหลังอาหารเรียบร้อยแล้วนะ”
จิรดามองสงสัย “ได้ค่ะ”
“เออ น้องจ๋า”
พรพจีเห็นจิรดาไม่ยอมพานรินทร์เข้าห้องไปสักที เหมือนหยุดยืนฟังจึงถามจิรดาตรงๆ
“คุณดามีอะไรอีกหรือเปล่า”
“ไม่มีค่ะ”
“งั้นพาคุณรินไปพักเถอะ
จิรดาจำใจพานรินทร์กลับเข้าห้องไปด้วยความเสียดาย
พรพจีรอจนประตูห้องนรินทร์ปิดลง จึงหันมาพูดนัดแนะกับภัทร์ธีรา
“เดี๋ยวอาไปรอน้องจ๋าที่นั่นก่อนแล้วกัน รอสักพักเดี๋ยวน้องจ๋าค่อยตามไป”
“ทำไมไม่ไปพร้อมกันล่ะคะ”
“ถ้าอารินรู้ เดี๋ยวก็น้อยใจที่ไม่ได้ไปด้วยอีกจะยุ่ง”
“ให้อารินไปด้วยกันก็ได้นี่คะ”
“อย่าเลย ให้อารินพักผ่อนเถอะ ถ้าเขาเหนื่อยเกินไปจะหงุดหงิดอีก”
“ก็ได้ค่ะ”
“โอเคจ้ะ งั้นอาไปเปลี่ยนชุดก่อน อย่าลืมแต่งตัวสวยๆ เราเป็นนางเอกของงานนะรู้ไหม”
“โอเคค่ะ”
พรพจีหอมแก้ม “เจอกันที่งานจ้ะหลานรัก”

ค่ำนั้น ภายในร้านอาหารของสรัชตกแต่งไว้ในโทนอบอุ่นสวยงามสำหรับงานเลี้ยง สรัชแต่งตัวหล่อเหลา กุลีกุจอพาพ่อกับแม่เข้ามานั่งที่
“พ่อกับแม่นั่งตรงนี้ก่อนก็ได้ครับ นี่น้ำตะไคร้มะนาวโซดาของโปรดแม่ครับ อันนี้ชาเย็นของพ่อ เดี๋ยวผมไปดูของว่างให้ก่อน”
สรัชหายเข้าไปในครัว ปล่อยให้คุณหญิงทอศรีกับนายพลสุทธิจิบน้ำดื่มอย่างพึงใจในรสชาติ เสียงกระดิ่งตอนเปิดประตูดังขึ้น ทั้งสองท่านเงยหน้าไปมอง เห็นพรพจีเดินเข้ามาพร้อมชายหนุ่มคนหนึ่ง คุณหญิงกับท่านนายพลยกมือรับไหว้พร้อมรอยยิ้ม
“สวัสดีค่ะ” พรพจีแนะนำสองฝ่ายให้รู้จักกัน “ธรคะ นี่นายพลสุทธิกับคุณหญิงทอศรี คุณพ่อกับคุณแม่ของเอ้”
“สวัสดีครับ”
“นี่วิษธรค่ะ เป็นหุ้นส่วนและผู้ช่วยมือหนึ่งของจี ธรช่วยฝึกงานให้น้องจ๋าด้วยได้วิชาจากธรไปเยอะเลยค่ะ”
สรัชได้ยินเสียงกระดิ่งรีบวิ่งออกจากทางครัวมาดู
“ใครมาเหรอครั... อ้าว คุณธร อาจีสวัสดีครับ”
วิษธรยิ้มทัก “สวัสดีครับคุณเอ้”
สรัชเหลียวหาคนรัก “แล้วน้องจ๋าล่ะครับ ไม่ได้มาด้วยกันเหรอ”
“เดี๋ยวน้องจ๋าจะตามมาทีหลังค่ะ ให้เวลานางเอกของงานหน่อยนะ” พรพจีบอกยิ้มๆ
“ได้สิครับ อีกนานเลยกว่าจะถึงเวลา”
วิษธรมองรอบๆ ร้านด้วยความทึ่ง “คุณเอ้จัดงานเองเหรอครับ ดูดีมากเลยนะครับ”
“ขอบคุณครับ”
“ใช้เวลาจัดนานไหมครับ”
“ก็พอสมควรครับ อยากให้งานออกมาเป๊ะที่สุด”
วิษธรเดินคุยกับสรัชออกไป พรพจีมองตามวิษธรยิ้มๆ คุณหญิงทอศรีลอบมองด้วยท่าทีสงสัย

ภัทร์ธีราแต่งตัวสวยเดินลงมาชั้นล่าง เจอสวาทพอดี
“จะไปแล้วเหรอคะ”
“ค่ะ คนอื่นๆ น่าทยอยมากันแล้ว ให้ผู้ใหญ่รอนานๆ มันไม่ดี”
สวาทมองหน้าภัทร์ธีรายิ้มภาคภูมิใจ “คุณจ๋าของป้าโตเป็นสาวแล้ว”
“เพิ่งรู้เหรอคะ น้องจ๋าของป้าหวาดไม่ใช่เด็กๆ แล้วน้า”
“ค่ะ โตเป็นสาว แถมยังสวยเสียด้วย” สวาทสวมกอดคุณหนูจ๋า “สุขสันต์วันเกิดนะคะ ต่อจากนี้ไป
ขอให้มีความสุขมากๆ สุขภาพแข็งแรง ทำงานเก่งๆ นะคะ”
“ขอบคุณนะคะป้าหวาด” ภัทร์ธีรากอดตอบแนบแน่น “จ๋ารักป้าหวาดม้ากมากค่ะ”
“ป้าหวาดก็รักคุณจ๋ามากค่ะ” สวาทละตัวออกมา “ไปเถอะค่ะ สนุกกับงานวันเกิดนะคะ”
“น้องจ๋ารู้สึกไม่ดีเลยค่ะที่ทิ้งอารินไว้”
“อย่าคิดมากเลยค่ะ ไปสนุกให้เต็มที่ เดี๋ยวทางนี้ ป้าดูแลเอง”
ภัทร์ธีราพยักหน้าอย่างโล่งใจ
จิรดาแอบฟังอยู่ตรงมุมหนึ่งนอกประตู ด้วยสีหน้าสงสัยใคร่รู้

จิรดารีบคาบข่าวที่ได้ยินมาบอกนรินทร์ทันที
“คุณจ๋ากำลังจะไปงานค่ะ แต่ท่าทางดูกังวล เหมือนจะมีเรื่องอะไรที่เราไม่รู้ คุณจีก็ดูเหมือนจะไม่ได้อยู่ที่บ้านนะคะ”
“งั้นเหรอ หรือว่าจีจะแอบไปไหนกับไอ้ธร”
“บ้านคุณธรก็ดูเงียบๆ ด้วยค่ะ เหมือนจะไม่อยู่บ้านเหมือนกัน”
“คุณบอกน้องจ๋าท่าทางกังวลเหมือนมีเรื่องอะไรอย่างนั้นเหรอ”
“ใช่ค่ะ”
“หรือว่า...ยังไงคุณตามน้องจ๋าไปก่อนแล้วกัน เจออะไรน่าสงสัยรายงานผมทันที”
“ได้ค่ะ”
นรินทร์มีสีหน้าครุ่นคิดเป็นกังวล

ระหว่างที่ทุกคนยืนพูดคุยกัน หัวเราะหัวใคร่กันอยู่ตามแต่จริตใครมัน อิชยาและอรดีเปิดประตูเดินเข้ามา อิชยามองไปรอบๆ จนเจอกับสรัชก็ยิ้มกว้าง โบกมือให้
อรดีมองไปรอบๆ เห็นวิษธรและพรพจีกำลังหัวร่อต่อกระซิกกันอยู่สองคนก็หงุดหงิดขึ้นมาทันที
“เดี๋ยวฉันมานะ”
“ไปไหนคะ อ้าว พี่ดี้”
อรดีเดินดุ่มไปหาวิษธรและพรพจี โดยไม่สนใจน้องอีก อิชยามองตามงงๆ สุดท้ายเลิกสนใจเดินไปหาสรัชที่ยืนอยู่กับโรจนาแทน
อรดีหยิบแก้วเครื่องดื่มแล้วเดินตรงไปที่วิษธรกับพรพจี เห็นสองคนกำลังหัวเราะกันอย่างมีความสุขก็นึกหมั่นไส้ วิษธรยกแก้วขึ้นชนกับพรพจี อรดีปรี่เข้าไปแทรกระหว่างกลางชนแก้วก่อน
“เชียร์สค่ะ”
“คุณดี้ มาได้ยังไงครับ”
“ดี้เป็นพี่สาวของเพื่อนสนิทน้องจ๋า อยากมาแสดงความยินดีด้วยไม่ได้เหรอคะ”
“ได้สิจ๊ะ ถ้ามีคนเชิญ ว่าแต่ใครเชิญมาจ๊ะ”
อรดีอ้ำอึ้ง จนมีเสียงกระดิ่งที่แขวนไว้ตรงประตูดังขึ้น ภัทร์ธีราเปิดประตูเข้ามาทุกคนหันไปมองเป็นตาเดียวกัน
หนูจ๋าเดินยิ้มเข้ามาในชุดสวยงาม สบตากับวิษธรโดยบังเอิญเขาเองก็มองตอบ เหมือนเวลาหยุดเดินไปชั่วขณะ ก่อนที่สรัชจะเดินเข้าไปหาภัทร์ธีราอย่างดีใจ
“วันนี้น้องจ๋าของพี่สวยที่สุดเลยค่ะ”
อิชยายิ้มแซว “แหม หวานจนมดขึ้นแล้วค่า แฮปปี้เบิร์ธเดย์ค่ะเพื่อน”
“ขอบใจย่ะ” ภัทร์ธีรายกมือไหว้คุณหญิงทอศรีและท่านนายพลสุทธิ “สวัสดีค่ะคุณพ่อ สวัสดีค่ะคุณหญิงแม่”
ทั้งสองท่านรับไหว้ “สวัสดีจ้ะ”
ทุกคนเข้ามาอวยพรภัทร์ธีราอย่างคึกคัก
“สุขสันต์วันเกิดอีกครั้งนะจ๊ะหลานรักของอา เป็นเด็กดีแบบนี้ตลอดไปนะ”
“ขอบคุณค่ะอาจี”
พรพจีและภัทร์ธีรากอดกันกลมเกลียว จิรดาแอบมองอยู่มุมหนึ่ง หยิบมือถือออกมาถ่ายรูป
“ที่แท้ก็แอบมาจัดงานฉลองวันเกิดกันนี่เอง แบบนี้ต้องขยาย”
จิรดาซูมรูประยะใกล้แล้วกดถ่ายรัวๆ เลือกส่งไปให้นรินทร์ทันที
“อยากสนุกกันใช่ไหม เดี๋ยวได้สนุกแน่”

จิรดายิ้มร้าย ทั้งนึกสนุก และสะใจ

อ่านต่อ ตอนที่ 17

#เพลิงรักไฟมาร #thaich8 #ละครออนไลน์
กำลังโหลดความคิดเห็น