xs
xsm
sm
md
lg

เพลิงรักไฟมาร ตอนที่ 11

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เพลิงรักไฟมาร ตอนที่ 11

รถแล่นเลี้ยวเข้ามาจอดในบ้านวรกานต์ วิษธรลงจากรถมาเปิดประตูให้วลัย ทั้งสองเดินเข้าไปในบ้าน วลัยมองวิษธรเยื้อนยิ้มพึงพอใจออกมา

“เรื่องไปเที่ยวน้ำตก ขอบใจมากนะลูกที่ทำตามที่ป้าแนะนำ”
“ผมก็อยากไปเองด้วยครับ ผมอยากตอบแทนน้อง”
ดนัยเดินเข้ามาหา
“กลับมาแล้วเหรอครับ ไปเยี่ยมน้าสร้อยไม่ชวนกันบ้างเลย”
“ลูกก็ไปอยู่บ่อยๆ อยู่แล้วนี่จ๊ะ” วลัยหันมาหาวิษธร “เดี๋ยวป้าให้ตลับทำอาหารว่างไปเผื่อด้วยดีไหม”
ดนัยแปลกใจ “นี่กำลังจะไปไหนกันเหรอครับ”
“ตาธรจะไปน้ำตกสายรุ้งกับหนูม่านพรุ่งนี้จ้ะ”
“น้ำตกสายรุ้ง ดีเลย ผมไม่ได้ไปมานานแล้ว ธรพรุ่งนี้พี่ว่างพอดี ไปด้วยนะ”
วลัยเบรกทันควัน “หยุดเลยจ้ะพ่อตัวดี เราน่ะอยู่บ้านกับแม่นี่แหละ”
“ทำไมล่ะแม่ ถ้าอย่างนั้นแม่ก็ไปด้วยกันสิครับ ไปหลายๆ คนสนุกดีออก” ดนัยยิ้มร่า
“แต่ไม่ใช่พรุ่งนี้จ้ะ พรุ่งนี้เป็นวันของตาธรกับหนูม่าน คนรักเขาจะไปด้วยกันเราก็ไม่ควรไปขัดคอใช่ไหมลูก”
“คนรัก? นั่นสินะ เดี๋ยวผมไปทำงานต่อก่อนดีกว่า”
ดนัยเข้าใจปรุโปร่ง เดินคอตกออกไปอีกทาง
“แค่ไม่ได้ไปเที่ยวต้องทำซึม” วลัยมองค้อนลูกชายแล้วหันยิ้มให้หลาน “พรุ่งนี้ดูแลหนูม่านดีๆ ล่ะ ป้าเชียร์เต็มที่”
“ขอบคุณครับ ผมขอตัวไปดูแม่ก่อนนะครับ”
“จ้ะ ไปเถอะ”
วิษธรเดินออกไป วลัยมองตามยิ้มปลื้มสุขใจ

วิษธรขึ้นเรือนมา เปิดประตูเข้าไปในห้องแม่ เห็นประภานั่งอยู่ที่เก้าอี้ริมหน้าต่าง มีคำผายนั่งอยู่ข้างๆ เมื่อประภาเห็นวิษธรก็หันมายิ้มให้
“ธร” ประภาดึงร่างลูกชายเข้ามากอดแน่น “แม่...คิดถึงธร”
“ก็ผมคิดถึงแม่ครับ แล้วนี่แม่กินข้าวหรือยังครับ”
ประภาพยักหน้า วิษธรหันไปมองคำผายเชิงถาม คำผายพยักหน้ายืนยัน
“แล้ว...กินยาหรือยัง”
ประภาพยักหน้าให้ วิษธรหันไปมองคำผายอีก คำผายพยักหน้ายืนยัน
“เก่งมากครับ กินข้าวกินยาแล้วก็พักผ่อนนะครับ ไปครับ ไปนอนที่เตียงดีกว่า”
วิษธรประคองแม่ไปนอนที่เตียง ประภามองหน้าลูกชายยิ้มตลอดเวลา วิษธรห่มผ้าห่มให้ประภาเอื้อมมือมาจับมือวิษธรไว้ไม่ให้ไปไหน
วิษธรจับมือประภาไว้อย่างแผ่วเบา “ผมไม่ได้ไปไหนแล้วครับ ตอนนี้ผมจะอยู่ตรงนี้จนกว่าแม่จะหลับ ดีไหมครับ”
ประภาพยักหน้ารับเอาคำ วิษธรยิ้มให้ กุมมือประภาไว้อย่างนั้น รอจนเห็นประภาหลับไปวิษธรจึงหันมาถามคำฝาย
“คำผาย วันนี้ตอนฉันไม่อยู่แม่อาการเป็นยังไงบ้าง”
“ดีมากเลยค่ะ นอนได้กินได้ เมื่อกี้ก็ร้องขอกินขนมด้วย ตั้งแต่คุณธรกลับมาคุณภาก็อาการดีขึ้นมาก คำผายอยากให้คุณธรอยู่นานๆ คุณภาจะได้หายเร็วๆ”
วิษธรเหลียวมามองประภาสีหน้าเศร้า
“คำผายขอตัวไปเตรียมขนมให้คุณภาก่อนนะคะ”
คำผายออกไป วิษธรเอามือประภามากุมด้วยความรัก
“ผมก็อยากให้เป็นแบบนั้น อยากกลับมาอยู่ที่นี่ มาดูแลแม่แบบถาวรเสียที”
วิษธรถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างหนักอกหนักใจ

วิษธรเดินเข้ามาในห้อง ลงนั่งริมเตียงหยิบรูปครอบครัวบนโต๊ะหัวเตียงมาดู เป็นรูป พ่อวราห์ แม่ประภา และเด็กชายวิษธร กอดกันด้วยใบหน้ายิ้มแย้มมีความสุข
วิษธรยิ้มเมื่อนึกถึงคืนวันดีๆ สมัยเด็ก เขาวางกรอบรูปลง หยิบกล่องเก่าๆ ใบหนึ่งออกมาจากลิ้นชักเปิดออก มีจดหมายเก่าอยู่ในนั้น เขาหยิบขึ้นมาดู แล้วหวนนึกถึงเหตุการณ์ในอดีตที่บ้านในเชียงใหม่
ตอนนั้นเด็กชายวิษธรแอบเห็นประภาทะเลาะกับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งหันหลังอยู่มองไม่เห็นหน้า ที่สุดประภาถูกผู้หญิงคนนั้นผลักล้มลง
นึกถึงเรื่องนี้แววตาวิษธรแข็งกร้าวขึ้นมาด้วยความแค้น

อีกเหตุการณ์ที่เขาไม่มีวันลืม เด็กชายวิษธรแอบดูอยู่ตรงประตูห้องนอนพ่อและแม่ที่แง้มเปิดอยู่ จนกระทั่งมีเสียงผู้หญิงกรีดร้องขึ้น
"ไม่....."
ตามด้วยเสียงปืนดังปัง! เลือดสีแดงฉานสาดกระเซ็น กระจายเต็มผนัง
เด็กชายเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เสียงกรีดร้องโหยหวนของผู้หญิงในห้องนั้นดังขึ้นยาวนาน วิษธรปิดตาลงด้วยความหวาดกลัว
เสียงกรีดร้องเมื่ออดีตยังดังก้องอยู่ในหัว เปลือกตาวิษธรกระตุกสั่นเหมือนไม่อยากลืมตาขึ้นมาพบความเป็นจริง ชายหนุ่มกุมหัวด้วยความเจ็บปวด จนเสียงกรีดร้องหายไป เหตุการณ์ในอดีตทำให้เขาสะเทือนใจอย่างใหญ่หลวง และร้องไห้ออกมาอย่างหนักหน่วง
เมื่อเริ่มสงบ เขาค่อยๆ เก็บจดหมายลงกล่องอย่างทะนุถนอม แต่แววตาเต็มไปด้วยความแข็งกร้าว

ฝ่ายพรพจียืนเหม่ออยู่ที่หน้าบ้าน สายตามองไปยังบ้านวิษธร รำพึงรำพันออกมาด้วยแววตาอันเจ็บปวด
“ถ้าความคิดถึงฆ่าคนได้ ฉันคงตายไปนานแล้ว ฉันคิดถึงคุณมาก คิดถึงจนบ้าตายอยู่แล้ว เมื่อไหร่คุณจะกลับมาคะธร”

พรพจีเดินใจลอยเข้ามาในบ้านด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย
เสียงนรินทร์ดังขึ้นจากมุมมืดในห้องโถง “ไปเดินเล่นมาเหรอ”
พรพจีสะดุ้ง “คุณริน มาแอบนั่งเงียบๆ ตรงนี้ทำไม”
“ใครแอบ ฉันนั่งหัวโด่ตรงนี้มานานแล้ว แต่เธอไม่เห็นฉันเอง”
พรพจีคร้านจะทะเลาะ จึงเดินหนีขึ้นบ้านไป แต่นรินทร์หัวเราะเยาะขึ้น
“คุณจะไปเห็นผมได้ยังไง ในเมื่อคุณกำลังใจลอยคิดถึงใครบางคน โดนทิ้งแล้วยังไม่รู้ตัว”
“ฉันไม่อยากจะทะเลาะกับคุณ ฉันเหนื่อย”
“ยอมรับเสียเถอะว่าคุณโดนทิ้งแล้ว มันไม่กลับมาแล้ว คุณโดนทิ้ง เข้าใจไหม โดนทิ้ง”
“หยุดนะ คุณริน”
เสียงเอ็ดตะโรดังลั่นบ้าน เรียกให้ภัทร์ธีราวิ่งเข้ามาดูอย่างตกใจ
“มีอะไรกันคะ อาจี อาริน”
“ถามอาจีสิว่ามีอะไร อ้อ แต่ต่อให้เป็นน้องจ๋าถาม เขาก็คงไม่ยอมรับหรอกว่าโดนเท...ทิ้งแล้ว”
พรพจีมองนรินทร์ด้วยความโกรธ เดินหนีขึ้นบ้านไป
“จะรีบไปโทร.หามันหรือไง”
“ฉันจะไปนอน พรุ่งนี้ต้องทำงานแต่เช้า”
“หวังว่าจะนอนหลับนะ”
“อารินพอเถอะค่ะ”
นรินทร์ยอมหยุด แต่ก็ยังอารมณ์เสียไม่หาย ภัทร์ธีรากลุ้มหนัก


พรพจีเดินเข้าห้องมาปิดประตูปังอย่างอารมณ์เสีย คว้าโทรศัพท์ขึ้นมากดดูไลน์ พบว่าวิษธรอ่านแต่ยังไม่ได้ตอบ เธอจึงตัดสินใจพิมพ์ส่งไปอีก
“เมื่อไหร่คุณจะกลับมาคะ ฉันคิดถึงคุณใจจะขาดอยู่แล้ว”
พรพจีรออีกสักครู่ใหญ่แต่วิษธรยังไม่ตอบ ก็ยิ่งเครียด เสียงด่าของนรินทร์ดังก้องขึ้นมาในหัว
“มันไม่กลับมาแล้ว คุณโดนทิ้ง เข้าใจไหม โดนทิ้ง”
พรพจีโยนมือถือลงเตียงอย่างอารมณ์เสีย “ไม่ ไม่มีทาง”
มีเสียงไลน์ดังขึ้น พรพจีรีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดอ่าน
“น่าจะกลับวันมะรืนนี้ครับ ถ้างานเสร็จตามกำหนด รอผมหน่อยนะ เดี๋ยวก็ได้เจอกันแล้ว คิดถึงคุณเหมือนกันนะครับ”
พรพจียิ้มแก้มแทบแตก เอาโทรศัพท์มือถือมาแนบหัวใจด้วยความคิดถึง
“คุณริน คุณต่างหากที่ไม่เข้าใจ ธรไม่มีวันทิ้งฉัน ไม่มีวัน”

วันต่อมา ทั้งคู่มาเที่ยวน้ำตกสายรุ้งด้วยกัน ระหว่างเดินชมม่านแก้วเกือบลื่นล้ม แต่วิษธรคว้าไว้ได้ทัน ม่านแก้วยิ้มอย่างเขินอาย ในบรรยากาศของน้ำตกสายรุ้งอันสวยงามสมคำร่ำลือ
“สวยจังเลยค่ะ”
“ใช่ครับ สวยมาก พี่ไม่ได้มาเที่ยวน้ำตกมานานแล้ว นานมาก ตั้งแต่...”
วิษธรนึกได้ ชะงักคำค้างไว้เท่านั้น
“ตั้งแต่อะไรคะ”
“ตั้งแต่ตอนที่พ่อกับแม่เคยพาพี่มา...”
ม่านแก้วจับแขนวิษธรเชิงปลอบ “พี่ธรคะ”
วิษธรฝืนยิ้มทำเป็นร่าเริง “ดีใจที่ที่นี่ยังสวยเหมือนเดิม”
ม่านแก้วหันไปปูผ้า แล้ววางตะกร้าปิกนิก เปิดกล่องอาหารที่เตรียมมา
“ม่านลองทำอาหารมาสองสามอย่าง พี่ธรลองกินดูสิคะ”
วิษธรหยิบมาชิม “โอ้โห อร่อยมากเลยครับ”
ม่านแก้ว ยิ้มปลื้ม เชื้อชวนให้เขาลองชิมอาหารอีกหลายๆ อย่าง ทั้งสองกินอาหารด้วยกันคุยกันไปอย่างมีความสุข
“พี่อิ่มแล้วล่ะครับ กินต่อพี่ต้องพุงแตกตายแน่”
ม่านแก้วหัวเราะ
“น้องม่านอยากเล่นน้ำไหมครับ”
ม่านแก้วส่ายหน้า
“ม่านอยากมาน้ำตกเพราะชอบน้ำตกค่ะ ม่านชอบฟังเสียงน้ำที่ไหลตกลงมากระทบโขดหิน มันสดชื่นแล้วก็สบายใจดี ของบางอย่างไม่ต้องลงไปสัมผัส แค่ได้อยู่ใกล้ๆ ก็ทำให้มีความสุขแล้ว ดีจังเลยนะคะ”
ม่านแก้วมองหน้าวิษธรอย่างลึกซึ้งมีความหมาย
“น่าเสียดายนะคะที่พี่ธรต้องรีบกลับกรุงเทพฯ ถ้าพี่ธรอยู่ต่อคงได้ไปเที่ยวอีกหลายที่ เอ่อ...ม่านหมายถึงพี่ธรจะได้พาป้าภาไปเที่ยวด้วยน่ะค่ะ”
“พี่ก็อยากกลับมาอยู่บ้านครับ พี่จะรีบทำงานสำคัญให้เสร็จ อีกไม่นานคงได้กลับมาอยู่บ้านเสียที”
ม่านแก้วตื่นเต้นดีใจ “จริงเหรอคะ”
“ครับ จะได้พาแม่ แล้วก็น้องม่านไปเที่ยวอีกหลายๆ ที่ ดีไหมครับ”
ม่านแก้วยิ้มกว้างดีใจ วิษธรแกล้งวักน้ำใส่ ม่านแก้วเลยวักน้ำกลับอย่างสนุกสนาน

อีกฟากหนึ่ง ภัทร์ธีรานั่งจิบกาแฟอยู่กับผู้ชายใส่หมวกแก๊ปสวมแว่นดำปิดหน้าปิดตา เขาคือนักสืบชื่อ ภิภพ เธอยื่นซองเอกสารให้เขา
“นี่เป็นข้อมูลของคนที่ฉันอยากให้คุณช่วยสืบค่ะ”
พิภพเปิดเอกสารดู เป็นเอกสารเกี่ยวกับวิษธรทั้งสิ้นแล้วเก็บคืนซอง
“อยากให้ผมสืบด้านไหนเป็นพิเศษหรือเปล่าครับ เช่น สืบว่ามีกิ๊กกี่คน กิ๊กแต่ละคนเป็นใคร แต่ถ้าให้สืบเรื่องกิ๊กด้วยจะมีค่าใช้จ่ายแยกต่างหากเล็กน้อย”
“ฉันอยากรู้แค่เรื่องของคนนี้ค่ะ ฉันอยากรู้ว่าเขาเป็นใครกันแน่ อดีตของเขาเป็นยังไง ปัจจุบันเขากำลังทำอะไรอยู่บ้าง ฉันต้องการหลักฐานทั้งหมดที่คุณหาได้เกี่ยวกับเขาค่ะ” คุณหนูจ๋าแจกแจง
“ผมขอเวลาสองอาทิตย์ครับ รับรองว่าจะหาข้อมูลทุกอย่างที่คุณต้องการให้คุณได้แน่นอน” ภิภพบอก
ภัทร์ธีราพยักหน้ารับเอาคำอย่างพึงพอใจ

พรพจีเดินลงมาทานอาหารอย่างอารมณ์ดี สวาทและภัทร์ธีรามองอย่างแปลกใจ
“มีอะไรกินบ้างจ๊ะ”
“วันนี้ยิ้มออกแล้วเหรอคะ เห็นหน้าเครียดมาตั้งหลายวัน” สวาทยิ้มแซว
“เครียดเรื่องงานน่ะ แต่งานเรียบร้อยแล้ว” พรพจีตักข้าวทานอย่างเอร็ดแอร่ม “อื้อ อร่อย”
“เรื่องงานเรื่องไหนคะ อาจีบอกน้องจ๋าก็ได้นี่คะ น้องจ๋าอยากช่วย” ภัทร์ธีรา
“มันผ่านไปแล้วล่ะจ้ะ ช่างมันเถอะ” พรพจีตักอาหารให้ภัทร์ธีรา “กินนี่สิ อร่อยมาก อ้อ น้าหวาดจ๊ะ พรุ่งนี้ตอนเย็นช่วยเตรียมอาหารให้เป็นพิเศษด้วยนะ พอดีจะมีแขกมาร่วมโต๊ะด้วยอีกหนึ่งคน”
สวาทยิ้มรับ “ได้ค่ะ ว่าแต่ใครเหรอคะ”
“ธรจ้ะ”
ภัทร์ธีราฉุนกึก ไม่พอใจ “นายวิษธร”
พรพจียิ้มแย้ม “ใช่จ้ะ น้าหวาดช่วยเตรียมของโปรดให้ธรด้วยนะ”
“ทำไมเขาต้องมากินอาหารเย็นกับเราด้วยคะ ออกไปแล้วก็ต่างคนต่างอยู่ไม่ได้หรือไง ทำไมต้องมายุ่งกันอีก” ภัทร์ธีราบ่นบ้าเสียงขุ่น
สวาทปราม “คุณจ๋า”
“ถึงธรจะออกไปแล้ว แต่ที่นี่ยังต้อนรับเขาในฐานะเพื่อนเก่าเสมอจ้ะ อาไม่เคยลืมหรอกนะว่าธรเคยช่วยอะไรพวกเราไว้บ้าง ถึงเขาจะออกไปแต่เราก็ควรมีน้ำใจต้อนรับเขาถึงจะถูก” พรพจีบอก
ภัทร์ธีราพยายามจะทัดทาน “แต่ว่า…”
พรพจีพูดด้วยน้ำเสียงนิ่มนิ่ง “ถ้าจะเถียงแบบไม่มีเหตุผล อาก็ไม่มีอะไรจะคุยกับเราอีก”
พรพจีลุกเดินออกไปเลย ทำเอาภัทร์ธีราอึ้ง
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นค่ะป้าหวาด จ๋าแตะต้องนายนั่นไม่ได้เลยจริงๆ อาจี เหมือนไม่ใช่อาจีของจ๋าคนเดิม จ๋าควรจะทำยังไงดีคะ”
สวาทไม่รู้จะแนะนำยังไง ได้แต่เข้ามาปลอบให้กำลังใจคุณหนูของนาง


ร้านอาหารในฝันของสรัชตกแต่งใกล้แล้วเสร็จตามแรงเงิน สรัช และโรจนา เดินเข้ามาในบริเวณของร้านที่กำลังปรับปรุง โรจนามองไปรอบๆ อย่างตื่นเต้น
“ว้าว ดูดีนะคะ ปรับปรุงอีกนิดหน่อยเป็นร้านอาหารน่านั่งได้สบายๆ”
“ติดตรงนิดหน่อยนี่แหละครับ ผมยังตัดสินใจไม่ได้เสียที ลองถามน้องจ๋าแล้ว แต่น้องจ๋าก็ตามใจผม เลยอยากได้ความคิดเห็นของคุณประกอบการตัดสินใจ”
“จะช่วยได้หรือเปล่าก็ไม่รู้นะคะ”
“ช่วยได้สิครับ”
“แล้วมีอะไรบ้างคะที่คุณยังตัดสินใจไม่ได้”
“ผนังด้านนี้มันทำให้ร้านทึบไปนิดน่ะครับ ผมก็เลยคิดว่า...”
โรจนาสวนขึ้น “ติดกระจกทรงสูงดีไหมคะ ร้านจะได้ดูกว้างขึ้น ถ่ายรูปสวยแล้วก็ทำให้ร้านดูน่าสนใจมากขึ้นด้วย”
สรัชมองอย่างอึ้งและทึ่ง
“ทำไมคะ ถ้าคุณไม่ชอบก็ไม่เป็นไรนะ ฉันแค่เสนอ”
“คือ นั่นเป็นสิ่งที่ผมคิดไว้เลย”
“จริงเหรอคะ”
สรัชพยักหน้ารับ “งั้นเอาตามนี้ ส่วนเฟอร์นิเจอร์พวกโต๊ะตัวใหญ่ คุณว่าวางไว้ตรงไหนดี”
“เท่าที่ดูจากพื้นที่ฉันว่าตรง...” เชฟโรสมองสำรวจพื้นที่
สองคนพูดพร้อมกัน ชี้ที่เดียวกัน “ตรงนี้ดีไหมครับ” / “ตรงนี้ดีไหมคะ”
ทั้งสองคนมองหน้ากันแล้วหัวเราะ โรจนานึกบางอย่างได้
“ถ้าคุณยังไม่มีร้านของตกแต่งที่ดีลไว้ฉันรู้จักอยู่ร้านนึง เป็นร้านเพื่อนฉันเอง เขามีโรงงานผลิตอยู่สุโขทัย แต่หน้าร้านอยู่ในกรุงเทพฯ นี่เอง คุณไปดูได้นะ ของดีราคาถูก”
สรัชตื่นเต้น “จริงเหรอครับ ถ้าไม่รบกวนคุณช่วยพาผมไปด้วยนะครับ เผื่อจะได้ราคาพิเศษ”
“คุณเป็นเจ้านายฉันแล้วนี่ เจ้านายสั่งฉันก็ต้องไปสิคะ พรุ่งนี้ฉันว่าง คุณว่างหรือเปล่าไปพรุ่งนี้เลยก็ได้นะ”
“ว่างครับ ชวนน้องจ๋าไปด้วยดีไหม”
“ดีค่ะ ไปหลายๆ คนจะได้ช่วยกันเลือก”
สรัชหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทร.หาภัทร์ธีรา

ขณะที่ภัทร์ธีรานั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่ในห้องนั่งเล่น จนมีสายเรียกเข้าดังขึ้น เธอกดรับสาย
“ค่ะพี่เอ้... วันไหนคะ พรุ่งนี้คงไม่ได้ค่ะ อาจีจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับนายวิษธร...จ๋าต้องอยู่สิคะพี่เอ้ จ๋าไม่อยากปล่อยให้อาจีอยู่กับนายนั่น ถ้าอารินรู้เข้าอารินจะไม่พอใจ จ๋ากลัวว่าจะทะเลาะกันอีก...ค่ะขอบคุณที่เข้าใจจ๋านะคะ”
“ครับ ไม่เป็นไร งั้นพี่จะรอน้องจ๋าว่าง เราจะได้ไปพร้อมกันดีไหม... ครับแล้วเดี๋ยวพี่โทร.หา”
สรัชกดวางสาย มองโรจนาเชิงขอโทษ
“พรุ่งนี้คงไปไม่ได้แล้วครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่ซี รอคุณจ๋าว่างค่อยไปพร้อมกันก็ได้”
สรัชยิ้มให้โรจนาเชิงขอบคุณ

ฝ่ายนรินทร์เหลียวขวับมาจากริมระเบียงห้องด้วยสีหน้าไม่พอใจ หลังจากจิรดาเข้ามาส่งข่าวเรื่องวิษธร
“ว่าไงนะ มันจะกลับมาเมื่อไร”
“เห็นในครัวคุยกันว่าจะกลับมาพรุ่งนี้เย็นค่ะ คุณจีให้ป้าหวาดเตรียมอาหารไว้ต้อนรับที่บ้านแล้วค่ะ”
“ที่บ้าน! โธ่เว้ย!” ของใกล้มือถูกนรินทร์เขวี้ยงปาใส่ผนังระบายอารมณ์ เฉียดจิรดาไปจนเธอร้องกรี๊ดด้วยความตกใจ
“หวังว่าจะได้ดินเนอร์กันสองคนอย่างสุขสมสินะ ไม่มีทาง เตรียมตัวไม่มีความสุขกันได้เลย”
นรินทร์คำรามอย่างโกรธแค้น จิรดายิ้มสะใจ

ด้านวิษธรกลับเข้าบ้านมา เจอดนัยยืนรออยู่
“ไปเที่ยวกับน้องม่านมาเป็นยังไงบ้าง”
“ก็ดีครับ”
“ก็ดี” ดนัยแปลกใจ
“ครับ ก็สนุกดี ป้าวลัยให้มาถามหรือครับ”
“ฉันอยากถามเองไม่ได้หรือไง”
วิษธรยิ้มขำ “ได้คร๊าบ”
“แล้วแกก็ตอบฉันแค่ก็ดีเนี่ยนะ”
“ก็ผมไม่รู้จะตอบอะไรนี่นา ผมแค่พาม่านไปเที่ยว แล้วก็ไปกินข้าว ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ”
ดนัยฉุน “แต่มันพิเศษมากสำหรับน้องม่าน แกไม่รู้เหรอ”
วิษธรนิ่งไม่ตอบ
“ฉันไม่อยากเห็นน้องต้องผิดหวัง”
“ทำไมผมต้องทำน้องผิดหวังด้วย พี่พูดเหมือนไม่รู้จักผม วันนี้พี่ดูเครียดๆ นะ”
“ฉันแค่เป็นห่วง...ห่วงว่าแกกำลังจะตกลงไปในหลุมที่ตัวเองขุดขึ้นมาเอง แล้วคนที่เสียใจก็จะเป็นน้องม่าน”
“เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับ พี่ก็รู้ว่าผมระวังตัวอย่างดีไม่มีวันพลาดแน่นอน”
“ใครๆ ก็เปลี่ยนใจกันได้ทั้งนั้น โดยเฉพาะเวลาได้อยู่ใกล้ชิดผู้หญิงอย่างพรพจีและคุณจ๋า”
ดนัยมองจ้องหน้าวิษธรอย่างจับผิด
“ไม่มีทางหรอกครับ ผมไม่มีวันหลงรักผู้หญิงของธนาพัทธ์อย่างแน่นอนไม่ต้องห่วง”
วิษธรยิ้มให้ดนัยอย่างมั่นใจ แววตาวาบขึ้นอย่างหมายมาด

วันต่อมา สวยยืนชะเง้อคอมองอยู่ที่หน้าตึก ก่อนจะตะโกนขึ้นเมื่อเห็นวิษธรเดินเข้ามาจากสวนข้างบ้าน
“คุณธรมาแล้วค่ะ”
พรพจีผุดลุกขึ้นยืนด้วยความตื่นเต้น สวาทแอบมองพรพจีอย่างไม่สบายใจ ภัทร์ธีราหน้าตึงไม่พอใจ จิรดาแอบดูอยู่ยิ้มกว้างดีใจ รีบวิ่งขึ้นไปรายงานนรินทร์ทันทีโดยไม่มีใครสังเกต

วิษธรเดินเข้ามาในโถงบ้าน วางถุงของฝากเยอะแยะมากมายในมือลง ยกมือไหว้สวาท ทักทายทุกคน
“สวัสดีครับป้าหวาด สบายดีนะครับ สวัสดีครับคุณจี”
พรพจียิ้มอย่างดีใจ ภัทร์ธีราทำเป็นไม่สนใจ ไม่ทัก
“ผมมีของมาฝากทุกคนด้วยครับ” วิษธรหยิบถุงของฝากชิ้นพิเศษ “อันนี้ของคุณจีครับ ผมเลือกนานมาก ไม่รู้จะถูกใจหรือเปล่า”
พรพจียิ้มปลื้ม “ถูกใจสิคะ ขอบคุณนะคะ”
“ถุงนี้ของป้าหวาดครับ ส่วนถุงนี้ของสวย เต่า พี่เกลี้ยง ครับ”
“แหม ไม่เห็นต้องลำบากเลย” สวยแอบเปิดถุงดู “ว้าย สวยมากเลยค่ะ ขอบคุณนะคะคุณธร เดี๋ยวสวยเอาไปให้เต่ากับพี่เกลี้ยงเองนะคะ”
ภัทร์ธีรามองหมั่นไส้ ทำเป็นไม่สนใจเพราะคิดว่าวิษธรคงไม่ซื้อของมาฝากเธอ
“มีของคุณจ๋าด้วยนะครับ นี่ครับถุงนี้ของคุณ”
วิษธรยื่นของฝากให้ ภัทร์ธีรามองอย่างระแวงไม่ยอมรับ
“รับรองว่าไม่ใช่ระเบิด รับไปเถอะครับ”
วิษธรถือถุงค้างอยู่อย่างนั้น ภัทร์ธีรายังไม่ยอมรับ
จนพรพจีต้องออกปาก “น้องจ๋า รับไว้สิลูก ธรอุตส่าห์ซื้อมาฝาก”
ภัทร์ธีรารับมาอย่างเสียไม่ได้ และไม่ยอมขอบคุณ
“น้องจ๋า”
พรพจีไม่ยอมส่งซิกให้ภัทร์ธีราขอบคุณด้วย วิษธรมองยิ้มๆ ภัทร์ธีราถอนหายใจ บอกด้วยน้ำกระแทกกระทั้น ประชดในที
“ขอบคุณค่ะ”
“ไม่เป็นไรครับ”
วิษธรยิ้มกวนๆ ภัทร์ธีรามองค้อนหมั่นไส้

ระหว่างนี้จิรดาเข็นรถพานรินทร์เข้ามา ท่าทางกระดี๊กระด๊ายิ้มทักทายวิษธร
“โอ้ มีของมาฝากทุกคนเลยนี่ มีน้ำใจจังเลยนะ”
“ผมมีของคุณรินแล้วก็คุณดาด้วยนะครับ อันนี้ของคุณดาครับ”
วิษธรยื่นของฝากให้จิรดา พยาบาลจอมแอ๊บรับมายิ้มแก้มปริ
“สวยจังเลยค่ะ ดาชอบมากเลย ขอบคุณนะคะ”
“อันนี้ของคุณรินครับ”
วิษธรยื่นอีกถุงให้นรินทร์ ทุกคนมองลุ้นๆ พอนรินทร์ยอมรับไว้ทุกคนพากันโล่งอก วิษธรยิ้ม แต่จู่ๆ นรินทร์ก็ยื่นถุงให้สวย
“อ่ะ ฉันให้ ถ้าไม่ชอบก็ทิ้งขยะไป”
ทุกคนอึ้งทั้งแถบ วิษธรยิ้มใจเย็น
“ไม่ถูกใจก็ไม่เป็นไรครับ วันหลังผมจะแก้ตัวใหม่”
จิรดาเข้ามาอ้อนเพื่อให้บรรยากาศดีขึ้น
“วันนี้คุณธรจะอยู่ทานข้าวเย็นกับดาใช่ไหมคะ”
“คุณธรจะอยู่กินข้าวกับเราจ้ะ” พรพจีบอก
“ฉันหิวแล้ว วันนี้ฉันจะกินข้าวข้างล่างด้วย คุณดาพาเขาไปสิ”
“ได้ค่ะ ไปกันค่ะคุณธร”
จิรดายิ้มหวานให้ วิษธรยิ้มตอบ พรพจีมองอย่างข่มอารมณ์ นรินทร์มองพรพจีอย่างสะใจ


ที่โต๊ะอาหาร จิรดาถือวิสาสะนั่งข้างวิษธร พรพจีทำท่าจะเข้าไปนั่งข้างวิษธรอีกข้าง นรินทร์เรียกไว้
“คุณจีมานั่งข้างๆ ผมสิ”
“น้องจ๋าคงอยากนั่งข้างคุณ”
“แต่วันนี้ผมอยากให้เมียผมนั่งข้างๆ มากกว่า ไม่ได้เหรอ”
พรพจีเดินมานั่งข้างนรินทร์อย่างเสียไม่ได้
นรินทร์ยิ้มชอบใจ “ดี ทีนี้น้องจ๋านั่งตรงนู้นได้ใช่ไหม”
ภัทร์ธีรามองเก้าอี้ที่ว่าอย่างลำบากใจ เพราะเป็นตัวข้างๆ วิษธร แต่ก็ยอมไปนั่งโดยดี วิษธรมองภัทร์ธีรายิ้มๆ
สวาท และ สวย ช่วยกันจัดโต๊ะอาหารมาเสิร์ฟให้คุณๆ
นรินทร์เปิดฉากเล่นสงครามประสาททันที “จี ตักต้มจืดให้ผมหน่อยสิ ผมตักไม่ถึง”
พรพจีตักให้อย่างเสียไม่ได้
นรินทร์แสร้งยิ้มหวาน “ขอบคุณนะที่รัก ป้อนผมด้วยสิ”
พรพจีหน้าตึงชักเริ่มไม่พอใจ
“เมียป้อนผัวผิดตรงไหน เร็วสิ”
พรพจีรีบป้อนให้เสร็จๆ
นรินทร์ส่งไม้ให้พยาบาลจอมแอ๊บ “อร่อยจริงๆ คุณดา ตักให้คุณธรบ้างสิ”
จิรดายิ้มอย่างรู้กัน รีบตักอาหารอ้อนวิษธร
“คุณธร ลองทานอันนี้สิคะ อร่อยมาก”
“ขอบคุณครับ”
“ทำไมเวลาเมียป้อนแล้วอาหารมันอร่อยเป็นพิเศษนะ แบบนี้ต้องให้รางวัล”
โดยไม่มีใครคิด นรินทร์ดึงพรพจีเข้ามาหอมแก้มเสียงดัง
พรพจีโกรธมากกว่าอาย “คุณริน”
“ไม่ต้องเขินหรอกน่า ผัวเมียกอดจูบกันมันก็เรื่องปกติ ยิ่งกว่านี้ยังทำได้เลย” นรินทร์หัวเราะเริงร่า
จิรดาตักอาหารให้วิษธรอีก ส่วนนรินทร์ก็กอดหอมพรพจีโชว์ จงใจแสดงความเป็นเจ้าของ พรพจีต้องพยายามเก็บข่มอารมณ์อย่างหนัก

หลังมื้อค่ำอันกระอักกระอ่วน จิรดาเดินมาส่งวิษธรที่หน้าบ้าน
“ไม่ให้ดาเดินไปส่งเหรอคะ”
“ขอบคุณมากครับ แต่ไม่เป็นไรจริงๆ บ้านอยู่ใกล้แค่นี้เอง ไปก่อนนะครับ”
ภัทร์ธีรายืนมองอยู่ห่างๆ คิดอะไรบางอย่าง พอจิรดาเข้าบ้านไปแล้ว เธอจึงเดินตามออกมา วิษธรเดินเร็วรี่กลับบ้าน ภัทร์ธีราต้องออกแรงวิ่งถึงจะตามทัน
“เดี๋ยวก่อนคุณ”
วิษธรหยุดแล้วหันมามอง “น้องจ๋า”
ภัทร์ธีราหงุดหงิดขึ้นมาทันควัน “ใครอนุญาตให้คุณเรียกฉันเหมือนสนิทกันไม่ทราบ”
“อ้อ ขอโทษที คุณภัทร์ธีรา ให้เกียรติเดินมาส่งผมหรือครับ”
“ฉันไม่ได้เดินมาส่ง ฉันแค่มีเรื่องที่จะถามนาย”
“อะไรครับ”
ภัทร์ธีราจ้องหน้าเขาถามนิ่งๆ “กลับมาทำไม”
วิษธรเฉไฉ “บ้านผมอยู่ที่นี่ คุณจะให้ผมไปไหนล่ะ”
“ก็กลับไปอยู่บ้านนายที่ต่างจังหวัดสิ ไปแบบถาวรไม่ต้องกลับมา”
“ผมดีใจนะ”
ภัทร์ธีรางง “ดีใจอะไร”
“ดีใจที่คุณสนใจผม ถึงขนาดรู้ว่าผมมีบ้านอยู่ต่างจังหวัด ผมชักจะอยากรู้แล้วสิว่าคุณรู้อะไรเกี่ยวกับผมอีกบ้าง”
“ทำไมฉันจะรู้ไม่ได้หรือไง หรือว่าเป็นความลับ บางทีฉันอาจจะรู้มากกว่าที่นายคิดก็ได้นะ”
วิษธรจ้องหน้าภัทร์ธีราอย่างค้นหาความจริง ภัทร์ธีราจ้องกลับอย่างไม่ยอมแพ้
วิษธรนึกสนุกยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ “ถ้าคุณอยากรู้อะไรถามผมดีๆ สิ ผมยินดีตอบทุกคำถาม”
ภัทร์ธีราถอยหนี “ฉันเคยขอให้นายจากไปดีๆ แล้ว แต่นายก็ไม่ทำ”
วิษธรหัวเราะขำ “ผมบอกคุณแล้วนี่ว่าผมมีบ้านอยู่ที่นี่”
“ก็ต่างคนต่างอยู่ไม่ต้องมาเจออาจีอีกไม่ได้หรือไง”
“ไม่ได้ เพราะผมกับคุณจีมีธุรกิจอสังหาฯ ที่ทำร่วมกัน ในเมื่อมันเป็นงาน ผมก็ต้องทำ”
“ฉันไม่เชื่อ”
วิษธรเดินเข้าหา “ผมไม่ได้ขอให้คุณเชื่อ”
“ฉันไม่ไว้ใจนาย”
วิษธรยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ยิ้มกวนประสาทมาให้ “แต่คุณจีไว้ใจ”
ภัทร์ธีรายืนคุมแค้น วิษธรหัวเราะแล้วถอยออกมา
“ผมง่วงแล้ว อยากกลับบ้าน ขอตัวนะครับ อ้อ ไม่ต้องไปส่งก็ได้ ผมกลับเองได้”
วิษธรเดินจากไป ภัทร์ธีรามองตามอย่างหงุดหงิดที่เห็นวิษธรทำท่าไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย

ด้านพรพจีอยู่ในชุดนอนนั่งเหม่ออยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง จนมีเสียงไลน์ดังขึ้น พรพจีรีบเปิดอ่าน
“พรุ่งนี้สายๆ ว่างไหมครับผมมีอะไรจะอวดคุณ”
พรพจียิ้มอารมณ์ดี พิมพ์ถามกลับไปว่า “อะไรคะ”
“บอกก็ไม่เซอร์ไพรส์สิครับ รอดูพรุ่งนี้นะ ผมรับรองว่าคุณจะต้องชอบ คืนนี้นอนก่อนนะ ฝันดีครับ”
พรพจียิ้มชื่นสุขใจ ขึ้นเตียงแล้วปิดไฟเข้านอน

รุ่งเช้า สรัชช่วยหิ้วกระเป๋าให้ภัทร์ธีราเดินนำไปยังรถที่หน้าตึก สวาทเดินออกมาส่งคุณจ๋าด้วย
“ดีแล้วค่ะคุณจ๋า ไปดูของแต่งร้านสวยๆ งามๆ จะได้สบายใจ”
“จะให้สบายใจร้อยเปอร์เซ็นต์ก็คงไม่ได้หรอกค่ะ” ภัทร์ธีรามองเข้าไปในบ้านอย่างกังวล “น้องจ๋าไม่อยู่ฝากดูแลอารินกับอาจีด้วยนะคะ”
“ค่ะ ป้าดูแลอย่างดีอยู่แล้ว รีบไปเถอค่ะ คุณเอ้แกรอแล้ว”
“สวัสดีครับป้าหวาด”
“ค่ะ เดินทางปลอดภัยนะคะ”
ภัทร์ธีราเดินไปขึ้นรถ สรัชขับออกไป สวาทกลับเข้าบ้าน พรพจีเดินสวนออกมา เพื่อไปที่บ้านวิษธร
“วันนี้คุณจีไปไหนคะ แต่งตัวสวยเชียว”
“ฉันจะไปดูที่กับธรน่ะจ้ะ”
“แล้วทำไมออกไปเองล่ะ ไม่ให้คุณธรรับหรือคะ”
“ถ้าคุณรินเห็นธรมารับฉัน เดี๋ยวก็โวยวายให้เป็นเรื่องใหญ่อีก”
“แล้วจะไปดูที่กันที่ไหนคะ ต่างจังหวัดหรือเปล่า จะกลับเย็นไหมคะ เผื่อคุณรินถาม น้าจะได้ตอบถูก”
“ในกรุงเทพฯ นี่แหละจ้ะ ฉันต้องไปแล้ว ไม่อยากสาย”
พรพจีรีบเดินออกไป สวาทมองตามอย่างเป็นกังวล


พรพจีเดินเข้ามาในโถงบ้านมองหาวิษธรแต่ไม่เจอ จู่ๆ วิษธรก็โผล่ออกมาจากมุมหนึ่งที่พรพจีไม่ทันเห็น
“มาแล้วเหรอครับ”
“ว้าย ธร! ฉันตกใจหมด”
“ขอโทษครับที่ทำให้ตกใจ” วิษธรขยับเข้ามาใกล้ๆ “วันนี้คุณสวยจัง”
“ปากหวานอีกแล้วนะคะ แล้วไหนล่ะคะเซอร์ไพรส์”
“หลับตาก่อนสิครับ”
พรพจีประหลาดใจ ยอมหลับตาอย่างตื่นเต้น วิษธรค่อยๆ เอาผ้าผูกตาเธอไว้
“อะไรกันคะ ต้องลึกลับขนาดนี้เลยเหรอ”
“ผมกลัวคุณแอบดูน่ะ” เขาผูกจนเสร็จ “ทีนี้ค่อยๆ ตามผมมานะครับ”
วิษธรค่อยๆจูงมือพรพจีเดิน/พรพจียิ้มอย่างตื่นเต้น

วิษธรพาพรพจีขึ้นมาที่ห้องๆ หนึ่งชั้นบนบ้านของเขา
“ถึงแล้วครับ”
วิษธรค่อยๆ ปลดผ้าปิดตาออก
“ลืมตาสิครับ”
พรพจีลืมตาขึ้น พบว่าตัวเองอยู่ในห้องนอนสีฟ้าที่ตกแต่งอย่างสวยงาม พรพจีมองอย่างตื่นตะลึง เพราะสีฟ้า เป็นสีโปรดของเธอ
“ธรคะ ห้องนี้คือ...”
วิษธรห้องของคุณ ห้องของเรา ผมสร้างไว้รอคุณ
พรพจีธร...
วิษธร(กระซิบข้างหู) ชอบไหมครับ
พรพจีชอบสิคะ ชอบมาก คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันชอบสีฟ้า
“ผมรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับคุณ คุณชอบผ้าม่านไหม ผมเลือกให้มันมีสองชั้น ชั้นแรกเป็นผ้าลูกไม้แบบที่คุณชอบ ส่วนชั้นที่สองเอาไว้ปิดเวลาที่เราไม่ต้องการแสงสว่างจากภายนอก” เขาเดินไปปิดผ้าม่าน “ให้ภายในห้องนี้มีแค่เราที่มองเห็นกันและกัน”
วิษธรเดินเข้ามาหาพรพจีโน้มหน้าใกล้ ทั้งสองจูบกันอย่างนุ่มนวลละมุนละไมในเบื้องแรก ก่อนจะร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งสองคนจูบกันอย่างเร่าร้อน พรพจีทิ้งตัวลงบนเตียงค่อยๆ ถอดเสื้อวิษธรออก แต่แล้ววิษธรกลับหยุดนิ่งไปดื้อๆ พรพจีมองฉงนฉงาย
“ธร มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“เราไม่ควรทำแบบนี้”
“ธร”
พรพจีลูบไหล่ทำท่าจะจูบเขาอีกครั้ง แต่วิษธรผละออก
“ผมทำไม่ได้ ตราบใดที่คุณยังเป็นของคนอื่น ผมไม่อยากเป็นชู้ใคร”
พรพจีมีสีหน้าสลดลง ทำท่าจะร้องไห้
“แต่งตัวเถอะครับ เดี๋ยวผมลงไปรอข้างล่าง”
พรพจีครางเสียงเหมือนคนหมดแรง “ธร...”
วิษธรเดินนำออกไป พรพจีก้มหน้าร้องไห้ด้วยความเสียใจ

อีกฟาก ภัทร์ธีรา สรัช และโรจนา มาถึงสุโขทัยตอนสายๆ กำลังเดินดูเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งอย่างสนุกสนาน
สรัชและโรจนาลองนั่งเก้าอี้ตัวนั้นตัวนี้/สรัชให้ภัทร์ธีราลองนั่งโรจนาถ่ายรูปให้สรัชกับภัทร์ธีราด้วย ทั้งสามคนก็เซลฟี่กัน ต่างยิ้มอย่างมีความสุข ภัทร์ธีรายังมีสีหน้าเศร้าอยู่บ้างเมื่อนึกถึงอาทั้งสอง สรัชเดินดูของตกแต่งอย่างเพลินตา อันโน้นก็ดี อันนี้เขาก็ชอบ ภัทร์ธีรากับโรจนาเดินแยกออกมาอีกมุมหนึ่ง
“สวยๆ ทั้งนั้นเลยนะคะ”
“ถ้าคุณจ๋าชอบชิ้นไหนเป็นพิเศษบอกโรสได้เลยนะคะ เดี๋ยวโรสคุยกับเพื่อนให้”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ จ๋าเกรงใจคุณโรส แล้วก็เรียกจ๋าเฉยๆ ก็ได้ค่ะ”
“ตามใจคุณจ๋า อ้อ จ๋าแล้วกัน จ๋าต้องเรียกเราว่าโรสเฉยๆ เหมือนกันนะ โอเค้”
ภัทร์ธีราหัวเราะ “โอเค”
“จ๋านี่ขี้เกรงใจนะ ไม่เหมือนรายนั้น” เชฟโรสพยักพเยิดไปทางสรัช “ต่อราคาสุดๆ เห็นบอกว่าต้องประหยัด จะได้เก็บเงินไปแต่งงาน น่าอิจฉาจังเลยน้า”
โรจนายิ้มแซว สรัชเดินเข้ามาหา
“เม้าท์ผมกันอยู่หรือเปล่า”
โรจนากะภัทร์ธีราประสานเสียงสูงพร้อมกันว่า “เปล๊า”
สรัชมองเหล่สองสาว “น่าสงสัยนะเนี่ย ไปช่วยผมเลือกกันดีกว่า ไปเร็ว”
โรจนาและภัทร์ธีราหัวเราะอย่างรู้กัน
“ที่พี่เลือกไว้ก็มีสามแบบนี้ เอาแบบไหนดีล่ะ”
“อันนี้กับอันนี้ สวยดีนะคะ เลือกยากจัง แล้วเราจะเอาแบบไหนดีล่ะคะ”
ภัทร์ธีราหันมองสรัชและโรจนา
สรัชกะโรจนาพูดพร้อมกันชี้ตัวเดียวกัน “แบบนี้ดีไหม”
ทั้งสองมองหน้ากันแล้วหัวเราะขำ ภัทร์ธีราพลอยหัวเราะสนุกไปด้วย แซวสองคนว่า
“นี่ครั้งที่สามของวันแล้วนะคะ ที่เลือกเหมือนกัน”
“เอ่อ แล้วน้องจ๋าชอบแบบไหนมากกว่าคะ พี่เลือกแบบที่น้องจ๋าชอบ”
“เสียงข้างมากว่ายังไงจ๋าก็ว่าอย่างนั้นแหละค่ะ จ๋าประชาธิปไตยอยู่แล้ว”
“โอเค ปิดจ็อบ”
สรัชและโรจนาตีมือไฮไฟว์กัน สรัชหันไปตีมือภัทร์ธีราด้วย ภัทร์ธีราตีด้วยอย่างขำๆ


ภัทร์ธีรา สรัช และโรจนา พากันเดินออกมาจากร้านเฟอร์นิเจอร์มายังรถ
“ในที่สุดก็ได้ของครบแล้ว ไปหาอะไรอร่อยๆ กินกันดีกว่าครับมื้อนี้ผมเลี้ยงเต็มที่”
“โรสจะกินให้เต็มที่ ไม่ให้ผิดหวังเลยค่ะ”
“ผมชักกลัวเสียแล้วล่ะสิ จะหมดตัวไหมเนี่ย”
ภัทร์ธีราหยุดเดินมองจ้องอย่างแปลกใจ เมื่อเห็นดนัยกำลังเดินเข้าไปในร้านที่เธอเพิ่งออกมา
“น้องจ๋า มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“เดี๋ยวจ๋ามานะคะพี่เอ้ เหมือนจะเจอคนรู้จัก”
ภัทร์ธีราเดินตามดนัยไป

ภัทร์ธีราตามดนัยเข้ามาในร้าน เห็นดนัยคุยกับสุรชัยอย่างสนิทสนม จึงชะงักแอบฟัง โดยทำทีเป็นเดินดูเฟอร์นิเจอร์ไปด้วย โดยไม่ให้ดนัยเห็นหน้า
“มาไงวะไอ้นัย ไม่บอกล่วงหน้า”
“พอดีน้องชายเข้ากรุงเทพฯ เลยตามมาด้วย กิจการเป็นไงวะ”
“ก็ดี มีออเดอร์ต่างชาติสั่งล็อตใหญ่เลย”
“เออ ดีใจด้วย”
“แล้วเอ็งล่ะ รีสอร์ตที่สุโขทัยเป็นไงบ้าง”
“ได้เรื่อยๆ อีกหน่อยธรจะกลับไปช่วยดูแลถาวรแล้ว”
“อ้าว มันจะออกจากงานโรงแรมแล้วเหรอ”
“ออกมาแล้ว”
สุรชัยมีสีหน้าแปลกใจ “ออกมาทำไม เป็นถึงผู้บริหาร ถือหุ้นด้วยไม่ใช่เหรอ”
ดนัยอ้าปากจะตอบ แต่สายตามองไปเห็นภัทร์ธีราเสียก่อน เขาทั้งแปลกใจและตกใจเล็กน้อย
“คุณจ๋า”
ภัทร์ธีราจะหลบก็หลบไม่ทัน เลยต้องเดินออกมายิ้มทักทาย
“คุณดนัย จำจ๋าได้ด้วยเหรอคะ”
“จำได้สิครับ หลานคุณจีใครจะจำไม่ได้”
“รู้จักกันด้วยเหรอ โลกกลมจริงๆ คุณจ๋าเพิ่งมาช่วยเพื่อนดูเฟอร์นิเจอร์เมื่อกี้เอง” สุรชัยบอก
“งั้นเหรอ”
“จ๋ากำลังออกไป เห็นคุณนัยเข้าพอดีเลยเข้ามาทักทาย งั้นจ๋าไปก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ”
ภัทร์ธีรารีบออกไป ดนัยมองตามอย่างหวาดระแวงเล็กน้อยว่าคุณจ๋าจะได้ยินอะไรบ้าง

วิษธรนั่งรออยู่ที่ชั้นล่าง จนเห็นพรพจีเดินลงมาหาสภาพตาบวมช้ำจากการร้องไห้
“ธรคะ”
วิษธรหันมาค่อยๆ เดินเข้ามากอด
“ผมขอโทษ ผมทำไม่ได้จริงๆ”
พรพจีสะอื้นไห้ “มันทรมานจัง ทำไมเราถึงทำตามใจตัวเองไม่ได้คะ”
“ผมผิดเองที่พาคุณมา ทั้งๆ ที่รู้ว่าอยู่ใกล้กันแล้วผมจะห้ามใจตัวเองไม่ได้” พร้อมกับว่าเขาค่อยๆ บรรจงเช็ดน้ำตาให้พรพจี “บางทีผมก็แค่อยากจะพาคุณหนีไปในที่ที่มีแค่เราสองคน”
“ร่างกายเป็นของเรา เรามีสิทธิ์จะทำอะไรก็ได้ แต่ทำไม...”
พรพจีร้องไห้อีกครั้งอย่างอัดอั้น
“เมื่อไหร่คะ เราต้องทนแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่”
“คุณเป็นคนเลือกครับ”
“ฉันจะหาทางหย่ากับคุณรินให้เร็วที่สุด ฉันจะทำให้ทุกอย่างถูกต้องฉันเลือกคุณ”
“แล้วคุณจ๋าล่ะครับ คุณจ๋าไม่ชอบผม”
“น้องจ๋าจะต้องเข้าใจฉันค่ะ”
“ผมจะรอนะครับ”
ทั้งสองคนกอดกันอีกครั้ง วิษธรลูบหลังปลอบพรพจีอย่างอ่อนโยนแต่แววตาแข็งกร้าวจนน่ากลัว


พรพจีเดินกลับเข้าบ้านมา ถูกนรินทร์เข็นรถเข้ามาหาเรื่อง
“ไปบ้านไอ้งูพิษมาใช่ไหม”
พรพจีเดินหนีโดยไม่ยอมมองหน้า “อย่ามาหาเรื่องนะ”
นรินทร์เข็นตาม “คิดว่าผมโง่หรือไง ถึงคิดจะทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ มาคุยกันให้รู้เรื่อง จี หยุด”
นรินทร์เลื่อนรถขวางให้พรพจีหยุดจนได้ พรพจีค่อยๆ หันหน้ามา ตาแดงก่ำ เหมือนร้องไห้มาอย่างหนัก นรินทร์มองเห็นชัดๆ ก็หัวเราะเยาะ
“เป็นอะไร ไปประเคนให้เขาถึงที่แต่เขาไม่เอาหรือไง”
พรพจีตะโกนใส่อยากเหลืออด “หุบปากชั่วๆ ของคุณ แล้วก็หยุดพูดจาดูถูกฉันเสียที”
นรินทร์แทบคลั่ง “นี่มึงกล้าว่ากูเหรอ มึงตะโกนใส่หน้ากูเหรอ”
พรพจีตะโกนก้อง “ใช่! ฉันจะตะโกน นี่มันปากของฉัน ฉันจะทำอะไรก็ได้ นี่มันร่างกายของฉัน ฉันจะทำอะไรก็ได้ คุณห้ามฉันไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ไม่ได้”
“ทำไมกูจะห้ามไม่ได้ กูเป็นผัวมึง มึงเป็นของกู เข้าใจไหม”
“ถ้างั้นฉันจะหย่า ฉันจะหย่ากับคุณ ทุกอย่างจะได้จบเสียที”
นรินทร์อึ้งไป เมื่อได้ยินคำว่าหย่า และยิ่งอาละวาดหนักมากขึ้น
“หย่าเหรอ มึงอยากหย่ากับกูเพราะกูพิการใช่ไหม มึงลองหย่าดูสิ สังคมจะต้องประณามมึง อีผู้หญิงชั่ว”
พรพจีหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “คุณคิดว่าฉันอยากหย่ากับคุณเพราะคุณพิการเหรอ ฉันจะบอกอะไรให้นะ ถ้าคุณไม่พิการฉันหย่ากับคุณไปนานแล้ว”
“อย่าฝันว่ากูจะหย่าให้ กูไม่มีวันยอมให้มึงสมหวังกับไอ้ธร ไม่มีทาง”
นรินทร์เข็นรถออกไป พรพจีทรุดตัวลงร้องไห้อย่างอ่อนล้าโรยแรง

จิรดาเข็นรถพานรินทร์เข้ามาในห้อง นรินทร์หายใจแรงด้วยความโกรธ จิรดายื่นยาให้นรินทร์กิน/นรินทร์รับยามากินค่อยๆ ผ่อนคลาย
“คราวนี้ทะเลาะกันแรงขึ้นกว่าเดิมนะคะ เกิดอะไรขึ้นเหรอ”
“จีคงโดนไอ้ธรเทมาอย่างที่คุณบอกจริงๆ”
“อย่างนั้นก็ดีสิคะ”
จิรดาช่วยนรินทร์ขึ้นเตียง
“แต่จีพูดเรื่องหย่าทั้งที่ไม่เคยพูดมาก่อน ฉันกลัวว่าจีจะหย่าจริงๆ”
“ถ้าคุณธรไม่เล่นด้วยคุณก็ไม่ต้องกังวลอะไรนี่คะ”
“จีเป็นคนที่จะทำอะไรแล้วต้องทำให้ได้ แล้วถ้าเขาคิดจะหย่า...คุณรีบทำงานหน่อยแล้วกัน คุณคงไม่อยากเห็นไอ้ธรลงเอยกับจีหรอกใช่ไหม”
จิรดามีสีหน้ากังวลอยู่ชั่วขณะ จู่ๆ เหมือนเธอนึกอะไรออก
“อะไร”
จิรดายิ้มกริ่ม


วิษธรว่ายน้ำอยู่ในสระข้างบ้านประมาณสองสามรอบแล้ว จนมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเขาจึงขึ้นจากสระ เช็ดตัวลวกๆ มากดรับสาย
“ครับพี่นัย...เจอใครนะครับ ภัทร์ธีรา คุณจ๋าน่ะเหรอ” วิษธรหัวเราะขำไม่ติดใจอะไร “โลกกลมจังเลยนะครับ... งั้นเหรอครับ ไม่ต้องห่วงครับ เดี๋ยวผมจัดการเอง”
วิษธรชะงักไปเมื่อมองไปทางหนึ่ง ได้ยินเสียง “ฮัลโหลๆ” จากดนัย
“พี่นัยแค่นี้ก่อนนะ ดูเหมือนผมจะมีแขก”
จิรดาโบกมือให้วิษธรอยู่หน้าบ้าน ในมือมีถุงใส่ข้าวของเต็มไปหมด วิษธรมองฉงน

วิษธรพาจิรดาเข้ามาที่ห้องรับแขก
“เชิญครับ”
“ขอโทษนะคะที่มาแบบกะทันหัน คือดาอยากขอบคุณคุณธรเรื่องของฝากแต่ไม่รู้จะทำยังไงดี ดาคิดออกแค่วิธีนี้นะคะ”
จิรดาโชว์ถุงผักให้วิษธรดู
“คุณดาซื้อผักตอบแทนผมเหรอครับ” วิษธรหัวเราะขำ “ไม่ต้องหรอกครับ เรื่องเล็กน้อยแค่นี้เอง”
“ไม่ใช่ซะหน่อย ดาจะเอาผักพวกนี้มาทำอาหารให้คุณทานต่างหาก”
“ไม่เห็นต้องลำบากเลยครับ”
“ไม่ลำบากหรอกค่ะ ดาอยากทำให้ อย่าปฎิเสธดาเลยนะคะ”
“แต่...”
“ห้องครัวอยู่ทางนั้นใช่ไหมคะ”
จิรดาถือวิสาสะเดินเข้าครัวไป
“เดี๋ยวสิครับ คุณดา”
วิษธรรีบตามไป

จิรดานำเอาผักออกมาล้างและหั่น ซอย อย่างคล่องแคล่ว วิษธรได้แต่ยืนมองงงๆ
“ให้ผมช่วยทำอะไรไหมครับ”
“เป็นกำลังใจให้ดาก็พอค่ะ”
จิรดาเอาเครื่องปรุงใส่หม้ออย่างชำนาญ
“คุณดาทำเมนูอะไรเหรอครับ”
“น้ำเงี้ยวค่ะ”
จิรดายิ้มหวานแล้วโยนไก่ลงหม้ออย่างมั่นใจ
“ดาจำได้ว่าคุณธรเคยบอกดาว่าชอบอาหารเหนือ ดาเลยตั้งใจทำน้ำเงี้ยวให้ทาน อันนี้เป็นสูตรประจำตระกูลเลยนะคะ”
จิรดายิ้มหวานแอบเปิดสูตรน้ำเงี้ยวในโทรศัพท์มือถือดู

พรพจีเดินเข้ามาให้ห้องนรินทร์อย่างอารมณ์เสีย
“ให้คนไปตามฉันมาทำไม”
“ผมไม่มีคนดูแล”
“แล้วคุณดาล่ะ”
“ไม่อยู่”
“ใช้ไม่ได้ มีหน้าที่ต้องดูแลคุณแท้ๆ กลับหายไปไหนก็ไม่รู้”
นรินทร์ยิ้มในสีหน้า “อย่าไปว่าเขาเลย คนกำลังมีความรัก เขาขออนุญาตผมไปบ้านแฟน ผมก็เห็นใจคนรักกันคงคิดถึงกันมาก ก็เลยอนุญาตให้ไป”
พรพจีแปลกใจ “คุณดามีแฟนแล้วเหรอ”
“ใช่ ท่าทางจะรักกันมากเสียด้วย ถึงทนคิดถึงไม่ไหวต้องขอไปหาถึงบ้าน”
“ถ้าอย่างนั้นฉันก็คงว่าอะไรไม่ได้”
“ดีที่บ้านอยู่ใกล้ๆ นี่เอง คงไปไม่นานหรอก”
พรพจีสะดุดหู “ใคร”
“เธอก็รู้จักดี”
“อย่ามามั่วนะ คุณหมายถึงใคร”
“อยากรู้ก็ตามไปดูให้เห็นกับตาสิ”
“ไม่จริง”
“ถ้าไม่รีบไปดูเดี๋ยวก็พลาดฉากเด็ดหรอก ป่านนี้คงขึ้นสวรรค์ มีความสุขกันไปแล้วมั้ง”
พรพจีรีบเดินออกไปด้วยความโกรธ
“รีบไปเลย ไปดูให้เห็นกับตา จะได้ตาสว่างเสียทีว่าไอ้เด็กนั่นมันไม่เอาอีแก่อย่างเธอมาทำเมียหรอก! ฮ่าๆๆ”

นรินทร์หัวเราะเยาะไล่หลังอย่างสะใจ

อ่านต่อ ตอนที่ 12

#เพลิงรักไฟมาร #thaich8 #ละครออนไลน์
กำลังโหลดความคิดเห็น