แรงชัง ตอนที่ 15
ชงชางกับหอมและพวกชาวบ้าน นั่งฟังพระเทศน์อย่างสงบนิ่ง
“ในขณะที่เราโกรธและอาฆาตแค้นอยู่นั้น โทสะก็ได้เกิดขึ้นและแผดเผาทำลายจิตใจเราให้รุ่มร้อน ยิ่งเราคิดจะแก้แค้นมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งเป็นผู้พ่ายแพ้ต่อกิเลสมากเท่านั้น”
หลังจากฟังพระเทศน์จบ ชงชางก็เดินคุยกับพระรูปหนึ่ง โดยมีหอมและบ่าว เดินตามมาด้วย
“ตลอดระยะเวลาหกปี หลังจากได้วางความแค้นทุกอย่างไว้ด้านหลัง ชีวิตและครอบครัวของกระผมก็มีความสุขขึ้นมากขอรับหลวงพ่อ”
“การปล่อยวางจากกิเลสโทสะจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น โยมคือผู้แพ้ที่แท้จริง แพ้ในที่นี้อาตมาหมายถึงผู้แพ้ที่เป็นพระผู้ชนะที่เป็นมาร การที่เรายอมแพ้ต่อศัตรู ยอมที่จะให้อภัยไม่ผูกใจเจ็บอาฆาตเขาย่อมดีกว่าคิดที่จะดันทุรังเอาชนะกับสิ่งที่ไม่ควรเอาชนะนะโยม”
“ขอรับหลวงพ่อ”
หลวงพ่อเดินไป ชงชางหันมามองหอม
“ฉันดีใจที่พี่ยอมทำตามคำขอร้องของฉัน”
“พี่ยอมทำทุกอย่าง ขอให้ครอบครัวของเรามีความสุขและปลอดภัย กลับบ้านกันเถอะหอม พี่ว่าจะไปสอนงานหาญเสียหน่อย”
“พี่กลับไปก่อนเถอะจ้ะ ฉันจะขอไปเดินเล่นที่ตลาดก่อน ให้บ่าวตามไปด้วยสักคนสองคน พี่ไม่ต้องเป็นห่วง”
“อย่างนั้นก็ได้”
หอมพยักหน้ากับบ่าวหญิงให้เดินตามไป
ด้านนอกวัด ศักดาเดินประคองชาวบ้านคนหนึ่งซึ่งหน้าตาฟกช้ำมา
“ถ้าเอ็งไม่ได้ไปยุ่งกับเมียมันอย่างที่มันกล่าวหา แล้วเอ็งจะต้องไปยอมมันทำไมวะ ข้าไม่นึกเลยว่าเอ็งจะเป็นไอ้ขี้แพ้แบบนี้”
“ข้าเคยอธิบายให้มันฟังหลายรอบแล้ว แต่มันก็ไม่เชื่อ ช่างมันเถอะ เดี๋ยวมันก็คงเลิกราไปเอง ไม่มีใครเก็บความแค้นไว้จนตายหรอกน่า”
ชงชางกับบ่าวเดินออกมาจากวัด ไม่ทันได้เห็นศักดาและเพื่อนเดินคุยกันไปอีกทาง
“ทำไมจะไม่มี สำหรับข้าแล้ว ต่อให้มันกินเวลาไปกี่สิบปีก็จะไม่มีวันลืม หากชาตินี้ไม่ตายกันไปข้างหนึ่งความแค้นที่มันอัดแน่นอยู่ในนี้ ก็ไม่มีวันจางหายไปแน่นอน”
ชงชางได้ยินเสียงศักดาก็ชะงัก รู้สึกคุ้นหู จึงหันกลับไปมอง ก็เห็นผู้ชายสองคนพากันเดินไปทางตลาด เขาครุ่นคิดรู้สึกคุ้นๆ จะเดินตามไป แต่ชาวบ้านคนหนึ่งที่มาทำบุญเห็นชงชางเข้าจึงเดินมาทัก ไหว้ด้วยความนอบน้อม ชงชางรับไหว้ชาวบ้านคนนั้นแต่ยังพะวงกับผู้ชายสองคนที่เดินไป เมื่อชาวบ้านเดินเข้าวัดไปแล้ว ชงชางรีบหันกลับไปมอง แต่ชายสองคนนั้นหายไปแล้ว
เข้มยืนซื้อขนมอยู่ที่ร้านของเนื้อนาง เนื้อนางหยิบขนมให้ตามที่สั่ง แล้วหยิบเพิ่มให้อีก 2 ชิ้น
“ฉันให้เพิ่มอีก 2 ชิ้นนะจ๊ะ เจ้านายของพี่ให้บ่าวมาซื้อขนมร้านฉันอยู่บ่อยๆ”
“ขอบใจ ฉันไปล่ะ”
เข้มรีบออกไปเพราะกลัวลำดวนจะก่อเรื่องอีก ขณะเดียวกัน หอมยืนเลือกผ้านุ่งอยู่ที่ร้านหนึ่ง มีบ่าวหญิงยืนอยู่ด้วย ลำดวนเดินดุ่มๆ รีบเร่งอยากจะตามเข้มไปที่ร้านขนมแม่ของเอื้องฟ้า เดินชนคนโน้นทีคนนี้ทีแต่ไม่เอ่ยปากขอโทษ กลับหันไปด่าว่าเขาอีก
“โอ๊ย เดินกันให้มันดีๆ ได้มั้ย พื้นที่มีตั้งมากยังมาเดินชนอีก คนยิ่งรีบๆ อยู่นะเว้ย”
ลำดวนจะเดินต่อ แต่ชะงักไปเมื่อเห็นหอมเดินไปกับบ่าว และชาวบ้านที่เดินผ่านมาก็ยกมือไหว้ตลอดทาง
“โห ท่าทางจะรวยไม่น้อย มีบ่าวรับใช้มากมายขนาดนี้ ยังมีคนนับหน้าถือตาอีก เป็นใครมาจากไหนวะ”
ลำดวนดึงแขนชาวบ้านคนหนึ่งมาถาม
“พี่ๆ ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครน่ะ”
“อ๋อ คุณหอม เมียคุณชาญ”
ชาวบ้านบอกแล้วก็เดินไปเลย
“เมียคุณชาญ อ้าว อย่าเพิ่งไปสิ โอ๊ย แล้วใครคือชาญวะ”
ลำดวนอยากรู้อยากเห็นจึงเดินตามหอมไป เข้มถือขนมมาทางนั้นพอดีรีบเดินเข้าไปดึงแขนลำดวนไว้ จะลากกลับบ้าน
“จะไปไหน ไป กลับได้แล้ว”
“เดี๋ยวสิพี่ ฉันเจอผู้หญิงที่พี่เคยช่วยเขาด้วย ท่าทางจะรวยมากเลยนะ”
“พอเลย พี่จะไม่ยอมให้ลำดวนไปขอเงินเขาอีกเด็ดขาด ไป กลับ”
“เดี๋ยวสิพี่ ฉันยังไม่ได้ไปร้านขนมนั่นเลยนะ”
เข้มไม่ฟัง ลากลำดวนกลับไป
น้อยนั่งเย็บฟูกที่นอนอยู่ ชงชางกลับจากวัด เดินเข้ามา
“กลับมาแล้วรึเจ้าคะคุณชาญ แล้วหอมล่ะเจ้าคะ”
“ไปตลาดน่ะ เดี๋ยวก็คงกลับ แล้วหาญล่ะ”
“เห็นว่าจะไปดูคนงานขนสินค้าขึ้นเรือ นั่นไงเจ้าคะมาพอดี”
หาญกับแก้วเดินเข้ามา
“มาแล้วรึ พ่อกำลังจะให้คนไปตามพอดี”
“คุณพ่อมีอะไรรึขอรับ”
“ไปกับพ่อหน่อย พ่อจะสอนให้เราเรียนรู้งานมากขึ้น”
“ขอรับ”
ชงชางเดินลงจากบ้านไป หาญจะตามไป แก้วรีบดึงเอาไว้
“คุยกับน้าชาญนานมั้ยหาญ เดี๋ยวไปที่คณะละครไม่ทันพอดี”
“ไม่รู้เหมือนกัน แต่พ่อเรียกฉันก็ต้องไป”
น้อยมองเด็กสองคนซุบซิบกัน
“มีอะไรกันรึ แล้วทำไมไม่รีบไปล่ะหาญเดี๋ยวคุณพ่อรอนาน”
“ไปเดี๋ยวนี้ขอรับ”
น้อยมองแก้วอย่างจับผิด แก้วรีบก้มหน้าก้มตาตามหาญออกไป ชงชางพาหาญมามองคนงานขนกระสอบข้าวขึ้นเรือ
“นอกจากข้าวที่เราส่งออกแล้วก็ยังมีน้ำตาล พริกไทยและดีบุกที่เป็นสิ่งที่ชาวต่างชาติต้องการ สินค้าที่นำลงเรือนั้นจะต้องผ่านพระคลังสินค้าให้ได้ตรวจสอบ”
แก้วยืนฟังชงชางพูดตาละห้อย เป็นห่วงหาญ กลัวจะไม่ได้ออกไปซ้อมละคร
เนื้อนางขายขนมให้ลูกค้าอยู่ เอื้องฟ้าหันไปขยิบตาให้สาย สายพยักหน้ารับรู้ เอื้องฟ้าจึงหันไปบอกกับแม่
“แม่ เดี๋ยววันนี้เอื้องจะขอกลับบ้านก่อนนะจ๊ะ เอื้องอยากจะไปเก็บกวาดบ้านเสียหน่อย”
สายรีบพูดต่อ “ดีเหมือนกันนะเจ้าคะ บ่าวขอไปช่วยด้วย เราไม่ได้ทำความสะอาดยกใหญ่มาหลายวันแล้ว ฝุ่นนี่ตลบอบอวลเต็มบ้านไปหมด เดี๋ยวคุณศักดาเขาจะนอนไม่สบาย”
เนื้อนางส่ายหน้าไม่อยากใส่ใจกับคำประชดประชันของสาย
“ไปเถอะลูก ขนมนี่ก็ใกล้จะหมดแล้ว แม่อยู่ขายคนเดียวได้”
เอื้องฟ้าแอบยิ้มดีใจกับสาย หอมเดินเข้ามาพร้อมกับบ่าว เนื้อนางหันไปเห็นก็ยิ้มให้
“คุณหอม”
แก้วนั่งเกาะหัวบันไดอยู่ตรงประตูทางเข้าบ้านอย่างเซ็งๆ จ้องมองไปที่หาญและชงชางที่นั่งทำบัญชีสินค้ากันอยู่ตาไม่กระพริบ น้อยเดินเข้ามาเงียบๆ แก้วไม่ทันรู้ตัวก็ถอนหายใจเสียงดัง
“กังวลอะไรรึแก้ว”
แก้วมองหาญแล้วส่ายหน้า
“ไม่ทันแน่ๆ หาญไปเรียนละครไม่ทันแน่ๆ เลย”
“หือ ว่าอะไรนะ”
แก้วสะดุ้ง “ป้าน้อย มายืนตั้งแต่เมื่อไหร่นี่”
“นานแล้ว นานพอจะได้ยินที่แก้วบ่นว่า หาญไปเรียนละครไม่ทันแน่ๆ”
แก้วหน้าเจื่อน รีบเอามือปิดปาก เพิ่งรู้ตัวว่าหลุดปากพูดไป
“เล่ามาให้ป้าฟังเดี๋ยวนี้”
“ซวยแล้วไอ้แก้วเอ๊ย”
แก้วมองสายตาคาดคั้นของน้อยก็คอตก
หอมอยู่ที่หน้าร้านเนื้อนางและยืนคุยกันอยู่ เนื้อนางมองหาชงชาง
“คุณหอมมาคนเดียวรึเจ้าค่ะ วันนี้อิฉันไปไหว้พระที่วัดจึงได้เห็นว่าคุณหอมอยู่กับคุณชาญด้วย อิฉันคิดว่าจะมาด้วยกัน”
“เขากลับบ้านไปแล้วน่ะจ้ะ เป็นอย่างไรเอื้องฟ้า วันนี้มาช่วยแม่ขายขนมใกล้จะหมดแล้ว หมดเร็วแบบนี้สนใจจะไปนั่งเล่นและทานของว่างที่บ้านฉันอีกมั้ย”
เนื้อนางสงสัยทันที เพราะไม่เคยรู้มาก่อนว่าเอื้องฟ้าเคยไปบ้านหอมมาก่อน สายและเอื้องฟ้าหน้าเจื่อนลง
“เอื้องเคยไปบ้านคุณหอมด้วยรึ”
“เอ่อ คือเอื้อง”
สายคิดหาทางแก้ตัวให้เอื้องฟ้า หันไปเห็นศักดากำลังเดินเข้ามาพอดี
“ตายแล้ว เอื้องฟ้า พ่อมาแน่ะ”
เนื้อนางตกใจ กลัวศักดาจะมาเจอกับหอม จึงคิดหาทางออก ในขณะที่สายยังพูดไม่หยุด
“หรือว่าจะมาต่อว่าเรื่องที่บ้านสกปรกมีแต่ฝุ่น ตายล่ะ นี่เอื้องจะกลับไปทำความสะอาดพอดีไม่ใช่รึ ไปๆ รีบไป ป้าไปด้วย”
เนื้อนางไม่ทันได้คิดตามที่สายพูดเพราะมัวแต่เป็นห่วงหอม
“คุณหอม รีบกลับไปก่อนเถอะเจ้าค่ะ”
“ทำไมล่ะ เราเพิ่งจะได้คุยกันครู่เดียวเอง”
เนื้อนางไม่รู้จะตอบอย่างไร สายจึงรีบเข้าไปหาหอม
“เชิญคุณหอมก่อนเถอะเจ้าค่ะ อิฉันมีเรื่องจะคุยด้วย”
หอมงงๆ “งั้นก็ได้จ้ะ”
สาย หอมและบ่าวรีบเดินออกไป ศักดาเดินเข้ามา มองหอมไม่วางตาแล้วหันมาถามเนื้อนางอย่างสงสัย
“ใครน่ะเนื้อนาง เหมือนเคยเห็นหน้ามาก่อน”
“ลูกค้าน่ะจ้ะ คงจะมาซื้อขนมบ่อยพี่เลยชินตาพอเห็นอีกทีก็รู้สึกคุ้น แล้วนี่พี่มาที่นี่ทำไม”
ศักดาไม่ตอบแต่หยิบเงินในตะกร้าไปเลย เนื้อนางอึ้ง
สายกับเอื้องฟ้าพาหอมมาคุยกันที่มุมหนึ่งของตลาด
“คือเรื่องที่คุณ เอ่อ เอื้องฟ้าไปที่บ้านคุณหอมน่ะเจ้าค่ะ แม่ของเขายังไม่รู้ อิฉันกับเอื้องยังไม่อยากบอกน่ะเจ้าค่ะ กลัวว่าเรื่องจะไปถึงหูของพ่อยายเอื้องแล้วจะถูกตีอีก”
“โถ จริงสิ ฉันก็ลืมคิดไปว่าตอนนั้นเอื้องฟ้าถูกตีเพราะว่าหาญลูกของฉัน”
“ไม่ใช่ความผิดของคุณหาญนะเจ้าคะ” เอื้องฟ้าแก้ตัวแทนให้
“จ้ะ ฉันรู้ดี ถ้าอย่างนั้นต่อไปนี้ฉันจะระวังคำพูดแล้วกันนะ หนูเอื้องฟ้าจะได้ไม่เดือดร้อน แล้วนี่จะกลับบ้านกันเลยใช่มั้ย”
“อิฉันจะกลับไปทำความสะอาดบ้านเจ้าค่ะ แต่เดี๋ยวจะไปส่งเอื้องฟ้าที่คณะละครก่อน เขาจะไปดูคุณหาญซ้อมละครน่ะเจ้าค่ะ”
เอื้องฟ้าตกใจที่สายหลุดปากบอกเรื่องที่หาญให้ปิดบัง
“ป้าสาย”
“หาญซ้อมละคร ละครอะไรรึ”
หอมมองหน้าเอื้องฟ้า เอื้องฟ้าอึกอักไปกล้าตอบ ในขณะที่สายก็งง เพราะไม่รู้ว่าหาญปิดบังเรื่องเรียนละครกับหอม
ญาติของเข้มและบ่าวนั่งทำงานกันอยู่ ลำดวนเดินกระแทกเท้าเข้ามาอย่างไม่พอใจที่เข้มพาตัวกลับมาบ้าน เข้มเดินตามหลังมาส่งขนมให้ญาติ
“มาได้สักที หายไปเป็นนานสองนานหรือว่าเมียเอ็งไปมีเรื่องกับคนในตลาดมาอีกล่ะ”
“นี่ ฉันไม่ใช่อีพวกนักเลงนะ ที่จะได้ไปท้าตีท้าต่อยกับคนเขาไปทั่วน่ะ”
“หยุดเถียงเลยลำดวน เพราะถ้าพี่ไปไม่ทันลำดวนก็คงได้เป็นนักเลงอย่างที่พูด เที่ยวไปด่าตามหลังเขาแบบนี้ แค่เขาเดินชนหน่อยเดียว”
“ก็มันทำขนมฉันร่วงนี่”
“พอ อย่ามาขึ้นเสียง แล้วต่อไปนี้ก็อยู่แต่ในครัวนี่แหละ ฉันฝากพี่ช่วยดูด้วย อย่าให้ลำดวนออกไปไหนเด็ดขาด งานบนเรือนอะไรก็ไม่ต้องให้เข้าไปยุ่ง ให้ขลุกตัวอยู่แต่ในครัวนี่แหละ จะได้ไม่ต้องออกไปหาเรื่องใคร”
“พี่จะมาทำเหมือนขังฉันแบบนี้ไม่ได้นะ”
“งั้นเลือกเอาว่าจะอยู่แต่ในครัว หรือจะให้พี่หนีไปมีเมียใหม่ ถ้าลำดวนไม่ฟังพี่ล่ะก็ เราก็แยกย้ายไปกันคนละทาง”
เข้มเดินออกไปเลย ลำดวนอึ้ง เถียงไม่ออกที่เข้มยื่นคำขาดแบบนี้
หาญฝึกรำอยู่กับหัวหน้าคณะละครอย่างขยันขันแข็ง เริ่มเก่งขึ้นจากวันแรกที่มาซ้อม แต่ก็ยังไม่มากนัก เอื้องฟ้าและแก้วนั่งดูหาญซ้อมรำอยู่ ทั้งคู่กังวลใจเรื่องที่น้อยและหอมรู้แล้วว่าหาญมาเล่นละครแบบนี้
“ทำยังไงดีล่ะเจ้าคะคุณแก้ว ความลับมาแตกแบบนี้ คุณหาญจะถูกคุณชาญตีหรือไม่เจ้าคะ”
“ก็ยังไม่รู้เหมือนกัน หาญต้องแก้ตัวให้ตัวเองแล้วล่ะ”
แก้วและเอื้องฟ้าหนักใจ หาญยังคงซ้อมอย่างขะมักเขม้น และในเวลาต่อมาหัวหน้าคณะละครก็บอกบางเรื่องที่ทำให้หาญตื่นเต้นมาก
“จริงหรือขอรับครู จะให้กระผมขึ้นแสดงในงานลอยกระทงปีนี้จริงๆ หรือขอรับ”
“ก็ใช่น่ะสิ แต่เอ็งยังเด็กนัก ข้าจะให้เล่นเป็นตัวเล็กๆ ไปก่อน ตั้งใจฝึกซ้อมเข้าล่ะ”
“ขอรับ”
หาญหันมาดีใจกับแก้วและเอื้องฟ้า
“ฉันจะได้แสดงแล้ว”
“ดีใจด้วยนะเจ้าคะ”
“ฉันก็ดีใจด้วย แต่ตอนนี้รีบกลับบ้านเถอะหาญ ป้าน้อยกับน้าหอมรู้เรื่องที่นายมาเล่นละครแบบนี้แล้ว ไม่รู้ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง”
หาญหน้าสลดลง
สายยืนชะเง้อรอเอื้องฟ้าอยู่ที่หน้าบ้าน ครู่หนึ่งเอื้องฟ้าก็รีบวิ่งเข้ามา สายโล่งใจที่เอื้องฟ้ากลับมาก่อนเนื้อนาง
“โธ่ บ่าวหัวใจจะวาย คิดว่าคุณหนูจะกลับมาไม่ทันคุณแม่เสียแล้ว แล้วคุณหาญเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ บ่าวไม่น่าปากพล่อยเลย”
“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ ก็ป้าสายไม่รู้นี่จ๊ะ แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่าคุณหาญจะเป็นยังไงบ้าง”
เนื้อนางถือตะกร้าขนมเข้ามา เห็นทั้งคู่ยืนอยู่หน้าบ้านก็แปลกใจ
“มายืนทำอะไรกันตรงนี้”
“เอ่อ มารอคุณเนื้อนางสิเจ้าคะ”
สายรีบเข้าไปหยิบตะกร้าจากมือเนื้อนางมาถือเอง เนื้อนางมองสงสัยท่าทีของสายและเอื้องฟ้าเหมือนมีอะไรปิดบัง สายหลบตาเนื้อนางกลัวถูกถามเรื่องที่หอมชวนเอื้องฟ้าไปบ้าน
“เอ่อ บ่าวไปดูกับข้าวเย็นนะเจ้าคะ”
สายรีบเดินเข้าบ้านไป เอื้องฟ้าตามเข้าไปด้วย เนื้อนางมองทั้งสองคนก็แน่ใจว่าต้องมีบางอย่างปิดบังอยู่แน่ๆ เธอจึงเดินเข้าไปหาสายขณะที่สายกำลังทำกับข้าวอยู่
“พี่สาย”
สายสะดุ้งเล็กน้อย กังวล กลัวเนื้อนางจะถามเรื่องของเอื้องฟ้า
“พี่สายกับเอื้องฟ้ามีอะไรปิดบังฉันรึ”
สายส่ายหน้า
“ฉันไม่เชื่อ แล้วเรื่องเมื่อกลางวันล่ะ ที่คุณหอมเธอชวนเอื้องไปที่บ้าน ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเอื้องเคยไปเที่ยวเล่นบ้านคุณหอม พี่สายพาไปรึ”
สายอึกอัก ไม่อยากให้เนื้อนางรู้ว่าเอื้องฟ้ายังเล่นอยู่กับหาญจึงยอมโกหก
“เอ่อ คือ ตอนนั้นคุณหอมเธอให้บ่าวมาเหมาขนมไปหมดน่ะเจ้าค่ะ บ่าวกับคุณหนูเอื้องฟ้าจึงช่วยกันเอาขนมไปส่งที่บ้านคุณหอม คุณหอมเธอเอ็นดูคุณหนูเอื้องฟ้าจึงชวนอยู่ทานของว่างเท่านั้นเองเจ้าค่ะ”
“ตอนไหน ทำไมฉันไม่รู้เรื่อง รึว่าตอนที่ฉันกับพี่ศักดิ์ไปที่พระนคร”
“เจ้าค่ะ ตอนนั้นแหละเจ้าค่ะ คุณหนูเนื้อนางอย่าว่าคุณเอื้องเลยนะเจ้าคะ”
“ฉันจะไปว่าอะไรได้ คุณหอมเธอก็ใจดีไม่มีพิษภัย ฉันเสียอีกโชคดีที่ท่านเมตตาลูกสาวของฉันอย่างนี้”
เนื้อนางชื่นชมและเทิดทูนหอมมาก สายแอบโล่งใจที่เนื้อนางไม่สงสัยเรื่องหาญเลย
บ่าวที่บ้านเจ้านายญาติเข้มกำลังเตรียมอาหารเย็นอยู่ ลำดวนนั่งเด็ดผักไปเรื่อยๆ ใจยังลอยๆ ค้างคาใจเรื่องหอมอยู่
“เป็นใครวะ ถึงได้รวยขนาดนี้ พี่ พี่รู้หรือเปล่าว่าคุณหอมเมียคุณชาญนี่คือใคร”
บ่าวไม่ตอบแล้วหันหลังให้ ลำดวนชักสีหน้าไม่พอใจ จะหันไปถามบ่าวอีกคน แต่ยังไม่ทันได้อ้าปาก บ่าวคนนั้นก็ลุกหนีไปเลย ลำดวนยิ่งอารมณ์เสีย
“อะไรวะ ยังไม่ทันจะถามเลย”
ญาติเข้มมองลำดวนอย่างระอาที่ไม่ยอมหยุดวุ่นวายเสียที
“รู้ไปก็เท่านั้นนังลำดวนเอ๊ย เดี๋ยวเอ็งก็ไปก่อเรื่องก่อราวอีก ทีนี้ล่ะ มันจะไม่ใช่เสียแค่เอ็งนะโว้ย เจ้านายที่เอ็งมาพึ่งใบบุญนี่จะเสียชื่อไปด้วย หัดจำใส่กะโหลกเอาไว้ซะบ้าง อยู่เฉยๆ อย่าทำให้ใครเดือดร้อน เดี๋ยวไอ้เข้มก็หนีไปมีเมียใหม่ซะหรอก”
ญาติและบ่าวคนอื่นๆ ขำกัน ลำดวนไม่พอใจที่ถูกเย้าแหย่แต่ก็ไม่กล้าตอบโต้เพราะกลัวเข้มหนีไปมีเมียใหม่จริงๆ
หาญซ้อมรำอยู่ในห้องนอน แก้วนั่งมองด้วยความกลุ้มใจ
“ตั้งแต่กลับมาแกก็เอาแต่หลบหน้าน้าหอม ทำไมไม่พูดกันให้รู้เรื่องเลยล่ะหาญ เดี๋ยวเกิดน้าหอมน้อยใจแล้วเอาไปบอกน้าชาญมีหวังจบกันพอดี”
“ก็ฉันยังคิดคำแก้ตัวไม่ออกน่ะสิ”
“แกอ้อนน้าหอมนิดเดียว น้าหอมก็ใจอ่อนแล้ว เฮ้อ”
หาญยังคงซ้อมรำไปเรื่อยๆ ครู่หนึ่งประตูก็เปิดออก ชงชางเดินเข้ามา หาญตกใจ มือที่รำอยู่รีบเปลี่ยนเป็นยืดเส้นยืดสายบิดตัวไปมาทันที ชงชางมองลูกชายอย่างแปลกใจ
“ทำอะไรกันอยู่”
“เอ่อ”
“หาญบอกว่าเมื่อยน่ะขอรับ วันนี้เดินดูคนงานทำงานทั้งวันเลย”
“จริงขอรับคุณพ่อ คุณพ่อมีอะไรรึขอรับ”
“พ่อมาคิดๆ ดูแล้วนะ พ่อว่าพ่อจะพาหาญไปเจรจาการค้ากับพ่อที่พระนครด้วย ถึงหาญจะยังเด็กแต่ถ้าได้ฟังผู้ใหญ่คุยกัน พ่อว่าหาญจะได้ซึมซับบ้าง”
“ขอรับ”
“เตรียมตัวให้ดี เราจะเดินทางอีกสองอาทิตย์”
“สองอาทิตย์”
ทั้งหาญและกล้าตกใจมาก
“ทำไม มีอะไรรึ”
“เปล่าขอรับ”
“ดี งั้นพ่อไปล่ะ”
ชงชางเดินออกไป หาญกับแก้วทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงอย่างเซ็งๆ
“ทำยังไงดีหาญ อีกสองอาทิตย์มันก็ใกล้กับวันลอยกระทงเลยนะ ถ้ารวมวันเดินทางแล้วล่ะก็ แกกลับมาไม่ทันแสดงละครแน่ๆ”
“มันต้องมีทางสิ”
หาญคิดวิธีแก้ปัญหา เพราะอย่างไรก็ต้องแสดงละครให้ได้ เขาจึงตัดสินใจไปหาหอม ออดอ้อนหอมให้ช่วย
“นะขอรับคุณแม่ คุณแม่ช่วยพูดกับคุณพ่อให้หน่อยนะขอรับ ไหนๆ คุณแม่ก็รู้เรื่องที่หาญไปเล่นละครแล้ว”
“อ้อ รู้รึว่าแม่รู้น่ะ ที่เมื่อวานหลบหน้าหลบตาก็เพราะไม่รู้จะแก้ตัวยังไงสินะ”
“ทำไมถึงทำอะไรไม่คิดให้ดีนะหาญ เกิดคุณพ่อรู้จะทำยังไง” น้อยตำหนิ
“โธ่ น้าน้อยก็อย่าไปบอกน้าชาญสิขอรับ” แก้วขอร้อง
หอมหันมาดุแก้ว “เดี๋ยวเถอะ เราตัวดีเหมือนกันนะ ช่วยกันปิดบังดีนัก”
“โธ่ คุณแม่ขอรับ คุณแม่ก็รู้ว่าหาญชอบละคร”
“แม่รู้ว่าหาญชอบ แต่ถึงอย่างนั้นหาญก็ไม่ควรทิ้งงานที่คุณพ่อสั่ง กิจการที่บ้านก็สำคัญนะ ถ้าหาญทิ้งไป อีกหน่อยใครจะดูแล”
“งั้นไปลาออกเลย ทำอะไรไม่ได้แล้วนี่” แก้วปลงๆ
“ได้ยังไงเล่า เดินมาถึงตรงนี้แล้ว คุณแม่ขอรับ หาญขอเล่นละครนะขอรับ แต่หาญสัญญาว่าจะไม่ทิ้งกิจการที่บ้านเรา หาญจะทำทั้งสองอย่างให้ดีที่สุด”
“ถ้าหาญสัญญาแม่ก็จะเชื่อ แล้วตกลงว่าเรื่องไปเจรจาธุรกิจกับคุณพ่อล่ะ”
“หาญจะไปกับคุณพ่อขอรับ”
หอมหันไปยิ้มกับน้อย พอใจในคำตอบ ก่อนจะดึงลูกชายมากอดอย่างปลื้มใจ หาญแม้จะเสียดายที่ไม่ได้ไปเล่นละครแต่ก็ต้องทำใจยอมรับ ขณะที่แก้วเซ็งๆ ที่ไม่ได้ดั่งใจ
หาญกับแก้วและเอื้องฟ้าพากันมาที่คณะละคร กล่าวขอโทษหัวหน้าคณะ
“ขอโทษครูนะขอรับที่ทำให้ครูผิดหวัง”
“เฮ้ย ไม่เป็นไรๆ เอ็งก็ยังไม่ชำนาญดีเท่าไหร่ เอาไว้ข้าจะฝึกให้เอ็งเก่งกว่านี้แล้วจะให้เล่นเป็นตัวสำคัญเลย เป็นไง”
“จริงนะขอรับ”
“เออๆ ขอให้เอ็งตั้งใจไม่ย่อท้อไปก่อนก็แล้วกัน”
“จะไหวเรอะ งานที่บ้านก็ต้องทำ” แก้วท้วง
“ไหวน่า รอดูวันที่ฉันจะได้แสดงก็แล้วกัน เอื้องฟ้าด้วยนะ”
“จ้ะ เอื้องสัญญาว่าจะคอยตามไปดูคุณหาญเล่นละครทุกที่เลย”
หาญกับเอื้องฟ้ายิ้มให้กันถือเป็นคำสัญญา
หลายวันต่อมา หอม น้อย และแก้ว มาส่งชงชางและหาญที่ท่าน้ำ เพื่อเดินทางไปพระนคร
“จะไม่ไปด้วยกันจริงๆ รึหอม จะได้ถือโอกาสไปเยี่ยมท่านเจ้าคุณและกล้าด้วย”
“ขอฉันอยู่รอที่บ้านกับพี่น้อยดีกว่าจ้ะ เดี๋ยวจะเป็นภาระพี่ในการทำงานเสียเปล่าๆ ตั้งใจเรียนรู้งานด้วยนะลูก”
“ขอรับ”
“เอ้า เอาอย่างนั้นก็ได้ งั้นพี่ไปนะ”
ชงชางลงเรือไป หาญหันมาบอกแก้ว
“ฝากบอกเอื้องฟ้ากับครูด้วยว่าฉันจะรีบกลับมา”
แก้วพยักหน้าให้
เนื้อนางนั่งขายขนมอยู่ที่ร้าน ครู่หนึ่งหอมก็เดินเข้ามาหา พร้อมกับบ่าวติดตาม
“คุณหอม มาเดินเล่นรึเจ้าคะ”
“จ้ะ ช่วงนี้คุณชาญกับลูกชายฉันเขาไปเจรจาค้าขายน่ะ เลยมีเวลาออกมาเดินเที่ยวเล่นบ้าง”
“ตายจริง นี่คุณหอมอยู่บ้านคนเดียวหรือเจ้าคะ คุณหอมต้องระวังตัวนะเจ้าคะ เผื่อเกิดอันตรายขึ้น”
“ขอบใจที่เป็นห่วงฉันเสมอ แต่ก่อนคุณชาญไปเขาก็สั่งงานให้ช่วยดูแลทุกอย่างเรียบร้อยแล้วน่ะ อีกอย่างฉันก็มีพี่สาวอยู่เป็นเพื่อน แล้วนี่เธออยู่คนเดียวรึ”
“เจ้าค่ะ เอื้องฟ้ากับพี่สายไปส่งขนม มีคนสั่งไว้ทำบุญน่ะเจ้าค่ะ”
“เธอรับทำขนมด้วยรึ ดีจริง ถ้าอย่างนั้นฉันขอสั่งได้บ้างหรือเปล่า วันลอยกระทงที่จะถึงนี้ว่าจะนำไปถวายพระเสียหน่อย”
“ได้เจ้าค่ะ ถ้าคุณหอมต้องการ”
หอมยิ้มให้
ตอนเย็น เนื้อนาง สายและเอื้องฟ้านั่งเตรียมวัตถุดิบสำหรับทำขนมวันพรุ่งนี้
“อันที่จริงบ่าวที่บ้านคุณหอมมีตั้งมาก จะให้ช่วยกันทำขนมกี่อย่างก็ได้ แต่นี่คุณหอมเธอเลือกมาสั่งขนมเราไปทำบุญแบบนี้ ก็คงอยากจะช่วยอุดหนุนเราด้วยนะเจ้าคะ” สายแสดงความเห็น
“คุณหอมเธอช่างมีน้ำใจจริงๆ นะคะ” เอื้องฟ้าชื่นชม
“จ้ะ”
ศักดาเดินเข้ามา อารมณ์ไม่ดี ทุบกำแพงบ้านดังปัง จนทุกคนสะดุ้งตกใจ เนื้อนางตั้งสติได้รีบลุกไปหา
“เกิดอะไรขึ้นพี่ศักดิ์”
“ไอ้บริบรรณมันกลับมาพระนครแล้ว”
เนื้อนางหน้าตื่น ทั้งสองคนแอบมาคุยกันตามลำพัง
“หมายความว่ายังไงที่เราต้องยืดเวลาแก้แค้นท่านเจ้าคุณน่ะ พี่ศักดิ์”
“ก็หลังจากที่มันกลับมาถึงพระนครมันก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วยคนสนิทของขุนนางชั้นผู้ใหญ่ในกรมมหรสพน่ะสิ อยู่ใกล้คนสำคัญของบ้านเมืองแบบนี้ เรายิ่งเข้าถึงตัวมันยากมากขึ้นไปอีก”
“แล้วถ้าเกิดท่านเจ้าคุณเป็นอะไรไป มันคงต้องมีการไต่สวนกันยกใหญ่แน่เลยพี่ศักดิ์ แล้วเราควรจะทำยังไงดี”
“ถึงยังไงพี่ก็ไม่ยอมแพ้ เพื่อนพี่มันจะส่งข่าวให้เราเรื่อยๆ หากไอ้บริบรรณมีการเคลื่อนไหว พี่คิดว่าจะรอเวลาที่มันเดินทางออกจากพระนครไปที่ไหนสักแห่ง แล้วเราจะปลอมตัวเป็นโจรป่าเข้าไปฆ่ามัน ทีนี้ก็จะไม่มีใครสืบเรื่องราวมาถึงเรา”
ศักดายิ้มเหี้ยมเมื่อคิดถึงแผนการ ทำเอาเนื้อนางรู้สึกหวั่นใจไปด้วย
หลายวันผ่านไป ชงชางพาหาญกลับจากพระนครมาถึงบ้าน หอมกับน้อยเห็นก็ดีใจ
“กลับมากันแล้ว”
“กลับมาเหนื่อยๆ ไปอาบน้ำแล้วพักผ่อนเถอะลูก” ชงชางบอก
“ขอรับ”
“พาลูกไปเรียนรู้งานที่พระนครคราวนี้ เป็นยังไงบ้างคะ ลูกเรียนรู้ได้อย่างใจมั้ยคะ”
ชงชางยิ้ม “ลูกไม่ทำให้พี่ผิดหวังเลย”
หอมกับน้อยพลอยยิ้มดีใจไปด้วย หอมปลื้มใจจนน้ำตารื้นที่หาญตั้งใจทำได้ตามคำสัญญา ในขณะที่หาญรีบมาคุยกับแก้ว
“ดีใจจัง กลับมาถึงบ้านสักที พรุ่งนี้จะได้ไปซ้อมละครต่อสักที”
“เอื้องก็คงดีใจเหมือนกัน”
หาญยิ้มๆ
วันต่อมา หาญมาเรียนละครกับครู โดยมีเอื้องฟ้านั่งฟังด้วยความเพลิดเพลิน แต่แก้วนั่งดูจนหลับไป เมื่อซ้อมละครเสร็จ หาญกับแก้วเดินมาส่งเอื้องฟ้า
“คุณหาญส่งเอื้องเท่านี้เถอะเจ้าค่ะ เอื้องกลัวพ่อเห็น”
“งั้นเราก็รีบกลับเถอะ เดี๋ยวจะถูกน้าชาญจับได้เหมือนกัน เฮ้อ เมื่อไหร่แกจะได้ขึ้นแสดงก็ไม่รู้เนอะ อุตส่าห์หลบออกมาเรียนทุกวัน”
“รออีกไม่นานหรอก ตอนนี้ครูชมว่าฉันฝีมือดีขึ้น อีกไม่นานฉันก็จะได้ขึ้นแสดงร่วมกับคนในคณะแล้ว”
“ขอให้จริงเถอะเจ้าค่ะ เอื้องจะไปยืนดูคุณหาญหน้าเวทีเลยเชียว เอื้องเข้าบ้านก่อนนะเจ้าคะ”
เอื้องฟ้าเดินไป หาญกับแก้วเดินกอดคอกันกลับบ้าน
6 ปี ผ่านไป ในงานลอยกระทง สายและเนื้อนางเดินเข้ามาในงานอย่างรีบเร่ง ถือตะกร้าใส่ขนมเข้ามากันคนละใบ
“ตายแล้วๆ มาสายแบบนี้เราจะถูกแย่งที่กันมั้ยเจ้าคะ เดี๋ยวไม่ได้ขายกันพอดี”
“รีบไปเถอะพี่สาย อย่ามัวบ่นอยู่เลยจ้ะ เอื้องฟ้า เร็วๆ สิลูก”
“จ้าแม่”
เอื้องฟ้าในวัย 18 ปี กลายเป็นสาวสวยสะพรั่งเดินมาหาเนื้อนาง ถือตะกร้าใส่ขนมมาด้วย ผู้ชายแถวนั้นเหลียวมองกันเป็นแถว
“มาแล้วจ้ะ”
“ไปเถอะลูก รีบไป”
เนื้อนางจะพาเอื้องฟ้าเดินไป วัยรุ่นชาย 2 คน ที่มองเอื้องฟ้าไม่วางตารีบเดินมาดักหน้า จะแย่งตะกร้าขนมที่เอื้องฟ้าไปถือ
“ให้พี่ช่วยถือมั้ยจ๊ะ”
เอื้องฟ้าไม่ตอบแต่เบี่ยงตัวหลบ เนื้อนางและสายหน้าเสียเป็นห่วงเอื้องฟ้าจึงพากันเดินหนี วัยรุ่นอีกคนเดินมาดักหน้าอีก เอื้องฟ้าจะเดินไปทางซ้ายก็มาดักซ้าย จะเดินไปทางขวาก็มาดักขวา จนเนื้อนางทนไม่ไหวต้องเอ่ยปากขอ
“พ่อหนุ่ม น้าขอเถอะจ้ะ ช่วยหลีกทางให้หน่อยนะ เราจะรีบไปขายขนม”
วัยรุ่นทั้งสองไม่สนใจ ยืนขวางอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งมีมือหนึ่งวางตบลงที่บ่าวัยรุ่นอย่างแรงจนแทบทรุด วัยรุ่นโมโหจะมีเรื่อง แต่พอหันกลับไปมองก็เห็นว่าเป็นมือของศักดานั่นเอง วัยรุ่นทั้งสองหน้าเสีย
“อะไร มายุ่งอะไรกับลูกสาวข้า ไปเลย ไป”
วัยรุ่นกลัวศักดาจนหงอ รีบวิ่งหนีไป ศักดาหันไปดุเอื้องฟ้า
“หัดเอาตัวรอดบ้างสิเอื้อง เดี๋ยวก็ได้โดนพวกมันฉุดไปทำเมียพอดี”
“อย่าว่าลูกเลยพี่ศักดิ์ ลูกจะไปสู้อะไรกับเด็กพวกนั้นได้”
“ใช่เจ้าค่ะ ทีหลังคุณศักดาก็หัดมาดูแลคุณหนูบ้างสิคะ คุณหนูจะได้ไม่ถูกไอ้เด็กพวกนั้นรังแกบ่อยๆ ไม่ได้เพิ่งจะมาแบบเมื่อกี้ ไปเถอะเจ้าค่ะ”
สายดึงมือเอื้องฟ้าออกไป ศักดามองสายอย่างหัวเสียแล้วเดินไปอีกทาง ไม่ยอมไปช่วยขายขนม
คืนเดียวกันนั้น น้อยยืนกระวนกระวายใจอยู่ ครู่หนึ่งหอมก็เปิดประตูห้องนอนออกมาเงียบๆ รีบเดินมาหาน้อย
“หาญไปที่งานแล้วใช่มั้ยพี่”
“ไปสักพักแล้วล่ะ ตั้งแต่คุณชาญเข้าห้องไป”
“สาธุ คืนนี้หาญจะได้ทำสิ่งที่รอคอยมานาน ขอให้การแสดงของลูกผ่านไปได้ดีด้วยเถิด”
“จะไม่ไปดูลูกหน่อยรึหอม คุณชาญก็หลับไปแล้วไม่ใช่รึ”
“ฉันก็อยากไปให้กำลังใจลูกนะพี่น้อย แต่ทางนี้ไว้ใจไม่ได้หรอก เกิดพี่ชาญตื่นขึ้นมาแล้วไม่เห็นฉันจะวุ่น ทีนี้ความได้แตกกันพอดี พี่ช่วยไปดูแทนฉันหน่อยก็แล้วกัน ถ้าแสดงเสร็จแล้วยังไงให้รีบพากลับมาเลยนะ”
น้อยพยักหน้าให้ก่อนเดินออกไป
ด้านหลังเวทีละคร นักแสดงคนอื่นๆ กำลังแต่งหน้าแต่งตัวกันอยู่ หัวหน้าเดินเข้ามา แก้วรีบวิ่งตาม แล้วเรียกหัวหน้าคณะเอาไว้
“ครูจ๊ะ ครู”
“ว่าไงเจ้าแก้ว”
“พี่เหน่งให้มาบอกว่าเครื่องดนตรีพร้อมแล้วนะจ๊ะ”
หัวหน้าพยักหน้ารับรู้ แล้วเดินไปดูความเรียบร้อยของนักแสดง แก้วเดินไปหาหาญซึ่งแต่งชุด
ราชประแตนเรียบร้อย
“โห ไอ้หาญ”
หาญโตเป็นหนุ่มเต็มตัว ลุกขึ้นยืน กางแขนออกแล้วหมุนตัวให้แก้วดูอย่างตื่นเต้น
“ฉันดูเป็นยังไงบ้างวะ”
“เยี่ยมไปเลย แกหล่อดูดีสุดๆ หล่อกว่าตัวเอกของเรื่องอีกว่ะ”
หาญหัวเราะเต็มเสียงอย่างชอบใจ หัวหน้าคณะเดินเข้ามาหา
“ยังไงหาญ ตื่นเต้นมั้ย เจ้ารอวันนี้มานานถึง 6 ปีเชียวนะ”
“ขอรับครู เอ่อ ผมขอซ้อมกับครูอีกสักรอบได้มั้ยขอรับ”
“เอาสิ มาๆๆ”
หัวหน้าเดินไปรอที่มุมหนึ่ง หาญจะเดินตามไปแล้วนึกขึ้นได้ หยุดคุยกับแก้วก่อน
“เอื้องฟ้ามารึยังแก้ว ถ้ายังไม่มา แกช่วยไปรับให้หน่อยสิ”
“เออ ได้ๆ จะไปรับมาให้ แล้วให้เอื้องฟ้ายืนรอดูแกที่หน้าเวทีเลย”
หาญยิ้มพอใจ แก้วจึงไปที่ตลาด แอบมองไปที่ร้านขนมของเนื้อนางสอดส่องหาเอื้องฟ้า เนื้อนาง สายและเอื้องฟ้ากำลังช่วยกันขายขนม สายหันไปเจอแก้วพอดีก็แอบสะกิดให้เอื้องฟ้ารู้ตัว แก้วกวักมือเรียกให้เอื้องฟ้าไปหา เอื้องฟ้ามองเนื้อนางอย่างชั่งใจยังไม่กล้าลุกไป สายจึงกระซิบบอก
“รีบไปเถอะเจ้าค่ะ เดี๋ยวทางนี้บ่าวจัดการเอง”
เอื้องฟ้าแล้วค่อยๆ สลับที่นั่งกับสาย หันมองเนื้อนางอีกรอบก็เห็นว่าเนื้อนางไม่ทันสังเกตอะไรเพราะมัวแต่ขายขนม เอื้องฟ้าก็รีบวิ่งออกไปหาแก้ว
“รีบไปเถอะ จะได้เวลาแสดงแล้ว”
“จ้ะ”
แก้วรีบพาเอื้องฟ้าไป ขณะนั้นน้อยเดินสวนเข้ามาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าร้านเนื้อนาง แต่ไม่ทันสังเกตร้านของเนื้อนางเพราะมัวแต่หาเวทีละครอยู่ ขณะที่เนื้อนางขายขนมมือเป็นระวิงจึงไม่ทันสังเกตว่าเอื้องฟ้าออกไปแล้ว
วัยรุ่นสองคนกำลังยืนจีบผู้หญิงอยู่ที่มุมหนึ่ง แก้วพาเอื้องฟ้าเดินเข้ามา วัยรุ่นเห็นพอดี รีบสะกิดให้เพื่อนอีกคนมองทันที วัยรุ่นจึงผละจากผู้หญิงที่จีบอยู่แล้วเดินมาหาแก้วกับเอื้องฟ้า
“พ่อไปไหนแล้วล่ะจ๊ะ ถึงมาเดินเล่นกับผู้ชายแบบนี้”
“ไม่ใช่เรื่องของเอ็ง จะไปไหนก็ไปเลยไป ข้าไม่อยากมีเรื่อง” แก้วขวาง
“แต่ข้าอยากมีเว้ย เอ็งเป็นใครวะ คนรักของน้องเอื้องรึ”
แก้วไม่อยากยุ่งด้วยจึงพาเอื้องฟ้าเดินเลี่ยงไป วัยรุ่นได้โอกาสตอนแก้วเผลอ ดึงมือเอื้องฟ้าให้เซมาที่อกแล้วกอดแน่น เอื้องฟ้าดิ้น
“ปล่อยนะ”
“เฮ้ย ปล่อยเอื้องฟ้านะเว้ย”
“ไม่ปล่อยมีอะไรมั้ย”
วัยรุ่นหันไปพยักหน้ากับเพื่อนอย่างรู้กัน เพื่อนพุ่งเข้าไปจะชกแก้ว แต่แก้วไวกว่าถีบจนวัยรุ่นเซไป ก่อนที่วัยรุ่นจะพยุงตัวขึ้นแล้วชกแก้ว ทั้งสองคนชกกันชุลมุนจนคนเริ่มมุงดู ในขณะที่วัยรุ่นอีกคนก็ยังไม่ยอมปล่อยเอื้องฟ้า
หาญกำลังซ้อมพูดบทละครที่จะแสดงอยู่กับหัวหน้าคณะด้านหลังเวที
“สาวเครือฟ้า เป็นกำพร้า มีสกุล”
หาญมองไปมุมหนึ่ง จินตนาการไปว่ามีผู้หญิงนั่งอยู่แล้วหันไปพูดกับหัวหน้าคณะ
“แหม นายพร้อมเนี่ยไม่เบาทีเดียวนะ ที่งามพร้อมนั่นน่ะเขาชื่อว่าสาวเครือฟ้า เป็นหญิงงามในตำบลเลยทีเดียว แหม ตาถึงจริงๆ นะเนี่ย”
จังหวะนั้นเอง เพื่อนในคณะละครก็วิ่งหน้าตื่นเข้ามา
“เกิดเรื่องแล้วขอรับครู หาญ ไอ้แก้วมันวิวาทกับใครก็ไม่รู้ เอื้องฟ้าก็ถูกพวกมันรังแกด้วย”
หาญตกใจมาก
“เอื้องฟ้า”
หาญรีบวิ่งออกไป หัวหน้าคณะและเพื่อนรีบตามไป แก้วกำลังชกต่อยกับวัยรุ่นอย่างชุลมุนอยู่ วัยรุ่นเป็นรองแก้วอยู่มาก วัยรุ่นอีกคนเห็นว่าจะไม่ไหวจึงปล่อยเอื้องฟ้าแล้วจะเข้าไปช่วยเพื่อน แต่ยังไม่ทันได้เข้าไปถึงตัวแก้ว หาญก็วิ่งเข้ามาถีบวัยรุ่นจนกระเด็นไปไกล หาญหันไปมองเอื้องฟ้าอย่างเป็นห่วงแล้วดึงเอื้องฟ้ามาไว้ด้านหลังกันไม่ให้วัยรุ่นเข้ามายุ่งได้อีก
“ไม่เป็นไรนะเอื้องฟ้า”
“จ้ะ”
วัยรุ่นโกรธจัดพุ่งเข้ามาชกหาญ แต่หาญหลบได้แล้วต่อยกลับ เกิดการสู้กันทั้งสองคู่ น้อยวิ่งฝ่าฝูงชนเข้ามาดู
“เกิดอะไรขึ้นน่ะ”
น้อยเห็นหาญกำลังชกต่อยกับวัยรุ่นอยู่ก็ตกใจ
“ตายแล้ว พ่อหาญ หยุดนะ”
บ่าวของบ้านชงชางเข้ามามุงดูด้วย พอเห็นหาญก็ตกใจเหมือนกัน
“ตายแล้ว นั่นคุณหาญนี่”
บ่าวไม่รอช้ารีบวิ่งออกไปบอกชงชางให้เร็วที่สุด หาญชกกับวัยรุ่นไม่มีใครยอมใคร น้อยยืนตะโกนห้ามเสียงดังแต่ก็ไม่ได้ผล
เนื้อนางกำลังขายขนมอยู่กับสาย ศักดาเดินเข้ามาหาแต่สวนทางกับบรรดาชาวบ้านที่วิ่งกันไปอีกทางเพื่อที่จะไปดูเหตุการณ์ชกต่อยกัน เนื้อนาง สายและศักดาก็มองอย่างสงสัย
“เกิดเรื่องอะไรกัน”
เนื้อนางส่ายหน้าไม่รู้เพราะมัวแต่ขายขนม พอหันไปมองทางสายก็เพิ่งรู้ว่าเอื้องฟ้าหายตัวไป
“เอื้องฟ้าล่ะพี่สาย”
สายตกใจที่เนื้อนางถามหาเอื้องฟ้า แต่ยังไม่ทันได้ตอบอะไร เนื้อนางก็รีบลุกขึ้น
“เกิดอะไรขึ้นกับลูกหรือเปล่าพี่”
เนื้อนางรีบวิ่งออกไปตามหาเอื้องฟ้า ศักดาตามออกไปด้วย สายละล้าละลังเป็นห่วงร้าน จึงไม่กล้าตามไป
เวลาเดียวกันนั้น ลำดวนกับเข้มมาเดินเที่ยวงานลอยกระทง พอเห็นชาวบ้านวิ่งกันไปดูบางอย่างลำดวนก็ถลาตัวจะวิ่งตามไป เข้มรีบดึงไว้
“จะไปไหนลำดวน”
“เขามีเรื่องอะไรกันน่ะพี่ ฉันอยากไปดู”
ลำดวนดึงเข้มตามพวกชาวบ้านไปด้วย
ชงชางนอนหลับอยู่ แต่หอมนอนไม่หลับพลิกตัวไปมาเพราะเป็นห่วงหาญที่แอบหนีไปเล่นละคร แล้วเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น หอมลุกไปเปิด ชงชางก็รู้สึกตัวตื่นด้วย หอมเปิดประตูมาเห็นว่าบ่าวนั่งอยู่ที่หน้าประตูหน้าตาตื่นตระหนก
“มีอะไร”
“คุณหาญขอรับ คุณหาญกับแก้วมีเรื่องชกต่อยกันในงานลอยกระทงขอรับคุณชาญ”
“อะไรนะ”
ชงชางวิ่งออกไปทันที หอมรีบตามไป
อ่านต่อตอนที่ 16