xs
xsm
sm
md
lg

แม่นาก ตอนที่ 16

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แม่นาก ตอนที่ 16

ชมนาด กับ มากมองความเปลี่ยนแปลงรอบตัว อย่างตื่นตระหนก

"นังนาก เอ็งจะทำอะไร"
นากหันไปมองนางตานี
"นังผู้หญิงจากพระนคร มันกำลังจะแย่งผัวของข้า เอ็งจะให้ข้านิ่งอยู่หรือ"
"นังผีหน้าโง่ นังผีไม่มีหัวคิด เอ็งดูสารรูปของเอ็งซะก่อน"
นากมองดูมือตัวเอง เงาโปร่งแสง มองแทบไม่เห็น
"ทำไม!!! ทำไมถึงเป็นเช่นนี้"
"เอ็งยิ่งพยายามแสดงฤทธิ์เดช มันยิ่งเป็นบาป กรรมของเอ็งยิ่งมากขึ้น หนักหนาขึ้น สุดท้ายจะตามมาตัดรอนแรงบุญแรงอธิษฐานของเอ็ง รู้มั๊ย"
นากชะงักสับสน
บรรยากาศรอบๆ พายุลมสงบ เบาลง
"ยิ่งเอ็งไขว่คว้ามากเท่าไหร่ เอ็งจะเหลือเวลาอยู่กับคนที่เอ็งรักน้อยลงเท่านั้น รู้ไว้ซะด้วย"
นากชะงัก หันไปมองนางตานี
"ข้าควรทำอย่างไร ข้าควรทำเช่นไร"
"สิ่งที่เอ็งต้องทำคือ ทำใจให้สงบ ปล่อยวาง ไม่มีใครหนีพ้นบ่วงกรรมหรอกอีกนากเอ๊ย"
นางตานีมองนากแล้วส่ายหน้าไม่อยากยุ่งด้วย นากหันไปมอง เห็นมากประคองชมนาดเดินไปช้าๆเพื่อหลบพายุ นากมองจนทั้งคู่ลับตาไป นจึงทรุดตัวลงนั่งร้องไห้
"พี่มากจ๋า...พี่มาก"
นางตานีมองนากอย่างอ่อนใจ

มากและ ชมนาดมองรอบตัวอย่างวิตก
"มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมจู่ๆก็มีพายุแรงเช่นนี้"
"กระผมไม่แน่ใจ บางทีกลางทุ่งกลางนา ก็เกิดพายุได้"
"พี่ไม่คิดบ้างหรือว่าจะเป็นฝีมือของแม่นาก"
มากชะงักมองหน้าชมนาด แล้วเมิน
"อะไรทำให้คุณชมนาดคิดเช่นนั้น"
"เมื่อคืนนี้ ฉันเจอกับแม่นาก"
มากหันขวับมองหน้าชมนาด
"แต่ฉันไม่กลัว ไม่กลัวเลยซักนิด เพราะความรู้สึกของฉันที่มีต่อพี่ มันทำให้ฉันพร้อมที่จะเผชิญกับทุก ๆ สิ่ง ฉันรักพี่"
"คุณชมนาด อย่าพูดอย่างนี้เลยขอรับ ใครมาได้ยินเข้ามันจะไม่งาม คุณชมนาดจะเป็นฝ่ายเสียหาย"
"ทำไม มันผิดมากนักหรือ ที่ผู้หญิงจะรักผู้ชายก่อน ผู้หญิงไม่มีชีวิตจิตใจหรืออย่างไร ทำไมฉันต้องเป็นฝ่ายถูกเลือก ฉันจะเลือกชีวิตของฉันเองไม่ได้หรือ"
มากตะลึง
"คุณชมนาด ทำไมถึงคิดอะไรแบบนี้"
"ทำไมจะคิดไม่ได้ พี่เป็นผู้ชาย พี่ไม่มีวันเข้าใจความรู้สึกของฉันหรอก ผู้หญิงที่ถูกกดให้ตามหลังผู้ชายตลอดเวลา ต้องทำทุกสิ่งอย่างเพื่อผู้ชาย"
ชมนาดจับมือมาก
ชมนาดมองหน้ามาก
"พี่มาก อย่าตัดหนทาง อย่าปฏิเสธทั้งๆที่ยังไม่เข้าใจ ยังไม่รู้ ได้โปรดเถิดพี่มาก ให้โอกาสฉันสักนิดนึงเถิด"
ชมนาดมองมากอย่างขอร้อง มากมองชมนาดอย่างสงสาร
"เรากลับกันเถอะ กระผมไม่อยากให้ค่ำมืดเสียก่อน ใครมาเห็นเข้า คุณชมนาดจะเสียชื่อเสียง"
มากดึงมือออกจากมือชมนาดช้าๆ ชมนาดมองตามเศร้า
"ฉันไม่กลัวเสียชื่อเสีย แค่พี่ไม่ปฏิเสธ ฉันจะถือว่า ฉันยังมีโอกาส ฉันจะทำให้พี่รักฉันให้ได้"
มาก ชะงัก หนักใจแล้วเดินไป
ชมนาดเศร้า แต่ยังมุ่งมั่น

มั่นกับพิม เดินคุยกัน ทุ้ย เค้ง โพล้ง ปุก เดินอยู่ด้านหลัง สามเกลอพยายามห้อมล้อมปุกไม่ให้เดินไปร่วมกับมั่นและพิม
ปุกโวยวาย
"เอ็งจะเดินพันขาพันแข้งข้าทำไม วุ่นวายจริง"
"ป้านั่นแหละวุ่นวาย จะรีบเดินไปไหน คนเขาจะคุยกัน ไปเป็นกระดูกขวางคอหรือ" โพล้งว่า
เค้งบอก "ส่งเสริมให้คนเขาสมหวัง ดีกว่า ไปสร้างวัด สร้างศาลาอีกนะป้า"
"เผื่อบุญพา วาสนาส่ง ป้าอาจจะเจอเนื้อคู่บ้างก็ได้ จริงมั๊ยพวกเรา" ทุ้ยว่า
"ไอ้พวกปากปีจอ เนื้อคู่อะไรข้าไม่สนใจหรอก แค่ได้เดินเงียบๆ ไม่ต้องมีพวกเอ็งมากวนใจ ข้าก็คงถึงสวรรค์แล้ว"
ปุกชะเง้อคอมอง มั่นกับพิมเดินหายไปแล้ว
"อ้าว หายไปทางไหนแล้วนั่น เพราะพวกเอ็งเชียว"
ปุกหันมามองทุกคน เอาเรื่อง สามเกลอทำไม่รู้ไม่ชี้

พิมหันไปมองด้านหลังไม่เห็นปุกตามมา พิมหันมาพูดกับมั่นสีหน้าจริงจัง
"พี่มั่น พี่กับพี่มากต้องระวังตัวให้ดี ข้าสังหรณ์ใจอย่างไรก็ไม่รู้"
"ทำไมหรือ"
"เมื่อเช้านี้ ข้าเห็นไอ้หมึกไอ้เก่ง มันมาป้วนเปี้ยนที่พระโขนง"
" มันแปลกยังไง"
"ไอ้สองตัวนั่นเป็นมือเป็นตีนของพี่เพลิง ปกติจะไม่เคยห่าง ถ้าเจอมันต้องเจอพี่เพลิง"
"พวกมันอาจจะมาทำธุระอะไรก็ได้"
"ก็จริง มันบอกว่า พ่อให้มาส่งหนังสือให้พ่อใหญ่ถึก"
"พ่อใหญ่ถึกหรือ"
"มีอะไรหรือพี่มั่น"
มั่นนิ่งคิด ...
พ่อใหญ่ถึก ขอเสื้อจากมั่นและมาก และขอยืมพร้า ...
"เมื่อเช้านี้ ข้าเจอพ่อใหญ่ถึก ดูท่าทางน่าสงสัยอยู่เหมือนกันแต่ก็ไม่เจอคนของไอ้เพลิงนะ"
"อย่างนั้น พี่ต้องระวังตัวให้ดีนะ ข้าเป็นห่วง"
มั่นมองหน้าพิม จับมือพิมขึ้นมาจูบแรงๆ
"ไม่ต้องห่วง ข้าไม่มีวันเป็นอะไรไป จนกว่าจะได้ร่วมหอกับเอ็งหรอก ข้าสัญญา"
พิมตาโต
"พี่มั่นพูดบ้าอะไรแบบนี้ ไม่อายข้าบ้างหรือ"
"จะอายทำไม หรือว่าเอ็งไม่เห็นด้วย"
พิมอาย
"พี่มั่น ยังจะทำเป็นพูดเล่นอีก ระวังตัวไว้ให้ดีก็แล้วกัน พี่เพลิงคงไม่ยอมปล่อยให้พวกพี่อยู่สุขหรอก"
"ถึงวันนั้น ข้าก็จะสู้ เพื่อให้ได้เอ็งมา"

พิมมองหน้ามั่นแล้วซบลงกับอกมั่น

มากเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเรือน ชมนาดเดินตามมาช้าๆพร้อมกับบ่าว

"ขึ้นเรือนเถอะขอรับ อย่าลงมาเดินเล่นกลางค่ำกลางคืนเลย มันอันตราย"
ชมนาดพยักหน้า เดินขึ้นเรือนไปแล้วชะงัก
"ฉันยังไม่ยอมแพ้นะ สักวันฉันจะทำให้พี่รักฉันให้ได้"
มากถอนหายใจ หนักอก
พิม มั่น ปุก เดินเข้ามา
"พี่มาก มาถึงนานแล้วหรือ คุณชมนาดล่ะ" พิมถาม
"ขึ้นเรือนไปแล้ว"
" งั้นข้าไปก่อนละ อย่าลืมที่ข้าบอกนะ"
มั่นพยักหน้า พิมไป
ปุกเดินเข้ามา มองหน้ามั่นดุๆ มั่นก้มหน้า ปุกทำท่าจับตาดูมั่นตลอด แล้วขึ้นเรือนไป
"ท่าทาง บ่าวของแม่พิมจะดุเอาเรื่อง"
มั่นหัวเราะ
"แล้วเอ็งกับคุณชมนาดเป็นอย่างไรบ้าง"
มากส่ายหน้า
"ข้าไม่ค่อยเข้าใจคุณชมนาดนักหรอก แต่ก็นับถือน้ำใจแม่"
"แค่นับถือน้ำใจ คงยังไม่พอหรอก คุณชมนาดคงต้องการมากกว่านั้น"
มากกับมั่นยิ้มให้กัน
ทุ้ย เค้งโพล้ง ยืนสุมหัวคุยกัน
เค้งบอก
"แหม ทำไมนะ ไม่มีใครมองฉันบ้างเลย ฉันก็ออกจะคมสัน"
โพล้งถาม "ถามจริง มึงได้ถามใครบ้างหรือเปล่า ไอ้ที่ว่าหน้าตาคมสันน่ะ"
"ไม่ถาม ฉันเชื่อตัวเอง"
โพล้ง/เค้งถ่มน้ำลาย "ทุ๊ย!"
"กูคลื่นไส้ว่ะ" ทุ้ยบอก
ทุกคนหัวเราะขำกัน มากสีหน้าครุ่นคิด

ฝ่ายหมอผี เพลิง หมึก เก่ง กำลังเตรียมตัวจัดข้าวจัดของ หมอผีหยิบ เสื้อกับ พร้าของมากออกมาดู ยิ้มร้าย
"ทำไมพ่อหมอต้องใช้ของพวกนี้ด้วย" เพลิงถาม
"เอ็งคอยดูคืนนี้ก็แล้วกัน ข้าขี้เกียจอธิบาย"
"แล้วทำไมต้องเป็นคืนจันทร์แรม"
"คืนนี้ พระจันทร์แรมมันจะยิ่งอ่อนแรง ทำให้เราลงมือง่ายขึ้น"
"พ่อหมอแน่ใจอย่างนั้นเชียวหรือ"
"ผีมันก็เหมือนคนนั่นแหละ เพียงแต่มันไม่มีกายเนื้อ เหมือนอย่างพวกเรา แต่ยังมีรักมีหลง เหมือนคนธรรมดาทั่วไป ลองคิดง่ายๆ ถ้าเอ็งถูกทำร้าย จากคนที่เอ็งรัก เอ็งจะเจ็บแค่ไหน"
เพลิงนิ่งคิด
"เจ็บมากสิ พ่อหมอ"
"อีผีตัวนี้ก็เหมือนกัน มักผูกรักผูกใจกับผัวของมัน แน่นแฟ้น ไอ้สองอย่างนี่แหละ จะล่อมันมาหาเรา ถึงเวลานั้น เราก็จะกำจัดมันได้อย่างง่ายดาย"
"โห พ่อหมอช่างเก่งกาจ"
"นั่นสิ อย่างนี้ คงไม่พลาดเรื่องผู้หญิง" เก่งว่า
ทุกคนหันไปมองหน้าเก่ง หมอผีหัวเราะ
"เรื่องผี ไม่เคยพลาด เรื่องผู้หญิงข้าก็ไม่เคยขาดหมือนกัน ไม่เชื่อเอ็งคอยดูไปเถอะ"
หมอผียิ้มร้าย เพลิงประจบ
"อย่าลืมนะพ่อหมอ ของดีของข้าน่ะ"
"ได้แน่นอน อย่างห่วงเลย ดูผลงานของข้าซะก่อน"
หมอผีหัวเราะมั่นใจมาก เพลิงยิ้มมีแผน

ทุกคนล้อมวงกันที่สำรับ ทุ้ย เค้ง โพล้ง กินอย่างเอร็ดอร่อย
โพล้งบอก "แหม น้ำพริกลงเรือนี่ ชิมแล้วเหมือนลอยขึ้นไปอยู่บนฟ้า"
ทุ้ยบอก "นั่นสิ ไม่เคยกินมาก่อนเลย"
"ของในรั้วในวัง ไม่เหมาะกับพวกพี่หรอก มานี่ เหมาะกับฉันมากกว่า" เค้งว่า
เค้งฉวยชามน้ำพริกทำท่าจะจ้วง โพล้งดึงออก
"มึงช่วยเป็นผู้ดีหน่อย ให้กูก่อน กูแก่"
"ไม่ต้องแย่งกันหรอก มีเยอะแยะ" มั่นบอก
มั่นหันไปมองหน้ามากนั่งนิ่งมองสำรับ ไม่กิน
"เอ็งไม่กินหรือ"
มากส่ายหน้า
"ข้าชอบกินน้ำพริกขี้กามากกว่า ชาตินี้ข้าไม่นึกอยากจะเปลี่ยนรสชาติหรอก"

มั่นมองหน้ามากแล้วยิ้มอย่างเข้าใจ
 
อ่านต่อหน้า 2

แม่นาก ตอนที่ 16 (ต่อ)

หน้าเรือนรับรอง ปุกส่งห่ออาหารให้พ่อใหญ่ถึก

"นี่ห่อหมกปลาช่อนนะจ๊ะ แล้วมีน้ำพริกลงเรือของคุณชมนาดด้วย"
"แหม ลาภปากของข้าแท้ๆ"
ปุกเขิน พ่อใหญ่ถึกนึกได้มองปุกอย่างสังเกต
"จริงสิ วันนี้ไปเที่ยวพระโขนงเป็นอย่างไรบ้าง มีปัญหาอะไรหรือเปล่า"
"ก็ไม่มีอะไรนี่จ๊ะ พ่อใหญ่ถึกมีอะไรหรือเปล่า ทำท่าเหมือนมีลับลมคมนัย"
พ่อใหญ่ถึกเสียงสูง "ไม่มี๊"
อีกทาง พิมเดินมา
"พ่อใหญ่ถึก มาซะดึกเชียว"
พิมมองเห็นในมือพ่อใหญ่ถึก มีห่อผ้าที่ปุกส่งให้
"มิน่าล่ะ ยายปุกถึงได้ตั้งใจกวนห่อหมกจริงจังมากมาย ที่แท้ก็ทำเผื่อพ่อใหญ่ถึกนี่เองง"
ปุกกับพ่อใหญ่ถึกทำท่าเขินตลกๆ
"พูดอะไรก็ไม่รู้ บ่าวไปดีกว่า"
ปุกไป พิมมองตามแล้วหัวเราะ หันไปทางพ่อใหญ่ถึก
"จริงสิ วันนี้พ่อให้คนมาส่งข่าวกับพ่อใหญ่ใช่มั๊ย"
พ่อใหญ่ถึกชะงัก
"คุณหนูทราบด้วยหรือขอรับ"
พิม สังเกตเห็นพ่อใหญ่ถึกมีพิรุธ
"รู้สึก พ่อสั่งให้ฉันดูแลเรื่องนี้ด้วย แต่ดูท่าทางพ่อใหญ่ไม่ค่อยสบายใจ มีอะไรก็บอกฉันได้นะ"
พ่อใหญ่ถึกปาดเหงื่อ
"คือ กระผมแค่รู้สึกไม่ดีน่ะขอรับ"
"ไม่ดียังไง"
"ไอ้เรื่องที่จะต้องเอาเสื้อกับมีดพร้าของไอ้มากไปทำพิธีปราบนังนาก กระผมอึดอัดใจขอรับ"
"อะไรนะ มีเรื่องแบบนี้ด้วยหรือ"
"อ้าว ไหนว่าคุณพิมรู้เรื่องนี้แล้วไง"
พิมมองหน้าพ่อใหญ่ถึกแล้วนิ่งใช้ความคิด
"หรือว่า"
พิมไม่ฟังเสียงออกวิ่งไปทันที
พ่อใหญ่ถึกมองตามงง
"กูจะซวยมั๊ยเนี่ย"

นาก นั่งอยู่บนเรือน หน้าเศร้า ไกวเปล ร้องเพลงกล่อมลูก เสียงโหยหวน
"โอละเห่เอ่ย..."
หมาหอนรับกัน เสียงเยือก ฟ้ามืดในคืนข้างแรม

นอกชานบ้านมั่น มากนั่งกอดเข่าเศร้า
มั่นเดินออกมา เห็นมากนั่งอยู่ ก็ทรุดตัวลงนั่งข้างๆ
"คิดถึงแม่นากหรือ"
"ใครจะลืมได้ลง"
"จริงสิ แม่พิมเขาเตือนให้เราระวัง เขาคิดว่าทางหัวตะเข้อาจจะมีแผนร้าย"
"เดี๋ยวนี้ ดีกันแล้วหรือ"
"แม่พิมเขาผิดพี่เขาจริงๆนะ ที่ข้าอดใจไม่ไปแก้แค้นไอ้เพลิงถึงหัวตะเข้ ก็เพราะแม่พิมนี่แหละ ข้าไม่อยากให้เขาทุกข์ใจไปมากกว่านี้"
"ข้าดีใจกับพี่ด้วย ขอให้รักกัน ยั่งยืน"
"ข้าก็หวังแบบนั้น"
มากกับมั่นมองหน้ากัน
"พี่มั่น!"
พิมวิ่งเข้ามาหยุดยืนหอบ
"เกิดเรื่องใหญ่แล้ว"

ณ บริเวณหลุมศพนาก หมอผีกำลังทำพิธี
ด้านหลัง หมึก เก่ง เพลิง รวมตัวกัน เพลิงจับพระมากำไว้แน่น
"พ่อหมอแน่ใจนะ ว่าอีนากมันจะมา"
"มันต้องมาแน่นอน พวกเอ็งระวังให้ดี อย่าให้ใครเข้ามาทำลายพิธีเด็ดขาด"
หมอผีส่งสายสิญจน์ให้ทุกคนคล้องไว้ที่มือ
"มีสายสิญจน์นี่ พวกเอ็งไม่ต้องกลัวอะไร"
"พวกเอ็งไปซุ่มไว้ ตรงนี้ปล่อยพ่อหมอ อย่าให้ใครเข้าใกล้พ่อหมอได้เด็ดขาด เข้าใจมั๊ย"
ทุกคนพยักหน้าแยกย้าย
หมอผี บริกรรมคาถา หยิบพร้าของมากออกมา เอาเทียนลน แล้วใช้เทียนเขียนอักขระบนมีด จากนั้นเอาเสื้อของมากขึ้นมา แล้วสวมบริกรรมคาถาอีกชั่วครู่ แล้วเอามีดพร้าของมากชูขึ้น
"อีนาก กูเรียกให้มึงมา"

หมอผีเอามีดปักลงไปที่หลุมศพนาก

นากสะดุ้งเฮือก ตัวงอ สีหน้าเจ็บปวดเหมือนโดนแทงด้วยมีด

"พี่มาก"
เกิดลมพายุใหญ่ขึ้นทันที นากหน้าผิดหวัง เจ็บแค้น
"พี่ทำแบบนี้กับฉันทำไม"
นากเลื่อนตัวไปอย่างรวดเร็ว

หลุมแม่นาก ลมพายุพัดอื้ออึง
หมึก เก่ง เพลิง ซุ่มอยู่ที่หลังต้นไม้ด้านหลัง อีกด้าน สมุนของเพลิง 2-3 คนซุ่มอยู่
นากปรากฏร่างด้านหลังหมอผีที่ใส่เสื้อมากอยู่ นากหยุดยืนมองทั้งรักทั้งแค้น
"พี่มาก พี่ทำแบบนี้กับฉันได้อย่างไร"
นากเลื่อนตัวเข้าหาหมอผีอย่างรวดเร็ว เอื้อมมือไปสัมผัสทางด้านหลัง
พิม มั่น มาก วิ่งเข้ามา หยุดชะงัก
"นาก"
นากชะงักหันไปมองอีกทาง
"พี่มาก"
หมอผีหันขวับมา เงื้อมีดฟันไปที่ร่างของนากทั เป็นรอยกรีดยาว นากล้มลงนอนที่พื้น
หมอผีหัวเราะ
"มึงเสร็จกูแน่ อีนาก"
หมอผีล้วงหม้อดินออกมา ร่ายคาถา
มากตะโกน
"มึงจะทำอะไรเมียกู"
เพลิงย่องออกมาจากที่ซ่อน เอาไม้ฟาดมากอย่างแรง จนสลบ มั่นหันไป ต่อสู้ หมึก เก่ง และสมุน กรูกันอออกมา รุมมั่นทันที
"พี่เพลิง อย่าทำแบบนี้นะ"
พิมปรี่จะเข้าไปช่วยมั่น เพลิงคว้ามือพิมไว้
"มึงอยู่เฉยๆเลย อย่าให้กูต้องลงมือกับมึงด้วยนะ"
เพลิงกับพิมต่อตากัน พิมสะบัด เพลิงตบเปรี้ยง พิมกระเด็นไปกองที่พื้น มองหน้าเพลิงอย่างน้อยใจ
"กูบอกแล้วไง คราวนี้กูเอาจริง"
หมอผีร่ายอาคม แล้วเปิดฝาหม้อออก
"มึงลงไปอยู่ในหม้อเถอะอีนาก"
นากเหมือนถูกพลังลึกลับดึงให้เข้าไปอยู่ในหม้อ นากดิ้นรนมองที่มากที่นอนกองอยู่ที่พื้น
"พี่มากจ๋า ช่วยฉันด้วย พี่มาก ช่วยฉันด้วย"
มากหัวแตกเลือดไหลมาจากหน้าผาก ผ่านตา มากกระเสือกกระสนเข้าหานาก
นากก็กระเสือกกระสนให้พ้นจากพลังลึกลับที่ลากลงหม้อ
"นาก นากของพี่"
มากกับนากกระเสือกกระสนเข้าหากัน เกือบจะได้สัมผัสมือกันแล้ว
"พี่มาก"
ทางด้านหลัง เพลิงเดินเข้ามาใกล้พร้อมไม้ในมือ
"มึงทนนักหรือไอ้มาก ลองดูอีกทีมึงจะทนได้แค่ไหน"
เพลิงฟาดหัวมากอีกครั้ง มากล้มลง แน่นิ่งไปทันที
"พี่มาก!"
นากเงยหน้าขึ้นมองเพลิง สีหน้าเคียดแค้น
"ซักวัน กูจะกลับมาล้างแค้นพวกมึง"
นากร้องเสียงโหยหวนก่อนจะถูกดูดเข้าไปในหม้อ
หมอผียิ้มพอใจ ปิดฝาหม้อด้วยผ้ายันต์
"แค่นี้ก็เรียบร้อย เห็นมั๊ย ข้าบอกแล้ว มันต้องเรียบร้อย"
หมอผีกับเพลิงมองหน้ากันหัวเราะ ร้าย
"เอาตัวนังพิม ไปด้วย" เพลิงสั่ง
"แล้วไอ้สองตัวนี่ล่ะพี่ ทำยังไง" หมึกถาม
"ตามใจเอ็ง2 คนก็แล้วกัน"
หมอผีเดินนำไป เพลิง ลากพิมไปด้วย
"พี่จะทำอย่างนี้กับฉันไม่ได้"
"กูจะทำ ถ้ามึงไม่ไป กูจะให้ฆ่าไอ้สองตัวนั่นแทน ดีมั๊ย"
เพลิงกับพิมต่อตากัน พิมสะบัดหน้า เพลิงยิ้มเยาะ ลากพิมไป
หมึกกับเก่ง และสมุน รุมอัดมั่น จนเละ

หน้าเรือนพ่อใหญ่ถึก ปุกกับพ่อใหญ่ถึกชะเง้อคอมอง
"ตายจริง ออกไปดึกๆดื่นๆแบบนี้ ทำไมพ่อใหญ่ไม่ห้ามไว้ล่ะ"
"ฉันไม่รู้จะห้ามอย่างไร จู่ๆคุณพิมก็วิ่งพรวดพราดออกไป"
ปุกร้อนใจ
เพลิงเดินข้ามาพร้อมกับพิม พอถึงหน้าบ้าน เพลิงผลักพิมเซไปหาปุก
"คุณหนู คุณเพลิง เป็นไงมาไง คุณเพลิงมาพระโขนง ตั้งแต่เมื่อไหร่กันเจ้าคะ"
"เพิ่งมาถึง อีปุกเอ็งดูนังพิมมันให้ดี เที่ยวแล่นไปหาผู้ชายที่โน่นที่นี่ ขวางตีนข้าจริงๆ"
"ใครใช้ให้พี่ทำเรื่องชั่วๆแบบนี้ ทำร้ายเขาทั้งครอบครัว ทำร้ายไม่เว้นกระทั่งผี"
"ช่วยไม่ได้ ก็อีนากมันไปยอมไปที่ชอบๆซะที แถมไอ้มากยังมาเป็นก้างขวางคอกูอีก นี่กูช่วยคนพระโขนงไว้เชียวนะ คราวนี้ อีนากมันต้องอยู่ในหม้อไปตลอดนั่นแหละ"
ปุกกับ พ่อใหญ่ถึกตกใจ
"นี่ถึงขั้นจับถ่วงน้ำกันเลยเชียวหรือ"
"ไม่เห็นจะมีอะไรน่าตกใจ เป็นผีก็ต้องโดนถ่วงน้ำเรื่องธรรมดา"
"เวรกรรมจะตามสนองพี่"
"ยังกะกูกลัวนี่ เวรกรรมอะไร มีตัวตนที่ไหน"
พิมมองหน้าเพลิงแค้น เพลิงยิ้มเยาะ
"อีปุก มึงคอยดูนังพิมให้ดี ถ้ามันเล็ดลอดไปพบผู้ชายได้อีก คราวนี้กูจะเอาเรื่องมึง หลังขาดแน่คอยดู" เพลิงยิ้มร้าย "แล้วฝากบอกแม่ชมนาดด้วย เสร็จธุระแล้ว พี่จะมาหา"
เพลิงยิ้มแล้วไป
พิมมองตามสีหน้าแค้น
"คุณหนูเจ้าขา มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่"
พิมแค้น " ถามพ่อใหญ่ถึกแล้วกัน"
พิมขึ้นเรือนไป

ปุกหันไปมองหน้าพ่อใหญ่ถึกที่ทำหน้าลำบากใจ
 
อ่านต่อหน้า 3

แม่นาก ตอนที่ 16 (ต่อ)

ในห้องชมนาด เธอแอบฟังอยู่ที่หลังหน้าต่าง สีหน้าเครียด

"นี่มันอะไรกันแน่"
ชมนาดเดินกลับมานั่งที่เตียงใช้ความคิด แล้วลุกพรวดขึ้น
"พี่มาก"
ชมนาดเดินออกจากห้องไปทันที บ่าวมองตามตกใจแล้วรีบวิ่งตามไป

พิมเดินขึ้นมาบนเรือน หยุดยืน คับอกคับใจมาก น้ำตาไหล
"บ้าที่สุด ป่าเถื่อนที่สุด"
ชมนาดวิ่งเข้ามา พอเห็นพิม ชมนาดชะงัก วางท่าสงบ เดินมากหาพิม
"แม่พิม มีอะไรหรือ ร้องไห้ทำไม"
พิมโกหก
"ไม่มีอะไร"
"อย่าปดฉันเลย เกิดเรื่องอะไรกับพ่อมั่นหรือ"
พิมชะงัก
"แม่รู้ได้อย่างไร"
"แม่พิมจะเสียน้ำตาให้กับเรื่องอะไรได้เล่า นอกจากเรื่องพ่อมั่น"
พิมปาดน้ำตา แล้วชะงัก
"คุณชมนาด ต้องช่วยพี่มั่นด้วยนะ"
ชมนาดวางท่าสงบ
"ยังไงหรือ"
พิมเดินมากระซิบที่ข้างหูชมนาด ชมนาดนิ่งฟัง พยายามทำสีหน้าสงบ

พ่อใหญ่ถึก ปุก กำลังกระเง้ากระงอดกัน
"ตายจริง เรื่องใหญ่แบบนี้ทำไมไม่ยอมบอกกล่าวกันบ้างเลย"
"ไอ้ฉันมันน้ำท่วมปาก ขุนเพชร แม่พวงเป็นผู้ใหญ่ แล้วก็มีพระคุณ ถ้าเขาสั่งมาฉันก็ต้องทำ"
"พ่อใหญ่ถึก"
พ่อใหญ่ถึกชะงัก หันไปมอง เห็นชมนาดยืนมองอยู่
"ถ้าพ่อใหญ่ถึก ปล่อยให้พี่มากกับพี่มั่นเป็นอะไรไป ฉันจะเรียนคุณพ่อให้เอาโทษ"
"คุณชมนาด"
"ยังจะรีรออะไรอีก รีบไปช่วยเขาสิ"
ชมนาดหน้านิ่ง พ่อใหญ่ถึกก้มหน้ารับ แล้วรีบไปทันที
พอพ่อใหญ่ถึกลับตา พิมเดินออกมาจากที่ซ่อน แล้วยกนิ้วโป้งให้ชมนาด
ชมนาดทำหน้าเฉย ซ่อนความร้อนใจไว้

ในหม้อดิน นากนอน บาดเจ็บหมดเรี่ยวแรง นากพยายามจะทรงตัวลุกขึ้น แตะตามผนัง แต่ไม่ว่าจะแตะส่วนไหน ก็เหมือนไฟช๊อตออกมา ทำให้แม่นากยิ่งหมดเรี่ยวแรง
"ปล่อยข้าออกไป ปล่อยข้าออกไปเดี๋ยวนี้"
นากตัดสินใจ ทุบที่ผนังอย่างแรง แสงวาบขึ้น นากกระเด็นไป ฟุบอยู่ที่พื้น
"พวกเอ็งทำกับข้าทำไม พี่มาก จ๋า ช่วยข้าด้วย"
นากร้องไห้คร่ำครวญ เงยหน้าขึ้นมองสูง

หมอผีก้มลงมองหม้อดินในมือ แล้วหัวเราะ
"ไม่น่าเชื่อ ว่าอีนากพระโขนง ที่ใครๆเขาร่ำลือกันว่า ร้ายหนักหนา ที่แท้มันก็แค่อีผีอ่อนหัด หลงอุบายง่ายๆ สุดท้ายก็ต้องมาอยู่ในหม้ออาคมของข้า"
"แล้วคราวนี้มันจะออกมาได้อีกมั๊ย ข้าละหวั่นใจจริงๆ"
"ไม่มีทาง ข้าเอามันมาถ่วงน้ำที่ปากแม่น้ำขนาดนี้ ใครจะออกมาช่วยมันได้"
"สมน้ำหน้าอีนาก เสือกแข็งข้อกับกู ถ้าครั้งนั้นมึงยอมกูซะดีๆ ป่านนี้มึงคงเป็นเมียกูไปแล้ว"
"อย่ามัวร่ำไรเลย เดี๋ยวจะเลยเวลาซะก่อน"
หมอผีลงเรือ เพลิงพายเรือออกไป

มากกับมั่นถูกแขวนอยู่บนต้นไม้ หมึกกับเก่ง ซ้อมมากกับมั่นต่างกระสอบทราย จนกระทั่งตัวเองหอบ
"กูว่าพอดีมั๊ย เดี๋ยวมันตายซะก่อน"
"พี่เพลิงบอกว่าตามใจ มึงคิดว่าควรพอหรือยังล่ะ" หมึกว่า
เก่งนิ่งคิด
"อีกหน่อยดีกว่า"
หมึกกับเก่ง เงื้อมือจะต่อยอีก
เสียงพ่อใหญ่ถึกดังเข้ามา
"หยุดได้แล้ว"
เก่งกับหมึกหันไปมอง เห็นพ่อใหญ่ถึก ถืออีดาบใหญ่วิ่งมา
"พ่อใหญ่ เอาดาบมาทำไม ไม่ต้องใช้หรอก แค่มือมันก็จะแย่แล้ว"
"ปล่อยมัน 2 คนลงมา ไม่อย่างนั้นข้าจะกุดหัวเอ็งทั้ง 2"

หมึกกับเก่งมองหน้ากัน พ่อใหญ่ถึกทำหน้าจริงจัง

คืนนั้น ป้าเงิน นอนกระสับกระส่ายอยู่ในมุ้ง จำปี ลำจวนนอนอยู่ในมุ้งถัดไป

ในความฝัน ป้าเงิน จำปี ลำจวน ยืนอยู่ที่ริมน้ำ
"ป้าจ๋า ช่วยฉันด้วย จำปี ลำจวน ช่วยฉันด้วย"
"นังนากเอ็งอยู่ที่ไหน ข้าไม่เห็นแล้วจะช่วยเอ็งได้อย่างไร นังนากเอ๊ย"
ป้าเงินจำปีลำจวน มองหานาก จู่ ๆ ทั้งสามคนก็ล้มลงในน้ำเหมือนถูกใครดึงขาลงไป

ป้าเงินกระสับกระส่ายหมือนคนจมน้ำ แล้วจู่ๆก็ลุกพรวดขึ้นมา
จำปีกับลำจวน ลุกพรวดขึ้นมาพร้อมกัน
"โอ๊ย ข้าหายใจไม่ออก"
จำปีกับลำจวนโดดพรวดเข้ามาในมุ้งป้าเงิน
"ฉันก็เหมือนกำลังจะจมน้ำ"
"ใช่ ทั้งมืดทั้งเย็น ทั้งหนาว" ลำจวนบอก
ป้าเงินชะงัก มองหน้าจำปีกับลำจวน
"นี่เอ็งฝันว่าจมน้ำเหมือนกันหรือ"
จำปีบอก
"ฉันได้ยินเสียงนาก มันเรียกป้าไป"
"แล้วจู่ๆ ก็หายใจไม่ออก เหมือนคนกำลังจะจมน้ำตาย" ลำจวนบอก
ป้าเงินชะงัก
"หรือว่า นากมันพยายามจะบอกอะไรพวกเรา"
ทุกคนสีหน้าวิตก

บนเรือนรับรอง ชมนาดนั่งอยู่บนเรือน ร้อนใจแต่พยายามสงบ พิมกับปุกนั่งอยู่อีกทาง พิมยุกยิก
"พี่มากพี่มั่นจะเป็นอย่างไรบ้างก็ไม่รู้ พ่อใหญ่ถึกจะได้เรื่องหรือเปล่านะ"
ปุกกระซิบ
"ต้องได้สิเจ้าคะ"
พิมกระซิบตอบ
"ไม่ต้องมาเข้าข้างกันเลย ตอนทำไม่เห็นมาบอก"
ปุกค้อนพิมชะเง้อคอมองแบบใจร้อน
ชมนาด สีหน้าวิตก
บ่าวชมนาดเดินขึ้นเรือนมาอย่างเร่งร้อน
"ได้ความอย่างไรบ้าง"
"เรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ ตอนนี้ทั้งสองคนอยู่ที่เรือนพ่อใหญ่ถึกแล้วเจ้าค่ะ"
ชมนาดถอนหายใจโล่งอก

ในห้องชมนาด ชมนาดกราบพระ บ่าวนั่งรออยู่ด้านหลัง
"ขอให้พระคุ้มครองให้พี่มากปลอดภัยด้วยเถิด"
"คุณชมนาดเจ้าขา ทำไม ต้องให้สองคนนั้นไปอยู่ที่เรือนพ่อใหญ่ถึกด้วย คุณชมนาดไม่กลัว ไม่กลัวคุณหลวงรู้หรือเจ้าคะ"
"รู้แล้วจะเป็นอย่างไร ดีซะอีก อย่างน้อย การที่สองคนมาอยู่เสียที่เรือนพ่อใหญ่ถึก ใครที่คิดจะลงไม้ลงมือ ต้องระวังให้หนัก"
"บ่าวไม่เข้าใจเจ้าค่ะ"
"เอ็งจะไปรู้อะไร ไอ้เรื่องจับผีนั่นก็ยกไปเถอะ ข้าเห็นว่า ทำแล้ว ผู้คนบางพระโขนงก็ได้ประโยชน์ ข้าไม่รู้จะขวางทำไม แต่ถ้าคิดจะฆ่าคนน่ะ มันผิดกฎบ้านกฎเมือง ถึงจะเป็นเจ้าใหญ่นายโตก็เถิด มันต้องเกรงอาญาบ้านเมืองกันบ้าง"
"แหมความคิดคุณชมนาดนี่ช่างล้ำลึก"
"ทางนึง พ่อข้าจะได้รู้ว่า คนที่พ่อเลือกมาให้น่ะ ไม่ใช่จะดิบดี ถ้าข้ามีเหตุผลที่เหมาะสม ข้าอาจจะปฏิเสธได้ พ่อข้าคงไม่เอา ยศถาบรรดาศักดิ์ไปแลกกับ คนพวกนั้นหรอก ข้ารู้จักพ่อข้าดี
อีกทางหนึ่ง สองคนนั้น ถ้าอยู่ใกล้ข้าก็จะปลอดภัยมากกว่า"
บ่าวยิ้มชื่นชม
ชมนาดนิ่งคิด วางแผน

พิมนั่งคิด ปุกจัดที่นอนให้ ปากก็บ่น
"คุณชมนาดนี่คิดยังไง ทำไมต้องให้สองคนนั้นมาอยู่ที่เรือนพ่อใหญ่ถึกด้วย ทำไมไม่ให้เขากลับเรือนไปล่ะ ทำอย่างนี้เป็นภาระให้พ่อใหญ่ชัดๆ"
"แล้วปุกจะให้เขามาอยู่ที่เรือนนี้หรือ"
"ตายจริง คุณพิม ทำไมพูดแบบนี้ เราเป็นสาวเป็นนาง จะพูดอะไรให้ระวังนิดนึง"
"โอ๊ย เพราะต้องระวังอย่างนี้ไง คุณชมนาดถึงได้ให้สองคนนั่นมาอยู่กับพ่อใหญ่ถึก"
ปุกมองพิมนิ่ง
"แสดงว่าคุณชมนาดมีแผนหรือเจ้าคะ แผนอะไรกัน"
"ฉันก็ไม่รู้ใจเขาหรอกนะ แต่ถ้าปล่อยให้สองคนนั้นอยู่ไกลก็จะไม่ปลอดภัย ปุกก็รู้ คนอย่างพี่เพลิงน่ะ เล่นไม่เลิก แต่คุณชมนาดลงทุนลงแรงขนาดนี้ แสดงว่าต้องคาดหวังอะไรอยู่"
"คาดหวังอะไรกัน"
"อ้าว ถ้าฉันรู้ฉันก็เป็นคุณชมนาดสิจ๊ะ ยายปุก"
พิมหัวเราะ แล้วลุกขึ้นเดินไป ปุกมองตามคิด อ่อนใจ

"ทำไม ผู้หญิงพวกนี้ช่างคิดซับซ้อน"
 
อ่านต่อหน้า 4

แม่นาก ตอนที่ 16 (ต่อ)

บนเรือน ขุนเพชร พวงจันทร์ เพลิงนั่งชุมนุมกันอยู่ พวงจันทร์ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ปลื้มลูกชาย ขุนเพชร ตบหลังตบไหล่

"เอ็งมันเก่งไม่หยอกนี่หว่า"
"แน่ใจนะ นังนากมันจะไม่มาก่อกวนพวกเราได้อีก"
"แน่ใจสิแม่ ฉันเห็นพ่อหมอทิ้งหม้อมันลงก้นแม่น้ำกับตา แล้วตอนไปก็มีแค่ฉันกับพ่อหมอสองคนเท่านั้น ใครมันจะมีปัญญาไปงมหม้อขึ้นมาได้"
ขุนเพชรตบมือดีใจ
" ให้มันได้อย่างนี้สิวะ เอ็งนี่มันเก่งได้พ่อไปจริงๆ"
"เห็นมั๊ยคุณพี่ พ่อเพลิงน่ะไม่ได้เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่ออย่างที่ใครๆเขาพูดกันหรอก แม่ภูมิใจในตัวพ่อเพลิงจริงจริ๊ง"
"แล้วต่อจากนี้เราจะทำอะไรต่อล่ะ ข้าร้อนใจอยากจะสู่ขอแม่ชมนาดกับหลวงณรงค์ซะที ถ้าเมื่อไหร่ได้เป็นทองแผ่นเดียวกัน ข้าจะทำอะไรก็ยิ่งง่าย ไม่ต้องเกรงใจไอ้พวกคนเก่าคนแก่"
"ใจเย็นอีกนิดนะเจ้าค่ะคุณพี่ รอให้ พ่อเพลิงเผด็จศึกแม่ชมนาดได้เสียก่อน"
"เฮ้ย ไอ้เพลิง เรื่องแบบนี้อย่าให้เสียชื่อพ่อนะ ผู้หญิงคนเดียวน่ะ ต้องจัดการให้อยู่หมัด"
"พ่อกับแม่ไม่ต้องห่วง ฉันจัดการได้แน่นอน แค่ผู้หญิงคนเดียว จะไปยากอะไร"
เพลิงยิ้มมั่นใจมาก ขุนเพชร พวงจันทร์มองลูกชายอย่างปลื้มสุดใจ
"จริงสิ แล้วคราวนี้แม่จะให้อะไรฉันเป็นรางวัลเล่า ฉันเหนื่อยแสนสาหัสเลยนะแม่จ๋า"
พวงจันทร์มองเพลิงอย่างเอ็นดู
"ขอให้เรื่องมันเรียบร้อยก่อนเถอะ พ่อเพลิงจะเอาอะไรแม่ให้ได้ทั้งนั้น"
"แล้วน้องเป็นยังไงบ้าง อยู่ทางโน้นน่ะ พ่อเพลิงแวะเยี่ยมน้องบ้างหรือเปล่า"
เพลิงชะงักหน้าไม่พอใจ
"นังพิมน่ะหรือ ข้าไม่อยากพูดถึงมัน รำคาญ"
"อ้าว น้องทำอะไรให้เอ็งไม่พอใจหรือ"
เพลิงอารมณ์หงุดหงิดทันที ขุนเพชรมองแปลกใจ พวงจันทร์รีบไกล่เกลี่ย
"อย่าเพิ่งพูดเรื่องนี้กันเลยน่าคุณพี่ ลูกเพิ่งกลับมาเหนื่อยๆ ไปลูกไปอาบน้ำอาบท่านอนพักให้สบายใจก่อนนะ แม่จะสั่งคนเตรียมสำรับของโปรดของลูกไว้"
พวงจันทร์รุนหลังให้เพลิงไป
ขุนเพชรมองแปลกใจ
"ไอ้พี่น้องสองคนนี่มันอะไรกันนักกันหนาวะ"

เช้าต่อเนื่องมา ทางเดินในตลาด และชุมชน มีคนเดินพูดคุยกัน
คนขายปลากับชาวบ้านคุยกัน
"เอ็งสังเกตมั๊ย หลายวันมานี่ ข้าไม่ได้ยินเสียงเพลงกล่อมลูกตอนโพล้เพล้เลย"
"จริงสิ ได้ยินว่าอีนากมันโดนจับลงหม้อถ่วงน้ำแล้ว"
"สมน้ำหน้ามัน เป็นผีไม่อยู่ส่วนผี มาร้องเรียกหาผัว ทำคนเขาเดือดร้อนกันไปหมด"
"ทำร้ายคนอื่นตายไปตั้งมากตั้งมาย เวรกรรมตามมันทันแล้วหละ"
ชาวบ้านคนอื่น ทำท่าเห็นด้วย
จำปีกับลำจวน ยืนฟังด้วยความไม่พอใจ จำปี จะปรี่ออกไปเอาเรื่อง แต่ลำจวนรีบดึงไว้
"เอ็งจะขวางข้าทำไม ไม่ได้ยินที่มันพูดถึงนากหรอกหรือ"
"ได้ยิน แต่ไม่เห็นหรือว่า เขาคนมากกว่า คิดว่าสู้เขาได้มั๊ย"
จำปีฮึดฮัด มองอย่างไม่พอใจ
สามเกลอเดินมา จำปีปรี่เข้าไปหา
"พี่โพล้ง บอกข้ามาเดี๋ยวนี้ ไอ้ที่คนเขาลือกันมันจริงหรือ"
โพล้งงง
"ลือกันเรื่องอะไรหรือนังจำปี"
"ก็เรื่องนังนากไง แล้วไอ้ทิดมากมันหายหัวไปไหน ไม่คิดจะช่วยจะเหลือเมียมันบ้างหรือ"
โพล้งตกใจ อุดปากจำปีทันที จำปีตาเหลือกทุกคนกึ่งลากกึ่งอุ้ม จำปีออกไป

จำปีทำท่าเหมือนจะเป็นลม ลำจวนประคองให้จำปีนั่ง ทุ้ย เค้ง โพล้งยืนมองหนักใจ
จำปีสะอื้น
"ไอ้คนใจร้าย ถึงกับจับถ่วงน้ำกันเลยหรือ แล้วพี่มากไม่คิดจะช่วยจะเหลือนากมันบ้างหรือ"
"ไอ้มากมันจะไปช่วยอะไรได้ ไอ้มากกับไอ้มั่นก็เจ็บหนักปางตาย ต้องไปอาศัยเรือนพ่อใหญ่ถึกอยู่โน่น"
ทุ้ยบอก
"เอ็งอย่าโวยวายไปนักเลยนังจำปี ชาวบ้าน ก็ไม่มีใครอยากพูดอะไร เพราะเขากลัวผีนังนาก ทุกคนยิ่งดีใจที่รู้ว่านังนากมันถูกจับถ่วงน้ำ"
"ไอ้พวกคนใจร้าย นากมันไม่เคยทำอะไรใครก่อนเลย มีแต่คนเท่านั้นแหละที่ไปวุ่นวายกับมัน"
"แต่ฉันว่า นากไม่อยู่ก็ดีนะ ไปอยู่ไกลๆผู้คนบ้าง มันก็ ..."
ทุ้ยกับโพล้งหันไปทุบเค้งอย่างแรง
"ก็ฉันพูดความจริงนี่นา"

"ฉันสงสารนากเหลือเกิน โธ่นากเอ๊ย เวรกรรมอะไรของเอ็งนักหนานะ"

เวลาต่อมา ป้าเงินเดินกระย่องกระแย่งมาเรือนพ่อใหญ่ถึกอย่างร้อนใจ ตามหลังด้วยสามเกลอและสองสาว

โพล้งบอก
"บอกแล้วว่าไม่ให้บอกป้าเงิน"
"โอ๊ย พี่โพล้งไม่รู้จักนิสัยนังจำปีมันหรือ นังนี่ไม่ได้ฟ้องอกแตก" ลำจวนว่า
"ทีนี้ จะทำยังไง มาหาพ่อใหญ่ถึกถึงเรือนเลย งานนี้พ่อใหญ่ถึกโดนด่าแน่"
ป้าเงินชะงัก หันไปมองทุกคนด้านหลัง
"ไอ้ทุ้ย อย่างมึงเนี่ยไม่เรียกนินทาหลับหลังแล้วนะ มึงด่ารดหัวข้าเลยนะโว๊ย"
ทุ้ยยกมือไหว้ปะหลกๆ
"ถึงยังไง ไอ้มากมันก็เห็นอีนาก กูต้องมาดูให้เห็นกับตา ว่ามันเป็นตายร้ายดียังไง"
ทุกคนยกมือไหว้ป้าเงินโดยพร้อมเพรียง
"สาธุ"
ป้าเงินโมโห หันไปมองที่เรือนพ่อใหญ่ถึก
"พ่อใหญ่ถึก ข้ายายเงิน ออกมาหาข้าหน่อยเร็ว"
พ่อใหญ่ถึกโผล่หน้าออกมา พอเห็นป้าเงิน พ่อใหญ่ถึงอ้าปากค้าง

พ่อใหญ่ถึกเปิดประตูห้อง เดินเข้ามา ป้าเงิน จำปี ลำจวนเดินตามแล้วมา ป้าเงินชะงัก
เห็นมากกับมั่นนอนซม สองคนพยายามทรงกายลุกขึ้น
มาก/มั่นเรียก"ป้าเงิน"
"ไอ้มาก ไอ้มั่น นี่มันเกิดเรื่องอะไรกัน"
ป้าเงินหันไปมองพ่อใหญ่ถึก พ่อใหญ่ถึกหลบตา
"ใครก็ได้ช่วยบอกข้าทีว่า นี่มันเรื่องอะไรกันแน่"
มาก/มั่นบอก "ไม่มีอะไร"
"เอ็งสองตัวไม่ต้องโกหก นี่ข้าเห็นเอ็งสภาพนี้หลายครั้งแล้วนะ บอกข้ามาสิ เรื่องมันเป็นยังไง"
"ข้าผิดเอง"
ทุกคนหันไปมองหน้าพ่อใหญ่ถึกที่มีสีหน้าสำนึกผิด

พ่อใหญ่ถึกยกมือไหว้ หลังจากได้คุยกัน
"ฉันต้องกราบขอโทษ ฉันถูกผู้ใหญ่ทางโน้นขอร้องมา"
"แล้วพ่อใหญ่จะปฏิเสธไม่ได้เชียวหรือ นี่ถึงขั้นร่วมมือกันเลยนะ"
"ข้าคิดแค่ว่า ถ้าเขาปราบนากได้ คนบางพระโขนงก็จะสงบสุข แต่ไม่คิดว่าจะเลยเถิดกันถึงขั้นจะเอาชีวิตแบบนี้ นี่ถ้าไม่ได้คุณชมนาดช่วยไว้ ไอ้สองคนนั่นคงจะแย่กว่านี้"
ป้าเงินชะงัก
"คุณชมนาดเป็นใคร"
"คุณชมนาด เป็นลูกสาวท่านหลวงณรงค์ขุนนางใหญ่จากพระนคร ตอนนี้มาปลูกเรือนพักอยู่ที่พระโขนงนี่"
ลำจวนกับจำปีมองหน้ากันทำตาโต
"แล้วเขามาช่วยไอ้มากกับไอ้มั่นไว้ทำไมล่ะ"
"ฉันก็ไม่รู้เหตุผลแน่แท้ แต่ว่า มันก็ดีกับไอ้สองคนนั่นไม่ใช่หรือ อย่างน้อยมันก็รักษาชีวิตไว้ได้"
"พ่อใหญ่ถึก"
เสียงปุกดังเข้ามา ทุกคนหันขวับไปมอง

มากกับมั่นนั่งอยู่ในห้อง มากขยับตัว เจ็บร้าวไปทั้งร่าง
"ครั้งนี้พวกมันทำกับข้าสาหัสนัก ข้าต้องเอาคืนพวกมันให้จงได้"
มากนั่งนิ่ง มั่นมองมากไม่พอใจ
"อะไรกัน นี่เอ็งไม่เจ็บไม่แค้นบ้างเลยหรือ"
"เจ็บสิ ข้าเจ็บเสียจนไม่รู้จะพูดอย่างไร ข้าเสียใจที่ช่วยนากไม่ได้"
มั่นชะงัก มองมากเห็นใจ
"ข้าขอโทษ ที่มองเอ็งผิดไป"
"พี่มั่น พี่คิดดูให้ดี หากนากยังอยู่ ผู้คนทั้งบางพระโขนงก็ต้องเดือดร้อน แล้วข้า จะทนอยู่ได้อย่างไร ถ้าไม่เกิดเรื่องนี้เสียก่อน ข้าคง คิดจะฆ่าตัวตาย เพื่อไปอยู่กับนากแล้ว"
มากซบหน้าลงกับฝ่ามือร้องไห้
"ไอ้มาก"
"ต้องใช้ชีวิตต่อไป โดยไม่มีนาก ข้าทรมานเหลือเกิน นาก ข้าคิดถึงเอ็งเหลือเกิน"
มากร้องไห้ มั่นมองอย่างสงสาร
พ่อใหญ่ถึกเดินเข้ามา มองมากอย่างเกรงใจ
"มากเอ๊ย มีคนมาเยี่ยมเอ็งแน่ะ"
มากลุกขึ้น จะเดินออกไป
"ไอ้มากเอ๋ย ยกโทษให้ข้าด้วย"
มากชะงักหันมามองพ่อใหญ่ถึกแล้วฝืนยิ้ม
"ฉันเข้าใจ พ่อใหญ่ต้องทำเพื่อคนบางพระโขนงทุกคน ฉันจะเห็นแก่ตัวไม่ได้"
มากกับมั่นเดินออกไป พ่อใหญ่ถึกถอนหายใจ สะอืก ละอายแก่ใจ

มากกับมั่นเดินออกมาจากห้อง ชมนาดกับพิมนั่งอยู่
ชมนาดยิ้มดีใจ
"พี่มาก พ่อมั่น สีหน้าดีขึ้นแล้วนี่ ยังเจ็บตรงไหนบ้างหรือเปล่า"
"ขอบพระคุณคุณชมนาดที่ช่วยเหลือ กระผมรู้สึกดีขึ้นแล้ว"
"จริงสิ เราจะขอกลับไปอยู่ที่เรือนเรา"
"ไม่ได้"
ทุกคนมองชมนาดแปลกใจ ชมนาดรู้สึกตัว รีบเปลี่ยนน้ำเสียง
"ฉันว่ารักษาตัวอยู่ที่นี่อีกระยะหนึ่งเถอะนะ ให้แน่ใจว่า ปลอดภัย แล้วค่อยกลับไป"
"ถ้าเช่นนั้นฉันจะขอออกไปสูดอากาศบ้างได้หรือไม่"
"ได้สิ พี่จะไปที่ไหนหรือ"
ทุกคนมองหน้ามาก อย่างแปลกใจ
ทิ้งภาพที่หน้ามากนิ่ง

บนเรือน ป้าเงินนั่งเงียบใช้ความคิด ไม่พูดไม่จา
สองสาว สามเกลอกำลังนั่งล้อมวง โพล้งวางจอกน้ำลง มองป้าเงิน
"พวกเอ็งสังเกตมั๊ย ป้าเงินนิ่งเงียบมาตลอดเลย ตั้งแต่กลับมาจากบ้านพ่อใหญ่ถึก" โพล้งว่า
ทุ้ยบอก
"แกคงเหนื่อย แกแก่แล้วนะพี่โพล้ง"
"นั่นสิ แล้วพี่ไม่เหนื่อยบ้างหรือ" เค้งว่า
"ไม่!!กูยังหนุ่มมาก"
เค้งกับโพล้งทำหน้าไม่เชื่อถือ
"อยากรู้ก็ถามสิ" จำปีบอก
ด้านป้าเงิน กำลังคิดถึง เรื่องที่ผ่านมาสักครู่ ... หน้าบ้านผู้ใหญ่ถึก

ทุกคนหันไปมองที่หน้าบ้าน
ปุกถือตะกร้าข้าวของขึ้นมา พิมเดินตามขึ้นมา คนสุดท้ายคือชมนาด ชมนาดเดินวางท่างสง่า
ป้าเงินมองแปลกใจ
"อ้าวคุณชมนาด คุณพิม มาแต่เยี่ยมไอ้มากแต่เช้าเชียวนะขอรับ"
ชมนาดพยักหน้า ปุกเปิดตระกร้า
"คุณชมนาดลงครัวเอง ทำข้าวต้มปลาร้อนๆมาให้คนป่วยกินไล่เหงื่อ ประเดี๋ยวฉันไปจัดการเอง"
"เป็นบุญของไอ้มากไอ้มั่นมัน ที่ได้คุณชมนาดคอยอุปถัมภ์... ยายเงิน นี่ไง คุณชมนาด"
ป้าเงินชะงักมองหน้า ชมนาดยิ้ม รีบยกมือไหว้ป้าเงินก่อนแบบสวยงาม
"ป้าเงินหรือจ๊ะ ฉันได้ยินชื่อป้ามานาน ได้ข่าวว่า ฝีมือทำกับข้าวของป้าขึ้นชื่อที่สุดในบางพระโขนง"
ป้าเงินงง ไปไม่เป็น ไม่คิดว่าชมนาดนะวางตัวดูดีขนาดนี้
"ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกเจ้าค่ะคุณชมนาด"
"กะไรได้จ๊ะ ฉันอยู่ถึงพระนคร ยังได้ยินเรื่องราวน้ำพริกขี้กา ของป้าเงินเลย"
จำปีกับลำจวนเบ้ปากใส่กัน
"เอ สองคนนี้ คนไหนจำปี คนไหนลำจวนกันล่ะจ๊ะ สวยทั้งสองคนเลย"
จำปีกับลำจวนงง ชมนาดยิ้มแย้มแจ่มใสทักทายทุกคน
ป้าเงินมองชมนาด แล้วยิ้มชื่นชม

ป้าเงินยิ้ม ทุกคนรอฟัง หลังจากที่ป้าเงินเงียบมานานจากบ้านผู้ใหญ่ถึกจนถึงบ้านตัวเอง
"เฮ้อ วาสนาของไอ้มากมัน มีผู้หญิงสูงศักดิ์มาสนใจ"
จำปีเสียงดัง "ทำไมป้าพูดแบบนั้น"
ป้าเงินสะดุ้ง หันไปมองหน้าจำปี
"อีบ้า เอ็งเป็นอะไรของเอ็ง คิดจะตะโกนก็ตะโกน"
"ก็ป้าพูดแบบนั้นมันหมายความว่าอย่างไร นี่เข้าข้างแม่ชมนาดอะไรนั่นใช่มั๊ย แล้วนากล่ะ"
"กูไม่เข้าข้างใครทั้งนั้น การที่คุณชมนาดเขาจะรักใคร่ใยดีในตัวไอ้มาก ใครจะไปบังคับเขาได้ มันขึ้นกับไอ้มากต่างหากที่จะคิดอ่านยังไงกับเขา เอ็งอย่ามาโวยวายแบบนี้"
"แล้วนากล่ะ นากจะทำอย่างไร จะต้องเป็นผีใต้น้ำแบบนั้นอีกนานแค่ไหน"
ป้าเงินถอนหายใจ
"แล้วเอ็งรู้มั๊ย ว่าจะช่วยนากมันได้ยังไง"
จำปีฮึดฮัด
"ข้าคิดถึงอีนากไม่น้อยกว่าพวกเอ็งหรอก แต่เราจะทำยังไงได้ อำนาจวาสนาก็ไม่มี ซ้ำอีนากมันก็เป็นผีไปแล้ว ทุกอย่างต้องขึ้นกับใจไอ้มากมันแล้วล่ะ"
จำปีร้องไห้สะอึกสะอื้น ป้าเงินเมินหน้าปาดน้ำตาเงียบๆ
ทุ้ย เท้ง โพล้ง ลำจวนมองหน้ากัน อึดอัดใจ

มากเดินมากับชมนาด ชมนาดมองซ้ายมองขวา
"พี่จะมาที่นี่ทำไมกัน"
"นี่คือหลุมศพของนาก กับไอ้แดง เมียกับลูกของกระผม"
ชมนาดชะงัก มองหน้ามาก ฝืนยิ้ม
"จริงหรือ ดีเลย ข้าจะได้ไหว้สาแม่นากเป็นทางการเสียที"
มากนิ่งไม่พูดไม่จา เดินไปคุกเข่าที่หน้าหลุมศพ นาก
"นาก พี่ขอโทษ พี่ขอโทษที่ช่วยนากไม่ได้"
มากร้องไห้หน้าหลุมศพ ชมนาดยืนมองนิ่ง ชมนาดค่อยๆคุกเข่าลงข้างๆมาก
"พี่มาก อย่าทำแบบนี้เลย"
"ข้าไม่น่าไปเป็นทหาร ข้าไม่ควรทิ้งนากไปเลย"

มากก้มลงคร่ำครวญ ชมนาดพยายามประคองให้มากลุกขึ้น
 
อ่านต่อตอนที่ 17
กำลังโหลดความคิดเห็น