xs
xsm
sm
md
lg

เพลิงรักไฟมาร ตอนที่ 3

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เพลิงรักไฟมาร ตอนที่ 3

บ้านรมย์ฤดีงามตระหง่านอยู่ในบรรยากาศสดใสยามเช้า ขณะที่พรพจีออกกำลังกาย ด้วยโยคะสุดโปรดอยู่นั้น มีเสียงไลน์ดังขึ้น สาวใหญ่มีสีหน้าตื่นเต้นหยุดเล่นหยิบมือถือข้างตัวมาเปิดดูทันที เห็นเป็นไลน์จากวิษธรความว่า
“ผมจัดการทุกอย่างตามที่จีขอเรียบร้อยแล้วนะครับ ทำตามแผนได้เลย”
พรพจีส่งสติกเกอร์โอเคตอบกลับไป เยื้อนยิ้มอย่างพอใจ

เช้าวันหยุด สวาทและสวยกำลังจัดเตรียมตั้งโต๊ะอาหารคุณๆ ภัทร์ธีราเดินเข้ามาพอดี สวาทเหลียวไปเห็น
“คุณน้องจ๋ามาแล้ว มาค่ะ โจ๊กข้าวกล้องกำลังร้อนๆ”
“อาจีล่ะคะป้าหวาด”
“ป้าไปตามแล้วค่ะ เห็นว่าอีกเดี๋ยวจะตามลงมา”
“โอ้โห วันนี้คุณจีสวยจังเลยค่ะ”
ทุกคนหันไปมองตามคำพูดของสวย เห็นพรพจีเดินเข้ามาด้วยชุดสวยสง่า
“วันนี้วันหยุดไม่ใช่เหรอคะ อาจีแต่งตัวสวยจัง มีธุระที่ไหนหรือเปล่าคะ”
สวาทและสวยยกอาหารมาเสิร์ฟให้ อาหลานทานอาหารเช้าไปคุยกันไปด้วย
“วันนี้พักไม่ได้จ้ะ งานสำคัญมาก”
“งานอะไรสำคัญขนาดนั้นคะ”
ภัทร์ธีราทำสีหน้าไม่เห็นด้วย
“นั่นน่ะสิคะ คุณจีพักบ้างนะคะ ทำงานหนักเกินไปแล้ว” สวยบอก
“งานดูแลหลานสุดที่รักไงจ๊ะ” พรพจีหัวเราะอารมณ์ดี “วันนี้ว่างใช่ไหม”
“ว่างค่ะ แต่แหม...จ๋าโตแล้ว ต้องเป็นฝ่ายดูแลอาจีมากกว่านะคะ”
“แต่วันนี้อาอยากตามใจน้องจ๋าทั้งวัน อยากได้อะไร อาเป็นเจ้ามือเอง ตกลงไหมจ๊ะ”
“โห... งั้นจ๋ายอมให้อาจีดูแลเต็มที่ทั้งวันเลยค่ะ ขอบคุณค่ะอาจี”
ภัทร์ธีราลุกไปกอดพรพจีอย่างดีใจ พรพจีและสวาทหัวเราะด้วยความเอ็นดู
“วันนี้จ๋ามีความสุขที่สุดเลยค่ะ เดี๋ยวจ๋าไปบอกน้าเกลี้ยงให้เตรียมรถเลยดีกว่า”
“เกลี้ยงต้องไปทำธุระให้อา วันนี้เราเลยมีสารถีคนใหม่จ้ะ”
“ใครเหรอคะ”
พรพจียิ้มอารมณ์ดี
“คุณวิษธรจ๊ะ”


อีกฟาก คุณอุไรกำลังเตรียมอาหารเช้าขึ้นโต๊ะอยู่ ขณะอรดีเดินเข้ามา
“ยัยยายังไม่ตื่นเหรอคะ”
“แต่งตัวอยู่ข้างบนแน่ะ”
อรดีแปลกใจ “ไปไหนแต่เช้าคะ”
อุไรบุ้ยใบ้ไปทางประตู “มาแล้วโน่นไง ถามเอาเองละกันจ้ะ”
อรดีมองตามเห็นอิชยาแต่งตัวสวยงามสมวัย กระหืดกระหอบเข้ามาด้วยความรีบเร่ง มองหาของบางอย่างรอบๆ โต๊ะกินข้าว
“โอ๊ย ยัยยา จะรีบทุกวันเลยรึไง” อรดีบ่น
“วันนี้ยามีธุระด่วนจริงๆ” หญิงสาวหันไปถามมารดา “แม่ เห็นโทรศัพท์ยามั้ยคะ อยู่นี่เอง”
“ยา กินข้าวก่อนไปสิลูก” อุไรเรียกไว้
“เดี๋ยวไปกินที่นู่นเลยค่ะ เอ กล่องที่ยาวางไว้ตรงนี้ไปไหนนะ...”
อรดีถามขึ้นว่า “แล้วนี่จะไปไหนแต่งตัวซะสวยเชียว”
“จะไปเจอจ๋าน่ะค่ะ”
“นัดกันไว้เหรอ”
“ไม่ได้นัดค่ะ แต่จะไปเจอ” อิชชยาหยิบกล่องของขวัญ “อ้อ...อยู่นี่ไงหาตั้งนาน”
“เพิ่งเจอกันไปไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมต้องแต่งตัวสวยขนาดนี้” อรดีไม่เลิกซัก
อิชยาไม่ตอบ เหลียวมองหากุญแจรถ “กุญแจรถ แม่คะ แม่เห็นกุญแจรถไหม”
“ก็เราเพิ่งวางไว้บนโต๊ะนี่”
“จริงด้วย ขอบคุณค่ะ” อิชชายิ้มได้หอมอุไรฟอด “ไปก่อนนะคะ ไปแล้วค่ะพี่ดี้”
อิชยายกมือข้างที่ถือกุญแจรถอยู่ โบกมือบ๊ายบายพี่สาว อรดีคว้ากุญแจรถหมับ ยังไม่ให้ไป”
“เอาละ เล่ามาซิว่าตกลงไปเจอจ๋าที่ไหน ยังไง ถ้าไม่งั้นก็เตรียมตัวเรียกแท็กซี่ แต่คงต้องยืมเงินยัยจ๋าก่อนนะเพราะว่า...”
อรดียกกระเป๋าสตางค์ของอิชยาที่ลืมไว้โบกไปมา
“ว่าไงจ๊ะ”
อิชยาหน้าจ๋อย มองอรดีอย่างยอมจำนน

ไม่นานต่อมาพรพจีจูงมือภัทร์ธีราเข้ามาในร้านผมเจ้าประจำ โดยมีวิษธรตามมาดูแล พนักงานในร้านจำพรพจีได้เพราะเป็นลูกค้าประจำ ให้การต้อนรับอย่างดี
“สวัสดีค่ะคุณจี วันนี้ทำอย่างเดิมนะคะ”
“วันนี้แค่ทำเล็บค่ะ แต่มีลูกค้าใหม่มาให้ทำผม นี่น้องจ๋า หลานพี่เอง”
“หืมม สวยหุ่นดีจังอย่างกับดาราเลยนะคะ” ช่างผมชม
ภัทร์ธีรายิ้มรับเขินๆ พรพจีมองด้วยความภูมิใจ
“น้องจ๋าเพิ่งเรียนจบมาจากอเมริกา ตอนอยู่ที่โน้นก็เรียนหนักเลยไม่ค่อยได้ดูแลตัวเอง พี่ฝากด้วยนะคะ”
“ได้เลยค่ะ มาค่ะ เดี๋ยวพี่จะทำให้สุดฝีมือเลย”
ช่างผมดูแลจัดแต่งทรงผมให้ภัทร์ธีราไป พรพจีมองด้วยความภาคภูมิใจ
ภัทร์ธีราหันยิ้มให้พรพจี แต่เมื่อเหลือบตามาเห็นวิษธรก็หุบยิ้มลงทันที วิษธรมองขำๆ ก่อนจะกดมือถือโทร.หาใครบางคน

ทรงผมสวยสมใจอาหลานแล้ว พรพจีพาหลานสาวมาเลือกซื้อชุดสวย หลังจากไล่เลือกไปตามราวแขวนเสื้อผ้าที่เรียงรายในร้าน ภัทร์ธีราหยิบเสื้อผ้าชุดหนึ่งขึ้นมาทาบกับตัวเองให้พรพจีดู พรพจีพยักหน้าให้อย่างเห็นด้วย ทั้งสองผลัดกันเลือกเสื้ออย่างสนุกสนาน
“จ๋าได้ตั้งหลายตัวแล้ว อาจีเลือกบ้างสิคะ เอาตัวนี้ดีไหมคะ”
ภัทร์ธีราเลือกหยิบชุดเรียบหรูมาให้ชุดหนึ่ง แต่พรพจีกลับหยิบอีกชุดที่สีอ่อนหวานดูเซ็กซี่เบาๆ แล้วหันไปมองวิษธรเชิงถาม
“สวยดีนะครับ” เขาบอก
“อาลองตัวนี้แล้วกัน”
ภัทร์ธีรายืนรอพรพจีที่หน้าห้องลองเสื้อตะโกนถาม
“อาจีใส่ได้ไหมคะ”
“ได้จ้ะ เสร็จแล้ว”
พรพจีเปิดม่านออกมาเผยให้เห็นลุคใหม่ที่ดูเด็กกว่าเดิมแถมแอบเซ็กซี่จนภัทร์ตะลึง
“เป็นไงจ๊ะ”
“สวยมากเลยค่ะอาจี สวยมีออร่า ดูเด็กขึ้นเหมือน...”
“เหมือนอะไรจ๊ะ”
“เหมือนคนกำลังมีความรักเลยค่ะ...”
ภัทร์ธีรานึกขึ้นได้ หยุดพูดกะทันหันเมื่อเหลียวไปมองวิษธร พรพจีก็อึ้ง เงียบไป ต่างคนต่างทำหน้าไม่ถูก พรพจีเป็นฝ่ายเอ่ยทำลายความเงียบขึ้น
“เดี๋ยวอาไปเปลี่ยนชุดกลับ แล้วไปจ่ายเงินกันนะจ๊ะ”
“อ้าว อาจีไม่เอาตัวนี้เหรอคะ”
“ยังดีกว่าจ้ะ ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ไว้ค่อยมาดูใหม่ อาหิวแล้ว เปลี่ยนชุดเสร็จแล้วเราไปหาอะไรกินเลยดีมั้ย”
“ดีค่ะ”
ภัทร์ธีราถือเสื้อเดินออกไปที่เคาน์เตอร์จ่ายเงิน พรพจีมองชุดที่ลองไว้แล้วมองหน้าวิษธรเศร้าๆ


ภัทร์ธีรากอดแขนพรพจีเดินเลือกร้านอาหารมาตามทางเดินโซนร้านอาหารในห้าง
“อาจี อยากทานอะไรคะ อาหารไทย หรือญี่ปุ่น”
พรพจีมองหน้าวิษธรแว่บหนึ่ง แล้วจู่ๆ ก็หยุดเดิน
“อาจีหยุดทำไมคะ”
“อาปวดท้องน่ะน้องจ๋า”
“ปวดยังไงคะ เข้าห้องน้ำก่อนไหม”
“มันปวดแบบเสียดท้อง ไม่ใช่ปวดห้องน้ำ”
“ทำไงดี ปวดมากไหมคะ ไปหาหมอไหม”
“ไม่ต้องเหรอกน้องจ๋า อาปวดไม่มาก กลับบ้านไปพักน่าจะดีขึ้น”
“แต่จ๋าว่าไปให้หมอดูอาการ ชัวร์กว่านะคะ”
“อาไม่ได้เป็นอะไรมากเหรอกจ้ะ เชื่ออาสิ แค่กลับบ้านก็พอ”
“ชัวร์นะคะ”
“ชัวร์จ้ะ”
ภัทร์ธีราพยักหน้าอย่างจำนนแล้วประคองพาพรพจีออกไปขึ้นรถ

เย็นแล้วขณะวิษธรเลี้ยวรถเข้ามาจอดที่หน้าคฤหาสน์รมย์ฤดี รีบลงมาเปิดประตูรถให้ ภัทร์ธีราประคองพาพรพจีลงมาจากรถ
“บ้านเงียบจัง ปิดประตูอย่างกับไม่มีคนอยู่ ป้าหวาดไปไหนนะ อุตส่าห์โทร.มาบอกแล้วแท้ๆว่าอาจีไม่สบายนึกว่าจะออกมารับ”
“สงสัยว่าคงอยู่ในบ้านนั่นแหละ”
ภัทร์ธีรามองพรพจีอย่างเป็นห่วง
“อาดีขึ้นแล้ว เข้าไปในบ้านกันดีกว่าจ้ะ”
ภัทร์ธีราและวิษธรประคองพรพจีเข้าไปในบ้าน

ภัทร์ธีราเปิดประตูเข้ามาพร้อมเสียงดัง ปัง! เซอร์ไพร้ซ์มากเมื่อพบว่าทุกคนในบ้านรมย์ฤดี รวมถึงอิชยา ยืนยิ้มกว้างพร้อมดึงพลุกระดาษ พลุสายรุ้งยิงใส่ภัทร์ธีราอย่างสนุกสนาน โดยมีรูปภัทร์ธีราใส่ชุดครุยของต่างประเทศแผ่นใหญ่ติดอยู่ พิมพ์คำว่า “Congratulations and Welcome Home!”
อิชยา และสวาทวิ่งเข้ามากอด พรพจีเดินเข้ามากอดด้วย คนถูกเซอร์ไพร้ซ์ยิ้มกว้าง
“ขอบคุณทุกคนนะคะ เป็นแผนของอาจีแน่ๆเลย”
“จริงๆ มีผู้สมคบคิดอีกคนนะ”
พูดจบทั้งวงก็หลีกทางให้ สรัช ถือดอกไม้หรูช่อโตเดินเข้ามา
“พี่เอ้”
สรัชยิ้มกว้างพร้อมกับยื่นดอกไม้ให้ แต่ภัทร์ธีรายังไม่ยอมรับ
“พี่เอ้มาได้ยังไง ไหนว่าธีสิสเสร็จเดือนหน้าถึงจะกลับได้ แล้วที่มานี่ธีสิสเสร็จแล้วเหรอคะ”
“ที่จริงพี่ทำเสร็จนานแล้ว แต่พี่อยากมาเซอร์ไพรซ์จ๋าไง”
พรพจีแซวเอาว่า “มัวแต่ถามจะไม่รับดอกไม้เหรอจ๊ะเอ้เขาตื่นเต้นที่จะมาทำเซอร์ไพรซ์จ๋ามาก ถึงขนาดลงจากเครื่องปุ๊บก็บึ่งมานี่ปั๊บเลยนะ”
ทุกคนส่งเสียงเชียร์เซ็งแซ่ “รับเลยๆ”
วิษธรพยักหน้าเชียร์ให้รับดอกไม้อีกคน
ภัทร์ธีรายอมรับมา และรู้สึกหมั่นไส้วิษธรนิดๆ
ภัทร์รับดอกไม้มาจากสรัช ก่อนจะมองหานรินทร์
“ว่าแต่ทำไม” ภัทร์ธีราหันไปจ้องหน้าวิษธร “ไม่เชิญอารินลงมาด้วยละคะ”
ทุกคนเงียบทั้งแถบ จิรดาเอ่ยขึ้นว่า
“คุณนรินทร์หลับอยู่ค่ะ”
ภัทร์ธีรามองขึ้นไปข้างบนด้วยความเป็นห่วง

อีกฟากหนึ่ง ในคฤหาสน์อันหรูหราโออ่า คุณหญิงทอศรีนั่งอยู่บนโซฟาห้องโถง มีอรดีอดีตสะใภ้นั่งอยู่ข้างๆ กำลังก้มลงไหว้คุณหญิงแทบตัก
“กราบสวัสดีค่ะคุณหญิงแม่ ดี้เอาผลไม้บำรุงสุขภาพมาฝากด้วยค่ะ”
พร้อมกับว่าอรดีส่งกระเช้าผลไม้นอกให้ ทอศรีรับพอเป็นพิธี แล้วส่งให้อรดีวางบนโต๊ะกลางตรงหน้า
“สวัสดีจ้ะ ขอบใจนะจ๊ะ”
“ช่วงนี้ดี้ยุ่งมากๆ อยากจะหาโอกาสมาเยี่ยมคุณหญิงแม่ตั้งนานแล้ว คุณหญิงแม่สบายดีนะคะ”
“สบายดีจ้ะ แล้วเราล่ะเป็นยังไงบ้าง”
“ดี้ก็เหมือนเดิมแหละค่ะ อยู่แบบเหงาๆ พยายามทำให้ตัวเองยุ่งจะได้ไม่ฟุ้งซ่านว่างเมื่อไหร่ก็ต้องคิดถึงคุณอ้นตลอด ทำใจให้ชินไม่ได้ซักทีค่ะ ขอโทษนะคะคุณหญิงแม่...”
อรดีเสียงสั่นเครือทำท่าจะร้องไห้ คุณหญิงทอศรีรีบส่งกระดาษทิชชู่ให้พร้อมจับมือปลอบเบาๆ
“แม่เข้าใจ ไม่มีใครชินเหรอก แม่ก็คิดถึงลูกชายทุกวัน นี่ถ้าตาอ้นยังอยู่ แม่คงได้อุ้มหลานแล้ว”
คุณหญิงทอศรีน้ำตาซึม อรดีรีบหยิบทิชชู่ส่งให้
“ไม่เป็นไรนะคะคุณหญิงแม่ ยังมีดี้อยู่ตรงนี้ แล้วก็ยังมีน้องเอ้เป็นลูกชายเหลืออยู่อีกคนนะคะ ว่าแต่น้องเอ้พักผ่อนอยู่ข้างบนใช่ไหมคะ คงจะเพลียกลับมาเหนื่อยๆ”
“เอ้ยังไม่กลับมาเลยจ้ะ กว่าจะกลับก็เดือนหน้านู่น เห็นว่าต้องทำธีสิสให้เสร็จก่อน”
“เอ๊ะ น้องเอ้บอกอย่างนั้นเหรอคะ แต่น้องเอ้กลับมาแล้วนะคะ”
อรดีหยิบโทรศัพท์มือถือมากดเปิดให้คุณหญิงดู เป็นรูปที่อิชยาเพิ่งลงเฟซบุ๊คไม่กี่นาทีมานี้ เห็นสรัชกำลังยื่นช่อดอกไม้ให้ภัทร์ธีรา
“นี่ไงคะ ยัยยาลงเฟซน่ะค่ะว่ากำลังฉลองอยู่ที่บ้านน้องจ๋ากับเอ้ด้วย นึกว่าน้องเอ้จะกลับบ้านมากราบคุณแม่ก่อน สงสัยจะทนคิดถึงแฟนไม่ไหว”
เมื่อเห็นคุณหญิงทอศรีมองรูปในโทรศัพท์ด้วยสีหน้าเคืองขุ่น อรดีลอบยิ้มสะใจสมใจในภารกิจยุแยงอดีตแม่สามีสำเร็จ

ปาร์ตี้ปิ้งย่างกลางสวนสวยบ้านรมย์ฤดีเป็นไปอย่างสนุกสนาน ในบรรยากาศสบายๆ วิษธรเดินถือแก้วน้ำดื่มมายื่นให้พรพจีแล้วมองตากันอย่างลึกซึ้ง มีป้ายอีกอันแขวนไว้กลางสวน เขียนว่า "Congratulations and Welcome back Party" ส่วนข้างล่างเขียนว่า "จ๋า & เอ้" คล้ายกับเป็นป้ายงานแต่งของภัทร์ธีราและสรัชกระนั้น
ภัทร์ธีรายืนมองป้ายอย่างงงๆ
“ทำป้ายแบบนี้ไอเดียใครเนี้ย”
“พี่เองค่ะ จ๋าชอบไหม”
ภัทร์ธีรามองค้อนสรัชวงเล็กๆ แล้วเดินกลับนั่งโต๊ะ สรัชถือน้ำตาม
“จ๋า กินกุ้งนี่สิ อร่อยมาก”
“ขอบคุณค่ะ”
วิษธรปิ้งอาหารทะเลให้พรพจีเป็นการเอาใจ
“ปลานี่อร่อยดีครับ คุณจีลองชิม”
“ขอบคุณนะคะ”
ภัทร์ธีราเห็นเข้ามองอย่างไม่พอใจ
“ทำไมกินน้อยจัง ไม่อร่อยเหรอ หรือ..จ๋าโกรธอะไรพี่รึเปล่า”
“เปล่าค่ะ จ๋าห่วงอารินทร์มากกว่า ทุกคนกินข้าวกันสนุก แต่อารินต้องนอนอยู่คนเดียว” หญิงสาวปรายตามองไปทางวิษธร
ระหว่างนี้จิรดาแกล้งทำเป็นจะตักปลา แต่เอื้อมตักไม่ถึง
“เดี๋ยวผมตักให้ นี่ครับ”
จิรดายิ้มหวานให้ “ขอบคุณค่ะ”
พรพจีหึงมองอย่างไม่พอใจ
“ดาจ๊ะ”
“คะ คุณจี”
“ไม่รู้ว่าป่านนี้คุณรินจะตื่นรึยัง ถ้าตื่นมาไม่เจอใคร จะเป็นเรื่องใหญ่ ลองไปดูหน่อยสิจ๊ะ”
จิรดารู้ว่าพรพจีตั้งใจกันเธอออกจากวิษธรแบบอ้อมๆ แต่ก็จำใจทำตามหน้าที่
“งั้นเดี๋ยวดาไปดูให้ค่ะ”
พรพจีหันไปหาสวาท “น้าหวาดคะ วานให้เด็กยกอาหารเย็นตามคุณดาไปให้คุณรินด้วยนะคะ”
“ได้ค่ะ”
จิรดาลุกเข้าบ้านไปอย่างพยายามเก็บอารมณ์ถึงขีดสุด


จิรดาเดินกระฟัดกระเฟียดเข้าบ้านมาอย่างอารมณ์เสียสุดจะประมาณ บ่นบ้ากับตัวเอง
“อีแก่เอ๊ย ทำตัวเป็นก้างขวางคอ กันท่าอยู่นั่น นึกเหรอว่าเขาจะจริงจังด้วยที่เขายังเกรงใจเพราะต้องทำงานด้วยนั่นแหละ หึ”
“คุยกับใครเหรอคะ คุณพยาบาล”
จิรดาตกใจไม่ทันเห็นสวาทตามมา รีบยกมือถือขึ้นแนบหูเนียนๆ ทำเป็นคุยสายอยู่
“แค่นี้ก่อนนะแก” จิรดารีบหันมาแก้ตัวกับสวาท “คุยกับเพื่อน เอ้อ ในโทรศัพท์น่ะค่ะ พอดีแฟนเพื่อนมีกิ๊กแก่กว่า แล้วมาทำร้ายเพื่อนดา ดาเลยขึ้นแทนเพื่อนน่ะค่ะ”
“อ้อเหรอคะ สงสารเขานะคะ เอ่อ ที่ตามมาเนี่ย ฉันจะถามว่าคุณพยาบาลจะรับของหวานด้วยเลยไหม”
“ก็ดีค่ะ”
สวาททำหน้าเรียบเฉยอย่างรู้เท่าทัน จิรดาทำเป็นยิ้มกลบเกลื่อน

นรินทร์นอนอยู่บนเตียงในห้องนอนเหมือนหลับอยู่ ขณะจิรดาเปิดประตูเข้ามาอย่างเซ็งๆ พลางร้องบอก
“ดาเองค่ะ”
พอรู้ว่าเป็นจิรดานรินทร์ก็ลืมตาทันที
“คุณดาเองเหรอ เป็นไงบ้าง พวกนั้นเชื่อไหมว่าผมหลับอยู่”
“เชื่อสิคะ”
“แล้วที่ผมให้คุณ”
“เรียบร้อยค่ะ นี่ค่ะ”
จิรดายื่นโทรศัพท์มือถือให้นรินทร์ดู เป็นรูปแอบถ่ายวิษธรกับพรพจีจากงานปาร์ตี้ในอิริยาบทที่สองคนใกล้ชิดกันมาก จิรดาทำเป็นอึดอัดไม่อยากพูด แต่สุดท้ายพูดใส่ไฟพรพจี
“ก็อย่างที่เห็นในรูปน่ะค่ะ คุณจีดูมีความสุขมาก กระหนุงกระหนิงกับคุณธรตลอดเวลา แต่คุณธรก็ดูไม่ค่อยอะไรนะคะ ดาว่าเขาทำไปเพราะหน้าที่การงานมากกว่า”
“ตบมือข้างเดียวไม่ดังหรอกคุณดา” นรินทร์ยื่นซองเงินให้ “เอ้า”
จิรดายกมือไหว้ รับเงินมาด้วยสีหน้าชื่นมื่น นรินทร์กำมือแน่นด้วยความเจ็บปวด

ยิ่งดึกบรรยากาศปาร์ตี้ก็ยิ่งดูโรแมนติก แสงไฟกระพริบวิบวับสวยงามรอบบริเวณสวยสวยช่วยสร้างบรรยากาศ วิษธรยังคงดูแลพรพจีไม่ห่าง สองคนหัวเราะหัวใคร่พูดคุยกระหนุงหนิง โดยไม่รู้ว่ามีสายตาภัทร์ธีราคอยจับสังเกตตลอดเวลา ในขณะที่สรัชคอยเอาใจน้องจ๋าโดยไม่รู้อิโหน่อิเหน่
อิชยาชวนภัทร์ธีราคุยในจังหวะหนึ่ง
“นี่จ๋า แกรู้ไหมว่าโลกกลมมาก”
“ใครๆ ก็รู้น่าว่าโลกกลม รู้กันมาเป็นร้อยปีแล้ว”
“ฉันเปรียบเทียบว่ามันบังเอิญต่างหาก ใครจะไปคิดว่าพี่เอ้ที่เป็นน้องชายของพี่เขยฉัน จะมาเป็นแฟนแกได้ แกก็เงียบไม่ยอมบอกฉันเลยนะ งอนแล้ว”
“ฉันจะรู้ไหมล่ะ พอฉันพูดถึงพี่เอ้ แกก็ไม่สนใจ เปลี่ยนไปโม้แต่เรื่องแฟนตัวเอง”
สองสาวเพื่อนรักหยอกเย้าแซวกันไปมาอย่างสนิทสนม จู่ๆ วิษธรก็แทรกขึ้นมาว่า
“งั้นคุณดี้ก็มีศักดิ์เป็นพี่สะใภ้คุณเอ้นะสิครับ”
พรพจีฉุนกึก ไม่พอใจที่เขาพูดชื่ออรดีขึ้นมา
“ใช่ครับ พี่ดี้เป็นพี่สาวของยา โลกกลมจริงๆ ไม่รู้ว่าเราจะเจอใครที่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเราอีกรึเปล่านะครับ อาจจะเป็นพรหมลิขิต” สรัชบอก
“หรืออาจจะเป็น กรรม หรือ บุญ ที่ทำร่วมกันมา” วิษธรว่า
“บางคนคงเป็นบุญ บางคนคงเป็นกรรมน่ะค่ะ” ภัทร์ธีราแดกดันกลับ
สรัชไม่รู้เรื่องเช่นเคย “นั่นสินะครับ นี่คงไม่ได้มีใครในนี้บังเอิญเป็นพี่น้องที่พลัดพรากไปของผมนะครับ”
ทุกคนหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน
“เอ้ทานได้เยอะดีจัง น้าหวาดคงดีใจ” พรพจียิ้มแย้มโอภาปราศรัย
“น้ำจิ้มป้าสวาทบาดใจผมมาก อยู่เมกาไม่ได้กินอะไรแซบๆ แบบนี้บ่อยนะครับ”
“อาหารก็อร่อย งานก็อบอุ่นมากๆ ค่ะ” อิชยาว่า
“ใช่ครับ ต้องขอบคุณคุณธรนะครับ ที่จัดงานได้สวยและเร็วมาก ผมบอกล่วงหน้าแค่วันเดียวเอง ตอนแรกนึกว่าจะไม่ทัน ไฟลท์ดีเลย์ด้วย นี่พอลงเครื่องปุ๊บก็รีบมายังไม่ได้กลับบ้านเลยนะ ดีที่ได้คุณธรช่วย ขอบคุณนะครับ”
“พี่เอ้ยังไม่ได้กลับบ้านนี่เรื่องจริงเหรอคะ” ภัทร์ธีราตกใจไม่หาย
“จริงสิ พี่อยากมาหาจ๋าก่อนไง”
“เดี๋ยวคุณพ่อคุณแม่รู้ก็เสียใจแย่”
“ไม่หรอก พี่กะไปเซอร์ไพรซ์ท่านอยู่แล้ว”
“ถ้างั้นรีบกลับก่อนดีกว่าค่ะ ไว้เรามาเจอกันอีกวันหลังก็ได้”
“เดี๋ยวสิครับจ๋า อย่ารีบไล่สิ พี่ยังไม่หายคิดถึงจ๋าเลยนะ”
“นั่นสิจ๊ะจ๋า เอ้ยังกินไม่อิ่มเลย งานนี้พวกเราจัดเพื่อเอ้กับจ๋าโดยเฉพาะเลยนะจ๊ะ” พรพจีบอก
วิษธรเสริมว่า “มาทานกันต่อดีกว่าครับ คุณเอ้ยังไม่ต้องรีบหรอก”
สรัชหันไปยิ้มให้ภัทร์ธีรา แต่สีหน้าอีกฝ่ายดูออกว่าไม่สบายใจนัก

สรัชแอบย่องเข้าบ้านมาเงียบๆ กะจะทำให้พ่อแม่เซอร์ไพร้ซ์ แต่เขากลับต้องเป็นฝ่ายประหลาดใจเสียเองเมื่อพบว่าบิดานายพลและคุณหญิงมารดานั่งหน้าเคร่งรออยู่แล้วในโถงรับแขก
“สรัช” คุณหญิงทอศรีร้องทักเสียงเข้ม
“คุณแม่ เอ้ตกใจหมด เอ่อ...เอ้กลับมาแล้วครับ เซอร์ไพรซ์” ชายหนุ่มยิ้มกลบ
“เป็นไงบ้างลูก”
นายพลสุทธิยิ้มดีใจ ส่วนคุณหญิงนั่งนิ่ง และเงียบกริบ
สรัชรับรู้ถึงความหมางเมินได้ เนื่องจากคุณหญิงมารดาจะไม่เรียกชื่อจริงของเขานอกจากเวลาโกรธเท่านั้น เขารีบเข้าไปกราบท่านทั้งสอง
“สบายดีครับคุณพ่อ เอ้คิดถึงคุณพ...”
ทอศรีสวนออกมาว่า “ทำไมกลับมาแล้วไม่บอกพ่อกับแม่”
“เอ้ ตั้งใจมาเซอร์ไพรซ์คุณแม่ไงครับ”
“ไม่ใช่ว่าติดแฟนจนไม่เห็นหัวแม่เหรอ”
สรัชแปลกใจ “คุณแม่รู้ได้ไงครับ”
“มันไม่สำคัญเหรอก ที่สำคัญคือ มันจริงใช่ไหม”
สรัชหน้าจ๋อย “เอ้...ขอโทษครับ”
“ไม่เป็นไรลูก” ท่านนายพลไม่ถือสาใดๆ ส่วนคุณหญิงยังตั้งแง่ไม่เลิก
“ได้ยังไงกันคะคุณ เวลามีแฟนแล้ว หัวพ่อหัวแม่มันกลายหัวหลักหัวตอใช่ไหม เอ้ถึงทำอะไรไม่เห็นหัวพวกเรา”
“คุณ ลูกมันไม่ได้ตั้งใจอย่างนั้นหรอกน่า” ท่านนายพลว่า
“ใช่ครับ เอ้ไม่ได้ไม่เห็นหัวคุณพ่อคุณแม่นะครับ แต่เอ้อยากเซอร์ไพรซ์คุณพ่อกับคุณแม่พร้อมกัน แล้วเอ้เห็นว่าคุณพ่อเลิกงานค่ำๆ น่ะครับ เลยแวะไปหาจ๋าก่อน แต่ยังไงเอ้ก็ผิดอยู่ดี เอ้กราบขอโทษคุณพ่อกับคุณแม่ครับ” พร้อมกับว่าเขาก้มกราบแทบตักสองบุพการี
ท่านนายพลบอกกับคุณหญิงภริยาว่า “ลูกมีเหตุผลนะคุณ ยกโทษให้ลูกเถอะ ไม่ได้เจอลูกตั้งนานไม่คิดถึงหรือไง”
คุณหญิงใจอ่อนจนได้
“ยกโทษให้เอ้นะครับคุณแม่ นะครับ นะๆๆ”
สรัชเข้าไปกอดหอม ทอศรีมองค้อน
“แต่คราวหลังห้ามทำแบบนี้อีก ตอนนี้เอ้เป็นลูกชายที่เหลืออยู่คนเดียวของแม่ เอ้ต้องเชื่อฟังแม่ตกลงไหม”
“เยส เซอร์”
สรัชตอบเลียนแบบทหารในหนังฝรั่ง ทำเอาทอศรีและสุทธิยิ้มออกมาได้


คุณหญิงทอศรีออกจากห้องน้ำ ท่านนายพลสุทธิที่กำลังอ่านเอกสารอยู่เตรียมเก็บเอกสารเข้านอน พอดีมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
“เอ้เข้าไปนะครับ”
สรัชเปิดประตูเข้ามาพร้อมถุงของฝาก ทอศรียิ้มให้
“เอาอะไรมาน่ะลูก”
สรัชเปิดถุงออก “ของฝากของคุณพ่อและคุณแม่ครับ ได้ครบทั้งซื้อฝากและฝากซื้อครับ พวกของกินเอ้ไปเก็บไว้ในครัวแล้ว อันนี้เป็นของใช้ส่วนตัวที่พอจะหิ้วมาได้”
สรัชยื่นถุงกระเป๋าให้มารดา และถุงเข็มขัดให้บิดา
“โถ เอ้ของแม่ไม่น่าลำบาก อุ้ย กระเป๋ารุ่นนี้แม่อยากได้อยู่พอดี”
ท่านนายพลส่ายหน้าอย่างระอานิดๆ
“พวกชิ้นใหญ่มากๆ เอ้แบกไม่ไหวเลยให้เขาจัดส่งมาทางเรือนะครับ”
“ความจริงเอ้ไม่เห็นต้องลำบาก หลายอย่างเราซื้อในไทยก็ได้ เสียภาษีให้ชาติเงินทองไม่รั่วไหล”
ทอศรีหมั่นไส้ “งั้นคุณไปซื้อใหม่เอาเองแล้วกัน ฉันจะเก็บหมดนี่ไว้ใช้เอง”
“อ้าวๆ มันของผู้ชายผู้หญิงใช้ได้ที่ไหนกัน”
“ความจริงมีของฝากชิ้นใหญ่กว่านี้อีกนะครับ”
“อะไรเหรอลูก”
สรัชยิ้มเขิน
“ลูกสะใภ้ไงครับ ของฝากชิ้นใหญ่ แล้วผมจะพามาเปิดตัวกับคุณพ่อคุณแม่เร็วๆ นี้”
สุทธิยิ้มขำ “ร้อยวันพันปีไม่เคยเปิดตัวใคร แสดงว่าคนนี้จริงจัง”
“จริงจังที่สุดในชีวิตเลยครับ”
“จริงจังแค่ไหน ถ้าแม่ประเมินแล้วไม่ผ่านเกณฑ์ก็หมดหวังเป็นสะใภ้บ้านนี้จ้ะ”
“ผมขอแค่โอกาส ถ้าคุณแม่ได้เจอน้องจ๋าสักครั้ง ก็จะรักเขาเหมือนที่ผมรักผมรับรองครับ”
สรัชตอบด้วยแววตามุ่งมั่นและเปี่ยมไปด้วยความรัก ทอศรีมองค้อนลูกชายปะหลับปะเหลือก

สวยกับเต่าช่วยกันเช็ดจานชามเข้าตู้อยู่ในครัว แต่เต่าดูเหมือนใจลอยจนสวยต้องตะโกนเรียกสติ
“เต่า แกรับจานนี่ไปที ฉันจะไปเอาตรงโน้นมา...เต่า นังเต่า”
“โอ๊ย จะตะโกนทำไม หูฉันไม่ได้หนวกนะ”
“หูไม่หนวกก็ต้องได้ยินตั้งแต่ครั้งแรกแล้วสิวะ อย่าพูดมากรับจานไป มัวเหม่ออะไรอยู่ได้”
“ก็วันนี้มีผู้ชายมาบ้านตั้งสองคน ฉันก็เลยตัดสินไม่ได้ว่าใครดีกว่ากัน”
สวยกลอกตาอย่างเซ็งๆ “หนอยนังเต่า แกเอาเวลาทำงานมานั่งคิดเรื่องผู้ชายเนี่ยนะ ฉันบอกเลยว่าไร้สาระมาก เห็นได้ชัดเจนว่า ต้องเป็นคุณวิษธรอยู่แล้ว”
“ทำไม”
“ก็คุณวิษธรรูปหล่อหุ่นดี ทำงานก็เก่ง นิสัยก็ดี ชอบเผื่อแผ่ สุภาพพูดน้อย มาดขรึมเท่เหมือนพระเอกละคร อย่างกับหลุดออกมาจากโทรทัศน์ ชนะเห็นๆ”
สวยบรรยายเร็วปรื๋อพูดไปก็เขินไป
“ก็จริง แต่ฉันว่าคุณเอ้ก็ไม่แพ้” เต่าว่า
“ยังไง”
“ก็คุณเอ้น่ะทั้งน่ารัก บ้านรวย อัธยาศัยดี ยิ้มแย้ม มีน้ำใจ แถมยังเอาใจคุณจ๋าทุกอย่าง ยังกับหลุดมาจากซีรีส์เกาหลี ฉันว่าคุณเอ้เลิศกว่า”
เต่าบรรยายเร็วปรื๋อไม่แพ้กัน สองสาวทุ่มเถียงกันเสียงดัง
“คุณธรต่างหาก”
“คุณเอ้”
“คุณวิษธร”
“คุณเอ้”
เกลี้ยงที่นั่งฟังอยู่นานแล้วทนไม่ไหวต้องลุกขึ้นมาห้ามทัพ
“พอ แหมแม่คุณ สวยเลือกได้กันจริงๆเลย ถ้าสวยเหมือนคุณจ๋าค่อยเลือก เข้าใจไหม”
สวาทออกความเห็นขึ้นบ้าง “นั่นสิ แต่ฉันว่าคุณธรคะแนนนำนะ ผู้หญิงน่ะชอบผู้ชายที่เป็นผู้นำเขาได้ไม่ใช่เป็นผู้ตามอย่างเดียว”
สวยรีบผสมโรง “ใช่ไหมล่ะป้า ฉันก็ว่าอย่างนั้นแหละ ว่าแต่ถ้าเป็นคุณจ๋าก็คงเลือกคุณเอ้”
สวาทพูดนิ่งๆ เหมือนกับบ่นกับตัวเองว่า
“น่าเสียดายคุณจ๋ามีคุณเอ้แล้ว ไม่อย่างนั้นนะ”
“ไม่อย่างนั้นทำไมหรือป้า” สวยถาม
นายเกลี้ยงมองหน้าสวาท “นี่ป้าจะจับคู่คุณจ๋ากับคุณธรหรอ”
“คุณเอ้ของฉันไม่ดีตรงไหน” เต่าฮึดฮัด
“มันก็ดีเท่ากันนั่นแหละ ฉันขี้เกียจพูดกับพวกแกละ เผือกเรื่องชาวบ้านกันอยู่ได้ ไปๆ ไปทำงานให้เสร็จ จะได้รีบนอน ฉันง่วงแล้ว”
จากนั้นสวาทก็เร่งให้คนอื่นรีบทำงานให้เสร็จเร็วๆ


สวาทเดินเข้ามาถือถาดแก้วนมมาในห้องนั่งเล่น เห็นพรพจีกำลังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่นั่งเล่นโทรศัพท์คุยแชทกับใครบางคน
“น้ำเต้าหู้หวานน้อยก่อนนอนค่ะ”
“ขอบคุณจ้ะน้าหวาด”
พรพจีตอบรับโดยไม่มองหน้า ยังคงแชทกับคนในโทรศัพท์มือถืออยู่ จนสักครู่หนึ่งจึงรู้ตัวและกลัวสวาทสงสัย จึงวางมือถือลงแล้วเปลี่ยนเรื่องคุยพลางดื่มน้ำเต้าหู้ไปพลาง
“เป็นยังไงบ้างจ๊ะ ว่าที่เขยของเรา”
“เท่าที่เห็นก็รูปร่างหน้าตาดี สุภาพเรียบร้อย ส่วนนิสัยใจคอคงต้องดูกันต่อไปค่ะ”
“ฉันอยากให้น้องจ๋าได้แต่งงานกับคนดีที่สุด ท่าทางเอ้ก็ดูไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร ไม่อย่างนั้นน้องจ๋าคงไม่เลือกเขา”
“ให้ดูๆ กันไปก่อนก็ดีค่ะ รีบร้อนไปเดี๋ยวจะหาว่าเราอยากได้ลูกชายนายพลมาเป็นเขย”
“น้องจ๋าของเราก็ไม่ได้เสียหายอะไรที่เป็นสะใภ้นายพลนี่จ๊ะ คุณสมบัติก็ครบแบบที่ผู้หญิงดีๆ ควรมี แต่ถ้าผู้ใหญ่ทางนั้นไม่ชอบน้องจ๋า ฉันก็จะบอกให้เลิกติดต่อกับเอ้ทันที น้องจ๋าต้องรักเกียรติและศักดิ์ศรีของตัวเองด้วย”
“ถ้าเป็นอย่างนั้น คุณจ๋าเธอจะยอมหรือคะ” สวาททักท้วงอย่างเป็นกังวล
“ฉันเชื่อว่าน้องจ๋าจะทำทุกอย่างตามที่ฉันบอกแน่นอนจ้ะ”
พรพจีพูดยิ้มๆ เชื่อมั่นว่าภัทร์ธีราจะฟังเธอทุกอย่าง พลางจิบน้ำเต้าหู้มาดื่มอีกรอบ

รุ่งเช้าภัทร์ธีรายืนมองออกไปนอกหน้าต่างห้องนั่งเล่น เห็นวิษธรกับพรพจีขับรถออกไปด้วยกัน ด้วยรถคันเล็กของพรพจี
“ดูอะไรอยู่คะคุณจ๋า ชิมน้ำผลไม้รวมของป้าดีกว่าค่ะ”
ภัทร์ธีราเดินมานั่งที่โซฟาอย่างแรง ยังคงสงสัยเรื่องวิษธรกับพรพจีไม่หาย
“ทำไมอาจีไม่ให้น้าเกลี้ยงขับรถให้ล่ะคะป้าหวาด ไปให้นายนั่นขับทำไม”
“คุณจ๋าเรียกคุณธรดีๆ สิคะ ปกติเวลามีธุระด่วนที่ไหน คุณจีก็จะให้คุณธรขับรถไปให้น่ะค่ะ นายเกลี้ยงน่ะขับไม่ทันใจเธอ คุณจีเธอคงรีบนะคะวันนี้”
“แต่น้องจ๋าว่ามันไม่เหมาะที่อาจีกับ คุณวิษธร จะไปไหนด้วยกันสองต่อสอง คนอื่นจะมองไม่ดีเอานะคะ แบบนี้อารินถึงได้เข้าใจผิด อย่างน้อยถ้ามีน้าเกลี้ยงไปด้วยจะได้ไม่น่าเกลียด”
“คุณจ๋าอย่าคิดมากเลยค่ะ คุณจีน่ะอายุห่างจากคุณธรตั้งเยอะ แล้วก็เป็นหุ้นส่วนกัน ต้องทำงานด้วยกันใครๆก็รู้ อีกอย่างคุณจีของน้องจ๋าก็มีสามีแล้วไม่ใช่สาวโสดนะคะ”
“แล้วถ้าอาจีโสดล่ะค่ะเรื่องอายุอาจจะไม่เป็นปัญหาเท่าไหร่”
สวาทอึ้งไป
“จ๋าเชื่อใจอาจีค่ะ” สวาทยิ้มออก “แต่จ๋าไม่ไว้ใจเขา”
“คุณจ๋า”
สวาทอ้าปากทำท่าจะทักท้วงและอบรม ภัทร์ธีรารู้ทันรีบตัดบท
“จ๋ามีนัด ขอไปเตรียมตัวก่อนนะคะ”
ภัทร์ธีรารีบลุกออกไปเลย สวาทมองตาม ถอนหายใจอย่างหนักอก


ภัทร์ธีราถึงกับวางช้อนลงด้วยสีหน้าท่าทางตกใจเอามากๆ เมื่อฟังสรัชพูดจบ
“อะไรนะ พี่เอ้จะให้จ๋าไปพบคุณพ่อคุณแม่วันนี้เลยเหรอคะ”
“พี่เห็นว่าวันนี้เราก็ว่างทั้งคู่ คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ได้ไปไหนด้วย น่าจะเป็นโอกาสดีให้จ๋าไปได้ไปกราบท่าน อยากให้ท่านได้รู้จักไว้”
“แต่จ๋ายังไม่พร้อม จ๋ายังไม่ได้เตรียมตัวเลย”
“จ๋าไม่จำเป็นต้องเตรียมตัวอะไรเลย แค่จ๋าเป็นจ๋าเอง พี่เชื่อว่าท่านจะรักจ๋าแบบที่พี่รักแน่ๆ”
สรัชจับมือภัทร์ธีรามากุมไว้อย่าแผ่วเบา
“นะครับจ๋า ยิ่งจ๋าไปเจอท่านเร็วเท่าไหร่ เราก็จะจัดการเรื่องของเราได้เร็วขึ้นเท่านั้น”
ภัทร์ธีรารู้ดีว่าสรัชหมายถึงเรื่องแต่งงาน แต่เธอยังไม่อยากคุยเรื่องนี้
“พี่เอ้ให้เวลาจ๋านะคะ จ๋าอยากจะไปกราบคุณพ่อคุณแม่ของพี่เอ้ และก็อยากทำให้ดีที่สุดด้วย แต่วันนี้จ๋าแต่งตัวไม่เรียบร้อย จ๋าอยากให้พี่เอ้นัดวันเวลาจ๋ามาก่อน ไม่ใช่ปุบปับแบบนี้ จ๋าขอเวลาเตรียมตัวนะคะ”
“งั้นก็ได้ครับ นัดเป็นวันไหนดี”
ภัทร์ธีรามีสีหน้าใคร่ครวญครุ่นคิด

ขณะที่วิษธรกำลังนั่งอ่านเอกสารหน้าเคร่งเครียดอยู่นั้น จนได้ยินเสียงเปิดประตูจึงเงยหน้าขึ้นส่งยิ้มไปให้คนที่เดินเข้ามา พลางลุกขึ้นต้อนรับ
“มาแล้วเหรอครับ”
กลายเป็นอรดีเดินนวยนาดเข้ามาพร้อมรอยยิ้มยั่วยวน
“ถ้าคุณพร้อมแล้วเราไปกันเลยไหมคะวันนี้ดี้จะเป็นสารถีให้เองค่ะ”
วิษธรเกรงใจรีบปฏิเสธ “ไม่เป็น...”
แต่อรดียกมือปิดปากไม่ให้พูด
“ดี้เต็มใจค่ะ ไปกันเลยนะคะ”
วิษธรจำใจพยักหน้ารับ เปิดลิ้นชักหยิบกระเป๋าสตางค์ อรดีมองพลางกลอกตาไปมา จังหวะที่วิษธรลุกขึ้น อรดีก็ทำเป็นถลาเท้าพลิกเซไปทางเขา
“ว้าย”
วิษธรประคองอรดีไว้ทัน
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”
“เท้าพลิกนิดหน่อย ไม่เป็นไรค่ะ”
อรดีถือโอกาสอิงซบวิษธร พลางช้อนตาเงยหน้ามองเขา หน้าใกล้กัน ลมหายใจรดกัน
ที่หน้าห้อง พรพจีเปิดประตูมาทันเห็น แล้วถึงกับชะงัก อรดีทำท่าจะจูบวิษธรอยู่รอมร่อ

พรพจีเลือดขึ้นหน้า ปราดเข้าไปในห้อง จิกหัวอรดีออกมาจากวิษธรด้วยความหึงหวง
“มารยาสาไถยนักนะ”
“อะไรกันเนี่ย คุณอาเป็นบ้าไปแล้วหรือไงคะ”
พรพจีไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไร ตบอรดีจนหน้าหันเซแซดๆ ไป
“จี หยุด! อย่าทำแบบนี้”
วิษธรรีบเข้ามาห้ามอรดีเข้ามาหลบอยู่หลังวิษธร พรพจียิ่งหึง
“ผัวตัวเองเพิ่งตายไปไม่กี่เดือน ก็กล้ามาร่านกับผู้ชายคนอื่นแล้ว”
อรดีปรี๊ด ด่าพรพจีกลับ
“ด่าคนอื่นนี่ไม่ได้ดูตัวเองเลยใช่ไหม ผัวฉันตายไปแล้ว ฉันจะคบกับใครมันก็เรื่องของฉัน แต่แก! ผัวแก่ของแกนอนพิการพะงาบๆอยู่ในบ้าน แกยังหน้าด้านมายุ่งกับผู้ชายคราวลูก สมองเสื่อมตามอายุเหรอไงห่ะอีแก่”
พรพจีแค้นหนัก ผลักอรดีล้มลงบนโซฟารับแขก ขึ้นคร่อมแล้วตบไม่ยั้งอรดีพยายามปัดป้อง แต่ก็สู้แรงหึงของพรพจีไม่ได้

ทั้งหมดคือมโนที่พรพจีอยากจัดการแม่ม่ายคู่กัด แต่ในความเป็นจริง พรพจีเพียงมองอรดีอย่างโกรธจัด คิดไม่ตกว่าจะทำอย่างไรดี อรดีทำท่าจะจูบวิษธร พรพจีตัดสินใจเคาะประตูขัดจังหวะทันที
“คุณจี”
“โอ๊ะ คุณอาจี สวัสดีค่า”
อรดียกมือไหว้พรพจีส่งๆ รีบหันไปเกาะแขนวิษธรแน่น พรพจีรับไหว้
“จะไปไหนกันเหรอจ๊ะ”
“ไปธุระส่วนตัวค่ะ”
“ไปดูที่กับคุณดี้น่ะครับ พอดีคุณดี้จะขายเลยอยากให้ผมลองไปดูก่อน”
“น่าสนใจนะ ได้ข่าวว่าที่แปลงนี้ของดี้ติดถนนแล้วก็สวยมากอยากเห็นของจริงจังเลย งั้นฉันขอไปดูด้วยนะ”
“ไม่ดะ...”
วิษธรสวนออกไปว่า “ได้สิครับ”
อรดีหันไปมองอย่างไม่เห็นด้วยกับวิษธร
“ดี้นึกว่าเราจะไปกันสองคนซะอีก”
“คุณจีไปด้วยก็ดีครับ จะได้ช่วยกันดู”
“มันหน้าที่ของหุ้นส่วนที่ดีน่ะค่ะ ที่จะต้องช่วยกันตัดสินใจในทุกๆเรื่องไปกันเลยไหมคะธร”
“ครับ”
พรพจียิ้มหวานให้วิษธร อรดีมองพรพจีอย่างหงุดหงิด

สามคนยืนอยู่บนที่ดินแปลงสวยติดถนนใหญ่ที่อรดีมาดูเมื่อหลายวันก่อน อรดีเกาะแขนวิษธรชี้ชวนโน้นนี้ให้เขาดู โดยมีพรพจีกอดอกมองอย่างหมั่นไส้อยู่ข้างๆ
“ธรรู้ไหมคะ ที่ดินแปลงนี้เป็นที่ดินแปลงที่ดี้รักที่สุด”
“แปลกนะคะ รักมากแต่เอามาขาย” พรพจีปรารภ
อรดีหมั่นไส้ “รักมากก็เลยขายให้เฉพาะคนสำคัญค่ะ”
“แปลงนี้สวยมาก ติดถนนด้วย” วิษธรบอก
อรดียิ้มกระหยิ่ม “ใช่ไหมคะ ถ้าธรซื้อไปไม่ผิดหวัง จะเก็บไว้สร้างเรือนหอก็ได้นะคะ”
“ผมมีบ้านอยู่แล้วครับ” วิษธรว่า
“ถ้าธรอยู่ตรงนั้น ระวังจะออกมาไม่ได้นะคะ ไปไหนมาไหนท่าทางจะลำบากมาก เห็นว่าเจ้าที่แรง จริงไหมคะ อาจี"
พรพจีข่มใจกับคำเรียก ถากถางอีกฝ่ายกลับ “คับใจอยู่ยากค่ะ ถ้าใจไม่อยากอยู่ ธรคงไม่อยู่มั้งคะ”
อรดีอ้าปากจะเถียง วิษธรรีบเปลี่ยนเรื่อง
“นี่ก็เกือบเย็นแล้ว เรารีบกลับกันดีกว่าครับเดี๋ยวรถติด ส่วนเรื่องที่ ผมชอบมาก แต่ยังไงผมคงต้องขอเวลาตัดสินใจ คุณดี้โอเคไหมครับ”
“สำหรับธรดี้โอเคเสมอค่ะ ถ้าธรให้ดี้รอ ดี้ก็จะรอ”

กลับถึงบ้านรมย์ฤดีเย็นนั้น พรพจีหอบเอางานมาทำต่อที่บ้านด้วย เธอนั่งอ่านเอกสารที่ดินของเจ้าอื่นๆด้วยสีหน้าเรียบเฉย มีวิษธรนั่งเท้าคางมองอยู่ข้างๆ ยิ้มพรายออกมา พรพจีอ่านจบก็ทิ้งเอกสารลงบนโต๊ะ
“ที่ดินแปลงนี้ก็โอเคนะครับ ผมไปดูมาวันก่อน คิดว่าบริษัทควรซื้อไว้”
“ก็ได้ค่ะ”
“แล้วที่ดินของคุณอรดีล่ะครับ ตกลงจะซื้อรึเปล่า”
พรพจีจ้องหน้าเขา “ถ้าฉันว่าไม่ ธรจะซื้อเองเหรอคะ”
“ผมรอการตัดสินใจของคุณก่อน”
“ที่ดินของดี้สวยนะคะ ธรคงชอบมาก” พรพจีประชดในที
“ผมไม่เคยชอบที่ไหนที่ไกลจากคุณ”
พร้อมคำหวานวิษธรจับมือพรพจีมาจูบเบาๆ มองตาลึกซึ้ง พรพจีลูบหน้าเขาอย่างรักใคร่ วิษธรดึงพรพจีเข้ามากอด
“ทำไมเราถึงเจอกันช้าไป”
“ฉันเกิดเร็วไป ส่วนคุณก็เกิดช้าไปต่างหากล่ะคะ”
วิษธรดันตัวพรพจีออกเบาๆ จ้องตาเธออย่างจริงจัง
“อุปสรรคของเราไม่ได้อยู่ตรงนั้นคุณก็รู้ มันอยู่ตรงที่ว่าคุณมีเขาแล้วต่างหาก คุณชอบพูดถึงแต่เปลือกนอก ทำไมไม่พูดถึงสิ่งที่มันอยู่ลึกกว่านั้น”
“ฉันอดคิดไม่ได้ค่ะ เรื่องวัยของเรา”
“ผมยังไม่คิด ไม่แคร์ แล้วคุณจะไปแคร์ทำไม จำไว้ว่าวันไหนที่คุณเป็นอิสระ ผมจะแต่งงานกับคุณทันที จะไม่ยอมให้คุณอ้างโน่นอ้างนี่เป็นอันขาด”
“ฉันอยากให้ถึงวันนั้นเร็วๆ ฉันรอไม่ไหวแล้วจริงๆ”
พรพจีซบลงกับอกแกร่งของหนุ่มรุ่นลูกอย่างเต็มตื้น วิษธรกอดเธอไว้ด้วยแววตาลึกล้ำยากจะอ่านออก


อรดีเดินงุ่นง่านกดโทรศัพท์มือถือไปมา แล้วเดินมาทิ้งตัวลงบนโซฟาข้างๆ มารดาอย่างหัวเสียสุดจะประมาณ คุณอุไรที่กำลังอ่านหนังสืออยู่หันไปมอง พอเดาเรื่องออก
“คุณวิษธร เขาไม่ตอบไลน์เราอีกแล้วล่ะสิ”
“ก็ใช่น่ะสิคะ ไม่รู้ว่ายังอยู่กับยัยแก่นั่นรึเปล่า”
“ยัยแก่ที่ไหนกันลูก”
“ก็ยัย พรพจี ธนาพัทธ์ ไงคะ คนอะไร มีผัวอยู่ทนโท่ แต่ดันไม่ใช้นามสกุลผัว ทำตัวเป็นโสด หึ อยากหาผัวใหม่ เพราะผัวเก่าเป็นอัมพาตใช้งานไม่ได้ล่ะสิ”
“ดี้ พูดอะไรอย่างนั้นลูก ที่คุณพรพจีเธอใช้นามสกุลเดิมอาจเป็นเพราะเรื่องเอกสารทางธุรกิจก็ได้ จะได้ไม่ต้องผ่านสามีให้วุ่นวาย แม่เห็นนักธุรกิจใหญ่ๆ เขาก็ทำแบบนี้ทั้งนั้น”
“โอ๊ย มีจุดประสงค์แอบแฝงแน่นอนค่ะ แม่ยังไม่เคยเห็นยัยเนี่ย ไปไหนมาไหนกับธร ธรจะไปไหนก็ร้องจะไปด้วย เกาะติดอย่างกับตุ๊กแก ถ้าแม่เห็นแม่จะรู้เลยว่ายัยนั่นอยากมีผัวเด็กจนตัวสั่น”
คุณอุไรส่ายหัว ทั้งหนักใจและเอือมระอา
“ดี้คิดมากไปเองหรือเปล่า เขาเป็นหุ้นส่วนกันก็ต้องไปไหนต่อไหนด้วยกันเป็นธรรมดา แม่ไม่อยากให้ดี้มองคนอื่นในแง่ร้าย”
“แม่โลกสวยไปต่างหากค่ะ ดี้ดูออกว่านางจ้องจะกินธรแน่ๆ ดี้ไม่ยอมหรอก ธรต้องเป็นของดี้คนเดียว”
“ดี้ เราเป็นผู้หญิงนะ จะไปประกาศตัวอยากได้ผู้ชายแบบนั้นได้ยังไง”
“แต่ผู้หญิงสมัยนี้ถ้าไม่เปิดตัวก็ไม่ทันกินหรอกค่ะ แล้วดี้ก็เป็นแม่ม่า...”
“ยิ่งเป็นแม่ม่าย ก็ยิ่งต้องทำตัวเป็น แม่ม่ายเนื้อหอม เต็มไปด้วยคุณค่า รู้จักวางตัวให้ดี”
อรดีตอบรับแบบยังรั้นๆ อยู่
“ดี้รู้น่าแม่ ดี้รู้ว่าจะวางตัวยังไงกับผู้ชายที่ดี้อยากได้”
อุราลอบถอนหายใจ เพราะรู้ดีว่าอรดีจะไม่ยอมง่ายๆ

ภัทร์ธีรากลับถึงบ้านเดินเข้ามาในถงรับแขกมองหาพรพจี เจอเพียงสวาทที่เห็นและเดินมาหา
“คุณจ๋ากลับมาแล้ว ทานข้าวมาหรือยังคะ”
“จะมาทานกับป้าหวาด กับอาจีนี่แหละค่ะ อาจีอยู่ข้างบนหรือคะ”
“ปรึกษางานกับคุณวิษธรอยู่ในห้องทำงานค่ะ”
“อีกแล้วเหรอคะ” คุณหนูจ๋าหงุดหงิดขึ้นมาทันที
“เห็นว่างานด่วนน่ะค่ะ คุณจ๋ามีธุระอะไรรึเปล่าคะ ป้ากำลังจะให้คนขึ้นไปตามมาทานข้าวพอดี”
“ไม่เป็นไรค่ะ จ๋าขึ้นไปเองดีกว่า”
ภัทร์ธีรามองขึ้นไปชั้นบนด้วยสีหน้าใคร่ครวญครุ่นคิด

เมื่อขึ้นมาหน้าห้องภัทร์ธีราพบว่าประตูห้องปิดอยู่ก็โมโห มองประตูอย่างชั่งใจ และได้ยินเสียงคุยดังแว่วออกมาแต่ฟังไม่ถนัดนักจึงตัดสินใจแนบหูลงกับประตู แต่ดันเป็นจังหวะที่วิษธรเปิดประตูออกมาพอดี ทำให้เธอเสียหลักเซไปซบออกวิษธรอย่างไม่ตั้งใจ วิษธรคว้าตัวคุณหนูคู่ปรับเอาไว้ท่าทีตกใจเล็กน้อยด้วยคาดไม่ถึง
“คุณจ๋า”
“ปล่อยนะ”
ภัทร์ธีราดิ้นหนีละตัวออกจากวิษธรด้วยสีหน้ารังเกียจใส่ แต่มันทำให้เขานึกขำกระซิบแกล้งว่า
“มาแอบฟังผู้ใหญ่คุยกัน เป็นเด็กไม่น่ารักเลยนะครับ คุณน้องจ๋า”
วิษธรเน้นเสียง ล้อเลียนในความเป็นเด็กของภัทร์ธีรา
“ฉันไม่ได้แอบฟังนายซะหน่อย ฉันแค่มาหาอาจี กำลังจะเคาะประตู ใครจะไปรู้ล่ะว่านายจะเปิดพรวดออกมาพอดีแบบนี้ แล้วนี่นายปิดประตูห้องทำไม”
“น้องจ๋ามีเรื่องอะไรลูก”
พรพจีเดินออกมา มองหน้าภัทร์ธีราและวิษธรอย่างแปลกใจ

ถัดมา ทั้ง ภัทร์ธีรา วิษธรและพรพจี เดินเข้ามานั่งในห้องทำงานของพรพจีด้วยกัน ภัทร์ธีราหน้าเจื่อน วิษธรนั่งเฉย ส่วนพรพจียิ้มให้หลาน
“พอดีธรเขามามารายงานเรื่องที่ดิน ที่จะไปดูที่ต่างจังหวัดนะจ้ะ”
“จ๋าอยากให้อาจีพักบ้างนะคะ เป็นห่วงสุขภาพ กลับมายังมีคนมากวนใจอีก”
พร้อมกับคำพูดแดกดันนั้นภัทร์ธีราเหล่มองวิษธร อีกฝ่ายยิ้มเยือกเย็นอไม่ยินดียินร้ายใดๆ พรพจีรีบแก้ตัวให้
“อาไม่ได้เหนื่อยอะไรจ้ะ เพราะส่วนใหญ่ธรจะเป็นคนจัดการแล้วมารายงาน”
“อาจีไม่ควรไว้ใจให้คนอื่นมาจัดการทั้งหมดนะคะ อาจีควรจะไปดูด้วยตัวเองจะได้ไม่มีคนกล้าทำอะไรไม่โปร่งใส”
“ธรเป็นคนที่ไว้ใจได้ที่สุดแล้วจ้ะ ทุกอย่างที่ธรทำมีเอกสารประกอบที่ตรวจสอบได้ น้องจ๋าไม่ต้องเป็นห่วงนะจ๊ะ”
“ผมเห็นด้วยกับคุณจ๋าครับ”
พรพจีแปลกใจจนต้องหันมามองวิษธร
“วันพรุ่งนี้ผมมีไปดูที่ดินที่ราชบุรี ถ้าคุณจ๋ากลัวอะไรที่ไม่โปร่งใสก็ควรไปช่วย คุณจีตรวจสอบนะครับ คุณจีก็ไปด้วยกันเลยดีไหมครับ”
“ก็ดีนะ น้องจ๋าจะได้เรียนรู้งานไปด้วย”
ภัทร์ธีรารับรู้ได้ว่าวิษธรกำลังท้าทายและดูแคลนเธอไปพร้อมกัน จึงยอมไม่ได้
“ตกลงค่ะ จ๋าไปด้วย”

นรินทร์นอนมองรูปถ่ายในมือถือ เป็นรูปเขาในสมัยที่ยังหนุ่มแน่นหล่อเหลา ยืนถ่ายรูปนี้คู่กับพรพจียิ้มแย้มสดใส แววตานรินทร์เศร้าปนแค้นอย่างชัดแจ้ง จนมีเสียงเคาะประตูดังขึ้นเบาๆ นรินทร์คว่ำมือถือไว้บนโต๊ะข้างเตียง
“น้องจ๋าหรือลูก เข้ามาสิ”
ภัทร์ธีราเปิดประตูเข้ามาพร้อมยิ้มให้
“นอนรึยังคะ วันนี้จ๋าขึ้นมาช้า นึกว่าอารินจะหลับไปแล้ว”
“ยังหรอกลูก ปกติอาก็นอนไม่ค่อยหลับอยู่แล้ว คุยกับน้องจ๋าทั้งคืนยังได้”
ภัทร์ธีราหัวเราะเบาๆ ดีใจที่นรินทร์ยังมีอารมณ์ขัน
“พรุ่งนี้เช้าจ๋าจะไปดูที่ดินกับอาจี แล้วก็นายวิษธรนะคะ จ๋าบอกอารินทร์ไว้ก่อน เผื่ออารินทร์ถามหา”
“มีน้องจ๋าไปด้วยก็ดี จะได้ไปคอยกันท่าสองคนนั้น ถ้าคิดจะทำอะไรๆ กัน จะได้ไม่ง่ายนัก”
“อาจีไม่ได้คิดอะไรอย่างนั้นหรอกค่ะ ตอนแรกนายวิษธรต้องไปคนเดียว แต่อาจีอยากให้จ๋าเรียนรู้งาน เลยให้ไปกันสามคน จะได้สอนงานจ๋าเองด้วย”
“ยังไงก็เถอะ น้องจ๋าต้องจับตาดูสองคนนั่นแทนอานะ”
“ค่ะ จ๋าจะดูให้ จะไม่มีใครมาแตะต้องอาจีของเราได้แน่นอน” หญิงสาวทำน้ำเสียงให้ร่าเริงจับมือนรินทร์เบาๆ “อารินไม่ต้องกังวลนะคะ”

นรินทร์พยักหน้าอย่างพึงพอใจ แววตาหมายมาดอะไรบางอย่าง ยากที่จะคาดเดาได้

อ่านต่อ ตอนที่ 4

#เพลิงรักไฟมาร #thaich8 #ละครออนไลน์
กำลังโหลดความคิดเห็น