xs
xsm
sm
md
lg

เพลิงรักไฟมาร ตอนที่ 12

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เพลิงรักไฟมาร ตอนที่ 12

พรพจีรีบเดินจ้ำมาที่บ้านวิษธรด้วยความร้อนรุ่มในใจ เสียงหัวเราะเยาะคำพูดเย้ยหยามของนรินทร์ดังก้องอยู่ในหัว

“ป่านนี้คงขึ้นสวรรค์ มีความสุขกันไปแล้วมั้ง”
ในบ้านจิรดากำลังออดอ้อนป้อนอาหารให้วิษธรอยู่ที่มุมทานอาหารติดกับครัว
“เป็นยังไงบ้างคะ”
“อร่อยดีครับ”
“อุ๊ย ปากคุณเปื้อนหมดเลย ดาเช็ดให้นะคะ”
จิรดาดึงกระดาษเช็ดปากบนโต๊ะ ขยับเข้าไปใกล้ๆ เช็ดปากให้วิษธร จนดูเหมือนสองคนกำลังจะจูบกันอยู่รอมร่อ พรพจีเดินเข้าโถงบ้านมา เหลียวหาจนพบภาพบาดตานี้พอดิบพอดี
“ธร”
วิษธรผละตัวออกจากจิรดาลุกขึ้นยืนทันควัน
“คุณจี”
พรพจีถามเสียงขุ่น “กำลังทำอะไรกันอยู่เหรอ”
จิรดายิ้มทัก “อ้าว คุณจี มีอะไรหรือเปล่าคะ”
พรพจีไม่สนใจจิรดาหันไปพูดกับวิษธร จงใจเหน็บแนมพยาบาลของสามี
“ฉันมีธุระจะคุยกับคุณ แต่ไม่รู้ว่าคุณกำลัง กิน กับ คนอื่น อยู่”
“ไหนๆ ก็มาแล้ว กินข้าวด้วยกันก่อนสิครับ” วิษธรชวน
จิรดาเชือดเฉือนโต้กลับ “แย่จังเลยค่ะ ดาทำอาหารไว้แค่สำหรับ เราสองคน ไม่ได้ทำเผื่อ คนอื่น เลย วันหลังถ้าคุณจีอยากจะทานข้าวกับ เรา ก็บอกล่วงหน้าได้นะคะ ดาจะได้เตรียมเผื่อ”
จิรดาหันไปยิ้มหวานกับวิษธร พรพจีมองภาพนั้นด้วยความโมโห
“อาหารเยอะขนาดนี้ กินกันสองคนไม่หมดหรอกครับ กินด้วยกันเถอะครับคุณจี”
“ฉันตั้งใจมาคุยเรื่องงานกับคุณ”
“อ้าว คุณธรลาออกไปแล้วยังต้องทำงานอีกเหรอคะ”
พรพจีคุมแค้นมองจิรดาอย่างเก็บอารมณ์ถึงขีดสุด อีกฝ่ายทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
“พอดียังมีงานค้างอยู่น่ะครับ ผมจำเป็นต้องสะสางให้เรียบร้อย” วิษธรอธิบายแล้วชวนพรพจีทานข้าวอีกครั้ง “คุณจีกินข้าวด้วยกันเลยดีไหมครับ เสร็จแล้วจะได้คุยเรื่องงานกันต่อเลย”
พรพจีมองจิรดาอย่างไม่ยอมแพ้
ภัทร์ธีราเข้ามาในบ้าน ต้องชะงักด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นนรินทร์นั่งหน้าเครียดอยู่บนรถเข็นไฟฟ้า
“อาริน ทำไมมานั่งอยู่ตรงนี้คะ”
นรินทร์นั่งนิ่งอยู่บนรถเข็น จดสายตามองออกไปที่บ้านวิษธรเขม็ง หันมาหาภัทร์ธีราด้วยสีหน้าเครียดเคร่ง
“อารออาจี”
“อาจียังไม่กลับเหรอคะ”
“จีไปแล้วน้องจ๋า เขาวิ่งไปหาไอ้ชายชู้ แล้วทิ้งอาไว้ที่นี่”
ภัทร์ธีราปลอบ ไม่อยากให้นรินทร์คิดมาก
“อาจีอยู่ที่โรงแรม ไม่ได้ไปหานายนั่นหรอกค่ะอาริน”
“ถ้าน้องจ๋าไม่เชื่ออา ก็ไปดูที่บ้านไอ้วิษธรสิ”
ภัทร์ธีรามองไปที่บ้านวิษธร
นรินทร์ถ้าอาจีอยู่ที่นั่น น้องจ๋าช่วยพากลับมาทีได้ไหม
ภัทร์ธีราพยักหน้ารับเอาคำ
“ขอบใจลูก ขอบใจ มีแค่น้องจ๋านี่แหละที่จียังพอฟังอยู่บ้าง”
ภัทร์ธีราเดินออกไปอย่างกังวล ขณะที่นรินทร์ยิ้มกริ่มพึงพอใจ หันกลับไปมองทางบ้านวิษธรอย่างโกรธแค้น

ที่โต๊ะอาหารในบ้านวิษธร พรพจีและจิรดานั่งตรงข้ามกัน พรพจีมองหน้าจิรดาอย่างไม่พอใจ แต่จิรดากินอาหารอย่างร่าเริงเหมือนไม่รู้สึกอะไร วิษธรตักอาหารให้พรพจี
“ฝีมือคุณดา คุณจีลองทานดูนะครับ
พรพจีตักชิม “ฉันว่ารสชาติมันเลี่ยนไปหน่อยค่ะ”
จิรดาหน้าตึงชักเริ่มไม่พอใจ พรพจีจ้องหน้าขึงตาสู้สายตาอย่างไม่ยอมแพ้
ภัทร์ธีราเดินเข้ามาพอดี มองพรพจีอย่างแปลกใจ
“อาจี”
พรพจีหันไปทางเสียงด้วยความตกใจนิดๆ
“น้องจ๋า”
“ทำไมอาจีถึงมากินข้าวที่นี่ได้ล่ะคะ”
จิรดามองพรพจีอย่างสะใจที่เห็นศัตรูหัวใจไปไม่เป็น วิษธรชิงตอบแทนว่า
“คุณจีต้องการคุยเรื่องงานที่ค้างอยู่ ผมกินข้าวอยู่พอดีเลยชวนกินด้วยกัน คุณภัทร์ธีราคงไม่ว่าอะไรใช่ไหมครับ”
ภัทร์ธีราไม่สนใจคำพูดวิษธร “อาจีคะ กลับบ้านกับจ๋าเถอะค่ะ จ๋าไม่อยากให้อารินเข้าใจอา
จีผิดอีก”
จิรดาเสริมขึ้นว่า “ดีเลยค่ะ คุณจ๋ารีบพาคุณจีไปก่อนเถอะค่ะ ถ้าคุณรินคิดมากเดี๋ยวอาการจะแย่ลงอีกนะคะ”
“ไปกันเถอะค่ะอาจี”
ถูกภัทร์ธีราเร่งเร้า พรพจีขึงตามองจิรดาไม่พอใจ วิษธรเชือดนิ่มๆ ว่า
“งั้นคุณดาก็ต้องรีบไปดูแลคุณรินด้วยสิครับ”
จิรดาหน้าเสีย “เอ่อ...แล้วอาหารที่เหลือล่ะคะ เรายังทานกันไม่หมดเลย เสียดายแย่”
“ถ้าคุณดายังไม่อิ่มเดี๋ยวผมใส่กล่องให้ครับ”
พรพจียิ้มสะใจ
“ไม่เป็นไรค่ะ ดาแค่...”
วิษธรตัดบทว่า “ถ้าอย่างนั้นก็ ขอบคุณสำหรับอาหารนะครับ รีบกลับเถอะครับ คุณรินรออยู่”
จิรดาหน้าจ๋อยจำใจเดินออกไปพร้อมๆ พรพจีและภัทร์ธีราอย่างเสียไม่ได้ พรพจียิ้มสะใจในสีหน้า

นรินทร์เห็นภัทร์ธีราพาพรพจีกลับมาได้ก็ดีใจ มีจิรดาเดินหน้าง้ำปิดท้ายขบวน
“น้องจ๋าไม่เคยทำให้อาผิดหวังจริงๆ”
พรพจีมองนรินทร์ แล้วมองหน้าภัทร์ธีราด้วยความผิดหวัง
“ถ้าคุณพอใจแล้ว ฉันขอตัวก่อนนะ ฉันปวดหัว”
พรพจีเดินหนีขึ้นบ้านไป
ภัทร์ธีราจะตาม “อาจีคะ”
“อาปวดหัว อยากนอน”
พรพจีเดินขึ้นบ้านไปเลย ภัทร์ธีรามองตามด้วยความเสียใจ ก่อนจะเดินออกไปอีกทาง นรินทร์ยิ้มสมใจถามจิรดาเบาๆ ว่า
“เป็นยังไงบ้าง แต่ดูจากหน้าจีท่าทางไปได้สวยนี่”
“คุณจีหึงดาจนเลือดขึ้นหน้า อีกไม่นานดาต้องทำให้แตกหักกับคุณธรได้แน่”
“รีบทำให้ถึงวันนั้นเร็วๆ นอกจากคุณจะสมหวังแล้ว ผมยังมีรางวัลให้อย่างงาม”
“ไม่ต้องห่วงนะคะ ดาจะรีบจัดให้เร็วที่สุด”
นรินทร์ยิ้มพอใจ จิรดายิ้มร้ายสีหน้ามุ่งมั่นมาดหมาย


ตกตอนกลางคืน ภัทร์ธีรายืนเหม่ออยู่ในบ้าน สวาทเดินเข้ามาหา
“ยังไม่นอนอีกเหรอคะคุณจ๋า”
“จ๋านอนไม่หลับน่ะค่ะ”
“คิดมากเรื่องคุณจีเหรอคะ”
ภัทร์ธีราเข้าไปกอดสวาทเหมือนหาที่พึ่ง พูดระบายน้ำตาคลอ
“จ๋าอยากให้ทุกอย่างเป็นเหมือนเดิมจังค่ะป้าหวาด”
สวาทลูบหัวปลอบ “ไม่มีอะไรเหมือนเดิมได้ตลอดไปหรอกค่ะ ทุกอย่างก็ต้องเปลี่ยนไปตามกาล ตามกรรม”
“ทุกอย่างเปลี่ยนไปเพราะนายธรต่างหากค่ะ ถ้านายนั่นไม่เข้ามา ป่านนี้ครอบครัวเราก็จะเหมือนเดิม แต่อาจีก็เอาแต่ปกป้องเขา เชื่ออยู่อย่างเดียวว่านายนั่นเป็นคนดี คนที่เข้ามาทำให้ครอบครัวคนอื่นเขาแตกแยกจะเป็นคนดีได้ยังไง”
สวาทตัดสินใจพูดออกไป “คุณธรเป็นคนดีนะคะ”
ภัทร์ธีราอึ้ง ไม่อยากเชื่อหู “ป้าหวาด”
“คุณธรเป็นคนดี คอยช่วยงานยามที่คุณจีลำบาก เป็นเพื่อนร่วมงานที่ดี”
ภัทร์ธีรานิ่งขึง “แล้วในฐานะอื่นล่ะคะ”
สวาทนิ่ง ไม่ตอบ
“ป้าหวาดคิดเหมือนน้องจ๋าใช่ไหมคะ ป้าหวาดก็เห็นเหมือนกันใช่ไหม แต่ทำไมไม่มีใครกล้าพูดออกมา”
สวาทมีท่าทีอึดอัดมากเอาการ
“เอาเถอะค่ะ ไม่ว่ายังไง จ๋าก็จะไม่ยอมให้นายวิษธรมาทำร้ายคนที่เป็นเหมือนพ่อแม่แท้ๆ ของจ๋าแน่นอน ต่อให้ต้องสู้คนเดียวจ๋าก็จะสู้ค่ะ”
“คุณจ๋า”
แววตาภัทร์ธีราเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น สวาทมองด้วยความเป็นห่วงปนกังวล

ภัทร์ธีราเข้าโรงแรมแต่เช้า กำลังเดินไปที่ห้องทำงาน แต่ต้องหยุดมองภาพตรงหน้าอย่างแปลกใจ
“มาทำอะไรที่นี่อีก”
วิษธรนั่งรอภัทร์ธีราอยู่หน้าห้อง ลุกยืนหันมายิ้มทัก
“มารอคุณไงครับ”
ภัทร์ธีราเสียงขุ่น “มารอฉันทำไม ฉันไม่มีธุระอะไรกับนาย”
“แต่ผมมีนี่”
“มีอะไรก็รีบว่ามา ฉันมีงานต้องทำ”
วิษธรยิ้มยั่ว “ขยันจังเลยนะครับ”
“ตกลงจะพูดไหม ไม่อย่างนั้นก็กลับไป”
ภัทร์ธีราหงุดหงิดทำท่าจะเดินหนีไป วิษธรเดินเข้าไปขวางยกมือยอมแพ้
“โอเคๆ ผมแค่แวะมาเอาของที่ห้องคุณน่ะ ลูกน้องผม เอ่อ ลูกน้องคุณบอกว่ามีบางส่วนเก็บไว้ที่ห้องคุณ ผมขออนุญาตเข้าไปเอาได้ไหมครับ”
ภัทร์ธีรามองอย่างชั่งใจ วิษธรยิ้มหน้าเป็น ภัทร์ธีราเปิดประตูเดินนำเข้าไป
“เข้ามาสิ”
วิษธรเดินตามเข้าไปสีหน้ายิ้มๆ

ภัทร์ธีราบอกแล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงาน เงียบๆ
“ของคุณเก็บไว้ตรงนู้น ช่วยเก็บกลับไปให้หมดเลยนะ”
วิษธรเดินไปเปิดดูลังเอกสารต่างๆ
“ครับผม จริงๆ คุณก็ใจดีเหมือนกันนะเนี่ย ทำเหมือนไม่ชอบผมแต่ก็เก็บของของผมไว้อย่างดี”
“พนักงานเป็นคนเก็บ ไม่ใช่ฉัน”
ภัทร์ธีราลอบมองวิษธรสำรวจเอกสารอย่างร้อนใจ กลัวว่าอีกฝ่ายจะรู้ว่าเอกสารวางไม่เหมือนเดิม วิษธรเปิดแฟ้มเอกสารดูไปเรื่อยๆ จู่ๆ ก็หยุด
“แปลก”
ประสาวัวสันหลังหวะ ภัทร์ธีราสะดุ้ง ตกใจ
“อะไรแปลก”
“ก็แปลกที่...” วิษธรมองมายังภัทร์ธีรา “ทำไมคุณไม่ให้เก็บไว้ที่ห้องเก็บของ แต่ให้เอามาเก็บไว้ที่ห้องคุณแทน หรือว่าคุณ...”
ภัทร์ธีราใจหล่น กลัววิษธรจับได้ ทำเสียงแข็งใส่
“ฉันทำไม”
“คุณคิดถึงผม เลยเก็บเอาไว้ดูต่างหน้าไง”
ภัทร์ธีราโล่งใจ แล้วหงุดหงิดขึ้นมาเมื่อนึกได้ว่าวิษธรพูดจากวนประสาท
“หยุดคิดอะไรบ้าๆ นะ ฉันมีแฟนแล้ว แล้วก็ไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ ที่จะหลงเสน่ห์จอมปลอมของคุณ ถ้าจะเก็บของช่วยเก็บไปเงียบๆ แล้วรีบออกไป ฉันจะทำงาน”
วิษธรหัวเราะขบขัน
“ขำอะไร”
วิษธรมองจ้องภัทร์ธีราด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก “คุณไม่เหมือนคนอื่นจริงๆ”
ภัทร์ธีราไม่ชอบสายตาแบบนั้นของเขา
วิษธรเดินเข้ามาใกล้ “เพราะคุณไม่เหมือนคนอื่น เลยได้เจอคนดีๆ อย่างคุณเอ้ ถึงจะเป็นลูกนายพลแต่ก็ไม่ถือตัว แล้วก็ดูจะตามใจคุณทุกอย่าง คุณโชคดีนะครับ”
“ฉันไม่ถือว่าเป็นโชคหรอก ฉันแค่ดูออกว่าใครเป็นคนดีหรือไม่ดี” ภัทร์ธีราจ้องตาวิษธรตรงๆ อย่างไม่สะทกสะท้าน “คนไม่ดีที่เข้ามาในครอบครัวฉัน ฉันไม่ปล่อยไว้แน่”
ภัทร์ธีราจ้องหน้าวิษธรอยู่อย่างหนั้น วิษธรจ้องกลับยิ้มขำอย่างอารมณ์ดี

พนักงานช่วยกันขนของวิษธรมาวางไว้ที่หน้าออฟฟิศ พรพจีผ่านมาเห็น จึงเดินเข้ามาดูด้วยความสงสัย
“ทำอะไรกันจ๊ะ จะขนของไปไหน” พรพจีหยิบป้ายชื่อตั้งโต๊ะขึ้นมาดู “นี่ของธรนี่”
“คุณธรมาเอาของที่เหลือวันนี้ครับ พวกผมเลยมาช่วยกันขน”
พรพจีแปลกใจ “ธรมาเองงั้นเหรอ”
“ครับคุณจี”
“แล้วตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน”

ด้านภัทร์ธีราจ้องหน้าวิษธรอย่างหมั่นไส้ก่อนจะลงนั่งทำงาน
“รีบเก็บของแล้วออกไปจากห้องฉันเร็วๆ ฉันจะทำงาน”
วิษธรทำเป็นเดินเข้ามาดูงานบนโต๊ะ
“มีอะไรไม่เข้าใจ ถามผมได้นะครับ ผมยินดีช่วย”
ภัทร์ธีราโมโห “ช่วยเหรอ งั้นช่วยออกไปตอนนี้เลย เดี๋ยวฉันให้คนยกของพวกนี้ออกไปให้นายเอง”
วิษธรนิ่งไม่ยอมเดินออกไป ภัทร์ธีราปิดแฟ้มดังปังด้วยความโมโห ก่อนจะลุกขึ้นตั้งใจเดินไปเปิดประตูไล่
“จะไปไหนล่ะครับ”
ภัทร์ธีรารีบเดินหนี แล้วดันเตะขาโต๊ะอย่างแรงจนหน้าคะมำ
“โอ๊ย”
วิษธรเข้าช่วยประคองไว้ทัน
“เป็นอะไรหรือเปล่าคุณ”
วิษธรมองด้วยสายตาเป็นห่วง ภัทร์ธีรารู้สึกหวั่นไหววาบหวามแปลกๆ
“ฉันไม่ได้เป็นอะไร ปล่อยฉัน”
วิษธรยังไม่ยอมปล่อย แถมยังยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ ยิ้มกวนมาให้
“ซุ่มซ่าม”
พรพจีเปิดประตูเข้ามาในจังหวะนี้พอดี ถึงกับอึ้งไปเมื่อเห็นสองคนใกล้ชิดกัน ภัทร์ธีราผละตัวออกจากวิษธรทันที พรพจีหน้าเสียนิดๆ มองทั้งสองคนด้วยความรู้สึกแปลกๆ อธิบายไม่ได้ วิษธรยิ้มทักทายด้วยน้ำเสียงปกติ
“คุณจี”
พรพจีนิ่งไปชั่วครู่ รีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ
“ทำไมไม่บอกฉันก่อนล่ะคะ ว่าคุณจะมา”
“พอดีผมตัดสินใจกะทันหันน่ะครับ”
“ฉันมีเรื่องงานจะปรึกษาคุณหน่อย ไปคุยที่ห้องฉันดีไหมคะ จะได้ไม่รบกวนเวลาทำงานน้องจ๋า”
วิษธรมองภัทร์ธีราที่ทำหน้าไม่ถูก และไม่ยอมพูดอะไร
“ได้ครับ”


วิษธรเดินนำเข้าห้องมา ตามด้วยพรพจี ทันทีที่ปิดประตูลงพรพจีก็โผเข้ากอดวิษธรจากข้างหลังแน่นอย่างหวงแหน
วิษธรตกใจ “จีอย่าทำแบบนี้ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า”
“ฉันอยากให้คนอื่นเห็น ฉันไม่แคร์อะไรอีกแล้ว”
พรพจีร้องไห้ออกมา กอดวิษธรแน่นขึ้น ในใจคิดเตลิดไปไกลเมื่อเห็นวิษธรใกล้ชิดกับภัทร์ธีรา
วิษธรแปลกใจ “จีร้องไห้ทำไมครับ
พรพจีไม่กล้าพูดถึงสิ่งที่หวั่นกลัว เฉไฉไปเรื่องอื่น
“ฉัน ก็แค่คิดถึงคุณมาก ฉันอยากกอดคุณแบบนี้ทุกวัน ฉันรอวันที่เราจะแต่งงานกันไม่ไหวแล้ว”
วิษธรละตัวออก หันมาบอกอย่างนุ่มนวล
“คุณต้องอดทนนะ แล้วซักวันผมจะทำให้มันเป็นจริง”
“คุณจะทำให้มันเป็นจริงกับฉันใช่ไหมคะ ไม่ใช่ไปทำกับคนอื่น”
“ที่ผ่านมาผมยังพิสูจน์ตัวเองไม่พออีกเหรอ คุณถึงพูดเหมือนคุณไม่รู้จักผมเลย”
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ คุณก็รู้ว่าฉันเชื่อใจคุณ ฉันแค่ไม่ไว้ใจผู้หญิงคนอื่นเท่านั้นเอง”
วิษธรนิ่งงันไป
“ขอโทษค่ะ ฉันจะไม่หึงงี่เง่าแบบนี้อีกโอเคไหมคะ”
เห็นวิษธรยิ้มกว้าง พรพจีโล่งใจ
“ฉันอยากให้คุณกลับมาทำงานที่เดอะธาราอีก”
“เป็นไปไม่ได้หรอกครับ ผมลาออกไปแล้วจะกลับเข้ามาทำงานอีกได้ยังไง ยังไงคุณรินก็ไม่มีทางยอมให้ผมเข้ามาทำงานได้อีกแน่”
“ฉันไม่ได้ให้คุณกลับมาในฐานะพนักงานนี่คะ”
“แล้วผมจะกลับมาในฐานะอะไรล่ะครับ”
“ในฐานะหุ้นส่วนใหญ่ของธารา ฉันจะขายหุ้นส่วนของฉันให้คุณ รวมกับหุ้นที่คุณมี คุณก็จะมีหุ้นมากกว่าคุณนรินทร์ แล้วคุณก็จะมีสิทธิ์กลับเข้ามาทำงานได้โดยไม่ต้องผ่านการอนุมัติจากคุณริน”
พรพจีเข้าไปลูบหน้าวิษธรเบาๆ อย่างหลงใหล
“เดอะธาราต้องการคุณ และที่สำคัญ ฉัน ต้องการคุณ”

ฝ่ายภัทร์ธีรานั่งทำงานอยู่ในห้องด้วยจิตใจเหม่อลอย เหตุการณ์ตอนวิษธรเข้ามาช่วยประคองก่อนเธอจะล้มผุดขึ้นมาหลอกหลอนวนไปซ้ำมา
ภัทร์ธีราตกใจกับความรู้สึกประหลาดล้ำในใจตัวเอง รีบส่ายหน้าสลัดความคิดทิ้งแล้วพยายามทำงานต่อ แต่ไม่เป็นผลภาพวิษธรประคองอยู่แล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผุดซ้อนขึ้นมาอีกระลอก
ภัทร์ธีราหลับตาลง ผ่อนลมหายใจเข้าออก พยายามตั้งสติ
“ไม่นะ..ไม่”
วิษธรเดินมาเข้ามาเอาข้าวของที่เหลือ เห็นภัทร์ธีราบ่นงึมงำ จึงแกล้งยื่นหน้าเข้าไปถามใกล้ๆ
“ไม่อะไรเหรอครับ”
ภัทร์ธีราผงะ ลืมตาขึ้นมาด้วยความตกใจถอยหลังหนี วิษธรหัวเราะขำ
“ทำไมต้องตกใจขนาดนั้น” ยื่นหน้าเข้ามาใกล้อีก “กลัวผมมากเหรอครับ”
“ไม่ได้กลัว” ภัทร์ธีราถอยหลังหนีไปอีก รีบเปลี่ยนเรื่อง “แล้วนี่กลับมาทำไมอีก”
วิษธรนั่งมองหน้าภัทร์ธีราอย่างจับผิด
“ผมไม่ได้อยากมารบกวนเวลานั่งสมาธิของคุณหรอกนะ แต่ผมต้องมาเอาของที่เหลือ เมื่อกี้ผมยังไม่ได้เอาอะไรออกไปเลย”
“งั้นก็รีบไปเก็บของของคุณ แล้วก็รีบออกไปจากห้องฉันเสียที”
“ก็ได้ครับ แต่จะให้ผมรีบคงยาก ผมเป็นคนละเอียดน่ะครับ คงต้องค่อยๆ ตรวจดู”
วิษธรเก็บของไป ผิวปากไปอย่างอารมณ์ดี
ภัทร์ธีราเริ่มใจสั่นทนไม่ไหว ตัดสินใจลุกขึ้นจะเดินออกไป
“เชิญคุณค่อยๆเก็บของของคุณตามสบาย ฉันจะไปทำงานข้างนอก ถ้าเสร็จแล้วก็ให้คนไปบอกฉันด้วย”
ภัทร์ธีรารีบเดินหนีออกไป ไม่อยากอยู่ในห้องสองต่อสองกับหนุ่มคู่ปรับอีก วิษธรมองตามขำๆ

พนักงานโรงแรมชายหญิง 2-3 คนจับกลุ่มเมาท์มอยกันอยู่ เรื่องการลาออกของวิษธร
“นี่แก ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าคุณธรจะออกจริงๆ ตอนแรกเห็นคุณธรกลับมาฉันก็อุตส่าห์ดีใจ ดั๊นให้คนขนของกลับไปให้หมดซะงั้น”
นรินทร์เลื่อนรถผ่านมาได้ยิน ค่อยๆ ชะลอความเร็วลง แอบฟัง
พนักงาน2 บอกว่า “ตอนรู้ว่าคุณธรจะออกฉันร้องไห้เลยนะ คุณธรใจดีมาก คุณธรไม่อยู่แบบนี้คิดถึงแย่เลยเนอะ”
พนักงาน1 กระซิบ “ก่อนหน้านี้โรงแรมเกือบแย่คุณธรก็ช่วยไว้ได้ คราวนี้ไม่มีคุณธรแล้วถ้าโรงแรมแย่อีก พวกเราไม่โดนเลย์ออฟกันหมดเหรอ”
นรินทร์แอบฟังอยู่นานทนไม่ไหว เลื่อนรถออกไปแสดงตัว
“สุมหัวทำอะไรกัน ไม่มีงานทำกันรึไง หรือว่าอยากตกงานกันจริงๆ มองหน้าฉันทำไม ไปทำงาน”
พนักงานมองหน้านรินทร์อย่างหวาดผวา รีบแยกย้ายกันไปทำงาน นรินทร์มองตามด้วยความโมโห

พรพจียืนคุยโทรศัพท์อยู่ในห้องทำงาน ปลายสายคือ คุณสุธรรม ทนายความของโรงแรมที่มักคุ้นกัน
“ค่ะทนายสุธรรม ฉันอยากให้คุณช่วยจัดการเรื่องเอกสารการโอนหุ้นให้ฉันหน่อย...ใช่ค่ะฉันต้องการขายหุ้น”
ขณะที่พรพจีนิ่งฟังปลายสายอยู่นั้น จู่ๆ นรินทร์ก็เปิดประตูพรวดเข้ามา พรพจีหันไปมองอย่างตกใจ
รีบวางสาย
“ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ สวัสดีค่ะ” พรพจีหันมามองตำหนินรินทร์ “เข้ามาทำไม ไม่เคาะประตู”
“ถ้าผมเคาะคุณก็รู้ตัวสิ เสียดายมาช้าไปหน่อยเลยไม่ทันเห็นฉากเด็ดที่คุณแอบเอาชู้มาพลอดรักในที่ทำงาน
“ฉันไม่ใช่คุณนะ ที่จะพาผู้หญิงมากกในที่ทำงาน จะพูดอะไรคุณควรแคร์ความรู้สึกฉันบ้าง”
“ทำไมผมต้องแคร์ ในเมื่อคุณคบชู้ยังไม่เห็นแคร์ความรู้สึกผมเลย”
พรพจีมองนรินทร์ด้วยความสมเพช ก่อนจะเดินกลับไปนั่งทำงานต่อ
“มองแบบนี้หมายความว่ายังไง”
พรพจีไม่ตอบ นรินทร์ยิ่งหงุดหงิด
“ผมไม่ยอมให้คุณสมหวังแน่”
พรพจีมองนรินทร์ด้วยแววตาเฉยชาว่างเปล่าไม่มีความรู้สึกใดๆ ก่อนจะหันไปทำงานต่อ นรินทร์แค้นแทบกระอักเลือด


วิษธรตรวจเช็คเอกสารต่างๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว กำลังจะกลับออกไปจากห้องภัทร์ธีรา ได้ยินเสียงเปิดประตู คิดว่าเป็นคุณหนูจ๋าเลยทักเย้าหยอกออกไป
“กลับมาช่วยผมเก็บของหรือครับ”
เป็นจิรดาเดินยิ้มหวานเข้ามาหา พร้อมแก้วกาแฟในมือ
“ได้สิคะ เดี๋ยวดาช่วยนะ”
“อ้าว คุณดา มีอะไรหรือเปล่าครับ”
“ดาได้ยินว่าคุณเก็บของอยู่คนเดียว ดาเลยตั้งใจจะมาช่วยน่ะค่ะ ดาชงกาแฟมาให้คุณด้วยนะคะ”
“ผมเก็บของเสร็จพอดี กำลังจะกลับแล้วล่ะครับ”
“ทำไมรีบกลับล่ะคะ ดาตั้งใจชงกาแฟมาให้ ดื่มสักนิดนะคะ”
จิรดายื่นแก้วกาแฟให้ วิษธรรับมาอย่างเสียไม่ได้ จิบไปหนึ่งอึกแล้ววางไว้
“ขอบคุณสำหรับกาแฟนะครับ ผมคงต้องไปแล้ว คนออกไปแล้วอยู่นานคงไม่ดี”
วิษธรลุกขึ้น จิรดาลุกตาม
“แล้วคุณธรจะกลับมาที่นี่อีกหรือเปล่าคะ”
“คงไม่ได้กลับมาแล้วล่ะครับ ผมลาออกแล้ว ของก็เก็บเสร็จหมดแล้วคงไม่มีความจำเป็นต้องมาอีก”
“น่าเสียดายจังนะคะ แต่ก็ยังดีที่เรายังได้เจอกันที่บ้าน ไม่อย่างนั้นดาคงคิดถึงคุณแย่”
พยาบาลสาวเขยิบตัวเข้ามาใกล้ชิด วิษธรละตัวออกอย่างสุภาพ
“ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ”
“ดาขอติดรถคุณกลับบ้านด้วยได้ไหมคะ”
“แล้วคุณดาไม่ต้องอยู่ดูแลคุณรินเหรอครับ”
“คุณรินบอกดาให้กลับไปพักก่อน คุณรินอยากกลับบ้านพร้อมคุณจีกับคุณจ๋าน่ะค่ะ คุณรินคงอยากใช้เวลาทำความเข้าใจกันภายในครอบครัว ดีจังเลยนะคะ”
“ถ้าเป็นอย่างนั้นก็โอเคครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
วิษธรถือลังใส่ของเดินนำออกไป จิรดายิ้มสาสมใจ

ไม่นานต่อมา รถแล่นเลี้ยวเข้ามาในบ้าน วิษธรลงรถมาเปิดประตูให้จิรดา พยาบาลสาวอิดออด
“คุณธรไม่ต้องเกรงใจ ดาอยากช่วยจริงๆ ของจากที่ออฟฟิศตั้งเยอะคุณจะจัดคนเดียวไหวได้ยังไง แล้วคุณรินก็ยังไม่กลับด้วย ตอนนี้ดาว่างมากๆ เลยค่ะ”
วิษธรจำใจ “ก็ได้ครับ”
วิษธรขนของเข้าบ้าน จิรดาช่วยถือถุงของเบาๆ เข้าไปในบ้าน
บังเอิญอะไรเบอร์นี้ รถอรดีเลี้ยวเข้ามาจอดหน้าบ้านวิษธรพอดี อรดีเห็นจิรดาเดินเข้าบ้านไปกับวิษธรก็ของขึ้น
“นั่นมันนังตุ๊กแกนี่นา หน็อย มาอ่อยถึงที่”
อรดีหงุดหงิด นึกบางอย่างได้ รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งไลน์หาใครบางคนด้วยสีหน้ามีแผนร้าย

วิษธรวางกล่องลังลงจะเปิดรื้อของออกเก็บ จิรดากุลีกุจอเข้ามาช่วย
“คุณธรจะเอาของไว้ตรงไหนหรือคะ เดี๋ยวดาช่วยนะ”
จิรดาโน้มตัวเข้าไปใกล้ ทำเหมือนจะหยิบของในลัง แต่เบียดตัวกับตัววิษธรอย่างยั่วยวน จู่ๆ สวยเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับส่งเสียงดังลั่นบ้าน
“สวยมาทำความสะอาดแล้วค่ะ”
จิรดาตกใจแทบหงายหลัง
วิษธรหันมามองอย่างแปลกใจ “สวยเพิ่งทำไปเองไม่ใช่เหรอ”
สวยรีบเข้ามากวาดๆ ๆ อย่างเร็ว
“โอ๊ย ฝุ่นน่ะมันมีทุกวันนะคะคุณธร สวยต้องทำความสะอาดทุกวัน บ้านคุณธรจะได้สะอาดปราศจากขยะไงคะ”
พร้อมกับคำว่าขยะ สวยก็ปราดไปกวาดตรงบริเวณที่จิรดานั่งอยู่
“โอ๊ย อะไรกันเนี่ย”
พยาบาลจอมแอ๊บขึงตาใส่ สวยไม่สน
“ก็กวาดบ้านไงคะ ไม่ใช่ขยะก็หลีกไปหน่อยค่ะ”
“ฉันจะช่วยคุณธรเก็บของ ทำไมเธอไม่ไปกวาดที่อื่นก่อนล่ะ”
“สวยก็กวาดทุกที่ๆ มีขยะแหละค่ะ เลยจะเริ่มจากตรงนี้ก่อน”
จิรดาทนไมไหวลุกขึ้นจ้องสวยตาเขม็ง
“อ้อ หรือคุณดาจะช่วยสวยกวาด เอาสิคะ” สวยยื่นไม้กวาดให้ “นี่ค่ะ”
จิรดาสูดหายใจเข้าอย่างเก็บอารมณ์ แล้วหันไปปั้นหน้ายิ้มให้วิษธร
“ถ้าอย่างนั้น เดี๋ยวดามาใหม่นะคะ”
สวยกวาดวนเวียนอยู่แถวจิรดา
“หลบหน่อยค่ะ”
จิรดาชักขาหลบอย่างหงุดหงิด ยิ้มหวานให้วิษธรด้วยความเสียดาย
“ไปก่อนนะคะ”
จิรดาเดินออกไป สวยยิ้มกระหยิ่ม แต่พอเห็นวิษธรมองอยู่ จึงทำเป็นมีโทรศัพท์เข้า รับสายเสียงดังเล่นใหญ่จัดเต็ม
“จ้าป้าหวาด อะไรนะให้ฉันกลับไปช่วยทำกับข้าว เหยได้ยังไงล่ะป้าฉันเพิ่งมาทำความสะอาดบ้านคุณธรเอง” สวยปิดปากทำท่าจะร้องไห้ “ป้าอย่าด่าฉันอย่างนั้นสิ ป้าก็รู้ว่าฉันอ่อนไหว เดี๋ยวป้า ป้าฟังฉันก่อน ป้า...”
สวยมองโทรศัพท์มือถือด้วยท่าทางสะเทือนใจใหญ่หลวง
“ขอโทษนะคะคุณธร แต่สวยทรยศป้าหวาดไม่ได้จริงๆ สวยต้องไปช่วยป้าหวาดทำกับข้าวก่อน ขอโทษนะคะ แต่สวยจะกลับมาทำความสะอาดให้วันหลัง สวยไปก่อนนะคะ”
สวยรีบเดินออกไปอย่างมีพิรุธ วิษธรมองอย่างสงสัย


ฝ่ายอรดียิ้มสะใจสมใจ ยื่นเงินแบงก์พันตบรางวัลให้ใครบางคน
“นี่รางวัล”
เป็นสวยที่รับเงินมาด้วยสีหน้าเบิกบาน มองซ้ายขวาแล้วรีบเก็บเงินใส่กระเป๋า
“วันนี้เธอทำดีมาก ถ้ามีข่าวอะไรเกี่ยวกับธรอีกก็บอกฉันด้วย”
“โอเชค่ะ ถ้าคุณดี้มีอะไรให้สวยช่วยแบบวันนี้ ก็ไลน์มาได้ตลอดเลยนะคะ สวยจัดให้ตามราคาเลยค่ะ”
“ต้องมีแน่จ้ะ เธอเตรียมตัวให้พร้อมก็พอ”
อรดียิ้มย่องพออกพอใจ

ขณะที่วิษธรเดินออกมาเอาของที่รถ กำลังเดินกลับเข้าบ้าน เจออรดียืนโบกมือทักทายมาให้ ในมืออีกข้างหิ้วของกินมาเต็ม
“เซอร์ไพรส์”
หนุ่มเจ้าเสน่ห์ยิ้มทัก “คุณดี้ มาได้ยังไงครับ”
“ดี้จะแวะไปเยี่ยมอารินแต่แกยังไม่กลับ เลยแวะมาหาคุณก่อนค่ะ” อรดีเดินเข้ามาคล้องแขนวิษธรกอด “ทำไมกลับมาแล้วไม่บอกกันบ้างล่ะค่ะ ดี้คิดถึงคุณจะแย่รู้ไหม”
“แล้วคุณดี้รู้ได้ยังไงครับว่าผมกลับมาแล้ว”
“ดี้มีเซนส์น่ะค่ะ”
วิษธรมองฉงน อรดีรีบเปลี่ยนเรื่องคุย
“ธรยังไม่ได้กินข้าวเย็นใช่ไหมคะ ดี้ซื้อของอร่อยๆ มาเพียบเลย เดี๋ยวดี้เอาไปใส่จานก่อน แล้วเรากินด้วยกันนะคะ”
อรดีถือวิสาสะเดินเข้าบ้านไปเลย วิษธรไม่รู้จะห้ามยังไงเดินตามไปอย่างหนักใจ

ฝ่ายพรพจีนั่งทำงานอยู่ในห้องกับนรินทร์เงียบๆ พรพจีไม่ยอมพูดคุยอะไรด้วย นรินทร์มองอย่างหงุดหงิด จนกระทั่งภัทร์ธีราเคาะประตูเดินเข้ามา
“น้องจ๋ามีอะไรจ๊ะ”
“จ๋าอยากรู้รายละเอียดเกี่ยวกับคุณเอ็ดเวิร์ดโจนส์ลูกค้าวีไอพีที่...คุณวิษธรติดต่อไว้น่ะค่ะ”
พรพจีหยิบแฟ้มมาดู “ดูเหมือนว่าธรจะเป็นคนเดียวที่รู้รายละเอียด เพราะธรเป็นคนติดต่อมา คงต้องถามเขาโดยตรงจ้ะ”
ภัทร์ธีราอึ้งไป “ไม่มีคนอื่นที่รู้เรื่องเลยเหรอคะ”
พรพจีส่ายหน้า ภัทร์ธีรามีสีหน้าลำบากใจ พรพจีนึกขึ้นได้รีบบอก
“ถ้าน้องจ๋าไม่สะดวกคุยกับธร เดี๋ยวอาคุยให้”
นรินทร์สวนขึ้นทันที “ไม่ต้อง ให้น้องจ๋าคุยน่ะดีแล้ว เรื่องแค่นี้น้องจ๋าทำได้อยู่แล้วใช่ไหม”
“ค่ะ แต่วันนี้นายวิษธรกลับบ้านไปแล้ว เอกสารก็ต้องคุยต่อหน้าไม่อย่างนั้นจะลงรายละเอียดต่างๆไม่ได้ เอาไว้ค่อยนัด...”
นรินทร์ตัดบท “กลับไปถามที่บ้านก็ได้นี่ จะได้จบๆ ไปวันนี้ไม่ต้องไปเจอกันบ่อยๆ”
พรพจีแทรกขึ้น “จะไปที่บ้านธรได้ยังไงน้องจ๋าเป็นผู้หญิงนะ”
นรินทร์ยิ้มเยาะ “แล้วคุณไม่ใช่ผู้หญิงเหรอ ทำไมถึงไปหามันที่บ้านได้”
พรพจีเถียงไม่ออก นรินทร์ดูนาฬิกา “นี่ก็ได้เวลาเลิกงานแล้วน้องจ๋ากลับไปก่อนเลยก็ได้”
ภัทร์ธีราพยักหน้ารับเอาคำ เดินออกไปอย่างเสียไม่ได้ พรพจีมองตามอย่างไม่สบายใจ

วิษธรนั่งทานอาหารมื้อค่ำกับอรดีท่ามกลางบรรยากาศโรแมนติก ที่ม่ายสาวจัดสร้างขึ้นเองอย่างภาคภูมิใจ ทั้งจุดเชิงเทียนตามมุมต่างๆ เปิดเพลงบรรเลงคลอเบาๆ รินไวน์ให้ตัวเองและวิษธร ยกแก้วชนชวนดื่มด้วยกัน
“เชียร์ส”
วิษธรชนแก้วตามมารยาท
“หมดแก้วนะคะ”
วิษธรกลับจิบนิดเดียว อรดีมองค้อน กระเง้ากระงอดใส่
“ธรอะ หมดแก้วสิคะ ดี้ยังหมดเลย”
“แก้วนี้สุดท้ายแล้วนะครับ หมดแก้วนี้แล้วกลับนะครับ”
“ดื่มเถอะค่ะ”
อรดีทำท่าจะจับแก้วป้อน วิษธรยอมดื่มอย่างเสียไม่ได้
“ผมดื่มหมดแล้ว คุณดี้กลับเถอะครับ”
อรดียิ้มหวาน “ทำไมต้องรีบไล่ดี้ด้วยล่ะคะ ธรไม่ชอบเหรอที่ดี้จัดดินเนอร์ให้”
“ไม่ใช่อย่างนั้นครับ ผมขอบคุณมากสำหรับดินเนอร์ แต่นี่ก็ค่ำแล้ว กลับบ้านเถอะครับเดี๋ยวผมไปส่งที่รถ”
อรดีลุกขึ้น ทำเป็นเมาเซเข้ามากอดร่างวิษธรจนหน้าใกล้กันในระยะประชิด
“ธรคะ ดี้มึนหัวจังเลย ดี้ขับรถไม่ไหวแน่ๆ ขอนอนค้างที่นี่ได้ไหมคะ”
วิษธรผละออกแล้วมาประคองข้าง
“เดี๋ยวผมขับรถไปส่งที่บ้านแล้วกันนะครับ”
วิษธรพยุงพาอรดีเดินอีกครั้ง
“ม่ายค่ะ อรกลับบ้านไม่ไหว ง่วง...”
อรดีแกล้งทิ้งน้ำหนักตัวจนล้มไปบนโซฟา แล้วรั้งร่างวิษธรลงไปนัวเนีย
“คุณเมาแล้วนะครับ”
“ธรคะ ให้ดี้ค้างที่นี่นะคะ... ธรขา”
อรดีลูบไล้นัวเนียยื่นหน้าไปจะจูบวิษธรอยู่รอมร่อ ภัทร์ธีราเดินเข้ามาเห็นซีนพิสวาทนี้พอดี ถึงกับทำแฟ้มหล่นเสียงดังด้วยความตกใจ
“ขอโทษค่ะ”
ภัทร์ธีรารีบเก็บแฟ้มเอกสารแล้วเดินหนีออกไปโดยไว วิษธรผละตัวออกจากอรดีได้รีบวิ่งตามไป
“คุณจ๋า”
อรดีค้างเติ่ง มองตามอย่างงุนงงปนหงุดหงิด
“ธร! เดี๋ยวสิคะ ธร!”


ภัทร์ธีรารีบเดินหนีมาด้วยความตกใจ วิษธรวิ่งตามพร้อมตะโกนเรียกไว้ แต่ภัทร์ธีราไม่ยอมหยุด
“หยุดก่อน! คุณ! คุณภัทร์ธีรา...น้องจ๋า”
ภัทร์ธีราหยุดกึกหันขวับมา
“ฉันบอกแล้วไงว่าคุณไม่มีสิทธิ์เรียกฉันว่าน้องจ๋า”
“ขอโทษครับคุณภัทร์ธีรา ก็ผมเรียกแล้วคุณไม่หยุดนี่”
ภัทร์ธีราแล้วคุณจะตามฉันมาทำไม กลับไปทำธุระของคุณให้เรียบร้อยเถอะ
“มันไม่ใช่อย่างที่คุณเห็นนะ คุณดี้แค่เมาเท่านั้น”
ภัทร์ธีราเบะปากทำหน้าไม่เชื่อ
“เอาเถอะ ผมพูดอะไรคุณก็ไม่เชื่ออยู่ดี ว่าแต่คุณมาหาผมถึงที่บ้านมีอะไรหรือ”วิษธรมองแฟ้มในมือน้องจ๋า “เห็นคุณเอาเอกสารมาด้วย”
“ตอนแรกฉันว่าจะมาถามเรื่องงานคุณหน่อย แต่เอาไว้คราวหน้าก็ได้นะ ฉันไม่อยากโดนว่า ว่ามารบกวนเวลาแห่งความสุขของคนอื่น”
วิษธรขำ “ผมบอกแล้วไงว่าคุณดี้แค่เมามากๆ แล้วผมก็กำลังจะพยายามพาเขากลับบ้าน”
อรดีเดินตามออกมาสมทบที่หน้าบ้าน
“ธรคะ ธร” อรดีเดินเซเข้ามาควงแขนวิษธรหมับ “อยู่นี่เอง กลับเข้าไปในบ้านเถอะงานไว้คุยวันหลังก็ได้”
ภัทร์ธีรายกมือไหว้ทักทายอรดี โดยไม่เชื่อที่วิษธรพูด
“คุณดี้ คุณเมามากแล้ว กลับบ้านก่อนเถอะครับ”
“ดี้ขับรถไม่ไหวนี่คะ โอ๊ย มึนหัวไปหมดเลย”
วิษธรประคองอรดีมานั่งบนม้านั่งในสวนสวย ติดตัวบ้าน
“ถ้าอย่างนั้นนั่งรอผมตรงนี้แป๊บเดียวนะครับ ผมขอคุยงานก่อน”
“ดี้อยู่ด้วยไม่ได้เหรอคะ”
อรดีเกาะแขนไม่ยอมปล่อย วิษธรประคองม่ายแซบมาลงนั่งจนได้ “แป๊บเดียวครับ”
วิษธรพยักหน้าให้ภัทร์ธีราเชิงบอก หนูจ๋าตามไปอย่างเสียไม่ได้ อรดีเลิกเมาดิบเหลียวมองตามสองคนอย่างหงุดหงิด

วิษธรกับภัทร์ธีราเดินเข้ามาในโถงบ้าน
“คุณไม่น่าทิ้งพี่ดี้ไว้อย่างนั้นนะ เขาดูต้องการคุณ”
“งั้นคุณก็รีบคุยเรื่องงานเลยสิครับ ผมจะได้รีบกลับไปดูแลคุณดี้”
ภัทร์ธีรามองค้อน หมั่นไส้ ยื่นแฟ้มให้วิษธร ประชดประชันตอนท้าย
“ฉันอยากทราบรายละเอียดเกี่ยวกับมิสเตอร์เอ็ดเวิร์ด ลูกค้าที่คุยเคยติดต่อไว้ เขากำลังจะมาพักกับเราเร็วๆนี้ แต่ดูจากในแฟ้มแขกวีไอพีดูเหมือนจะไม่ค่อยมีรายละเอียดมากนัก เหมือนตั้งใจเก็บข้อมูลสำคัญไว้คนเดียว”
“ปกติผมเป็นคนติดต่อลูกค้าวีไอพี แต่ไม่คิดว่าจะลาออกเลยไม่ได้ใส่รายละเอียดปลีกย่อยไว้ ตอนนี้ผมก็ยุ่งๆ คงไม่มีเวลามาไล่เรียงให้คุณทุกคน บางครั้งคุณก็ต้องรู้จักเรียนรู้ด้วยตัวเองบ้างนะ ไม่ใช่พึ่งแต่สิ่งที่ผมทำไว้”
ภัทร์ธีราโกรธนิดๆ ที่ถูกวิษธรต่อว่า แต่ก็เถียงไม่ออก
“เอาเถอะ มิสเตอร์เอ็ดเวิร์ดชอบดื่มไวน์แดงจากฝรั่งเศสเป็นพิเศษ แล้วก็มีอาหารที่แพ้อีกสองสามอย่าง เดี๋ยวผมจะส่งรายละเอียดยี่ห้อไวน์ที่ดื่มเป็นประจำ รายการอาหารที่เขาชอบ และที่เขาแพ้ ห้ามใช้เด็ดขาดไปให้ในอีเมลคุณแล้วกัน บอกตอนนี้คุณคงจำไม่ได้”
ภัทร์ธีราทำท่าจะเถียง “ฉันจำได้...”
วิษธรสวนขึ้นก่อนว่า “อ้อ มีเรื่องที่ต้องระวังเป็นพิเศษด้วย”
“อะไร”
“เขาค่อนข้างโลกตัวสูงและรักสะอาด คุณจึงต้องกำชับพนักงานเรื่องนี้ เรื่องของที่จะเตรียมก็อย่าให้มีข้อผิดพลาด ให้คนอื่นช่วยดูก็ได้ถ้าคุณไม่ไหว เลือกคนที่ไว้ใจได้หน่อย”
“ฉันทำได้ คุณบอกเองนี่ว่าให้ฉันเรียนรู้ด้วยตัวเอง” ภัทร์ธีราว่า
“ดี ผมชอบคนเรียนรู้ไว ถ้าคุณมั่นใจก็เตรียมการต้อนรับเองได้เลย คุณทำได้อยู่แล้ว”
วิษธรยิ้มให้กำลังใจอย่างจริงใจ จนภัทร์ธีราเริ่มหวั่นไหวขึ้นมาอีกครั้ง
“รีบกลับไปหาพี่ดี้เถอะ ป่านนี้คงรอแย่แล้ว”

อรดีนอนรอระทวยอยู่ด้วยท่านอนอันแสนเซ็กซี่ยั่วยวน จนวิษธรเข้าไปปลุก
“คุณดี้ครับ กลับบ้านเถอะครับ”
อรดีสบช่อง ถือโอกาสนัวเนียอีกครั้ง
“อือ ธร ดี้เดินไม่ไหว”
“หมดธุระแล้วฉันกลับก่อนนะ ไม่อยากรบกวนเวลาส่วนตัว”
ภัทร์ธีราจะเดินกลับบ้านถูกวิษธรเรียกไว้
“เดี๋ยว”
ภัทร์ธีราหันมาหาอย่างหงุดหงิด “อะไรอีก”
“ผมคงต้องรบกวนเวลาคุณ ช่วยผมประคองคุณดี้ไปที่รถหน่อย”
“แล้วคุณไม่...”
“ขอร้องละ”
ภัทร์ธีราวางแฟ้มไว้ตรงม้านั่งแล้วเข้าไปช่วยวิษธรประคองอรดี โดยที่อรดีพยายามหันหน้าหนีไปซบทางวิษธรตลอดๆ
“ธรคะ ธรจะไปส่งดี้ใช่ไหม”
วิษธรพยายามถอยให้อรดีไปซบภัทร์ธีราแทน แต่อรดีก็หันกลับมาซบเขาอีก วิษธรถอนหายใจอย่างเอือมๆ จนภัทร์ธีราอดขำไม่ได้ ส่วนอรดีซบอกแกร่งวิษธรยิ้มกริ่ม

วิษธรและภัทร์ธีราช่วยกันประคองอรดีมาที่รถ วิษธรยัดอรดีเข้าไปนอนเบาะหลังของรถ อรดีนอนลงด้วยท่าทางเซ็กซี่แอบหรี่ตามอง ก่อนจะหลับตาทำเป็นเมามายต่อ
“ธรคะ พาดี้กลับบ้านเร็วๆ นะ ดี้ปวดหัว”
วิษธรปิดประตูรถถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน
“รีบไปสิคุณ พี่ดี้เขาอยากรีบกลับบ้านนี่”
ระหว่างนี้เกลี้ยงวิ่งกระหืดกระหอบมาหาวิษธร
“มาแล้วครับ”
วิษธรหันไปจุ๊ปากให้เกลี้ยงเงียบ เกลี้ยงพยักหน้ารับรู้ทำท่าปิดปากสนิท
“ไม่ต้องพูดอะไร แล้วส่งให้ถึงบ้านนะ”
วิษธรกระซิบบอกเกลี้ยงทำท่าตะเบ๊ะ ขึ้นรถแล้วขับออกไปเลยท่ามงานความงุนงงของคุณหนูจ๋า
“นี่คุณให้น้าเกลี้ยงเป็นคนไปส่งเหรอเนี่ย”
วิษธรพยักหน้าอย่างภูมิใจในความคิดของตัวเอง ภัทร์ธีราหลุดขำเสียงดัง หนุ่มเจ้าเสน่ห์มองเอ็นดู
ภัทร์ธีรารู้ตัวรีบเงียบแล้วเดินหนีไปด้วยท่าทีเขินอาย วิษธรมองตามยิ้มขำๆ


ภัทร์ธีรารีบเดินออกมายกมือจับใบหน้าอันร้อนผ่าวเพราะความเขิน จนรู้สึกว่ามีคนตามมาจึงหยุดเดิน เจ้าของฝีเท้าที่ตามมาก็หยุดตาม พอเดินต่อ ฝีเท้าที่ตามมาก็เดินตาม ภัทร์ธีราหันขวับกลับไปมองเจอวิษธรหยุดยิ้มมองมา
“ตามมาทำไม”
“ผมเห็นมันมืดแล้ว ก็เลย...”
ภัทร์ธีราสวนออกไปว่า “ไม่ต้องมาส่งฉัน บ้านอยู่แค่นี้ ฉันกลับเองได้”
“ใครว่าผมจะมาส่งคุณ” เขายื่นแฟ้มให้ “ผมเอาของมาคืนต่างหาก
ภัทร์ธีราหน้าแตก ยื่นมือไปคว้าแฟ้ม วิษธรชักมือหลบ ภัทร์ธีรามองค้อน คว้าอีกรอบ คราวนี้วิษธรชูหนีขึ้นขึ้นสูง คุณหนูจ๋าเข่ยงตามแต่มันใกล้วิษธรเกินไป เธอจึงถอยหลังมาหนึ่งก้าวอย่างหงุดหงิด
“นี่คุณ”
“ผู้ใหญ่ให้ของต้องทำยังไง”
“ฉันไม่มีเวลามาเล่นตลกไร้สาระกับคุณหรอกนะ”
“ใครบอกว่าไร้สาระล่ะ นี่เป็นมารยาทขั้นพื้นฐานนะ ถ้าแค่ผมคุณยังขอบคุณไม่ได้ คุณจะต้อนรับแขกวีไอพีได้เหรอ”
ภัทร์ธีราสูดหายใจอย่างข่มอารมณ์
“ทำไม่ได้เหรอ”
“ขอบคุณมากค่ะ สำหรับคำปรึกษา แล้วก็ขอบคุณที่เอาของมาคืน”
ภัทร์ธีราฉีกยิ้มหวานให้อย่างน่ารัก วิษธรมองอดหวั่นไหวไม่ได้
ภัทร์ธีรากลับมาหน้านิ่ง “จะคืนของฉันได้หรือยัง”
วิษธรยื่นคืนให้ ภัทร์ธีรารีบคว้ามาแล้วจะเดินหนี วิษธรเดินตามมาไม่เลิก
“ตามมาอีกทำไม”
“ผมเป็นห่วง ยังไงผมก็ปล่อยให้ผู้หญิงเดินกลับบ้านมืดๆ คนเดียวไม่ได้หรอก”
“คุณน่าจะห่วงพี่ดี้มากกว่าฉันนะ ไม่ไปส่งพี่ดี้แล้วจะมาส่งฉันทำไม”
“นั่นสิ ทำไม”
วิษธรมองหน้าภัทร์ธีราอย่างลึกซึ้งมีความหมาย ภัทร์ธีรารู้สึกหัวใจเต้นโครมครามรีบหลบสายตาแทบไม่ทัน
“ส่งแค่นี้ก็พอ คุณกลับไปได้แล้ว”
“ราตรีสวัสดิ์ครับ”
ภัทร์ธีรารีบสะบัดหน้าเปิดประตูเล็กเดินเข้าบ้านไป กลัวว่าอีกฝ่ายจะเห็นว่าเธอเขินจนหน้าแดง วิษธรมองตามยิ้มๆ

ภัทร์ธีราเดินก้มหน้าก้มตาเข้าบ้านมาอย่างรีบร้อน พรพจีรออยู่ด้วยความกังวล เห็นเข้าจึงร้องทัก
“น้องจ๋า”
ภัทร์ธีราตกใจ “คะอาจี”
พรพจีมองภัทร์ธีราอย่างจับผิดโดยไม่รู้ตัว
"ไปหาธรมาเป็นยังไงบ้าง"
"ก็..เหมือนเดิมค่ะ กวนโมโหเหมือนเดิม อารินไม่น่าให้จ๋าไปคุยกับเขาเลย คราวหลังให้คนอื่นไปนะคะ"
"อาก็บอกอารินแล้วว่าเดี๋ยวอาไปคุยให้เอง"
"ให้คนอื่นไปที่ไม่ใช่จ๋ากับอาจีดีกว่าค่ะ" ภัทร์ธีราย้ำ
"แต่เราเป็นผู้บริหาร ถ้าไม่คุยเองแล้วจะรู้เรื่องเหรอจ๊ะ แล้วนี่ไปคุยงานกันได้เรื่องหรือเปล่า"
"เขาให้ข้อมูลที่ควรรู้มาแล้วค่ะ แล้วเดี๋ยวจะส่งรายละเอียดต่างๆมาให้ทางอีเมลอีกที"
"ก็ดีจ้ะ น้องจ๋าส่งข้อมูลมาให้อาก็ได้ เดี๋ยวอาทำต่อเอง"
"ไม่เป็นไรค่ะ จ๋าทำได้ ให้จ๋าทำนะคะ"
"ก็ได้จ้ะ แต่น้องจ๋าต้องรับปากอาว่าถ้ามีปัญหาอะไรให้รีบบอกอาทันทีนะ"
"โอเคค่ะ"
ภัทร์ธีรายิ้มดีใจ


ภายในรถที่แล่นมาตามถนนในกรุงเทพฯ ยามราตรี อรดีที่แกล้งเมาแอบลืมตามอง เห็นแค่เงาด้านหลังของเกลี้ยงที่ขับรถอยู่ นึกว่าเป็นวิษธร ม่ายสาวยิ้มเจ้าเล่ห์
“ธร หยุดรถก่อนนะคะธร”
รถเลี้ยวเข้าจอดข้างทางยังไม่ทันนิ่งดี อรดีหลับตาปี๋แกล้งเมาหนัก ขยับไปกอดเกลี้ยงจากด้านหลัง เกลี้ยงสะดุ้งโหยง ตาเหลือก ตกใจ
“ชู่ววว ธรขา ไม่ต้องตกใจนะคะ” อรดีค่อยๆ ลูบไล้ไปตามเนื้อตัวเกลี้ยง “ดี้จะทำให้ธรมีความสุขเอง”
อรดียังคงหลับตาอยู่อย่างนั้น ซุกไซ้ไปตามลำคอจากทางด้านหลัง เกลี้ยงหลับตาพริ้มแล้วส่งเสียงครางออกมา อรดีดมตัวเกลี้ยงแล้วได้กลิ่นทะแม่งๆ ไม่หอมหวลเหมือนกลิ่นกายวิษธร
“เอ๊ะ...ทำไม...”
อรดีหยุดซุกไซ้ ค่อยๆ ลืมตามอง เกลี้ยงหันมามองอรดีอย่างแปลกใจ อรดีกรี๊ดลั่น
“ไอ้บ้า” อรดีกรี๊ดลั่นทุบตีเกลี้ยงพัลวัน “ไอ้โรคจิต แกไม่ใช่ธรนี่ อี๋ ไอ้บ้า”
“โอ๊ย! โอ๊ย ผมเจ็บนะครับคุณดี้”
“ใครใช้ให้แกมาขับรถแทนธรล่ะ โอ๊ย อารมณ์เสีย”
“คุณดี้ สร่างเมาแล้วเหรอครับ อย่างนี้กลับบ้านเองได้แล้วใช่ไหมครับ”
“สร่างบ้าอะไรล่ะ ขับตอนนี้ได้โดนเป่ากันพอดี แกนั่นแหละต้องไปส่งฉัน”
อรดีทุบเบาะรถอย่างหงุดหงิดอารมณ์เสีย ที่แผนผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง

เกลี้ยงขับรถมาจอดหน้าบ้านอรดี ทำท่าจะลงรถมาเปิดให้
“หยุด! แกจะลงไปไหน”
“ลงไปเปิดประตูให้คุณดี้ไงครับ”
“ไม่ต้อง! นั่งเฉยๆเลย ฉันเปิดเองได้ แกกลับบ้านไปเงียบๆ เข้าใจไหม”
“ครับ”
อรดีลงมาจากรถมองตามเกลี้ยงที่วิ่งออกไปยังปากซอยบ้านอย่างอารมณ์เสีย

อิชยานั่งดูทีวีอยู่ได้ยินเสียงรถจึงลุกยืนขึ้นดูตรงหน้าต่าง จนเห็นอรดีเดินเข้าบ้านมา
“ใครมาส่งพี่ดี้น่ะ ผู้ชายเหรอ”
อรดีโกหกหน้าตาย “ธรไงล่ะ”
“นี่คุณธรเขามาส่งพี่ดี้เหรอ”
อรดีตีขลุมสร้างภาพ “อืม วันนี้ฉันไปกินข้าวเย็นกับธรมา ดื่มไวน์ด้วยกันนิดหน่อย เขาเป็นห่วงกลัว
ฉันกลับไม่ไหวก็เลยมาส่ง”
“จริงเหรอคะ”
“แล้วฉันจะโกหกทำไมล่ะยะ จะบอกอะไรให้นะ แกน่ะเตรียมตัดชุดเพื่อนเจ้าสาวเอาไว้ได้เลย ฉันกำลังมีข่าวดีเร็วๆ นี้”
“คุณธรเขาขอพี่แต่งงานเหรอ”
อรดียิ้มกระหยิ่ม เดินนวยนาดขึ้นบ้านไป อิชยามองตาม ไม่อยากเชื่อนัก

วันต่อมา สองสาวนัดเจอกันที่ร้านกาแฟประจำ ภัทร์ธีราอุทานเสียงดังลั่นด้วยความตกใจเมื่อได้ฟังอิชยาเล่าจบ
“พี่ดี้จะแต่งงานกับนายวิษธรเร็วๆ นี้! จริงเหรอ”
อิชยาเคี้ยวขนม พลางพยักหน้ายืนยัน
“พี่ดี้บอกฉันเมื่อคืนก่อน ท่าทางมั่นอกมั่นใจ”
“ฉันก็เจอเขาที่บ้าน ไม่เห็นจะพูดอะไรเลย”
“เหรอ แล้วแกไปทำอะไรบ้านคุณธร”
“ไปถามเรื่องงานน่ะ แต่นายนั่นก็ปิดปากเงียบไม่พูดถึงเรื่องนี้ซักคำ สงสัยว่ากลัวจะเสียผลประโยชน์”
“แกนี่ก็มองคุณธรในแง่ร้ายตลอดเลยนะ แล้วอาจีรู้เรื่องหรือยัง”
“น่าจะยัง ไม่เห็นอาจีพูดอะไรเลย ฉันว่านายนั่นคงไม่ได้บอกใครหรอกมีตัวเลือกเยอะจะตาย สุดท้ายก็คงจะเลือกพี่ดี้นี่แหละที่เหมาะที่สุด”
“ทำไมแกคิดว่าพี่ดี้เหมาะที่สุดล่ะ”
“ก็พี่ดี้ของแกถึงจะเป็นม่าย แต่ก็ยังสาว ยังสวย คุณสมบัติน่าจะชนะทุกคน”
“ความจริงฉันก็ยังไม่แน่ใจเรื่องที่พี่ดี้พูดหรอก บางทีพี่ดี้อาจจะมโนไปเองก็ได้ แกก็อย่าเพิ่งพูดไปนะ ถ้ามันไม่ใช่แบบที่เราคิดแล้วจะเงิบ อ่ะ กินก่อนๆ”
อิชยายื่นขนมให้ภัทร์ธีราทาน แล้วถ่ายรูปอัพลงเฟซบุ๊คอย่างเบิกบานใจ

ขณะเดียวกัน ในร้านอาหารหรู ทนายสุธรรมยื่นซองเอกสารที่เตรียมมาให้ พรพจีเปิดอ่าน
“นี่เป็นเอกสารการโอนหุ้นครับ ผมได้ให้กรรมการบริษัทเซ็นอนุมัติอย่างลับๆ แล้ว รับรองว่าไม่มีใครรู้ ส่วนเรื่องราคาและจำนวนเงิน คงต้องรอคุณจีตกลงกับคุณวิษธรแล้วระบุลงไปอีกที ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ถ้าไม่มีปัญหาอะไร คุณจีเซ็นชื่อในช่องผู้โอนได้เลยครับ”
พรพจีเซ็นชื่อลงไปในเอกสารอย่างไม่ลังเล เมื่อเซ็นเสร็จจึงยื่นให้ทนาย สุธรรรมเซ็นตรงชื่อพยานแล้วยื่นคืนให้
“ที่เหลือแค่ให้คุณธรเซ็นรับเท่านั้น ก็เป็นอันเรียบร้อยครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
“ครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวก่อนนะครับ”
พรพจีลุกขึ้น “ขอบคุณนะคะคุณสุธรรม แล้วก็จนกว่าธรจะเซ็นรับหุ้น อย่าให้ใครรู้เรื่องนี้เด็ดขาดนะคะ”
“ครับ ผมรับรอง”

พรพจีเยื้อนยิ้มพอใจ รอจนทนายเดินพ้นไป จึงหยิบเอกสารโอนหุ้นมาดูอีกครั้งอย่างสมใจ

อ่านต่อ ตอนที่ 13

#เพลิงรักไฟมาร #thaich8 #ละครออนไลน์
กำลังโหลดความคิดเห็น