ระบำไฟ ตอนที่ 11
พัดชาหิ้วอุปกรณ์ทำความสะอาดมาเคาะประตูห้องเรียกชิงฉัตร แต่ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ จึงเปิดประตูแง้มๆ ชะโงกหน้าเข้ามาดู
“คุณฉัตรคะ”
พอเห็นว่าไม่มีคนตอบรับ พัดชาเลยเดินเข้ามาอย่างโล่งใจ
“น่าจะไม่อยู่ ดี”
พัดชาเริ่มทำความสะอาดห้อง แล้วต้องส่ายหัวระอากับความรกเรื้อ เตียงนอน หมอน ผ้าห่ม ไม่เก็บ ผ้าเช็ดตัวกองอยู่มุมหนึ่ง พอย้ายมาเก็บโต๊ะหัวเตียงก็เจอแผ่นหนังเอวีญี่ปุ่นพัดชาถึงกับเบ้ปาก
“เชย ไม่รู้จักโหลดดู ซื้อแผ่นแบบนี้ใครเห็นเข้า...”
พัดชานึกได้ ถ้ามีคนรู้ว่าชิงฉัตรทำตัวไม่เหมาะสม จึงใช้มือถือถ่ายรูปแผ่นหนังโป๊ไว้เป็นหลักฐาน ต่อมาเก็บเตียง พัดชาเจอตลับเหล็กทรงดูแปลกๆ จึงเปิดดู พบว่าข้างในเป็นยาเค ถึงกับอึ้งไปเลย
เสียงชิงฉัตรดังขึ้น “ไม่รีบหยิบมือถือมาถ่ายรูปล่ะครับ”
พัดชาตกใจ เหลียวขวับไปทางเสียง เห็นชิงฉัตรยืนกอดอกพิงประตูจ้องอยู่ มาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ สภาพเสื้อช็อปนักเรียนช่างรุ่ยร่าย มีเลือดติดมุมปาก ดูออกว่าเพิ่งไปมีเรื่องมา
“จะเก็บหลักฐานไว้ฟ้องอาตรีล่ะสิ เฮอะ อาตรีไม่เชื่อพี่หรอก อาตรีรักผม”
“คุณตรีเป็นอาสะใภ้คุณ อาจจะไม่กล้าทำอะไร แต่ถ้าอาแท้ๆ ที่เป็นผู้ปกครองมีสิทธิ์สั่งทุกอย่างในชีวิตคุณล่ะคะ”
ชิงฉัตรพึมพำเบาๆ “อาพยส”
สาวรุ่นพี่ยิ้มบางๆ เดินตรงไปที่ประตูอย่างไม่กลัวเกรง จะก้าวออกจากห้อง แต่ชิงฉัตรยืดตัวยืนขวาง พลางกดล็อกประตูเฉยเลย
“คุณฉัตรจะทำอะไร”
“แล้วพี่ว่าผมจะทำอะไร”
พัดชาพยายามจะเบียดตัวเปิดประตูออกไป แต่ชิงฉัตรยืนประชิดตัว จ้องหน้าไม่ยอมให้ไป
ทางด้านเทศราชเข้าห้องคอนโดมา สังเกตเห็นว่าห้องเรียบร้อยผิดปกติ จากเดิมที่เคยสุมๆ เขละไว้ จะดีดรองเท้าไว้แบบเดิมแต่เกิดเกรงใจห้องที่สะอาดเรี่ยม เลยเปิดตู้รองเท้าออก พบว่ารองเท้าทุกคู่ถูกเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบ เทศราชวางรองเท้าปิดลง แล้วเดินเข้าไปด้านในโยนกุญแจรถลงบนโต๊ะตามความเคยชิน แต่ดันไม่ลงถาด ช่างภาพหนุ่มเกรงใจห้องสะอ้าน จึงต้องจับวางกุญแจเข้าที่
เมื่อเดินเลยมาเปิดตู้เย็น ก็พบว่าของในตู้วางเรียงเป็นหมวดหมู่ น้ำฝั่งหนึ่ง เบียร์ฝั่งหนึ่ง ขนมขบเคี้ยว แถมมีผลไม้พร้อมทานมีพลาสติกปิดคลุมไว้อย่างดี
“ฝีมืออาพยางค์แน่ๆ”
เทศราชหยิบจานผลไม้แกะพลาสติกออกหยิบผลไม้เข้าปากเดินกินมา ทางห้องรับแขกที่เก็บกวาดเนี้ยบนิ้ง เช่นกัน เขาทิ้งตัวลงนั่งตรงโซฟา วางจานผลไม้บนโต๊ะกลาง พลางหยิบโทรศัพท์มากดส่งข้อความไปทางไลน์ว่า
“ทำซะเรี่ยม ค่าแม่บ้าน อาจ่ายเองนะ ผมไม่ได้เรียกร้อง”
เทศราชเดินไปที่ห้องแต่งตัว จะเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมอาบน้ำ
มีเสียงข้อความตอบกลับมาทันควัน เทศราชกดอ่านพลางหัวเราะหึๆ
“ครั้งที่แล้วมาห้องแก รกยังกะรังหนู ฉันทนไม่ได้ นี่แม่บ้านมาฟ้อง มีเสื้อผ้าเปียกๆ ในห้องแก...”
เทศราชเดินดูห้องแต่งตัวที่เป็นระเบียบเนี้ยบมาก เปิดตู้เจอเสื้อชุดพยสแขวนอยู่
“ไปลงอ่างที่ไหนมาไอ้เทศ แม่บ้านคงซักรีดให้เรียบร้อยแล้วมั้ง”
เทศราชมองพลางนึกถึงตอนที่ได้มาจากตรีประดับ หลงลงสระน้ำไปลากชิงฉัตรขึ้นมา
“ยสลืมไปแล้วว่ามีชุดนี้ เราซื้อให้เขาแต่เขาไม่ชอบแนวนี้ เธอใส่ไปเถอะ”
เทศราชจับชุดที่แขวนอยู่มองนิ่ง
เย็นนั้น เทศราชตัดสินใจนำเสื้อผ้าของพยส มายื่นคืนต่อมือตรีประดับด้วยตัวเขาเอง พร้อมกับว่า
“มันไม่ใช่ของเรา ของพยสเขา เก็บไว้ให้เขาเถอะ”
“จริงๆไม่ต้องเอามาคืนก็ได้ ยสเขาจำไม่ได้หรอก”
“คืนอะไรจ๊ะตรี”
พยสกลับจากทำงานเดินเข้ามาพอดี เห็นเทศราชอยู่ในบ้านและกำลังส่งเสื้อผ้าคืนให้ตรีประดับก็งง
“แล้วนี่อะไรกัน เสื้อผ้าใคร นายเอามาให้ตรีทำไม”
“ทำไมจำของๆ ตัวเองไม่ได้ แบบนี้จะรักษาเรื่องสำคัญ ‘คนสำคัญ’ ไว้ได้ไหม”
เทศราชพูดแดกดันหน้าตาย พยสฉุนติดปลายจมูกเพราะคนพูดเสมือนหนามทิ่มใจอยู่แล้ว บรรยากาศมาคุขึ้นมาทันควัน ตรีประดับรีบไกล่เกลี่ย และพยายามรักษาหน้าพยส
“วันก่อนเทศมาตกน้ำที่บ้าน ตรีเห็นเขาเปียกเลยให้ยืมเสื้อผ้าของยส”
“เสื้อผ้าที่ตรีซื้อให้นาย แต่นายไม่ชอบ แล้วก็จำไม่ได้ว่ามันเคยมี” เทศราชว่า
พยสคว้าเสื้อผ้ามาดู และจำได้ หน้าเสียนิดๆ
“งั้นก็ดี อะไรที่ไม่ใช่ของนายก็อย่าคิดจะครอบครอง นายเอามาคืนเจ้าของก็ถูกต้องแล้ว”
พยสเหน็บแรง ตรีประดับอึดอัดมาก เทศราชดูออก รู้สึกเห็นใจ เลยไม่ต่อความยาวให้เธอไม่สบายใจ
“เรากลับก่อนนะตรี ดูแลตัวเองด้วย”
ตรีประดับพยักหน้ารับเอาคำ รู้ว่าเขาหวังดี พยสกลับยิ่งหมั่นไส้ขวางหูขวางตาเทศราช
ตรีประดับจะเดินขึ้นข้างบน พยสเรียกไว้ ถามเสียงขุ่น
“ตรี เดี๋ยวก่อน ไอ้เทศมันมาตกน้ำที่บ้านเราได้ยังไง”
“เรื่องมันยาวค่ะ ไม่มีอะไรหรอก ตรีไปทำงานก่อนนะคะ”
พร้อมกับว่าตรีประดับจะเดินขึ้นข้างบน พยสหึงขึ้นหน้า ดึงตัวเธอไว้ให้หันมาหาอย่างแรง
“เดี๋ยวตรี” พยสดึงตัวตรีประดับมาอย่างแรง
“โอ๊ย ยส”
เทศราชกำลังจะออกจากประตูบ้าน ได้ยินเสียงนั้น ชะงักเท้ากึก
พยสดึงตรีประดับเข้ามา บีบไหล่อย่างแรง จ้องหน้าคาดคั้นถาม
“เทศราชมาตกน้ำตกท่าที่นี่ ถึงขั้นต้องเปลี่ยนเสื้อผ้า อะไรกันตรี มันเปียก แล้วคุณต้องถอดเสื้อให้มันด้วยหรือ”
ตรีประดับตะลึงตะไล แทบไม่อยากเชื่อหูตัวเอง “ยส พูดอะไร”
พัดชาโผล่ออกมาจากห้องเพราะได้ยินเสียงพยสโวยวายดังลั่นบ้าน หลบมุมแอบดูและเห็นพยสกำลังอาละวาดด้วยท่าทีโกรธจัด ขณะที่ตรีประดับมองสามีอย่างตกใจ
“แล้วมันใช่ไหมล่ะ”
“มันไม่ใช่แบบที่คุณคิด เทศเค้า...”
ตรีประดับอึกอัก เพราะหากบอกว่าเทศราชตกน้ำเพราะไปช่วยชิงฉัตรที่เมายา เรื่องราวจะไปกันใหญ่
“ถ้าฉันส่งนายให้ตำรวจ รู้ไหมว่าอาตรีของนายจะต้องวุ่นวายอีกแค่ไหน แถมยังจะต้องเสียชื่อที่มีหลานไปยุ่งเกี่ยวกับพวกยาเสพติด”
ชิงฉัตรโดนเทศราชต่อยหน้าตกน้ำตูม ตรีประดับใจคอไม่ดีเห็นชิงฉัตรคว่ำหน้าในน้ำ เทศราชลงไปลากคอชิงฉัตรขึ้นมา ชิงฉัตรต่อยคืนเทศราชไม่ยั้ง
พยสเห็นตรีประดับนิ่งงัน ยิ่งเข้าใจผิด คิดไปไกล หึงหวงจนไม่ยอมเปิดใจฟังอะไรแล้ว พัดชายังคงแอบดูอยู่อีกมุมหนึ่งนิ่งๆ
“ทำไม พูดไม่ออก น้ำท่วมปากหรือไง หรือเทศราชมันปิดปากคุณด้วยอย่างอื่น”
ตรีประดับพยายามอธิบายดีๆ
“ยส รู้ตัวหรือเปล่าว่าพูดอะไรออกมา มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิด”
“ไม่ใช่แล้วมันเป็นแบบไหน คุณเปิดโอกาสให้มันเข้ามาบ้านเรา คุณอ้างว่าเทศราชตกน้ำ แล้วคุณล่ะตรี ตกน้ำให้ท่ามันด้วยไหม แล้วมันต้องถอดเสื้อให้คุณหรือเปล่า”
เทศราชเข้ามา ดึงตัวพยสออกมา
“นายดูถูกตรีมากเกินไปแล้วพยส”
เทศราชเงื้อหมัด ตรีประดับร้องห้าม “เทศ...”
แต่ไม่ทัน เทศราชซัดหมัดต่อยปากจนพยสหงายหลัง ตรีประดับตกใจรีบไปดูสามี
“ยศ เป็นยังไงบ้างคะ”
พยสสะบัดแขนเต็มแรง กลายเป็นเหมือนสลัดตรีประดับออกไป
“คุณเข้าข้างมัน”
เทศราชตกใจเข้าไปประคองตรีประดับไม่ให้ล้ม แล้วยืนขวางตรีประดับไว้
“พยส ถ้านายโกรธฉัน ลงที่ฉัน อย่าทำร้ายตรี”
“เรื่องของฉันกับตรี คนอื่นไม่เกี่ยว”
“เทศไม่ใช่คนอื่น เขาเป็น...” ตรีประดับไม่ทันพูดคำว่า เพื่อนสนิท ออกไป
พยสโพล่งขัดขึ้น “มันเป็นคนอื่น ผัวเมียมีแค่คนสองคน ไอ้คนที่มาวอแวแทรกตรงกลาง มันเป็นคนอื่น และมันควรรู้ตัวว่าต้องออกไปจากตรงนี้”
ตรีประดับสุดทนไหว
“ยส หยุดเดี๋ยวนี้นะ เทศเป็นเพื่อนตรี เป็นเพื่อนคุณ คุณมีสิทธิ์อะไรมาไล่เขา”
“สิทธิ์ของความเป็นผัวไงล่ะ”
ตรีประดับตกใจ ด้วยไม่เคยได้ยินคำพูดแสนหยาบคายแบบนี้จากปากพยสมาก่อน
“ที่นายหึงขนาดนี้ มันก็มีข้อดีนะ อย่างน้อยมันก็แสดงให้เห็นว่า นายยังรักและยังห่วงตรีมาก บางทีก็มากจนหน้ามืด พูดอะไรไปวันนี้ ฉันไม่เจ็บหรอก แต่ตรี คนที่นายรัก นายกำลังทำเขาเจ็บ”
เทศราชเดินออกไปเลย ตรีประดับน้ำตาเอ่อ พยสเริ่มรู้สึกผิด
พยสกับตรีประดับต่างเงียบ ตรีประดับปาดน้ำตาสุดท้ายเบามือ พยสรู้ตัวว่าพูดจารุนแรงมากไป แต่ก็ทิฐิสูงพราะหวงหึง
“ตรี...ผม”
“ตรีไปทำงานก่อนนะคะ เชิญยสตามสบาย”
ตรีประดับเลี่ยงไป พยสหงุดหงิดเพราะไม่ได้ดั่งใจ เคลียร์ก็ไม่ได้ เลยพาล
“แยกเข้าห้องทำงาน จะได้โทร.หาไอ้เทศโดยที่ไม่มีผมคอยขวางใช่ไหม”
ตรีประดับชะงักเท้า อดเหลียวมามองหน้าพยสไม่ได้
“ถ้าคุณยังไม่รู้ตัวว่าคุณกำลังไม่มีเหตุผล ก็เสียเวลาที่เราจะคุยกัน”
ตรีประดับเดินออกไป พยสโมโหสุดขีด
“คุณจะบอกว่าคุณมีเหตุผลงั้นสิ งั้นอธิบาย บอกสิ บอก”
ตรีประดับปิดประตูห้องทำงานลง ยืนพิงห้องประตูห้องอย่างคนหมดแรง สักครู่ก็มีเสียงของตกแตกดังเปรื่องปร่างจนเธอสะดุ้ง หยาดน้ำตาที่ก่อตัวหยดรินอาบแก้มให้กับบทเรียนของชีวิตคู่
ตรีประดับยืนร้องไห้เงียบๆ มองรูปถ่ายแสนหวานตอนงานแต่งงาน และรูปเพื่อนรัก 3 คน ตรีประดับ เทศราช พยส
เป็นเหยือกน้ำตกลงพื้นแตกกระจาย พยสยืนเคียดขึ้งอยู่ไม่ไกลกันนักหลังปัดมันตกลงพื้น มองซากอารมณ์ของตน ทอดถอนใจอย่างหงุดหงิด
พัดชาเดินเข้ามาเงียบๆ ย่อตัวลงข้างๆ พยส ไม่พูดอะไร ก้มหน้าเก็บกวาดเศษแก้วด้วยมือ
“ไม่ต้องทำหรอกพัดชา ปล่อยมันไว้อย่างนี้แหละ”
“ถ้าปล่อยไว้ พัดกลัวมันจะทำให้คุณพยสเจ็บ”
พัดชาเงยหน้า ส่งสายตาให้กำลังใจและเข้าใจแก่พยส
พยสมองสบตา ณ จังงังไปชั่วแว่บ อดรู้สึกไม่ได้ว่าตอนโหวงสุด พัดชาอยู่ตรงนี้ไม่ใช่ตรีประดับคนเป็นภรรยา พัดชาชม้ายตาทิ้งเสน่ห์เรียบร้อยแล้ว ก้มหน้าเก็บเศษแก้วด้วยมือเปล่าทีละชิ้น
“ขอบใจเธอมากนะพัดชา คงตกใจล่ะสิ ชีวิตคู่ก็คงอย่างนี้มั้ง รสหวานไม่ช้าก็เร็วมันคงจืดลงบ้าง”
“พัดไม่อยากให้คุณพยสคิดอย่างนั้นค่ะ คุณยังรักกันและกัน พัดจะเป็นกำลังใจให้นะคะ”
พัดชาหยอดหวานไว้อีกลูก รับรู้ว่าพยสรู้สึกซาบซึ้งอยู่บ้าง
“อุ๊ย”
พยสเห็นเพียงพัดชาเอามือจับกุมนิ้วกดห้ามเลือด แต่ไม่รู้ว่าเธอนั่นเองที่แกล้งทำเศษแก้วตำนิ้ว
“พัดชา ไหน ให้ฉันดูสิ”
“ไม่เป็นไรค่ะ นิดเดียว”
พัดชากดนิ้วให้เลือดซึมออกมาอย่างรวดเร็ว พยสดึงมือมาดู เห็นเลือดแม้จะน้อยก็เป็นห่วง
“นิดหน่อย แต่ยังไงก็ต้องใส่ยา”
เขาลุกเดินไปทางหนึ่ง หยิบยาจากตู้ยา พัดชามองตามแววตาไหวระริก ในสีหน้านิ่งเฉย
เวลาผ่านไปพัดชาวางไม้กวาดไว้ทางหนึ่ง กวาดเศษแก้วหมดแล้ว พยสถือกล่องยาเข้ามา
“มาสิ ผมจะทำแผลให้”
พยสพันแผลให้พัดชาอย่างเบามือ จังหวะจับมือกัน พัดชาวูบวาบไหวหวั่น
จนพันแผลเสร็จพยสยังจับนิ้วพัดชาค้างไว้ สายตามองมา ทั้งคู่ต่างคนต่างนิ่งงันกันไป
“คุณพยสก็เป็นแผลนี่คะ ขอโทษนะคะ”
พัดชาเอื้อมมือแตะมุมปากข้างที่พยสโดนเทศราชต่อย พยสวาบหวิวหายใจไม่ทั่วท้องเพราะสัมผัสของพัดชา
“ผม ผมไม่ได้เจ็บมากหรอก”
“พัดดูให้ค่ะ ปล่อยไว้จะยิ่งอักเสบ”
พัดชาเช็ดเลือดมุมปากเบาๆ หยิบยาจากกล่องปฐมพยาบาลทาแก้ฟกช้ำเบาๆ สัมผัสนุ่มนวลของพัดชาทำให้พยสใจเต้นรัวเร็ว
พัดชาละมือออก ไม่อ่อยจนสุด เก็บข้าวของ ผละตัวออกห่าง
“เรียบร้อยแล้วค่ะ ผ้าร้อนไว้ประคบ เผื่อว่าคุณพยสจะปวด ช่วยลดอาการบวมได้ด้วยค่ะ”
พัดชาเดินออกไปรู้ว่ายังไงอีกฝ่ายยังคงมองตาม
พยสทำเป็นมองตามนิ่งๆ อารมณ์ที่เริ่มลุกโชน ทำให้เขาแทบจะลืมเรื่องที่ทะเลาะกับตรีประดับไปจนสิ้น
พัดชาเข้าห้องมานั่งนิ่งอยู่ในมุมมืด มองนิ้วที่มีเทปปิดแผล สัมผัสที่พยสจับนั้นยังตราตรึง จนเธอเคลิบเคลิ้ม นิ้วแปะพลาสเตอร์ยกมาดูใกล้ๆ ใกล้ดวงตาจนภาพเบลอ พลันนั้นเองกลับมีเสียงหัวเราะเยาะของชิงฉัตร ที่ยื่นหน้าเข้ามาจนใกล้ รู้ทันว่าพัดชาเป็นคนมักมากในกามารมณ์ และเวลานี้หมกมุ่นอยากได้พยสเต็มกลืน
พัดชาสลัดหัว มองรอบตัวแต่ไม่มีใคร
“เด็กชิงฉัตร ฉันกลัวมันขนาดนี้เชียวหรือ”
พัดชานึกถึงเหตุการณ์เมื่อตอนกลางวันกับสิ่งที่ชิงฉัตรได้กระทำกับตัวเธอ
เมื่อตอนกลางวันชิงฉัตรและพัดชาประจันหน้ากันที่ประตูห้อง พัดชาออกจากห้องไปไม่ได้ ชิงฉัตรยียวนกวนประสาท ทำท่าจะคุกคามพัดชา
“อย่าทำอะไรบ้าๆ นะคุณฉัตร”
“แค่มองตาผม พี่ก็รู้ทันทีว่าผมคิดอะไร แสดงว่าพี่ก็ช่ำชองไม่เบา”
พัดชาฉุนกึก กับคำพูดแทงใจดำ
“คุณฉัตรจะพูดยังไงก็ตามใจ แต่มันไม่ได้แก้ไขความเลวของคุณที่พี่เจอในห้องนี้”
ชิงฉัตรหน้าตึง เมาปริ่มๆ อยู่แล้ว มีเรื่องกับวัยรุ่นมาด้วย อารมณ์กรุ่นเป็นทุนเดิมกระชากตัวพัดชาเข้าประชิด
“ปาก ไม่ต้องพูดก็ได้ มันทำอย่างอื่นได้”
ชิงฉัตรกระชากพัดชามาจูบ สาวรุ่นพี่ปัดป้องขัดขืนตบตีพัลวันผลักชิงฉัตรออกได้ยืนหอบด้วยความตะลึง
ชิงฉัตรยิ้มเยาะ หัวเราะหึๆ “ดีใช่ไหมล่ะ”
ชิงฉัตรมองโลมเลียสำรวจเรือนร่างพัดชาที่หอบสั่น จนหน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะหายใจ
“ถ้าคุณไม่เลิกทำพฤติกรรมแบบนี้ ฉันจะบอกคุณตรีกับคุณพยส”
“เอาสิ อยากบอกก็บอกเลย ผมรู้ จะปิดปากพี่น่ะไม่ยาก แค่ดูตาก็รู้แล้ว ไฟมันติดแล้ว ยังไงพี่ก็ต้องการ”
ชิงฉัตรปาดน้ำลายที่ปากอย่างสะใจสมใจ พัดชาสุดจะทนฟัง ผลักชิงฉัตรให้พ้นทาง แล้วออกไป ปิดประตูโครม
นึกขึ้นมาแล้วพัดชาเดินเข้าไปในห้องน้ำล้าง หน้าเพื่อลบเรื่องราวที่ชิงฉัตรทำกับตน เงยหน้ามองหน้าตัวเองในกระจก ลูบหน้า ลูบปาก อึ้งตัวเองที่ติดใจรสชาติจูบรุนแรงนั้น
อีกฟาก เทศราชนั่งมองโทรศัพท์ ในจอเป็นรายชื่อตรีประดับ / เทศราชกดพิมพ์ข้อความ
“ตรี โอเคใช่ไหม”
เทศราชจะกดส่ง จังหวะนั้นก็นึกถึงคำพูดดูถูกของพยส
“มันเป็นคนอื่น ผัวเมียมีแค่คนสองคน ไอ้คนที่มาวอแวแทรกตรงกลาง มันเป็นคนอื่น และมันควรรู้ตัวว่าต้องออกไปจากตรงนี้”
เทศราชถอนใจ
“มันก็จริงของนาย พยส”
ข้อความที่จะส่ง ถูกกดลบทิ้งไปจากหน้าจอมือถือ
ส่วนพยสใช้ผ้าร้อนที่พัดชาให้ประคบที่มุมปาก นึกถึงสัมผัสพัดชายิ่งเคลิ้มไป
พัดชาสัมผัสใบหน้าพยส ทำแผลให้ สัมผัสนุ่มนวล นิ้วมือไล้ไปมาเหมือนไม่ตั้งใจ มีเบามีน้ำหนัก / พยสขนลุก
พยสถอนหายใจหนักหน่วง แค่คิดก็ใจสั่น มือที่ถือผ้าตกลงไปโดนรูปคู่ถ่ายแต่งงาน หน้าคว่ำ มีเสียง
เสียงกรอบรูปล้มทำให้พยสได้สติ หยิบรูปขึ้นดูแล้วรู้สึกผิดต่อตรีประดับ พยสรีบตั้งกรอบรูป ทิ้งผ้าไป นึกได้ว่าควรปรับความเข้าใจกับตรีประดับ
ตัดรับพยสถึงหน้าห้อง ลังเลว่าจะเคาะห้องตรีประดับเพื่อขอโทษดีหรือไม่
“ตรี...ผม...”
พยสเงี่ยหูฟังเสียงข้างใน เหมือนจะตัดสินใจเคาะ แต่นึกขึ้นได้ถึงเรื่องที่ตรีประดับดูอึกอักตอบคำถามไม่ได้ แถมทำท่าทางสบตาเทศราชไม่ให้พูด เทศราชเองก็ดูอึ้งๆไป
“มันไม่ใช่แบบที่คุณคิด เทศเค้า...”
สุดท้ายพยสเกิดทิฐิเดินกลับห้องนอนไป
พยสตื่นขึ้นมาพบว่าบนเตียงข้างตัวว่างเปล่า ไม่มีร่องรอยการหลับนอน ก็รู้สึกโหวงๆ ในใจ
ถัดมาพยสแง้มประตูห้องทำงาน เห็นตรีประดับหลับอยู่ตรงโซฟาเบดมุมห้อง ดูออกว่าตรีประดับทำงานจนถึงเช้า โดยไม่กลับไปนอนที่ห้อง
พยสรู้สึกผิดที่เมื่อวานโมโหหึงและพาลพาโลจนเป็นเรื่องใหญ่ ด้วยความรักที่มีเปี่ยมล้น เขาเดินไปหยิบผ้าบนเก้าอี้ตั้งใจจะมาห่มคลุมให้ตรีประดับ แต่เห็นกรอบรูป 3 คน เทศราช พยส ตรีประดับ บนชั้นหลังโต๊ะทำงาน
“ยังอยู่อีกเหรอ”
พยสชะงักกึกหยิบกรอบรูปซึ่งวางอยู่ในระดับสายตาเห็นเวลาทำงาน ความหวงหึงพุ่งปรี๊ดขึ้นมาเป็นริ้วๆ แล่นลิ่วสู่หัวใจ พยสวางกรอบรูป ออกจากห้องไปอย่างขุ่นมัว ไม่แม้แต่จะห่มผ้าให้ หรือเหลียวกลับไปมองตรีประดับที่นอนขดตัวอยู่มีหนังสือคาอก
พยสนั่งจิบกาแฟอยู่คนเดียว พยายามสงบอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่านด้วยการอ่านข่าวจากแท็บเล็ต แต่ก็อ่านไม่รู้เรื่อง เพราะหงุดหงิดจากเรื่องรูปถ่าย พัดชาเข้ามาเห็นพยสนั่งอยู่ จึงค้อมหัวพยักหน้าทักทายนิดหนึ่ง
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ”
พยสชำเลืองมองพอให้อีกฝ่ายรับรู้
“คุณพยสจะรับขนมปังเพิ่มไหมคะ”
“ก็ดี”
พัดชาเสิร์ฟขนมปังพร้อมแยมให้ แล้วเลี่ยงไปนั่งดื่มกาแฟกับขนมปังอีกฝั่งหนึ่งของโต๊ะเงียบๆ
ความเงียบทำหน้าที่ของมัน เสมือนไม่มีใครสนใจกัน พยสเล่นมือถือ พัดชาละเลียดกัดกินขนมปังปิ้งในมือ จังหวะหนึ่งพยส แอบชำเลืองมองพัดชาสำรวจราวกับมองทะลุชุด และต้องกลืนน้ำลาย เฉไฉจิบกาแฟอ่านมือถืออำพรางสายตาตัวเอง
พัดชารู้ตัวว่าพยสมองมา พอใจลึกๆ แต่ยังทำเฉย กัดกินขนมปังต่อไป
พัดชายกขาไขว่ห้าง จงใจให้ปลายเท้าสัมผัสขาพยส ทนายหนุ่มสะดุ้งวาบรีบเก็บอาการ รับรู้ว่าปลายเท้าพัดชาแตะโดนขาของเขา แต่ทำเป็นไม่รู้เรื่อง อ่านข่าวต่อ
ทั้งสองคนต่างพยายามทำตัวปกติเป็นที่สุด ทั้งที่ในใจทั้งคู่ต่างกระเจิดกระเจิง โดยเฉพาะพยส
สายน้ำจากฝักบัว ราดรดผ่านหัวหูลู่ไหลลงตามเรือนร่างแกร่งกำยำ พยสหมายจะใช้มันเป็นเรื่องดับความร้อนรุ่มในใจของเขา ทว่ามันไม่สัมฤทธิ์ผล
ภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ผุดซ้อนเข้ามาในห้วงคิด ขณะที่เขาลอบมองพัดชาบนโต๊ะอาหาร แล้วต้องสะดุ้ง หัวใจเต้นโครมคราม เมื่อพัดชาขยับเปลี่ยนท่านั่งวาดปลายเท้ามาโดนขาเขา
พยสพยายามอย่างสูงสุดเพื่อไล่ความคิดวาบหวามที่คุกรุ่นขึ้น จากหญิงสาวผู้เพิ่งจะเข้ามาอยู่ร่วมชายคาได้ไม่กี่เดือน ซึ่งความรู้สึกเร่าร้อนเช่นนี้เขาไม่เคยมีเคยได้รับจากตรีประดับเนิ่นนานแล้ว
ตรีประดับนั่งทานมื้อกลางวันอยู่ที่โต๊ะอาหารคนเดียว เงียบๆ จนมีเสียงโวยวายดังลั่นขึ้น
“ชิงฉัตร...ชิงฉัตร”
ตรีประดับได้ยินน้ำเสียงเต็มไปด้วยความโมโหของพยส ก็นึกกังวลใจ
ระหว่างนี้พยสเดินเข้ามาในห้องอาหาร เห็นตรีประดับก็ทำหน้าไม่ถูก อยากจะเคลียร์เรื่องเมื่อคืนก็ไม่มีอารมณ์ เพราะดันมาโมโหต่อเอาตอนเช้าเมื่อเห็นรูปถ่ายสามคน ความหึงหวงยังกรุ่นๆ อยู่
“นายฉัตรคงไปบ้านเพื่อน ยสถามหาหลานทำไมคะ”
“ไปบ้านเพื่อน ใครอนุญาตให้มันไป”
“ตรีเองค่ะ ตรีแค่อนุญาตให้หลานไปติวหนังสือบ้านเพื่อน”
“คุณเชื่อน้ำยามันเหรอ คนอย่างนายฉัตร เอาดีได้ที่ไหนถ้าไม่อยู่ในสายตาเรา”
พัดชายืนอยู่อีกมุมใกล้ๆ กัน ได้ยินหมดทุกอย่าง ตั้งใจฟังเก็บรายละเอียด
“ยสคะ ชิงฉัตรไม่ใช่เด็ก ตรีเชื่อว่าเขาโตแล้ว คิดอะไรเองได้”
“ตรี คุณรู้ไหมไอ้วิธีการที่คุณให้อิสระมันทุกอย่าง ตามใจมัน สุดท้ายคุณนั่นแหละ จะทำให้มันเสียคน”
พยสขึ้นเสียงอย่างหัวเสีย จนตรีประดับงงอีกว่า เรื่องเล็กน้อยแต่ทำไมสามีโมโหใหญ่โตปานนี้
“ยสยังโกรธตรีเรื่องเมื่อวาน ทั้งที่ตรีบอกแล้วว่ามันไม่มีอะไร เทศมาที่บ้านเพราะมีธุระบางอย่าง แต่ยสก็หึงหวงขาดเหตุผล ไม่ฟังอะไรทั้งนั้น หนำซ้ำยังเอาเรื่องนั้นมารวมเรื่องนี้แล้วลงที่ตรี รอให้ยสอารมณ์ดีก่อนนะคะ ยสกลับจากทำงานเย็นนี้เราค่อยคุยกัน”
พยสโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง โมโหใส่เป็นดอกที่สอง
“วันนี้ผมไม่ไปทำงาน ตรี คุณเคยใส่ใจอะไรผมบ้างไหม”
พัดชาแอบฟังอยู่แถวนั้น สบช่อง รู้ว่าเป็นจังหวะเข้าทำเกมแล้ว
ตรีประดับอึ้ง ไม่รู้จริงๆ มองปฏิทินตั้งโต๊ะ เห็นเป็นวันเสาร์
พยสหัวเสียหนักจะใส่อีกครั้ง แต่ยั้งไว้เพราะเห็นพัดชาเดินเข้ามา
พัดชาทำเป็นสงบเสงี่ยมสีหน้าซื่อใส เหมือนไม่ได้ยินทั้งหมดที่สองคนมีปากเสียงกัน
“คุณพยสคะ พี่ตรีคะ ของว่างพร้อมแล้วค่ะ”
“ขอบใจจ้ะ ยสไปทานพร้อมกันนะคะ”
ตรีประดับ ใช้น้ำเย็นเข้าลูบ พยายามเอาใจสามีที่หัวเสีย พัดชาเห็นพยสเริ่มอารมณ์เย็นลง จึงทิ้งระเบิดลงไปลูกใหญ่
“คุณยสคะ วันนี้วันหยุด คุณคงไม่ได้ใช้รถ พัดจะล้างรถให้นะคะ อ้อ พี่ตรีคะ เรื่องหนังสือเล่มใหม่ของพี่ตรี จะให้คุณเทศราชถ่ายรูปให้เหมือนเดิมไหมคะ พัดจะนัดคุณเทศให้พี่ตรีค่ะ”
พยสได้ยินชื่อเทศราชเริ่มควันออกหูอีก
“เทศราชอีกแล้วเหรอ ทำไมต้องมัน คุณบอกได้ไหมตรี”
ตรีประดับยังงงอยู่ว่านัดตอนไหน อะไรยังไง พัดชาไม่รออยู่เคลียร์ รีบชิ่ง
“เอ้อ พัดขอโทษนะคะ พัดคงมาขัดจังหวะ พัดขอตัวนะคะ”
พัดชารีบออกไป ตรีประดับจะเคลียร์เรื่องเทศราชแต่พยสหัวเสียเกินกว่าจะฟังอะไร
“ยสคะ เรื่องเทศ ไม่มีอะไรจริงๆ”
ตรีประดับเข้ามาจะลูบแขนปลอบประโลม แต่ถูกพยสปัดออกอย่างแรง
“ผมไม่เชื่อ คุณมีแต่มัน”
พัดชาเดินห่างออกมา หยุดเหลียวมองด้วยหางตา รู้ว่าไฟไหม้เรือนรักระหว่างตรีประดับและพยสแล้ว
อีกฟาก ควันสีขาวลอยคละคลุ้งไปทั้งห้อง ที่ชิงฉัตรนอนเล่นอยู่ในบ้านภพเพื่อนของเขา เด็กหนุ่มตาลอย ส่วนภพนอนเชลงอยู่ข้างๆ บนโต๊ะมีอุปกรณ์เสพยาวางเกลื่อน
“ไอ้ฉัตร ตกลงคนใช้ที่บ้านแกอะ เบื่อยัง” ภพถาม
“เบื่อไรวะ”
“เอ้า ก็ใช้จนเบื่อหรือยัง ฉันจะได้ขอใช้บ้าง” ภพหัวเราะทะลึ่ง ชิงฉัตรนึกถึงพัดชาแล้วแค่นยิ้ม
“ยังโว้ย”
“แหม ติดใจอะไรเบอร์นั้นวะ เอาแบ่งปันเพื่อนฝูงบ้างดิ”
“ขอให้ฉันปราบให้อยู่หมัดก่อนสิเว้ย ผู้หญิงคนนี้ดูแล้วไม่ธรรมดา ท่าทางซื่อๆ แต่แววตางี้โชกโชน”
“แล้วช่ำชองป่าววะ”
ชิงฉัตรยิ้มหึๆ ภพมองตาก็รู้ใจเพื่อนหัวเราะออกมา
“ไอ้ยิ้มอย่างนี้ เด็ดแหงๆ แกก็ทำเหมือนอย่างเคย เฆี่ยนให้ร้อง รีดให้หมดพิษสง แค่นี้ก็อยู่หมัดแล้ว”
ชิงฉัตรมีสีหน้าเคลิ้มคล้อยเห็นดีด้วย
“จริงของแก ฉันต้องรีดเขาให้หมด ก่อนที่ผู้หญิงคนนี้จะไปฉกกัดคนในบ้าน”
ภพหันมองอย่างไม่เข้าใจ ก่อนจะหันไปง่วนกับอุปกรณ์เสพยาต่อ ชิงฉัตรตาลอยคว้าง
ด้านเทศราชอยู่ที่คอนโดเปิดคอมพิวเตอร์ เสิร์ชหาข้อมูลตามเว็บ แล้วไปเจอลิงค์ข่าว “ทะลายคฤหาสน์หรูกลางเมือง จัดปาร์ตี้มั่วยามั่วเซ็กซ์”
เทศราชจำได้ว่าเป็นข่าวที่ตัวเองไปร่วมเหตุการณ์ด้วย แล้วเปิดเข้าไปดูไล่อ่านข่าว ก่อนจะชะงักที่ภาพๆ หนึ่ง เทศราชมองภาพนั้น เห็นชิงฉัตรกำลังอยู่ในกลุ่มวัยรุ่น เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทร.ออก
“แกอยู่ออฟฟิศใช่มั้ย เดี๋ยวฉันไปหานะ”
ค่ำวันเดียวกันนั้น พยสนั่งดื่มไวน์อยู่ในคลับหรู สีหน้าดูเบื่อหน่ายและยังโมโหตรีประดับไม่หาย ชินานางเอนตัวมาซบอิงแอบ ยกมือลูบไล้หน้าอกพยส
“นางรู้นะคะว่าคุณยสเครียด มีอะไรก็เปิดอกออกมาให้หมดเถอะค่ะ ถึงใครไม่ฟังคุณ แต่นางคนนึงก็พร้อมรับฟังนะ”
พยสดื่มอีกอึกใหญ่ แล้วระบายออกมา
“เดี๋ยวนี้ตรีทำงานหนัก ไม่ใส่ใจผมเลย ไหนจะมีไอ้เทศราชมาวนเวียนอีก ตรีก็ซื่อซะจนไม่รู้ไม่เห็นว่ามันเข้ามาวอแว”
“โถ ที่แท้ก็หึงคุณเทศ ส่วนคุณตรีคงไม่ได้ทำอะไรเลย คุณยังโกรธเธอได้ เฮ้อ เกิดเป็นเมียแสนดีนี่น่าสงสารจริงๆ”
ชินานางยิ้มทำเป็นสงสาร แต่กิริยาถึงเนื้อถึงตัวกับพยส เหมือนกับว่าจะสิงร่างพยส แล้ว ณ จุดนี้
“ดีที่พัดชายังพอเป็นหูเป็นตาให้ ตอนแรกผมก็ไม่ไว้ใจเด็กคนนี้นะ แต่ไม่รู้สิ ตั้งแต่พัดชามาอยู่บ้าน อะไรๆก็โอเค ผมวางใจเรื่องในบ้านได้เพราะมีพัดชา”
ชินานางเหวี่ยงเมื่อได้ยินชื่อพัดชาแล้วแสยงหู
“พัดชา นังเด็กผู้ช่วยเมียคุณน่ะหรือคะ”
“ใช่ เขาเป็นเด็กดีนะ รับผิดชอบงานดี เอาใส่ทุกคนในบ้าน ผมไม่แปลกใจเลยทำไมตรีถึงรักเด็กคนนี้นัก”
พยสเผลอไผล นึกถึงใบหน้าพัดชา
“พัดชาเค้านิ่ง ดูลึก เหมือนมีอะไร”
ชินานางปรี๊ด “แล้วคุณล่ะ รัก มันหรือเปล่า”
พยสหงุดหงิด “อะไรของคุณ”
“ก็เห็นพูดว่ามันดีอย่างงั้นอย่างงี้ ไม่ใช่ว่าคุณก็หลงรักเด็กคนนี้เข้าอีกคนแล้วนะคะ ถ้าเป็นอย่างนั้น นางไม่อยู่ทีมคุณนะคะ นางจะย้ายไปอยู่ทีมตรีประดับ”
พยสหัวเราะ “คุณมาหึงผมทำไม ผมไม่ใช่เสี่ยจิวซักหน่อย เงินถุงเงินถังก็มีไม่ถึงครึ่งของเสี่ย”
ชินานางมองพยสแล้วเปลี่ยนอารมณ์อีก ยิ้มยั่ว
“แหม แต่คุณมีรสชาติ ที่เสี่ยไม่มีนี่นา”
ชินานางโน้มคอพยสมาใกล้ สบตาเร่าร้อน
มือพยสปัดไปโดนโทรศัพท์บนโต๊ะร่วงตกลงพื้น จอโทรศัพท์เปล่งแสงวาบๆ มีคนโทร.เข้า ปิดเสียงไว้
เป็นตรีประดับนั่งอยู่ที่โต๊ะกินข้าวกับพัดชาและชิงฉัตร ที่โทร.หา
“ยสยังไม่รับโทรศัพท์เลย สงสัยจะยังโกรธพี่อยู่”
“พัดโทร.ให้ไหมคะ”
ชิงฉัตรมองพัดชาอย่างระแวงทันที
“ไม่ต้อง ถ้าอาพยสไม่ยอมรับสายอาตรี ก็คงไม่อยากรับสาย คนอื่น เหมือนกัน”
พัดชาสบตากับชิงฉัตรอย่างไม่พอใจ ชิงฉัตรยิ้มเชือดเฉือน
“ช่างเถอะจ้ะ พัดเก็บโต๊ะเถอะ ยสคงจะทานมาจากข้างนอกเลย”
ตรีประดับช่วยพัดชาเก็บโต๊ะ พยายามไม่คิดอะไรมาก
พัดชาเดินเข้าครัว เอาจานมาล้าง ชิงฉัตรช่วยถือจานตามมา แต่ก็เข้ามายืนประกบติด
“เมื่อกี้พี่คิดจะทำอะไร”
พัดชาล้างจานไปทำเป็นไม่สนใจ
“คิดจะโทรไปอ้อนให้อาพยสกลับบ้านแทนอาตรีงั้นเหรอ ผมไม่ยักรู้ว่านั่นเป็นหน้าที่ของผู้ช่วยด้วย”
พัดชาหันกลับมาสู้หน้า
“ฉันทำได้ทุกอย่างเพื่อให้พี่ตรีสบายใจ”
“แต่เมื่อกี้พี่ก็ได้ยินชัดแล้วนะว่า ไม่ต้อง หวังว่าจะไม่ทำเกินหน้าที่นะ”
“แล้วหน้าที่ของคุณล่ะคะคุณฉัตร คืออะไร ตามสอดส่องจับผิดฉันงั้นเหรอ ใครสั่งมา”
พัดชามองหน้าชิงฉัตรอย่างท้าทาย
“ไม่มีใครสั่ง แต่ผมก็จะทำ เพราะผมดูออกว่าคนอย่างพี่มันอันตราย ถ้าพี่คิดอะไรกับอายส พี่เจอผมจัดการแน่ ที่สำคัญ ถ้าพี่ทำให้อาตรีเสียใจแม้แต่นิดเดียว ผมไม่เอาพี่ไว้แน่
“คุณอาจจะต้องเป็นคนที่กระเด็นออกไปจากที่นี่ก่อนฉัน ก็ได้นะคะคุณชิงฉัตร”
ชิงฉัตรชะงัก พัดชายิ้มเยาะ
“อย่าลืมว่าฉันกำความลับอะไรของคุณไว้บ้าง”
ชิงฉัตรเสียจังหวะไปเล็กน้อย เพราะพัดชาเคยเห็นยาเสพติดที่เขาซ่อนไว้ในห้อง
ทั้งคู่ต่างคนต่างคัดง้างกันอยู่ ราวเสือสองตัวแยกเขี้ยวใส่กันและกัน รอจังหวะขย้ำ อยู่ที่ว่าใครจะเพลี่ยงพล้ำก่อน จนมีเสียงชินานางดังขึ้น
“ยสขา เดินดีๆ สิคะ”
ทั้งคู่หันขวับไปมอง
ชินานางหิ้วปีกพยสเข้าบ้านมา ต่างคนต่างโอบประคองกันและกัน ตรีประดับเดินตามหลัง พยายามจะเข้าพยุงสามีแต่พยสกลับดูกระปลกกระเปลี้ยไปทางชินานาง
“ยสคะ เมาหนักมาเลยหรือคะเนี่ย”
พัดชาและชิงฉัตรตามเข้ามาในห้องรับแขก
พัดชาถึงกับหน้าตึงเมื่อเห็นชินานางกับพยสใกล้ชิดกันปานนั้น ความหึงวูบขึ้น ขณะที่ตรีประดับไม่หึงหวงเลย
“คุณยส เอ้อ คุณตรี ทำไมเป็นอย่างนี้คะ”
“คุณนางเห็นว่ายสเมามากเลยขับรถมาส่ง ฉัตรมาช่วยพยุงอายสเร็ว”
ชิงฉัตรจะเข้าไปช่วยพยุง แต่พยสปัดออก
“ออกไป ชั้นจะคุยกับคุณนาง คุณนางเข้าใจฉัน”
ตรีประดับอ่อนใจ รู้ว่าพยสเมา ไม่คิดมาก
“คุณตรีอย่าเข้าใจนางผิดนะคะ ยสกับนางไม่ได้มีอะไรกันจริงๆ เราสนิทกันเหมือนเพื่อน ใช่ไหมคะยส”
ชินานางเซเข้าหาพยส ตรงข้ามกับคำว่าสนิทแบบเพื่อนอย่างที่หล่อนพูด พลางชม้ายตายิ้มให้ผู้เป็นภรรยาเขา ตรีประดับยิ้มอ่อนโยน พัดชาหึงจนหน้ามืดแล้ว
พยสเอนซบกอดชินานาง แต่สายตาจ้องหน้าตรีประดับ เพื่อประชด
“เห็นไหมตรี ผมก็มีเพื่อนเหมือนคุณ ผมสนิทกับเพื่อน เหมือนคุณคุณสนิทกับไอ้เทศ”
พยสกอดชินานางต่อหน้าตรีประดับ
“คุณฉัตร ช่วยอาคุณสิคะ” พัดชาเสียงขุ่น
พัดชายุชิงฉัตร เพราะชิงฉัตรก็เห็นอยู่เหมือนกันว่าชินานางจงใจยั่วพยสต่อหน้าตรีประดับ
ชิงฉัตรแบกพยสไว้แทน ชินานางทำเป็นมึนซวนเซ
“หมดหน้าที่ของนางแล้ว นางคงต้องกลับ แต่โอ๊ย มึนหัวจัง จะขับรถกลับยังไง”
“ผมไม่ให้คุณกลับ คุณนางต้องค้างที่นี่ ผมเป็นห่วง”
พัดชาเหลียวขวับไปมอง แทบไม่เชื่อหูกับคำพูดพยส
ชินานางยิ้มรับหวานหยด ตรีประดับเอออวยไปด้วย
“จริงค่ะ คุณนางก็คงดื่มมา ขับรถแบบนี้อันตรายนะคะ ห้องที่บ้านเราก็มีหลายห้อง”
พัดชารีบขัด “แต่พี่ตรีคะ คุณนางคงพักที่นี่ไม่ได้ พัดยังไม่ได้เตรียมห้อง”
“งั้นพี่ฝากพัดเตรียมห้องให้คุณนางได้ไหมจ๊ะ” ตรีประดับว่าแล้วหันมาทางชิงฉัตร “ฉัตร พาอายสไปส่งที่ห้องที”
ชิงฉัตรประคองพยส ชินานางแถเข้าช่วยเสียบแทนที่ตรีประดับอีกข้างหนึ่ง ตรีประดับตามไปโดยไม่คิดอะไร เพราะห่วงสามีมากกว่า
ทิ้งพัดชาให้ยืนเดือดดาล มองชินานางอย่างคุมแค้นอยู่ลำพัง
ตรีประดับรีบเข้ามาจัดเตียง ดึงผ้าคลุมออก ชิงฉัตรวางพยสเอนลงนอนบนเตียง แต่พยสดันรวบชินานางลงที่เตียงตามไปด้วย พัดชาตามเข้ามา เห็นชินานางแกล้งล้มตัวลงซบพยสบนเตียงต่อหน้าตรีประดับ
ตรีประดับได้แต่อึ้ง แม้จะรู้ว่าชินานางยั่วอยู่ แต่ก็ไม่หึงเพราะไม่มีเหตุผลพอจะหึง
“ยสคะ คุณเมามากนะคะ นี่เข้าใจผิด คิดว่านางเป็นใครหรือเปล่า”
ชินานางปรายตามาที่ตรีประดับแว่บหนึ่ง ไปที่พัดชาอีกแว่บ พัดชาร้อนหน้าผ่าว รู้ว่าอีกฝ่ายหมายถึงอะไร ชินานางรู้ว่าพยสเริ่มโดนพัดชายั่วแล้ว
“พัดว่าคุณนางก็คงเมาเหมือนกัน ไม่งั้นไม่คงทำอะไรขาดสติแบบนี้”
พัดชาจงใจเหน็บ ชินานางรู้ทัน
“ห้องรับรองแขกพร้อมแล้วใช่ไหมคะน้องพัด คุณนางคะ ไปนอนที่ห้องนั้นนะคะ”
“โอย นางลุกไม่ไหว”
“พัดช่วยค่ะ ลุก”
พัดชาดึงร่างชินานางขึ้นจากพยส ออกแรงแทบจะเป็นกระชาก แถมยังบีบแขนชินานางแน่นจนชินานางตาขวาง
ชิงฉัตรมองหึงพัดชา แต่ไม่ห้ามเพราะเห็นว่าเป็นการกันชินานางออกจากพยส โดยที่ตรีประดับไม่ต้องทำอะไร
“ผมช่วยพี่พัดเอง อาตรีดูแลอายสนะครับ”
ชิงฉัตรและพัดชากึ่งลากกึ่งประคองชินานางออกไป ชินานางโวยวาย
“ยสคะ ยส ดูสองคนนี้สิ จะพานางไปไหนไม่รู้”
พยสปรือตาขึ้น
“คุณนาง จะไปไหน แล้วใครจะดูแลผม”
ตรีประดับจับมือพยสไม่ให้โวยวาย ดูแลพยสอยู่เงียบๆ
ชินานางสงบลงหมดพิษสงไปแล้ว ดูกะปลกกะเปลี้ยอ่อนแรงเมื่อมาถึงหน้าห้องนอนแขก ชิงฉัตรเห็นแบบนั้นเลยผลักชินานางใส่พัดชา
“ถึงไม่ใช่หน้าที่ของพี่ที่จะหึงอาพยสแทนอาตรี แต่ตอนนี้พี่จัดการยัยป้านี่เองแล้วกัน ดูเหมือนจะเป็นคู่แข่งนี่”
ชินานางได้ยินชัด กัดฟันกรอดๆ เงยหน้ามามองตาขวาง อยากจะด่าชิงฉัตร แต่ผู้พูดชิ่งหนีไปลับกายแล้ว
พัดชาเผชิญหน้าคู่ปรับ ชินานางสูดลมอิทธิฤทธิ์เข้ามาใหม่ ท่าทีดูหมดแรงและเมามายเมื่อครู่หายเป็นปลิดทิ้ง
“คิดไม่ผิดจริงๆ ที่ตามคุณยสกลับบ้านคืนนี้ ฉันว่าแล้วว่าเธอมีเจตนาไม่บริสุทธิ์ ขนาดเด็กคนนั้นยังได้กลิ่น”
พัดชาเชือดเฉือนไม่เกรงกลัว “คุณต่างหากที่มีเจตนาไม่บริสุทธิ์ ผู้หญิงดีๆ ที่ไหนจะตาม สามีคนอื่น กลับมาหาเมียเขาถึงบ้าน”
ชินานางยิ้มเยาะ “เธอโมโหทำไม ในเมื่อเธอไม่ใช่เมียเขาซักหน่อย”
พัดชาหน้าตึง ชินานางยิ้มร่า
“คนที่ยั่วขึ้น แล้วหึง คงเป็นเธอ ไม่ใช่ตรีประดับ ฮะๆ โลกนี้มันเป็นอะไร เมียที่แสนดีไม่หึงผัว แต่เป็นนังเด็กรับใช้ในบ้านเสนอหน้าอยากทำหน้าที่แทนคุณผู้หญิง”
“พี่ตรีคงไม่อยากจะลดตัวลงมาต่อสู้กับคุณ เด็กใช้อย่างฉันก็เลยต้องทำหน้าที่แทน หน้าที่เก็บกวาดขยะน่ะค่ะ”
ชินานางตาลุกวาว กำมือแน่น อยากจะตบพัดชาซักฉาด
“ท่าทางคุณเหมือนจะสร่างเมาแล้ว จะเปลี่ยนใจกลับบ้านก็ยังทันนะคะ”
ชินานางเจ็บใจ แต่ไม่ยอมกลับง่ายๆ ปิดประตูดังปังเข้าห้องไป พัดชาถึงแม้จะรู้สึกชนะ แต่ก็หนักใจที่มีก้างชิ้นใหญ่อย่างชินานางมาขวางทางรัก
ชิงฉัตรยกชามใส่ผ้าชุบน้ำมาให้
“ได้แล้วครับอาตรี”
ตรีประดับจะเช็ดตัวให้ พยสหัวเราะเยาะ
“เป็นยังไงตรี หึงผมหรือยัง หึงใช่มั้ย รู้สึกอะไรบ้างมั้ย”
“ยสเมามากนะคะ อยู่นิ่งๆ ค่ะ ตรีจะเช็ดตัวให้”
พยสพยายามยันตัวลุกขึ้น จ้องหน้าตรีประดับ จับแขนทั้งสองของตรีประดับเพื่อประจันหน้า
“คุณหึงหรือเปล่าตรี คุณช่วยแสดงออกว่าคุณยังแคร์ผมบ้างได้ไหม คุณยังรักผมใช่ไหมตรี”
พยสยื่นหน้าเข้าใกล้ตรีประดับขึ้นเรื่อยๆ
“อย่าค่ะ”
ตรีประดับอายชิงฉัตรที่ยังยืนอยู่
ชิงฉัตรรู้สึกอึดอัดเจ็บปวดนิดๆ
“ทำไม ผัวจะใกล้เมียไม่ได้เหรอ เมียต้องทำหน้าที่เมียสิ คุณเป็นเมียผมไม่ใช่หรือตรี”
พยสดึงตรีประดับเข้านัวเนียทันที ไม่แคร์หลายแสบ ชิงฉัตรรู้สึกประดักประเดิด เดินหนีออกไป
“ยสคะ อย่าทำอย่างนี้ ไม่นะยส”
“ผมรักคุณนะตรี ผมเป็นผัวคุณไม่ใช่เทศราช”
พยสเมาจนหลับไป ตรีประดับค่อยๆ วางพยสลงนอน เสียใจที่พยสหึงจนทำไปได้ขนาดนี้
ที่ออฟฟิศหนังสือพิมพ์ คืนเดียวกัน เพื่อนนักข่าวเปิดเว็บดูแล้วหันมาหาเทศราช
“โธ่เอ๊ย ฉันก็นึกว่าเรื่องอะไร สรุปแกรู้จักเด็กในรูปนี้เหรอ”
“เด็กนี่เป็นหลานชายเพื่อนฉัน”
“ถึงว่า”
“คืนนั้นเด็กมันพยายามทำร้ายตำรวจด้วย ฉันกลัวว่าถ้าตำรวจจำหน้าได้จะเป็นเรื่องใหญ่ แกช่วยเอารูปนี้ออกไปได้ไหม ฉันขอร้อง”
“แล้วทำไมเพื่อนแกไม่มาขอร้องเองวะ”
“เขายังไม่รู้เรื่องนี้หรอก ฉันไม่อยากให้รู้ด้วยเดี๋ยวจะไม่สบายใจ”
เพื่อนมองเทศราชแล้วอมยิ้ม
“ปิดทองหลังพระอีกแล้วเพื่อนกู แสดงว่าเพื่อนคนนี้ต้องเป็นเพื่อนคนพิเศษแน่ๆ ลบก็ได้วะ แต่แกติดหนี้ฉันแล้วนะโว้ย”
เพื่อนหันไปเข้าไปหน้าดีไซน์เว็บแล้วลบรูปทิ้งให้ เทศราชโล่งอก
แต่ละคนที่นอนอยู่ในบ้านหลังนี้ ตกอยู่ในวังวนของอารมณ์ใครมัน
ชิงฉัตรนั้นสงสารตรีประดับ มีแต่เรื่องและคนเข้ามาทำให้ชีวิตคู่วุ่นวาย สัญญากับตรีประดับว่า
“อาตรีครับ ผมจะไม่ทำให้อาเสียใจ ผมรักอา”
ส่วนในห้องนอนแขก ชินานางนอนหงุดหงิดงุ่นง่านอยู่บนเตียง สักพักก็ยิ้มกริ่มนึกอะไรออก โพสท่ายั่วยวนถ่ายรูปบนเตียง โพสต์ลงไอจี
ภาพในไอจีชินานาง เป็นภาพนางร้ายซุปตาร์เปลือยไหล่นอนยั่วอยู่บนเตียง พร้อมแคปชั่น
“เตียงนุ่ม บ้านใครน๊า”
พัดชาจ้องไอจี เดือดสุดขีด
“ชินานาง”
ฝ่ายตรีประดับนั่งเฝ้าพยส ลูบใบหน้าเขาแล้วดันรู้สึกผิดเสียเอง
“ยสขา ตรีขอโทษนะคะ ตรีคงทำให้ยสโกรธมาก ยสถึงแสดงออกแบบนี้ ตรีไม่โกรธคุณนะคะ”
พยสนอนหลับไหลไม่รู้เรื่อง ตรีประดับนอนลงเคียงข้างกอดแขนสามีไว้
ตื่นเช้าขึ้นมา พยสออกอาการแฮงค์ปวดหัวไม่หาย ตรีประดับเอาใจชงชาร้อนมาให้ พยสเริ่มรู้สึกว่าเมื่อวานทำอะไรไม่ดีกับตรีประดับไว้หลายอย่าง แต่ภรรยาแสนดีก็ยังไม่โกรธเคืองใดๆ
“ปวดหัวเหรอคะ ดื่มชาร้อนๆเสียหน่อย แล้วนอนพัก บ่ายนี้ค่อยเล่นน้ำกัน ออกกำลังกายเสียหน่อยจะได้สดชื่น ดีไหมคะ”
พยสกุมมือตรีประดับ สบตานิ่ง แค่นั้นตรีประดับก็ยิ้มหวาน ลูบแก้มสามีเบาๆ
“ขอบคุณนะตรี”
พัดชามองอยู่ เจ็บปวดใจ ข้องใจสุดๆ ที่ตรีประดับไม่โกรธ ไม่คิดมาก ในขณะที่พัดชายังร้อนรุ่มเพราะชินานาง
ตัวต้นเหตุเดินนวยนาดเยื้องกรายเข้ามาห้องอาหาร นั่งลงใกล้ๆ พยส
พยสตอนนี้อึดอัดลำบากใจ เพราะรู้แล้วว่าพาชินานางเข้ามาน่าจะทำให้ตรีประดับอึดอัดลำบากใจบ้าง
“คุณนางจะรับอะไรดีคะ”
ตรีประดับรับแขกยิ้มแย้มเป็นปกติ
“นางเอาเหมือนยสค่ะ ยสกินอะไร นางกินแบบนั้น”
“คุณพยสทานอยู่แบบเดียว และพัดเตรียมไว้ที่เดียวเสียด้วย ไม่มีสำรองค่ะ” พัดชาหมั่นไส้
“เธอก็ทำให้ฉันสิ เป็นหน้าที่เธอไม่ใช่เหรอ คุณ ผู้ช่วย”
ชินานางจงใจเน้นเสียง “ผู้ช่วย” พัดชาเดือดปุดๆ ขึ้นมาอีก พยสอึดอัดใจแต่ไม่แก้ปัญหา
ตรีประดับตัดความว่า “น้องพัดไปเตรียมให้คุณชินานางเถอะจ้ะ เธอเป็นแขก เราต้องขอบคุณเธอที่พาคุณพยสมาส่งบ้าน”
พัดชาจำใจเข้าครัวไป พยสทำอะไรไม่ถูก เปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่น
“นายฉัตรไปไหน”
“ขอไปติวหนังสือบ้านเพื่อนค่ะ อาทิตย์หน้าจะสอบแล้ว”
“แน่ใจเหรอ ไปติวหนังสือโป๊สิไม่ว่า”
พยสยังคาดโทษหลานชายแสบอยู่ ตรีประดับลูบแขนให้ใจเย็นๆ พยสอ่อนลงวางใจเมียรัก
ชินานางมองผัวเมียรักกันดี ไม่มีเรื่องหึงหวง ชักไม่สนุก
“ยสขา นางอยากทานขนมปังของคุณ”
พยสยังไม่ทันอะไร ชินานางคว้ามือพยสที่ถือขนมปังอยู่ แล้วดึงมือพยสให้ป้อนขนมปังเข้าปากหล่อนทันที
พัดชาออกมาพร้อมกาแฟ เห็นชินานางออกลายอีกรอบ เลยกลั้นอารมณ์หึงไม่อยู่ เดินมาเสิร์ฟกาแฟตรงกลาง จงใจแยกพยสออกจากพัดชา
“คุณนางคะ กาแฟค่ะ”
ชินานางหมั่นไส้พัดชาเต็มกลืน ชิมกาแฟแล้วเบ้ปาก
“นี่เอาอะไรชง มือหรือว่า...”
พยสปราม “คุณนาง”
ตรีประดับหน้าเจื่อน ตกใจ
ตัวต้นเหตุเดินนวยนาดเยื้องกรายเข้ามาห้องอาหาร นั่งลงใกล้ๆ พยส
พยสตอนนี้อึดอัดลำบากใจ เพราะรู้แล้วว่าพาชินานางเข้ามาน่าจะทำให้ตรีประดับอึดอัดลำบากใจบ้าง
“คุณนางจะรับอะไรดีคะ”
ตรีประดับรับแขกยิ้มแย้มเป็นปกติ
“นางเอาเหมือนยสค่ะ ยสกินอะไร นางกินแบบนั้น”
“คุณพยสทานอยู่แบบเดียว และพัดเตรียมไว้ที่เดียวเสียด้วย ไม่มีสำรองค่ะ” พัดชาหมั่นไส้
“เธอก็ทำให้ฉันสิ เป็นหน้าที่เธอไม่ใช่เหรอ คุณ ผู้ช่วย”
ชินานางจงใจเน้นเสียง “ผู้ช่วย” พัดชาเดือดปุดๆ ขึ้นมาอีก พยสอึดอัดใจแต่ไม่แก้ปัญหา
ตรีประดับตัดความว่า “น้องพัดไปเตรียมให้คุณชินานางเถอะจ้ะ เธอเป็นแขก เราต้องขอบคุณเธอที่พาคุณพยสมาส่งบ้าน”
พัดชาจำใจเข้าครัวไป พยสทำอะไรไม่ถูก เปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่น
“นายฉัตรไปไหน”
“ขอไปติวหนังสือบ้านเพื่อนค่ะ อาทิตย์หน้าจะสอบแล้ว”
“แน่ใจเหรอ ไปติวหนังสือโป๊สิไม่ว่า”
พยสยังคาดโทษหลานชายแสบอยู่ ตรีประดับลูบแขนให้ใจเย็นๆ พยสอ่อนลงวางใจเมียรัก
ชินานางมองผัวเมียรักกันดี ไม่มีเรื่องหึงหวง ชักไม่สนุก
“ยสขา นางอยากทานขนมปังของคุณ”
พยสยังไม่ทันอะไร ชินานางคว้ามือพยสที่ถือขนมปังอยู่ แล้วดึงมือพยสให้ป้อนขนมปังเข้าปากหล่อนทันที
พัดชาออกมาพร้อมกาแฟ เห็นชินานางออกลายอีกรอบ เลยกลั้นอารมณ์หึงไม่อยู่ เดินมาเสิร์ฟกาแฟตรงกลาง จงใจแยกพยสออกจากพัดชา
“คุณนางคะ กาแฟค่ะ”
ชินานางหมั่นไส้พัดชาเต็มกลืน ชิมกาแฟแล้วเบ้ปาก
“นี่เอาอะไรชง มือหรือว่า...”
พยสปราม “คุณนาง”
ตรีประดับหน้าเจื่อน ตกใจ
“รสชาติไม่ได้เรื่อง” ชินานางว่า
“ก็ปกตินี่คะ พัดทำแบบที่คุณพยสชอบ” พยสบอก
“ยสชอบรสนี้เหรอคะ จืดๆ เฝื่อนๆ นี่เธอ มาลองชิมซิ แล้วบอกซิว่าเธอไม่ได้แกล้งฉัน”
ชินานางยื่นถ้วยกาแฟให้พัดชาตรงหน้า พัดชาขยับเข้ามาใกล้อีก จังหวะนั้น ชินานางแกล้งทำกาแฟหกใส่พัดชา
“อุ๊ย ฉันไม่ได้ตั้งใจนะ เธอมาชนเองนะพัดชา”
พัดชาโกรธ จนเริ่มทนไม่ไหว “คุณจงใจ”
“น้องพัด”
ตรีประดับตกใจ เห็นพัดชาโดนกาแฟร้อนราดมือ
“น้องพัด เป็นอะไรหรือเปล่าจ๊ะ”
พัดชายืนนิ่ง จ้องหน้าชินานางอย่างเอาเรื่อง
“พี่ทำแผลให้นะจ๊ะน้องพัด ไปจ้ะ”
ตรีประดับรีบดึงพัดชาออกไปทำแผล ชินานางเบ้ปากมองตาม พยสเห็นบรรยากาศเสียแล้วเลยตัดบท
“คุณนางครับ กลับเถอะ เดี๋ยวผมไปส่ง”
“แต่นางยังไม่ได้กินกาแฟเลยนะคะ”
“เดี๋ยวผมแวะซื้อให้”
พยสจับแขนชินานางให้ลุกขึ้นแล้วพาออกไป ชินานางกระฟัดกระเฟียด
ตรีประดับช่วยทายาให้พัดชา
“เจ็บไหมจ๊ะ”
“พัดไม่เจ็บหรอกค่ะ” พัดชามองหน้าตรีประดับอย่างค้นหา “แล้วพี่ตรีล่ะคะ ไม่เจ็บไม่ปวดบ้างเหรอที่ผู้หญิงคนนั้นเข้ามาวุ่นวาย ทำตัวใกล้ชิดสนิทสนมกับคุณพยสต่อหน้าพี่ขนาดนี้”
ตรีประดับหลบสายตา ลึกๆ ก็รู้สึก แต่ไม่อยากคิดมาก พัดชาลอบมองอาการตรีประดับแล้วใส่ไฟเนียนๆ
“คุณพยสก็เหลือเกิน ทำเหมือนพาคุณชินานางมาเย้ยพี่ตรี”
“เมื่อคืนพยสเมา แล้วก็กำลังน้อยใจพี่ ก็เลยประชดอะไรไม่เข้าท่า แต่ตอนนี้เราคุยกันแล้ว เขาคงไม่ทำแบบนั้นอีกแล้วล่ะจ้ะ”
พัดชาอึ้ง ที่ตรีประดับโลกสวยได้อีก ตรีประดับเห็นอีกฝ่ายหน้าเครียด กลับคิดว่าโกรธแทนตนไม่หาย
“น้องพัดไม่ต้องห่วงนะจ๊ะ พี่โอเค อย่างที่พี่บอก ตราบใดที่พี่กับยสไว้ใจกันและกัน ไม่มีใครจะมาทำลายความรักของเราสองคนได้หรอกจ้ะ”
ตรีประดับยิ้มให้พัดชา แล้วออกจากห้องไป
พัดชามองตาม แววตาดูมีความสมเพชเวทนาตรีประดับอยู่เต็ม พูดกับตัวเองลอยๆ ว่า
“พี่ตรีแน่ใจเหรอคะ”
ตรีประดับออกมาซื้อของใช้ กำลังเลือกสินค้าอยู่ในซูเปอร์มาร์เก็ต แต่ใจลอย ไม่รู้จะซื้ออะไร จู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนมีคนโยนของเข้ามาในรถเข็น พอหันมาก็เห็นเทศราชเป็นคนหยิบเลือกของให้
“เทศ มาตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย”
“ซักพักนึงแล้ว เห็นตรียืนเหม่อเลยไปหยิบของมาให้นี่ไง ครบไหม”
ตรีประดับมองดูของงงๆ “แล้วรู้ได้ไงว่าเราจะเอาอะไรบ้าง”
“ตรีก็ซื้อแต่ของยี่ห้อเดิมๆ จำได้หมดแหละ”
ตรีประดับมองเทศราชยิ้มๆ
“ว่าแต่รู้ได้ยังไงว่าเราอยู่ที่นี่”
“พัดชา”
พยสกลับเข้าบ้านมา เห็นพัดชาจัดห้องโถงบ้านอยู่ตามลำพัง
“ตรีทำงานอยู่เหรอพัด”
พัดชามองสบตา พูดบอกด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยเหมือนไม่คิดอะไร
“พี่ตรีออกไปหาคุณเทศราชค่ะ”
โดยก่อนหน้านี้ พัดชานั่งเองเป็นคนกดโทรศัพท์หาเทศราช ทำเสียงลำบากใจ
“คุณเทศคะ คือพัดมีเรื่องอยากจะรบกวนให้ช่วยหน่อยค่ะ เกี่ยวกับพี่ตรี...”
พยสถอนใจอย่างหงุดหงิด พัดชาลอบยิ้มที่ทำให้ผัวเมียระแวงกันได้ แสร้งพูดเรื่องอื่นต่อ
“เห็นพี่ตรีบอกว่าบ่ายนี้คุณพยสจะว่ายน้ำ เดี๋ยวพัดเตรียมผลไม้สดไว้ให้ทานนะคะ”
“ผมควรจะดีใจไหมเนี่ย เมียไปหาผู้ชายอื่น แต่ก็ไม่ลืมนึกถึงผัว”
พัดชาทำเป็นยิ้มเจื่อนๆ แต่สะใจลึกๆ ชิงฉัตรเดินสวนออกมา
“ทำไมพี่พัดไม่บอกไปว่า อาตรีออกไปซื้อของมาทำเค้กวันเกิดล่วงหน้าให้อายส”
พยสชะงักหันมองชิงฉัตร พัดชาหน้าเสียไป หลบตาวูบ
“วันนี้วันเกิดฉันซะเมื่อไร”
“ก็ฉลองล่วงหน้าไงครับ อายสก็ทำไม่รู้ไม่ชี้หน่อยก็แล้วกันนะ ผมแค่อยากบอกว่าอาตรีไม่ได้ไปหาผู้ชายที่ไหน”
ชิงฉัตรมองจ้องตาพัดชาอย่างเอาเรื่อง แต่พัดชาไม่ยอมสู้สายตา
พยสคลายหงุดหงิดลง เดินขึ้นบ้านไป ชิงฉัตรเดินตรงมาที่พัดชา ที่ทำเป็นเช็ดโต้ แล้วตะบบมือไม่ให้หนี
“ผมรู้ว่าพี่จะเสี้ยมให้ผัวเมียทะเลาะกัน”
“พี่ตรีบอกว่าจะทำเซอร์ไพรส์คุณพยส ฉันก็เลยต้องช่วยปิด คุณไม่ควรพูดออกไป” พัดชาเฉไฉ
“มีข้ออ้างอื่นให้ใช้ตั้งเยอะ ทำไมต้องลากอาเทศมาเกี่ยวด้วย”
“ฉันคิดไม่ทัน”
“ไม่เชื่อ”
ชิงฉัตรจ้องพัดชาให้ทะลุไปถึงข้างใน พัดชากระชากมือออก
“ฉันต้องแคร์ไหมคะ ถ้าคุณจะไม่เชื่อ”
พัดชาพูดด้วยสีหน้าท้าทายนิดๆ แล้วเดินจากไป ชิงฉัตรเม้มปาก รู้ว่าพัดชาไม่ได้ทำเล่นๆ แน่
สองคนเดินคุยกันอยู่ในซุปเปอร์มาร์เก็ต ตรีประดับแปลกใจเมื่อได้ฟังว่าพัดชาเป็นคนโทร.หาเขา
“น้องพัดน่ะเหรอ บอกว่าตรีอยากพบเทศ”
เทศราชเอะใจ มีสีหน้าสับสน “พัดชาบอกว่าตรีมีเรื่องไม่สบายใจเกี่ยวกับนายยส ก็เลยอยากปรึกษา”
จากที่งงๆ ตรีประดับหัวเราะเบาๆ ออกมา คิดในแง่งามไปอีก
“สงสัยน้องพัดจะเป็นห่วงเรา ก็เลยหลอกให้เทศมาหา เมื่อคืนมีเรื่องยุ่งๆ นิดหน่อย แต่ตอนนี้ดีกันแล้วจ้ะ”
“เกี่ยวกับเราหรือเปล่า”
ตรีประดับยิ้มเจื่อนๆ “เทศไม่ต้องคิดมากหรอก ยสแค่น้อยใจนิดหน่อย”
เทศราชรู้ทันทีว่าเกี่ยวกับตัวเองแน่ แต่ตรีประดับไม่อยากตอกย้ำ
“งั้นตรีก็ไม่ควรอยู่กับเราที่นี่ กลับไปหาเขาเถอะ ผู้ชายอ่ะนะ เวลางอนก็อยากให้ผู้หญิงมาง้อเหมือนกัน แค่ได้รู้ว่าเขายังแคร์เราอยู่ โกรธแค่ไหนก็ลืมหมด”
ตรีประดับยิ้มให้เทศราชพยักหน้าเห็นด้วย
คืนนั้นตรีประดับในชุดนอนสวมแว่นตานั่งทำงานเงียบๆ อยู่ในห้องทำงาน จนพยสเคาะประตู เปิดเข้ามา ตรีประดับหันไปทักเฉยๆ
“อ้าว ยังไม่นอนอีกเหรอคะยส”
พยสมองอย่างพิเคราะห์ พอไม่เห็นว่าตรีประดับจะมีท่าทีเซอร์ไพรส์อะไรเลย แถมยังใส่แว่นทำงานหน้ายุ่ง ก็แอบเศร้า
“ผมจะมาเตือนตรีว่า พรุ่งนี้ผมจะไปทำงานที่เชียงใหม่”
“อ๋อ จริงด้วยสิ ตรีมัวแต่ทำงานจนลืมไปเลย เดี๋ยวจัดกระเป๋าให้นะคะ”
ตรีประดับวางงาน ลุกเดินออกไปเงียบๆ
พยสมองตามด้วยสีหน้าเศร้า มองดูปฏิทินทำงานบนโต๊ะตรีประดับ หยิบมา เห็นตรีประดับวงเลขวันที่ 28 ไว้ว่า “ส่งต้นฉบับ”
“เซอร์ไพรส์อะไรกัน แค่วันเกิดเรายังมีแต่คำว่าส่งต้นฉบับ”
พยสถอนใจวางปฏิทินลงเซ็งสุดๆ เสียงตรีประดับดังมาจากห้องนอน
“ยสคะ จะเอากระเป๋าไปไหนไป”
“ใบไหนก็ได้จ้ะ”
เสียงตรีประดับดังมาอีก “เนคไทล่ะคะ เอากี่เส้นดี”
“ผมไปแค่วันเดียวเองนะตรี”
“แล้วยสจะเอาเชิ้ตสีไหนคะ”
พยสเริ่มหงุดหงิด “เดี๋ยวผมเข้าไปเลือกเองแล้วกัน”
เมื่อพยสเปิดประตูเข้าไปแล้วต้องชะงัก ห้องที่มืดสนิท แต่สว่างเรืองรองขึ้นด้วยแสงสีส้มของเปลวเทียน ตรีประดับเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าเขา พร้อมกับคัพเค้กอันเล็กๆ ในมือ
“โชคดีที่เค้กอบเสร็จทันพอดี ไม่งั้นแผนของตรีพังแน่ๆ”
“นี่ตรี”
พยสอึ้งคาดไม่ถึง ตรีประดับจับมือพยสเดินมานั่งด้วยกันบนเตียง
“พรุ่งนี้วันเกิด แต่ยสไม่อยู่บ้าน ตรีก็เลยวางแผนว่าจะฉลองให้วันนี้ตั้งแต่แรกแล้ว แต่พอน้องพัดกระซิบว่ายสรู้แผนแล้ว ก็เลยต้องเล่นละครนิดหน่อย”
“ผมนึกว่าตรีจะลืม”
“ไม่มีอะไรเกี่ยวกับยสที่ตรีจะลืมหรอกค่ะ ยสคือรักครั้งแรกและครั้งเดียวของตรี คำสัญญาที่ตรีให้ไว้ตอนได้รับสร้อยนี้ที่ซวาระ ตรียังไม่เคยลืมนะคะ”
ตรีประดับเปิดคอเสื้อ หยิบชูสร้อยที่พยสซื้อให้ดู
“ยสบอกว่าจะดูแลตรี ตรีเองก็รับปากว่าจะดูแลยส มันจะยังเป็นเช่นนั้นเสมอ
พยสมองสร้อยซาบซึ้งใจ จ้องหน้าตรีประดับพูดอะไรไม่ออก
“ผม...”
“อย่าระแวงสงสัยในตัวตรีเลยนะคะ เพราะผู้ชายที่ตรีเลือกคือยส คุณจะเป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของตรี อย่างน้อยก็จนกว่าคุณจะเลิกรักตรีแล้ว”
พยสยกมือแตะปิดปากตรีประดับไว้ไม่ให้พูด แล้วรีบบอกหนักแน่น
“ไม่ ผมจะไม่มีวันเลิกรักคุณ”
ตรีประดับซึ้งใจยิ้มทั้งน้ำตา พยสมองเค้กหลับตาอธิษฐาน พร้อมกับเป่าเทียน แล้วดึงตรีประดับเข้ามากอดเต็มรัก
ตรีประดับค่อยๆ วางเค้กลงไว้บนโต๊ะข้างเตียง
พัดชาเงยหน้ามองขึ้นไปที่ห้องนอนพยสและตรีประดับ เห็นว่าเสียงเทียนในห้องดับมืดสนิทลงแล้ว นึกรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น หญิงสาวร้าวรานในใจ สวมกอดตัวเองอย่างอ้างว้าง ชิงฉัตรเดินออกมา
“กอดตัวเองมันจะไปอุ่นอะไร มือผมอุ่นกว่าเยอะ”
พัดชาเมินหน้าและจะเดินหนีไป ชิงฉัตรดึงแขนให้หันกลับมา
“ปล่อยฉัน”
“ยอมรับเถอะนะว่าพี่ก็อยากได้แบบนั้น”
ชิงฉัตรพยักพเยิดขึ้นไปที่ห้องนอนชั้นบน แล้วมองแขนตรีประดับ
“ผมแตะนิดเดียวก็รู้แล้ว ข้างในพี่มันกำลังเต้นริกๆ อยากจะไปอยู่ตรงนั้นแทนอาตรี แต่ผมกับอายสก็ไม่ได้ต่างกันหรอก เราสายเลือดเดียวกัน”
“สกปรก”
“ผมไม่ใช่คนที่คิดตรีท้ายครัวคนอื่น ใครกันแน่ที่สกปรก”
ชิงฉัตรหัวเราะเยาะพร้อมกับยิ้มยั่ว จับแขนพัดชาอีกข้างให้หันกลับมาทั้งตัว แล้วยื่นริมฝีปากเข้าไปใกล้ๆ พูดเย้ยเบาๆ ให้พัดชาตัวสั่นเล่น
“ผมอุตส่าห์ชี้ทางขึ้นสวรรค์ให้ พี่พัดยังไม่เห็นอีกเหรอ”
พัดชามองใบหน้าชิงฉัตรขนลุกเกรียว แรงปรารถนาแปลกๆ แล่นเข้าสู่หัวใจเป็นริ้วๆ พลันใบหน้ายิ้มๆ ของชิงฉัตรก็เปลี่ยนเป็นดุดัน
“หรือเห็นแต่ทางลงไปปีนต้นงิ้วในนรก”
พัดชาโกรธจนสุดทน กระชากมือออกจากชิงฉัตรอย่างแรง แล้วตบหน้าดังฉาด
“ฉันยอมลงนรก”
พัดชาจะเดินไป แต่ชิงฉัตรกระชากกลับมา
“ถ้าพี่ลงไปคนเดียวผมก็จะไม่ว่า แต่พี่กำลังจะลากอาผมสองคนให้ตกนรกลงไปด้วย ผมไม่ยอม” ชิงฉัตรตาวาววับ
“ปล่อยนะคุณฉัตร ไม่งั้นฉันจะร้องจริงๆ ด้วย”
“ถ้าไม่มีเสียงก็ไม่มีใครได้ยิน”
ชิงฉัตรปิดปากพัดชาด้วยริมฝีปากทันที พัดชาทั้งดิ้นทั้งผลักไสเด็กหนุ่มออก แต่ชิงฉัตรไม่ยอมหยุด ตอบโต้ด้วยความเร่าร้อน จนกระทั่งจิตใต้สำนึกของพัดชาเหมือนถูกปลุกเร้าแรงปรารถนาขึ้น อาการขัดขืนค่อยๆ เปลี่ยนเป็นการยินยอมพร้อมใจ
จากที่คอยผลักไสมือพัดชากลายเป็นดึงรั้งเข้ามา และโอบกอดชิงฉัตรไว้ หนุ่มช่างกลวัยเจริญพันธุ์ชะงักเล็กน้อย ก่อนจะคลี่ยิ้มอย่างพึงพอใจ เมื่อรู้ว่าสัญชาติญาณของพัดชากำลังตอบสนอง
ฝ่ายพยสกับตรีประดับนอนกอดกันหลับอยู่ในอ้อมแขนกันและกัน ที่คอตรีประดับยังสวมสร้อยของพยสอยู่
อีกฟากหนึ่ง เทศราชกำลังมองสร้อยโคลเวอร์ที่ซื้อและตั้งใจจะให้ตรีประดับแต่ก็ไม่ได้ให้ ช่างภาพหนุ่มนึกถึงแต่ตรีประดับ สุดท้ายผล็อยหลับไปพร้อมกับสร้อยในมือ
ส่วนในห้องพัดชา ประตูเปิดผ่างออก ชิงฉัตรผลักพัดชาที่ตอนนี้ไม่มีอาการขัดขืนแล้วเข้ามาในห้อง ทั้งสองยังพัวพันกัน เห็นเงาร่างๆ ของทั้งสองล้มลงบนเตียง
รุ่งเช้า พัดชานอนหันหลังนิ่งอยู่บนเตียง โดยมีชิงฉัตรซบอิงกับแผ่นหลัง
“ผมบอกแล้วว่าพี่จะต้องชอบ”
พัดชานิ่งไม่ตอบ สีหน้าแววตาว่างเปล่า เหมือนคนสมองหลุดลอยไป ในใจกำลังหดหู่ถึงขีดสุด และสับสนกับสิ่งที่ตัวเองทำ แต่อีกใจก็พอใจกับเพศรสเร่าร้อนที่ห่างเหินไปนาน
ชิงฉัตรยกนิ้วไล้ตามแขนพัดชาไปมา กระซิบข้างหูเสียงกระเส่า
“รับรองได้ว่าอาพยสไม่มีทางให้พี่ได้แบบนี้”
พัดชาชักรำคาญ “เลิกพูดได้แล้ว ฉันหนวกหู”
“ถ้าไม่ให้พูด แล้วเราจะทำอะไรกันดี”
ชิงฉัตรจูบไหล่พัดชาเบาๆ แล้วค่อยๆ เลื้อยไล้มือเข้าไปใต้ผ้าห่ม พัดชายังนอนนิ่งเหมือนซากศพ แต่รับรู้ได้ว่าสัมผัสของชิงฉัตรได้ปลุกเร้ากำหนัดและแรงปรารถนาของเธอคุโชนขึ้นมาอีกครั้ง
รุ่งเช้า ตรีประดับดื่มกาแฟคุยเฟซไทม์กับสามี อย่างเพลิดเพลิน
“ตรีอยากได้อะไรที่เชียงใหม่ก็ไลน์มานะจ๊ะ คืนนี้ผมจะกลับเลย”
“อ้าว ไหนว่าจะกลับพรุ่งนี้ไงคะ”
“ผมเปลี่ยนใจแล้ว เดี๋ยวประชุมเสร็จก็กลับเลย คิดถึงตรี”
“ขับรถดีๆ นะคะ”
พยสบ๊ายบ่ายส่งจูบให้ตรีประดับแล้ววางสายไป ชิงฉัตรเดินเข้ามาเห็นตรีประดับกำลังโบกมือให้พยสก็แกล้งกระแอม
“หวานกันจังเลยนะครับ เห็นอาสองคนมีความสุข ผมก็สบายใจไปด้วย”
“พูดอย่างนี้ อยากได้เงินค่าขนมเพิ่มพิเศษเพิ่มเท่าไรจ๊ะ”
“โธ่ อาตรี ผมพูดจริงๆ” เด็กหนุ่มพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ขอให้ได้เห็นอาตรียิ้มแย้มมีความสุขแบบนี้ไปนานๆ ผมก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว”
ตรีประดับมองยิ้มๆ ชิงฉัตรเดินมานั่งใกล้ แตะกุมมือตรีประดับบนโต๊ะ
“อาตรีไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะคอยปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายออกไปจากชีวิตของอาเอง”
ตรีประดับงงๆ กับคำพูดดังกล่าว ยิ่งเห็นชิงฉัตรกุมมืออยู่ก็ยิ่งกระดากใจ พยายามดึงมือออก
“ขอบใจนะจ๊ะ”
ตรีประดับทำเป็นจิบกาแฟต่อ ชิงฉัตรมองจ้องอาสะใภ้ทั้งรักทั้งบูชา
พัดชาเข้ามาทำความสะอาด ปัดฝุ่นเช็ดถูห้องนอนพยส พอเสร็จก็หันมาจัดหมอนผ้าห่มบนที่นอนให้เป็นระเบียบ แต่พอมือแตะหมอน คล้ายกับได้สัมผัสไออุ่นจากพยส จนเกิดความสะท้านขึ้นมาอีก
พัดชากอดหมอนไว้กับอก ค่อยๆ ทรุดลงนั่งตรงที่พยสนอน ลูบไล้มือไปตามรอยร่างของพยส เหมือนมองเห็นภาพพยสกับตรีประดับไปด้วย
พัดชาหลับตาลงไล่ความคิดนั้นออกไป กลายเป็นเห็นภาพของหล่อนกับชิงฉัตรกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันบนเตียงนี้แทน
ภาพนั้นกระแทกเข้ามาในจิตใต้สำนึกของพัดชาอย่างรุนแรง หลายภาพประดังประเดเข้ามาเป็นระลอก พัดชากระอักกระอ่วน ทั้งเจ็บใจ เสียใจ อยากจะกรีดร้องจนต้องเอาหมอนอุดปากไว้ ซบหน้าลงสะอื้นไห้บนเตียง น้ำตาไหลรินออกมาที่หางตา จนมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
“น้องพัดอยู่ในนี้หรือเปล่าจ๊ะ”
พัดชาชะงัก วางหมอนจัดเรียบร้อยรีบลุกขึ้น หันหลังให้ประตู ปาดเช็ดน้ำตาโดยไว แล้วหันไปหาตรีประดับที่เปิดเข้ามา
“พี่ตรีต้องการอะไรหรือคะ”
“เดี๋ยวพี่จะไปคุยงานที่โรงพิมพ์ แล้วก็แวะหาเพื่อนต่อ วันนี้น้องพัดไม่ต้องไปนะจ๊ะ”
“ได้ค่ะ”
ตรีประดับจะไปแต่งตัว แต่เห็นพัดชาตาแดงๆ ก็ชะงักมอง
“น้องพัดเป็นอะไรหรือเปล่า ตาแดงๆ เหมือนคนร้องไห้”
พัดชารีบก้มหน้าหลบตา อ้อมแอ้มตอบ
“เมื่อกี้พัดปัดฝุ่น ฝุ่นก็เลยเข้าตาน่ะค่ะ เดี๋ยวพัดไปทำห้องอื่นต่อนะคะ”
พัดชารีบหลบฉากออกไป ไม่อยากให้ตรีประดับจับผิดได้
คืนนี้พัดชาขังตัวเองอยู่ใต้สายน้ำภายในห้องน้ำ ไล่ความรุ่นร้อนในกายออกไป พอถูเนื้อตัว กลับมีภาพจำของรอยสัมผัสจากชิงฉัตรแว่บเข้ามา พัดชาอดนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนไม่ได้ ชิงฉัตรร้อนแรงหื่นกระหายเต็มกำลัง พัดชาทนไม่ไหว รีบปิดน้ำ แต่งตัวเดินออกจากห้องน้ำ
แต่พอพัดชาเปิดประตูออกมา ก็เห็นชิงฉัตรนั่งยิ้มอยู่ที่เตียง
“คุณมาทำอะไรอีก”
“ผมก็มานอนน่ะสิ” เด็กหนุ่มยิ้มเป็นต่อ “หรือจะยังไม่นอนดีน้า”
ชิงฉัตรลุกเดินเข้ามาหา พัดชาถอยหนี
“ออกไปนะคุณชิงฉัตร คุณต้องการอะไรจากฉันอีก”
“ไม่เอาน่า พี่จะบอกว่าเรื่องเมื่อคืนนี้มันไม่น่าประทับใจเหรอ”
ชิงฉัตรฉวยแขนพัดชาแล้วดึงเข้ามาใกล้ ลมหายใจอุ่นๆ ทำให้พัดชาสะท้าน
“คืนนี้พี่ตรีกลับดึก อายสก็ไม่อยู่ บ้านนี้เป็นของเราแล้ว”
พัดชาเคลิ้มๆ แต่พอชิงฉัตรจะจูบก็ได้สติขึ้นมา รีบผลักออก พยายามปฏิเสธตัวเอง
“ไม่ ฉันไม่ต้องการ”
“ร้อนเป็นไฟแบบนี้เหรอไม่ต้องการ”
ชิงฉัตรลูบไล้ยั่วยวน แล้วระดมจูบพัดชาทันที พัดชาถอยไปเรื่อยๆ สู้แรงไม่ได้ มือที่ผลักออกกะปลกกะเปลี้ย ตกลงข้างตัว ขณะที่ชิงฉัตรรวบเอวเข้ามาในอ้อมแขน อีกมือหนึ่งเอื้อมไปปิดสวิทช์ไฟห้องพัดชาดับลง
พัดชาน่าจะเสร็จชิงฉัตรหลายครั้ง เพราะความเผลอไผล แต่ถึงจุดนึงที่รู้สึกว่าตัวเองกำลังกลายเป็นวัตถุทางเพศของชิงฉัตร ก็ได้เริ่มคิดว่าไม่ไหวแล้ว จะไม่ยอมเป็นเหมือนตอนอยู่ญี่ปุ่นอีก พัดชาเคลิ้มไปกับชิงฉัตรเพราะความปรารถนาส่วนลึก แต่ความต้องการแท้จริงก็คือความรักดีๆ จากผู้ชายดีๆ อย่างพยส
พัดชายิ้มร้ายลึกล้ำ เริ่มดำเนินแผนการเขี่ยชิงฉัตรให้พ้นทาง
อ่านต่อตอนที่ 12