“ปั้นจั่น ปรมะ” คาดไม่ถึง แจ้งเกิดในฐานะพระเอกจากซีรีส์คิวปิด รับปรับลุคแต่งตัวให้ดูดีขึ้น จากที่เคยใส่แค่กางเกงยีนส์ เสื้อห่านคู่ปรับมาแต่งสไตล์พระเอกเกาหลี ปลื้มแฟนคลับกรี๊ดเรียกโอปป้า หวนรับเล่นหนังอีโรติกแต่ไม่เล่นฉากเด็ดเลิฟซีนเอง บอกไม่อยากต้องกลับมากู้ภาพลักษณ์อีก
เป็นอีกคนหนึ่งที่กลับมาฮอตเพราะกระแสละครพาดังจริงๆ สำหรับพระเอกหนุ่ม “ปั้นจั่น ปรมะ อิ่มอโนทัย” ที่กลายเป็นสามีแห่งชาติไปแล้วในตอนนี้ เพราะบทจากซีรีส์เดอะคิวปิด ตอนกามเทพออกศึก ทำให้กลายเป็นคู่จิ้นกับสาว “คริส หอวัง” ไปแล้วเรียบร้อย ล่าสุดทั้งคู่ออกงานคู่กันในงาน ฉลองครบรอบ 1 ปี ‘LINE MAN’ LINE MAN 1st ANNIVERSARY ณ ลานกิจกรรมเอเทรียม 2 ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ หนุ่มปั้นจั่นก็เผยว่าไม่คาดคิดมาก่อนว่ากระแสของคู่ตนจะดังขนาดนี้
“ตอนนี้ละครเต้ย-เชียร์เพิ่งจบไป แล้วตอนนี้โตโน่-ณิชาก็กำลังออนแอร์ มันก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ครับ เป็นช่วงๆ ไปครับ แต่สำหรับผมที่ได้ฉายาสามีแห่งชาติ ก็ดีใจนะครับ พอกระแสละครเราดี คนชื่นชอบ รักเราในคาแรคเตอร์ปีมงคล เขาก็เลยให้ฉายานี้มา ที่จริงไม่ได้รู้สึกกดดันหรืออะไรมากมาย แค่กระแสตอบรับจากแฟนๆ ดีแบบนี้ เราก็มีกำลังใจในการทำงานมากขึ้นมากกว่า”
“ตอนแรกไม่ได้คาดหวังจริงๆ เพราะมัน 8 เรื่อง แล้วทุกคนก็หล่อหมดเลย หล่อกว่าผมมากๆ เราก็ไม่คิดว่ากระแสจะดีขนาดนี้ครับ แต่พอมันเกิดขึ้นอย่างแรกก็ดีใจมาก แฟนๆ ก็ไปในทุกๆ ที่ เราก็มีความสนุกครึกครื้นมากกว่าเดิม มันก็ดีต่อใจเรา (หัวเราะ) และมีกำลังใจในการทำงานมากขึ้น”
บอกเปลี่ยนแปลงการแต่งตัวให้ดูดีขึ้น ดีใจแฟนๆ เรียกโอปป้า
“ตอนนี้ก็แต่งตัวมากขึ้น บางทีโดนแซวก็เขินนะ แต่พี่ๆ ผู้ใหญ่ก็ให้กำลังใจว่าแต่งไปเถอะถ้ามันดี เพราะเราก็ต้องเปลี่ยนบ้าง แต่ถ้าเป็นวันที่ไม่ได้ออกงานก็แต่งตัวเหมือนเดิม เราก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องพวกนี้มาตั้งนานแล้ว เราไม่คิดว่ามันเป็นส่วนสำคัญมากกว่า แต่เราทำงานตรงนี้ก็ควรจะให้ความสำคัญมันบ้าง ก็เป็นสิ่งที่ดี เพราะแฟนๆ เขาก็รอชมภาพสวยๆ จากเรา”
“วางตัวยากขึ้นนิดหนึ่งนะครับ เพราะปกติเราเป็นคนไม่ได้ใส่ใจเรื่องดีเทลพวกนี้ และก็ไม่ได้เป็นคนรู้เรื่องแฟชั่นมากมาย ก็พยายามถามเพื่อนในวงการที่เขาแต่งตัวเก่งๆ ตลอดว่ามันต้องเป็นยังไง เอาอะไรก็ได้ที่เหมาะกับตัวเรา แต่จริงๆ แล้วผมก็กางเกงยีนส์ เสื้อห่านคู่ (หัวเราะ) ก็ใส่อยู่แต่อย่างนั้น มันก็ไม่ได้มีอะไรที่น่าดู แต่พอเราแต่งตัวมากขึ้น เปลี่ยนทรงผม น้องๆ ก็ชอบ”
“ถูกเรียกว่าโอปป้าอาจจะด้วยเครื่องแต่งกายหรือการทำผมมันก็ช่วยได้ ก็ไม่ได้เปลี่ยนตัวเองจนอึดอัดนะ สนุกดี เริ่มเข้าใจว่าการสนุกกับแฟชั่นมันเป็นยังไง เวลาเจอพี่โทนี่ รากแก่นก็ถามเขา เขาก็บอกตอนแรกก็แต่งไม่เป็นหรอก แต่เราต้องสนุกกับมันก่อน ผมก็เริ่มสนุกกับมันแล้ว ตอนแรกคิดว่าการแต่งตัวทุกอย่างมันต้องดูแพง แต่ถ้าเราไปหาที่ดีๆ มันก็มีของมือสองราคาถูก หรือส่วนใหญ่มางานก็ไปยืมชุดเขาเอาครับ”
“แฟนคลับก็มากขึ้นกว่าเดิมครับ เพราะเราได้หลายลุคขึ้น ปกติมีแค่คนชอบลุคเซอร์ของเรา แต่ตอนนี้ถ้าน้องๆ เขาเรียกโอปป้ามันก็มีเพิ่มอีกกลุ่มหนึ่ง เดี๋ยวเราก็เนี้ยบบ้าง เซอร์บ้าง ดูเป็นเกาหลีบ้าง พยายามเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ให้มันวาไรตี้มากกว่า จริงๆ เข้าใจแล้วว่าเวลาน้องๆ เขากรี๊ดเกาหลี เขากรี๊ดอะไรกัน เราก็ดูซีรีส์เกาหลีมากขึ้น มันก็ดีต่อใจนะ (หัวเราะ)”
เผยสิ้นเดือนนี้จะมีหนังอิโรติกที่ตนเล่นออกมา แต่ไม่อยากสุ่มเสี่ยงเรื่องภาพลักษณ์ ขอใช้สแตนอินเล่นแทน
“สิ้นเดือนนี้จะมีหนังเรื่องเดอะ ไดรเวอร์ครับ จะฉายในโรง เป็นดรามาและมีความอิโรติกนิดๆ ก็จะมีพี่ภูริและน้องสิตางค์ที่เล่นด้วยกัน แต่ในเรื่องนี้ฉากโหดๆ จะเป็นสแตนอินหมดเลย คือตอนแรกพูดไปแล้วว่าอยากเล่นเอง ในที่นี้คือเราก็สปิริตไง ด้วยการที่มันเป็นภาพยนตร์ครับ แต่โปรดิวเซอร์เขาก็บอกว่าอย่าเลยเดี๋ยวจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ในกระแสอีกแบบหนึ่ง เพราะเราเคยเจอมาแล้วตอนถ่ายแฟชั่น กว่าเราจะเปลี่ยนภาพนั้นได้ กว่าคนจะเข้าใจว่ามันคือการทำงานจริงๆ ในสังคมไทยมันก็ยังยากที่จะเข้าใจนะ ก็เลยใช้สแตนอิน”
“เป็นค่ายหนังอินดี้ครับ จำกัดเรตอายุ 18 ครับ ผู้ใหญ่ไม่ได้สั่งห้ามครับ แต่บอกว่าให้รับงานที่ไม่สุ่มเสี่ยงมาก เราก็โอเค เพราะเราก็ผ่านงานมาเยอะ แต่มันจำเป็นจริงๆ ที่มันจะต้องลุย เรื่องนี้ถ่ายทำเสร็จแล้วครับ รอฉายในเครือของเมเจอร์ ก็น่าจะมีไปฉายต่างประเทศด้วย เพราะผู้กำกับก็คงจะส่งประกวดด้วย จะมีหนังอีกเรื่องรับไว้ช่วงเดือนสิงหาคมครับ เป็นหนังต่างประเทศ หนังอินดี้เหมือนกัน หนังของทางสวิสเซอร์แลนด์เขาทำขึ้นมาเป็นสายประกวดครับ”