รัตนาวดี ตอนที่ 16
ตอนกลางคืน ท่านดนัยเดินเข้ามาในห้องพักด้วยท่าทางกลุ้มใจ เดินไปเดินมาด้วยสีหน้าใช้ความคิด... สักครู่เดินมานั่งที่โต๊ะเขียนหนังสือ หยิบกระดาษเขียนจดหมายออกมา คิดนิดหนึ่งแล้วเขียนจดหมายถึงท่านชายพจน์
"ท่านพี่ที่รัก...เวลานี้หม่อมกลุ้มเหลือเกิน น้องหญิงเย็นชากับหม่อม...ไม่มอง ไม่พูดด้วย...คงจะเป็นเพราะเคยเห็นหม่อม กับหนูอาดอยู่ด้วยกันที่หน้าห้องนอน...หม่อมชักจะเดือดร้อนกับหนูอาดนี่ เธอติดหม่อมแจแล้วยังทำท่าไม่พอใจถ้ามีคนอื่นมาเข้าใกล้ ตอนนี้มีสหายสนิทน้องหญิงชื่อ วิมล มาเที่ยวด้วย หม่อมกับวิมลนี่ดูจะไม่ถูกชะตากันเลย...หม่อมกลัวว่าวิมลจะรู้ว่า เป็นนายเล็กปลอมตัวมา ดูท่าทางคอยจับผิดหม่อม หม่อมไม่ควรเลยที่อุตริปลอมตัวมาเป็นนายเล็กเช่นนี้...ดีไม่ดีหม่อมเสียท่าโดนจับได้ น้องหญิงยิ่งโกรธตัดขาดกับหม่อม...หม่อมคงตายแน่....หม่อมหวังอย่างเดียวว่าวิมลจะไม่รู้จักหม่อม"
ท่านดนัยเขียนมาถึงตรงนี้ก็วางปากกา มองเหม่อด้วยสีหน้ากลุ้มใจ...
รัตนาวดีเปลี่ยนเป็นชุดสบายๆ ยืนมองวิวที่ระเบียงห้องพัก วิมลเดินเข้ามาในห้องมองหา
"ท่านหญิง...ท่านหญิงเพคะ"
รัตนาวดีร้องเรียกมาจากระเบียง
"ฉันอยู่ที่ระเบียง...ออกมาซิวิมล...วิวตรงนี้สวยจริงๆ"
วิมลเดินออกมาหารัตนาวดีที่ระเบียง พอเห็นวิวสวยงามก็ตื่นตาตื่นใจ
"แหม...วิวห้องบรรทมฝ่าบาทสวยเหลือเกินเพคะ"
รัตนาวดีพูดด้วยสีหน้าเศร้านิดๆ
"นายเล็กมักจะเลือกห้องพักได้ถูกใจฉันเสมอ"
วิมลหรี่ตาอย่างเอาเรื่องเอาราวขึ้นมาทันที
"หม่อมฉันสงสัยว่านายเล็ก"
รัตนาวดีรู้สึกตัว หันมาพูดอย่างไม่พอใจ
"นี่วิมล...หยุดพูดเรื่องนายเล็กได้ไหม...หญิงขี้เกียจฟัง"
วิมลพยายาม
"หม่อมฉันจะเล่าอะไรถวายเรื่องนายเล็ก...หม่อมฉันสงสัยว่า.."
รัตนาวดีเอามือปิดปากวิมลทันที
"สงสัยอะไรก็เก็บไว้เองเถอะวิมล...หญิงไม่อยากรู้ ไม่อยากฟัง...แล้วขอเสียทีเถอะ อย่าพูดถึงนายเล็กให้หญิงได้ยินอีกเป็นอันขาด...รู้มั้ย...อย่าเป็นอันขาด"
วิมลพยักหน้า ทั้งๆ ที่ยังโดนรัตนาวดีเอามือปิดปากไว้...
ป้าสร้อยอาบน้ำออกมา...วิมลเดินเข้ามาจากระเบียง
"ยังไม่นอนอีกเหรอวิมล"
วิมลเดินไปเดินมาอย่างครุ่นคิด
"นอนไม่ลงค่ะคุณป้าสร้อย...มันมีเรื่องต้องคิด"
"เรื่องอะไร...แหม...ทำไมต้องทำหน้าเอาเรื่องอย่างนั้นด้วยล่ะ""ก็เรื่องนายเล็กนะสิคะ"
ป้าสร้อยยกมือห้ามทันที
"หยุดเลยวิมล...ก็บอกแล้วไงว่าไม่อยากฟัง...เบื่อ..คุยเรื่องอื่นกันดีกว่า"
วิมลลงนั่งอย่างหมดแรงไม่รู้จะทำยังไงดี ป้าสร้อยมองแล้วก็หัวเราะ
"เรานี่เหมือนเมื่อตอนเด็กๆ ไม่มีผิด...คอยจับผิดอยู่เรื่อย อย่าไปยุ่งกับเค้าเลย"
ป้าสร้อยเดินไปหยิบหนังสือไกลบ้านมานอนอ่าน
วิมลคิดว่าจะอย่างไรดี
รัตนาวดีที่ยืนอยู่ที่ระเบียง ....
คืนนั้น วิมลเขียนจดหมายส่งไปหาประวิช พี่ชาย...
"เรียนคุณที่เคารพ ดิฉันมาถึงสวิสแล้วค่ะ ได้มาพบคุณป้าสร้อยและได้เฝ้าท่านหญิงแล้ว...ดิฉันมีเรื่องอัดอั้นใจจะพูดกับใครก็ไม่มีใครยอมฟัง...ดิฉันจึงต้องเขียนจดหมายมาเล่าให้คุณฟัง ท่านหญิงน่ะสิคะคุณ...ไม่ทราบว่าท่านเป็นอะไร...จดหมายของท่านที่ส่งถึงดิฉันที่อังกฤษ ทรงเล่าถึงการท่องเที่ยวว่าทรงสนุก มีความสุขมากพูดถึงนายเล็กเต็มไปหมด...แต่พอดิฉันมาถึงท่านกลับเฉยๆ จนผิดปรกติ...ดูๆ ไปไม่เห็นท่านจะทรงสนุกตรงไหน...แต่สิ่งที่ดิฉันคิดไม่ถึงเมื่อมาที่นี่ก็คือ...นายเล็กที่ท่านเคยเล่าถึงว่าเป็นมหาเล็กที่ท่านดนัยส่งมา กลับไม่ใช่นายเล็กแน่ๆ เพราะดิฉันเคยเจอนายเล็กมาก่อน หน้าตาไม่ใช่อย่างนี้ซักนิด...ดิฉันพยายามจะทูลท่านหญิง แต่ท่านก็ไม่ยอมฟัง คุณป้าสร้อยก็พลอยไม่ยอมฟังไปด้วย"
ปริศนากำลังนั่งอ่านจดหมายวิมลด้วยสีหน้าไม่สบายใจ
"ดิฉันสงสัยว่านายคนที่ปลอมตัวเป็นนายเล็กนี่แกเป็นใครมาแต่ไหน ต้องการอะไรจึงปลอมตัวมารับใช้ท่านหญิง กับคุณสร้อยอยู่ได้ จะว่าเป็นผู้ร้ายก็ไม่ถนัด เพราะหน้าตาดีมาก ท่าทางก็โก้ เรียบร้อย ดูแลท่านหญิงอย่างดี ป้าสร้อยเรียกขอความช่วยเหลือจากแกจนติดปาก คำก็นายเล็ก สองคำก็นายเล็ก แกก็รับใช้ทุกอย่างไม่รังเกียจรังงอนซักอย่าง ดิฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมแกถึงปลอมตัวเป็นคนอื่น เขาจับได้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน...แต่คุณไม่ต้องห่วงค่ะ...ดิฉันจะต้องสืบให้ได้ว่านายเล็กตัวปลอมคนนี้เป็นใคร"
ปริศนาพับจดหมายเก็บ สีหน้าวิตกกังวล
"วิมลจะทำเรื่องแตกซะละมั้ง"
ประวิชหัวเราะ
"เล่นกับใครไม่เล่น เล่นกับยายวิมล ช่างเอาเรื่องจับผิดคนเป็นที่หนึ่ง"
"รีบเขียนจดหมายไปบอกวิมลดีไหมประวิช เดี๋ยวท่านดนัยโดนวิมลจับโกหกได้"ปริศนาว่า
"ถ้าปริศนาทำอย่างนั้น ท่านหญิงจะทรงกริ้วได้ว่าปริศนาสมรู้ร่วมคิดปิดท่าน"
ปริศนาถอนใจอย่างครุ่นคิด
"ทำไงดีล่ะประวิช"
"ผมเชื่อว่าท่านดนัยจะทรงแก้ปัญหานี้ได้นะปริศนา"
ปริศนากลุ้มใจ...
วันใหม่ บรรยากาศบนเรือที่ Steam Boat Brienzsee ป้าสร้อย เก็จกำง๋ง วีระสิงห์ นั่งทานของว่างและคุยกันในห้องเคเบิ้ลเรือ ส่วนรัตนาวดี วิมล ยืนมองวิวรอบๆ ด้วยสีหน้าพอใจ
ท่านดนัยถ่ายรูปให้สะอาดศรีแต่ยังแอบมองรัตนาวดี วิมลคอยมองจับผิดท่านดนัย สะอาดศรีชวนท่านดนัยคุย
รัตนาวดีแอบมองท่านดนัยทำท่าสนิทสนมกับสะอาดศรี แอบเศร้า วิมลสังเกตเห็นท่าทางท่านหญิงที่แอบมองท่านดนัย
ในเคเบิ้ลเรือ เก็จกำง๋งนั่งคุยอยู่กับป้าสร้อย และวีระสิงห์
"ผมต้องขอบคุณคุณสร้อยมากที่อนุญาตให้ผมกับลูกได้ตามมาเที่ยวด้วย...ไม่อย่างนั้นคงไม่ได้มาเที่ยวดีๆ แบบนี้"
ป้าสร้อยพูดอย่างเป็นเรื่องราว
"คุณต้องขอบใจนายเล็กด้วยที่เขารู้จักจะพาเราเที่ยว"
"จริงครับ...ผมชอบคุณเล็กมาก...ยิ่งคุยกันก็ยิ่งถูกชะตา"
ป้าสร้อยพูดหัวเราะๆ
"ถูกชะตาถึงกับจะเกี่ยวดองกันหรือเปล่าจ้ะ...ดูแล้วน่าจะมีทางเป็นไปได้"
เก็จกำง๋งสีหน้าหม่นลง
"ผมว่าอย่าไปหวังอะไรให้มากเลยครับ"
ป้าสร้อยแปลกใจ
"อ้าว...ทำไมพูดอย่างนั้นล่ะ ฉันก็เห็นสนิทสนมกันดีออก"
"คุณเล็กเป็นคนดีครับ...เป็นสุภาพบุรุษ...พูดตรงๆ เลย"
เก็จกำง๋งหัวเราะสบายใจ
"ผมน่ะอยากได้เค้าเป็นลูกเขยจะแย่....แต่...ผมคิดว่า คุณเล็กคงมีผู้หญิงอยู่ในใจเค้าแล้วครับ...กับหนูอาด เค้าเอ็นดูเหมือนเป็นน้องนุ่งมากกว่าครับ"
วีระสิงห์เห็นด้วยกับพ่อ...สะอาดศรีเข้ามาดึงตัววีระสิงห์ให้ออกไปถ่ายรูป
"พี่เชิด ช่วยไปถ่ายรูปให้หนูอาดกับคุณเล็กหน่อย"
วีระสิงห์ทำท่าอิดออด สะอาดศรีฉุดแขนลากออกไป
สะอาดศรีเข้าไปตามวีระสิงห์ให้มาถ่ายรูปตัวเองกับท่านดนัย วีระสิงห์หันไปหารัตนาวดีกับวิมล
"มาถ่ายรูปด้วยกันสิครับ"
รัตนาวดีสั่นหน้า แต่วิมลรีบวิ่งเข้ามาถ่ายรูปด้วย...วิมลทำเป็นยิ้มดีใจ
"ขอบคุณค่ะ"
วิมลเข้าไปยืนเบียดท่านดนัยคนละข้างกับสะอาดศรี ทำให้ท่านดนัยยืนตัวลีบ วิมลคว้าแขนท่านดนัยขึ้นมาควง สะอาดศรีตาเหลือก...จะเห็นรัตนาวดีเดินออกไป
"ฉันว่าคุณถอยห่างออกไปอีกหน่อยดีกว่า...จะได้ไม่เบียดกัน"
วิมลยิ้มแกล้ง
"แหม...ก็มันหนาว...ได้ยืนใกล้ๆ กับคุณเล็กนี่ทำให้อุ่นดีจังเลยค่ะ"
วิมลทำเป็นส่งยิ้มหวานให้ท่านดนัย สะอาดศรีเกิดอาการหึงมาก หันไปพาลวีระสิงห์
"พี่เชิด...พอแล้ว..พอแล้ว...เลิกถ่ายรูป...คุณเล็กขา...เราไปดูทางด้านโน้นบ้างดีกว่า"
วิมลยังไม่ยอมปล่อยแขนท่านดนัย
"จริงด้วยค่ะ...ฉันก็อยากให้คุณเล็กพาไปเหมือนกัน... ไปกันดีกว่านะคะ"
วิมลดึงท่านดนัยจะให้เดินไปอีกทาง สะอาดศรีไม่ยอม ดึงแขนท่านดนัยจะให้ไปอีกทาง
"ไปทางนี้ค่ะคุณ"
วิมลดึงแขนท่านดนัยไว้ จะให้ไปอีกทาง
"ไปทางโน้นกันก่อนค่ะคุณเล็กขา"
สองคนดึงแขนท่านดนัยให้ไปคนละทาง ท่านดนัยทำอะไรไม่ถูก
"เดี๋ยวครับ...เดี๋ยวก่อนครับ"
วีระสิงห์เข้ามาจัดการดึงสะอาดศรีออกมา
"หนูอาด...มานี่ดีกว่า...ไปช่วยพี่เลือกขนมหน่อย"
สะอาดศรีไม่ยอมไป
"ไม่เอา...พี่เชิดชวนวิมลไปสิคะ"
วีระสิงห์ถลึงตา แต่สะอาดศรีไม่สนใจ
"ไม่เอาค่ะ...เธอน่ะแหล่ะไปกับพี่เธอ"
สะอาดศรีหันมาจ้องหน้าวิมลอย่างไม่พอใจ
"เธอนี่..."
วิมล กับ สะอาดศรีหันมาจ้องหน้ากันจึงเผลอดึงท่านดนัย ท่านดนัยสะบัดแขนออกจากสองสาว รีบเดินออกมา
"ผมไปเองครับ"
ท่านดนัยรีบเดินหนีไปอย่างเร็ว
"คุณเล็ก"
วิมลทำท่าเอาอย่างบ้าง
"คุณเล็ก"
สะอาดศรีจ้องหน้าวิมลอย่างไม่พอใจ วิมลทำยิ้มล้อเลียน
อ่านต่อหน้า 2
รัตนาวดี ตอนที่ 16 (ต่อ)
รัตนาวดีเดินมามุมหนึ่งของเรือ ที่ค่อนข้างหลบมุมหน่อย รัตนาวดีถอนใจมองไปรอบๆ ท่านดนัยเดินมายืนใกล้ๆ ยืนมองรัตนาวดีอยู่ครู่หนึ่งเงียบๆ สักครู่รัตนาวดีหันมาเห็นท่านดนัยที่ยืนมองอยู่ก็หลบตา
"ทรงมาอยู่ที่นี่เอง"
"มีอะไรหรือ"
ท่านดนัยเดินเข้าไปหา
"เอ้อ...กระหม่อมมีเรื่องอยากจะทูล"
"เกี่ยวกับเรื่องอะไร"
ท่านดนัยนิ่งคิด พยายามรวบรวมความกล้า
"เกี่ยวกับเรื่องของกระหม่อมเอง"
รัตนาวดียิ้มๆ แต่เศร้าๆ คิดแต่ว่าท่านดนัยจะพูดเรื่องสะอาดศรี
"ทำไม...เธอจะบอกฉันว่าเธอไปหลงรักใครแล้วหรือไง"
ท่านดนัยยิ้มๆ มองรัตนาวดีนิ่งก่อนตัดสินใจ
"กระหม่อม"
รัตนาวดีหน้าเสีย รีบหันหน้าหนี
"แล้วจะมาบอกฉันทำไม...เธอก็ไปบอกเค้าซิ"
ท่านดนัยเดินเข้ามาใกล้อีก
"กระหม่อมถึงได้อยากทูลฝ่าบาท.....ว่า..."
เสียงวิมลดังเข้ามา "ท่านหญิงเพคะ"
วิมลเข้ามาขัดจังหวะพอดี ท่านดนัยถอยห่างออกมา วิมลเห็นสีหน้ารัตนาวดีที่หม่นหมองหน่อยๆ หันไปมองท่านดนัยอย่างเอาเรื่อง
"หนูอาดเค้าเริ่มตามหาคุณแล้วนะ"
"หน้าที่ของผมคือคอยดูแลท่านหญิงครับ"
"ฉันจะดูแลท่านหญิงเอง...เรือใกล้เทียบท่าแล้วไม่ใช่หรือ คุณไปดูแลคนอื่นเถอะนะ"
ท่านดนัยนิ่งไป แต่ก็เดินออกไป วิมลหันมามองรัตนาวดี
"นายเล็กทำให้ทรงไม่สบายพระทัยหรือเพคะ"
รัตนาวดีพยายามทำสีหน้าเป็นปกติ
"หญิงไม่ได้เป็นอะไร"
วิมลมองอย่างห่วงใย
"ฝ่าบาทอาจจะทรงปิดคนอื่นได้...แต่ทรงปิดหม่อมฉันไม่ได้หรอกเพคะ....อยู่ด้วยกันมาแต่เล็กแต่น้อย...ทำไมหม่อมฉันจะดูไม่ออกว่าฝ่าบาทมีเรื่องรบกวนพระทัย"
รัตนาวดีหันมามองวิมลยิ้มเศร้าๆ
"มันเป็นเรื่องไม่เป็นเรื่องที่หญิงต้องตัดใจเอง"
วิมลมองรัตนาวดีอย่างพิจารณา
"แต่หม่อมฉันคิดว่าคงไม่ใช่เรื่องไม่เป็นเรื่องเพคะ...ไม่อย่างนั้นคงไม่ทำให้ท่านหญิงของหม่อมฉันทรงคิดมากอย่างนี้"
ท่านหญิงรัตนาวดีมองวิมลอย่างเข้าใจกัน
สะอาดศรีหน้างอ คอยชะเง้อมองหาท่านดนัย ไม่สนใจกาแฟที่วางอยู่ตรงหน้า
"คุณป้าสร้อยคะ...เอ้อ...คุณวิมลนี่เป็นเพื่อนท่านหญิงเหรอคะ"
วีระสิงห์ปราม
"หนูอาด"
ป้าสร้อยยิ้มๆ
"จ้ะ...แม่วิมลเป็นสหายรักของท่านหญิงมาตั้งแต่เด็กๆ"
"แล้วเค้ามีแฟนหรือยังคะ"
วีระสิงห์ปรามอีก
"หนูอาด...ไม่ใช่เรื่องของเราซักหน่อย"
สะอาดศรีทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
"ก็หนูอาดอยากรู้นี่"
"อยากรู้ไปทำไมจ้ะ"
"อยากรู้เฉยๆ ค่ะคุณป้าสร้อย"
"พอแล้วหนูอาด...เสียมารยาท"
"ตอนอยู่เมืองไทยยังไม่มี...แต่ป้าก็ไม่แน่ใจหรอกนะ เพราะเค้ามาอยู่อังกฤษหลายปีแล้ว"
สะอาดศรีทำหน้าผิดหวังที่ไม่รู้เรื่องว่าวิมลมีแฟนหรือยัง
ร้านฟองดูในเมืองอินเทอร์ลาเคน
ฟองดูสองชุด ชุดหนึ่งเป็นชี้ส อีกชุดหนึ่งเป็นฟองดูแบบของคาวที่ใช้น้ำมันในหม้อ วิมลมองอย่างตื่นเต้น
"หม่อมฉันยังไม่เคยทานเลยเพคะ..ที่ลอนดอนก็มีตามร้านอาหารใหญ่ๆ แต่หม่อมฉันไม่เคยไปทานเพราะคุณนพบอกว่าแพงมาก"
สะอาดศรีแกล้งถามทำหน้าเจ้าเล่ห์ ทุกคนเริ่มทานอาหาร
"คุณนพนี่ใครกันคะ"
วิมลยิ้ม
"เพื่อนรุ่นพี่ของฉันเองค่ะ"
"อ๋อ...นึกว่าเป็นแฟน"
วิมลปรายตามองสะอาดศรีอย่างกวนๆ สะอาดศรีหน้าบึ้งทันที
"ลองเลือกดูสิจ้ะวิมลว่าจะทานแบบไหน...แต่ป้าชอบแบบชี้สนี่ ใช้ขนมปังจุ่มทาน...อร่อย"
ป้าสร้อยทานให้ดู รัตนาวดีหันมายิ้มกับวิมล
"ป้าเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องอาหารสวิสแล้ววิมล"
"ก็นายเล็กเค้าสอนไงเพคะ"
ป้าสร้อยนึกได้ว่าไม่ควรพูด รัตนาวดีหยุดยิ้มทันที วิมลสังเกต
"คุณเล็กนี่รอบรู้ทุกอย่าง...ทำให้พวกบ้านนอกอย่างเราได้ทานแต่ของอร่อยๆ."เก็จกำง๋งบอก
สะอาดศรีมองท่านดนัยตาเยิ้ม...ท่านดนัยมองคนโน้นที คนนี้ทีอย่างรู้สึกอึดอัด ...วีระสิงห์จุ่มขนมปังกับชี้สกิน แล้วนึกอะไรขึ้นมาได้
"ทำไมที่สวิสนี่ใช้หลายภาษาจังเลยครับ...เดี๋ยวฝรั่งเศส เดี๋ยวเยอรมัน...เดี๋ยวอิตาลี"
ท่านดนัยบอก
"เป็นเพราะในอดีตสวิสมีชนเผ่าหลายเชื้อชาติครับ เช่นชนเผ่าอลามานี่ ที่มีเชื้อสายเยอรมัน ชนเผ่าเบอร์กันเดียน มีเชื้อสายฝรั่งเศส รวมถึงชนเผ่าเฮลเวติที่เป็นชนเผ่าดั้งเดิม...แต่ละชนเผ่าก็จะอาศัยอยู่แต่ละภูมิประเทศ "
ตลอดเวลาสะอาดศรีมองท่านดนัยอย่างปลาบปลื้มมาก พอรัตนาวดีเห็นก็ไม่อยากมอง วิมลคอยสังเกตรัตนาวดีแล้วตอนนี้ เก็จกำง๋งฟังท่านดนัยเล่าก็หัวเราะปลาบปลื้ม
"คุณเล็ก...อย่างคุณน่ะไปเป็นอาจารย์สอนประวัติศาสตร์ ได้สบายๆ เลยนะ"
"จริงด้วยค่ะ..คุณเล็ก..กลับไปเป็นอาจารย์ที่เมืองไทยดีกว่านะคะ...นะคะ"
"ก็น่าสนใจครับ...แต่ผมยังไปไม่ได้หรอกครับ"
"อ้าว...ทำไมล่ะคะ...หนูว่าคุณเล็กลาออกจากงานที่ทำตอนนี้แล้วกลับไปเมืองไทยพร้อมหนูเลยก็ได้...ถ้ายังหางานไม่ได้นายก็จ้างคุณเล็กทำงานที่โรงไม้ไปก่อน...ใช่ไหมนาย"
ท่านดนัยไม่ตอบ เก็จกำง๋งมองหน้าท่านดนัยก็หัวเราะ
"ให้คุณเล็กตัดสินใจเองหนูอาด...คุณเล็กเค้าต้องมีเหตุผลของเค้า"
"แต่ป้าว่าก็ดีเหมือนกันนะนายเล็ก...จะได้กลับเมืองไทยไปอยู่กับแม่ไง..ไหนว่าจะให้แม่ไปขอผู้หญิงแล้วไม่ใช่เหรอ"
รัตนาวดีเม้มปาก ท่านดนัยมองรัตนาวดี
"ยังไม่รู้ว่าจะเป็นไปได้หรือเปล่าครับ"
ท่านหญิงรัตนาวดีหันมามองท่านดนัยทันที แล้วก็รีบหันหน้าหนี วิมลที่กำลังกินเห็นท่าทางรัตนาวดีเลยชะงักทำให้วีระสิงห์มองตาม
"เป็นไปได้อยู่แล้ว...แหม..ผู้หญิงที่ไหนจะโง่ปฎิเสธนายเล็ก..จริงไหมหนูอาด"
สะอาดศรีถูกใจอายม้วน
"จริงค่ะคุณป้า"
ทั้งหมดทานอาหารอย่างสนุก ยกเว้นรัตนาวดีที่พยายามยิ้มแย้มไปด้วยอย่างฝืนใจ
วิมลยืนอยู่หน้าโรงแรมคนเดียวเหมือนคอยใครอยู่...สักครู่ท่านดนัยขับรถเข้ามาจอด วิมลเดินไปหาที่รถ
"นายเล็ก....นายเล็ก"
ท่านดนัยหันไปเห็นวิมลก็ตกใจ ตัดสินใจยืนรออยู่ที่รถ
"ฉันมีเรื่องจะพูดกับคุณ"
ท่านดนัยพยายามหลบเลี่ยง
"ขอโทษครับ...ผมลืมเติมน้ำมัน ต้องเอารถไปเติมน้ำมันก่อนครับ"
"ไม่ต้องมาอ้าง...ยังไงๆ วันนี้ฉันจะต้องรู้เรื่องให้ได้"
ท่านดนัยหัวเราะแก้เก้อ วีระสิงห์เดินมาเห็นอยากรู้เลยแอบฟัง
"คุณต้องการอะไรหรือ"
วิมลโมโห
"ต้องการอะไร...ชิ..ถามได้ ก็ต้องการจะรู้ว่าชื่อจริงๆของคุณชื่ออะไรนะสิ"
ท่านดนัยตกใจ แต่พยายามควบคุมตัวเองให้ปกติ
"หมายความว่าอะไร...ผมไม่เข้าใจ"
วิมลดุ
"อย่ามาทำไก๋..ฉันรู้ว่าคุณเข้าใจว่าฉันหมายความว่ายังไง"
"บอกมาตามตรงดีกว่า...ไม่งั้นฉันจะทูลท่านหญิงว่าคุณเป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้...ปลอมตัวมาเป็นนายเล็ก มหาดเล็กท่านดนัย"
อ่านต่อหน้า 3
รัตนาวดี ตอนที่ 16 (ต่อ)
ท่านดนัยพยายามหลีกเลี่ยง ทำเป็นหัวเราะ
"คุณไปได้เรื่องเหลวไหลมาจากไหน"
วิมลพูดอย่างเอาเรื่อง
"หนอย...เรื่องเหลวไหล อย่ามาเล่นละครเสียให้ยาก ฉันรู้จักนายเล็กที่เป็นมหาดเล็กของท่านดนัย...หน้าเขายาวๆ เหมือนม้า…จริงไหม"
คราวนี้ท่านดนัยหัวเราะชอบใจ แต่ยังไม่ยอมรับ จนวิมลถามซ้ำเสียงดัง
"ที่ฉันพูดถูกต้องมั้ย"
"เห็นจะจริง."
ท่านดนัยหัวเราะอีก วิมลคลายท่าทีขึงขังอดยิ้มไม่ได้
"เชื่อหรือยังว่าฉันรู้จักเขา"
"เชื่อแล้ว"
วิมลดุอีก
"รับสารภาพมาเสียโดยดีดีกว่าว่าคุณเป็นใคร...ชื่ออะไร มาจากไหน"
ท่านดนัยตั้งสติได้แล้ว มองวิมลยิ้มๆ
"ผมก็เป็นคนไทย...มาจากเมืองไทยเหมือนคุณนั่นแหล่ะ"
"อย่ามาพูดยียวนกวนโมโหหน่อยเลย...ไหนๆ คุณก็แพ้แล้ว...ยอมแพ้แต่โดยดีอย่างลูกผู้ชายดีกว่าน่า...บอกมาตามตรงว่าคุณเป็นใคร"
ท่านดนัยนิ่งคิด แล้วก็ตัดสินใจ
"ผมชื่อ ดนัย วัฒนา เป็นข้าราชการสถานทูตที่ลอนดอน"
วิมลมองท่านดนัยอย่างดูถูกดุเสียงเขียว
"ต๊าย....หนอยแน่ะ...ไม่เชื่อ...นายเลวมาก เดี๋ยวปลอมเป็นนายเล็ก...พอถูกจับได้จะโกหกว่าเป็นท่านดนัยอีกหรือ..จ้างให้ฉันก็ไม่เชื่อ ปลอมเป็นใครไม่ปลอม...มีหน้ามาปลอมเป็นเจ้านาย...จะมากไปแล้วนะ"
ท่านดนัยหน้าเหรอ
"แล้วทำยังไงคุณถึงจะเชื่อคำพูดของผม"
"คำพูดของนายน่ะฉันไม่เชื่อหรอก...นายออกตลบแตลงหน้าด้านอย่างนั้น...นายต้องแสดงหลักฐานมาซิ เอาพาสปอร์ตนายมาให้ฉันดูเดี๋ยวนี้"
ท่านดนัยตบกระเป๋าแจ็คเก็ต
"เอ้อ...ผมลืมพาสปอร์ตไว้ที่ห้องพัก"
วิมลทำหน้าไม่เชื่อ
"นี่นายคิดจะลูกไม้หาทางหลบหน้าฉันละซิ...ไม่มีทาง คนโกหกลวงโลกอย่างนายมันน่าจะจับไปส่งตำรวจนัก"
ท่านดนัยยอมจำนน...
วิมลคุมตัวท่านดนัยเดินมาที่ห้องพักด้วยท่าทางเอาเรื่อง ท่านดนัยไขกุญแจห้องจะเดินเข้าไป วิมลยืนรออยู่หน้าห้อง
"เข้าไปเอามาสิ...อย่ามัวชักช้าเสียเวลา"
"คุณจะไม่เข้ามาดูเองหรือ"
"ไม่ละ...คนอย่างนายฉันไม่ไว้ใจ ไม่รู้จะมาตุกติกเล่นงานฉันหรือเปล่า"
ท่านดนัยหัวเราะ
"คุณนี่คงอ่านหนังสือพวกสายลับสืบสวนมากไปหน่อยละมัง"
วิมลเชิดหน้า ท่านดนัยเดินเข้าไปในห้องพัก วิมลยืนรอที่หน้าประตู ท่านดนัยหยิบพาสปอร์ตที่เก็บไว้ใจกระเป๋าเดินทางแล้วเอาไปส่งให้ วิมลรับมาเปิดดูรูปในพาสปอร์ต มองที่รูปแล้วก็มองหน้าท่านดนัยหลายเที่ยว จนในที่สุดวิมลก็หัวเราะออกมา ท่านดนัยเห็นวิมลหัวเราะก็ยืนพิงประตูหัวเราะด้วย....วีระสิงห์เปิดประตูห้องออกมา...ชะงักเพราะได้ยินเสียงหัวเราะของวิมลกับท่านดนัย....วีระสิงห์แอบฟัง
"เชื่อแล้วใช่ไหม"
วิมลก้มลงกราบกับพื้น
"หม่อมฉันต้องขออภัยที่ล่วงเกินฝ่าบาท"
ท่านดนัยยิ้ม
"ไม่เป็นไร...ฉันยกโทษให้"
"หม่อมฉันนึกไม่ถึงจริงๆ...ไม่เข้าใจเลยว่าเพราะเหตุใด ฝ่าบาทจึงปลอมองค์มาเป็นนายเล็ก"
"เพราะเหตุผลเดียวเท่านั้น"
"อะไรเพคะ"
"เพราะฉันรักน้องหญิงรัตนาวดี"
วิมลยิ้มดีใจ ท่านดนัยก็ยิ้มดีใจอย่างเท่ห์....วีระสิงห์ตกใจในสิ่งที่ได้ยิน
ในร้านกาแฟ ท่านดนัยนั่งคุยกับวิมล ทั้งคู่ต่างมีสีหน้ายิ้มแย้ม ท่านดนัยนั่งสบายๆ ส่วนวิมลนั่งเรียบร้อยอย่างระวังตัว
"เหตุการณ์บังคับให้ผมต้องทำเช่นนั้น...อย่านึกว่าผมทำเพื่อสนุกหรือเพื่อล้อน้องหญิงเล่น"
วิมลหัวเราะเบาๆ
"แหม...หม่อมฉันประหลาดใจเหลือเกินเพคะ...ไม่นึกเลยว่า ฝ่าบาทจะลดองค์ทำได้ถึงเพียงนี้...เพียงเพราะว่า"
"ฉันขอยอมรับกับเธอว่า เวลานี้ฉันรักน้องหญิงมากที่สุด"
วิมลทำท่าคิด
"หม่อมฉันสังเกตดูว่าท่านหญิงทรงพระพักตร์หมอง...ไม่สนุกไม่สรวญ...ท่านทรงผิดปกติไปมากเพคะ"
ท่านดนัยสำนึกผิด
"น้องหญิงขอร้องให้นายเล็กไปชอบหนูอาด...ผมอดน้อยใจไม่ได้ ทีแรกก็แกล้งทำสนิทสนมกับหนูอาดอยู่เหมือนกัน...แต่ผมว่ายิ่งทำให้แย่ลงไปอีก เพราะไปทำให้หนูอาดมีความหวังว่านายเล็กจะชอบเธอ...ผมไม่อยากไปทำร้านจิตใจใคร"
ท่านดนัยทำท่าหนักใจ วิมลคิดไม่ถึงแปลกใจมาก
"ท่านหญิงทรงขอให้ฝ่าบาทชอบหนูอาดหรือเพคะ"
"ขอให้นายเล็กจ้ะ"
"ก็นั่นแหล่ะเพคะ...ปกติท่านไม่ค่อยทรงยุ่งกับเรื่องขอ'ใคร..นอกจาก..."
ท่านดนัยสงสัย
"นอกจากอะไร"
วิมลมองหน้าท่านดนัยอย่างใช้ความคิด
"นอกจาก...ท่านจะสนใจคนๆ นั้นมากนะซิเพคะ...สนใจเป็นห่วง..เป็นใย...หวังดีกับนายเล็กมากจน...."
วิมลเอามือปิดหน้า
"ตายจริง...หม่อมฉันไม่อยากจะคิด"
ท่านดนัยร้อนรน
"อะไรวิมล...เธอคิดอะไร"
"หม่อมฉันสังเกตท่านหญิงเวลาที่ทรงอยู่ใกล้ๆ ท่านชาย เอ..เป็นไปได้ไหมเพคะว่า....ท่านหญิงจะ....จะ..."
วิมลมองหน้าท่านดนัย
"ตกหลุมรักนายเล็ก.....ผมไม่กล้าเข้าข้างตัวเอง...เธอว่าเป็นไปได้ไหม..ที่...ท่านหญิงจะชอบนายเล็กผู้ต่ำต้อย.. แล้วโกรธองค์เอง...โกรธนายเล็ก...โกรธทุกๆ อย่าง"
วิมลสีหน้าทุกข์ใจ
"เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น...จะต้องทรงทุกข์ใจมาก...มิน่า.. ท่านถึงดูทรงไม่มีความสุขเลย....เพราะมารักนายเล็กผู้ต่ำต้อย"
ท่านดนัยเอามือกุมขมับ...
"ผมพยายามจะทูลความจริงหลายครั้ง... แต่ไม่กล้า... หรือไม่ก็โดนขัดจังหวะทุกที...บอกตรงๆ ว่าเป็นทุกข์มาก กลัวท่านกริ้ว...แล้วจะไม่ยกโทษให้ วิมลช่วยคิดหน่อยสิ ผมจะบอกความจริงน้องหญิงอย่างไรดี"
"บอกคุณป้าสร้อยดีไหมคะ จะได้ช่วยฝ่าบาททูลท่านหญิง"
ท่านดนัยส่ายหน้าอย่างกลัวๆ
"ถูกของฝ่าบาท...ถ้าคุณป้าสร้อยรู้ละก็คงโวยวายใหญ่โตแน่ๆ เพคะ."
"ผมก็ว่าอย่างนั้น...อย่าเพิ่งให้คุณสร้อยรู้จะดีกว่า"
"เรื่องของฝ่าบาทดูยุ่งเหยิงน่าปวดหัวนะเพคะ...ตอนนี้ก็กลายเป็นรักสามเส้าเข้าไปแล้ว"
"นั่นละที่ผมกลุ้ม...ทำยังไงจะให้หนูอาดเลิกสนใจผม ถ้าเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆน้องหญิงจะยิ่งเข้าทัยผิด"
"ยิ่งปล่อยคาราคาซังแบบนี้ ทุกคนยิ่งแย่..หนูอาดมีความหวังกับนายเล็กมากเกินไป...ต้องทรงจบความสัมพันธ์นี้โดยเร็วนะเพคะ"
เก็จกำง๋งเดินเข้ามากับวีระสิงห์แบบนอบน้อม พอมาถึงก็ก้มคำนับท่านดนัย ท่านดนัยตกใจ แต่วิมลรู้ว่าทั้งสองคนรู้ว่านายเล็กคือท่านดนัย
"ท่านชาย...อ้า....พวก"
"พวกคุณ.....รู้เรื่อง" วิมลว่า
"มีแต่ผมกับนายครับ...หนูอาดไม่รู้" วีระสิงห์บอก
ท่านดนัยแปลกใจ
"คุณสองคนรู้อะไร"
วีระสิงห์ยิ้มอายๆ และเกรงๆ เก็จกำง๋งก็เหมือนกัน
"คือ...ผมแอบได้ยินคุณคุยกันครับ...เอ้อ..กระหม่อม"
วิมลหันไปมองหน้ากับท่านดนัยอย่างใจไม่ดี ท่านดนัยหันไปพูดกับเก็จกำง๋งอย่างให้เกียรติ
"พูดกับผมเหมือนที่เคยพูดกับนายเล็กเถอะครับ"
"ฉันต้องขอร้องคุณสองคนอย่าให้ท่านหญิง กับคุณป้าสร้อยรู้เรื่องนี้อย่างเด็ดขาด" วิมลบอก
"ผมสัญญาครับ...ผมไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น...แต่ผมถือว่าไม่ใช่เรื่องที่เราควรจะเข้าไปยุ่ง"
วิมลยิ้ม"ขอบคุณมากค่ะที่เข้าใจ"
เก็จกำง๋งสีหน้าคิดหนัก
"สงสารหนูอาด...มันคงเสียใจแย่"
"ก็คงมีบ้าง...แต่ผมคิดว่าเรื่องของหนูอาด กับนายเล็กเป็นเรื่องหวือหวาบรรยากาศพาไปมากกว่า...มิน่า...ท่านถึงได้ระวังตัวกับหนูอาด...แต่เราคิดไม่ถึง".
ท่านดนัยสงสารสะอาดศรี
"ผมขออนุญาตคุยกับหนูอาดเองนะครับ.."
เก็จกำง๋งเป็นทุกข์
วิวสวยๆ ยามเช้า ท่านหญิงรัตนาวดีกับป้าสร้อยนั่งทานอาหาอยู่สองคน วิมลเดินเข้ามา หน้าตาเบิกบาน นั่งลงข้างๆแรัตนาวดีและป้าสร้อยมองหาคณะที่เหลือ
"ทำไมวันนี้ลงมาช้าละจ๊ะ....แล้วคณะคุณเก็จทำไมยังไม่ลงมาทานเช้ากัน" ป้าสร้อยว่า
"อ้าว...คุณป้าสร้อยยังไม่ทราบหรอกเหรอคะว่าพวกนายเก็จกำง๋ง เค้าไปกันหมดแล้วW
ป้าสร้อย รัตนาวดีชะงัก หันมามองหน้าวิมล
"ไปไหน"
"ก็เค้าแยกทางกับเราไปแล้วน่ะสิคะ"
"แยกทาง...ไปไหน" รัตนาวดีถาม
"เห็นเค้าบอกว่าจะไปเบลเยี่ยมเพคะ"
"แล้วหนูอาดล่ะ" รัตนาวดีถาม
"หนูอาดเค้าก็ไปกับพ่อเค้าซิเพคะ"
"อ้าว...แล้วจู่ๆ ทำไมพวกเค้าถึงแยกทางไปซะล่ะ"
"หนูคิดว่าเค้าคงหมดหวังที่จะให้ท่าน....เอ้อ...นายเล็ก ชอบพอกับหนูอาดละมังคะ...คุณเก็จคงกลัวลูกสาวจะอาละวาดมากกว่านี้ ถ้าทำให้นายเล็กชอบไม่ได้"
รัตนาวดีอึ้งไป สีหน้าหายเครียด ป้าสร้อยสีหน้าไม่ค่อยดี
"แล้วยังไง...แปลว่านายเล็ก กับ หนูอาดไม่ได้ชอบกัน...นี่นายเล็กเค้าบอกกับเราอย่างนั้นเหรอ...ไม่จริงมั้ง"
"นายเล็กบอกว่าเค้าพูดกับหนูอาดเข้าใจดีแล้วเพคะ"
"เข้าใจดีแล้ว....เข้าใจว่าเค้าจะไปนัดเจอคบหากันหรือเปล่า...เราจะไปรู้เรื่องเขาได้ยังไง"
"คงไม่ใช่หรอกค่ะคุณป้าสร้อย...เพราะนายเล็กเค้าบอกว่า…..เอ้อ..."
วิมลเหลือบมองรัตนาวดีที่คอยฟังอย่างสนใจจนอดยิ้มไม่ได้
"อะไร...มัวแต่เอ้ออ้า..."
วิมลยิ้ม
"นายเล็กเค้าบอกว่า....เค้ามีผู้หญิงที่เค้ารักแล้ว..ไม่มีอะไรจะทำให้เค้าเปลี่ยนใจค่ะ"
รัตนาวดีที่สีหน้าดีขึ้น ...วิมลจ้องมอง รัตนาวดีกลัวความในใจจะแตก จึงแกล้งถามแก้เกี้ยวกับวิมล
"แล้ววันนี้วิมลอยากไปเที่ยวที่ไหนอีกละ"
วิมลมองรัตนาวดีอย่างชั่งใจ เหมือนคิดว่าจะไปที่ไหน.....วิมลล้วงหยิบแผ่นโบว์ชัวร์ออกจากกระเป๋าถือ และกางให้รัตนาวดีดู
เป็นโบว์ชัวร์ของเมือง Zermatt ยอดเขา Matterhorn
อ่านต่อหน้า 4
รัตนาวดี ตอนที่ 16 (ต่อ)
ท่านดนัยขับรถผ่านถนนสวยงาม ถนนที่เป็นเขา ในระหว่าง ท่านดนัยเล่าถึงประวัติหมู่บ้าน Zermatt
"เมืองเซอร์แมทเป็นเมืองเล็กๆในหุบเขา อาจเป็นเมืองเดียวในโลกที่ปราศจากมลภาวะเป็นพิษ เพราะมีข้อกำหนดที่เข้มงวด คือห้ามนำเครื่องยนต์ทุกประเภทที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง เข้ามาในตัวเมืองเป็นอันขาด"
ท่านดนัย รัตนาวดี ป้าสร้อย วิมล เดินผ่านซอยที่มีบ้านแบบโบราณตั้งอยู่
"เมืองเล็กๆแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันไปทั่วโลกหลังจาก มีการปีนพิชิตยอดเขาที่ถือว่าเป็นสัญญลักษณ์ของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ นั้นคือยอดเขาแมทเธอร์ฮอร์น"
เห็นรถไฟสายกอร์เนอร์กรัทวิ่งขึ้นยอดเขา ผ่านวิวสวยๆ ทั้งสี่คนยืนชมวิวอยู่บนยอดเขากอร์เนอร์กรัท ท่านหญิงรัตนาวดีมีสีหน้าสดชื่นขึ้น วิมลพยายามให้โอกาสท่านดนัยได้ใกล้ชิดรัตนาวดี โดนการกันป้าสร้อยออกไป
ภายในรถเก็จกำง๋ง สะอาดศรีที่นั่งมองวิวด้วยสีหน้าเศร้า น้ำตาไหล เก็จกำง๋งมองลูกสาวอย่างเป็นห่วง
"หนูอาด...อย่างร้องไห้เลย...เดี๋ยวพ่อจะซื้อแหวนเพชรให้อีกวง แถมสร้อยเพชรให้อีกเส้นด้วยเอ้า"
สะอาดศรีเช็ดน้ำตา...อยากได้สร้อยเพชร....หันมายิ้มกับพ่อ วีระสิงห์ดีใจที่น้องสาวยิ้มออก สามคนพ่อลูกพากันโล่งอกสุขใจ
ก่อนหน้านี้ ที่ล็อบบี้โรงแรม สะอาดศรีกำลังดูรูปท่านดนัย ในพาสปอร์ตด้วยสีหน้างงๆ แปลกใจกับเรื่องที่ท่านดนัยเล่าให้ฟัง สะอาดศรีเข้าใจ น้ำตาไหล ท่านดนัยเห็นสะอาดศรีร้องไห้ ก็อดสงสารไม่ได้ เขาพยายามขอโทษ สะอาดศรียกมือไหว้ แต่ก็ร้องไห้เรื่อยๆ.. ท่านดนัยส่งผ้าเช็ดหน้าให้ สะอาดศรีรับมา โผเข้ากอด ท่านดนัยค่อยๆ เอามือตบหลังปลอบใจ
รถเก็จกำง๋งที่วิ่งไปบนถนนสวยๆ ที่ทอดยาวไปไกล....
ทั้งสี่เดินชมวิว โดยมียอดเขาแมทเธอร์ฮอร์นอยู่เบื้องหลัง
"แมทเธอร์ฮอร์นไม่ใช่ภูเขาสูงสุดของเทือกเขาแอลป์ ไม่ใช่แม้เพียงยอดเขาสูงสุดของสวิสเซอร์แลนด์ แต่หากถามคนสวิสว่าภูเขาใดสวยสุด มากกว่าครึ่งจะตอบเป็นเสียงเดียวคือ แมทเธอร์ฮอร์น...นักท่องเที่ยวมักเรียกภูเขาลูกนี้ว่า แมทเธอร์ฮอร์น จอมขี้อาย ด้วยเพราะความสูงที่ 3,1000 เมตร ทำให้ภูเขาถูกเมฆลอยมาบดบังอยู่ตลอดเวลา....อีกด้านหนึ่งของยอดเขานี้จะเป็นประเทศอิตาลี"
สถานที่ปิคนิคสวยๆ เห็นวิวสวยงามมีดอกไม้ และทะเลสาบเล็กๆ รัตนาวดีกับ ป้าสร้อยนั่งอยู่บนผ้าผืนใหญ่ที่ปูอยู่บนหญ้าท่ามกลางธรรมชาติสวยงามด้วยสีหน้ามีความสุข วิมลเอาแซนวิสออกมาวาง ท่านดนัยจะนั่งอยู่ไม่ห่าง วิมลหันไปเรียก
"นายเล็ก มานั่งด้วยกันสิค่ะ"
ป้าสร้อยเหล่วิมล ท่านดนัยเห็นรัตนาวดียังเฉยๆ ก็ไม่กล้า
"ไม่เป็นไรครับ...ผมนั่งทานทางโน้น"
วิมลโวย
"โอ๊ะ...ไม่ได้นะคะ...ต้องมาทานด้วยกัน"
"แม่วิมล...นายเล็กเค้ายังไม่อยากทานยังไงก็ช่างเค้าเถอะ"
ป้าสร้อยดุวิมลเบาๆ รัตนาวดีมองท่านดนัย....เป็นจังหวะที่ทั้งสองมองกัน
"เอ...ภูเขานี่ดูคุ้นๆ นะเพคะ...เหมือนเคยเห็นที่ไหน" ป้าสร้อยว่า
"หญิงก็รู้สึกคุ้นตาอย่างที่ป้าพูดเหมือนกัน"
"กระหม่อมคิดว่าฝ่าบาทเคยทอดเนตรภูเขาแมทเธอร์ฮอร์นบนกระดาษห่อช็อคโกแลต"
รัตนาวดีนึกออก
"จริงซิ...ป้าคะ..กระดาษที่ห่อช็อคโกแลตมีรูปภูเขาไงคะ คือภูเขาแมตเตอร์ฮอร์นนี่เอง"
"ใช่ครับ...บนกล่องของช็อคโกแลตทอปเปอร์โรน"
"ทำไมเขาถึงเลือกภูเขานี้ล่ะนายเล็ก...สวิสมีภูเขาตั้งหลายแห่ง"
"ผมก็ไม่แน่ใจครับคุณสร้อย แต่แมทเธอร์ฮอร์นจะดูเด่นเป็นสง่าอยู่เหนือเทือกเขาแอลป์ ตรงยอดเขาคล้ายทรงปิรามิด หรือคล้ายเขาสัตว์ ถ้าเราเข้าไปใกล้ๆ ทางด้านโน้นจะเห็นกระท่อมเล็กๆ ที่สร้างไว้ใต้หน้าผา"
"ใครอยู่ที่กระท่อมนั่นล่ะนายเล็ก" ป้าสร้อยถาม
"นั่นสิคะ...ใครจะมาอยู่บนกระท่อมที่หน้าผาบนภูเขาอย่างนี้กัน ขึ้นลงแต่ละทีก็แสนลำบาก" วิมลถาม
"เค้าสร้างกระท่อมที่เรียกว่า Solvay Hut เอาไว้ที่นั่น ไม่ใช่สำหรับให้ใครไปอยู่หรอกครับ...เขาสร้างไว้เพื่อเก็บอุปกรณ์สำหรับไต่เขา และ อุปกรณ์ยังชีพ ไว้ให้นักไต่เขาที่ต้องการความช่วยเหลือครับ"
"แปลว่ามีคนชอบมาไต่เขานี้กันมาก" รัตนาวดีบอก
"ทีมไต่เขาจากสวิส กับ ทีมไต่เขาจากอิตาลีมักจะแข่งกันเพื่อพิชิตยอดเขาแมตเตอร์ฮอร์น"
"ดูแล้วน่ากลัวจัง...แล้วเคยมีคนเสียชีวิตมั้ย" ป้าสร้อยบอก
"มีครับ"
ป้าสร้อยทำหน้าหวาดเสียว
"สวยมากอย่างนี้..แต่ก็มีอันตราย" สร้อยบอก
"แต่ถึงจะมีอันตรายแค่ไหนก็ขอให้ได้มาเห็น...เพราะที่นี่สวยมากจริงๆ นะคะ" รัตนวดีบอก
"แหม...ท่านดนัยนี่เก่งจริงๆ นะเพคะ...พาเรามาดูแต่ที่สวยๆ"
วิมลหลุดปากออกไป ท่านดนัยตาโต รัตนาวดี กับ ป้าสร้อยหันมามองหน้ากัน
"ท่านดนัยไหนวิมล" สร้อยถาม
วิมลทำเป็นไม่รู้เรื่อง
"ท่านดนัยไหนอะไรคะคุณป้าสร้อย"
"ก็เมื่อกี้เธอพูดว่าท่านดนัยเก่งพามาดูแต่ที่สวยๆ น่ะ"
"หนู...หมายถึง..นายเล็กค่ะ ...นายเล็กเป็นคนของท่านดนัย"
วิมลทำท่าอยากจะตาย ท่านดนัยหันมามองยิ้มไม่ออก...
รัตนาวดีลงไปเดินเล่นในทะเลสาบตรงที่ตื้นๆ ท่านดนัยนั่งมอง
"ท่านหญิง...ระวังจะลื่นหกล้มนะเพคะ" สร้อยบอก
รัตนาวดีหันมายิ้มกับป้าสร้อย ท่านดนัยมองหน้ากับวิมล
"ป้าลงมาไหมคะ...น้ำเย้นเย็น"
"ไม่ละเพคะ"
วิมลพยายามช่วยท่านดนัย...
"ป้าสร้อยจะเอนสบายๆ ให้หนูนวดขาให้เอามั้ยคะ"
ป้าสร้อยยิ้มทันที
"ก็ดีน่ะสิ...เออ...หมู่นี้เมื่อยขามาก"
วิมลนวดขาให้ป้าสร้อย ป้าสร้อยลงนอนเอนๆ หลับตา วิมลหันไปพยักเพยิดกับท่านดนัย ท่านดนัยยิ้ม ค่อยๆ ย่อง จะเดินไปหารัตนาวดี วิมลยิ้มรู้กัน ป้าสร้อยนอนหลับตาสบายให้ วิมลนวด...
ท่านหญิงรัตนาวดีเดินลุยน้ำเล่นในลำธารริมทะเลสาบ Stellisee Zermatt ที่มีน้ำสูงแค่ข้อเท้า ด้วยสีหน้ามีความสุข ท่ามกลางความงามนั้น เธอเห็นดอกไม้ที่ลอยมาตามน้ำ ทีแรกก็ลอยมาไม่มาก รัตนาวดีหยิบดอกไม้ที่ลอยมาตามน้ำขึ้นมาดูด้วยสีหน้าพอใจมีความสุข สักครู่ดอกไม้ที่ลอยมามีจำนวนมากขึ้นๆ รัตนาวดีมองดอกไม้เหล่านั้น ยิ้มออกมาอย่างมีความสุขมาก
ท่านดนัยเดินเข้ามาหา
"ท่านหญิง กระหม่อมอยากทูลอะไรสักนิด"
รัตนาวดีหันมามองท่านดนัยด้วยสีหน้าเรียบเฉย
"หม่อมได้พยายามจนเต็มกำลังที่จะทำตามประสงค์ของฝ่าบาท….แต่ไม่สำเร็จ"
รัตนาวดีหน้าบึ้ง
"หมายความว่ายังไง...ฉันไม่เข้าใจ"
"เรื่องแม่สะอาดศรีน่ะกระหม่อม"
รัตนาวดีเสียงเขียว
"นั่นสินะ...ทำไมจึงไม่สำเร็จเล่า...ฉันเห็นออกจะสนิทสนมติดกันถึงขนาดไปมาหาสู่ที่ห้องกันดึกดื่น ไม่สนใจสายตาใครจะเห็นซะด้วย"
"ฝ่าบาทเข้าทัยผิด"
รัตนาวดีโกรธจนไม่อยากมองหน้า
"เห็นจะไม่ผิดหรอก...นายเล็กจะปฏิเสธหรือว่าไม่ได้ไปหาแม่สะอาดศรีในคืนวันนั้น"
"ฝ่าบาทคงจะทรงลืมไปเสียแล้วกระมังว่าห้องนั้นเป็นห้องของใครกันแน่"
รัตนาวดีหันมามองหน้าท่านดนัย ใช้ความคิด ท่านดนัยพูดอย่างหนักแน่น
"ห้องนั้นเป็นห้องของกระหม่อม...หนูอาดมาหากระหม่อมก็เพราะมาเอาของที่ลืมไว้.....เท่านั้นเอง"
รัตนาวดีสีหน้าดีขึ้น หันหน้าหนีไปราวกับจะแอบยิ้มพอใจ แต่ก็นึกขึ้นมาได้อีกหันมาทำตาเขียว
"แต่หนูอาดก็ประกาศให้ทุกคนรู้ว่ายังไงก็จะทำให้นายเล็กรักไม่ใช่หรือ"
ท่านดนัยยิ้ม
"กระหม่อมบอกหนูอาดว่ากระหม่อมไม่ใช่ผู้ชายแบบที่หนูอาดเข้าใจ...กระหม่อมหวังว่าหนูอาดจะได้พบกับผู้ชายดีๆ ที่เหมาะสมกับเขา"
รัตนาวดีนิ่ง หันไปมองทางอื่น
"กระหม่อมก็รู้สึกละอายที่อาจจะทำให้หนูอาดมีความหวัง"
รัตนาวดีอยากจะยิ้ม แต่ก็รักษาฟอร์มไม่ได้ยิ้มออกมา แต่ตาเป็นประกายมองท่านดนัยอย่างดีใจที่ได้รู้ความจริง ท่านดนัยยิ้มดีใจที่เห็นรัตนาวดีแสดงสีหน้าว่าไม่โกรธท่านดนัยอีกแล้ว ทั้งสองคนมองหน้ากันด้วยความเข้าใจ
วิมลนั่งทานแซนวิสอย่างมีความสุข ป้าสร้อยนอนหลับแบบสบายๆ
อ่านต่อตอนที่ 17