“แพท ณปภา” อุ้มลูกร่ำไห้ เปิดใจกลัวที่สุดในชีวิตคือถูกปลดพรีเซ็นเตอร์ ไม่มีงาน ระบายอัดอั้น นี่หรือชีวิตกู! บอกเสพสื่อไม่ได้ อยากจะบ้า อยากจะด่ากลับทุกคน งงถูกสังคมพิพากษา ถูกด่าตอแหล ซัดอยู่กับผัว 1 ปี จะให้ไปสาระแนรู้อะไรเรื่องผัวนักหนา ยันไม่ได้เก่ง ไม่ได้แกร่ง แต่ความเข้มแข็งจะเป็นทางเลือกสุดท้าย ขอกราบอก “เปรี้ยว ฆ่าหั่นศพ” งามๆ ทำให้ตนได้พักสมอง
ออกมาให้สัมภาษณ์เป็นครั้งแรกแล้วสำหรับนักแสดงหญิง “แพท ณปภา ตันตระกูล” นับตั้งแต่ที่สามี “เบนซ์ อัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช” ต้องถูกจองจำในฐานะผู้ต้องสงสัยในคดีร่วมกันฟอกเงินเครือข่ายยาเสพติดตามข่าวที่ออกมาในก่อนหน้านั้น
โดยในวันนี้ทางด้านนักแสดงหญิงก็ได้อุ้มลูกชาย “น้องเรซซิ่ง” มาเปิดใจกับ “วู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา” ผ่านการไลฟ์สดที่เฟซบุ๊ก WOODY ซึ่งไลฟ์สดไม่กี่ ชม. ยอดคนดูทะลุ 9 แสน พร้อมระบุว่า ตอนนี้ไม่ได้เจอสามีมา 7 วันแล้ว ซึ่งในวันที่สามีไม่ได้ประกันตัวนั้นตนแทบจะไม่ได้คุยกับอีกฝ่ายเลย อยากพาลูกไปส่งพ่อให้ใกล้ที่สุดใจจะขาด แต่ก็ทำไม่ได้
“เรซซิ่งเขาฉลาดนะคะ เหมือนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาน่าจะปรับตัวได้ดี กลางคืนไม่โวยวาย นอนยาว ตอนแรกแพทไม่ชินกับการมีลูก เรามีลูกคนแรก เราเลี้ยงหลานแป๊บๆ แล้วเอาไปคืน แต่พอเรามีลูก ตอนอยู่ รพ. เราอยากเล่นตอนไหนก็กดกริ่งเรียกพยาบาลให้เข็นเข้ามา ไม่ไหวแล้วก็ให้เขาเข็นกลับ ทำอย่างนั้นอยู่ 5 วัน แต่พอกลับบ้านคุณแม่คุณพ่อปรับตัวยังไม่ได้ น้องตื่นทุก 2 ชม. กินนม กินเสร็จกว่าจะเล่นกว่าจะอะไร น็อกค่ะ เป็นอย่างนั้นอยู่ประมาณเดือนกว่าแล้วเราก็ถามว่าเมื่อไหร่เขาจะเหมือนเรา ซึ่งมันยากมาก เขาบอกว่าเด็กจะเป็นแบบนี้เป็นเดือนๆ บางคนเดือนกว่า บางคนสองเดือน กว่าเขาจะนอนยาว ซึ่งแพทถามเด็กที่เกิดใกล้เคียงกัน อายุใกล้ๆ กัน ทุกวันนี้ยังตื่นกลางคืนอยู่เลย แต่เรซซิ่งไม่มีเลย เขาปรับตัว อาจจะนอนซักเที่ยงคืน ถ้าเขานอนเที่ยงคืนก็ตื่น 10 โมงเช้า ถ้านอนเร็วก็ตื่นเร็ว อย่างวันนี้เอคืนเขานอนเกือบ 5 ทุ่ม 8 โมงครึ่งก็ตื่นแล้ว”
ไม่ได้เจอพ่อ 7 วัน รับอยากอุ้มเรซซิ่งไปส่งพ่อใกล้ๆ แต่ก็ทำไม่ได้
“น้องไม่ได้เจอพ่อ 7 วันเต็มค่ะ ประโยคสุดท้ายที่คุยกัน เขาแทบไม่ได้คุยเลย เพราะวันสุดท้ายที่แพทไปคือเขาอยู่ใต้ศาล คือมันเข้าไม่ได้แล้ว เราก็ไม่โอเค แพทต้องบอกเลยว่าภาพหลายๆ อย่างด้วย แล้วทางศาล นักข่าวก็เยอะมาก คือใจแพทอยากจะเรซไปส่งใกล้ๆ แต่ว่านักข่าวเขารอทำข่าวค่อนข้างเยอะ เราทุกคนก็กลัวว่าภาพที่ออกมา น้องยังเล็ก เป็นภาพขึ้นรถอะไรแบบนี้ มันไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ มันเลยได้แค่ส่งตรงนั้นแล้วก็กลับบ้าน”
บอกลูกถอดแบบพ่อมาเป๊ะ มั่นใจเบนซ์คิดถึงลูกมาก
“ลูกพ่อค่ะ ดูหน้าสิคะ พาไปไหนทุกคนนี่มันพ่อเบนซ์นี่ เบนซ์ เรซซิ่งจูเนียร์ ไม่มีใครบอกเหมือนเบนซ์ 80 เปอร์เซ็นต์เหมือนพี่เบนซ์ ตากับจมูกจะเหมือนพี่เบนซ์ คือ พี่เบนซ์เขาผิวเนียนเลยแหละ ขาว เหมือนกระดาษเอสี่ ถอดมาแล้วแบบขุ่นพระ เวลาเขาเดินผ่านห้องอาบน้ำเสร็จ คิดว่าใครเอาหลอดนีออนติดตัวมา เดินข้ามไปข้ามมา แล้วก็พูดกับลูกตลอดทำไมลูกเอาผิวแม่ไป ทำไมไม่เอาผิวพ่อไป ทำไมไม่เอาตาแม่ไป ไปเอาตาตี่ๆ โปนๆ แบบนั้นมาทำไม แต่เขาก็เลือกแล้วค่ะเขาเลือกเอาหน้าผาก กับปากแพทไป ปากดี ขี้โม้สุด คือถ้าเราเลี้ยงเขาจนชิน เขาจะพูดไปเรื่อยๆ ทุกคนก็จะโทษพี่เบนซ์ บอกว่าเบนซ์นี่จริงๆ เลย ทำไมเลี้ยงลูกเสียงสอง ซึ่งเขาเป็นคนเลี้ยงเอง”
“แพทเชื่อว่าพ่อคิดถึงลูกมาก คิดถึงลูกมากจริงๆ แพทรู้เลย เวลาเราไปเยี่ยม เขาจะแบบ (ยกนิ้วโป้ง) เขาคิดถึงลูก วีคที่ผ่านมาได้เยี่ยม 3 วันจันทร์ พุธ ศุกร์ ก็พยายามเยี่ยมเต็มอัตรา แพทติดงานก็ไม่ได้ไป แพทก็สลับเลี้ยงกับที่บ้าน ถ้าแม่พี่เบนซ์ไปเราก็ไป แต่ถ้าพี่ชายเขาไป เราก็ต้องอยู่บ้านเลี้ยงลูก”
เก่ง แกร่ง ความเข้มแข็งจะเป็นทางเลือกสุดท้ายที่ต้องเจอ เผยไม่ชอบร้องไห้ให้ใครเห็น ไม่อยากให้ใครสงสาร แต่กลั้นน้ำตาไม่อยู่
“แพทอาจจะจำเป็นค่ะ คือ มีประโยคหนึ่งที่แฟนคลับเขาแท็กมา แล้วแพทโอเคมาก คือคุณจะไม่รู้ว่าตัวคุณเข้มแข็งขนาดไหน จนความเข้มแข็งเป็นสิ่งสุดท้ายที่คุณต้องมี มีวันแรกที่มีคนแชร์มา มีคนบอกว่าแพทเก่ง แพทแกร่ง แต่ถ้าวันหนึ่งคุณต้องเจอ คุณจะเป็นสิ่งเดียวสุดท้าย เหลือทางเลือกสุดท้าย ถ้าเราไม่เข้มแข็งเราก็ไปไม่ได้”
“ภาพที่เราอุ้มลูกร้องไห้ แพทกำลังเสียใจ จริงๆ ตัวแพทไม่ชอบร้องไห้คนเห็น เขิน ไม่อยากให้ใครเห็นน้ำตา มันกลั้นน้ำตาไม่อยู่ ประเด็นคือแม่พี่เบนซ์ร้องไห้ เขาบอกว่าเราทำเต็มที่แล้ว ตอนนี้ทุกคนทำเต็มที่แต่ได้แค่นี้ ก็ร้องไห้ แต่จริงๆ ตัวแพทไม่ได้หมายถึงจะให้ใครสงสาร คือ ตอนนี้ศาลท่านยังไม่ได้ตัดสินนะว่าสามีแพทกับแพหรืออะไรก็แล้วแต่ ผิดหรือถูก คือเราอยู่ในช่วงต่อสู้คดี เรายังไม่ได้ทำอะไร ศาลยังไม่ได้ตัดสินลงมาว่าผิด ยังไม่ได้บอกว่าผิดในข้อหา แต่เราโดนตั้งข้อกล่าวหา บ้านเรา ตร.มีสิทธิ์กล่าวหา แล้วก็ต้องไปพิสูจน์ นั่นคือ สิ่งที่ต้องเป็น แต่พอข่าวออกปุ๊บ สังคมตีความเลยผิด ผัวเมียคู่นี้ ว่าแล้วเชียว อย่างโน้นอย่างนี้อย่างนั้นไปก่อน เพราะเขาไม่รู้ พอวันหนึ่งมีภาพออกมาคนก็เปลี่ยนเป็นสงสาร เขาสงสารเพราะด้วยภาพ สงสารเพราะเข้าใจ บางส่วนไม่สงสาร”
ซัดคนวิจารณ์พูดได้เพราะยังไม่เคยเกิดกับตัว เจอสถานการณ์เดียวกันเมื่อไหร่จะพูดไม่ออก
“เราก็เฉยค่ะ วันหนึ่งเรื่องไม่เคยเกิดกับคุณ ถ้ามันเกิดกับคุณเมื่อไหร่ คุณจะพูดไม่ออก คุณจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องการอะไร มันจะแบลงค์มาก หนึ่งพูดได้เพราะยังไม่เจอ หรืออคติในใจ ก็ไม่รู้ แต่แพทเจอต้องขอบคุณ 85 - 90 เปอร์เซ็นต์ รักเรา ก็ต้องขอบคุณ”
“เมื่ออยู่ตรงนี้มันมากขึ้นๆ ความแข็งแรงแพทมันเยอะมาก เราเจอมาหมดแล้ว ตั้งแต่ศัลยกรรมทั้งที่ไม่ทำ จนตอนนี้เราทำแต่ไม่เห็นมีใครพูดเลย เป็นข่าวจนชิน เราก็เป็นแบบนี้แหละ พอมีข่าวใหม่เขาก็ลืม มีคนรักก็ต้องมีคนเกลียด มีคนให้กำลังใจก็ต้องมีคนหมั่นไส้”
ถูกด่ายังไม่สะท้าน แต่กลับหลั่งน้ำตาเพราะสงสารผัวกับลูก
“แพทสงสารผัวกับลูก คอมเมนต์ที่มาด่าแพท แพทไม่ได้สะทกสะท้านเลย ไม่ได้มีผลกับจิตใจเลย เพราะคุณไม่รู้ว่าชีวิตเราเป็นยังไง นับหนึ่งสองสามคุณรู้เหรอ รู้จักเราดีเหรอ ถึงวิจารณ์ แต่ที่เพื่อนแพทร้องไห้วันที่เราร้องไห้ เราคิดว่าถ้าลูกจะติดพ่อ แล้วไม่ให้เราเลี้ยงจะทำยังไง หน้าที่หลักคือพี่เบนซ์จริงๆ ส่วนหนึ่งแพทไปทำงาน แล้วทิ้งลูกไว้กับเบนซ์ ไปตั้งแต่ 8 โมงเข้าถึงสี่โมงเย็น แพทไปทำงานลูกจะอยู่กับเขาทั้งวัน เขาคนเดียว ไม่มีพี่เลี้ยง แม่เขาไม่ได้มาว่างดู พี่เบนซ์ต้องรอจนกว่าแม่พี่เบนซ์มาถึงจะฝากได้ เขาฝากแค่ตอนอาบน้ำ เขาหวงลูกมาก ปฏิกิริยาของลูกกับพ่อมันดีมาก แพทเป็นสายโหด ทุกคนบอกว่าลูกไม่กี่เดือนจะเอาอะไรกับมัน แต่แพทเห็นเด็กดื้อแล้วเห็นคนไปนินทา เราก็จะรู้สึกว่าทำไมเป็นแบบนี้ พอมีลูกเราจะต้องเลี้ยงเขายังไงที่เวลาเอาไปไหนแล้วคนจะไม่ว่าลกเรา ก็เป็นความกลัว ก็เลยจะดุ เราจะพูดเลยว่าหนูร้องทำไม ไม่เข้าใจ ร้องไปสิ เดี๋ยวก็เหนื่อย พ่อเขาเป็นสายปลอบประโลม พ่อเขาเห็นลูกร้องหนักจะทิ้งทุกอย่างแล้วพาลูกไปเดินเล่น”
เผยเสพสื่อไม่ได้ อยากจะบ้า อยากด่ากลับทุกคน! สุดจะทนถูกด่าตอแหล กร้าวอยู่กับผัวแค่ 1 ปี ใครจะไปสาระแนรู้เรื่องผัวอะไรนักหนา
“ตอนนี้ต้องยอมรับว่าเราพูดได้ไม่เยอะ เพราะอยู่ในกระบวนการบางอย่าง เพราะอยู่ในหน้าที่ของศาล เราก็เอาตรงนั้นไปสู้ในศาล ไม่ได้มีอะไรมากมายนัก ตอนแรกแพทกลัวมากเลยนะ มันคิดไม่ออก ตกใจ แพทจำได้เลยตั้งแต่กันแรกเที่เขามาค้น ข่าวเปลี่ยนทุก 5 นาที แพทเสพสื่อไม่ได้เลยนะ แพทจะบ้า อยากจะด่ากลับ อยากด่าทุกคนเลย เฮ้ย พูดอะไรกันวะ เดี๋ยวก็เจอยา พอมีคำนี้คนก็ไปแชร์ เจอยาเว้ย สักพักเจอยาที่นนทบุรี ก็ไม่ใช่บ้านฉันแต่ข่าวลงไปแล้วว่าเจอยาที่แอเรีย แต่กว่าจะลงคนก็ไปแล้ว หลังจากนั้นก็ลงว่าเจอยาที่อื่น ทำไมไม่เขียนให้กระจ่างตั้งแต่แรก”
“แพทก็บอกเขาว่าไม่เป็นไร แพทพูดแค่คำว่าไม่เป็นไร คือคนจะมีคำถามกับแพท ตอแหล อีแพทตอแหล เป็นผัวเป็นเมียกัน จะไม่รู้เรื่องของผัวได้ยังไง ฮัลโหล แพทกับผัวรวมวันนี้ รวมท้อง มีลูก ที่อยู่ด้วยกันปีกว่าเองนะ เขาก็ถามไหนบอกรู้จัก 7 ปี จะไม่รู้ได้ไงว่าอะไรยังไง 7 ปีก็บอกไปแล้วว่าเมื่อ 7 - 8 ปีที่แล้วเรารู้จักแต่มันผ่านๆ โฉบๆ อาทิตย์สองอาทิตย์แล้วห่างหายกันไป เพิ่งจะมาคุยกันเป็นหลักเป็นฐานมั่นคงก็ปีเดียวเอง จะให้แพทไปสาระแนรู้อะไรของผัวนักหนาวะ เข้าใจมั้ย”
“ก็จะมีของแพทอันล่าสุด แพทโดนหมายเรียก คนไปตีความว่าแพทโดนจับไปแล้ว มีหมายจับ คืออะไร เข้าใจมั้ย แล้วคนก็โทร.มาให้กำลังใจคิดว่าแพทอยู่ในคุก บางคนบอกว่าทำไมโดนหมายจับ แพทบอกว่าเฮ้ย ทำไมข่าวเราเดี๋ยวนี้มันเป็นแบบนี้ไปแล้ว คือแพทเข้าใจว่าทางตร.ท่านให้ข่าวว่าต่อไปจะดำเนินการ คือออกหมายเรียกมาเป็นพยานก่อนตอนแรก ออกหมายเรียกเป็นพยานในคดี และถ้าไม่มาจำจะต้องออกหมายจับ และดำเนินการตามเหมือนคุณเบนซ์ เรซซิ่ง ก็คือไปประกันตัวที่ศาล แต่ข่าวดันไม่เอาประโยคหลัง แต่เขียนรวบๆ ว่าออกหมายจับแพท ณปภาแล้ว”
“เวลาตอนพาดหัวคือคำว่าอะไร ว้าย สุดท้ายก็ไม่รอด เข้าใจแพทหรือเปล่า คนก็ตีความไปโน่นนี่นั่น จนตอนนี้มาออกหมายเรียกจริงๆ เพราะถูกตั้งข้อหาฟอกเงิน พอโดนเรียกจริงๆ แพทก็ต้องมานั่งอธิบายกับหลายๆ คนอีกว่าทำไม ไหนเงียบไปแล้วไง แพทก็ต้องบอกกับทุกคนว่าอย่าว่าแต่พวกคุณเลยครับ ผมก็คิดว่าผมก็รอดแล้วเหมือนกัน (หัวเราะ) ผมไม่คิดว่าผมจะมีวันที่เดินไปประกันตัวที่ศาลเหมือนกันคุณ เพราะอะไร ก็วันที่แพทเดินเข้าไปเป็นพยาน แพทเข้าไป ทุกคนก็บอก ทั้งข้างใน ท่านทั้งหลายก็บอกว่าไม่เป็นอะไร เราทำตามหน้าที่ของเรา โอเค เราก็เข้าไปเรียบร้อย เอ้า หลังจากนั้นเดือนหนึ่ง ให้เวลาเราเตรียมใจมั้ง อยู่ดีๆ ก็โดนตั้งข้อหาแล้วก็เราไปประกันตัวที่ศาล ทั้งที่ก่อนหน้านี้ถ้าใครที่เสพสื่อดีๆ จะเห็นเลยว่ามีที่เขาแถลงออกมาว่า ในขณะนี้ น.ส. ณปภา ตันตระกูล ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไปหามาอ่าน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แล้วถ้าเรามีอะไรสงสัย ก็จะเรียกมาสอบถามเพิ่มเติม นี่คือสิ่งที่ออกไป ทุกคนก็เข้าใจอย่างนั้น ผ่านไปเกือบเดือนโดนหมายเรียกรับทราบข้อกล่าวหา”
“แพทก็ปรึกษาไปเรื่อยๆ พอหมายเรียกเขาเอามาแปะ ตามหลักกฎหมายแพทก็ไม่เก่ง เขาบอกว่าจะมีเวลาให้ 15 วัน จะออกหมายเรียกครั้งที่ 2 แพทไม่ได้จะเบี้ยวหมายแรกนะ แต่หมายมาวันที่ 8 กว่าแพทจะรู้หมายคือ 2 ทุ่มครึ่ง กว่าแพทจะติดต่อทนาย ก็กลางคืนดึกมาก กว่าจะเตรียมอะไรก็วันที่ 9 ก็จะไปเลื่อน เพราะนัดเร็วมาก มันไม่ทัน แพทต้องทำเรื่องหลักทรัพย์ประกันตัวเอง พอวันที่ 9 วิ่งไม่ทัน วันที่ 10 เป็นวันหยุดราชการ แล้วแพทจะทำยังไง วันที่ 11 เขาเรียกแล้ว ถ้าแพทเดินเข้าไปแพทโดนจับนะ แพทติดคุก แพทให้ธนาคารดึงเงินในบัญชี ทำเอกสารอายัดที่จะประกันตัวอีก แพทให้ทนายไปเพื่อยื่นหนังสือเลื่อน แต่หมายเรียกมาแล้ว แล้วอยู่ดีๆ ก็มีข่าวว่าแพทเบี้ยวหมาย ทุกคนก็คอมเมนต์ว่าเบี้ยวทำไม หนีเหรอ ต้องแยกแยะสิ ไปเรื่อยเลย”
“แพทไม่ได้หนี ไม่ได้เบี้ยว และไม่ได้เห็นว่าหมายเรียกไม่สำคัญ แต่แพทได้รับหมายเรียก 2 ครั้งก่อนถูกหมายจับ ตอนแรกทนายแพทไปแล้วนะ ทนายไปตอนเที่ยงครึ่ง หมายมาถึงแล้วตอนบ่าย ทำไมหมายมาเร็วจังเลยล่ะ ถ้าแพทไปตามหมายจริงๆ แล้วเตรียมตัวไม่พร้อมแพทโดนจับนะ ใครจะเลี้ยงลูก ใครจะประกันตัว ตอนนั้นสามีไม่ได้โดนอะไร แต่ถ้าแพทไปแพทก็โดนสิ ก็ไปเลื่อนสิ เรามีเหตุผลว่าเราเลื่อนเอกสารไม่ทัน แต่หมายสองมา คนก็ไปตีข่าวว่าแพทเบี้ยวหมายอันแรก เขาไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเรา จนวันที่ 15 เราไปประกันตัวปกติ เราไม่เคยเบี้ยว ไม่ได้เข้าข้างผัวนะคะ ตอนมีเรื่องเขาหายไปเขาก็ต้องตั้งหลักดิ พอเขาจับใจความได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ก็เดินไปหาตร.เอง หอบหลักฐานไป 200 กว่าแผ่นเอาไปให้ หลังจากนั้นใครจะวิจารณ์อะไรเราก็ทำอะไรไม่ได้”
“ณ ตอนนี้เพราะไม่ได้ยื่นอีกรอบหนึ่ง ตอนนี้พอเป็นคดีดัง คนที่จะช่วยเหลือก็กลายเป็นว่าโดนจับตามอง แพทไม่ได้หมายถึงต้องวิ่งนะ นี่ยื่นปกติ คนยังกลัวเลย แพทฝากใครช่วยดูอะไร ทุกคนกลัวไปหมด ก็คดีดัง เดี๋ยวจะโดนวิพากษ์วิจารณ์ ก็ยังงงเลย”
อยากจะกราบอก “เปรี้ยว” งามๆ ทำให้ตนได้มีโอกาสพักสมองบ้าง
“ก็ต้องขอบคุณเปรี้ยวมาก ที่ทำเราได้พักบ้าง เปรี้ยวเราไม่ได้อะไรนะ แต่เรายังพูดเลยว่ามึงไปกราบที่อกเปรี้ยวงามๆ ดิ มึงได้พักสมองแป๊บหนึ่ง หลายคนได้พักๆ เราขอขอบคุณมาก”
ร่ำไห้ น้ำตาไหลพราก สารภาพกลัวที่สุดคือไม่มีงาน โดนปลดจากพรีเซ็นเตอร์
“เรื่องพิธีกรผู้หญิงถึงผู้หญิง เอาตรงๆ แพทท้องแล้วขอลาตอนใกล้คลอด แล้วมีปัญหาพี่เบนซ์พอดีเป๊ะ ก็ลาคลอดยาวพอดี แล้วตอนนี้ใครจะเลี้ยงลูกละคะ ผัวก็ไม่อยู่ซะแล้วนิ ตีสิบถ่ายเดือนละ 2 ครั้ง ยังพอไหว้วานได้ ยังมีพรีเซ็นเตอร์ ไม่ได้อวยแบรนด์นะ คือแพทกลัวที่สุดคือการโดนปลด ถ้าโดนปลดแพทไม่มีของขาย เราเป็นพรีเซ็นเตอร์ที่ขายจริงและขายด้วย แพทพูดเลยว่าไม่มีใครเอากูไปทำงาน ใครจะเอาผู้ต้องหาคดีนี้ไปวะ แพทก็ห่าเอ้ย ที่บ้านต้องโน่นนี่นั่น ไหนจะลูกอีก แพทก็ยังไงดีวะ (ร้องไห้) เหมือนแบบกลัว กลัวไม่มีงาน (ร้องไห้หนัก) คือแพทมีแม่ แพทก็มีพี่ มีลูก งานสำคัญที่สุดสำหรับแพท ตอนนั้นเวลาเป็นข่าว มันไม่ได้เป็นข่าวแค่แพทโดนข้อหาหมิ่นประมาท คนเอาไปเขียนฟอกเงินคดียาเสพติดห่าเหวอะไรไม่รู้ ตอนนั้นคิดว่าห่าเอ้ย เขาต้องปลดกูแน่ๆ เลย ใครจะเอาผู้ต้องหาคดีนี้ไปทำงาน ซวยแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่ได้รับคือพี่ไม่ปลดเอ็งนะเว้ย (ร้องไห้น้ำตาไหลพราก) แพทก็คิดว่ากูรอดแล้ว มีงานแล้วเว้ย (ซึ่งเจ้าของแบรนด์เผยว่ายังไงก็โตมาด้วยกันจะไม่ทิ้งกันแน่นอน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจะสนับสนุนแพทและครอบครัว เพราะเป็นมากกว่าพรีเซ็นเตอร์)”
“คือแพทมีโรงงานนรกในบ้าน คือ หลานนางเป็นตัวแทนหลัก เวลาลูกค้าถามก็จะบอกว่าสั่งกับหลานเลยค่ะ เป็นรายได้ ที่กังวลมันจะทำให้หลานเรารายได้หายไปด้วยหรือเปล่า เราคิดเยอะ เพราะเราแท้ๆ แพทต้องขอบคุณ คือหลังจากที่ตัว ดร.จิลเขาจ้าง ทำให้ทุกคนมั่นใจว่าไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย แล้วโชคดีจริงๆ ที่คนไม่เกลียด หลายคนก็พูดว่าแพทโคตรโชคดีที่คนรัก ทำห่าอะไรคนก็รัก”
นี่หรือชีวิตกู!! อ่านพาดหัวข่าวแล้วจะร้องไห้
“แพทไม่ได้อะไรนะ แต่เวลาอ่านพาดหัวข่าวแพทอยากจะร้องไห้มาก เฮ้ย ชีวิตกูมันขนาดนี้เลยเหรอ เธอจะต้องเข้มแข็งขนาดไหน แพท ณปภา พ่อตาย แม่ป่วย พี่พิการ ผัวติดคุก มีลูกเล็ก แพทก็แบบ ต้องยิ้มรึเปล่า ต้องขำ หรือสงสารตัวเอง นี่ชีวิตกูเหรอ ก็ดี๊”
ขอบคุณทุกกำลังใจ และทุกคนที่เชื่อมั่น
“แพทต้องขอบคุณเพื่อนๆ ที่เชื่อมั่นในตัวแพท ขอบคุณพี่ซี พี่ฝน ขอบคุณดร.จิลและงานทุกๆ อยางที่จ้าง ขอบคุณแบรนด์ทุกแบรนด์ อีเวนต์ทุกอีเวนต์ที่จ้างและเชื่อมั่น ขอบคุณแฟนๆ ที่ให้กำลังใจ กล้าการันตีว่า 90 เปอร์เซ็นต์ทุกคนเชื่อมั่นในตัวแพท ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นแพทก็อยากให้เชื่อมั่นในตัวแพท”
นอกจากนั้น แพทก็เผยว่าในระหว่างที่เจอปัญหา ยังเข้าไปพูดกับแม่ว่าถ้ามีอุปสรรคเยอะก็ขอให้หมดๆ ไปบ้าง เชื่อได้ดีเพราะแม่ อยากจะเอาลูกไปให้แม่จับ อยากให้แม่ได้สอนน้องเรซซิ่งแต่ก็ไม่ทัน ให้คำมั่นจะสอนลูกให้เหมือนที่แม่สอนมา
ติดตามบทสัมภาษณ์ทั้งหมดได้ที่