เกมพยาบาท ตอนที่ 2
บรรยากาศงานเลี้ยงต้อนรับฉัตรชบา ถูกจัดอย่างหรูหราสมฐานะ แขกเหรื่อกระจายตัวกันตามมุมต่างๆ ภายในบริเวณบ้าน
ฉัตรชนกถูกเกษณีย์เกาะติดแจ เขามีท่าทางเซ็งๆ แต่ปลีกตัวไปไหนไม่ได้ อำภากับเกสรยืนคุยกันอยู่ที่มุมหนึ่ง ฉกาจคุยกับเพื่อนนักธุกิจ พัฒนะยืนดื่มเครื่องดื่มอยู่คนเดียว นักข่าวถ่ายภาพเก็บบรรยากาศไป
ฉัตรชนกทำท่าหลุกหลิกมองหาวรรณิศา
เกษณีย์ถาม "มองหาใครอยู่เหรอคะ"
"ผมมองหาศาน่ะครับ งานจะเริ่มแล้ว ทำไมยังไม่มาอีกก็ไม่รู้"
เกษณีย์แอบทำหน้าไม่พอใจ
บนเวที พิธีกรกล่าวเปิดงาน
"สวัสดีครับ แขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ถึงเวลาแล้วนะครับ ที่เราจะได้พบกับคนที่สำคัญที่สุดที่ในค่ำคืนนี้"
แขกเหรื่อฮือฮา ชะเง้อมองหาฉัตรชบา
"ขอเสียงปรบมือต้อนรับคุณฉัตรชบาด้วยครับ"
ทุกคนปรบมือ
ฉัตรชบาเดินสวยสง่าขึ้นมาบนเวที ตลอดทางที่เดินผ่านมา ทุกคนต่างมองด้วยความชื่นชม
ฉัตรชบาเดินขึ้นไปยืนที่กลางเวที
"คุณฉัตรชบาเรียนจบปริญาโทด้านบริหารธุรกิจจากอเมริกา และคิดว่ากลับมาแล้วจะทำอะไรต่อครับ"
"ฉันคงจะไปช่วยพี่ฉัตรทำงานที่บริษัทเลยค่ะ ปล่อยให้พี่ฉัตรทำงานหนักอยู่คนเดียวมานานแล้ว"
ฉัตรชนกยิ้ม ปลื้มใจน้องสาว
ภูชิชย์เดินเข้ามาในงานพร้อมดอกไม้ช่อใหญ่ ภูชิชย์มองฉัตรชบาที่อยู่บนเวทีด้วยความรัก
"น่าปลื้มใจแทนคุณอำภากับคุณฉกาจนะครับ ที่มีลูกสาวทั้งสวยทั้งเก่งอย่างนี้"
ฉัตรชบายิ้มรับพิธีกร ภูชิชย์ยังคงมองฉัตรชบาด้วยแววตารักและชื่นชมไม่วางตา
ฉัตรชบาเดินลงจากเวที ภูชิชย์รีบเดินเข้าไปหาพร้อมดอกไม้ช่อใหญ่ พร้อมยื่นช่อดอกไม้ให้
"เวลคัมโฮมครับ"
ฉัตรชบารับช่อดอกไม้มา "ขอบคุณค่ะภูชิชย์"
"อยู่ที่อเมริกาเป็นยังไงบ้างครับ มีใครมาจีบหรือเปล่า"
ฉัตรชบายิ้มประมาณว่าฉันสวย
"อย่างฉัน ถ้าไม่มีคนมาจีบก็คงแปลกแล้วล่ะคะ"
"พูดแบบนี้ผมใจคอไม่ดีเลยนะครับ ผมรอคุณมาตั้งหลายปี ถ้ามีใครมาแย่งคุณไป ผมคงเสียใจแย่"
"ตอนนี้ฉันยังไม่มีใครหรอกค่ะ เอาเป็นว่า ฉันจะลองพิจารณาคุณดูก็แล้วกัน ถ้าคุณทำตัวดีๆ เป็นที่น่าพอใจ ฉันก็จะเลื่อนตำแหน่งคุณจากเพื่อนที่แสนดีให้มาเป็นแฟน โอเคมั้ยคะ" ฉัตรชบายิ้มแย้ม
"คุณยอมให้โอกาสผมขนาดนี้ ทำไมจะไม่โอเคล่ะครับ"
ภูชิชย์ยิ้มดีใจ
ส่วนฉัตรชนกแอบมาคุยโทรศัพท์อยู่ที่มุมหนึ่ง
"ถึงไหนแล้วครับศา"
" ฉันกำลังนั่งแท็กซี่ไปค่ะ ใกล้จะถึงแล้วค่ะ"
"ครับ...แล้วเจอกันครับ"
ฉัตรชนกกดวางสาย เกษณีย์เดินข้ามาหา เกาะแขนแนบแน่น แสดงความเป็นเจ้าของตามเคย
"คุณฉัตรหลบมาอยู่ตรงนี้เอง"
"ปล่อยผมก่อนเถอะครับ ใครมาเห็นเข้าคุณเกษจะเสียหาย"
ฉัตรชนกจะแกะมือเกษณีย์ออก แต่เกษณีย์เกาะแน่นไม่ยอมปล่อย
"มีคนมาเห็นก็ดีสิคะ เกษอยากเสีย"
เกษณีย์มองสบตา สายตายั่วยวน
ฉัตรชนกท่าทางอึดอัดใจ
ห่างออกไปทางด้านหลัง อำภากับเกสรยืนดูฉัตรชนกกับเกษณีย์อยู่
"คุณอำภาอย่าลืมที่รับปากดิฉันไว้นะคะว่าคืนนี้จะประกาศเรื่องการแต่งงานของคุณฉัตรกับลูกเกษของดิฉัน"
"เรื่องสำคัญขนาดนี้ดิฉันจะลืมได้ยังไงล่ะคะ รอให้นังวรรณิศามันมาถึงงานซะก่อนเถอะค่ะ แล้วดิฉันจะประกาศต่อหน้ามัน มันจะได้เลิกยุ่งกับตาฉัตรซะที" อำภาบอก
เกสรยิ้มสมใจ
วรรณิศาเดินเข้ามาในงาน ท่าทางกล้าๆ กลัวๆ ไม่มั่นใจ ฉัตรชนกเข้ามารับ
"เดี๋ยวผมจะพาคุณไปสวัสดีคุณพ่อกับคุณแม่ผมก่อนนะ"
"ฉันกลัวคุณแม่คุณจะไม่พอใจจริงๆ นะคะ"
ฉัตรชนกจับมือวรรณิศาให้ความมั่นใจ
"ไม่ต้องกลัวนะครับ ผมจะไม่ให้คุณแม่ทำกับคุณแบบวันนั้นอีกเด็ดขาด"
วรรณิศากระชับมือเข้ากับของฉัตรชนกแน่นขึ้น เรียกความมั่นใจ "ค่ะ"
ฉัตรชนกจูงมือวรรณิศาเข้าไปในงาน
มุมหนึ่ง เกษณีย์กับพัฒนะยืนมองฉัตรชนกกับวรรณิศาอยู่
"คืนนี้คุณจัดการวางยานังวรรณิศาแล้วจะพามันไปขึ้นสวรรค์ที่ไหนก็ตามสบายเลย" เกษณีย์ส่งซองยาให้ "ยานี้จะทำให้มันมึนๆ แต่ไม่ถึงกับหมดสติ คุณคงจัดการมันได้ง่ายขึ้น"
พัฒนะรับยาไป แล้วยิ้มร้ายอย่างหื่นๆ
อำภากับฉกาจยืนคุยกับแขกอยู่ ฉัตรชนกพาวรรณิศาเข้ามาหา
"คุณพ่อคุณแม่ครับ"
อำภากับฉกาจหันมา แขกเดินเลี่ยงออกไป
อำภาปรายหางตามองวรรณิศา แล้วพูดกับฉัตรชนก
"มีอะไรเหรอตาฉัตร"
"ผมพาศามากราบสวัสดีคุณพ่อกับคุณแม่ครับ"
วรรณิศายกมือไหว้อำภากับฉกาจ
"สวัสดีค่ะคุณพ่อ คุณแม่"
ฉกาจรับไหว้แบบเอ็นดู ส่วนอำภาเชิดใส่ ไม่รับไหว้
"ไม่ต้องมาเรียกฉันว่าแม่ ฉันไม่นับญาติกับเธอ"
ฉกาจปรามเบาๆ "นี่คุณ"
วรรณิศาหน้าเสีย ฉัตรชนกจับมือให้กำลังใจ
"ผมกับศาจะแต่งงานกันครับคุณพ่อคุณแม่"
อำภาสวนทันที "แม่บอกแล้วไงว่าแม่ไม่ยอม" ก่อนจะหันไปบอกกับวรรณิศา "เธอนี่สงสัยจะพูดภาษาคนไม่รู้เรื่อง วันก่อนฉันก็ว่าฉันพูดกับเธอไปชัดแล้วนะ"
"ลูกจะรักใครชอบใครก็ปล่อยลูกไปเถอะคุณ"
"ไม่ได้ค่ะ ลูกสะใภ้ฉัน ฉันต้องเป็นคนเลือก"
อำภาเชิดหน้าเดินหนีออกไป
ฉกาจเห็นใจทั้งวรรณิศาและฉัตรชนก
"เอาไว้พ่อจะช่วยพูดกับแม่เค้าให้"
"ขอบคุณครับคุณพ่อ"
ฉกาจเดินตามอำภาออกไป
"ศาอดทนนิดนะครับ ผมเชื่อว่าอีกไม่นานคุณแม่ต้องใจอ่อน"
"ค่ะ"
วรรณิศาพยักหน้ารับ แต่ลึกๆ ก็รู้ว่าอำภาคงไม่มีวันใจอ่อนยอมรับตนเป็นลูกสะใภ้แน่นอน
วรรณิศาหลบออกมานั่งซึมๆ อยู่คนเดียวที่มุมหนึ่ง โทรศัพท์มือถือของวรรณิศาดังขึ้น วรรณิศามองที่หน้าจอเห็นเป็นชื่อของอัคคีที่โทร.เข้ามา
เธอลังเลใจที่จะรับ แต่โทรศัพท์ก็ดังไม่หยุด วรรณิศาตัดสินใจกดรับสาย
"พี่อัคคีมีอะไรคะ"
ฝ่ายอัคคียืนคุยโทรศัพท์อยู่มุมหนึ่งในร้านอาหาร
"พี่ยังคุยงานไม่เสร็จเลย คืนนี้อาจจะกลับดึกหน่อยนะ ศาอยู่บ้านดีๆ นะ อย่าออกไปไหน" แล้วอัคคีก็มีสีหน้าแปลกใจ "พี่ได้ยินเสียงเพลง นี่ศาอยู่ที่ไหน ไม่ได้อยู่บ้านเหรอ"
วรรณิศาคุยมือถือ...ตอบอึกอัก "ศาอยู่บ้านค่ะ"
"แล้วเสียงเพลงนั่นล่ะ"
"เสียงทีวีค่ะ แค่นี้ก่อนนะคะพี่อัคคี ศาต้องรีบตรวจการบ้านเด็ก"
วรรณิศารีบกดวางสาย กลัวอัคคีจับได้ว่าแอบออกมางานเลี้ยง
อัคคีเดินกลับเข้าไปในร้าน ไม่ได้ติดใจสงสัยอะไร
วรรณิศากำลังจะกลับเข้าไปในงาน พัฒนะก็ถือแก้วค็อกเทลเข้ามาหาส่งแก้วให้
"ดื่มซะหน่อยสิครับ"
"ฉันไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอล์ฮอล์ค่ะ"
"แค่นิดหน่อยเองครับ มันจะทำให้คุณศาสนุกขึ้นนะครับ"
พัฒนะจับมือวรรณิศามาจับแก้ว วรรณิศาดึงมือออกไม่ยอมรับแก้ว
พัฒนะส่งสายตาลวนลาม
"หรือว่าจะให้ผมป้อนก็ได้นะครับ"
พัฒนะเข้าไปโอบ แล้วบังคับป้อนค็อกเทลให้วรรณิศาไปอึกใหญ่
"ดื่มนิดนึงนะครับ"
วรรณิศาไอสำลักเล็กน้อย
ฉัตรชบาเดินผ่านมาเห็นก็ไม่พอใจ เดินเข้าไปต่อว่าวรรณิศาทันที
"เนี่ยเหรอคุณครูที่เรียบร้อยแสนดีของพี่ฉัตร พอลับหลังก็แอบมาทำบัดสีกับผู้ชายคนอื่น"
"ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ คุณฉัตรชบาเข้าใจผิดแล้วค่ะ"
"คงเพราะอย่างนี้ คุณแม่ฉันถึงไม่อยากได้คุณมาเป็นลูกสะใภ้"
ฉัตรชบาส่ายหน้าแล้วเดินออกไป
วรรณิศาจะตามฉัตรชบาไป
" คุณฉัตรชบาฟังฉันอธิบายก่อนค่ะ"
พัฒนะดึงแขนไว้
"เค้าจะคิดอะไรก็เรื่องของเค้าเถอะครับ อย่าไปสนใจเลย คุณศาดื่มอีกนิดดีกว่านะครับ"
พัฒนะโอบวรรณิศาแล้วบังคับป้อนค็อกเทลไปจนหมดแก้ว วรรณิศาไอสำลัก พัฒนะใช้มือเช็ดปากให้แบบฉวยโอกาสลวนลาม วรรณิศาเบี่ยงตัวออกแบบระวังตัว
พัฒนะยิ้มร้าย สายตาหื่นๆ
"อีกแป๊บเดียว คุณศาจะรู้สึกสบายเหมือนได้ขึ้นสวรรค์เลยล่ะครับ"
วรรณิศามองระแวง ไม่ไว้ใจพัฒนะ
ต่อมา ... อำภาเดินขึ้นไปบนเวที
"สวัสดีค่ะแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ดิฉันขอขัดจังหวะความสำราญของทุกท่านซักนิดนะคะ ดิฉันมีข่าวดีของฉัตรชนกจะประกาศให้ทุกได้ทราบค่ะ"
แขกเหรื่อทุกคนในงาน ต่างหันมามองอำภาด้วยความสนใจว่าอำภาจะพูดอะไร
ฉัตรชนก ฉัตรชบาและภูชิชย์ยืนเกาะกลุ่มอยู่ด้วยกัน...ฉกาจยืนคุยกับแขกอยู่มุมหนึ่ง...เกสรยืนติดหน้าเวที
"คุณแม่จะประกาศข่าวดีอะไรของพี่ ทำไมพี่ไม่เห็นรู้เรื่องมาก่อนเลย"
"ไม่รู้เหมือนกันค่ะ"
เกษณีย์เดินข้ามาเกาะแขนฉัตรชนกแบบแสดงความเป็นเจ้าของ ฉัตรชนกหันไปเห็นวรรณิศายืนมองตนอยู่จากมุมหนึ่งห่างออกไป ก็พยายามแกะมือเกษณีย์ออก แต่เกษณีย์ไม่ยอมปล่อย
เกษณีย์ชายหางตามองเย้ยวรรณิศาอย่างผู้ชนะ
วรรณิศาเสียใจ แล้วก็มีอาการเหมือนมึนๆ เซไปเล็กน้อย พัฒนะฉวยโอกาสโอบไหล่ประคอง วรรณิศาปัดมือพัฒนะออก แต่พัฒนะฝืนมือไว้ไม่ยอมปล่อย แล้วมองเย้ยฉัตรชนกกลับไปบ้าง
บนเวที อำภาประกาศต่อ
"ข่าวดีที่ว่าก็คือ ตาฉัตรชนกกำลังจะแต่งงานกับหนูเกษณีย์เร็วๆ นี้ค่ะ ดิฉันขอถือโอกาสเรียนเชิญทุกท่านไว้ล่วงหน้าเลยนะคะ"
แขกเหรื่อในงานฮือฮา ปรบมือแสดงความยินดี
ฉัตรชนกตกใจ เพราะไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน
"ทำไมคุณแม่ทำแบบนี้"
ฉัตรชนกรีบหันไปมองทางวรรณิศา
วรรณิศามองฉัตรชนกด้วยแววตาตัดพ้อเสีย แล้ววิ่งออกจากงานไป พัฒนะวิ่งตาม
"ศา!"
ฉัตรชนกจะวิ่งตามวรรณิศาไป แต่แขกเหรื่อผู้ใหญ่เดินเข้ามาแสดงความยินดี ฉัตรชนกจึงต้องอยู่คุยด้วยก่อน
แขกผู้ใหญ่1 "ยินดีด้วยนะคุณฉัตร คุณเกษ"
แขกผู้ใหญ่2 "ยินดีด้วยจ้ะ"
เกษณีย์ยิ้มรับหน้าบาน "ขอบคุณมากค่ะ"
ฉัตรชนกยิ้มรับแห้งๆ ในใจนึกเป็นห่วงวรรณิศามาก
ฉัตรชบามองฉัตรชนก เป็นห่วงความรู้สึกของพี่ชาย
วรรณิศาวิ่งร้องไห้เสียใจออกมาตามถนนในซอยบ้านฉัตรชนก
เด็กแว้นสองคนขับมอเตอร์ไซด์ใกล้เข้ามาทางด้านหลังวรรณิศา พอขับมาถึงตัววรรณิศา เด็กแว้นก็จอดมองวรรณิศาตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาหื่นๆ วรรณิศากลัว
เด็กแว้น1ถาม "จะไปไหนเหรอน้องสาว ให้พี่ไปส่งมั้ยจ๊ะ เบาะพี่ว่างนะ หรือจะนั่งตักพี่ไปก็ได้"
วรรณิศาไม่ตอบอะไร รีบเดินหนีไปด้วยความกลัว เด็กแว้นสองคนจอดรถแล้ววิ่งไปดักหน้าดักหลัง
"อย่ามายุ่งกับฉัน"
วรรณิศาจะเดินหนี เด็กแว้น 2 จับแขนไว้ ลูบแก้ม
"สวยๆ อย่างนี้ไปค้างกับพี่ซักคืนให้ชื่นใจหน่อยดีกว่า"
วรรณิศาผลักเด็กแว้นออกแล้ววิ่งหนี เด็กแว้นสองคนตามไปฉุดกระชาก วรรณิศาต่อสู้ไปมา แต่ก็สู้แรงผู้ชายสองคนไม่ไหว
ทันใดนั้น แสงไฟจากหน้ารถยนต์คันหนึ่งก็สาดเข้ามา แล้วรถคันนั้นก็จอด
พัฒนะลงจากรถมาช่วยวรรณิศา ชักปืนออกมาขู่เด็กแว้น
"ปล่อยผู้หญิงนะโว้ย"
เด็กแว้นกลัว รีบปล่อยตัววรรณิศา
พัฒนะดึงตัววรรณิศามาไว้ข้างหลังตน
"ไม่ต้องกลัวนะครับคุณศา" พัฒนะตะคอกเด็กแว้น "ไสหัว ไม่งั้นกูยิงไส้แตก"
เด็กแว้นรีบวิ่งไปขึ้นมอเตอร์ไซด์แล้วขับออกไป
วรรณิศาเริ่มมึนฤทธิ์ยานิดๆ
"ขอบคุณมากนะคะที่มาช่วยฉัน"
"รีบขึ้นรถก่อนเถอะครับ ก่อนที่พวกมันจะตามพวกมาเล่นงานเรา"
พัฒนะประคองวรรณิศาไปขึ้นรถ
พัฒนะมองวรรณิศาด้วยสีหน้าและแววตาคิดร้าย ประมาณว่าวรรณิศาต้องเสร็จตนแน่ๆ
อ่านต่อหน้า 2
เกมพยาบาท ตอนที่ 2 (ต่อ)
ฉัตรชนกเดินเร็วๆ จะไปขึ้นรถที่จอดอยู่ที่ลานจอดรถ อำภาปรี่เข้ามาขวาง ฉัตรชบาตามอำภามา
"จะไปไหนตาฉัตร"
"ผมจะออกไปตามศา คุณแม่ทำให้ศาเข้าใจผมผิด ไม่รู้ป่านนี้ศาจะเสียใจแค่ไหน"
ฉัตรชนกจะขึ้นรถ อำภากระชากกลับมา เสียงดั
"แม่ไม่ให้ไป"
"ใจเย็นๆ ค่ะคุณแม่ นักข่าวเต็มไปหมด เดี๋ยวก็ถูกเขียนข่าวเมาท์หรอกค่ะ"
อำภาสงบลงนิดหนึ่ง กลัวเสียชื่อ
ฉัตรชนกแข็งข้อขึ้น
"ที่ผ่านมาผมยอมคุณแม่มาตลอด เพราะหวังว่าความดีของศาจะเอาชนะใจคุณแม่ได้ แต่สิ่งที่คุณแม่ทำวันนี้ ผมรับไม่ได้จริงๆ"
ฉัตรชนกขึ้นรถแล้วขับออกไปอย่างเร็ว
"ตาฉัตร! นี่แกเห็นนังวรรณิศาดีกว่าแม่เหรอ"
อำภาโกรธมาก ฉัตรชนกกอดประคองอำภา ปลอบใจ
พัฒนะขับรถพาวรรณิศาเข้าไปในผับของตน เด็กแว้นที่แอบขับรถตามมาไม่กล้าตามเข้าไป ได้แต่จอดรถซุ่มอยู่หน้าผับ
เด็กแว้น1ถามเพื่อน
"เอาไงวะ"
เด็กแว้น2 มองเข้าไปที่หน้าผับ เห็นการ์ดตัวใหญ่หน้าตาโหดๆ ยืนอยู่หลายคน
เด็กแว้น2 "ตามพวกมาช่วยรุมยำตีนมัน"
เด็กแว้น1 หยิบมือถือออกมาโทร.ตามเพื่อน
ภายในผับ เสียงเพลงจังหวะสนุกๆ ดังกระหึ่ม นักท่องราตรีดื่มและเต้นกันอย่างเมามันส์ พนักงานของผับก็เดินให้บริการลูกค้าตามโต๊ะต่างๆ อยู่
พัฒนะกอดประคองวรรณิศาที่มีอาการมึนๆ เหมือนคนเมายาเดินผ่านกลุ่มลูกค้าและพนักงานเข้าไปในห้องทำงานที่อยู่ด้านหลัง
พัฒนะประคองวรรณิศาให้นอนลงบนโซฟาตัวยาวในห้องทำงาน
"พาฉันมาที่นี่ทำไม ฉันจะกลับบ้าน
วรรณิศาจะกลับ แต่พัฒนะกดล็อคไว้ แล้วยื่นหน้าเข้ามาพูดใกล้ๆ หน้า
"จะรีบกลับไปไหนล่ะครับคุณครู เรายังไม่ได้สนุกกันเลย"
พัฒนะพยามจะปล้ำ วรรณิศาขัดขืน พยายามต่อสู้ แต่เพราะมึนฤทธิ์ยาเลยไม่ค่อยมีแรงเท่าไหร่
วรรณิศาร้องไห้
"ปล่อยฉัน อย่าทำอะไรฉันเลยนะ ฉันขอร้อง"
พัฒนะไม่ฟังเสียงอ้อนวอนของวรรณิศา เข้ากอดปล้ำ ซุกไซ้ไป
วรรณิศารวบรวมกำลังแล้วผลักพัฒนะออกจนสุดแรงจนพัฒนะกระเด็นออกไป พัฒนะตั้งหลักได้ ก็เดินเข้าหาวรรณิศาอีกครั้ง วรรณิศาหันไปหยิบของแข็งใกล้มือ มาฟาดเข้าที่หัวพัฒนะเต็มแรงจนหัวแตกเลือดไหล
วรรณิศาได้จังหวะ วิ่งหนีออกไปข้างนอก
พัฒนะเจ็บหัว เอามือแตะที่แผล เห็นมีเลือดออกเลยไม่ตามวรรณิศาไป
ฝ่ายอัคคีเดินกลับเข้ามาในห้องโถง เห็นบ้านปิดไฟเงียบก็เอะใจ
"ศานอนแล้วเหรอ"
อัคคีเดินขึ้นไปชั้นบน
อัคคีเปิดประตูห้องนอนวรรณิศาเข้าไปดูก็ไม่เห็นน้องสาว
อัคคีนึกรู้
"ศาต้องแอบไปบ้านไอ้ฉัตรชนกแน่ๆ"
อัคคีกดมือถือโทร.หาวรรณิศา รอสายอยู่ครู่หนึ่งก็ไม่มีคนรับสาย
อัคคีบ่นพึมพำ
"ทำไมไม่รับสายนะศา"
อัคคีบ่นแบบหัวเสียมาก
อัคคีวิ่งลงมาจากชั้นบน เข้ามาที่ห้องโถง ตะโกนเรียกเสียงดัง
"น้อย! น้อย!"
น้อยรีบวิ่งเข้ามาหา หน้าตัวงัวเงียเหมือนกำลังนอนอยู่
"มาแล้วค่ะ มาแล้ว คุณอัคคีมีอะไรคะ"
"คุณศาไปไหน ได้บอกรึเปล่า"
"ไม่ได้บอกค่ะ แต่น้อยเห็นคุณศาแต่งตัวสวย เหมือนจะไปงานเลี้ยงเลยค่ะ"
อัคคีโกรธ
"ต้องไปงานเลี้ยงบ้านไอ้ฉัตรชนกแน่ๆ"
อัคคีกดมือถือโทรหาอดุลย์
"ไอ้ดุลย์ แกช่วยเช็คที่อยู่บ้านไอ้ฉัตรชนกให้ฉันด่วน! ถ้ารู้แล้วก็ไลน์มาบอกด้วย"
อัคคีกดวางสาย สีหน้าโกรธปนเป็นห่วงวรรณิศา
ครู่หนึ่ง เสียงเตือนข้อความไลน์ก็ดังขึ้น อัคคีกดอ่านข้อความแล้วรีบออกจากบ้านไป น้อยมองตามสีหน้างงๆ ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่
อัคคีขับรถออกจากบ้านไปอย่างเร็ว
ครู่หนึ่ง ฉัตรชนกก็ขับรถเข้ามาจอดที่หน้าบ้านวรรณิศา ฉัตรชนกลงจากรถไปกดกริ่งหน้าบ้านวรรณิศา
ครู่หนึ่ง น้อยก็เดินออกมาเปิดประตู หน้าตางัวเงีย
ฉัตรชนกรีบถาม
"คุณศากลับมาหรือยังน้อย"
"ยังเลยค่ะ คุณอัคคีก็เพิ่งจะออกไปตามหาเมื่อกี๊นี้เองค่ะ" น้อยหาวด้วยความง่วง
"ขอบใจนะ ไปนอนเถอะ"
"ค่ะ"
น้อยปิดประตูบ้าน แล้วเดินกลับเข้าไป
ฉัตรชนกหยิบมือถือขึ้นมากดโทร.ออก
"สวัสดีครับครูบี ศาไปหาครูบีหรือเปล่าครับ ... ไม่ได้ไปเหรอครับ" ฉัตรชนกกดวางสาย พึมพำ "คุณไปไหนนะศา"
ฉัตรชนกเป็นห่วงวรรณิศามาก รีบขึ้นรถแล้วออกไป
ฉัตรชนกขับรถตามหาวรรณิศาไปตามถนนสายต่างๆ แต่ก็ไม่เจอ ฉัตรชนกมีท่าทางร้อนใจเป็นห่วงวรรณิศามาก
ฝ่ายวรรณิศาวิ่งหนีพัฒนะออกมาที่หน้าผับ วรรณิศามีอาการมึนๆ เหมือนคนเมายา วิ่งเซไปเซมาไม่ตรงทาง
วรรณิศาโบกแท็กซี่ แท็กซี่จอดแล้วเปิดกระจกรถมองหน้า
แท็กซี่พูดกับตัวเองเบาๆ "เมายาหรือเปล่าวะ"
แท็กซี่ปิดกระจกรถแล้วขับออกไปเลย
วรรณิศายืนหันหน้าหันหลังว่าจะเอายังไง แล้วก็ตัดสินใจเดินออกไปให้พ้นจากตรงนี้ก่อน
เด็กแว้นที่ซุ่มรออยู่ เห็นวรรณิศา
เด็กแว้น1บอก"ผู้หญิงคนนั้นนี่หว่า"
"ทำไมออกมาคนเดียววะ"
เด็กแว้น1 มองวรรณิศาที่เดินใกล้เข้ามาด้วยสายตาหื่นกระหาย
"มาคนเดียวแบบนี้ก็หวานหมูน่ะสิ"
รถกระบะคันหนึ่งขับเข้ามาจอดตรงหน้าเด็กแว้นทั้งสอง คนในรถเปิดกระจกรถลงมา ภายในรถมีวัยรุ่นอยู่ 3 คน
วัยรุ่น1"โทรตามพวกกูมาทำไมวะ"
เด็กแว้น1 "ตามมากินของหวานรอบดึก สนป่ะ"
"ของหวานอะไรของมึง"
เด็กแว้น1 มองนำไปที่วรรณิศา "นั่นไง"
พวกเด็กแว้นและกลุ่มวัยรุ่นมองวรรณิศาตาเป็นมัน
เด็กแว้น1และ2 วิ่งเข้าไปฉุดตัววรรณิศาลากมาขึ้นรถกระบะ
วรรณิศาตกใจ กรีดร้อง
"แอร๊ย ! จะทำอะไรฉัน ปล่อยฉันนะ"
วรรณิศาดิ้นขัดขืนไปมา แล้วก็หมดสติไปเพราะฤทธิ์ยา
เด็กแว้นทั้งสองลากวรรณิศาไปขึ้นรถกระบะ
วรรณิศาหมดสติอยู่ที่มุมห้องในบ้านร้างหลังหนึ่ง เด็กแว้นและกลุ่มวัยรุ่นยืนมองวรรณิศากันอยู่
เด็กแว้น1 "สลบแบบนี้ก็ไม่สนุกน่ะสิวะ"
เด็กแว้น2 เข้าไปตบหน้าวรรณิศาเบาๆ เพื่อปลุกให้ตื่น
ครู่หนึ่ง วรรณิศาก็ลืมตาขึ้นมา เห็นกลุ่มเด็กแว้นและวัยรุ่นยืนมองตนอยู่ก็ตกใจ กระเถิบตัวหนีเข้ามุม กลัว ยกมือไหว้
"อย่าทำอะไรฉันเลยนะ ฉันไหว้ล่ะ"
พวกเด็กแว้นและกลุ่มวัยรุ่นไม่ฟัง เดินเข้ามาวรรณิศาด้วยแววตาหื่นกระหาย
วรรณิศากลัวจนตัวสั่น ถอยหนี
"อย่าเข้ามานะ"
พวกเด็กแว้นกับกลุ่มวัยรุ่นเดินเข้าหาวรรณิศา ด้วยแววตาหื่นกระหาย
บรรยากาศงานเลี้ยงต้อนรับฉัตรชบาเลิกแล้ว แขกเหรื่อกลับกันหมดแล้ว อัคคีเดินเข้ามาด้วยความโกรธปนร้อนใจเป็นห่วงน้องสาว
อัคคีตะโกนเรียกเสียงดัง
"ศาๆๆ ศาอยู่ที่นี่หรือเปล่า ศา!"
ฉัตรชบาเดินออกมาจากในบ้าน
"นี่คุณ มาตะโกนโวยวายอะไรที่นี่"
"ศามาที่นี่ใช่มั้ย แล้วตอนนี้ศาอยู่ที่ไหน"
"คุณศากลับไปตั้งนานแล้วนี่" ฉัตรชบาสีหน้าคิด แล้วพูดกับตัวเองเบาๆ "แต่พี่ฉัตรตามคุณศาออกไป หรือว่าพี่ฉัตรจะพาไปไหนต่อ"
อัคคีได้ยินชื่อฉัตรชนกก็โกรธ เข้ามาจับต้นแขนสองข้างของฉัตรชบาบีบแรงๆ
"พี่ชายคุณพาน้องสาวผมไปไหน"
ฉัตรชบาเจ็บ เสียงดังใส่ "ฉันไม่รู้!" เธอผลักอัคคีออก
"ก็คุณพูดอยู่เมื่อกี๊นี้ว่า พี่ชายคุณตามน้องสาวผมออกไป แล้วจะมาบอกว่าไม่รู้ได้ยังไง"
"คุณพัฒนะก็ตามคุณศาออกไปเหมือนกัน ตอนนี้คุณศาอาจจะอยู่กับคุณพัฒนะก็ได้ ฉันเห็นเค้าสองคนแอบจู๋จี๋กันอยู่ ทำอะไรไม่เกรงใจพี่ฉัตรบ้างเลย"
อัคคีโกรธ
"ศาไม่มีวันทำอย่างนั้นแน่นอน คุณอย่ามาใส่ร้ายน้องสาวผม"
"ฉันเห็นกับตา" ฉัตรชบาประชดเพื่อความสะใจ "ตอนแรกฉันก็ว่าจะช่วยเชียร์น้องสาวคุณอยู่หรอกนะ แต่เห็นทำตัวแบบนั้นแล้วฉันคงรับเป็นพี่สะใภ้ไม่ลง ฉันเชียร์ให้พี่ฉัตรแต่งงานกับคุณเกษณีย์ซะยังดีกว่า"
"พูดอย่างกับพวกคุณดีนักนี่ ผมจะบอกให้นะ ว่าผมก็ไม่รับพี่ชายคุณเป็นน้องเขยผมเหมือนกัน!"
"ออกจากบ้านฉันไปเดี๋ยวนี้เลยนะ ก่อนที่คุณพ่อกับคุณแม่ฉันจะลงมาเห็น แล้วแจ้งตำรวจมาจับคุณ ออกไปๆๆ"
ฉัตรชบาผลักอัคคีออกไป
"ผมไปแน่ ไม่ต้องมาไล่ผมเหมือนหมูเหมือนหมาอย่างนี้ก็ได้"
อัคคีพยายามปัดป้องดันมือฉัตรชบาออก แต่มือดันพลาดไปถูกก้นฉัตรชบาโดยไม่ตั้งใจ
"ว้าย ! ไอ้บ้า"
"ผมไม่ได้ตั้งใจ มือมันไปโดนเอง"
ฉัตรชบาตบหน้าทันที
"ไม่ต้องมาแก้ตัว ไอ้โรคจิต!"
"ก็บอกว่าไม่ได้ตั้งใจ"
ฉัตรชบาตบอีกที "เลว!"
อัคคีชักโมโห
"ก็บอกว่าไม่ได้ตั้งใจไงเล่า ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องรึไง"
ทันใดนั้น โทรศัพท์มือถือของอัคคีก็ดังขึ้น อัคคีกดรับสาย สีหน้าตกใจมาก
"ว่าไงนะครับคุณตำรวจ!!! ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้"
อัคคีกดวางสายแล้วรีบเดินออกไป ฉัตรชบามองตามด้วยความสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น
ครู่หนึ่ง ฉัตรชบาก็ยกมือขึ้นมาเช็ดปากตัวเองแรงๆ ขยะแขยงที่ถูกอัคคีจูบ
อ่านต่อหน้า 3
เกมพยาบาท ตอนที่ 2 (ต่อ)
เวลาต่อมา ที่ห้องพักคนไข้ในโรงพยาบาล อัคคียืนมองน้องสาวที่นอนไม่ได้สติอยู่บนเตียงคนไข้ แววตาโกรธแค้นมาก
"ไอ้สัตว์นรกตัวไหนมันทำกับน้องสาวผมอย่างนี้"
เขากำหมัดแน่น แค้นมาก
ตำรวจกับหมอยืนอยู่ข้างเตียงวรรณิศาอีกด้าน
"ทางตำรวจยังไม่ทราบตัวคนร้าย คงต้องรอให้คุณวรรณิศาฟื้นขึ้นมาก่อน ถึงจะสอบปากคำได้ เบื้องต้นผมเพียงแค่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบคุณวรรณิศาถูกข่มขืนและวิ่งออกมาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน แล้วก็โชคดีที่ชาวบ้านจำได้ว่าคุณวรรณิศาเป็นครูที่โรงเรียนของลูกชายเค้า ผมเลยตามตัวคุณอัคคีได้ไม่ยาก"
อัคคีถามหมอ
"น้องสาวผมจะฟื้นเมื่อไหร่ครับคุณหมอ"
"พรุ่งนี้เช้าก็น่าจะฟื้นแล้วล่ะครับ"
อัคคีเข้าไปลูบหน้าลูบผมวรรณิศา แล้วมองสภาพร่างกายที่บอบช้ำของน้องแล้วก็สงสารจับใจ
หมอกับตำรวจเห็นอัคคีเศร้าเสียใจก็เห็นใจ แล้วพากันเดินออกไปเงียบๆ ปล่อยให้อัคคีอยู่กับวรรณิศาสองคน
อัคคีพูดกับวรรณิศา
"ไม่ว่าใครก็ตามที่มันทำร้ายศา มันต้องตายด้วยมือพี่"
อัคคีเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้น
กลางคืนต่อเนื่องมา ฉัตรชนกเดินคอตกกลับเข้ามาในห้องโถง ฉัตรชบาที่รออยู่รีบเข้ามาถาม
"เจอคุณศามั้ยคะพี่ฉัตร"
"ไม่เจอ พี่ตามไปที่บ้านก็ไม่มีคนอยู่"
"นายอัคคีก็มาตามหาคุณศาที่นี่เหมือนกัน"
"ศาหายไปไหนนะ ร้องไห้เสียใจออกไปแบบนั้น จะเตลิดไปถึงไหนก็ไม่รู้ ถ้าศาเป็นอะไรไป พี่ก็มีส่วนผิดด้วยเหมือนกัน"
ฉัตรชนกเป็นห่วงวรรณิศามาก
โรงพยาบาล เช้าวันใหม่ ในห้องพักคนไข้ วรรณิศาเห็นหน้าอัคคีก็กรีดร้องอย่างหวาดผวา กลัวจนตัวสั่น
"อย่าเข้ามานะ อย่าเข้ามา ฉันกลัวแล้ว อย่าทำอะไรฉันนะ"
อัคคีใจเสีย
"ศา นี่พี่เองนะ พี่อัคคี พี่ชายของศาไง"
วรรณิศาไม่ฟัง หยิบข้าวของใกล้มือมาปาใส่อัคคี
"ออกไป ออกไปให้พ้น"
หมอและพยาบาลช่วยกันจับตัววรรณิศาล็อคไว้
หมอบอกอัคคี
"คนไข้มีอาการช็อคจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากจนมีผลกับระบบประสาท ตอนนี้คนไข้คงจะพูดคุยอะไรไม่รู้เรื่องหรอกครับ"
หมอฉีดยาระงับประสาทให้วรรณิศา ครู่หนึ่งก็สงบลง
"ศาจำได้มั้ยว่าเกิดอะไรขึ้น ใครทำร้ายศา"
วรรณิศาเริ่มตาลอยๆ เพราะฤทธิ์ยาระงับประสาท พูดพร่ำเพ้อเหมือนคนเสียสติ
"ใครทำร้าย ใครใจร้าย ...คุณฉัตร...คุณฉัตรใจร้าย"
อัคคีขบกรามแน่น พูดรอดไรฟันออกมาเบาๆ "ไอ้ฉัตรชนก!"
วรรณิศานอนนิ่งปล่อยให้น้ำตาไหลออกมา แล้วก็ค่อยๆ หลับไปเพราะฤทธิ์ยา
หมอกับพยาบาลเห็นวรรณิศาหลับไปแล้ว ก็เดินออกไป
จิดาภาเดินเร็วๆ สวนกับหมอและพยาบาลเข้ามาในห้อง
"ศาเป็นยังไงบ้างคะ พอคุณโทร.ไปบอก ฉันก็รีบจองตั๋วเครื่องบินมาเลย"
อัคคีน้ำตารื้นสงสารน้อง
"อาการย่ำแย่ทั้งสภาพร่างกายและจิตใจ"
"ใครนะช่างใจร้าย ทำกับศาได้ลงคอ"
"ไอ้ฉัตรชนก! มันเป็นคนทำร้ายศา"
"คุณเป็นคนบอกฉันเองว่าเค้าสองคนเป็นแฟนกัน แล้วคุณฉัตรชนกจะทำร้ายศาทำไมล่ะคะ"
"แต่ศาเป็นคนพูดออกมาเองว่าเป็นมัน ผมจะไปฆ่ามัน"
อัคคีจะไป จิดาภารั้งไว้
"ใจเย็นๆ ก่อนนะคะอัคคี รอฟังผลการสอบสวนจากทางตำรวจก่อนดีกว่าค่ะ เพราะในคืนเกิดเหตุมีคนเห็นคุณพัฒนะตามศาออกมาจากงานเลี้ยงไม่ใช่เหรอคะ บางทีคนที่ทำร้ายศาอาจจะไม่ใช่คุณฉัตรชนก็ได้นะคะ"
"ไม่ใช่มันแล้วจะเป็นใคร"
อัคคีขบกรามแน่น โกรธแค้นสุดๆ
อัคคีและจิดาภาคุยกับตำรวจอยู่ที่มุมหนึ่งของโรงพยาบาล
"ผมสอบปากคำคุณพัฒนะแล้วนะครับ ในคืนเกิดเหตุ คุณพัฒนะอยู่ที่ผับของตัวเอง มีพนักงานและลูกค้าเป็นพยานรู้เห็นหลายคน เพราะฉะนั้น คุณพัฒนะไม่ใช่คนร้ายแน่นอนครับ"
"ผมก็ไม่คิดว่าเป็นเค้าหรอกครับ"
"คุณอัคคีพูดเหมือนสงสัยคนอื่น คุณสงสัยใครเหรอครับ"
อัคคีกำลังจะบอก แล้วก็เปลี่ยนใจ "เปล่าหรอกครับ"
จิดาภามองอัคคีอย่างแปลกใจ ที่อัคคีไม่บอกตำรวจว่าสงสัยฉัตรชนก
"เอาเป็นว่า ผมฝากคุณตำรวจช่วยสืบหาตัวคนร้ายให้ได้โดยเร็วที่สุดก็แล้วกันครับ"
"มันเป็นหน้าที่ของตำรวจอยู่แล้ว คุณอัคคีไม่ต้องห่วง ผมขอตัวก่อนนะครับ ถ้ามีอะไรคืบหน้าผมจะแจ้งให้ทราบ"
"ขอบคุณครับ"
ตำรวจเดินออกไป
"ทำไมคุณไม่บอกตำรวจล่ะคะว่าคุณสงสัยคุณฉัตรชนก"
"คนสารเลวอย่างมัน แค่ติดคุกมันสบายเกินไป"
"แล้วคุณจะทำอะไรเค้าคะ"
อัคคีอาฆาตแค้น
"ผมจะลงโทษมันด้วยตัวผมเอง"
จิดาภามองอัคคีอย่างไม่สบายใจ
จิดาภาพาอัคคีมาที่ผับของพัฒนะ
"คุณพาผมมาที่นี่ทำไม"
"ฉันอยากให้คุณมาถามคุณพัฒนะดูก่อน ว่าเมื่อคืนนี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ฉันไม่อยากให้คุณปักใจเชื่ออะไรง่ายๆ แล้วไปลงโทษผิดคน"
พัฒนะเดินออกมาจากด้านใน ที่หัวมีผ้าก๊อซติดแผลแปะอยู่
พัฒนะท่าทางกวนตีน
"สวัสดีครับคุณจิ คุณอัคคี มาหาผมถึงที่นี่ อย่าบอกนะครับว่าจะมาถามผมเรื่องที่คุณวรรณิศาถูกทำร้าย ถ้าเป็นเรื่องนั้น ผมให้ปากคำกับตำรวจไปหมดแล้ว"
อัคคีกระชากคอเสื้อพัฒนะ เค้นถาม
"ความจริงมันเป็นยังไงกันแน่ แกตามศาออกจากงานเลี้ยง แล้วศาถูก..." อัคคีชะงักไปนิดหนึ่ง ไม่อยากพูดคำว่าข่มขืน มันสะเทือนใจ "ถูกทำร้ายได้ยังไง"
จิดาภาดึงมืออัคคีออกจากพัฒนะ
"ใจเย็นๆ ก่อนสิคะอัคคี"
พัฒนะจับปกเสื้อให้เข้าที่เข้าทาง ท่าทางกวนตีนเหมือนเดิม
"เมื่อคืนนี้ผมไม่ได้ทำอะไรคุณศาทั้งนั้น คุณฉัตรต่างหากที่เป็นคนทำ"
อัคคีเสียงแข็ง ตาลุกวาว
"มันทำอะไรศา!"
"คุณฉัตรชนกประกาศแต่งงานกับคุณเกษณีย์ต่อหน้าคุณศา คุณศาเสียใจมากก็เลยวิ่งหนีออกจากงานไป ผมเป็นห่วงคุณศาก็เลยตามไป คุณศาเมา ผมก็เลยพามาพักที่นี่ก่อน แต่คุณศาก็หนีกลับไป ก็เลยถูกทำร้ายนั่นแหละ"
อัคคีโกรธ
"ไอ้ฉัตรชนก! มึงหลอกน้องกูเหรอ"
พัฒนะพูดโยนความผิดให้ฉัตรชนก
"ผมแอบได้ยินคุณฉัตรชนกพูดกับคุณฉัตรชบาด้วยว่าคุณศาตามตื๊อคุณฉัตรชนก ทั้งที่คุณฉัตรชนกไม่ได้รักคุณศาเลย แล้วคุณฉัตรชนกก็บอกคุณฉัตรชบาด้วย ว่าจะหาทางเขี่ยคุณศาออกจากชีวิตให้เร็ว คุณฉัตรชนกจะได้แต่งงานกับคุณเกษณีย์อย่างสบายใจ แต่ผมก็ไม่คิดว่าคุณฉัตรชนกจะใช้วิธีโหดถึงขนาดส่งคนไปข่มขืนคุณศาอย่างนี้"
อัคคีโกรธมาก "ไอ้สารเลว!"
อัคคีเดินจ้ำออกไป จิดาภารีบวิ่งตามไปห้าม พัฒนะมองตามแล้วยิ้มเยาะ
จิดาภาดึงตัวไว้
"จะไปไหนคะอัคคี"
"ผมจะไปฆ่าไอ้ฉัตร" อัคคีจะไปให้ได้
จิดาภาดึงตัวไว้ "ไม่ได้นะคะ ถ้าคุณทำแบบนั้นคุณก็จะติดคุก แล้วใครจะอยู่ดูแลศาล่ะคะ คุณอย่าลืมนะคะว่าศาไม่เหลือใครแล้วนอกจากคุณคนเดียว"
อัคคีสงบลงเล็กน้อย แต่ยังโกรธแค้นอยู่
"ผมไม่ฆ่ามันก็ได้ แต่ผมจะลงโทษมันด้วยวิธีอื่น รับรองว่ามันจะต้องเจ็บปวดและทรมานใจไม่น้อยกว่าผมเลย คุณคอยดู"
อัคคีบอกอย่างโกรธแค้น จิดาภาฟังแล้วไม่สบายใจเลย
บริษัทของฉัตรชนก
ภายในห้องประชุม ฉัตรชนกกำลังประชุมอยู่กับผู้บริหารและพนักงาน โดยมีฉัตรชบานั่งอยู่ข้างๆ
"ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณฉัตรชบา จะเข้ามาทำงานที่บริษัท ในตำแหน่ง รองประธานกรรมการ และจะช่วยดูแลเรื่องการตลาดและการประชาสัมพันธ์เป็นพิเศษด้วย"
ผู้บริหารและพนักงานยิ้มต้อนรับฉัตรชบาอย่างเป็นมิตร
ฉัตรชบายิ้มตอบอย่างเป็นกันเอง แต่แฝงไปด้วยความมุ่งมั่นและมั่นใจในตัวเอง
"ฉันจะตั้งใจทำงานเพื่อพัฒนาบริษัทของเราให้ก้าวขึ้นไปเป็นที่หนึ่งในวงการอสังหาริมทรัพย์ให้ได้ค่ะ"
ผู้บริหารและพนักงานยิ้มอย่างมั่นใจในตัวฉัตรชบา
ฉัตรชนกถามพนักงาน 1 "โครงการคอนโดที่หัวหินไปถึงไหนแล้ว"
"งานโครงสร้างและตกแต่งภายในเสร็จสมบูรณ์ 100% แล้วครับ เหลือเก็บรายละเอียดงานจัดสวนอีกประมาณ 10% ทุกอย่างจะเสร็จเรียบร้อยทันเปิดตัวโครงการเดือนหน้าแน่นอนครับ"
ฉัตรชนกยิ้มพอใจ
"ดี...ถ้าปิดโครงการนี้เมื่อไหร่ เราจะได้เริ่มลุยโครงการใหม่กันเลย ผมยังมีโครงการใหญ่ๆ อีกหลายโครงการที่อยากทำ"
ผู้บริหารและพนักงานทุกคนต่างมีสีหน้าฮึกเหิม พร้อมสู้ไปกับฉัตรชนก
"เอาล่ะครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอปิดการประชุมแค่นี้ครับ"
ผู้บริหารและพนักงานเดินออกไป
ฉัตรชนกถอนหายใจแล้วเอนหลังพิงพนักเก้าอี้อย่างหมดแรง
ฉัตรชบาแซว
"อะไรกันคะท่านประธาน เมื่อกี๊นี้ยังวางมาดนักธุรกิจไฟแรงอยู่เลย ทำไมตอนนี้มาทำหน้าห่อเหี่ยวซะแล้วล่ะคะ"
ฉัตรชนกกลุ้มใจ)
"พี่ติดต่อศาไม่ได้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว โทร. เข้ามือถือก็ปิดเครื่อง โทร. ไปที่โรงเรียน ครูที่โรงเรียนก็บอกว่าวันนี้ศาไม่ได้ไปสอน ไม่รู้ว่าศาเป็นอะไรไปหรือเปล่า หรือว่าจงใจหลบหน้าพี่เพราะโกรธเรื่องที่คุณแม่ประกาศเรื่องแต่งงานของพี่กับคุณเกษ"
"ไม่โกรธก็แปลกแล้วล่ะค่ะ ก็คุณแม่เล่นมัดมือชก ประกาศเรื่องแต่งงานของพี่กับคุณเกษต่อหน้าคุณศาซะขนาด" ฉัตรชบาคิดๆ แล้วก็แปลกใจ "พี่ฉัตรคะ คุณศานี่เป็นถึงน้องสาวของนายอัคคี เจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ใหญ่โต แล้วทำไมถึงได้มาเป็นครูโรงเรียนอนุบาลอย่างนี้ล่ะคะ"
"คุณศาไม่ชอบทำธุรกิจ เธอเป็นคนรักเด็ก แล้วพอดีเพื่อนเธอเปิดโรงเรียนอนุบาล เธอก็เลยมาช่วยสอนน่ะ"
"นี่ถ้าคุณแม่รู้ตั้งแต่แรกว่าคุณศารวยขนาดนี้ คุณแม่คงยอมให้พี่ฉัตรแต่งงานกับคุณศาไปนานแล้วมั้งคะ แต่ก็เอาเถอะค่ะ ยังไงพี่ฉัตรก็อย่าเพิ่งหมดกำลังใจนะคะ รักแท้ต้องชนะอุปสรรคทุกอย่างได้แน่นอนค่ะ"
ฉัตรชบายิ้มให้กำลังใจพี่ชาย
อ่านต่อหน้า 4
เกมพยาบาท ตอนที่ 2 (ต่อ)
ฉัตรชนกกับฉัตรชบาเดินคุยกันออกมาจากห้องประชุม
"พี่จะลองไปดูศาที่บ้านอีกทีดีนะ เผื่อจะเจอ จะได้อธิบายให้ศาเข้าใจด้วยว่าเรื่องแต่งงานกับเกษเป็นแผนการของคุณแม่ พี่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย"
ฉัตรชบาทำหน้าเหม็นขี้หน้าอัคคี
"ชบากลัวว่าพี่ฉัตรจะเจอนายอัคคีแล้วมีเรื่องกันอีกน่ะสิคะ" ฉัตรชบาคิดนิดหนึ่งแล้วบอก "ชบาไปด้วยดีกว่า ถ้านายนั่นมาหาเรื่องพี่ฉัตรอีก ชบาจะตั๊นหน้าให้" เธอทำท่ากำหมัดจะชก
"ทำเป็นอวดเก่ง ยังไงเราก็เป็นผู้หญิง สู้แรงผู้ชายไม่ได้หรอก อย่าซ่านักเลย"
"ถึงจะเป็นผู้หญิงแต่ชบาก็สู้ตายนะคะ ใครแรงมาชบาก็แรงตอบ ชบาไม่กลัวหรอก โดยเฉพาะนายอัคคีบ้าเลือดนั่น"
ฉัตรชนกโยกหัวน้องแบบเอ็นดู
"จ้ะ...น้องสาวคนเก่งของพี่"
ฉัตรชบายิ้มแย้ม
"รีบไปกันเถอะค่ะ"
สองพี่น้องกำลังจะเดินออกไป เกษณีย์ก็เดินเข้ามาพอดี
"จะไปไหนกันเหรอคะ"
"ผมจะไปหาศาที่บ้าน ขอตัวนะครับ"
ฉัตรชนกตัดบทไม่อยากคุยกับเกษณีย์ เดินหนีไป
ฉัตรชบาแอบทำหน้าเซ็งๆ เกษณีย์นิดหนึ่ง แล้วรีบเดินตามพี่ชายไป
เกษณีย์หัมองตามสองพี่น้อง แล้วพูดน้ำเสียงเยาะหยัน
"แม่วรรณิศาคนดีของคุณไม่ได้อยู่ที่บ้านหรอกค่ะ"
ทั้งคู่ชะงัก หันกลับมา
"คุณรู้เหรอว่าศาอยู่ที่ไหน"
เกษณีย์ยิ้มเยาะ ท่าทางสะใจอยู่ในที
"ถ้าคุณฉัตรอยากเจอวรรณิศาจริงๆ ฉันก็จะพาคุณไปเจอค่ะ แต่คุณต้องทำใจไว้หน่อยนะคะ เพราะวรรณิศาไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว"
"เกิดอะไรขึ้นกับศา"
"ไปถึงโรงพยาบาลแล้วเดี๋ยวก็รู้เองล่ะค่ะ"
เกษณีย์เชิดหน้าเดินนำออกไป
ฉัตรชนกกับฉัตรชบารีบเดินตามเกษณีย์ออกไป ทั้งคู่มีสีหน้าแปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันวรรณิศากันแน่
ตอนกลางวัน รถของอัคคีขับเข้ามาจอดที่หน้าคอนโดฯ ของจิดาภา อัคคีกับจิดาภาลงจากรถ
"จิจะกลับเชียงใหม่เมื่อไหร่ครับ"
"ฉันยังไม่รีบกลับตอนนี้หรอกค่ะ ว่าจะอยู่รอให้ศาอาการดีขึ้น แล้วเราค่อยกลับพร้อมกันสามคน"
อัคคีจับมือสองข้างของจิดาภามากุมไว้
"ขอบคุณคุณมากนะครับที่อุตส่าห์มาช่วยผมดูแลศา"
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันเต็มใจช่วย น้องสาวคุณก็เหมือนน้องสาวฉันเหมือนกัน ส่วนเรื่องคดี คุณก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจเถอะนะคะ ฉันเชื่อว่าอีกไม่นาน ตำรวจต้องจับตัวคนร้ายได้แน่"
พอพูดเรื่องนี้ อัคคีก็มีแววตาโกรธขึ้นมาอีก
"ถึงจะจับตัวคนร้ายได้ แต่ก็คงจะสาวไปไม่ถึงตัวคนบงการอย่างไอ้ฉัตรนรกนั่นหรอก คนรวยอย่างมัน ก็คงจะใช้เงินช่วยให้ตัวเองพ้นผิดได้ไม่ยาก"
"คุณอย่าเพิ่งปักใจเชื่อคำพูดของคุณพัฒนะนักเลยค่ะ ถ้าคุณฉัตรชนกมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จริง ตำรวจก็น่าจะได้เบาะแสอะไรเกี่ยวกับคุณฉัตรชนกบ้าง แต่นี่ก็ไม่เห็นมีอะไร"
อัคคียังปักใจเชื่ออยู่
"ผมบอกแล้วไงว่าคนรวยอย่างมัน ใช้เงินซื้อความถูกต้องให้ตัวเองได้ไม่ยาก แต่ถ้าตำรวจทำอะไรมันไม่ได้จริงๆ ผมก็จะจัดการมันด้วยวิธีของผมเอง"
จิดาภาฟังแล้วไม่สบายใจ
บริเวณเคาน์เตอร์หน้าวอร์ด ฉัตรชนกถามพยาบาลด้วยความร้อนใจ ฉัตรชบากับเกษณีย์ยืนอยู่ด้วย
"ผมมาเยี่ยมคุณวรรณิศา เธออยู่ห้องไหนครับ"
"ไม่ทราบว่าเป็นอะไรกับคนไข้คะ"
"ผมเป็น..." ฉัตรชนกยังพูดไม่จบ
เกษณีย์พูดแทรก "เป็นเพื่อนค่ะ"
"ถ้าไม่ใช่ญาติทางเราให้เข้าเยี่ยมคนไข้ไม่ได้นะคะ เพราะตอนนี้สภาพจิตใจของคนไข้ยังไม่พร้อมจะพบใครค่ะ"
ฉัตรชบาหางตามองเกษณีย์อย่างไม่พอใจนิดหนึ่งที่เกษณีย์ทำให้เรื่องยุ่งยาก
ฉัตรชนกอ้อนวอน
"ผมเป็นคนรักของคุณวรรณิศา ขอให้ผมเข้าไปเยี่ยมเธอซักนิดนะครับ ผมเป็นห่วงเธอมากจริงๆ"
พยาบาลมองหน้าฉัตรชนกอย่างชั่งใจ
"ผมไม่ได้โกหกนะครับ ผมเป็นคนรักของเธอจริงๆ" เขาหยิบมือถือมาเปิดรูปให้ดู "ถ้าไม่เชื่อ ดูรูปพวกนี้ก็ได้ครับ"
ฉัตรชนกกดเลื่อนรูปในมือถือให้พยาบาลดูรูปที่ฉัตรชนกกับวรรณิศาไปเที่ยว ไปกินข้าวตามที่ต่างๆ เป็นท่าโพสท์ที่ดูรักกันหวานชื่น
"ฉันเชื่อคุณแล้วค่ะ บางทีถ้าคุณวรรณิศาได้พบคุณ อาการอาจจะดีขึ้นก็ได้ เชิญทางนี้ค่ะ"
เกษณีย์แอบเบ้หน้าหมั่นไส้
พยาบาลเดินนำไป ฉัตรชนก ฉัตรชบาและเกษณีย์เดินตาม
พยาบาลเดินนำทั้งสามเข้ามาในห้องพักฟื้นของวรรณิศา ฉัตรชนกจะเข้าไปจับตัววรรณิศา แต่วรรณิศหวาดกลัวถอยหนี ยกมือปัดป้องไปมา
"อย่าเข้ามานะ อย่าเข้ามา" เธอยกมือไหว้ ขอร้อง "ฉันกลัวแล้ว อย่าทำอะไรฉันเลยนะ ฉันกลัวแล้วๆๆ"
ฉัตรชนกสงสาร น้ำตาจะไหล
"ผมฉัตรชนกไง คุณจำผมไม่ได้เหรอ"
ฉัตรชบามองวรรณิศาด้วยความสงสาร เกษณีย์มองแล้วแอบยิ้มเยาะ สะใจเล็กๆ
เกษณีย์บอก
"วรรณิศาคงช็อคจนเป็นบ้าไปแล้วล่ะค่ะ ฉันว่าเรากลับกันดีกว่า อย่าเสียเวลาคุยกับคนบ้าเลยค่ะ เสียเวลาเปล่า" เกษณีย์ดึงตัวฉัตรชนกกลับ
ฉัตรชนกสะบัดออก
"ผมไม่กลับ ผมจะอยู่กับศา"
เกษณีย์กระฟัดกระเฟียด
"วรรณิศากลัวคุณไม่เห็นเหรอคะ คุณอยู่ก็มีแต่จะทำให้อาการวรรณิศาแย่ลงเปล่าๆ"
ฉัตรชนกเข้าไป พยายามจะกอดวรรณิศาเพื่อปลอบ
"ไม่ต้องกลัวผมนะ ผมไม่ได้จะทำร้ายคุณ ผมรักคุณนะศา"
วรรณิศาพูดลอยๆ ท่าทางหวาดกลัว...พยายามผลักฉัตรชนกออก
"ออกไปๆๆ อย่าทำอะไรฉันเลย ฉันกลัวแล้ว"
"ศา...คุณอย่าเป็นแบบนี้สิ ผมรักคุณนะ"
ฉัตรชนกพยายามจะกอดปลอบ แต่วรรรณิศากลัว ทั้งผลักทั้งปัดป้องตลอดเวลา
วรรณิศากรีดร้องเสียงดัง อย่างคนเสียสติ "อ๊าย... ออกไป"
วรรณิศาหยิบของใกล้มือปาใส่ฉัตรชนกแล้วกระโดดลงจากเตียงหนีไปซุกตัวที่มุมห้อง
ฉัตรชนกเดินเข้าไปหา จะปลอบใจ ฉัตรชบามองด้วยความสงสาร เกษณีย์ยิ้มเยาะสะใจ
วรรณิศาตะโกนไล่อย่างคนเสียสติด
"อย่าเข้ามา!"
พยาบาลเข้ามากันตัววรรณิศาไว้ ไม่ให้ฉัตรชนกเข้าใกล้
"พวกคุณกลับไปก่อนเถอะค่ะ ตอนนี้คนไข้ยังไม่พร้อมจะคุยกับใครทั้งนั้นค่ะ"
ฉัตรชนกจะเข้าไปจับตัววรรณิศา
"ผมมาเยี่ยมคุณนะศา ผมไม่ได้จะมาทำร้ายคุณ"
วรรณิศาถอยหนีพร้อมพูดพร่ำอย่างหวาดกลัว
"อย่าเข้ามา ฉันกลัวแล้ว อย่าทำอะไรฉัน ออกไป ฉันกลัวแล้วๆๆ"
วรรณิศาเอาสองมือขยุ้มผมตัวเอง แล้วกรีดร้องสุดเสียง กลัวมาก หลอนมาก
ฉัตรชนกสงสารวรรณิศาจนน้ำตาจะไหล
"ศา..."
อัคคีเปิดประตูพรวดพราดเข้ามา แล้วกระชากตัวฉัตรชนกออกจากวรรณิศา
อัคคีจ้องหน้าฉัตรชนกเขม็ง
"นี่แกยังมีหน้ามาหาศาที่นี่อีกเหรอ ... ไม่ต้องกลัวนะศา พี่จะไม่ให้หน้าไหนมาทำร้ายศาได้อีกแล้ว"
อัคคีหันไปจะกอดปลอบ วรรณิศาหวาดกลัว กรี๊ดใส่อัคคี แล้วถอยหนีไปซุกตัวที่มุมห้อง
พยาบาลบอกอัคคี
"ฉันจะออกไปตามหมอมาฉีดยาให้คุณวรรณิศาสงบลง คุณอัคคีช่วยดูคุณวรรณิศาไว้ก่อนนะคะ"
อัคคีพยักหน้ารับ พยาบาลรีบวิ่งออกไป วรรณิศาร้องกรี๊ดๆ อยู่มุมห้อง ท่าทางสติแตกสุดๆ
อัคคีเห็นวรรณิศาเป็นแบบนั้นก็ยิ่งโกรธ หันมาจ้องหน้าฉัตรชนกตาแข็ง
อัคคีตะคอก "ออกไป! ออกไปให้หมด!"
ฉัตรชนกยืนมองวรรณิศานิ่ง ไม่ยอมออกไป
ฉัตรชบาบอกพี่ชาย
"เราอุตส่าห์หวังดีมาเยี่ยมคุณศา แต่ถ้าเค้าไม่เห็นน้ำใจ เราก็กลับเถอะค่ะพี่ฉัตร เอาไว้วันหลังเราค่อยมาเยี่ยมคุณศาใหม่ ...ตอนที่นายนี่ไม่อยู่"
อัคคีตวาด "วันไหนก็ไม่ต้องมา"
ฉัตรชนกยังยืนมองวรรณิศานิ่ง สีหน้าเจ็บปวดที่เห็นวรรณิศาเป็นแบบนี้
ฉัตรชบาด่าอัคคี
"พูดดีๆ ไม่เป็นหรือไง แล้วพี่ฉัตรไปทำอะไรให้คุณนักหนา ถึงได้จงเกลียดจงชังกันขนาดนี้"
"เพราะมันเป็นคนจ้างคนมาทำร้ายศาไง"
ฉัตรชนกรีบปฏิเสธ "ผมจะทำอย่างนั้นกับคนที่ผมรักได้ยังไง"
"ถ้านายคิดว่าพี่ฉัตรทำอย่างที่นายพูดจริง ก็ไปแจ้งความให้ตำรวจมาจับเลยสิ อย่ามากล่าวหากันลอยๆ แบบนี้"
"รอให้ตำรวจจับไอ้พวกที่มันรุมทำร้ายศาให้ได้ก่อนเถอะ แล้วก็จะรู้ว่าใครเป็นตัวบงการ"
อัคคีจ้องหน้าฉัตรชนกตาแข็ง ฉัตรชนกสู้ตาอัคคีแบบไม่กลัว เพราะตนไม่ผิด
"ฉันไม่กลัวหรอก เพราะพี่ฉัตรไม่ผิด แล้วฉันก็จะช่วยภาวนาขอให้ตำรวจจับพวกคนร้ายได้เร็วๆ คุณจะได้เลิกปรักปรำพี่ชายฉันซะที"
เกษณีย์ท่าทางหลุกหลิกมีพิรุธ
"กลับเถอะค่ะคุณฉัตร วรรณิศาไม่มีค่าอะไรให้คุณต้องอาลัยอาวรณ์อีกแล้วล่ะค่ะ"
เกษณีย์ดึงตัวฉัตรชนกออกไป
อัคคีตะโกนไล่
"กลับไปเลย แล้วก็อย่ามายุ่งกับศาอีก"
ฉัตรชบามองอัคคีแบบเหม็นขี้หน้า แล้วสะบัดหน้าเดินตามฉัตรชนกออกไป
อัคคีจะจับวรรณิศาให้มานอนที่เตียง วรรณิศาไม่ยอมให้อัคคีจับตัว กรี๊ดใส่ พร้อมกับยกมือปัดป้องไปมา
"ศา...นี่พี่เองนะ ไม่ต้องกลัวพี่นะ พี่ไม่ทำร้ายศา"
พยาบาลกับหมอวิ่งเข้ามาช่วยกันจับล็อคตัววรรณิศาไปนอนที่เตียง วรรณิศดิ้นขัดขืนพร้อมกรีดร้องอย่าเสียสติ
หมอกับพยาบาลช่วยกันจับตัววรรณิศามานอนที่เตียงอย่างยากลำบาก วรรณิศาดิ้นพร้อมกรีดร้องไม่หยุด
พยาบาลบอกอัคคี
"ช่วยกันจับหน่อยค่ะ"
อัคคีช่วยกันกับพยาบาลจับตัววรรณิศากดล็อคให้นอนที่เตียง
หมอฉีดยาระงับประสาทให้วรรณิศา
ครู่หนึ่ง วรรณิศาก็สงบลง พร้อมกับมีน้ำตาไหลออกมาทางหางตา แววตาเจ็บปวดมาก จากนั้นก็หลับไป
หมอกับพยาบาลเดินออกไป
อัคคีนั่งเฝ้าวรรณิศาที่ข้างเตียง จับมือวรรณิศามาแนบกับใบหน้าของตัวเอง แล้วร้องไห้ออกมาด้วยความสงสารน้อง
ฉัตรชนกเดินหน้าเศร้าซึมมาตามทางเดินในโรงพยาบาล ฉัตรชบากับเกษณีย์เดินประกบมา ซ้าย-ขวา
ฉัตรชนกรู้สึกผิด
"ถ้าเมื่อคืนนี้พี่ตามศาออกไปเร็วกว่านั้นอีกนิด ศาคงไม่เป็นแบบนี้"
"พี่ฉัตรอย่าคิดมากสิคะ มันไม่ใช่ความผิดของพี่ฉัตรเลย"
เกษณีย์เสแสร้ง
"น่าสงสารวรรณิศานะคะ ไม่น่าโชคร้ายอย่างนี้เลย แล้วอย่างนี้คุณยังจะรักเธอลงอยู่อีกเหรอคะฉัตร"
"ไม่ว่าศาจะเป็นยังไง ผมก็ยังรักเธอเหมือนเดิม"
เกษณีย์ยิ้มเยาะ
"ขนาดปกติคุณแม่คุณยังไม่ยอมรับวรรณิศาเลย แล้วยิ่งเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น คุณแม่คุณรับไม่ได้แน่"
ฉัตรชนกพูดจริง
"ถ้าคราวนี้คุณแม่ไม่ยอม ผมก็จะหนีไปอยู่ที่อื่นกับศาให้รู้แล้วรู้รอดกันไปเลย"
พูดจบ ฉัตรชนกก็เดินเร็วๆ หนีไป
เกษณีย์โกรธ ทำท่าฟึดฟัดแล้วรีบวิ่งตามฉัตรชนกไป
"คุณฉัตร รอฉันด้วยสิคะ"
ฉัตรชบามองเกษณีย์แล้วถอนใจอย่างหน่ายๆ แล้วเดินตามไป
ผับของพัฒนะ ตอนกลางวัน
เกษณีย์พูดกับพัฒนะอย่างหัวเสีย
"ขนาดนังวรรณิศามันโดนรุมโทรมจนยับเยินขนาดนั้นแล้ว คุณฉัตรก็ยังหลงมันไม่ลืมหูลืมตาอยู่อีก ฉันน่าจะสั่งให้ไอ้พวกกุ๊ยนั้นฆ่ามันซะให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย"
พัฒนะอึ้ง
"ที่แท้คุณเป็นคนจ้างคนไปข่มขืนคุณศาเองเหรอ"
เกษณีย์รู้ตัวว่าหลุดปากพูดไป ก็ชะงักไปนิดหนึ่ง
พัฒนะเห็นท่าทางเกษณีย์ก็รู้ว่าตนคิดไม่ผิด
"ทำหน้าแบบนี้แสดงว่าจริงล่ะสิ"
เกษณีย์ยอมรับอย่างเสียไม่ได้
"ถ้าใช่แล้วจะทำไม"
"คุณหักหลังผม คุณให้ผมวางยาวรรณิศาแล้วให้พาไปปล้ำ แต่คุณกลับจ้างคนอื่นมาทำแบบนี้อีก ผมเลยชวดเลย"
เกษณีย์แก้ตัว
"ฉันก็แค่เตรียมแผนสำรองเอาไว้ เผื่อคุณทำพลาด"
"คุณก็ระวังไอ้พวกกุ๊ยนั่นจะปากโป้งซัดทอดมาถึงคุณก็แล้วกัน"
"ฉันสั่งให้พวกมันหนีไปกบดานที่อื่นแล้ว"
"ก็หวังว่าตำรวจจะไม่ตามกลิ่นพวกมันเจอก็แล้วกัน ไม่งั้นคุณได้ย้ายเข้าไปนอนในคุกแน่ และที่สำคัญ ถ้านายอัคคีรู้ มันก็ไม่เอาคุณไว้เหมือนกัน"
เกษณีย์ฟังแล้วไม่สบายใจ
พัฒนะยื่นหน้าเข้าไปใกล้หน้าของเกษณีย์ทำท่าเหมือนจะจูบแล้วเลื่อนหน้าไปกระซิบข้างหู
"อย่าทำหน้าเครียดอย่างนั้นสิ ในเมื่อคุณก็กำจัดเสี้ยนหนามได้แล้ว ผมว่าเรามาฉลองกันดีกว่า"
เกษณีย์ใช้มือลูบไล้ใบหน้าของพัฒนะ สีหน้าท่าทางยั่วยวน
พัฒนะเลื่อนมือไปโอบเอวเกษณีย์แล้วดึงตัวเกษณีย์เข้ามาใกล้ แล้วทำท่าจะจูบ
เกษณีย์ยกนิ้วชี้แตะปากพัฒนะ แล้วดันออก พร้อมกับยิ้มเยาะ
"คนอย่างฉันเลือกนะ แล้วฉันก็เลือกคุณฉัตรชนกแล้ว ผู้ชายของฉันต้องหล่อ รวย และเพียบพร้อมทุกด้านอย่างคุณฉัตรชนกเท่านั้น จำเอาไว้ซะด้วย" เธอดันอกพัฒนะออกห่าง "คนอย่างคุณไม่มีอะไรเทียบคุณฉัตรชนกได้เลย แม้แต่นิดเดียว"
เกษณีย์ลุกขึ้นแล้วเดินออกไป
"ซักวัน ฉันจะจับเธอมาทำเมียให้ได้ แล้วเธอจะต้องสยบอยู่แทบเท้าฉัน"
พัฒนะพูดอย่างเจ็บใจ
ในห้องพัก วรรณิศานอนหลับอยู่บนเตียงคนไข้ อัคคีจับมือนั่งเฝ้าอยู่ข้างเตียง เขาสงสารน้องจับใจ
โทรศัพท์มือถือของอัคคีดังขึ้น เขากดรับสาย
"ว่าไงอดุลย์"
อัคคีมองวรรณิศา ประมาณว่ากลัวน้องจะตื่น แล้วเดินออกไปคุยโทรศัพท์นอกห้อง
อดุลย์นั่งคุยโทรศัพท์อยู่ในห้องทำงานที่เชียงใหม่
"ศาเป็นไงบ้าง"
อัคคีเดินออกมาหลบมุมคุยโทรศัพท์ที่มุมหนึ่ง สีหน้าเคร่งเครียด
"สภาพร่างกายดีขึ้นแล้ว แต่สภาพจิตใจแย่ว่ะ หมอบอกว่าศาช็อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรง จนทำให้มีอาการทางจิต เห็นภาพหลอน ตอนนี้ศาพูดไม่รู้เรื่องเลย หวาดผวา กลัวคนจะมาทำร้ายอยู่ตลอดเวลาเลย"
"แล้วจะหายมั้ย"
"หมอบอกว่าต้องใช้เวลาพอสมควร แล้วก็ขึ้นอยู่กับสภาพจิตใจของศาเองด้วยเพราะไอ้ฉัตรนรกนั่นคนเดียว ไอ้ชาติชั่ว!!! ฉันจะแก้แค้นมัน ให้มันจำไปจนตายเลย"
อัคคีทุบกำปั้นใส่กำแพงอย่างคลั่งแค้น
ในห้องคนไข้ วรรณิศาที่นอนหลับอยู่บนเตียงลืมตาขึ้นมา แววตาเศร้าโศก เหม่อลอยแบบไม่มีโฟกัส
ลงจากเตียง แล้วเซไปปัดโดนแก้วน้ำที่โต๊ะข้างเตียงตกแตก
วรรณิศาไม่มีอาการตกใจเลย ก้มมองเศษแก้ว แววตาลอยๆ นั่งลงแล้วหยิบเศษแก้วขึ้นมากรีดข้อมือตัวเอง แล้วทิ้งตัวลงนอนกับพื้นห้อง
วรรณิศาเหม่อมองเพดานห้อง แววตาเศร้าโศก เหม่อลอยแบบไม่มีโฟกัสแต่มีน้ำตาไหลออกมา
ข้อมือวรรณิศา เลือดไหลออกมาเป็นทางนองพื้น
อัคคีเดินกลับเข้ามาในห้อง ตกใจ
"ศา!"
วรรณิศานอนหายใจแผ่วเบาอยู่ที่พื้นห้อง หลับตาลงช้าๆ เหมือนจะสิ้นใจ
อัคคีวิ่งเข้ามาประคองร่างวรรณิศาขึ้นมา ตะโกนเรียก
"พยาบาล ช่วยด้วย! ทำไมถึงได้ทำอะไรโง่ๆ แบบนี้"
อัคคีประคองวรรณิศาไว้ในอ้อมกอด กลัววรรณิศาตาย
อ่านต่อตอนที่ 3