ระบำไฟ ตอนที่ 10
เทศราชเข็นรถพาตรีประดับออกมาจากโรงพยาบาล ตรีประดับเห็นพัดชาเงียบไป จึงหันไปถาม
“น้องพัด เป็นอะไรหรือเปล่า”
“ยังตกใจไม่หายใช่มะ ก็ตรีเกือบจะพาพัดชาเจ็บตัวไปด้วย” เทศราชว่า
ตรีประดับหันไปตีเทศราชอย่างหมั่นไส้ พัดชารีบบอก
“ไม่ใช่หรอกค่ะ พัดกำลังคิดว่าพี่ตรีป่วย แต่พัดช่วยอะไรไม่ได้เลย ถ้าขับรถได้ก็คงดี พี่ตรีจะได้ไม่ต้องเหนื่อยเวลาไปไหนมาไหน”
ตรีประดับมองพัดชาอย่างซึ้งใจ แล้วคิดบางอย่างออก หันไปทางเทศราช
“เอาอย่างนี้สิ พรุ่งนี้เทศว่างหรือเปล่า”
ขณะเดียวกันชินานางนั่งกดโทรศัพท์ ท่าทีหงุดหงิดอยู่มุมหนึ่งของกองถ่าย เห็นทีมงานตั้งกองเตรียมถ่ายละครอยู่ไกลๆ สักพักผู้ช่วยวิ่งเข้ามาตาม
“คุณชินานางครับ เชิญที่หน้าเซ็ตเถอะครับ”
“ให้คนอื่นมาร์กช็อตไปก่อนได้มะ ฉันยังไม่ว่าง”
ชินานางกดโทรศัพท์ต่อไม่สนใจใครอีก ผู้ช่วยเลยเก้อไป สิงคารมองอยู่เห็นชินานางไม่สนใจอะไรเลย เลยเดินมาแย่งโทรศัพท์ไปจากมือ
“อุ๊ย คุณสิงคาร”
“ที่ผมยอมให้คุณกลับมารับเล่นละครเรื่องนี้เหมือนเดิม ก็เพราะช่องสั่งมา แต่ถ้าคุณเห็นว่าละครเรื่องนี้ไม่สำคัญเท่าธุระส่วนตัว ผมคงต้องขอยืมโทรศัพท์คุณโทร.ไปแจ้งช่อง ว่าคุณขอถอนตัว”
พร้อมกับว่าสิงคารทำท่าจะจิ้มเบอร์กดโทร.เข้ารายงาน ดร.โด่ง ช่อง 8 ชินานางตกใจ รีบลุกทันที
“ฉันไปถ่ายก็ได้ ไหนล่ะ บทเอามาดูหน่อยซิ”
ชินานางกระชากบทจากผู้ช่วยมาอ่านลวกๆ ทุกคนส่ายหัวที่เห็นว่านางยังไม่ได้อ่านหรือท่องบทซักคำ
ภาพในเซ็ต พระเอกหนุ่มหน้าใหม่นอนแข็งทื่ออยู่บนเตียงด้วยการเอาเมามาย ชินานางค่อยๆ คืบคลานขึ้นไปหา ด้วยลีลายั่วยวน พระเอกหนุ่มโดนลูบไล้แล้วเริ่มหลุดเกร็งตัวแข็งทื่อ ชินานางสุดเซ็ง คัตตัวเองเฉย
สิงคารเซ็ง “อะไรอีกแม่คู๊ณ”
“เล่นเป็นท่อนไม้แบบนี้ ใครจะไปแสดงด้วยได้”
พระเอกใหม่ยกมือไหว้ตื่นๆ “ขอโทษครับ”
“นางบอกแล้วไงคะว่าทุกอย่างต้องพร้อมก่อน นางถึงจะเข้าฉาก มันเสียเวลา” ชินานางหงุดหงิด
สิงคารโมโห “ไอ้หมอนี่มันเด็กใหม่ ก็ต้องเกร็งเป็นธรรมดา ใครจะเชี่ยวชาญเหมือนคุณ”
“คุณสิงคารเป็นผู้กำกับ ก็ทำให้เขาดูสิคะ”
ชินานางท้าทาย สิงคารทำหน้าลังเล แต่กลัวงานไม่เดิน เลยต้องยอม
ไม่นานนักสิงคารนอนอยู่บนเตียง ลืมตามาบอกพระเอกหน้าใหม่ให้ดูเอาเยี่ยง
“ดูนะ”
พระเอกป้าแดงพยักหน้ารับอย่างตื่นเต้น สิงคารเริ่มด้วยแอ็คติ้งเมาหลับอยู่ ชินานางเลื้อยขึ้นมา ลูบไล้ทั่วสรรพางค์กาย
สิงคารมีรีแอ็คตอบด้วยท่าทางเมามายเคลิ้มคล้อย มื้อไม้ป่ายปะโอบกอด ชินานางถูกใจเล่นเกินบทนัวเนียไปเรื่อย ปลดเสื้อคลุมตัวเองโยนทิ้ง ลูบไล้ไปตามเรือนร่างสิงคาร
พระเอกใหม่กลืนน้ำลายหนืดคอ รอบๆ เซ็ต ทีมงานดูอยู่ชนิดไม่ยอมกะพริบตา ทุกคนครางฮือ
“จัดเต็มขนาดนี้ สงสัยมีอินเนอร์ส่วนตัวกับผกก.ว่ะ” ผู้ช่วยเม้าท์กับคนข้างๆ
ทีมงานขำไปเสียวไป บางคนแก่นแก้วหยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน
ฝ่ายพัดชาลองหัดแปลหนังสือตามที่ตรีประดับบอก จนได้ยินเสียงมือถือดัง หญิงสาวหยิบมาดู ไม่คุ้นเบอร์ แต่ก็กดรับ
“ฮัลโหล”
“น้องพัด นี่ผมเอง”
พัดชาตัวแข็งทื่อ จำเสียงพยสได้ หัวใจฟูฟ่องพองโตขึ้นมาทันที สีหน้าตื่นเต้นดีใจ เมื่อได้รับสายจากชายที่แอบชอบเป็นครั้งแรก
“คุณพยส”
พยสไม่ได้สนใจน้ำเสียงพัดชา ถามเป็นชุด “ตรีไม่สบายใช่ไหม เป็นยังไงบ้าง แล้วตอนนี้อยู่ที่ไหน”
พัดชาจ๋อยไป เมื่อรับรู้ว่าพยสโทร.มาเพราะห่วงเมีย
“เอ่อ ดีขึ้นแล้วค่ะ คุณหมอให้น้ำเกลือไปถุงนึงแล้วให้กลับมาพักที่บ้าน ตอนนี้เข้านอนแล้วค่ะ”
“ค่อยยังชั่วหน่อย ผมร้อนใจมากเลย เดี๋ยวพรุ่งนี้เสร็จธุระแล้วจะรีบกลับ ยังไงฝากน้องพัดดูแลตรีด้วยนะ”
“ค่ะ คุณพยสไม่ต้องห่วงนะคะ”
พัดชาวางสาย มองเบอร์พยสตาเยิ้ม ใช้ความคิดๆ ว่าจะเมมเป็นชื่ออะไรดี
ที่ตรีประดับบอกสองคนไว้ก็คือ จะให้พัดชามาเรียนขับรถกับเทศราช สองคนนั่งอยู่ในรถ เทศราชกำลังอธิบายสิ่งต่างๆ ในรถ
“พัดจำได้แล้วใช่ไหมว่าสัญลักษณ์เกียร์แต่ละอันคืออะไร”
“ค่ะ”
“ทีนี้ก่อนสตาร์ตรถ ต้องอย่าลืมเหยียบเบรกเอาไว้ทุกครั้ง ไหนลองซิ”
พัดชาลองสตาร์ตรถ เครื่องติดแล้ว
“ทีนี้ลองค่อยๆ เหยียบคันเร่ง มือจับพวงมาลัยไว้ แต่ไม่ต้องบีบแน่น ไม่ต้องเกร็ง”
พัดชาค่อยๆ เคลื่อนรถออกไปข้างหน้า
“ตามองถนนไว้ ไม่ต้องมองเกียร์ ดีๆ”
พัดชาเคลื่อนรถออกไปเร็วขึ้น สีหน้าท่าทางตื่นเต้น แต่ก็มุ่งมั่นมาดหมายมากเช่นกัน
ตรีประดับนั่งดื่มชาเย็นรออยู่ มองดูพัดชาขับรถอยู่กับเทศราชอย่างสบายใจ
เวลาผ่านไปอีกหน่อย พัดชาค่อยๆ ขับรถวนรอบกรวยไปเรื่อยๆ แรกๆ มีชนกรวยล้มบ้าง เทศราชคอยเตือนให้เปิดไฟเลี้ยว ดูกระจกข้าง แตะเบรก และเทคนิคพื้นฐานของการขับรถทั้งปวง
ต่อมา พัดชาขับรถได้คล่องแคล่วขึ้นเรื่อยๆ รถเคลื่อนตัวเร็วขึ้น เลี้ยวถูกได้ระยะ ขับเลี้ยวโดยไม่ชนกรวยแล้ว สีหน้าของพัดชามั่นใจมากขึ้น ขับรถวนอีกรอบแล้วจอด
เทศราชอดชมไม่ได้ “หัวไวนะเนี่ยพัด สอนแป๊บเดียวขับฉิว”
“พัดเป็นคนตั้งใจจะทำอะไรก็ต้องทำให้ได้ดีค่ะ อีกอย่างไม่อยากเสียเวลาคุณเทศ”
“ดีมาก งั้นเดี๋ยวลองขับวนแล้วถอยจอดดูนะ ผมจะไปคอยดูอยู่ข้างนอก”
เทศราชลงจากรถเดินไปหาตรีประดับ ปล่อยให้พัดชาขับต่อไปเรื่อยๆ
สองคนมองดูพัดชาขับรถไปเรื่อยๆ เปลี่ยนมาเป็นถอยจอดตามช่อง
“น้องพัดนี่เก่งนะ ขับคล่องมากเลย”
“ใช่” เทศราชแกล้งแหย่ “ไม่เหมือนคนบางคน ใจร้อน สอนก็ไม่ค่อยฟัง ให้เหยียบเบรกดันเหยียบคันเร่ง พอคุมรถไม่ได้ก็ยิ่งสติแตกไปกันใหญ่”
ตรีประดับทำไก๋ “เทศหมายถึงใคร”
“ใครน้าที่เรียนขับรถวันแรกก็เกือบทำรถเราพัง”
เทศราชยิ้มเจ้าเล่ห์
สองคนนึกย้อนไปยังอดีต ทั้งคู่นั่งอยู่รถรุ่นเมื่อสิบปีที่แล้ว แต่ละคนอายุ 18-19 ปี เทศราชเปิดเพลงดังของ ลิฟต์กับออย ดังสนั่นรถ สอนตรีประดับขับรถไปด้วย โดยตรีประดับอยู่หลังพวงมาลัย กำลังเตรียมตัวออกรถ
“จำไว้นะตรี เวลาออกถนน ดูกระจกหลัง กระจกข้างให้สัมพันธ์กันว่ารถคันอื่นมาประชิดเราไหม แล้วก็ต้องรักษาระยะห่างระหว่างรถเรากับคันข้างหน้าด้วย”
“รู้น่า ไปแล้วนะ”
ตรีประดับสตาร์ตเครื่อง แล้วกระชากออกรถทันที
เทศราชตกใจ “เฮ้ย ใจเย็นๆ”
“ไม่เห็นจะยากเลย”
ตรีประดับขับรถมาตามถนนโล่งๆ เทศราชสอนไปเรื่อยๆ
“เวลาแตะเบรกอย่างเหยียบจม อย่าย่ำ แตะเบาๆ”
ตรีประดับต้องตะโกนแข่งเสียงเพลง “เรารู้น่าเทศ เพลงก็ดัง ยังจะพูดแข่งกับเพลงอีก”
“งั้นก็เหยียบสิ ต้องเลี้ยวข้างหน้าแล้ว”
ตรีประดับเล็ง แล้วเหยียบผิด รถพุ่งตัวไปข้างหน้าอย่างแรง
“ว้าย”
“เฮ้ยๆ เหยียบเบรกๆๆ”
ตรีประดับตะโกนลั่น ตีโพยตีพายสุดๆ
“เหยียบอยู่ ว้าย ทำไงอ่ะเทศ”
ตรีประดับขวัญเสีย เริ่มลนลาน เทศราชต้องรีบแย่งพวงมาลัยมาหักเลี้ยว ตรีประดับวี๊ดว้ายตีโพยตีพาย
รถวิ่งฉวัดเฉวียนไปบนถนนโล่ง
สองคนออกมาจากภาพอดีตพร้อมๆ กัน เทศราชยิ้มขำ ส่วนตรีประดับมองค้อน
“ก็รถเทศมันเกียร์กระปุก เราไม่ถนัด”
“ข้ออ้าง”
ตรีประดับเบ้ปากใส่ แล้วลุกหนีไปเรียกพัดชาที่ขับรถอยู่
“น้องพัดคล่องแคล่ว ขับไปเล่นแถวนี้กัน”
พัดชาหันมาโบกมือตอบแล้วขับรถจะมาหา แต่ตีวงเลี้ยวมากไป รถเฉพุ่งเข้ามาทางตรีประดับ เทศราชเห็นพอดี ร้องลั่น
“ตรี”
ไวเท่าความคิด เทศราชกระโจนมารวบตัวตรีประดับ พัดชาเองก็ตกใจ รีบหักพวงมาลัยหนีแล้วจอดเอี๊ยด ขณะที่เทศราชกับตรีประดับล้มลงไปอีกด้านหนึ่ง
พัดชาหน้าเสีย รีบร้อนลงจากรถมาดูสองคน “พี่ตรี คุณเทศ เป็นอะไรหรือเปล่าคะ”
เทศราชกอดปกป้องตรีประดับไว้ในอ้อมแขน พัดชารีบคุกเข่าลงไปหา ไหว้ขอโทษปลกๆ
“พัดขอโทษค่ะ พัดไม่ได้ตั้งใจ”
“เรายังไม่ตายใช่ไหม”
“นี่แน่ะ เจ็บไหมล่ะ ถ้าเจ็บก็แปลว่ายังไม่ตาย”
ตรีประดับแกล้งหยิกเทศราชหมับ เทศราชร้องลั่น “โอ๊ย”
“ไม่เป็นไรจ้ะน้องพัด ตื่นเต้นดี” ตรีประดับขำเทศราช
พัดชารีบประคองทั้งสองให้ลุกขึ้น หน้ายังเสียอยู่
ฟากพยสเดินไปเดินมากระวนกระวายอยู่หน้าบ้าน จนได้ยินเสียงรถแล่นเข้ามาจอดก็รีบพุ่งเข้าไปเปิดประตูรถฝั่งคนขับ แทบจะถลาเข้าไปกอด ทำให้พัดชาที่ก้าวลงมาตกใจ
“พัดชา”
ตรีประดับเปิดประตูลงมาจากอีกฝั่ง
“ตรีอยู่นี่ค่ะ”
พยสเหลียวมอง รีบอ้อมไปหากอดตรีประดับไว้แน่น
“ไปไหนกันมา ไหนว่าตรีไม่สบายไง”
“หายแล้วค่ะ ตรีเลยพาน้องพัดไปหัดขับรถ อีกหน่อยจะได้วานให้ขับแทน”
“ทำไมต้องรีบร้อนด้วย ยังไงผมก็ไม่ให้ตรีออกไปไหนแน่ คุณต้องพักฟื้นจนกว่าจะแข็งแรงร้อยเปอร์เซ็นต์เข้าใจมั้ย”
“ค่า”
พยสโอบตรีประดับเข้าบ้านอย่างทะนุถนอมแล้วพาขึ้นห้องไป พัดชามองตาม อดอิจฉาไม่ได้
พยสประคองตรีประดับลงบนเตียง
“เมียทั้งคนผมเลี้ยงได้นะตรี คุณไม่จำเป็นต้องทำงาน”
ตรีประดับยิ้มขำ “ตรีรู้ว่ายสเงินเดือนเยอะ แต่ตรีก็มีสิ่งที่ตรีรักนี่คะ เราตกลงกันตั้งแต่ก่อนแต่งงานแล้วนะ”
“งั้นก็รับงานน้อยลง ตรีไม่ต้องเอาเวลามาดูแลผมก็ได้ แต่ต้องมีเวลาดูแลตัวเองมากกว่านี้ หรือผมควรจะรับงานน้อยกว่านี้ดี จะได้มีเวลาให้ตรี”
“ไม่ต้องขนาดหรอกค่ะ ตรีไม่ได้ป่วยเป็นโรคที่ต้องมีคนพยาบาลซะหน่อย เดี๋ยวพรุ่งนี้วิ่งให้ดู” ตรีประดับหัวเราะ ลูบแก้มพยสอย่างซาบซึ้งใจ “มีน้องพัดมาช่วยแล้ว เดี๋ยวอะไรๆ ก็คงดีขึ้นแหละค่ะยส”
พยสบายใจขึ้น ดึงมือตรีประดับมาจูบเบาๆ
พัดชาเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดสบายๆ ลากสายยางมารถน้ำที่สนามหน้าบ้าน หันไปมุมหนึ่งเห็นกิ่งไม้ใบไม้แห้งเหี่ยว เลยหยิบกรรไกรมาเล็ม
ชิงฉัตรเดินออกมาจากอีกมุม เห็นพัดชากำลังเล็มกิ่งไม้ มีสายยางฉีดน้ำวางอยู่ใกล้ๆ ก็ยิ้มมีแผน เดินไปหยิบสายยางมา
พัดชาเล็มกิ่งไม้เสร็จ จะหันมารถน้ำต่อ แต่สายยางหายไป เหลียวหาอีกทีเห็นชิงฉัตรยืนถืออยู่
“หาไอ้นี่อยู่เหรอ ผมช่วยนะ”
ชิงฉัตรพูดยิ้มๆ แล้วฉีดน้ำรดต้นไม้ พัดชากลัวชิงฉัตรมาวอแวอีก เลยไม่ยอมจะเอาสายยางคืน
“ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันทำเอง”
“ฮื้อ ให้ผมทำตัวให้เป็นประโยชน์บ้างเถอะ เดี๋ยวพี่จะหาว่าอาตรีเสียเงินเลี้ยงผมเปล่าๆ ปลี้ๆ”
ชิงฉัตรไม่ยอมให้สายยาง แย่งไปฉีดต้นไม้แต่ แต่ยังหันมาแหย่
“ถือว่าช่วยไถ่โทษเรื่องเมื่อคืนก่อนก็แล้วกัน” ชิงฉัตรทำสายตาวิบวับเจ้าชู้ใส่
พัดชายิ่งโมโห กระชากสายยางคืน “ไม่ต้อง”
ชิงฉัตรไม่ให้ สองคนแย่งกันไปแย่งกันมา จนหัวฉีดหลุดกระเด็นออก น้ำพุ่งรดตัวทั้งคู่จนเปียกปอน พัดชาใส่เสื้อยืด ทรวดทรงองค์เอวเลยเปิดเผยให้เห็นโดยไม่ได้ตั้งใจ ชิงฉัตรชะงัก มองโลมเลีย
“แหม ใช้ได้เลยนะเนี่ยพี่พัดชา”
พัดชาหน้าแดงด้วยความอายและโกรธ รีบกอดอกปิดบังตัวเอง เดินหนีไป ชิงฉัตรคว้าแขนไว้
“จะไปไหนล่ะครับ ไหนๆ ก็เปียกกันทั้งคู่ อยู่ช่วยกันรดน้ำก็ได้นะ”
พัดชาเสียงแข็ง “ปล่อย”
“ไม่ปล่อยสนุกกว่า”
ชิงฉัตรจับแขนพัดชาไว้มั่น กระชากตัวเข้ามาใกล้ พัดชาถลาตามแรงเข้าไปปะทะร่างเด็กหนุ่มเต็มๆ
ชิงฉัตรหัวเราะร่ากอดหมับทันที พัดชาสุดทน เงื้อมือตบเปรี้ยง ชิงฉัตรหน้าหัน คาดไม่ถึง ช็อกไปเหมือนกัน
“ฉันไม่ใช่เพื่อนเล่นนะคุณชิงฉัตร อย่าแตะต้องฉันอีก”
พัดชาจ้ำพรวดเข้าบ้านไป
ชิงฉัตรมองตาม ยกมือลูบแก้ม แล้วยิ้มร้ายออกมาอย่างคนไม่ยอมแพ้ ยิ่งเล่นตัวเขายิ่งอยากได้
พัดชาเข้ามาในห้องพักตัวเอง เนื้อตัวสั่นเทิ้ม สัมผัสจากชิงฉัตรเมื่อครู่ปลุกความกำหนัดในตัวให้ลุกโชนขึ้นได้อย่างประหลาด สีหน้าสาวเจ้าสับสนกระวนกระวาย เดินหายเข้าห้องไป
พัดชาถอดเสื้อผ้าออก เปิดฝักบัวราดรดตัวเอง ลูบไล้เนื้อตัวไปมา รู้สึกว่าตัวเองแปดเปื้อนสิ่งที่ไม่ควรแปดเปื้อน
ภาพตอนที่ถูกชิงฉัตรกอด และตอนบดขยี้จูบติดผนังบ้าน ผุดขึ้นมาในห้วงคิด
พัดชาพยายามสะบัดไล่ภาพนั้นออกจากหัว ปล่อยให้สายน้ำชำระความเร่าร้อนในกาย
เช้าวันใหม่ ตรีประดับจัดเสื้อผ้าใส่กระเป๋าให้พยส รูดซิปปิดเรียบร้อย พยสเดินเข้ามากอดอ้อน
“ตรีไม่เปลี่ยนใจจริงๆ เหรอครับ”
“คุณไปทำงานนะคะยส จะให้ตรีตามไปเกะกะทำไม”
“ผมไปพบลูกค้าแค่ 2-3 วันเอง เสร็จงานแล้วก็อยู่เที่ยวต่อได้ ตรีเองก็ไม่เคยไปภูเก็ตไม่ใช่เหรอ”
“ตรีก็ต้องทำงานเหมือนกันนี่คะ”
“คุณก็เอางานไปทำด้วยระหว่างที่ผมประชุม หรือเบื่อๆ ก็ลงไปว่ายน้ำเล่น พอเย็นก็ไปดินเนอร์ร้านอร่อยๆ กัน”
พยสต้อนทุกมุม แต่ตรีประดับก็ยังไม่อยากไปอยู่ดี เลยเริ่มงอแง
“ยสอ่ะ ดื้อ”
“ตรีนั่นแหละดื้อ”
พยสเซ็งๆ ยกกระเป๋าออกจากห้องไปเอง ตรีประดับมองตาม รู้ว่าคุณสามีงอน
พยสหิ้วกระเป๋าออกมาใส่รถตู้บริษัทที่หน้าบ้าน ตรีประดับตามมาง้อ
“ยสคะ เอาไว้คราวหน้านะ คราวนี้ตรีไปไม่ได้จริงๆ”
พัดชากำลังเช็ครายการซื้อของเข้าบ้านได้ยินเสียงตรีประดับก็ชะโงกหน้ามองไปที่หน้าต่าง เห็นตรีประดับเดินตามมาเกาะแขนงอนง้อพยสจึงหยุดมอง
“ตรีสัญญาว่าพอปิดจ๊อบเล่มนี้ได้เมื่อไหร่ ตรีจะพายสไปเที่ยวฉลองเอง”
พยสมีท่าทีอ่อนลง “เมื่อไรล่ะครับ คุณทำงานไม่ได้หยุดมาหลายเดือนแล้วนะ”
“รออีกนิดนะคะ ตรีไม่ผิดสัญญาหรอก”
พยสใจอ่อน ทอดถอนใจ
“ผมแค่อยากให้เราสองคนมีเวลาไปพักผ่อนกันตามลำพังบ้าง บางทีบรรยากาศดีๆ จะทำให้เรามีเจ้าตัวน้อยเร็วๆ ก็ได้นะจ๊ะ”
ตรีประดับยิ้มขำ “ที่แท้ยสก็อยากมีลูกนี่เอง”
“เพื่อนฝูงเราก็มีกันหมดแล้ว ญาติพี่น้องเราก็ถามว่าเมื่อไรจะมีหลาน ตรีไม่อยากมีลูกไว้เลี้ยงแก้เหงาบ้างหรือไง”
ตรีประดับยิ้มแย้ม เพราะในใจไม่ได้คิดถึงการมีลูกเลย
“เอาไว้กลับมาแล้วเราค่อยคุยเรื่องนี้กันนะคะ”
พยสเซ็งขึ้นมาอีก ดูจากสีหน้าก็รู้ว่าตรีประดับไม่ได้กระตือรือร้นเรื่องลูก เลยตัดบท
“ก็ได้ งั้นผมไปนะ”
พัดชาแอบมองออกมาในในบ้าน เห็นพยสยื่นหน้าไปหอมแก้มตรีประดับแกนๆ แล้วขึ้นรถบริษัทที่จอดรับออกไป
ตรีประดับกลับเข้าบ้าน พัดชาทำโน่นทำนี่ ยิ้มให้เหมือนไม่รู้เรื่องอะไร
“พี่ตรีคะ พัดลองทำบัญชีรายจ่ายภายในบ้านแล้วเห็นว่ามีรายจ่ายบางส่วนที่ไม่จำเป็น เลยลองตัดออก พี่ตรีคิดว่ายังไงคะ”
ตรีประดับกวาดสายตาไล่ดูบัญชี พัดชาอธิบายต่อ
“เอาตามนั้นแหละจ้ะ ขอบใจนะ”
“ส่วนนี่เป็นรายการของใช้ในบ้านที่ต้องซื้อเพิ่มค่ะ”
“น้องพัดออกไปซื้อเลยนะจ๊ะ ขับรถเป็นแล้วนี่” ตรีประดับหยิบกุญแจรถมายื่นให้
“พี่ตรีไม่ไปเหรอคะ”
ตรีประดับยิ้มเนือยๆ กลุ้มเรื่องพยสงอน “พี่เหนื่อยๆ น่ะจ้ะ อยากพักผ่อนซักหน่อย”
ตรีประดับขึ้นบ้านไป พัดชามองตามสีหน้าเรียบๆ รับรู้ได้ว่าตรีประดับเครียดเอาการ
เวลานั้นเพื่อนชิงฉัตรขับรถมาส่งชิงฉัตรที่หน้าบ้าน พอเขาลงจากรถก็เห็นพัดชาขับรถสวนออกไปพอดี เลยหยุดมอง แต่พัดชาไม่ทันเห็นชิงฉัตร
“เฮ้ยฉัตร เผลอแป๊บเดียวอาสะใภ้แกเปลี่ยนคนแล้วเหรอวะ” เพื่อนหัวเราะร่า
ชิงฉัตรเหลียวมองตาม “ไม่ใช่ นั่นมันคนใช้”
“คนใช้บ้านแกสวยขนาดนี้เลยเหรอวะ สงสัยต้องมาบ่อยๆ ซะแล้ว ว่าแต่ แกใช้คุ้มยังไอ้ฉัตร ฉันขอยืมใช้มั่ง”
เพื่อนหัวเราะเย้าแหย่อย่างสนุกสนาน ชิงฉัตรยิ้มร้าย กะฟันพัดชาอยู่เหมือนกัน
ชิงฉัตรเข้ามาพบตรีประดับในห้องทำงาน ถามด้วยน้ำเสียงตกใจ
“คุณอาจะเปลี่ยนมาให้เงินผมเป็นรายอาทิตย์ ทำไมครับ”
“อาให้เงินเดือนไป ฉัตรก็ใช้ไม่พอชนเดือนอยู่ดี ให้เป็นรายอาทิตย์จะได้รู้จักบริหารการใช้เงิน”
ชิงฉัตรขัดใจ ทำท่าจะเถียง แต่ตรีประดับพูดขึ้นก่อน
“ตั้งแต่อาทิตย์หน้า พัดชาจะเป็นคนจ่ายเงินให้ฉัตรนะ”
ชิงฉัตรยิ่งขึ้น โมโหหนักมาก “ยายนั่นมาเกี่ยวอะไรด้วย”
“อาให้พัดชาเป็นคนดูแลเรื่องรายรับรายจ่ายของบ้าน”
ชิงฉัตรร้องโวยลั่น “อาตรี ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้ อาไว้ใจเขาได้ยังไง”
“ฉัตรยังไม่รู้จักพัดชาเท่าที่อารู้จัก”
“แล้วอาตรีแน่ใจได้ยังไงว่ารู้จักเขาดีพอ”
ตรีประดับอึ้งไป เป็นคำถามที่ไม่เคยนึกถึงเหมือนกัน
“เชื่อผมเถอะว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา วันนึงเขาจะต้องออกลาย”
ชิงฉัตรผลุนผลันออกจากห้องไปพร้อมแรงโทสะ
ตรีประดับถอนใจ แต่ก็ไม่ได้เก็บเอามาคิด เพราะคิดว่าชิงฉัตรพูดด้วยอารมณ์โกรธ
เทศราชจิบกาแฟอยู่ในร้านเก๋ๆ มุมหนึ่งของคอมมูนิตี้มอลล์ แห่งนี้ เหม่อมองออกไปข้างนอก
“ดูอยู่หรือเปล่าวะเนี่ย เฮ้ย”
เทศราชสะดุ้งหันมา เห็นเพิ่มพรเปิดคลิปนางแบบที่มาถ่ายแฟชั่นหนังสือเสียวของเขาให้ดู
“ฉันอุตส่าห์เอามาให้แกเลือกว่าสนคนไหน จะได้ไม่ต้องทับไลน์กันเหมือนคราวที่แล้ว สนใจหน่อยสิวะ”
“ไม่สนใจ ไม่อยากดู”
เพิ่มพรเซ็ง “ไอ้เทศ แล้วอย่างงี้เมื่อไรจะมีเมียซักทีวะ”
เทศราชทำเสียงรำคาญ “มีแต่คนเซ้าซี้ให้ฉันมีเมีย จนฉันอยากจะมีผัวให้รู้แล้วรู้รอด”
“เฮ้ย” เพิ่มพรแกล้งแหย่ “จะเอาปะล่ะ คลิปนายแบบก็มีนะโว้ย”
พร้อมกับว่าเพิ่มพรทำท่าจะเปิดให้ เทศราชรีบปิดไอแพด
“ไอ้เวร”
เทศราชมองออกไปที่นอกร้าน เห็นรถตรีประดับแล่นเข้ามาในลานจอดรถห้างพอดี
“รถตรีนี่ เดี๋ยวฉันมานะ”
เทศราชรีบลุกออกไป
เทศราชเดินออกมาตรงที่จอดรถ ตั้งท่าจะทักตรีประดับ แต่พอเห็นพัดชาลงมาก็ชะงัก
“พัดเองค่ะคุณเทศ”
“ผมนึกว่าตรี”
“พี่ตรีพักผ่อนอยู่บ้านน่ะค่ะ พัดก็เลยมาซื้อของแทน”
“ตรียังไม่หายป่วยอีกเหรอ เป็นอะไรมากหรือเปล่า”
“ไม่ได้ป่วยแล้วล่ะค่ะ แต่ไม่รู้ว่าเครียดเรื่องอื่นหรือเปล่า พี่ตรีดูซึมๆ ไปตั้งแต่คุณพยสออกไปทำงาน”
เทศราชนิ่งนึก “ทะเลาะกันหรือเปล่า”
“พัดไม่แน่ใจค่ะ” พัดชายิ้มเจื่อนๆ ไม่กล้าเม้าท์ต่อ “ยังไงพัดขอตัวก่อนนะคะ นัดเพื่อนไว้ด้วย”
พัดชาเดินเลี่ยงไป เพิ่มพรตามออกมา เหลียวหลังมองพัดชาที่เดินเข้าห้างไป
“เนี่ยเหรอยายตรีประดับที่แกยังเพ้อไม่เลิก เขาแต่งงานแล้วไม่ใช่เหรอวะ”
“นั่นไม่ใช่ตรีหรอก เป็นผู้ช่วยเขาน่ะ แต่ฉันต้องไปแล้วว่ะไอ้เพิ่ม ไว้เจอกันนะ”
เทศราชผลุนผลันออกไปที่รถ เพิ่มพรงง
ที่กองละครช่อง 8 สิงคารดูคลิปในมือถือ แล้วตวาดใส่ทีมงานที่ล้อมวงอยู่
“ใครเป็นคนส่งคลิปนี้ให้นักข่าว ฉันถามว่าใคร”
ทีมงานก้มหน้างุดไม่กล้ารับสักคน สิงคารยิ่งยัวะ
“ถ้าไม่มีใครยอมรับ ก็ไล่ออกมันหมดทั้งกองนี่แหละ”
ชินานางแหวกคนเข้ามา ทักทายเสียงใส
“อะไรกันคะคุณผู้กำกับ จะไล่ใครออกไม่ได้นะคะ วันนี้นางอุตส่าห์มาตรงเวลานะ”
“คุณเห็นไอ้คลิปบ้าๆ นี่หรือยังล่ะ”
สิงคารเอาให้ดู ชินานางมองๆ แล้วอมยิ้ม
“เห็นแล้วค่ะ”
“ข่าวนี้มันทำลายชื่อเสียงของเราสองคน ผมเอาไว้ไม่ได้”
“แหม คิดซะว่าเป็นการโปรโมตละครสิคะ ดีซะอีกข่าวนี้ออกไปคนเขาจะได้รู้ว่ากองเราทำงานแบบคุณภาพ แค่ซ้อมบทก็ยังเล่นเนี้ยนเนียน แล้วถ้านางเล่นไม่เก่ง คนก็คงไม่ฮือฮาขนาดนี้ จริงไหมคะ”
สิงคารหงุดหงิด “ผมไม่ชอบโปรโมตอะไรแบบนี้”
“แต่นางว่าช่องต้องชอบ รู้จักพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสหน่อยสิคะคุณสิงคาร นี่นางติดต่อนักข่าวไว้หลายสำนักเลยนะคะ ให้ตามมาสัมภาษณ์เราเรื่องนี้” นางร้ายดาวยั่ว ซุปตาร์ช่อง 8 มองไปที่หน้ากอง “นั่นไง มากันแล้ว”
สิงคารมองตาม เห็นกองทัพนักข่าวจอมเผือกยกมาเป็นพรวน ชินานางรีบลากสิงคารออกไปรับหน้า
“สวัสดีค่า จะสัมภาษณ์เรี่องคลิปใช่ไหมคะ” ชินางนางหัวเราะเสแสร้ง “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เป็นความเข้าใจผิดกัน ก็แค่การซ้อมบท...”
ชินานางเจื้อยแจ้วอารมณ์ดีกับไมค์รวม
สิงคารฝืนยิ้มเล่นละครไปด้วย นักข่าวซักไซ้สัมภาษณ์ทั้งคู่ไปเรื่อยๆ
คนที่พัดชานัดไว้คืออรณานั่นเอง สองสาวนั่งทานข้าวอยู่ที่ร้านในห้าง พัดชาดื่มน้ำอยู่ เกือบสำลักเพราะได้ยินที่อรณาพูด
“อะไรนะอร เธอว่าพี่สะใภ้เธอชื่ออะไรนะ”
“ตรีประดับ”
พัดชาหน้าซีดไปถนัดตา ไม่นึกว่าโลกจะกลมขนาดนี้
“นางเป็นนักเขียนน่ะ ทำงานอยู่กับบ้าน ท่าทางจะไม่ค่อยได้เจอโลกภายนอกเท่าไร ก็เลยยังไร้เดียงสาเป็นหนูน้อยหมวกแดง ใครอยากให้ช่วยอะไรก็ยอมช่วยเขาไปหมด พี่สาวฉันถึงได้ร้อนอกร้อนใจ กลัวว่าจะโดนผู้หญิงไม่มีหัวนอนปลายเท้าหลอกเอา”
“เธอหมายถึง...”
“ก็เด็กในบ้านที่พี่สะใภ้ฉันรับเข้าไปอยู่ด้วยไง ฉันยังไม่เคยเจอหรอกนะ แต่พี่สาวฉันบอกว่าหน้าตาสะสวย ก็เลยไม่ไว้ใจ กลัวจะทำพี่ชายฉันตบะแตก”
พัดชาได้ฟังยิ่งซีดหนัก พูดอะไรไม่ออก
“แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ฉันไม่ยอมแน่ พี่ตรีประดับพี่พยสดีกับฉัน ถ้าใครจะมาทำให้ครอบครัวเขาแตกแยกล่ะก็ มันกับฉันก็ต้องตายกันไปข้างนึง”
พัดชาได้แต่ยิ้มฝืนๆ กับท่าทางเดือดดาลของอรณา
“บ่นเรื่องของฉันเยอะละ ว่าแต่เธอ เป็นยังไงบ้าง ตอนนี้ไปอยู่ที่ไหน”
พัดชานิ่งคิด ลังเลว่าจะเล่ายังไงดี ไม่ให้อรณารู้
“ฉันได้งานเป็นแม่บ้านน่ะ ก็เลยไม่ต้องเสียค่าที่พัก เพราะอยู่ที่บ้านนายจ้างเลย”
“อี๋ งานคนใช้เหรอ”
พัดชาฝืนยิ้ม “ประมาณนั้นแหละจ้ะ แต่งานไม่หนักเท่าไร นายจ้างก็ดูแลฉันดีเหมือนครอบครัวเดียวกัน”
“จริงเหรอ นายจ้างผู้หญิงหรือผู้ชาย”
“ก็ทั้งผู้หญิงผู้ชายแหละ เป็นสามีภรรยากัน”
“แล้วนายผู้ชายดีไหมล่ะ”
อรณาทำสายตาเจ้าเล่ห์ พัดชาไม่เก็ต ยังตามไม่ทัน
“เธอถามทำไม”
“อ้าว ก็ถ้าเขาก็ดีกับเธอ เธอก็ควรจะหาทางตอบแทนเขาไง” สาวแซบยิ้มมีเลศนัย “เผื่อว่าอนาคตเธอจะได้เลื่อนตำแหน่งไปเป็นเจ้าของบ้านอีกคนไงล่ะ”
พัดชาหลบสายตาวูบ กลัวใจตัวเอง
“พูดบ้าๆ น่ะอร”
“อย่าไปคิดอะไรมากสิ ตบมือข้างเดียวไม่ดัง แต่ถ้าเขายื่นมือมาเอง แล้วเราตะปบไว้ เราก็ผิดน้อยลงเยอะนะเธอ”
อรณาหัวเราะร่วน ประสาสาวไม่มั่วแต่ทั่วถึง สนุกกับความคิดตัวเอง
พัดชานิ่งเงียบ ดำดิ่งไปกับคำพูดนั้น
ชินานางยังโม้กับนักข่าวไม่จบ เรื่องโน้น ต่อด้วยเรื่องนี้ ขนสิงคารชักรำคาญ เดินเลี่ยงออกมา ทีมงานวิ่งเข้ามา
“พี่สิงคาร จะไปไหนครับ ยังไม่ได้ถ่ายเลย”
“ยัยนั่นให้สัมภาษณ์เสร็จเมื่อไรค่อยไปตามฉันแล้วกัน เซ็งโว้ย”
สิงคารเดินหนีออกจากกองถ่ายไปเลย
สิงคารเดินออกมาถึงร้านกาแฟในคอมมิวนิตี้มอลล์ แล้วมองเข้าไปในร้าน นึกถึงวันที่ได้พบกับพัดชาครั้งแรก
สิงคารนึกเพลินๆ แล้วทำหน้าเสียดาย เพราะจำได้ว่าพัดชาไม่ได้ทำงานที่นี่แล้ว กำลังจะเปิดประตูเข้าไป ไม่สังเกตว่ามีคนกำลังจะออกมา อีกฝ่ายเลยถอยหนีแก้วกาแฟหลุดมือหกกระจาย
“ขอโทษครับ”
สิงคารรีบก้มลงช่วยเก็บแล้วชะงัก เมื่อเห็นหน้าพัดชา
“คุณนี่เอง”
พัดชาเห็นสิงคารแล้วจำได้เช่นกัน สิงคารยิ้มดีใจ
“ผมไม่ได้ตั้งใจ เดี๋ยวซื้อให้ใหม่นะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
“ไม่ได้ ผมขออนุญาตรับผิดชอบนะครับ”
สิงคารช่วยเก็บแก้วที่ตกให้ แล้วผายมือให้พัดชาไปนั่งรอในร้าน พัดชาจำต้องทำตาม
พัดชานั่งรอที่โต๊ะ สิงคารถือกาแฟแก้วใหม่เดินมาหา แล้วนั่งลง ถือโอกาสชวนคุยซะเลย
“ไม่นึกเลยว่าเราจะได้เจอกันที่นี่อีก ผมเคยกลับมาถามหาคุณที่ร้าน แต่พนักงานบอกว่าลาออกไปแล้ว”
พัดชาระแวง “คุณถามหาฉันทำไม”
สิงคารยิ้มเรี่ยราด หยิบนามบัตรออกมา ยื่นให้
“ผมเป็นผู้กำกับละคร มีบริษัทโปรดักชั่นของตัวเองด้วย ตั้งแต่เห็นคุณครั้งแรกก็รู้สึกสนใจ อยากได้มาร่วมงานกัน”
“ฉันรู้จักคุณค่ะ คุณสิงคาร”
สิงคารยิ้มกว้างดีใจ ท่าทางจะพูดกันง่าย แต่หน้าเจื่อนไปเลยเมื่อพัดชาพูดต่อ
“เพิ่งเห็นคลิปของคุณกับนางเอกละครเมื่อเช้านี้เอง” หญิงสาวยื่นนามบัตรคืน “ขอบคุณที่ให้ความสนใจในตัวฉันนะคะ แต่ฉันไม่ถนัดการทำงานแนวถึงเนื้อถึงตัวแบบนั้น”
“ไม่ใช่นะครับ ในคลิปนั่นมัน...”
“ขอบคุณสำหรับกาแฟด้วยค่ะ”
พัดชาตัดบท ยิ้มให้สิงคารตามมารยาท แล้วลุกขึ้นเดินเชิดหน้าจากไป
สิงคารมองตามทุกท่วงท่ายวนตาของพัดชา แววตาเป็นประกายเจิดจ้า ยิ่งเห็นยิ่งถูกใจ และยิ่งอยากค้นหา
อ่านต่อตอนต่อไป
อีกฟากหนึ่ง ตรีประดับสวมชุดคลุมอาบน้ำเดินมาที่สระ ถอดเสื้อคลุมออกจะลงน้ำ เสียงชิงฉัตรดังขึ้น
“อาตรีจะว่ายน้ำเหรอครับ”
ตรีประดับสะดุ้งหันไปด้านหลัง เห็นชิงฉัตรยืนมองอยู่ สายตาจ้องมาไม่ลดละ
“จ้ะ”
ตรีประดับเห็นสายตาชิงฉัตร เลยยังไม่กล้าถอดเสื้อคลุม กระชับปิดเสื้อมิดชิดกว่าเดิม
“ฉัตรไม่ออกไปข้างนอกเหรอ ปกติเวลาไม่อยู่บ้านนี่นา”
“ผมเพิ่งกลับเข้ามา เลยว่าจะอยู่เป็นเพื่อนอาตรี”
“อาไม่ได้เป็นอะไรซักหน่อย อยากไปเที่ยวไหนก็ไปเถอะจ้ะ”
ชิงฉัตรมองตรีประดับที่ใส่ชุดมิดชิดอย่างรู้ทัน
“อาตรีคงไม่อยากให้ผมเห็นตอนใส่ชุดว่ายน้ำ” เด็กช่างจอมซ่ายักไหล่พรืด “ผมไปก็ได้ กลับดึกเลยนะครับ”
ชิงฉัตรยิ้มทะเล้น แล้วผละออกไป
ตรีประดับถอนใจ ไม่รู้ว่าคิดถูกหรือผิดที่ปล่อยชิงฉัตรออกไปเที่ยวเตร่นอกบ้าน
ชิงฉัตรแต่งตัวใหม่ เปิดประตูออกมา เห็นรถเทศราชจอดซุ่มอยู่ตรงถนนหน้าบ้านก็แปลกใจ เดินไปเคาะกระจก
“มาหาใครหรือเปล่าครับ”
“ผมเป็นเพื่อนตรีประดับ”
ชิงฉัตรนิ่งมองเทศราช คลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเจอกันแล้ว
“อ๋อ คุณตากล้องนี่เอง คนที่ก่อวีรกรรมในงานแต่อาตรี” เขาแค่นยิ้มอย่างไม่ถูกชะตา “มีธุระอะไร”
เทศราชอึกอัก “ผมได้ข่าวว่าตรีไม่สบาย ก็เลยแวะมาเยี่ยม”
“อาตรีสบายดี ตอนนี้กำลังพักผ่อนอยู่ คงไม่สะดวกรับแขก คุณกลับไปเถอะ”
เทศราชหน้าหงาย โดนไล่ดื้อๆ ชิงฉัตรจะไล่ต่อ แต่โทรศัพท์ดังขึ้น
จึงรีบกดรับ “เออๆ กำลังไป รอเดี๋ยว”
ชิงฉัตรติดสายโทรศัพท์จากเพื่อน เลยรีบร้อนเดินออกไป
เทศราชมองไปยังบ้านพยสอีกครั้ง ลังเลว่าจะเข้าไปดีไหม แต่ก็ยังเป็นห่วงตรีประดับอยู่
ตรีประดับว่ายน้ำไปมา ในหัวนึกถึงเรื่องโน้นเรื่องนี้
ตอนบุพชาดูถูกว่าเธอโง่
“พี่ไม่ได้ดูถูก แต่จะบอกว่าดูไม่ผิดแน่ๆ คุณตรีนะ สวยก็สวย แต่ก็ทำตัวซื่อจนเหมือนโง่ เมียปกติดีๆที่ไหนจะเอาผู้หญิงสวยมาไว้ใกล้ผัว แมวกับปลาย่าง จู่ๆ ชักศึกเข้าบ้าน จะหาว่าไม่เตือน”
ตอนชิงฉัตรเตือนเธอเรื่องพัดชา
“ผมรู้ว่าอายังรักกันดี แต่รักไม่พอ ชีวิตคู่ มันไม่ต้องคนการคนที่ 3 อาอย่าไว้ใจผู้หญิงคนนั้น”
กระทั่งตอนถูกพยสเร่งเร้าอยากมีลูกจนทะเลาะกัน
“ผมแค่อยากให้เราสองคนมีเวลาไปพักผ่อนกันตามลำพังบ้าง บางทีบรรยากาศดีๆ จะทำให้เรามีเจ้าตัวน้อยเร็วๆ ก็ได้นะจ๊ะ”
“ที่แท้ยสก็อยากมีลูกนี่เอง”
“เพื่อนฝูงเราก็มีกันหมดแล้ว ญาติพี่น้องเราก็ถามว่าเมื่อไรจะมีหลาน ตรีไม่อยากมีลูกไว้เลี้ยงแก้เหงาบ้างหรือไง”
ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด ตรีประดับพยายามดำผุดดำว่ายไล่ความคิดนั้นออกไป
เทศราชเดินเข้ามาตอนตรีประดับดำดิ่งลงไปนั่งนิ่งอยู่ใต้น้ำ เลยมองไม่เห็น เห็นแต่เสื้อคลุมกับรองเท้าวางอยู่ริมสระ หาจนทั่วก็ไม่เจอ เทศราชสเพ่งมองไปเห็นร่างตรีประดับนิ่งอยู่ใต้น้ำก็ตกใจ
“ตรี”
เทศราชไม่สนใจรีบโดดน้ำตามลงไปพุ่งเข้าไปรวบตัวไว้ ตรีประดับตกใจ อยู่ๆ ก็มีใครมากอด เลยดิ้นหนี ทะลึ่งพรวดขึ้นมา เทศราชตามขึ้นมา
“ตรีเป็นอะไรหรือเปล่า”
ตรีประดับประหลาดใจ “เทศ มาได้ยังไงเนี่ย”
“เราเข้าบ้านมา เห็นตรีอยู่ก้นสระ ก็เลยนึกว่าจมน้ำ”
ตรีประดับอึ้งๆ แล้วหัวเราะออกมา
เทศราชงง “อะไร”
ตรีประดับพูดกลั้วหัวเราะ “ตรีไม่ได้จมน้ำ ตรีดำน้ำลงไปนั่งสมาธิเล่นๆ”
“อ้าว” เทศราชเงิบ
ตรีประดับหัวเราะกิ๊ก แกล้งสาดน้ำเทศราช ยังขำไม่เลิก พยสหัวเราะเก้อๆ
เทศราชขึ้นจากสระว่ายน้ำก่อน เดินไปหยิบเสื้อคลุมมาให้ตรีประดับ
“เราขอโทษนะ พอดีกำลังเป็นห่วงตรีอยู่ ก็เลยคิดไปไกลเลย”
“ลืมไปแล้วเหรอว่าตรีเป็นนักว่ายน้ำเหรียญทองกีฬาคณะ แล้วจะจมน้ำได้ไงเล่า เทศนี่”
เทศราชยิ้มเขินๆ “จริงด้วย”
ตรีประดับหยิบผ้าเช็ดตัวที่พาดอยู่ที่เก้าอี้ส่งให้
“เทศเช็ดตัวเถอะ เดี๋ยวจะเป็นหวัด”
เทศราชถอดเสื้อออก บิดน้ำ เอาผ้าคลุมตัว
“เช็ดหัวด้วยสิ”
ตรีประดับอดไม่ได้เข้าไปช่วยเช็ดหัวให้ เกิดโมเมนต์ชิดใกล้เมื่อมือสัมผัสกัน ต่างคนต่างเขินกันไปทั้งคู่ และทำตัวไม่ถูก
พัดชาเดินเข้ามาพอดี หยุดมองทั้งสองนิ่งอยู่ จนกระทั่งตรีประดับเหลือบมาเห็น
“น้องพัด”
พัดชาเลยยิ้มให้ทั้งสองแล้วเดินเข้ามาหา
“ไม่นึกว่าจะเจอคุณเทศที่นี่อีกนะคะ”
เทศราชเขิน บอกกับตรีประดับว่า “เราเจอพัดชาที่ห้างน่ะ พัดชาบอกว่าตรีดูเครียดๆ ก็เลยแวะมาหา เผื่อว่าจะช่วยอะไรได้บ้าง”
“งั้นคุยกันไปก่อนนะ เดี๋ยวตรีไปเอาเสื้อผ้ามาให้เปลี่ยน น้องพัดจ๊ะ วานหาเครื่องดื่มร้อนๆ ให้เทศจิบหน่อยนะ”
ตรีประดับผละตัวขึ้นบ้านไป
พัดชาชงเครื่องดื่มร้อนๆ นำมาให้เทศราชที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะ มองอย่างค้นหา
“คุณเทศน่าจะบอกพัดว่าจะแวะมาหาพี่ตรี พัดจะได้รีบกลับมา”
เทศราชยิ้มขำ “ทำไม กลัวว่าผมจะมาทำมิดีมิร้ายพี่สาวของพัดเหรอ”
พัดชาไม่ขำด้วย ตอบนิ่งๆ
“พัดไม่อยากให้คนมองคุณสองคนไม่ดี โดยเฉพาะพี่ตรี”
เทศราชอึ้ง คลายยิ้มบนสีหน้าเมื่อเห็นว่าพัดชาจริงจัง
“ตอนนี้พี่ตรีกำลังถูกพี่สาวคุณพยสจับผิดอยู่ ถ้ามีผู้ชายคนอื่นมาที่บ้านตอนคุณพยสไม่อยู่ แล้วเธอแวะมาเจอเข้า มันจะไม่ค่อยเหมาะ”
เทศราชซึมลงชัดแจ้ง
“พัดเข้าใจคุณเทศนะคะว่าคุณเทศเป็นห่วงพี่ตรีจากใจจริง แต่พัดก็อยากให้คุณเทศนึกถึงพี่ตรีด้วยค่ะ”
“ผมผิดเองที่ไม่คิดให้ดี ความห่วงใยของผมมันเกิดขอบเขตความเป็นเพื่อนไปหน่อย ขอบคุณนะพัดที่ช่วยขีดเส้นกั้นให้ผม”
พัดชามองสีหน้าเทศราชที่สลดลง เดาออกว่าเขาคงจะรู้สึกผูกพันกับตรีประดับไม่ใช่น้อย
ฝ่ายตรีประดับเปลี่ยนเสื้อผ้า เอาชุดของพยสติดมือลงมาด้วย แต่มองเห็นแต่พัดชาอยู่คนเดียว
“อ้าว เทศล่ะจ๊ะ”
“คุณเทศกลับไปแล้วค่ะ เห็นว่ามีธุระด่วน”
“กลับไปได้ยังไง เนื้อตัวเปียกๆ แบบนั้น หาเรื่องป่วยจริงๆ เลยเทศเนี่ย”
ตรีประดับบ่นบ้าค้อนควักออกไปทางหน้าบ้านอย่างเป็นห่วง
นัทเพื่อนชิงฉัตรจอดรถที่หน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ ชิงฉัตรมองงงๆ
“ไหนแกบอกว่าจะไปปาร์ตี้ อีดีเอ็ม ไง ทำไมมาที่นี่”
“ก็ในบ้านนี้แหละมีปาร์ตี้” นัทว่า
“บ้านใคร”
“เพื่อนของเพื่อนของเพื่อนอีกที”
ชิงฉัตรลังเล เพราะไม่รู้เจ้าของบ้านเป็นใคร นัทคะยั้นคะยอ
“เอาเหอะน่า ฉันบอกไว้แล้วว่าเราจะมา รับรองเจ้าของบ้านต้อนรับขับสู้ดีแน่”
นัทยักคิ้วหลิ่วตาแล้วลงไปกดออด สักพักมีวัยรุ่นคนหนึ่งเปิดประตูออกมา
“เมกาบางนาไปทางไหนครับ” ไอ้นัทผู้เป็นเพื่อนบอกรหัสลับไป
วัยรุ่นเฝ้าประตูคนนั้นมองนัทก่อนจะพยักหน้าให้ แล้วเปิดประตูให้ขับรถเข้าบ้าน
รถนัทแล่นฉิวเข้าไปในบ้าน ชิงฉัตรมองรอบๆ ไฟวิบวับประดับประดาตรงบริเวณสระว่ายน้ำหน้าบ้าน วัยรุ่นหนุ่มสาวนับสิบชีวิต โดดน้ำตูมๆ บ้างก็เต้นอยู่ริมสระที่เปิดเพลงดังลั่น บ้างก็จับกลุ่มนัวเนียกันเป็นคู่ๆ
วัยรุ่นเจ้าของบ้านเดินโอบสาวใส่บิกินี่ครึ่งท่อน เดินมารับชิงฉัตรกับนัทที่รถ นัททักทายเจ้าของบ้านอย่างคุ้นเคยกัน ชิงฉัตรยังมองตื่นๆ ไม่เคยมาปาร์ตี้แบบนี้
สาวสวยนางหนึ่งปิ๊งปั๊งมองชิงฉัตรอย่างถูกใจ นวยนาดเข้าไปฉุดแขนให้เข้าไปในปาร์ตี้ด้วยกัน
ชิงฉัตรเดินตามแรงฉุดสาวใจแตก มองดูกลุ่มคนปาร์ตี้กันริมสระ บ้างคึกคักเริ่มหลุด บางคนมึนเมาซบกันเป็นคู่ๆ นัทเพื่อนชิงฉัตรแยกไปเอาเครื่องดื่มมาให้
“เฮ้ยฉัตร ฉันไม่ได้พาแกมายืนเฉยๆ นะเว้ย”
นัทยื่นเครื่องดื่มให้ ชิงฉัตรรับมาจิบ เริ่มโยกตัวตามเพลง บิวท์ตัวเองให้สนุก เสียงเพลงดังสนั่นลั่นสระ
อีกฟาก สองสาวช่วยกันเตรียมอาหารกันอยู่ในครัว ตรีประดับหันไปกดรับวิดีโอจากพยสทางไอแพด ตั้งไว้
“ว่าไงคะยส”
“ทำอะไรอยู่ครับ”
“กำลังช่วยน้องพัดเตรียมอาหารค่ำค่ะ”
“น่าอิจฉาจัง ผมกำลังหิวพอดี”
“น้องพัดจ๊ะ เอาอาหารเรามายั่วหน่อยเร้ว ดูสิคะยส”
พร้อมกับว่า ตรีประดับจ่อไอแพดไปที่อาหารบนโต๊ะ แล้วยกขึ้นมาถ่ายหน้าพัดชาใกล้ๆ พยสเผลอมองพัดชาอย่างตรึงตราในใจ พัดชาช้อนสายตาขึ้นมองกล้อง ทั้งสองมองกันนิ่ง ตรีประดับแทกหน้าเข้ามา พัดชารีบหลบสายตา พยสเองก็ทำเป็นมองไปอีกทาง
“เอ้อ แล้วนี้เจ้าฉัตรไปไหนล่ะ ทำไมไม่ลงมาร่วมโต๊ะ”
ตรีประดับอึ้งไปนิด ไม่อยากบอกว่าชิงฉัตรไม่อยู่บ้าน
“นายฉัตรทำการบ้านอยู่ค่ะ บอกว่าดึกๆ จะลงมาทานเอง”
“งั้นผมไม่กวนแล้วจ้ะ ตรีทานข้าวเถอะ เสร็จแล้วก็รีบพักผ่อนนะ อย่านอนดึก พัดชา”
พัดชาหันมาตามเสียงเรียก ตรีประดับอุตส่าห์เอากล้องไปจ่อให้ โดยไม่ได้คิดอะไร พยสกับพัดชาเลยได้สื่อสายตาให้กันอีกครั้ง ใบหน้าพัดชาในจอดูสวยซึ้งจนพยสใจสั่น พยายามควบคุมตัวเองไม่ให้ประหม่า
“ผมฝากตรีกับนายฉัตรด้วยนะ อนุญาตให้ตีได้ทั้งสองคน ถ้าดื้อ”
พัดชายิ้มประหม่า “ค่ะคุณยส”
พยสส่งสายตาลึกซึ้งให้พัดชาอีกครั้ง ก่อนจะตัดใจปิดการติดต่อไป
“ทำไมพี่ตรีไม่บอกคุณพยสล่ะคะ ว่าคุณฉัตรไม่อยู่บ้าน”
“พี่เป็นคนปล่อยให้ฉัตรออกไปข้างนอกเอง ยสเลี้ยงหลานแบบเข้มงวดเกินไป เด็กผู้ชายวัยนี้ติดเพื่อนฝูงเป็นเรื่องปกติ”
“แต่ถ้าคุณฉัตรติดเพื่อนไม่ดีจะยิ่งแย่นะคะ”
“น้องพัดรู้ได้ยังไงว่าฉัตรคบเพื่อนไม่ดี”
พัดชานิ่งไป ไม่อยากพูดเรื่องชิงฉัตรหนีเรียน
“พัดแค่เห็นว่าคุณฉัตรเป็นคนดื้อ พี่ตรีต้องจับตาดูให้ดีๆ นะคะ ไม่แน่วันนึงคุณฉัตรอาจจะเอาปัญหามาให้”
ตรีประดับมองพัดชายิ้มๆ
“เธอสองคนนี่เหมือนกันไม่มีผิด ชอบยุให้พี่ระแวง”
ตรีประดับขำๆ แล้วเตรียมอาหารต่อไม่สนใจ
พัดชาอดคิดกังวลไม่ได้ว่า ชิงฉัตรมาเสี้ยมอะไรเรื่องตนกับตรีประดับหรือเปล่า
บรรยากาศในปาร์ตี้ของหนุ่มสาวยิ่งคึกคัก ชิงฉัตรนัวอยู่กับสาวสวย สองคนคลอเคลียกันอยู่แถวริมสระ
“เข้าไปข้างในกันไหมฉัตร”
“ข้างในมีอะไร
“อยากรู้ก็ต้องไปด้วยกัน”
สาวใจแตกนางนั้นฉุดให้ชิงฉัตรเข้าบ้านไป ชิงฉัตรโซเซตามเหมือนลูกแมวเชื่องๆ
สาวคนนั้นพาชิงฉัตรเข้ามาในห้องนั่งเล่น มีหนุ่มสาวนั่งกันอยู่เป็นคู่ๆ ท่าทีมึนเมาหลุดไปยังโลกแห่งจินตนาการแล้ว มีเสียงเพลงอีดีเอ็มหลอนๆ นำพา และไฟวนไปมาชวนให้หลอนหลุดตลอดเวลา
สาวสวยผละไปหากลุ่มเพื่อน แล้วเดินกลับมาหาชิงฉัตรพร้อมกับเหล้า
“ดูนี่นะ”
นางพูดพลางหย่อนอะไรบางอย่างลงในไปแก้ว เห็นฟองฟู่ขึ้นมา ชิงฉัตรมองอย่างตื่นตา
“ทำได้ไงอ่ะ”
“ชิมก่อนสิ แล้วจะบอก”
ชิงฉัตรรับแก้วเหล้าไปจิบ สาวนางนั้นยื่นหูเข้าไปกระซิบ ชิงฉัตรตกใจ จะวางแก้วคืน แต่สาวคะยั้นคะยอให้ดื่มกินต่อจนหมด
ชิงฉัตรดื่มหมดแล้ว เจอสาวจับมือเต้นรำ แป๊บเดียวชิงฉัตรก็เริ่มมึน ภาพตรงหน้าหมุนคว้าง เบลอบ้างชัดบ้าง กำลังหลุดเข้าสู่โลกใบใหม่
ชิงฉัตรเริ่มหลุด สนุกไปตามฤทธิ์ยา เต้นไปด้วยกันก๊วนขี้ยาขาปาร์ตี้
โทรศัพท์ในกระเป๋าหลังของเด็กหนุ่มมีไฟวาบๆ เหมือนคนโทร.เข้า
เทศราชเริ่มจามอยู่ที่ห้องนั่งเล่นบนคอนโด นั่งมองโทรศัพท์ ดูไลน์ที่ตรีประดับส่งมา นึกถึงเรื่องที่พัดชาเตือนขึ้นมา
“พัดไม่อยากให้คนมองคุณสองคนไม่ดี โดยเฉพาะพี่ตรี ตอนนี้พี่ตรีกำลังถูกพี่สาวคุณพยสจับผิดอยู่ ถ้ามีผู้ชายคนอื่นมาที่บ้านตอนคุณพยสไม่อยู่ แล้วเธอแวะมาเจอเข้า มันจะไม่ค่อยเหมาะ”
และคำนี้จี้ใจดำสุดๆ “พัดเข้าใจคุณเทศนะคะว่าคุณเทศเป็นห่วงพี่ตรีจากใจจริง แต่พัดก็อยากให้คุณเทศนึกถึงพี่ตรีด้วยค่ะ”
เทศราชซึมไป ก้มลงมองโทรศัพท์อีกครั้ง ดูข้อความที่ตรีประดับส่งมา
“ว่าจะเอายาให้เทศกินกันเป็นหวัด แต่ดันหนีไปซะก่อน ยังไงจัดการตัวเองด้วยนะ ตรีเป็นห่วง”
ตรีประดับทิ้งท้ายด้วยสติ๊กเกอร์แสดงความเป็นห่วงน่ารักๆ
เทศราชยิ้มให้กับข้อความนั้น แต่ก็ตัดใจไม่ตอบ ออกจากไลน์ไป จู่ๆ เพื่อนโทรศัพท์เข้ามาพอดี
“หายไปเลยนะไอ้นักข่าว...คืนนี้ตำรวจมีหมายลับเหรอ เออ ฉันจะไป”
เทศราชวางสาย ลุกขึ้นแต่งตัวโดยไว กระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันตา
ชิงฉัตรหลุดโลกเต็มที่นอนกลิ้งอยู่ที่พื้น มีสาวคนเดิมกอดก่ายล้วงควัก คนอื่นๆ นอนหลับซบกันไปมาด้วยความเมา เพลงดับไปแล้วเพราะทุกคนหลับหมด
ชิงฉัตรได้ยินเสียงโทรศัพท์สั่นอยู่ข้างหูเลยรู้สึกตัว หยิบโทรศัพท์มาดู เห็นชื่อตรีประดับก็ลนลาน
“อาตรี”
ชิงฉัตรมองรอบๆ ไม่กล้ารับสาย รีบลุกขึ้น ตั้งใจจะกลับบ้าน
ชิงฉัตรโซเซออกมาด้านนอก เห็นพวกวัยรุ่นยังปาร์ตี้กันไม่เลิก พยายามมองหาเพื่อนที่พามา แต่ไม่เห็น เลยเดินเข้าไปถามเด็กหนุ่มที่ยืนสแครชแผ่น
“เห็นไอ้นัทมั้ย”
เด็กหนุ่มทำหน้าเหมือนไม่ได้ยิน ชิงฉัตรถามซ้ำ อีกฝ่ายก็ยังส่ายหน้า
ชิงฉัตรรำคาญ เดินวนเวียนมองหาเพื่อนเอง
เทศราชซุ่มอยู่กับเพื่อนนักข่าว มีเจ้าหน้าที่ตำรวจส่วนหนึ่งกระจายกำลังปิดล้อมคฤหาสน์หลังนั้นอยู่
“ชาวบ้านโทรไปแจ้งว่าบ้านนี้เปิดเพลงดังลั่นทุกคืน ตำรวจเลยส่งสายสืบมาติดตามดู ถึงได้รู้ว่ามีการจัดปาร์ตี้ยาของพวกวัยรุ่น เตรียมตัวไว้เถอะ วันนี้ได้ภาพเด็ดๆ ไปลงหนังสือแกแน่”
เพื่อนบอกเทศราช พร้อมเตรียมกล้องไป
ตำรวจส่งสัญญาณให้กันเป็นเชิงบอกว่าให้ลงมือ สายตำรวจเดินไปกดกริ่ง สักพักคนในบ้านออกมาเปิดรับ
“เมกาบางนาไปทางไหน” สายบอกรหัสเข้างานถูกต้อง
วัยรุ่นเปิดประตูให้สายเข้ามา ตำรวจโผล่ออกมาแสดงตัวเป็นแผง
“เฮ้ย ตำรวจ” เด็กเปิดประตูตาเหลือกร้องลั่น
ขาปาร์ตี้ด้านใน ทุกคนได้ยินเสียงตะโกนก็ตกใจ ตำรวจไม่รอช้ากรูกันเข้าไปในบ้านทันที
พวกวัยรุ่นหนุ่มสาวร้องกรี๊ดกร๊าดตกใจวิ่งหนีกันกระเจิดกระเจิง ตำรวจกระจายกำลังเข้าไปคว้าตัว เพื่อนรีบชวนเทศราชตามไปถ่ายรูป
ชิงฉัตรอยู่ในกลุ่มวัยรุ่นพลอยตกใจไปด้วย พยายามหาทางหนี พากันวิ่งไปทางหลังบ้าน
ตำรวจตะโกนเรียกชิงฉัตรกับพวก “หยุด”
เทศราชวิ่งตามตำรวจไปเก็บภาพทุกช็อต
กลุ่มหนุ่มสาว บ้างพยายามปีนกำแพงหลังบ้านหนี บางคนวิ่งกลับเข้าบ้านล็อกประตู ตำรวจตามไปคว้าตัวได้ เทศราชตามไปเก็บภาพ ระดมกดชัตเตอร์ไม่ยั้ง จังหวะที่ตำรวจคว้าตัววัยรุ่นคนหนึ่งไว้ได้
ชิงฉัตรปีนอยู่บนต้นไม้ กระโดดลงมาถีบกลางหลังตำรวจล้มคว่ำไป เทศราชตกใจ
ชิงฉัตรตั้งหลักได้ก็วิ่งหนีย้อนไปทางหน้าบ้าน เทศราชรีบวิ่งตามไป เห็นหน้าไม่ชัด พยายามจะตามไปช่วยจับตัวให้ตำรวจ
“เฮ้ย”
ชิงฉัตรวิ่งหนีออกมาหน้าบ้านจนได้ โทรศัพท์ดังขึ้น รีบกดรับ
“ฮัลโหล”
“ฉัตรอยู่ที่ไหน ทำไมยังไม่กลับบ้านอีก”
“ผม...ผมกำลังจะกลับครับอา”
ชิงฉัตรไม่กล้าตอบ ออกวิ่งหนีไปให้พ้นจากตำรวจ
แต่จู่ๆ รถคันหนึ่งก็แล่นตามมาด้านหลังอย่างรวดเร็ว แล้วเลี้ยวปราดเหมือนจะพุ่งเช้าชน ชิงฉัตรตกใจกระโดดหนีรถล้มลง โทรศัพท์กระเด็นไป เทศราชรีบลงจากรถ ตรงมากระชากคอเสื้อ
“จะไปไหน รู้ไหมว่าทำร้ายเจ้าพนักงานมันมีความผิด”
“ปล่อยนะโว้ย”
ชิงฉัตรดิ้นสู้เตะถีบเทศราชพัลวัน ทั้งสองยังเห็นหน้ากันไม่ชัด แต่ตรีประดับได้ยินเสียงโวยวาย
“ฉัตร เป็นอะไรหรือเปล่า บอกอาตรีสิ”
เทศราชได้ยินเสียงตรีประดับในโทรศัพท์ จำได้ ชะงักหมัดค้าง
ชิงฉัตรได้จังหวะ เสยหมัดเข้าเต็มแก้มเทศราชหน้าหงายไป พอหันกลับมาดูชัดๆ อีกที แทบช็อกไปทั้งคู่
“นายเองเหรอเนี่ย”
“คุณ”
ไม่นานต่อมาตรีประดับตกใจสุดขีดเมื่อเห็นร่างชิงฉัตรโดนเหวี่ยงเข้ามาในบ้านล้มลงกับพื้นห้องโถง พัดชาตามลงมายืนดู
“ไหนว่าจะเอาผมส่งตำรวจไง พากลับมาบ้านทำไมวะ ไม่แน่จริง” เด็กหนุ่มโวยวาย แทบหายเมาเป็นปลิดทิ้ง
“ถ้าฉันส่งนายให้ตำรวจ รู้ไหมว่าอาตรีของนายจะต้องวุ่นวายอีกแค่ไหน แถมยังจะต้องเสียชื่อที่มีหลานไปยุ่งเกี่ยวกับพวกเล่นยาเสพติด”
ตรีประดับแทบช็อก “จริงเหรอฉัตร”
“นี่ยังไม่รวมข้อหาทำร้ายตำรวจตอนพยายามจะหนีด้วยนะ”
ตรีประดับโกรธ “ฉัตรทำไมทำแบบนี้”
ชิงฉัตรก้มหน้า ไม่มีข้อแก้ตัว พัดชายืนมองอย่างสะใจ
“อาอุตส่าห์ไว้ใจ ปล่อยให้ฉัตรไปมีเพื่อน มีสังคมนอกบ้าน แต่ฉัตรทรยศความไว้ใจของอาแบบนี้ได้ยังไง”
“อาตรีต่างหากที่พยายามผลักไสผมไป ไม่อยากให้ผมอยู่บ้าน ผมกลายเป็นหมาหัวเน่า ตั้งแต่มีใครก็ไม่รู้เข้ามาวุ่นวายในบ้านนี้ ทั้งไอ้คุณตากล้องนี่ แล้วก็ยัยพัดชา”
ชิงฉัตรชี้ไปทางพัดชา เทศราชโมโห กระชากคอเสื้อชิงฉัตรขึ้นมา
“เลิกโทษคนอื่นซักที ฉันรู้จักอาทั้งสองคนของนายดี เขาพยายามดูแลหลานอย่างนายให้ดีที่สุดแล้ว ให้ทั้งเงินทอง ทั้งความรักเอาใจใส่ แต่นายต่างหากที่ทำตัวเอง”
ชิงฉัตรหัวเราะเยาะ “เฮอะ ทำเป็นรู้ดี ถามจริงๆ มาแอบนอนอยู่ใต้เตียงอาฉันกี่คืนแล้ววะ”
เทศราชปรี๊ด ต่อยหน้าเปรี้ยง ร่างชิงฉัตรตกน้ำตูม
“ฉัตร” ตรีประดับจะตามลงไป
“ปล่อยมันอยู่ในนั้นแหละตรี เดี๋ยวสร่างเมาก็ขึ้นมาเอง หรือถ้ามันอยากตายอยู่ในน้ำก็ช่าง”
ชิงฉัตรลอยคอคว่ำหน้าไม่ยอมขึ้นมา ไม่มีแรง ตรีประดับใจคอไม่ดี
“ฉัตรเป็นยังไงบ้าง ขึ้นจากน้ำได้ไหม” เห็นชิงฉัตรลอยนิ่งยิ่งใจเสีย “เทศ”
เทศราชถอนใจ รู้ว่าชิงฉัตรแกล้ง เลยกระโดดลงน้ำไปลากคอขึ้นมา ชิงฉัตรได้โอกาสต่อยสวน เทศราชไม่สู้ ชิงฉัตรได้โอกาสเอาคืน กระหน่ำไม่ยั้ง
ตรีประดับตวาด “หยุดเดี๋ยวนี้นะฉัตร ถ้ายังนับว่าอาเป็นอา”
ชิงฉัตรชะงักกึก หันไปมองตรีประดับทำตาแดง
พัดชารีบวิ่งเข้ามากอดตรีประดับ ส่งสายตาติเตียนไปให้ชิงฉัตร
เทศราชลากคอชิงฉัตรขึ้นจากน้ำ ตรีประดับมองด้วยสายตาผิดหวัง
“ทำไมฉัตรถึงทำแบบนี้ แล้วอาจะบอกกับอาพยสยังไง”
“ถ้าผมบอกว่าไม่ได้ตั้งใจ อาตรีจะเชื่อผมไหม”
ตรีประดับไม่ตอบ สายตายังคงมีแววคลางแคลง ชิงฉัตรแค่นยิ้ม
“นั่นไง เด็กมีปัญหาอย่างผม ยังไงมันก็ไม่พ้นข้อกล่าวหาว่าเลวโดยตั้งใจอยู่แล้ว อาตรีจะเสียเวลาถามผมทำไม”
ชิงฉัตรพูดอย่างท้าทายแล้วผลุนผลันออกไป
“ฉัตร”
ชิงฉัตรเดินหนีขึ้นบ้าน ตรีประดับถอนใจ
ตรีประดับเอาเสื้อผ้าของพยสมาให้เทศราชเปลี่ยน
“ตรีเตรียมเสื้อผ้าไว้ให้เทศเปลี่ยนตั้งแต่กลางวัน สุดท้ายก็ได้ใช้จริงๆ”
เทศราชยิ้มขำๆ “สงสัยสระว่ายน้ำบ้านตรีจะมีผีผลักนะ เราเดินผ่านทีไรก็ตกน้ำทุกที”
“ยังจะเห็นเป็นเรื่องตลกได้อีก”
ตรีประดับบ่น แต่ก็อดหัวเราะตามไปด้วยไม่ได้ ยื่นยาให้
“วันนี้ยังไม่ได้กินยาใช่ไหม กินกันไว้เลยนะสองเม็ด”
เทศราชหยิบยาเข้าปากว่าอย่างว่าง่าย ทั้งสองคุยกันกระหนุงกระหนิง
พัดชายืนมองทั้งสองนิ่ง เมมข้อมูลไว้ในใจ
วันรุ่งขึ้น ตรีประดับนั่งทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ มีโทรศัพท์วางอยู่ข้างๆ เปิดเสียงทิ้งไว้
“ตกลงคุณจะกลับวันไหนนะคะยส”
“ไฟลท์เช้าพรุ่งนี้จ้ะ ตรีอยากได้อะไรไหม”
“ไม่อยากหรอกค่ะ แค่ให้คุณกลับมาเร็วๆ ก็พอ”
“แหม พูดอย่างนี้ผมอยากจะแล่นกลับไปซะเดียวนี้เลย คิดถึงจัง นี่ตรีอยู่บ้านหรือเปล่า”
“อยู่ค่ะ อย่าบอกนะคะว่ายสจะใช้เวทย์มนต์หายตัวมา”
ตรีประดับหัวเราะคิก
พยสคุยโทรศัพท์อยู่บนรถตู้ ซึ่งจริงๆ แล้ว จอดอยู่หน้าบ้านนี่เอง
“ถ้าผมมีเวทย์มนต์จริงๆ ผมจะเสกให้ตรีมาอยู่ข้างๆ ผมมากกว่า”
พยสก้าวลงจากรถบริษัทที่มาส่ง มองเข้าไปในบ้านยิ้มๆ มีความสุขที่ได้กลับมาหาเมีย
พัดชาว่ายน้ำอยู่คนเดียวในสระ ท่าทางผ่อนคลายสบายใจ อิริยาบถตอนว่ายน้ำ ดูเย้ายวน ราวกับนางเงือกสาว ชิงฉัตรแหวกม่านหน้าต่าง มองดูพัดชาว่ายน้ำอยู่
พยสเดินเข้าบ้านมาอย่างเงียบกริบ ตั้งใจจะเซอร์ไพร์สตรีประดับ
พัดชายังไม่รู้ตัวว่ามีใครมา แหวกว่ายสายน้ำอย่างเพลิดเพลิน สายลมโชยเอื่อย พัดเอาเสื้อคลุมตัวบางที่พาดอยู่บนเก้าอี้ไสวไป พัดชาหันไปมอง แล้วตัดสินใจขึ้นจากน้ำ
เสื้อคลุมโดนลมพัดปลิว ลอยละล่องไปตกลงที่พื้น พัดชาวิ่งตามผ้าคลุมมาแล้วชะงักมอง ใครคนหนึ่งก้มลงหยิบเสื้อคลุมขึ้นมา พัดชายืนนิ่งมองอย่างประหลาดใจ ลืมไปว่าตัวเองอยู่ในชุดว่ายน้ำ
ใครคนนั้นคือพยส กำลังทอดสายตามองพัดชาด้วยความลืมตัว
“คุณพยส”
พัดชาค่อยๆ เอื้อมมือไปรับเสื้อคลุมจากพยสมาสวม ทั้งสองยังคงยืนมองกันนิ่งอยู่ตรงนั้นเหมือนอยู่ในภวังค์
ชิงฉัตรยืนอยู่ในห้องมองออกมาเห็นทั้งสองพอดี อดนึกถึงคำของบุพชาตอนโต้เถียงกับพัดชาไม่ได้
“คุณคะ ถึงคุณจะดูถูกดิฉันแค่ไหน แต่อย่าได้ดูถูกคนที่มีพระคุณกับดิฉันอย่างคุณตรีประดับ”
“เฮอะ ฉันจะรอดู ผู้ชายร้อยทั้งร้อยมันก็รักสนุกชอบแอบกินทั้งนั้น เธอก็เหมือนกัน หล่อๆ อย่างพยส เธอจะอดใจไหวเหรอ ระวังแล้วกัน อย่าริสวมเขาให้ผู้มีพระคุณของเธอ”
ชิงฉัตรยังเห็นทั้งสองยืนนิ่ง คุยกันผ่านทางสายตา ไม่มีใครขยับไปไหน ใจเริ่มร้อนรน
“ฉันไม่ยอมให้เธอทำร้ายอาตรีหรอกพัดชา”
ชิงฉัตรมองพัดชาอย่างหมายมาดว่าต้องทำอะไรซักอย่าง
พยสกับพัดชายังคงเผชิญหน้า พัดชาเปิดการสนทนาทำลายความอึดอัดนั้น
“คุณพยสกลับมาก่อนกำหนด”
“ใช่” พยสตอบอย่างใจลอย
พัดชาเห็นสายตาคู่นั้นแล้วยิ่งประหม่า เพราะพยสเหมือนไม่เป็นตัวของตัวเองเลยเมื่อเห็นพัดชาในสภาพนี้
แต่ก่อนที่พัดชาจะพูดอะไร ตรีประดับก็ลงมาพอดี
“ยส ไหนบอกว่ากลับพรุ่งนี้ไงคะ”
พยสได้สติหันไป ตรีประดับรีบตรงเข้ามาหาอย่างดีใจ ไม่ทันสังเกตท่าทางของทั้งคู่
“ผมจะเซอร์ไพรส์ตรีไง”
“มิน่า ถึงแอบถามว่าตรีอยู่บ้านหรือเปล่า มีอะไรคะ ทำไมรีบกลับ”
“มีเรื่องด่วนครับ”
พยสทำหน้าซีเรียส ตรีประดับพลอยซีเรียสตามไปด้วย
“ผมคิดถึงคุณ”
พยสดึงตรีประดับเข้ามากอดแน่น เหมือนจะปลุกความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของตัวเองให้คืนกลับมาด้วยการกอดเมียรัก ตรีประดับยิ้มปลื้ม กอดตอบ
พัดชายืนมองทั้งสองนิ่งนาน รู้สึกตัวว่าเป็นเพียงส่วนเกิน จู่ๆ แรงริษยาก็ไหววูบแล่นลิ่วเป็นริ้วๆ เข้ามาในหัวใจอย่างรวดเร็ว หลุดให้เห็นทางสายตาวาววับ
หญิงสาวเมินหน้าหนี รีบพาตัวเองเดินจากไป ด้วยกลัวว่าความรู้สึกรุนแรงนั้นจะทะลุออกมา
อ่านต่อ ตอนที่ 11